รีวิวฉบับที่ 1696 …โครงการ HI สุขุมวิท 93 เรียกได้ว่าเป็นคอนโดที่ทำมาตอบโจทย์คนที่มองหาคอนโดราคาหยิบจับง่าย อิงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายหลักบนถนนสุขุมวิท และถนนอ่อนนุช ได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะในย่านนี้ถือว่าหาได้ยากแล้วที่จะมีคอนโดขายในราคาต่อตาราเมตร 55,000 บาทนะคะ เทียบกับคอนโดติดถนนใหญ่สุขุมวิท อ่อนนุช ก็เหยียบหลักแสนต่อตารางเมตรกันไปหมดแล้ว โดยตัวโครงการนี้จะเป็นอย่างไรไปอ่านรายละเอียดกัน 

 

Fact @ 02 October 2018

  • HI Sukhumvit 93 (ไฮ สุขุมวิท 93)
  • บริษัท ยูทีลิตี้ เรียล เอสเตท จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : พระโขนง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 401 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 140 คันคิดเป็น 35% ไม่รวมจอดซ้อนคัน และ 155 คัน แบบรวมซ้อนคัน คิดเป็น 38.7%
  • ที่ดินประมาณ 2-2-9 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤษภาคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กรกฎาคม 2563
  • 1 Bedroom 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.38 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 39 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.45 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.52 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.38 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 55,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 48,000 – 63,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.703815, 100.613321

ที่ตั้งโครงการ HI สุขุมวิท 93 ตั้งอยู่ในย่านอ่อนนุช ในซอยสุขุมวิท 93 แยกย่อยลงมาคือซอยพึ่งมี 11 นะคะ ต้องบอกว่าทำเลนี้จัดเป็นทำเลที่ค่อนข้างคึกคักเพราะเดิมเป็นชุมชนพักอาศัยขนาดใหญ่ ประกอบกับการมีรถไฟฟ้าตัดผ่านมานานพอสมควร ทำให้ช่วงต้นและติดถนนสุขุมวิท ถนนอ่อนนุชมีโครงการคอนโดมิเนียมมาเปิดกันอย่างคึกคัก ซึ่งบอกได้เลยว่าคอนโดทำเลติดถนนใหญ่หรืออยู่ในระยะเดินถึงรถไฟฟ้านี้ราคาต่อตารางเมตรขยับขึ้นไปแตะหลักแสนกันเป็นส่วนใหญ่แล้วนะคะ แต่โครงการนี้ทำเลอาจจะไม่ได้เด่นเท่ากับโครงการติดถนนใหญ่นะคะ เข้าอยู่ในซอยลึกเข้ามาหน่อยแต่ราคาทำออกมาได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะเรียกได้ว่าหารครึ่งได้เลยอยู่ที่ประมาณ 55,000 บาท/ตร.ม.

การเดินทางเข้าถึงโครงการมีความน่าสนใจทั้งการเดินทางแบบใช้รถและไม่ใช้รถนะคะ สำหรับการเดินทางโดยใช้รถนี้ค่อนข้างน่าสนใจเพราะที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยย่อยซึ่งเชื่อมเข้ากับถนนใหญ่ 2 สายอย่างถนนสุขุมวิทและถนนอ่อนนุช จึงมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น เลี่ยงรถติดได้ระดับนึง ส่วนทางด่วนก็ถือว่าไม่ไกลจากโครงการมากนัก มีอยู่ 2 จุดด้วยกันคือทางด่วนเฉลิมมหานคร มีทางขึ้น-ลงอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 62 และอีกทางด่วนคือทางด่วนฉลองรัช มีทางขึ้นอยู่บริเวณถนนสุขุมวิทที่ตัดกับทางด่วนเอง หรือจะเป็นซอยสุขุมวิท 50 ก็ได้เช่นกันค่ะ

ในการเดินทางด้วยรถสาธารณะนี้ แม้ที่ตั้งโครงการจะนับว่าอยู่เลยระยะเดินจาก BTS ไปแล้วนะคะ เพราะอยู่ห่างจาก BTS ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีบางจากไปประมาณ 1.4 กม. แต่ในซอยนี้มีรถสาธารณะต่างๆ คอยให้บริการอยู่เพียบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป้อ ที่วิ่งผ่านตลอด บรรยากาศไม่เปลี่ยว จึงทำให้การเดินทางโดยไม่ใช่รถไม่ลำบาก เพิ่มเติมคือทางโครงการมีการจัด Shuttle ตุ๊กตุ๊ก ไว้บริการลูกบ้านโดยรับ-ส่งที่ BTS บางจากอีกด้วยนะคะ ซึ่งในส่วนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ถือว่าหายห่วงนะคะ ด้วยความที่เป็นทำเลชุมชนเก่าแก่มานาน จึงทำให้มีร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงห้างร้าน Hyper Market มากกมายคอยให้บริการอยู่แล้ว โดยเฉพาะบริเวณช่วงติดถนนสุขุมวิท ส่วนบริเวณถนนอ่อนนุชที่ดังๆ เลยก็คือ Big C Extra และเมืองย่อยๆ อย่าง Habito ที่มีร้านค้าร้านอาหารดังๆ อยู่พอสมควร ให้ไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ได้ค่ะ

สำหรับบรรยากาศในซอยเองเรื่องความอุดมสมบูรณ์อาจจะมีไม่มากนักนะคะ ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณต้นซอยเสียมากกว่า ต้องเน้นซื้อของกินต่างๆ จากช่วงถนนอ่อนนุช สุขุมวิท เข้ามากินภายในห้องค่ะ

มาดูที่การเดินทางกันบ้างนะคะ สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นจากบนถนนสุขุมวิทบริเวณหน้าถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดีพนมยงค์) ขับตรงมาบนถนนสุขุมวิทเรื่อยๆ จนถึงซอยสุขุมวิท 93 แล้วเลี้ยวซ้าย ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนเห็นซอยพึ่งมี 11 ให้เลี้ยวซ้ายอีกรอบและตรงไปอีกหน่อยก็จะเห็นที่ตั้งโครงการฝั่งซ้ายมือ รวมระยะทางจากหน้าปากซอยสุขุมวิทถึงที่ตั้งโครงการประมาณ 1.4 กม.

เริ่มต้นที่ถนนสุขุมวิทบริเวณช่วงหน้าถนนสุขุมวิท 71 นะคะ จากนั้นเราขับตรงไปเรื่อยๆ กันก่อนนะคะ

ขึ้นสะพานผ่านทางขึ้นทางด่วนฉลองรัชฝั่งซ้ายมือ โดยเรายังขับตรงกันต่อไปนะคะ

ขับตรงไปผ่านแยกที่ตัดกับถนนอ่อนนุช

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็น BTS อ่อนนุช และติดกับรถไฟฟ้าเลยคือ Hyper Market ขนาดใหญ่อย่าง Tesco Lotus อ่อนนุชนั่นเองค่ะ

ขับตรงมีนิดเดียวก็จะเห็นห้างเปิดใหม่ไม่นานในย่านนี้อย่าง Century The Movie Plaza

จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าซอยสุขุมวิท 93 ก็เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ จะเห็นว่าซอยนี้เป็นซอยสำคัญนะคะ เพราะเป็นซอยที่สามารถลัดไปออกถนนอ่อนนุชได้ตามป้ายสีเขียวที่บอกไว้เลยค่ะ

ช่วงต้นซอยมีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการรับ-ส่งอยู่นะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็เป็นท่าของรถกะป้อเรียงกันเป็นแถบยาวๆ เลยค่ะ

บรรยากาศช่วงต้นซอยที่เราเห็นคึกคักพอสมควรนัก เมื่อตรงเข้ามาช่วงกลางซอยแล้วก็จะเป็นบรรยากาศชุมชนดั้งเดิมมากขึ้น จะเห็นเป็นทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

เมื่อขับตรงมาถึงซอยพึ่งมี 11 แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยค่ะ

ขับตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นที่ตั้งโครงการซึ่งตอนนี้ได้กั้นรั้วโครงการติดป้ายโครงการเป็นที่เรียบร้อยนะคะ ส่วน Sale Office อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ ใครขับรถมาให้เข้าไปจอดรถที่ที่ตั้งโครงการนะคะเพราะมีการจัดพื้นที่จอดรถให้ไว้รองรับลูกค้าไว้เรียบร้อย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บรรยากาศโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยทั้งหมด จึงได้บรรยากาศที่มีความสงบไม่คึกคักมากนัก แต่ก็ไม่เปลี่ยวจนเกิดไปนะคะ ส่วนเรื่องของวิวส่วนใหญ่ภายนอกจะโปร่งโล่ง ยกเว้นทิศเหนือที่มีอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น หากใครที่อยากได้ห้องทิศนี้และอยากได้วิวด้วยแนะนำให้เลือกห้องชั้น 6-8 เลยนะคะ ส่วนทิศอื่นๆ ไม่โดนบล็อกวิวมากนักค่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 1-2 ชั้นล้อมรอบ

เรามาดูบรรยากาศที่ไซต์โครงการจริงกันเลยค่ะ ปัจจุบันล้อมรั้วเป็นที่เรียบร้อย จะเห็นว่าด้านหน้าโครงการยาวขนานไปกับถนนในซอยพึ่งมี 11 เลยนะคะ

ฝั่งทิศเหนือ (ถ่ายจากไซต์) ติดกับอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น

ทิศตะวันตกเป็นตึกแถวและบ้านเดี่ยวสูง 2-3 ชั้น

ทิศใต้ติดกับบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 1-2 ชั้น

และฝั่งติดกับถนนพึ่งมี 11 ก็อยู่ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ขั้น

จากนั้นข้ามถนนมาดูห้องตัวอย่างกันที่ Sale Office กันนะคะ

ภายใน Sale Office มีการออกแบบโดยจำลองบรรยากาศจริงภายในโครงการ เช่นการออกแบบสไตล์ Modern เน้นสีเรียบง่าย คลุมโทน แต่เพิ่มความหรูหรามากขึ้นด้วยการเล่นเส้นสายเป็นสีทอง

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Century Movie Plaza
  • Habito
  • Tesco Lotus 
  • Max Valu 
  • Phyll (คอมมูนิตี้มอลล์) 
  • สำนักงานเขตพระโขนง 
  • Wells International School 
  • Big C Extra 
  • ตลาดสดอ่อนนุช

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ HI สุขุมวิท 93 หมู่คอนโด Low Rise รวม 3 อาคาร วางเรียงกันหน้ากระดานขนานกับถนนในซอยสุขุมวิท 93 ภายในมีทั้งหมด 401 ยูนิต บนพื้นที่ 2 ไร่กว่า รูปแบบการออกแบบนี้เน้นเป็นสไตล์ Modern แต่แฝงความหรูหรามากขึ้นโดยการแทรกเส้นสายสีทองค่ะ โครงการแบรนด์ HI นี้ จัดว่าเป็นโครงการที่ 2 ของยูทีลิตี้ เรียล เอสเตท ที่ก่อนหน้าได้ไปเปิดที่ย่านสุทธิสารในราคาหยิบจับง่ายเช่นเดียวกันนะคะ

เรามาดูกันต่อในส่วนของ Master Plan กันก่อนไปดู Perspective ส่วน Facilities กันนะคะ ลักษณะของที่ดินจะคล้ายกับรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว ซึ่งภายในเรียงอาคารไปตามลักษณะที่ดินเลยค่ะ ไล่จากซ้ายไปขวาคืออาคาร C, อาคาร A (ตรงกลาง) และอาคาร B ที่อยู่ฝั่งขวาสุด หลายคนอาจจะงงว่าทำไมอาคารไม่เรียงไปตามลำดับนะคะ ต้องบอกว่าเดิมก่อนหน้านี้ทางโครงการออกแบบมาให้มีเพียง 2 อาคาร คือ A และ B เท่านั้น แต่เนื่องจากมีการขยายที่ดินมากขึ้นจึงเพิ่มอาคาร C ขึ้นมาอีก 1 อาคารนั่นเองค่ะ

ทางเข้า-ออกโครงการมีเพียงจุดเดียวนะคะ โดยจะอยู่ระหว่างอาคาร A และ อาคาร B จากนั้นการสัญจรรถในโครงการจะเป็นแบบ One Way และกลับมาออกทางเดิม ที่จอดรถมีทั้งชั้น 1 และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้นในบริเวณอาคาร A และ C ส่วนอาคาร B จะอยู่ที่ชั้น Ground อย่างเดียว รวมซ้อนคันแล้วอยู่ที่ประมาณ 38.7% ถือว่าให้มาระดับนึง ไม่น้อยเกินไปนะคะ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายและความสะดวกในการพึ่งพารถสาธารณะอื่นๆ

สำหรับการเข้าถึงอาคารด้านใน ในชั้นนี้จะมีเพียงส่วน Lobby ที่แยกการใช้งานแต่ละอาคารเป็นสัดส่วน พร้อมกับมีจุดสแกนบัตรก่อนเข้าสู่โถงลิฟต์โดยสารภายใน เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่จะสามารถขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยได้ดี

ในชั้น 2 นี้นอกจากจะมีห้องพักอาศัยแล้วยังเป็นชั้น Main Facilities ด้วยค่ะ โดย Facilities นี้จะมีเฉพาะอาคาร C และ อาคาร B โดยอาคาร B เป็นอาคารที่มี Facilities หลากหลายมากที่สุดนะคะ ใครที่ชอบใช้ Facilities และต้องการความสะดวกในการเข้าถึง ก็จะเหมาะกับอาคาร B มากที่สุดค่ะ ส่วนอาคาร C นี้มีเฉพาะสระว่ายน้ำ และ Fitness พื้นฐาน ไม่มี Co-Working Space และห้องน้ำกลางให้ ส่วนใครที่ไม่เน้นใช้ Facilities เลย แต่อยากได้ความเป็นส่วนตัว ไม่มีคนอาคารอื่นมาเข้า-ออกอาคารเพื่อใช้ Facilities รวมไปถึงการเข้าออกโครงการได้สะดวกมากที่สุด อาคาร A ก็จะตอบโจทย์ค่ะ

มาดูชั้น Typical Floor Plan กันต่อนะคะ ในชั้นนี้ครอบคลุมตั้งแต่ชั้น 3-7 เลยค่ะ โดยทุกอาคารของชั้นนี้เกือบทั้งหมดเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. นะคะ (มีเพียงบางห้องตามหัวมุมที่มีขนาดมากกว่าหน่อยแต่การจัดผังภายในใกล้เคียงกัน ส่วนสีไม่ได้แยกเป็นแต่ละ Type ค่ะ) ซึ่งเราจะมาเจาะรายละเอียดความน่าสนใจในแต่ละอาคารกันนะคะ

อาคาร A เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยที่สุด ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ห้องส่วนใหญ่ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor นะคะ มีเพียงห้อง Ax01 และ Ax02 ที่ได้ Single Corridor แต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนตัวมากนักเพราะอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ที่สุด จะเน้นไปทางการใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงมากกว่าค่ะ ซึ่งหากคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในอาคาร A นี้ นอกจากห้องมุมแล้วก็จะมีห้อง Ax17 ที่อยู่ติดบันไดหนีไฟ

อาคาร B เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตขยับมาที่ 19 ยูนิตต่อชั้น มากกว่าอาคาร A อยู่ 2 ห้องต่อชั้นก็ถือว่าไม่ได้มากกว่าเท่าไหร่นักนะคะ จะเด่นไปที่การเข้าถึง Facilities ที่สะดวกมากกว่า ส่วนห้องที่น่าสนใจคือห้อง Bx01-Bx06 ซึ่งได้ Single Loaded Corridor พิเศษอีกหน่อยคือห้อง Bx06 ที่ไม่มีผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านเลย และได้วิวสระว่ายน้ำฝั่งยาวรวมไปถึงไม่มีห้องฝั่งตรงข้ามที่ประจันหน้ากันด้วยค่ะ จึงเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวและได้วิวที่น่าสนใจ

อาคาร C เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุด แต่ห้องส่วนใหญ่ได้ Single Loaded Corridor นะคะ ถ้าระหว่างทางเดินโถงที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม ออกแบบให้มีหน้าต่างไว้ให้แสงเข้าและระบายอากาศได้ จะเป็นอาคารที่มีการถ่ายเทอากาศดีที่สุด ช่วยให้ภายในอาคารไม่อมความร้อนได้ดีด้วยค่ะ

ในชั้น 8 ต่างจากชั้น Typical Floor Plan อยู่เล็กน้อย หลักๆ คือในทุกอาคารของชั้นนี้มีจำนวนยูนิตน้อยลง และห้องมุมมีการปรับขนาดให้ใหญ่มากขึ้น อย่างห้อง A811, B811, C814-C815 ที่ออกแบบให้เป็น 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ในขนาด 39-40 ตร.ม.

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งออกแบบให้เป็นสระ Outdoor ด้วยขนาดความยาวแล้วออกแบบมาให้สามารถว่ายออกกำลังกายได้นะคะ ส่วนระบบสระว่ายน้ำที่ใช้จะเป็นระบบเกลือค่ะ

ตำแหน่งของสระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลางรายล้อมด้วยห้องพักอาศัย เพื่อให้ห้องพักอาศัยด้านในมีวิวให้ชมได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หากใครอยากได้วิวสระว่ายน้ำแนะนำให้เลือกชั้น 3-5 นะคะ จะได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับสระว่ายน้ำมากกว่าชั้นบนๆ ค่ะ

 

บรรยากาศภายในห้อง Fitness (อาคาร C และ B) ที่ออกแบบมาให้อยู่ติดกับสระว่ายน้ำพร้อมกับกระจกสูงแบบ Full Height (จากพื้นถึงฝ้าเพดาน) ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ดี ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง พร้อมรับวิวสระว่ายน้ำเต็มที่มากขึ้น ส่วนเครื่องออกกำลังกายด้านในมีให้ประมาณ 6 เครื่อง พร้อมโซนเวทเทรนนิ่ง

บรรยากาศภายในส่วน Co-Working Space ที่จะมีอยู่เฉพาะอาคาร B (แต่ลูกบ้านทุกอาคารสามารถเข้ามาใช้งานได้) โดยห้องนี้อยู่ติดกับห้อง Fitness นะคะ เน้นเปิดรับวิวจากสระว่ายน้ำเช่นเดียวกัน ภายในมีการจัดวางชุดเฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบโต๊ะนั่งทำงานเดี่ยว โต๊ะนั่งเล่น และชุดโซฟาพักผ่อน

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby แยกแต่ละอาคาร
  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ
  • ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
  • Co-Working Space 1 ห้อง
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการประมาณ 67 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 140 คันคิดเป็น 35% ไม่รวมจอดซ้อนคัน และ 155 คัน แบบรวมซ้อนคัน คิดเป็น 38.7%
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพามาชมกันในวันนี้คือห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดนะคะ คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. ลักษณะห้องจะเป็นห้องหน้าแคบลึก (สังเกตจากประตูทางเข้าห้องนะคะ)  ภายในมีการจัดฟังก์ชันได้ลงตัวนะคะ โดยเข้ามาภายในก็จะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร จากนั้นตรงไปในสุดคือห้องนอนนี้กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้แสงสว่างเข้าถึงส่วนพื้นที่นั่งเล่นได้

ในส่วนห้องครัวไม่ได้กั้นมาให้เป็นครัวปิดนะคะ แต่หากลูกบ้านต้องการทำอาหารอย่างจริงจังสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อน เพื่อทำเป็นครัวปิดได้ค่ะ ติดกับครัวเป็นพื้นที่ระเบียงซักล้างที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป สามารถใช้งานได้จริง และอีกฝั่งเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ

สรุปการใช้งานแล้วจะเหมาะกับคนที่ต้องการการจัดห้องเป็นสัดส่วนชัดเจน ถูกต้องตามหลักการใช้งาน คือเข้ามาในห้องแล้วเจอกับพื้นที่นั่งเล่นต้อนรับแขกก่อน ชอบห้องนอนขนาดใหญ่อยู่ติดหน้าต่างภายนอก ชอบการแยกครัวเป็นสัดส่วน สามารถทำเป็นครัวปิดเพิ่มเติมเองได้ และไม่ซีเรียสเรื่องพื้นที่นั่งเล่นจะต้องได้วิวภายนอกค่ะ

ประตูหน้าห้องใช้วัสดุเป็นไม้เทียมสีขาวมาตรฐานทั่วไป กลอนประตูเป็นลูกบิดนะคะ หากอยากปรับเปลี่ยนสามารถติดตั้ง Digital Door Lock หรือเปลี่ยนเป็นมือจับแบบก้านโยกเพิ่มเติมเองได้ค่ะ

เข้ามาภายในเป็นส่วน Common Area โดยแบ่งการใช้งานเป็นพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านใน สุดทางเป็นห้องนอนโดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ สำหรับฝ้าเพดานที่นี่ให้มาสูงมาตรฐานอยู่ที่ 2.4 ม. นะคะ ส่วนรูปแบบการขายให้มาแบบ Fully Furnished ค่ะ ซึ่งเราจะอธิบายไปแต่ละจุดกันนะคะ ว่าในห้องนี้มีเฟอร์นิเจอร์ไหนที่ได้เป็นมาตรฐานบ้าง

เริ่มต้นจากพื้นที่นั่งเล่นนี้มีระยะทีวีประมาณ 1.8 ม. ซึ่งเหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 32″ กำลังดีกับระยะสายตานะคะ

สำหรับชุดโซฟาที่ได้จะเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง บุผ้าสีเทาให้เป็นมาตรฐาน

ส่วนโต๊ะวางทีวีนั้นจะได้เฉพาะส่วนด้านล่างนะคะ ไม่รวมกับชั้นวางของด้านบน สำหรับโต๊ะวางทีวีนี้สามารถวางของด้านในได้พอสมควรนะคะ

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารนี้ทางโครงการไม่ได้ให้ชุดโต๊ะเก้าอี้มานะคะ แต่มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ดูว่าพื้นที่ส่วนนี้สามารถจัดชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้กำลังดีไม่เล็กจนเกินไปค่ะ

ถัดมาเป็นทางเข้าห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 ตอน ซึ่งหากลูกบ้านต้องการความเป็นส่วนตัวในห้องนอนมากขึ้นสามารถติดตั้งม่านหรือจะติดฟิล์มฝ้าเพิ่มเติมได้ค่ะ ส่วนขนาดของประตูบานเลื่อนกระจกเรามองว่าน่าจะได้ขนาดใหญ่กว่านี้นะคะ เช่นเต็มผนัง หรือสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลย ซึ่งส่งผลให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้นกว่านี้ได้พอสมควรเลย

เข้ามาที่ภายในห้องนอน ถือว่าได้ขนาดห้องนอนค่อนข้างกว้างขวางนะคะ ด้านข้างเตียงเป็นส่วนตู้เสื้อผ้าที่จะได้เป็นมาตรฐาน และติดกับคือเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งทางโครงการให้มาเป็นมาตรฐานเช่นกัน แต่ไม่รวมฟูกค่ะ

เรามาดูกันที่ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ได้เป็นมาตรฐานกันนะคะ ด้านหน้ากรุด้วยกระจกเงาเพื่อสามารถใช้เป็นพื้นที่แต่งตัวในเวลาเดียวกันนะคะ

ภายใน Built-in ให้มีชั้นวางของ ราวแขวนเสื้อ และช่องเก็บของด้านบนเรียบร้อย

สำหรับบริเวณเตียงนี้โดยรอบมีทางเดินให้เดินได้สะดวกระดับนึงค่ะ ส่วนชุดบานหน้าต่างจัดมาให้ขนาดใหญ่แบบมาตรฐาน คือไม่ได้สูงถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว แต่ก็ได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่พร้อมกระจกบาน Fixed ด้านล่างทำให้ห้องโปร่งโล่งและระบายอากาศภายในได้ดี

เข้ามาภายในห้องครัวกันต่อนะคะ ภายในสามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายมากกว่าส่วนเคาน์เตอร์ครัวนะคะ อย่างด้านข้างเคาน์เตอร์วางตู้เย็นและโต๊ะวางของเพิ่มเติมได้ หรือจะจัดให้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารในส่วนนี้ก็ได้นะคะ แต่จะได้ขนาดเล็กกว่าส่วน Common Area เผื่อว่าใครอยากจัดให้ส่วน Common Area เป็นพื้นที่ทำงาน

ความกว้างทางเดินกำลังดีนะคะ อยู่ที่ประมาณ 90 ซม. ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ส่วนตรงผนังด้านบนฝั่งซ้ายนี้จะมีการเดินท่อเครื่องปรับอากาศยาวเหมือนห้องตัวอย่างนะคะ

มาดูในส่วนชุดครัวกันต่อนะคะ โดยชุดครัวนี้จะได้ทั้งเคาน์เตอร์และชั้นวางของด้านบนครบเซตค่ะ

สำหรับชั้นวางของด้านบนแบ่งออกเป็นชั้นวางปกติและช่องสำหรับวางไมโครเวฟได้กำลังดี

ก่อนดูเคาน์เตอร์ครัว ผนังครัวนั้นจะไม่ได้ทำเป็น Back Splash ไว้ให้นะคะ ลูกบ้านสามารถกรุกระจกหรือกรุกระเบื้องเพื่อกันไม่ให้ผนังเลอะ และจะได้ทำความสะอาดได้ง่ายมากขึ้นด้วยค่ะ ตัวเคาน์เตอร์ท็อปเป็น Particle เคลือบเมลามีนมาตรฐาน ด้านล่างมีบานเปิดใต้อ่างไว้เก็บของชิ้นใหญ่หน่อย ส่วนอีกฝั่งเป็นลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ช้อมส้อมต่างๆ และด้านล่างเป็นชั้นวางจาน

สำหรับ Sink ล้างจานหลุมเดี่ยวจาก Hafale ส่วนเตาทางโครงการไม่ได้มีให้นะคะ หากใครต้องการทำอาหารให้ใช้เป็นเตาไฟฟ้าพกพาจะสะดวกสุดค่ะ

สำหรับส่วนระเบียงซักล้างเชื่อมกับระเบียงซักล้าง โดยใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจก

บริเวณภายในพื้นที่ระเบียงซักล้างกั้นด้วยราวเหล็กและระแนงเหล็กบังสายตาจากส่วน CDU แอร์ ส่วนการแขวนแอร์นี้จะเป็นการแขวนหันลมร้อนเข้าด้านในระเบียงซักล้างนะคะ ถ้าไม่อยากให้ลมร้อนเป่าเข้าด้านในแนะนำให้ติดตั้งกริลล์เพื่อเบี่ยงลมร้อนออกภายนอกได้ค่ะ

ขนาดระเบียงส่วนที่ใช้งานได้ (ไม่รวมพื้นที่วางท่อ) อยู่ที่ประมาณ 1.2 x 1.2 ม. จัดเป็นขนาดที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้แต่จะเหลือพื้นที่ใช้งานอีกเล็กน้อยนะคะ

ถัดมาที่ส่วนห้องน้ำกันต่อค่ะ บริเวณหน้าห้องน้ำกั้นด้วยธรณีประตูยกสูงพอสมควรประมาณ 10 ซม. ซึ่งถือว่าสูงกว่าทั่วไป (5 ซม.) อยู่หน่อยค่ะ

เข้ามาภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน เป็นสัดส่วนดี แต่ไม่ได้กั้นด้วยฉากกั้นกระจกระหว่างพื้นที่อาบน้ำนะคะ ทั้งนี้ลูกบ้านสามารถติดตั้งเองเพิ่มเติมได้ จะเป็นฉากกั้นกระจกหรือม่านพลาสติกราคาเบาๆ ก็ได้หมดค่ะ

มาดูที่พื้นที่โซนแห้งกันก่อนนะคะ ส่วนนี้จะติดตั้งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Hafele เป็นมาตรฐาน สิ่งที่ชอบคือโถได้เป็นแบบชิ้นเดียว และด้านหลังทำ Low Wall ไว้ให้สามารถวางของเล็กๆ น้อยๆ ได้

สำหรับพื้นที่อาบน้ำได้มาขนาดใหญ่พอสมควรนะคะ อยู่ที่ประมาณ 1.2 x 0.9 ม.

สำหรับฝักบัวมาตรฐานจะได้เป็นฝักบัวสายอ่อนจาก Vegarr ส่วนเครื่องทำน้ำร้อนไม่รวมเป็นของที่ได้นะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 02 October 2018

  • 1 Bedroom ห้อง A417 ชั้น 4 อาคาร A วิวสระ พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.57 ล้านบาท ราคาลด 1.52 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร 54,285 บาท (คิดจากราคาลด)
  • 1 Bedroom ห้อง B817 ชั้น 8 อาคาร B Standard พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.64 ล้านบาท ราคาลด 1.59 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร 56,785 บาท (คิดจากราคาลด)
  • 1 Bedroom ห้อง B607 ชั้น 6 อาคาร B วิวสระ พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.67 ล้านบาท ราคาลด 1.62 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร 57,857 บาท (คิดจากราคาลด)
  • 1 Bedroom ห้อง C406 ชั้น 4 อาคาร C Standard พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. ราคาเต็ม 1.57 ล้านบาท ราคาลด 1.52 ล้านบาท ราคาต่อตารางเมตร 54,285 บาท (คิดจากราคาลด)

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Shuttle Service

 

  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 40,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 22 งวด
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
  • โปรโมชั่น ณ วัน Pre-Sale

  • ส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท
  • ฟรี เฟอร์นิเจอร์
  • ฟรี เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
  • แถม เครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ชิ้น

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล

โครงการ HI สุขุมวิท 93 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 93 ซอยย่อยพึ่งมี 11 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทหลักและถนนอ่อนนุชนะคะ ทำให้ทำเลโครงการค่อนข้างน่าสนใจในเรื่องของการเดินทาง เพราะมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายมากขึ้น ด้วยทำเลนี้ถือว่าจัดอยู่ในย่านอ่อนนุช ซึ่งเป็นย่านที่เรารู้จักกันดีมานาน เนื่องจากเป็นย่านชุมชนเก่าแก่มีบ้านพักอาศัยอยู่ทั้งติดถนนใหญ่และซอยย่อยมากมาย แต่เมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมาทำเลนี้เจริญมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้าที่ตัดผ่านทำให้บรรยากาศริมถนนสุขุมวิทและในรัศมีของรถไฟฟ้าเปลี่ยนไปจากเดิม มีทั้งคอนโดมิเนียมและห้างร้านต่างๆ มากมาย เช่น Tesco Lotus อ่อนนุช, Century, Big C เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีร้านรถเข็น และร้านค้าริมทางให้เลือกซื้ออาหารได้หลากหลายเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ

อย่างที่บอกว่าทำเลโครงการอยู่ในซอยที่เชื่อมเข้าถนนใหญ่ได้ทั้งจากถนนสุขุมวิทและถนนอ่อนนุช จึงช่วยให้การเดินทางโดยใช้รถได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน 2 ด่วนหลักๆ อย่างทางด่วนเฉลิมมหานคร และฉลองรัชนะคะ ส่วนที่จอดรถถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องคิดถึงด้วยเพราะหากไม่มีที่จอดรถให้จอดได้เพียงพอก็ส่งผลในเรื่องความสะดวกในการเดินทางเช่นกันค่ะ อย่างที่นี่เรามองว่าให้มาพอสมควรนะคะ เมื่อเทียบกับราคา เพราะให้ที่จอดรถรวมซ้อนคันมาประมาณ 38.7% ด้วยกันค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

สำหรับใครที่เน้นพึ่งพารถสาธารณะนั้นต้องบอกว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ขยับเข้ามาในซอยพอสมควร หลุดระยะเดินไปถึง BTS แล้วนะคะ แต่ก็มีตัวเลือกในการไปถึง BTS ได้ด้วยการต่อรถ ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถกะป้อ ที่วิ่งให้เห็นตลอดในซอยนี้ เรียกว่าเรียกรถได้ง่ายและสะดวกด้วยค่ะ รวมไปถึงทางโครงการเองก็จะมี Shuttle ตุ๊กตุ๊ก คอยรับ-ส่งลูกบ้านจากโครงการไปยัง BTS บางจากซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดด้วยค่ะ ซึ่งหากมองในแง่ของราคาโครงการแล้วเรามองว่าการเดินทางโดยไม่ใช่รถ ที่หลุดระยะเดิน BTS แต่มีรถไปต่อ BTS ได้หลากหลายและง่ายนั้น จัดว่าสะดวกอยู่นะคะ

วัสดุ

วัสดุโครงการให้มาแบบ Fully Furnished ในระดับราคาต่อตารางเมตร 55,000 บาท ถือว่าให้มาเหมาะสมกับราคานะคะ ไม่น้อยและไม่มากไป เกรดวัสดุมาตรฐาน อย่างพื้นเป็นไวนิล พื้นห้องน้ำระเบียงใช้กระเบื้องเซรามิก เคาน์เตอร์ครัว Particle ไม่มี Hob & Hood และสุขภัณฑ์จาก Hafele เป็นหลัก ทั้งนี้สิ่งที่อยากให้ปรับเพื่อให้ดูคุ้มค่ามากขึ้นคือการเดินท่อเครื่องปรับอากาศที่ไม่โชว์ติดผนังจะเพิ่มความสวยงามได้มากขึ้น และประตูบานเลื่อนกระจกบริเวณห้องนอนถ้าได้สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานจะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งได้ดีมากขึ้นทีเดียวค่ะ

การออกแบบ

สำหรับผังชั้นมีการออกแบบได้น่าสนใจตรงที่มีบางจุดที่ได้ Single Loaded Corridor เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีนะคะ ส่วนตัวห้องพักอาศัยขนาด 28 ตร.ม. ถือเป็นห้องที่จัดฟังก์ชันได้ลงตัว เป็นสัดส่วนดี เน้นพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ และตำแหน่งครัวที่เหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น แต่แลกมากกับพื้นที่นั่งเล่นที่ไม่ได้วิวภายนอก

สาธารณูปโภค

มีให้ครบครันตามมาตรฐานและราคาที่จ่าย โดย Facilities จะแบ่งอยู่ 2 อาคาร คืออาคาร B และ C แต่ลูกบ้านทุกอาคารรวมอาคาร A นั้นสามารถเข้าถึง Facilities ทุกส่วนในโครงการได้ โดยมีทั้งสระว่ายน้ำ 2 สระ Fitness 2 ห้องและ Co-Working Space ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 55,000 บาท/ตร.ม., 02 October 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ในซอยสุขุมวิท 93 มีความเงียบสงบแต่ไม่เปลี่ยว เชื่อมถนนใหญ่ 2 ถนนด้วยกัน
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – สะดวกมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย ใกล้ทางด่วนและที่จอดรถให้มาโอเคกับราคา
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ใกล้รถไฟฟ้า แต่มีรถไปต่อได้ง่าย มี Shuttle ตุ๊กตุ๊กบริการ
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ให้มาครบ เกรดตามราคา
  • แบบ 7.5/10 – เป็นสัดส่วนชัดเจน ลงตัว มาตรฐาน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ตามมาตรฐาน แต่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 อาคาร รวม 2 จุด

  • ECONOMY CLASS
  • 7.54 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ HI สุขุมวิท 93 เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด หรือมองหาคอนโดราคาหยิบจับง่ายในย่านอ่อนนุช เดินทางสะดวกทั้งขับรถและไม่ขับรถ ไม่ซีเรียสเรื่องการต่อรถไปขึ้น BTS ได้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ พร้อม Facilities ในราคาเบาๆ ล้านปลายๆ ก็สามารถหยิบจับได้แล้วค่ะ