IDEO O2 คอนโด High Rise 3 อาคาร สูง 33-34 ชั้น ใกล้ BTS บางนา จาก อนันดา [รีวิวฉบับที่ 939]

รีวิวฉบับที่ 939   สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ IDEO O2 คอนโด High Rise 3 อาคาร สูง 33 – 34 ชั้น บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ ตัวใหม่จากอนันดา โดยโครงการนี้เป็นการร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด ใช้แนวความคิดในการออกแบบให้เป็นเหมือนแหล่งออกซิเจนของคนเมือง จึงจัดสวนหย่อมและพื้นที่ส่วนกลางมาค่อนข้างใหญ่ โครงการตั้งอยู่บน ถนน สรรพาวุธ ใกล้แยกบางนา จุดขึ้นลงทางด่วน และ BTS สถานีบางนา ตามมาชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 29 September 2015  

• IDEO O2 (ไอดีโอ โอทู)
• บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย บางนา จำกัด
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนสรรพาวุธ  เขตบางนา
• คอนโด High Rise  33 – 34 ชั้น 3 อาคาร 1,559 ยูนิต และร้านค้า 10 ยูนิต
• อาคาร A จำนวนห้องรวม 424 ยูนิต สูง 34 ชั้น ( แบ่งออกเป็นห้องชุดพักอาศัย 419 ยูนิต  ร้านค้า 9 ยูนิต )
• อาคาร B จำนวนห้องรวม 580 ยูนิต สูง 34 ชั้น ( แบ่งออกเป็นห้องชุดพักอาศัย 579 ยูนิต  ร้านค้า 1 ยูนิต )
• อาคาร C จำนวนห้องรวม 561 ยูนิต  สูง 33 ชั้น ไม่มีร้านค้า 
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิตที่อาคาร C ชั้น 7 – 30
• ที่จอดรถประมาณ  700 คันคิดเป็น  45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 60% 
• ที่ดินประมาณ 14-3-18.69 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง :  ต้นปี 2559
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2561
• Studio 26.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
• 1 Bedroom 32.4  ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.91 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 46.2 – 53 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.18 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 87,780 บาทต่อตารางเมตร
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 87,396 – 95,754  บาทต่อตารางเมตร
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ในระหว่างการดำเนินการ
• เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS แบริ่ง ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS บางนา
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
• โทร  : 02-316-2222

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.673218, 100.604592

จากแผนที่โครงการ ที่ตั้งของโครงการ IDEO O2 ตั้งอยู่บนถนน สรรพาวุธ ข้างๆซอย สรรพาวุธ 1   สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองหรือจังหวัดสมุทรปราการได้สะดวก ใกล้ทางด่วนโดยมีจุดขึ้นทางด่วนอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการเลย รถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการที่สุดคือ BTS สถานีบางนา ตัวโครงการจะอยู่ห่างจากสถานีบางนาประมาณ 700 เมตร แต่สามารถใช้เส้นทางลัดโดยเดินเข้าซอย สรรพวุธ 1 ผ่านวัดบางนาในมาออกบริเวณใกล้ๆกับสถานี และในอนาคตทางโครงการจะมีสร้างทางออกด้านหลังเดินเลียบคลองมาออกบริเวณสถานีบางนาอีกเส้นทางหนึ่ง และนอกจากรถไฟฟ้า BTS แล้วในอนาคตยังมีแผนจะสร้างรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา บางนา – สุวรรณภูมิ  รถไฟฟ้าสายนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง) รับส่งผู้โดยสารจากสุขุมวิทรอบนอก วิ่งผ่านถนนบางนา-ตราด เข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยตามแผนมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2561 ค่ะ

การเข้าถึงโครงการหลักๆแล้วสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ ถนน สรรพาวุธ กรณีเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกในระดับหนึ่งเลยเนื่องจากโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่ ถนนสรรพาวุธเป็นถนนที่ตัดกับถนน บางนา – ตราด และ ถนน สุขุมวิท สามารถใช้ถนนสุขุมวิทเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ขับไม่นานก็จะถึงโซน อ่อนนุช เอกมัยแล้ว หรือจะใช้ถนน สุขุมวิทวิ่งเข้าจังหวัดสมุทรปราการก็ได้  บริเวณฝั่งตรงข้าม เยื้องๆกับโครงการเป็นทางขึ้นทางด่วน เราสามารถไปวนรถมาขึ้นทางด่วนได้สะดวก การจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วน และ ช่วงที่ไบเทค บางนามีการจัดงานใหญ่ๆ ค่อนข้างจะหนาแน่น

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ เราก็สามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้โดยโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานี บางนา ประมาณ 700 เมตร แต่ก็มีเส้นทางลัดไปออกบริเวณใกล้ๆสถานีก็จะช่วยร่นระยะทางได้มากพอสมควร  นอกเหนือจากรถไฟฟ้าแล้วบริเวณหน้าปากซอย สรรพาวุธ 1 จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาคอยให้บริการอยู่ เดินออกมาจากโครงการก็ลงมาเรียกได้เลย  หรือจะเรียกแท็กซี่ , รถเมล์ก็ไม่ยากเพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่  และบริเวณแยกบางนาก็เป็นแหล่งรวมของวินรถตู้ อยากจะไปไหนมาไหนก็สามารถไปใช้บริการได้

ตัวทำเลที่ตั้งของโครงการถึงแม้ว่าจะอยู่ออกมาทางนอกเมืองหน่อย แต่ก็เป็นทำเลที่เริ่มมีการพัฒนาและมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องมาจากการมาของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะยังคงเป็น ตึกแถว สลับกับบ้านพักอาศัย พักหลังๆเริ่มเห็นมีโครงการคอนโดมาขึ้นบางแล้ว  สำหรับเรื่องอาหารการกินข้างๆโครงการจะมีตลาดบางนาอยู่ มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่เยอะพอสมควร   ส่วนศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ จะเกาะกลุ่มกันอยู่บนถนนบางนา – ตราดเป็นส่วนใหญ่ โดยศูนย์การค้าใหญ่ในของคนในละแวกนี้คือ เซ็นทรัล บางนา  และในอนาคตก็จะมี The Bangkok mall ศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ตั้งอยู่บริเวณแยกบางนา ซึ่งน่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณต้นปีหน้า ส่วนใกล้ๆโครงการในระยะที่เดินได้ก็มี The Coast Bangkok คอนโดที่มี Community mall เล็กๆอยู่ด้านล่าง มีร้านอาหารและร้านกาแฟ เราสามารถไปใช้บริการได้

ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับโครงการ  พอเราออกจากโครงกาแล้วสามารถกลับรถบริเวณหน้าโรงเรียน อรรถวิทย์มาขึ้นทางด่วนได้เลย

จุดลงทางด่วนจะอยู่บริเวณแยกบางนา เราลงทางด่วนมาต้องไปกลับรถมาวนเข้าถนน สรรพาวุธเข้าสู่โครงการ 

การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากรถไฟฟ้า สถานีบางนา สถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดเดินมาเข้าโครงการ กินระยะทางประมาณ 700 เมตร

จากรถไฟฟ้าสถานีบางนา เราจะลงที่ทางออก 2

มองออกไปจากรถไฟฟ้า ตามแนวถนนสุขุมวิทจะเห็นโครงการ The Coast Bangkok อยู่ลิบๆ เราจะเดินตรงไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนน สรรพาวุธ ตรงแยกบางนา

จากสถานีบางนา

เดินตรงมาตามทาง ตรงนี้มีพี่วินอยู่ถ้าไม่อยากเดินไกลก็ใช้บริการพี่เค้าได้ ฝั่งตรงข้ามเราเป็น ไบเทค บางนา ศูนย์จัดแสดงนิทรรศการและงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่

ไบเทค บางนา ตอนนี้กำลังก่อสร้างต่อเติมเฟส 2 กันอยู่

เดินตรงมา ผ่านคลองบางนา

โดยทางโครงการแจ้งว่าจะมีการเปิดทางเข้า – ออกด้านหลังโครงการ ทำทางเดินเลียบคลองมาออกที่ตรงนี้พอดี ต้องคอยดูตอนใกล้ๆอีกทีว่าหน้าตาทางเดินจะออกมาเป็นอย่างไรค่ะ

เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับวัดบางนาใน เป็นวัดใหญ่ของคนในย่านนี้เลย

จากตรงนี้สามารถเดินลัดจากวัดไปเข้าโครงการได้เหมือนกันนะ แต่เราจะพาเดินตามทางปกติก่อน

เดินมาเรื่อยๆจะผ่านคอนโด The Coast Bangkok ซึ่งด้านหน้าจะมี Community mall เล็กๆอยู่

ภายใน The Coast มีร้านอาหาร , ร้านค้า และ ร้านกาแฟพอพึ่งพิงได้

เดินมาอีกจะเจอทางขึ้นทางด่วน ถ้าเราขับรถมาต้องชิดขวาเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าถนน สรรพาวุธ

เราจะเดินผ่านทางเล็กๆนี้ไป

เดินตรงมาเราจะเจอกับวินรถตู้ อยู่บริเวณข้างๆแยกบางนา มีรถตู้ให้บริการเยอะอยู่

เดินถัดมาก็จะเจอกับแยกบางนา แยกนี้รถเยอะพอสมควรเลยเดินเลี้ยวซ้ายไปตามทางก็จะเข้าถนน สรรพาวุธ

พอเลี้ยวเข้าถนนสรรพาวุธปุ๊ป ก็เจอร้านอาหารแบบที่เป็นรถเข็นปั๊ป เรียงรายกันอยู่ตามแนวถนน

ถนนสรรพาวุธเป็นถนน 6 เลน เดินมาไม่ไกลเราจะเห็นทางขึ้นทางด่วนอีกทางหนึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ทางขึ้นทางด่วนอยู่บริเวณเยื้องๆกับโครงการ  พอออกจากโครงการเราสามารถกลับรถมาขึ้นทางด่วนบริเวณนี้ได้

เดินถัดมา บริเวณหน้าตลาดบางนาก็จะเจอกับ 7-11

หน้าปากซอย สรรพาวุธ 1 จะมีพี่วินให้บริการอยู่อีกจุดหนึ่ง

อัตราค่าโดยสารของ วินศิษย์ปู่แจง ตามนี้เลยค่ะ

บริเวณตลาดบางนามีร้านอาหาร และร้านค้าอยู่เยอะพอสมควร

ของทานเล่น และ ผลไม้ก็มี

เดินตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับซอย สรรพาวุธ 1 โครงการจะอยู่ข้างซอยนี้เลย

ซอยนี้เราสามารถใช้เดินลัดไปรถไฟฟ้าได้นะ เดินเข้าไปก็จะผ่านวัดบางนาในที่เราเดินผ่านมาเมื่อซักครู่

ถึงสำนักงานขายของโครงการ IDEO O2 แล้วค่ะ

โครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย โดยตัวโครงการจะวางตัวลึกเข้าไปตามแนวซอย สรรพาวุธ 1 หน้าตาของสำนักงานขายโครงการออกแบบให้เข้ากับแนวคิดโครงการ

เข้ามาในสำนักงานขายก็จะเจอกับโมเดลขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่ เดี๋ยวเราค่อยพามาชมกันนะคะ

สำหรับเส้นทางลัดอื่นๆ จากรถไฟฟ้าสถานีบางนา สามารถเดินลัดโดยเข้าซอยวัดบางนาใน มาโผล่บริเวณซอย สรรพาวุธ 1 ข้างๆโครงการได้ โดยมีระยะทางประมาณ 400 – 500 เมตร

หรืออีกเส้นทางหนึ่งคือ เดินลัดจากคลองบางนามาเข้าทางเข้าออกด้านหลังโครงการ ในระยะทางประมาณ 350 เมตร ซึ่งต้องมาดูกันตอนใกล้ๆเสร็จอีกทีว่าทางเดินข้างคลอง และทางออกด้านหลังโครงการหน้าตาจะเป็นอย่างไร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ ทางด้านหน้าจะติดกับถนนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นถนน 6 เลน ถึงการจราจรไม่หนาแน่นเท่าถนนบางนาและถนนสุขุมวิท แต่ได้เวลากลางคืนจะมีรถใหญ่วิ่งผ่านซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนบ้าง ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นตึกแถว 2-3 ชั้นที่มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง ส่วนทางด้านซ้ายจะติดกับซอย สรรพาวุธ 1 ซอยที่ใช้เดินลัดไป BTS ได้ ภายในซอยมีวัดบางนาในและ โรงเรียนวัดบางนาในตั้งอยู่ ถัดไปอีกจะมีคอนโด The Coast Bangkok สูงประมาณ 39 ชั้น ซึ่งน่าจะบังวิวฝั่งทิศตะวันออกแต่ก็สามารถบังแดดจากทางทิศตะวันออกได้เช่นกัน ส่วนทางฝั่งขวาจะติดกับโรงเรียน รุ่งเรืองวิทยา และ ที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในอนาคต ด้านหลังโครงการติดกับคลองบางนา และ หมู่บ้านข้างเคียง

ด้านข้างโครงการเป็น ซอย สรรพาวุธ 1 ซอยไม่กว้างมากแต่มีรถเข้า – ออก ตลอดเพราะใช้ลัดไปถนน สุขุมวิทได้

ด้านหน้าเป็น ถนน สรรพาวุธ ฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหารอยู่ 2 – 3 ร้าน

จากหน้าโครงการเราตรงไปกลับรถมาขึ้นทางด่วนได้เลยนะ

ด้านข้างโครงการอีกฝั่งเป็นโรงเรียน รุ่งเรืองวิทยา

มาดูวิวกันบ้างค่ะ เริ่มทางทิศเหนือก่อน เราจะเห็นเป็นวิวของทางด่วน และ วิวเมืองกรุงเทพมหานคร ฝั่งนี้ไม่ติดตึกสูงๆมาบังวิว

ฝั่งทิศใต้จะเป็นวิว จังหวัดสมุทรปราการ และวัดบางนาใน

ฝั่งทิศตะวันออกจะโดนบล็อควิวโดยคอนโด The Coast Bangkok บ้าง ถัดไปที่ไฮไลท์สีแดงๆในอนาคตจะเป็นที่ตั้งของโครงการ The Bangkok mall ส่วนด้านหลังของคอนโด The Coast ที่เห็นในภาพเป็นไบเทค บางนา

สุดท้ายคือวิวทิศตะวันตก ทิศนี้ไม่มีตึกสูงๆมาบดบังและในชั้นสูงๆก็จะเห็นบางกระเจ้าด้วย แต่ทิศนี้เป็นทิศที่รับแดดบ่าย เพราะฉะนั้นก็อาจจะร้อนหน่อย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

• ตลาดบางนา ~  130 เมตร
• โรงเรียน วัดบางนาใน ~  300 เมตร
• วัดบางนาใน ~ 350 เมตร
• The Coast Bangkok ~  400 เมตร
• The Bangkok mall ~ 650 เมตร
• BITEC บางนา ~  950 เมตร
• โรงเรียน นานาชาติ Berkeley ~ 2.7 กิโลเมตร
• สนามกอล์ฟ ราชนาวี บางนา ~  2.5 กิโลเมตร
• Tesco Lotus Express บางนา ~  3.9 กิโลเมตร
• ฺBig C บางนา  ~  4.1 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล บางนา ~  4.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ ~  4.9 กิโลเมตร
• Index Living mall บางนา ~ 6 กิโลเมตร
• Paradise Park ~ 8 กิโลเมตร
• สวนหลวง ร.9 ~  10.5 กิโลเมตร
• Mega บางนา ~  11.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล ปิยมินทร์ ~  11.7 กิโลเมตร
• ซีคอนสแควร์ ~  12 กิโลเมตร
• ตลาดนัดสวนรถไฟ ศรีนครินทร์ ~  12.5 กิโลเมตร
• ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ~ 28.5 กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

จากภาพจำลองบรรยากาศภายนอก โครงการ IDEO O2 เป็นคอนโด High Rise 3 อาคาร จำนวน 1,559 ยูนิต อาคาร Aและ B สูง 34 ชั้น อาคาร C สูง 33 ช้ัน  อาคารทั้ง 3 วางตัวเรียงกันตามแนวยาวของที่ดิน คนที่อยู่อาคาร C ก็จะเดินไกลหน่อย แต่ก็จะได้ความเงียบและเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น ทุกอาคารชั้น 2-5 จะเป็นชั้นจอดรถ อาคาร B และ C ชั้นจอดรถจะเชื่อมเป็นอาคารเดียวกัน ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปถึงแยกอาคารใครอาคารมัน  ภายนอกตกแต่งทันสมัย ถึงแม้ว่าโครงการจะมีหลายอาคารและจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ แต่การวางผังอาคารแทบจะไม่มีการบล็อควิวกันเลย  Facilities ส่วนใหญ่จะจัดให้อยู่บริเวณชั้นล่าง

ด้วยความที่แนวความคิดของโครงการคือต้องการให้เป็น โอเอซิส คืนออกซิเจน หรือ O2 ให้กับลูกบ้าน การออกแบบจึงจัดพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างมากหน่อย ถ้าดูจากภาพจำลองบรรยากาศมุมสูงของโครงการจะเห็นว่า ที่ดินของโครงการค่อนข้างใหญ่พื้นที่ประมาณ 14 ไร่  ชั้นล่างจัดเป็นพื้นที่สวนหย่อมประมาณ 5,000 ตารางเมตร สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 1 สระแบ่งออกเป็น 3 โซน ลานปั่นจักรยาน ลู่วิ่ง และ ลานสเก็ตบอร์ด ส่วน ฟิตเนส ห้องสมุด Co-Working Space จะอยู่ภายในอาคาร

มาดูต่อกันที่โมเดล จะเห็นภาพรวมของโครงการที่มี 3 อาคาร ชั้น 2-5 ของทุกอาคารเป็นชั้นจอดรถ ชั้นบนๆจึงจะเป็นส่วนห้องพักอาศัย Facilities ส่วนใหญ่เช่น สระว่ายน้ำ ลานปั่นจักรยาน ลู่วิ่ง ลานกิจกรรมจะอยู่ที่ชั้นล่างภายนอกอาคาร ส่วน ฟิตเนส ห้องสมุด Co-Working Space จะอยู่ในอาคาร ฟิตเนสจะมีให้มา 2 โซน โซนแรกอยู่ชั้นล่างอาคาร B,C ส่วนโซนที่ 2 อยู่ที่ชั้น 2 อาคาร A ซึ่งถือว่าพื้นที่ส่วนกลางที่โครงการนี้ให้มานั้นเยอะทีเดียว เดี๋ยวเราค่อยมาดูรายละเอียดกันทีละจุดค่ะ

อาคารที่อยู่ติดถนน สรรพาวุธที่สุดคืออาคาร A ด้านล่างอาคารนี้จะมี Shop อยู่ เปิดให้ใช้บริการทั้งลูกบ้าน และคนภายนอก ดังนั้นอาคารนี้ชั้นล่างจะคึกคักหน่อย มีข้อดีคือ ถ้าจะออกไปไหนมาไหนไม่ต้องเดินไกล ถ้าหิวก็มีร้านค้าอยู่ด้านล่าง สำหรับลูกบ้านเวลาจะเข้าอาคารจะต้องสแกนบัตรก่อนเข้าเพื่อความปลอดภัย ถนนทางเข้าโครงการจะอยู่ด้านข้างฝั่งที่ติดกับโรงเรียน รุ่งเรืองวิทยา ที่จอดรถของอาคารอยู่ชั้น 2-5 ชั้นบนๆเป็นห้องพัก บริเวณปีกขวาของอาคารจะเป็นห้อง 2 ห้องนอน ส่วนปีกซ้ายจะเป็นห้อง 1 ห้องนอน 46.2 ตารางเมตร ตรงกลางของอาคารเป็นห้อง Studio และ 1 ห้องนอน และจะมี Pocket Garden แทรกอยู่ระหว่างอาคารด้วย แต่เราไม่สามารถเข้าไปใช้ได้เป็นส่วนของนิติบุคคลดูแลค่ะ

พื้นที่บริเวณ Shop ตกแต่งคล้ายๆสำนักงานขายปัจจุบัน มีการเล่นระดับทางเข้าด้านหน้า บริเวณสำนักงานขายปัจจุบันในอนาคตจะมีการแบ่งออกเป็น Shop อีก 4  Shop

ถัดจากอาคาร A มา พื้นที่ระหว่างอาคาร A และ B จัดเป็นสระว่ายน้ำ ซึ่งสระของโครงการนี้เค้าจะต่อเนื่องกันหมดเป็นสระใหญ่ลึก 1.2 เมตร แบ่งออกเป็น 3 โซน รอบๆสระน้ำมีการปลูกต้นไม้และจัดสวนแทรกอยู่ ฟิตเนสของอาคาร A จะอยู่ที่ชั้น 2

ถัดเข้ามาจะเป็นอาคาร B และ อาคาร C การตกแต่งภายนอกจะคล้ายๆกับอาคาร A แต่บริเวณชั้นจอดรถชั้น 2-5 ของทั้ง 2 อาคารจะเชื่อมกัน ที่จอดรถไม่ Fix ช่องจอดเราจะวนไปจอดตรงไหนก็ได้ โดยจอดได้ 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน บริเวณด้านหน้าอาคาร B และ C จะมีห้องพักอาศัยคละอยู่ด้วย ห้องมุมนี้จะได้วิวสวน ชั้นล่างเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำอีกโซนหนึ่ง  ส่วนภายในอาคารชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ของ Facilities ได้แก่ ฟิตเนส Social Club ห้องสมุด และ Co-Working Space

สระว่ายน้ำด้านล่างอาคาร B และ C ห้องพักที่อยู่ชั้น 2 – 5 มองลงมาจะเห็นวิวสระแบบนี้เลย

ถัดจากตัวอาคารมา จะเป็น ลานปั่นจักรยาน ลู่วิ่ง สนามฟุตซอล และลานกิจกรรมหรือลานสเก็ต ด้านหลังโครงการติดกับคลองบางนา

ทางด้านหลังจะมีการทำทางเข้าออกให้อีกทางหนึ่ง และจะมีการทำทางเดินเลียบคลองไปออกบริเวณใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าบางนาพอดี

ด้านล่างอาคาร A จะมี Shop อยู่ สำหรับร้านค้าโครงการมีการประสานงานกับ Max Valu เอาไว้  และคาดว่าน่าจะมีร้านกาแฟอีก 1 ร้าน ส่วนร้านอื่นๆ ต้องรอดูกันตอนตึกใกล้เสร็จอีกทีค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำ เป็น Free Form ขนาดใหญ่ยาวต่อเนื่องกัน แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ Aerial Lagoon , Ozone Creek , Oxy Cascade และ พื้นที่สวนรอบๆโครงการ

รอบๆสระมีการวางที่นั่งพักผ่อน

อีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ

ลานปั่นจักรยานยาว 700 เมตรที่รับรองการออกแบบ โดย Peppermint

ด้านหลังโครงการมีสนามฟุตซอล โดยรอบสนามเป็นลู่วิ่ง

ภายในอาคารมีห้องสมุด และ Co-Working Space ให้คนที่ทำงานฟรีแลนด์ลงมาใช้พื้นที่นั่งทำงานได้  ตรงส่วนนี้มี WiFi ให้ใช้ฟรี

ฟิตเนสมีอยู่ 2 โซนคือบนชั้น 2 อาคาร A และ ชั้นล่างอาคาร B และ C เพื่อกระจายการใช้งานให้เพียงพอกับโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ

VDO Presentation ของโครงการค่ะ

ผังรวมของโครงการ แบ่งออกเป็น 3 อาคาร อาคาร A,B และ C โดยอาคาร A จะอยู่ติดกับถนนสรรพาวุธ และเป็นอาคารที่มี ร้านค้าอยู่ด้านล่าง อาคาร B และ C อยู่ด้านใน ระหว่างอาคารทั้ง 3 มีการแทรก  Facilities  อยู่และออกแบบให้มีลักษณะเป็น Free Form และมีการปลูกต้นไม้แทรกอยู่ ทำให้เมื่อเข้ามาภายในแล้วเราจะไม่รู้สึกว่าที่ดินของโครงการมีรูปร่างหยักไปมา และการวางตัวอาคารทั้ง 3 ตึกแทบจะไม่มีมุมไหนที่บังวิวกันเองเลย แต่การวางเป็นการวางแนวยาวตามรูปร่างที่ดิน ดังนั้นคนที่อยู่อาคาร C ก็จะเดินไกลหน่อย แต่ทางโครงการก็จะมีการทำทางเข้าออกด้านหลังเดินเลียบคลองไปออกบริเวณใกล้ๆกับรถไฟฟ้าสถานี บางนา  โดยตอนนี้ได้รับการอนุญาตจาก ก.ท.ม. แล้ว 

ชั้นล่างของอาคาร A  เป็นพื้นที่ของร้านค้า มีทั้งหมด 5 Shop และในส่วนที่เป็นสำนักงานขายปัจจุบันจะแบ่งเป็นอีก 4 Shop ซึ่งเปิดให้คนภายนอกเข้ามาใช้ได้ คล้ายๆกับโครงการ The Coast สำหรับลูกบ้านถ้าจะเข้าอาคารต้องสแกนบัตรทางด้านหน้าเพื่อความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง ถ้าคนนอกขับรถเข้ามาจะจอดได้เฉพาะพื้นที่ของอาคาร A เท่านั้น ซึ่งอาจจะมีการแลกบัตรหรือเก็บค่าบริการขึ้นอยู่กับนิติบุคคลในอนาคต

ชั้น 2 ของอาคาร A เป็นฟิตเนส และ สำนักงานนิติบุคคล

สำหรับแปลนห้องพักอาศัย เริ่มตั้งแต่ชั้น 6-34 การวางผังห้องพักจะเหมือนกันหมดทุกชั้น โดยวางห้อง  2 ห้องนอน  53 ตารางเมตร (Type D1) ไว้ทางปีกขวาซึ่งเป็นทิศตะวันตก ซึ่งทิศนี้เป็นทิศที่รับแดดบ่ายจะร้อนหน่อยแต่ได้มีการออกแบบให้ช่องหน้าต่างส่วนใหญ่อยู่ทางด้านทิศเหนือและใต้ ทำให้เวลาแดดส่องเข้ามาจะไม่โดนห้องเต็มๆ และในชั้นสูงๆจะมองเห็นวิวบางกระเจ้าอีกด้วย ส่วนทางปีกซ้ายวางห้อง 1 ห้องนอน 46.2 ตารางเมตรเอาไว้ ทิศนี้จะถูกบังวิวจากโครงการ The Coast Bangkok  ตรงกลางของอาคารจะวางผังเป็นห้องStudio และ  1 ห้องนอน ซึ่งในชั้น 11,16,21,26,31 จะมีการแทรก Pocket Garden เอาไว้ และในชั้นบนๆ จะไม่มีห้องตามที่วงสีแดงๆเอาไว้ ลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว Fireman ลิฟต์อีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 1:209.5 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่นเลย ถ้าหากลิฟต์ที่เลือกใช้มี Speed สูงๆก็จะช่วยได้บ้าง

ชั้น 34 มีเหลือเพียง 6 ยูนิต ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

มาดูต่อกันที่ผังชั้นล่างของอาคาร B,C ด้านหลังจะเป็นส่วนของอาคารจอดรถ ภายในอาคารเป็นพื้นที่ของ Lobby ซึ่งจะมี Lobby แยกให้ 2 จุด , มีร้านค้าอยู่ที่อาคาร B 1 ร้าน , ฟิตเนส , Social Club , Yoga , ห้องสมุด และ Co-Working Space ให้ลูกบ้านได้ใช้ร่วมกัน ด้านหน้าอาคารเป็นสระว่ายน้ำและสวน การเข้าอาคาร 2 อาคารนี้ถึงแม้ว่าจะมีชั้นจอดรถและพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมกัน แต่แยกทางเข้ากัน อาคาร B เข้าทาง Lobby ฝั่งที่ติดกับ Shop อาคารนี้มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ส่วนอาคาร C เข้าทาง Lobby ฝั่งติดกับห้องสมุด มีลิฟต์ 3 ตัวเช่นกัน อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้ง 2 อาคารเท่ากับ 1 : 228

ชั้น 2-5 เป็นชั้นจอดรถ และบางส่วนของห้องพัก คนที่พักอยู่ชั้นนี้ข้อดีคือพอจอดรถแล้วเดินเข้าโครงการได้จากชั้นจอดรถไม่ต้องลงไปผ่าน Lobby แต่เนื่องจากเป็นชั้นที่ไม่สูงมากวิวที่เห็นก็จะเป็นวิวสวนและสระว่ายน้ำของโครงการ และ อาจจะมีลูกบ้านตึกนี้มาขึ้นลงลิฟต์บ่อยหน่อย

ตั้งแต่ชั้น 7 – 30 จะเป็นส่วนของห้องพัก ส่วนมุมของอาคารจะวางห้อง 2 ห้องนอน ส่วนห้อง Studio และ 1 ห้องนอนจะอยู่ตรงกลาง มีลิฟต์อยู่ตรงกลางเพื่อให้ห้องที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่งใช้งานได้สะดวก ส่วนชั้นบนๆ เช่นชั้น 33 , 34 ก็จะมีการลดจำนวนห้องลงบางส่วน

สำหรับแปลนชั้นพักอาศัยของอาคาร C จะมีความหนาแน่นสูงที่สุด โดยมีจำนวนยูนิตเท่ากับ 21 ห้องต่อชั้น มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว Fireman ลิฟต์ 1  ตัว การวางแปลน วางห้อง 2 ห้องนอนไว้ตรงมุมอาคาร และ ห้องเล็กๆอยู่ตรงกลางคล้ายๆกับอาคาร A และ B ส่วนแปลนชั้นอื่นๆก็จะคล้ายๆกัน ต่างกันที่ในชั้นบนๆ จะไม่มีห้องบางตำแหน่ง

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby
• สระว่ายน้ำ 1 สระ 3 โซน ระบบเกลือ ยาวต่อเนื่อง 200 เมตร ลึก 1.2 เมตร 
• ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ที่ชั้น 2 อาคาร A , อีกห้องอยู่ชั้น 1 อาคาร B และ C
• ห้องโยคะ
• ห้องสมุด
• Social Club
• Meeting room
• ลานปั่นจักรยาน (Bike Track)
• ลู่วิ่ง (Jogging Track)
• Co-Working Space พร้อมฟรี WiFi
• ลานกิจกรรม หรือ ลานสเก็ต
• สนามฟุตซอล
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 7 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 194.88 : 1
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 209.5:1
• อัตราส่วนลิฟท์ตึก B และ C  190:1
• Service Lift 3 ตัว
• ที่จอดรถ 700 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 45 % รวมจอดซ้อนคันคิดเป็นประมาณ 60%
• ระบบ CCTV / Access Card
• Shuttle Service (สถานีขึ้นอยู่กับนิติบุคคล)

 

Product Walkthrough

สำหรับห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมในวันนี้คือ ห้อง 1 ห้องนอน 32.4 ตารางเมตร (Type B2) แบบครัวนอกซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนมากพอสมควร และมีการจัดพื้นที่การใช้งานได้ค่อนข้างจะลงตัว  การวางผังห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นรับแขกก่อน ถัดเข้าไปเป็นครัวมีประตูกั้นปิด ซึ่งจะช่วยกันกลิ่นเวลาประกอบอาหารได้บ้าง มีชุดที่นั่งรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งให้ในห้องครัวเลย ระเบียงห้องนี้จะค่อนข้างกว้างสามารถออกไปสูดอากาศได้ วางเครื่องซักผ้าได้สบายๆ ถัดมาคือห้องนอน ที่จัดพื้นที่ให้วางชุดโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง และ ตู้เสื้อผ้าได้ ห้องน้ำห้องนี้ต้องเดินออกมาเข้าบริเวณห้องรับแขก ข้อดีคือเวลาแขกไปใครมาจะเข้าห้องน้ำไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว

โครงการนี้จะแถมเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully – Furnished รายการที่แถมและหน้าตาตามในภาพเลยค่ะ

เข้าห้องมาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดไปเป็นห้องนอนและห้องครัว ผนังห้องครัวกั้นด้วยประตูเลื่อนบานกระจก บานใหญ่พอสมควร ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องส่งผลให้ห้องไม่ทึบ ส่วนห้องน้ำต้องเดินเข้าจากทางห้องนั่งเล่น พื้นห้องรับแขกและห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนต

ชุดโซฟาจะต่อเนื่องกับห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้

หน้าตาชุดโซฟาและโต๊ะกลาง

ด้านข้างโซฟามีตู้เก็บของมาให้ เก็บของได้เล็กๆน้อยๆ

ฝั่งตรงข้ามมีชั้นวางทีวี

ชั้นวางทีวีเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้

ด้านบนชั้นวางทีวีมีตู้ไฟ และ แอร์ของ Samsung

ข้างๆชั้นวางทีวีเป็นทางไปห้องน้ำ บานประตูเข้าห้องน้ำจริงๆจะเป็นบาน HDF ทำสี ห้องตัวอย่างไม่ได้ติดตั้งมาให้ดูค่ะ

ระหว่างพื้นห้องนั่งเล่นและห้องน้ำมีการยกธรณีขึ้นมาสูงประมาณ 10 เซนติเมตร

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจน พื้นที่อาบน้ำมีกั้นกระจกนิรภัยมาให้ ผนังและพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พื้นจะมีลวดลายเป็นช่องๆทำให้ไม่ลื่น

อ่างล้างหน้าของ American Standard เปิดมาเก็บของด้านล่างได้ เวลาเราจะวางน้ำยาล้างห้องน้ำ ผงซักฟอกจะมีมีที่เก็บให้เป็นระเบียบ

อ่างวางของได้เล็กน้อย

โภสุขภัณฑ์ ของ  American Standard เช่นกัน  ที่วางทิชชู่วางอยู่ด้านหลังเวลาใช้งานต้องเอื้อมมือไปหยิบลำบากนิดนึงค่ะ

รหว่างพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกมีการยกธรณีขึ้นมาสูงแบบนี้ กันน้ำเวลาอาบน้ำไหลเข้ามาพื้นที่ส่วนแห้ง พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 110 x 120 เซนติเมตร ถือว่ากว้างพอสมควร

ฝักบัวของ American Standard ด้านข้างมีพื้นที่เอาไว้วางของ

ซูมหน้าตาฝักบัวของ American Standard

ไปดูที่ห้องครัวกันต่อค่ะ ระหว่างห้องครัวและ ห้องนั่งเล่นกั้นด้วยประตูเลื่อนกระจกบานใหญ่

รางเลื่อนของบานประตูไม่ได้ฝังลงพื้นจะยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเวลาเดินเร็วๆต้องระวังสะดุดกันหน่อยนะคะ แต่เวลาที่เราจะขัดหรือซักล้างบริเวณครัว น้ำจะไม่ล้นออกไปโดนพื้นไม้ลามิเนต

ภายในห้องครัวมีเคาน์เตอร์ครัว และ ชุดโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งมาให้ พื้นปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำความสะอาดง่าย

เคาน์เตอร์ครัวเปิดออกมาเก็บของได้ประมาณนี้ มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ และ ตู้เย็น แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้แถมให้นะ

หน้าตาอ่างล้างจาน

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัว พอใช้ต้ม ผัดอะไรทานได้

หน้าตาชุดโต๊ะและที่นั่งทานข้าว

ถัดจากครัวจะเป็นพื้นที่ของระเบียง

หน้าตามือจับประตูเป็นแบบนี้

ระหว่างพื้นห้องครัวและพื้นระเบียงมีการยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย

พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้าง ปูกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร  ราวกันตกระเบียงมีการก่อผนังสูงขึ้นประมาณ 30 เซนติเมตรก่อนจะเป็นราวกันตกเหล็ก

คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนเป่าออกแบบนี้ มีระแนงบังสายตา เวลาเราออกมาสูดอากาศที่ระเบียงเวลาเปิดแอร์อยู่ จะเจอลมร้อนของแอร์เป่ามาโดน

ราวกันตกเป็นราวกันตกเหล็กทำสี

มุมมองย้อนกลับไปทางห้องรับแขก

มาดูที่ห้องนอนกันค่ะ ประตูห้องนอนอยู่ด้านข้างห้องน้ำแบบนี้เลย

เก็บรอยต่องานไม้ด้วยคิ้วไม้ตามภาพ

ห้องนอนวางเตียง 5 ฟุตได้ และยังมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้

ด้านข้างเตียงฝั่งขวาเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า

ด้านข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือระยะพอวางโต๊ะข้างเตียงได้

ปลายเตียงมีระยะเหลือไม่มากเท่าไหร่ ไม่สามารถวางตู้อะไรเพิ่มได้ ถ้าจะติดทีวีต้องติดผนังแบบนี้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนแบบนี้ ไม่ต้องกังวลว่าเปิดตู้ออกมาแล้ว บานประตูจะมาชนกันโต๊ะเครื่องแป้ง หน้าบานมีติดตั้งกระจกมาให้สำรวจความเรียบร้อย

โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักเอาไว้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้

ด้านข้างเตียงเป็นกระจก ทำให้มีแสงเข้ามาในห้อง และ เอาไว้ดูวิวได้

หน้าตามือจับบานเลื่อน

หน้าตาปลั๊ก และ สวิทซ์ของ Schneider

มาต่อกันด้วยห้องแบบ 2 ห้องนอน 53 ตารางเมตร (Type D1) ห้องนี้เปิดประตูเข้ามาจะมีพื้นที่เอาไว้วางตู้เก็บของหรือตู้วางรองเท้าได้ เข้าห้องมาจะเจอกับโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง และ ชุดโซฟาดูทีวีอยู่ต่อเนื่องกัน ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ สำหรับออกไปที่ระเบียง ระเบียงค่อนข้างกว้างสามารถวางชุดโต๊ะเล็กๆเอาไว้นั่งเล่น จิบกาแฟได้ ห้องครัวห้องนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะกับการใช้งานไม่เกิน 2-3 คนหรือคนที่ใช้ครัวแค่เตรียมอาหารเบาๆ มีกั้นผนังให้เป็นครัวปิด ห้องนอนจะแบ่งออกอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้ง 2 ห้องมีห้องน้ำในตัว  ห้องน้ำห้องหนึ่งเข้าจากทางห้องรับแขกได้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ภายในห้องนอนมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้

หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้ของห้องนี้ค่ะ

เริ่มจากบานประตูทางเข้า เป็นบานโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต ติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ไว้ให้

ก่อนเข้าห้องมี ตัวจบระหว่างพื้นกระเบื้องและพื้นไม้ลามิเนตแบบนี้

หน้าตา  Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับตู้เก็บของ เปิดมาเก็บของได้แบบนี้

ถัดเข้ามาจะเจอกับชุดโต๊ะทานข้าว แบบ 4 ที่นั่ง

ซูมให้ดูค่ะ

ทางฝั่งซ้ายจะเป็นห้องรับแขก ครัวปิด และ ห้องนอน

ด้านหลังห้องทานข้าว และ ห้องรับแขกจะมีประตูบานเลื่อนบานใหญ่ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องและใช้ดูวิวได้เต็มๆ  แต่เวลาเปิดประตูออกระเบียงต้องผ่านชุดโซฟาไปอาจจะลำบากหน่อย

ส่วนนั่งเล่นดูทีวี วางโซฟาได้ 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวี ห่างค่อนข้างโอเค

ตู้วางทีวีให้มาเหมือนห้อง 1 ห้องนอน

หน้าตามือจับประตูเหมือนกับห้องที่ผ่านมาค่ะ

ระหว่างพื้นห้องนั่งเล่น และ พื้นระเบียง รางเลื่อนบานประตูจะยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย

ระเบียงห้องนอนค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว แอร์ห้องนี้แขวนเรียงกัน 3 ตัว และ เป่าออกนอกอาคาร แบบนี้ลมร้อนจะไม่เป่ามาโดนเวลาออกมาใช้พื้นที่ที่ระเบียง ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีเทาสูงประมาณ 1.10 เมตร

ถัดมาเป็นห้องครัวกั้นพื้นที่เป็นครัวปิดมาให้ แต่ไม่มีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศ ต้องหวังพึ่งเครื่องดูดควันมากหน่อย อุปกรณ์ต่างๆ เหมือนกับห้อง 1 ห้องนอน

รางเลื่อนบานประตู ที่กั้นระหว่างห้องรับแขกและห้องครัวเป็นแบบนี้

เคาน์เตอร์ครัวเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้

ถัดจากห้องครัวเป็นห้องนอนห้องแรก

เข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อน ถัดไป้ป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และ เตียงนอน

ภายในห้องน้ำตกแต่งและใช้วัสดุเหมือนกับห้อง 1 ห้องนอน

สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard เช่นกัน

หน้าตาอ่างล้างหน้าของ American Standard

ห้องน้ำ มีกระจกนิรภัยมาให้กั้นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง

พื้นที่อาบน้ำกว้างพอสมควร

หน้าตาฝักบัวของ American Standard

ซูมหน้าตาฝักบัว และ ที่วางสบู่

ถัดมาเป็นห้องนอน วางเตียง 5 ฟุตได้ผนังด้านข้างมีกระจกบานเลื่อน

ข้างซ้ายของเตียงมีพื้นที่เหลือพอสมควร

ปลายเตียงมีระยะเหลือไม่เยอะเท่าไหร่

ด้านข้างขวามีระยะเหลือไม่เยอะเท่าไหร่

ด้านข้างเตียงฝั่งติดกับห้องน้ำ เป็นตู้เสื้อผ้า และ ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง

ตู้เสื้อผ้าเป็นตู้บานเลื่อนหน้าตาเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน เปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้

ด้านข้างเตียงติดกับหน้าต่างพอดี

ออกจากห้องนอนมาฝั้งตรงข้ามจะเป็นห้องน้ำ และ ห้องนอนอีกห้องหนึ่ง

ห้องน้ำ ห้องนี้เข้าจากทางห้องรับแขกได้เวลาแขกไปใครมาไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน

ห้องน้ำตกแต่งและใช้วัสดุเหมือนห้องที่ผ่านมา เข้าได้ 2 ทางจากห้องนอนก็ได้ ห้องรับแขกก็ได้

ระหว่างพื้นห้องรับแขกไปห้องน้ำมียกพื้นขึ้นมาแบบนี้

อ่างล้างจานมีตู้เก็บของด้านล่างเช่นกัน

โถสุขภัณฑ์

พื้นที่อาบน้ำ

ฝักบัวมีชองเก็บของด้านข้าง

มุมมองย้อนกลับไปที่หน้าประตู

เข้ามาดูที่ห้องนอนห้องสุดท้ายกันค่ะ

ทางฝั่งซ้ายมีระยะเหลือประมาณนี้ จริงๆแล้ววางโต๊ะข้างเตียงได้นะ หรือจะหาโคมไฟตั้งพื้นทรงสูงมาวางก็ได้

อีกฝั่งหนึ่งระยะค่อนข้างกระชั้น

ปลสยเตียงระยะเหลือน้อยเช่นเคย

ตู้เสื้อผ้าเป็นตู้บานเลื่อนแบบเดียวกับห้องที่ผ่านๆมา

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 September 2015  

• Studio เนื้อที่ 26.5 ตารางเมตร ชั้น 16 ราคา 2,316,000 บาท หรือ 87,396 บาทต่อตารางเมตร
• 1 Bedroom  เนื้อที่ 32.4 ตารางเมตร   ชั้น 16 ราคา 2,915,000 บาท หรือ 89,969 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom เนือที่ 46.8 ตารางเมตร   ชั้น 16 ราคา 4,188,000 บาท หรือ 89,487 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom เนื้อที่ 53.0 ตารางเมตร   ชั้น 16 ราคา 4,758,000 บาท หรือ 89,773 บาทต่อตารางเมตร
• Studio เนื้อที่ 26.5 ตารางเมตร ชั้น 25 ราคา 2,512,000 บาท หรือ 94,792 บาทต่อตารางเมตร
• 1 Bedroom เนื้อที่ 32.4 ตารางเมตร ชั้น 25 ราคา 3,060,000 บาท หรือ 94,444 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom เนื้อที่ 46.8 ตารางเมตร  ชั้น 25 ราคา 4,398,000  บาท หรือ  93,974 บาทต่อตารางเมตร
• 2 Bedroom เนื้อที่ 53.0 ตารางเมตร ชั้น 25 ราคา 5,075,000 บาท หรือ  95,754 บาทต่อตารางเมตร
• Fully Furnished
• เพดานสูง 2.5 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• Shuttle Bus ไปกลับ BTS (สถานีขึ้นอยู่กับนิติบุคคล)
• จอง 50,000 บาท
• เงินจอง Studio , 1 Bedroom 20,000 บาท  2 Bedroom 30,000 บาท
• เงินทำสัญญา  3% ของราคาขาย
• เงินดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 31 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ IDEO O2 ตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ ถนนที่ไปตัดกับถนนบางนา – ตราด และ ถนนสุขุมวิท ถึงแม้ว่าจะตั้งอยู่นอกเมืองหน่อยแต่ก็เป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสังเกตจาก โครงการน้อยใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งคอนโดใหม่ๆที่มาพร้อมกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง The Bangkok mall ที่อยู่บริเวณแยกบางนา เรื่องความอุดมสมบูรณ์โครงการอยู่ใกล้ตลาดบางนา เดินลงมาก็มีร้านอาหารราคาย่อมเยาให้หารับประทาน และ ใกล้ๆก็มีโครงการ The Coast Bangkok คอนโดที่มี Community mall มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟพอให้นั่งชิวๆได้อยู่ชั้นล่าง ส่วนศูนย์การค้าที่ใกล้ที่สุดตอนนี้ก็มีเซ็นทรัลบางนาอยู่บนถนนบางนา – ตราด

การเดินทางโดยใช้รถถือว่าค่อนข้างสะดวก สามารถใช้ถนนสุขุมวิทตรงไปเรื่อยๆไม่นานก็จะเข้าเมือง โซน อ่อนนุช เอกมัย หรือใช้เป็นเส้นทางเดินทางไปสู่จังหวัดสมุทรปราการได้ ตัวโครงการอยู่ใกล้ทางด่วนสามารถวนรถกลับมาขึ้นได้เลยซึ่งถือว่าเป็นข้อดี และยังสามารถใช้ซอย สรรพาวุธ 1 ลัดออกถนนสุขุมวิทได้ การเข้าถึงโครงการจะเข้าจากทางถนนสรรพาวุธเป็นหลักและโครงการยังมีการเปิดทางด้านหลังให้เดินลัดทางเดินข้างคลองออกไปได้ โดยทางเดินข้างๆคลองนี้ทางโครงการจะดำเนินการสร้างให้ซึ่งทางนี้จะเดินลัดไปออกบริเวณใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้า บางนา แต่ถ้ามีทางออก 2 ทางก็จะต้องเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้คลอบคลุมทางออกที่ 2 นี้ด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้ โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางนาโดยห่างจากตัวสถานีประมาณ 700 เมตร และ ถ้าเดินลัดซอย สรรพาวุธ 1 ผ่านวัดบางนาในจะเหลือระยะทางเพียง 450-500 เมตร และอีกทางหนึ่งคือจะมีทางเดินเข้าออกเลียบคลองด้านหลังโครงการเดินไม่นานก็จะถึงสถานีรถไฟฟ้าบางนา อีกทั้งโครงการยังจะมี Shutter Bus ให้บริการแต่ตัวสถานีที่รับส่งต้องขึ้นอยู่กับนิติบุคคลอีกทีนะ ส่วนรถโดยสารอื่นๆ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่การเรียกรถโดยสารเช่น แท็กซี่ หรือรถเมล์จึงไม่ยาก หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หลายจุด และบริเวณแยกบางนาก็มีวินรถตู้สำหรับเดินทางไปที่ต่างๆ ได้

วัสดุที่โครงการให้เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการอื่นทั่วๆไป พื้นกระเบื้องเซรามิค และ พื้นไม้ลามิเนต ผนังฉาบเรียบทาสี เฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully – Furnished หน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ค่อนข้างดี เข้าชุดกัน

การออกแบบถือว่าเป็นโครงการที่ออกแบบได้ดี ถึงแม้ว่าเป็นโครงการใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตเยอะแต่สามารถวางผังให้ตัวโครงการไม่บังวิวกันเอง และ จัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างเยอะซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้าน สระว่ายน้ำมีการออกให้เป็น Free Form พร้อมแทรกการจัดสวนและปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ ทำให้คนที่อยู่ภายในโครงการไม่รู้สึกว่าที่ดินมีรูปหลายเหลี่ยม ลานปั่นจักรยานที่รับรองการออกแบบโดยPeppermint ห้องพักภายในจัดพื้นที่ได้ลงตัว

สาธารณูปโภคจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากโครงการมีแนวความคิดเป็นโอเอซิส กลางเมืองที่ให้ออกซิเจน หรือ O2 ทั้งสวนหย่อมขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 โซนยาว 200 เมตร ลู่วิ่ง สนามฟุตซอล ลานปั่นจักรยาน ห้องสมุด Co-Working space และ ฟิตเนส 2 ห้อง ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้าน

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 87,780 บาท/ตร.ม., 29 September 2015

• ทำเล 7.5/10 – อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้แยกบางนา ใกล้รถไฟฟ้า ติดตรงอยู่ใกล้วัด
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน มีซอยลัด
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ค่อนข้างสะดวกเพราะใกล้รถไฟฟ้า เรียกวินมอเตอร์ไซค์และเท็กซี่ง่าย แต่เดินกลางคืนไปรถไฟฟ้าจะเปลี่ยวหน่อย
• วัสดุ 7/10 – ให้ตามมาตรฐานโครงการอื่น
• แบบ 8/10 – ออกแบบได้ดี ทั้งการวางผัง การดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางและแบบห้อง
• สาธารณูปโภค 8.75/10 – ให้มาค่อนข้างจัดเต็ม

• SUPER ECONOMY CLASS
• 7.67 / 10.00

BOTTOM LINE

IDEO O2 เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้หรือย่านที่ใกล้เคียง อยากได้ที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ส่วนกลางเยอะเดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วนยอมอยู่นอกเมืองออกมาหน่อย  มีงบประมาณอยู่ประมาณ 2.3-5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนชำระประมาณ 16,000 – 36,000 บาทต่อเดือน

 

 

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )