รีวิวฉบับที่ 2209 … Groove Muse รัชดา 7 คอนโดแห่งที่ 5 แล้วนะคะ จาก Divine Development จุดเด่นอยู่ที่ทำเลของโครงการตั้งอยู่ด้านหลัง The Street รัชดา ใกล้แหล่งอาคารสำนักงาน หาของกินง่าย เดินไป MRT ศูนย์วัฒนธรรมได้ในระยะ 900 เมตร ภายในโครงการออกแบบให้มีดีไซน์กระจกและระเบียงโค้งแปลกตา เลือกใช้สีสันสไตล์ Pop Art มีพื้นที่ส่วนกลางให้หลากหลาย ได้โถงทางเดิน Single Corridor พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
ข้อมูลโครงการ
05 January 2021
- Groove Muse Ratchada 7 (กรู๊ฟ มิวส์ รัชดา 7)
- บริษัท กรู๊ฟ คอนโด รัชดา – พระรามเก้า จำกัด บริษัท ในเครือ บริษัท ดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ โฮลดิงส์ จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยรัชดา 7 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
- ที่ดินประมาณ 1-0-32 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 201 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 82 คัน คิดเป็น 42% (Auto Parking จำนวน 75 คัน และที่จอดปกติ จำนวน 7 คัน)
- เริ่มก่อสร้าง : Q3 ปี 2564
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2565
- 1 Bedroom 25.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 30.00-35.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 42.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.32 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 090 903 6662
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.771779850325549, 100.57149641566714
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Groove Muse รัชดา 7 ตั้งอยู่ในซอยนาทอง 7 เป็นซอยย่อยที่เชื่อมต่อกับซอย รัชดาภิเษก 7 เข้ามาจากถนนรัชดาภิเษกประมาณ 290 เมตร ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมประมาณ 900 เมตร ซึ่งในซอยรัชดาภิเษก 7 นั้นอยู่ในทำเลใกล้กับแหล่งห้างสรรพสินค้า เรียกได้ว่าอยู่ด้านหลัง The Street รัชดา และสามารถเดินลัดผ่านห้าง Big C ไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้ค่ะ ภายในซอยมีความคึกคักสูง มีรถผ่านเข้า – ออกอยู่ตลอดทั้งวัน
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าค่อนข้างสะดวก เนื่องจากทำเลนี้มีเส้นทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักได้หลายเส้นทาง สามารถลัดไปออกถนนวิภาวดี – รังสิต หรือถนนดินแดงได้ ขึ้นเหนือไปเล็กน้อยก็จะเจอกับแยกห้วยขวาง และถนนสุทธิสารวินิจฉัยแล้วค่ะ ถ้าลงมาทางใต้สามารถไปอโศก – พระราม 9 ได้ ซึ่งแยกพระราม 9 เองก็อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเป็นแหล่งที่มีการเจริญเติบโตและคึกคักมากทีเดียว เนื่องจากมีห้างสรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน รวมถึงที่อยู่อาศัยมากมายค่ะ
นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ทำเลนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ทำได้ไม่ยาก ซึ่งโครงการอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม ประมาณ 900 เมตร เป็นทำเลที่เดินได้ แต่อาจจะไกลสักหน่อย สำหรับคนที่ไม่อยากเดินก็สามารถเรียกมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยได้ค่ะ บนถนนเส้นรัชดาเองก็จะมีรถ Taxi และรถประจำทางอยู่แล้ว อีกทั้งโครงการยังมีรถรับ – ส่ง ที่ MRT ศูนย์วัฒนธรรม และ MRT สถานีพระราม 9 ด้วย (แต่ยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาชัดเจนนะคะ) สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยค่ะ
ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ถือว่าหายห่วงกันได้เลยค่ะ รอบๆโครงการจะเป็นชุมชนพักอาศัยเสียส่วนใหญ่ จึงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่บ้างประปรายทั้งในซอย นอกจากนั้นยังเดินจากโครงการเพียง 400 เมตรก็จะเจอกับห้างใหญ่อย่าง The Street รัชดา และห้างสรรพสินค้า Big C รัชดา แล้ว นอกจากนั้นบนถนนรัชดาถัดออกมาจะมีตลาดนัดอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะเมื่อออกมาที่สี่แยกห้วยขวางและถนนประชาสงเคราะห์ ก็เป็นที่รู้จักกันดีของคนในย่านนี้ว่านี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ตลาดห้วยขวาง และ Bar & Restaurant หลายร้าน
ถัดออกมาอีกหน่อยก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้าก็จะสามารถไปห้างสรรพสินค้า Esplanade, ตลาดรถไฟได้ หรือจะออกมาเพียง 1 สถานีจะเจอกับ ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 นอกจากแหล่งจับจ่ายใช้สอยแล้วทำเลนี้ยังมีอาคารสำนักงานอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ตึก RS, ตึก AIA, Cyber World, ตึก True และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง ทั้งสถานทูตจีน สถานทูตเกาหลี สถานทูตลาว และสถานทูตกัมพูชา เรียกได้ว่าเป็นอีกแหล่งธุรกิจ (CBD) ก็ว่าได้ค่ะ
เส้นทางการเดินทาง
การเดินทางที่เราจะพาไปโครงการ Groove Muse รัชดา 7 ในวันนี้เริ่มจากถนนพระราม 9 บริเวณแยกผังเมือง เลี้ยวขวาเข้าถนนวัฒนธรรม และเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยรัชดาภิเษก 7 และเข้าซอยนาทอง 7 ไปประมาณ 120 เมตร จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ รวมระยะทางประมาณ 2.4 กิโลเมตร
เริ่มจากถนนพระราม 9 บริเวณแยกผังเมือง ให้ชิดขวา เพื่อรอเลี้ยวขวาตรงแยกผังเมือง
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ Groove Muse รัชดา 7 ส่วนใหญ่เป็นชุมชนพักอาศัย จะสังเกตเห็นอาคารแถว และอาคารพักอาศัยอยู่หลายแห่ง มีตั้งแต่อาคารที่สูง 2 ชั้นไปจนถึง 8 ชั้น ทำให้ห้องพักอาศัยบางส่วนโดนบังวิวไปบ้าง นอกจากทางทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งโครงการจะอยู่ติดกับซอยนาทอง 6-7 มีอาคารฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ทำให้มองเห็นวิวในมุมกว้างได้ค่ะ อาคารโดยรอบที่ดินต่างๆสามารถสรุปได้ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยนาทอง 7 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 2-4 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยนาทอง 6 ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารแถวสูง 2 ชั้น
บรรยากาศในซอย รัชดาภิเษก 7 บริเวณหน้าซอยนาทอง 7 เป็นที่ตั้งของสำนักงานขายโครงการ มีรถวิ่งผ่านเข้า-ออก ตลอดทั้งวัน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- The Street รัชดา ~ 450 เมตร
- Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 500 เมตร
- CW Tower ~ 550 เมตร
- MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 1 กิโลเมตร
- อาคาร AIA ~ 1.2 กิโลเมตร
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ~ 1.9 กิโลเมตร
- ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 2.3 กิโลเมตร
- กระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ~ 2.3 กิโลเมตร
- ฟอร์จูน ทาวน์ ~ 3 กิโลเมตร
- Central พระราม 9 ~ 3.4 กิโลเมตร
- KIS International School ~ 3.7 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 6.1 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
โครงการ Groove Muse รัชดา 7 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดิน 1 ไร่ มีห้องพักอาศัยรวม 201 ยูนิต วางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสเชื่อมต่อกัน เป็นโถงทางเดินแบบ Single Corridor ภายในโครงการมีที่จอดรถแบบ Automatic ใต้ดิน 4 ชั้น บนอาคาร 6 ชั้น แบ่งเป็น 2 เครื่อง และที่จอดรถสำหรับ Visitor 5 คัน EV ชาร์จ 2 คัน รวมเป็น 82 คัน หรือคิดเป็น 42% ซึ่งอาจจะไม่ได้มีที่จอดเพียงพอสำหรับทุกยูนิต แต่ทางโครงการก็ได้จัดให้มีรถรับ – ส่ง ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรม และ MRT ลาดพร้าว มาให้ค่ะ
รูปด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับซอยนาทอง 7
โครงการ Groove Muse รัชดา 7 มีแนวคิดในการออกแบบจากศิลปะ Pop Art ยุค 70 ที่ใช้สีสัดฉูดฉาดตกแต่งให้มีความน่าสนใจ และใช้รูปทรงหน้าต่างระเบียงโค้งเว้าสลับกัน มีแผงกันแดดยื่นออกมา ทำให้เกิดมิติ ไม่เรียบน่าเบื่อ โดยพื้นที่ส่วนกลางภายในก็นำการตกแต่งสไตล์ป็อป เข้าไปใช้ด้วยเช่นกันค่ะ
จุดเด่นของโครงการนี้ อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมากนัก และมีดีไซน์ช่องระเบียงและหน้าต่างโค้งมนไม่เหมือนใคร
มาดูผังของโครงการกันก่อนนะคะ ชั้น 1 มีทางเข้า – ออก เชื่อมต่อกับซอยนาทอง 7 แยกทางเข้า – ออกกันชัดเจน สามารถวนรถได้ทางเดียว เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Lobby สามารถรับ – ส่งผู้โดยสารได้เลย ส่วนใครจะไปจอดรถก็ให้เข้าช่องจอด Auto Parking ได้ 75 คันค่ะ เข้ามาภายในจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางที่เป็น Lobby ก่อนจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Facilities และห้องพักอาศัย
Facilities ชั้น 1 ประกอบด้วยห้อง Living Lounge มีจุดเด่นอยู่ที่ Theatre แบบ Water Feature สะท้อนแสงจาก Sky Light ลงมา มีบันไดวนขึ้นไปยังชั้นลอยได้ สำหรับใครที่ชอบนั่งพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัวก็สามารถเข้าไปใช้งานในส่วน Cafe ได้ค่ะ
ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 มี 14 ยูนิต เป็นห้องวิวสวนทั้งหมด มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นภายในโครงการนี้เลยค่ะ จากชั้น 1 สามารถเข้าไปยังโถงทางเดินได้ 2 ฝั่ง ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom (สีส้ม) มีห้องใหญ่อยู่บริเวณมุมอาคารมองเห็นวิวได้ 2 ฝั่ง
ชั้น 2 จะมีพื้นที่ Facilities ที่เชื่อมต่อกับชั้น 1 อย่าง Working Pods สำหรับนั่งทำงาน และ Private Office สำหรับจองเข้ามาประชุมกันหลายคนได้ แต่พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้จะต้องขึ้นมาจากบันไดวนชั้น 1 เท่านั้น ทำให้ชั้น 2 เป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต ส่วนช่องว่างตรงกลางเป็นที่จอดรถ Auto Parking ค่ะ
ห้องพักอาศัยในชั้น 2 มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor เป็นผังสี่เหลี่ยม ไม่สามารถเดินเชื่อมกันให้ครบรอบได้นะคะ ทำให้คนที่อยู่ฝั่งทิศใต้จะเดินเข้าถึงโถงลิฟต์ได้ใกล้กว่าห้องทางทิศเหนือ ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus (สีฟ้าเข้ม) มองเห็นวิวด้านหน้าโครงการจากซอยทางนอง 7 สำหรับคนที่ต้องการห้อง 2 Bedroom จะมีให้เลือกตำแหน่งมุมอาคาร 2 ฝั่งด้านหน้าโครงการค่ะ
อัตราส่วนลิฟต์โดยสารทั้งโครงการอยู่ที่ 101 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมาก ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการรอลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน
ผังโครงการ ชั้น 3
ผังโครงการชั้น 3 – 6 จะเหมือนกับชั้น 2 เลยค่ะ แต่จะเพิ่มห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นมา 2 ห้องตรงกลางอาคาร ทำให้มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 27 ยูนิต
ผังโครงการ ชั้น 7
ชั้น 7 มีผังห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้น 3 – 6 เลยค่ะ แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ มี Facilities เพิ่มเติมเข้ามา ประกอบด้วย Fit Club และ Dance Studio สำหรับออกกำลังกาย ซึ่งแยกทางเข้าชัดเจน ลูกบ้านจากชั้นอื่นๆสามารถขึ้นมาใช้งานได้ โดยไม่ต้องผ่านโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยค่ะ
ชั้น 8 ก็เช่นกันค่ะ มีผังห้องพักอาศัยเหมือนกับชั้นอื่นๆ แต่จะมีทางเชื่อมขึ้นไปใช้งาน Facilities ด้านบนดาดฟ้าได้ และมีห้องน้ำแยกชาย – หญิงสำหรับคนที่มาว่ายน้ำให้ด้วย
ชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ Outdoor เป็นสระระบบเกลือไม่ทำร้ายผิวและเส้นผม ขนาดสระว่ายน้ำประมาณ 3.20 x 15.10 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้ รอบๆข้างมีพื้นที่นั่งเล่น และลานบาร์บีคิว สำหรับชวนเพื่อนๆขึ้นมาทำปิ้งย่างกันได้ค่ะ
บรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby ด้านหน้าก่อนแยกไปยังพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัย มีโซฟาที่นั่งพักคอยและ Mail Box ด้านหลัง ดีไซน์ให้มีลูกเล่นสีสันสดใส
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Living Lounge
บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ชั้น 1 ประกอบไปด้วย ห้อง Living Lounge สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศ มีจุดเด่นอยู่ที่ Theatre ดูหนังพื้นด้านล่างเป็น Water Feature สะท้อนแสงจาก Sky Light ลงมาให้มีมิติเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และห้อง Cafe นั่งอ่านหนังสือ หรือทำงานเป็นส่วนตัวได้
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Gallery Walkway
ขึ้นมาที่ชั้นลอยจะเจอกับพื้นที่Working Pods สำหรับนั่งทำงาน และ Private Office สำหรับจองเข้ามาประชุมกันหลายคนได้ แต่พื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้จะต้องขึ้นมาจากบันไดวนชั้น 1 เท่านั้นค่ะ เมื่ออยู่บนทางเดินสามารถมองลงมาเห็นเงาสะท้อน Sky Light บนพื้นน้ำด้านล่างได้
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Fit Club
Facility อีกส่วนจะอยู่ที่ชั้น 7 เป็นส่วนของ Fit Club และ Dance Studio สำหรับออกกำลังกายจริงจัง ลูกบ้านชั้นอื่นสามารถขึ้นมาใช้งานได้เช่นกันค่ะ
ภาพบรรยากาศจำลองชั้นดาดฟ้าของโครงการ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า
ชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 3.20 x 15.10 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมกับพื้นที่นั่งรอบๆ สามารถขึ้นมาทำบาร์บีคิว และปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ พร้อมกับมองวิวเมืองรอบๆได้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- Lobby
- Smart locker
- Mailbox
- Living Lounge
- Café Lounge
- Theatre
ชั้น 2
- Working Pods
- Private office
- Zoom Meeting
- Gallery walkway
ชั้น 7
- Fit Club (Fitness) ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
- Dance Studio
ชั้นดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 3.20 x 15.10 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- Deck – Daybed
- Step seat
- Seating Area
- BBQ / Sink
- View Deck
- Roof Garden
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 101 : 1
- Service Lift – ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 82 คัน คิดเป็น 42% (Auto Parking จำนวน 75 คัน และที่จอดปกติ จำนวน 7 คัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ Key Card ไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ
แบบห้อง
ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Groove Muse รัชดา 7 มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- 1 Bedroom 25.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 30.00-35.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 42.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.32 ล้านบาท
โดยโครงการจะมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in พร้อมโซฟา และฐานเตียง รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศ (จำนวนขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง) เพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า มาเพิ่มก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยค่ะ
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom และห้อง 1 Bedroom Plus กันค่ะ
มาเริ่มกันที่ห้องแรก 1 Bedroom ขนาด 25.35 ตารางเมตร กันค่ะ ห้องนี้มีจุดเด่นที่การแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วนลงตัว ได้ห้องครัวปิดอยู่ด้านหน้า เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทาง ถัดจากห้องครัวเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ทั้งหมดสามารถกั้นเปิด – ปิดประตูบานเลื่อนกระจก 4 ตอนได้ ทำให้ตอนเปิดประตูเชื่อมต่อกันทั้งหมดจะได้ความรู้สึกเหมือนห้องใหญ่ และกว้างขึ้น นอกจากนั้นห้องนอนยังแบ่งพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วน อาบน้ำออกมาแต่งตัวได้สะดวก และใครที่ไม่ชอบให้ฝุ่นและความชื้นเข้าห้องนอน ยังสามารถกั้นพื้นที่ Walk-in Closet แยกเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ
ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด ที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้ห้องครัวปิด และสามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวกจากทางเข้า 2 ทาง ไม่เน้นใช้งานพื้นที่ระเบียงมากนักค่ะ
ประตูด้านหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock สีดำดีไซน์เรียบหรู รองรับการใช้รหัสผ่าน, ลายนิ้วมือ, Keycard และกุญแจ
เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องครัว ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนตามลำดับ กั้นด้วยประตูกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งเชื่อมต่อกัน พื้นห้องปูด้วย Smart ไวนิลทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นลามิเนต ผนังทาสีขาวทั้งหมด ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดโคมไฟแบบ Downlight มาให้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.55 เมตรค่ะ แม้ความสูงฝ้าเพดานจะไม่สูงมากแต่การทำประตูบานเลื่อนสูงจากพื้นจรดฝ้าช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
พื้นที่ครัว
ภายในห้องครัวปูพื้นด้วย Smart ไวนิล มีชุดครัว Built-in พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้มาให้ 1 ตัว ห้องครัวมีพื้นที่เดินกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร เหมาะกับการใช้งานคนเดียวค่ะ
โต๊ะรับประทานอาหาร Top เป็นวัสดุหินสังเคราะห์ เหมือนกับในห้องตัวอย่าง สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ 2 คนพร้อมกัน (นั่งคนละฝั่ง) ด้านข้างแบ่งเป็นพื้นที่อ่างล้างจาน ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าสำหรับห้องขนาด 25 ตารางเมตร
อ่างล้างจานสเตนเลสรูปทรงสี่เหลี่ยม จาก Teka ได้ก๊อกน้ำทรงโค้งติดตั้งมาให้พร้อมกับปลั๊กไฟ มีฝากันน้ำ สำหรับตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หม้อหุงข้าว, กาต้มน้ำ หรือเตาไฟฟ้าปิ้งย่าง ก็สามารถนั่งกินบนโต๊ะได้สะดวกค่ะ
ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน
ด้านล่างอ่างล้างจานมีตู้เก็บของมาให้ เหมาะกับวางถังขยะให้เป็นระเบียบและไม่ให้แมลงเข้าได้ค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ >> ทำความรู้จักกับวัสดุภายในครัว
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่เตาไฟฟ้า ด้านล่างมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า ไม่ต้องนำไปวางที่ระเบียงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้น
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นหินสังเคราะห์ ติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัวจาก Teka มาให้ พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมด้วยค่ะ
Built-in ชั้นเก็บของด้านบน
ด้านบน Built-in ตู้เก็บของมาให้ สามารถใช้เก็บจาน ชามเครื่องครัวและอุปกรณ์ทำอาหาร พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ จาก Teka ช่วยดูดควันและกลิ่นอาหารได้ระดับนึง แต่ถ้าทำอาหารจริงจังจะต้องเปิดประตูห้องน้ำเพื่อให้พัดลมระบายอาหารช่วยทำงานค่ะ
จากห้องครัวฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ฝั่ง จาก Walk-in Closet เพื่อให้ใช้งานแต่งตัวได้สะดวก และจากฝั่งห้องครัว ถ้ามีแขกมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอน จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อให้น้ำไม่ไหลออกมานอกห้องเวลาล้างห้องน้ำ มีดีไซน์สีสันเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ในห้องน้ำมีปลั๊กไฟมาให้สำหรับใช้ไดร์เป่าผม หรือที่ม้วนผมได้ค่ะ
อ่างล้างหน้าจาก Mogen
อ่างล้างหน้าได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์จาก Mogen มีชั้นเก็บของด้านล่างไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือสบู่แชมพูสำรองได้ค่ะ
โถสุขภัณฑ์และสายชำระ จาก Mogen ระยะนั่งใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกรอบบานสีดำตัดกับกระเบื้องสีน้ำเงิน สวยงามและช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ สามารถเปิดได้กว้าง
มีพื้นที่ยืนอาบประมาณ 0.85 x 0.95 เมตร พอดีๆตัวค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Mogen พร้อมช่องวางของที่ผนัง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ
ห้องนั่งเล่น
ถัดมาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ขนาดประมาณ 2.00 x 2.50 เมตร มีโซฟาและชั้นวาง TV มาให้ สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งที่ทางโครงการให้มาได้ค่ะ(โซฟาจริงที่ได้จะเป็นแบบเดียวกับภายในห้องตัวอย่าง) สามารถวางโต๊ะกลางเพิ่มเติมได้
TV แบบติดตั้งผนัง
ระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 2.00 – 2.50 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26-32 นิ้ว เหมาะกับการติด TV ที่ผนังแบบห้องตัวอย่าง เพราะทางโครงการติดตั้งชั้นวางของ Built-in มาให้ด้านใต้ ไม่มีชั้นวาง TV ค่ะ
ประตูบานเลื่อนกระจก 4 ตอน
ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 4 ตอนเปิดได้กว้าง เพื่อให้ห้องดูโปร่ง และมีแสงธรรมชาติเข้ามาถึงด้านในได้ แต่สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเติมค่ะ
เข้ามาภายในห้องนอน จะเห็นถึงความโปร่งจากช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่เลย ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.90 x 3.20 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้วค่ะ
ห้องนอน
พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ 1 ตัว แต่ถ้าใครชอบพื้นที่เยอะๆ แนะนำให้วางเตียงชิดกับผนังจะได้พื้นที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากขึ้นค่ะ
ฝั่งปลายเตียงเป็นพื้นที่ไปยัง Walk-in Closet และระเบียง
พื้นที่ Walk-in Closet มีความกว้าง 0.85 เมตร
พื้นที่ Walk-in Closet แยกออกมาจากพื้นที่นอนเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้สะดวก มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ 4 บาน ภายในมีไฟเปิดอัตโนมัติ พร้อมลิ้นชักด้านล่าง และด้านข้างเป็นโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เรียบร้อย ถือว่าจัดฟังก์ชันมาได้ลงตัวสำหรับห้องขนาด 25 ตารางเมตรค่ะ
ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ได้เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวห้องได้ในระดับหนึ่งค่ะ
ระเบียงรูปทรงโค้งได้ความแปลกตาไม่เหมือนใคร พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย ขนาดประมาณ 0.90 x 1.40 เมตร วางกระถางต้นไม้ตกแต่งหรือใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้ค่ะ โดยบริเวณนี้จะติดตั้ง Condensing Units มา 2 ตัวสำหรับห้องนอนและห้องนั่งเล่นทางโครงการจะติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาให้เพิ่มเติม เวลาออกไปใช้งานระเบียงจะไม่โดนลมร้อนจาก Condensing Units ค่ะ
ถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31.90 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วนคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แต่จะได้พื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเจอกับครัวปิดอยู่ด้านหน้า เชื่อมต่อกับห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทาง ถัดจากห้องครัวเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ถัดมาตรงกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่น และด้านในแบ่งเป็นห้องนอนหลักและห้องอเนกประสงค์ มีระเบียงส่วนตัว ซึ่งห้องนอนจะได้พื้นที่ Walk-in Closet กั้นเป็นสัดส่วนมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ
ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่ 1-2 คน ต้องการห้องอเนกประสงค์ สำหรับทำงาน หรือออกกำลังกาย หรือเป็นครอบครัวเริ่มต้นที่มีเด็กทารก ชอบห้องที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นส่วนชัดเจน ได้ห้องครัวปิด และสามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวกจากทางเข้า 2 ทาง ไม่เน้นใช้งานระเบียงเช่นกันค่ะ
ด้านหน้าเข้ามาภายในห้องจะเจอกับครัวปิด ห้องนั่งเล่น และห้องอเนกประสงค์ตามลำดับ โดยยังมีประตูกั้นเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 4 ตอนช่วยให้เปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันได้กว้าง พื้นห้องปูด้วย Smart ไวนิล ผนังทาสีขาว ฝ้าเพดานฉาบเรียบความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.55 เมตรเช่นกันค่ะ
บรรยากาศเมื่อมองจากพื้นที่นั่งเล่นไปยังห้องครัว ได้ความโปร่งจากประตูบานเลื่อนเมื่อเปิดจนสุด จะมีพื้นที่กว้างทีเดียวค่ะ
ภายในห้องครัวจะได้ชุดครัวพร้อมโต๊ะรับประทานอาหารมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
โต๊ะรับประทานอาหารมาตรฐาน ได้แบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
โต๊ะรับประทานอาหาร Top เป็นวัสดุหินสังเคราะห์ เหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลย สามารถนั่งรับประทานอาหารได้ 2 คน แต่จะต้องซื้อเก้าอี้เพิ่ม 1 ตัวนะคะ ด้านข้างแบ่งเป็นพื้นที่อ่างล้างจาน และชั้นเก็บของด้านล่าง
พื้นที่วางเครื่องซักผ้า
ฝั่งตรงข้ามเป็นเคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัวจาก Teka มาให้ด้านล่างมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอีก 1 จุด
Built-in ชั้นเก็บของด้านบน
ด้านบน Built-in ตู้เก็บของมาให้เหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ สามารถใช้เก็บจาน ชามเครื่องครัวและอุปกรณ์ทำอาหารได้ พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศมาให้ จาก Teka
จากห้องครัวฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ จะมีพื้นที่ด้านหน้าสำหรับ Built-in หรือวางชั้นรองเท้าเพิ่มเติมได้ ไม่ขวางประตูห้องค่ะ
ห้องน้ำสามารถเข้าได้จาก 2 ฝั่ง แบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนเปียก – แห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย พื้นห้องน้ำลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อให้น้ำไม่ไหลออกมานอกห้องเวลาล้างห้องน้ำค่ะ
มีกระจกเงาบานโค้งดีไซน์สวย พร้อมติดปลั๊กไฟสำหรับไดร์เป่าผมมาให้ด้วย
อ่างล้างหน้าได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์จาก Mogen มีชั้นเก็บของด้านล่าง และโถสุขภัณฑ์สีขาว จาก Mogen ระยะนั่งใช้งานได้สะดวก
พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกรอบบานสีดำ มีพื้นที่ยืนอาบประมาณ 0.85 x 0.95 เมตร พอดีๆตัวค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Mogen พร้อมช่องวางของที่ผนัง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ
ห้องนั่งเล่น
ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น ขนาดประมาณ 2.00 x 2.80 เมตร มีระยะดู TV ที่ไกลขึ้น อยู่ที่ประมาณ 2.50-2.70 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 30-40 นิ้ว พร้อมโซฟาและชั้นวาง TV มาให้ สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งที่ทางโครงการให้มาได้ค่ะ(โซฟาจริงที่ได้จะเป็นแบบเดียวกับภายในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom) สามารถวางโต๊ะกลางเพิ่มเติมได้
ชั้นวาง TV ที่ได้ในห้อง 1 Bedroom Plus มาตรฐานจะได้ตู้เก็บของและชั้นวางด้านข้างสีเทาค่ะ ส่วนผนังเว้าและกรอบสีส้มเป็นส่วนตกแต่งเพิ่มเติม
ภายในห้องอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 1.75 x 2.15 เมตร สามารถใช้เป็นห้องนอนสำรอง, ห้องออกกำลังกาย หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้นะคะ
ห้องอเนกประสงค์จะอยู่ด้านข้างห้องนอนเลยค่ะ มีประตูเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ช่วยให้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงสามารถส่องเข้ามาในตัวห้องได้ ภายในห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 1.75 x 2.15 เมตร สามารถใช้เป็นห้องนอนสำรอง, ห้องแต่งตัวสำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะๆ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ค่ะ โดยห้องนี้จะได้พื้นที่ระเบียงส่วนตัว แต่จะไม่ได้เครื่องปรับอากาศในห้องนี้นะคะ (ได้เฉพาะห้องนั่งเล่น และห้องนอนรวม 2 เครื่อง)
ระเบียงรูปทรงโค้งแตกต่างกันไปในแต่ละห้อง พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.90 x 1.75 เมตร วางกระถางต้นไม้ตกแต่งหรือใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้ โดยบริเวณนี้จะติดตั้ง Condensing Units มา 2 ตัวพร้อมแผงเปลี่ยนทิศทางลมมาให้เพิ่มเติม เวลาออกไปใช้งานระเบียงจะไม่โดนลมร้อนจาก Condensing Units
ถัดมาเป็นห้องนอน ห้องนี้จะได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้นจากห้อง 1 Bedroom เพราะเป็นห้องที่มีประตูเปิดบานทึบ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.10 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีมีพื้นที่เหลือเดินด้านข้างได้สบายๆ (ห้องมาตรฐานมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว) จุดเด่นของห้องนี้เลยก็คือมีช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง และได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเยอะ
พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางโต๊ะข้างเตียงสำหรับทำงานเพิ่มเติมได้
กระจกห้องเป็นกระจกเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ตัวห้อง
พื้นที่ด้านข้างเตียงมีขนาดประมาณ 1.00 เมตร สามารถวางโต๊ะทำงานส่วนตัวได้ เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูโปร่ง แต่ยังได้ความเป็นสัดส่วน ฝุ่นจากเสื้อผ้า และความชื้นจากห้องน้ำไม่เข้ามาภายในห้องนอนค่ะ
Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 1.55 x 1.70 เมตร แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือพื้นที่ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งตรงข้าม มีพื้นที่ทางเดินประมาณ 0.80 เมตร อาบน้ำแล้วเดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก
โต๊ะเครื่องแป้ง Built-in
ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็น Built-in โต๊ะเครื่องแป้งซึ่งทางโครงการมีให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ สำหรับใช้วางของส่วนตัวที่หยิบใช้งานบ่อยๆ หรือจะวางชั้นวางเครื่องประดับเพิ่มเติมก็ได้เช่นกันค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
05 January 2021
- 1 Bedroom 25.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 30.00-35.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 42.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.32 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- มีรถ Shuttle Service ไปกลับ MRT พระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 – 50,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประเภทห้อง)
- ดาวน์ประมาณ 10% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ Groove Muse รัชดา 7 ตั้งอยู่ในซอยนาทอง 7 เชื่อมต่อกับซอย รัชดาภิเษก 7 เข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 290 เมตร เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า บรรยากาศรอบๆโครงการเป็นชุมชนพักอาศัยมีความคึกคักสูง หาของกินง่ายเดินจากโครงการเพียง 400 เมตรก็จะเจอกับห้างใหญ่อย่าง The Street รัชดา และห้างสรรพสินค้า Big C รัชดา ถัดมาเป็นห้างสรรพสินค้า Esplanade, ตลาดรถไฟ, ฟอร์จูนทาวน์ และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 นอกจากนั้นทำเลนี้ยังใกล้กับอาคารสำนักงานหลายแห่ง เช่น ตึก RS, ตึก AIA, Cyber World, ตึก True และอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตหลายแห่ง โดยรวมถือว่าครบครันทีเดียวค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
การเดินทางโดยใช้รถค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะซอยรัชดาภิเษก 7 เป็นซอยที่มีเส้นทางลัดเลาะออกไปยังถนนหลักได้หลายเส้นทาง เช่นถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนดินแดง หรือจะใช้ถนนรัชดาภิเษกไปยังถนนอโศก – พระราม 9 ได้ โครงการนี้เขาให้ที่จอดมาประมาณ 82 คัน หรือประมาณ 42 % ของจำนวนยูนิต เป็นระบบ Auto Parking มีข้อดีคือไม่ต้องวนหาที่จอดรถเอง แต่จะแลกกับการใช้เวลารอรถนานสักหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีคนใช้ตรงกันค่ะ แต่โดยรวมจำนวนที่จอดก็ถือว่าพอดีๆกับโครงการที่มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
การเดินทางด้วยรถสาธารณะในทำเลนี้ถือว่าทำได้ไม่ยากค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจาก รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม ประมาณ 900 เมตร เป็นทำเลที่เดินได้สำหรับคนที่ชอบเดิน และสามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์และ Taxi ได้ง่าย นอกจากนั้นโครงการยังมีรถรับ – ส่ง ที่ MRT ศูนย์วัฒนธรรม และ MRT สถานีพระราม 9 มาเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมให้ด้วย
วัสดุ :
วัสดุถือว่าให้มาตามมาตรฐาน ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in พร้อมโซฟา และฐานเตียง รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศ พื้นปูด้วย Smart ไวนิล, ชุดครัวจาก Teka /Top หินสังเคราะห์, สุขภัณฑ์จาก Mogen ได้ Digital Door Lock รองรับการใช้รหัสผ่าน, ลายนิ้วมือ, Keycard และกุญแจ มีจุดเด่นที่ประตูกระจกบานเลื่อน 4 ตอน ทำให้ห้องเปิดได้กว้าง ได้หน้าต่างทรงโค้งดูมีลูกเล่นดีค่ะ
การออกแบบ :
โครงการ Groove Muse รัชดา 7 มีแนวคิดในการออกแบบจากศิลปะ Pop Art ยุค 70 ที่ใช้สีสัดฉูดฉาดตกแต่งให้มีความน่าสนใจ และใช้รูปทรงหน้าต่างระเบียงโค้งเว้าสลับกัน มีแผงกันแดดทำให้เกิดมิติ นอกจากนั้นยังมีการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางให้เข้ากับสไตล์ Pop Art ใช้หิน Terrazzo ในบางส่วน ผังของโครงการมีจุดเด่นที่โถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัว และแยกพื้นที่ส่วนกลางกับห้องพักอาศัยออกจากกันชัดเจน
ห้องพักอาศัยในโครงการนี้จะเน้นไปยังห้อง 1 Bedroom แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสัดส่วนดี ได้ห้องครัวปิดสามารถทำอาหารรับประทานเองได้ มีพื้นที่ Walk-in Closet แยกจากพื้นที่เตียงนอน และจะมีการออกแบบให้ประตูบานเลื่อนกระจกสามารถเปิดพื้นที่เชื่อมต่อกันได้ ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้แสงเข้ามาภายในห้องได้เยอะ ห้อง 1 Bedroom จะเหมาะกับคนที่ต้องการให้ห้องดูโปร่งกว้างเชื่อมต่อกัน สำหรับห้อง 1 Bedroom Plus จะเหมาะกับคนที่ต้องการห้องอเนกประสงค์เพิ่ม มีพื้นที่การใช้งานแบ่งสัดส่วนได้ค่ะ
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะแบ่งเป็น 3 จุดหลักๆ คือชั้น 1 เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน พักผ่อน และเอนเตอร์เทรน ประกอบด้วยห้อง Living Lounge มีจุดเด่นอยู่ที่ Theatre แบบ Water Feature สะท้อนแสงจาก Sky Light ลงมา มี Cafe ,Working Pods และ Private Office สำหรับนั่งทำงานได้ อีกส่วนอยู่ที่ชั้น 7 เป็นพื้นที่ Fit Club และ Dance Studio สำหรับออกกำลังกาย และส่วนสุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้า มีสระว่ายน้ำ Outdoor ระบบเกลือ และลานบาร์บีคิวให้ได้ใช้งาน ความหนาแน่นลิฟต์ทั้งโครงการประมาณ 101 : 1 ซึ่งไม่หนาแน่นมาก ทำให้เราไม่ต้องรอลิฟต์นานในชั่วโมงเร่งด่วนของวัน โดยรวมถือว่าให้สาธารณูปโภคมาเหมาะสมกับจำนวนยูนิต 201 ยูนิตค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 100,000 บาท/ตร.ม.,05 January 2021
- ทำเล 8/10 – มีความอุดมสมบูรณ์สูง เดินทางสะดวก แต่อยู่ในซอย
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – มีเส้นทางลัดไปออกถนนใหญ่ได้หลายเส้น
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า 2 สถานี สามารถเดินไปยังสถานีได้
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาเหมาะสมกับระดับราคา
- แบบ 8/10 – มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ได้หน้าต่างและระเบียงโค้ง
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบครันและหลากหลาย เหมาะสมกับจำนวนยูนิต
- UPPER CLASS
- 7.75 / 10.00
BOTTOM LINE
Groove Muse รัชดา 7 เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดใกล้แหล่งสถานที่ทำงาน เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ ไม่เน้นวิว อยู่ในซอยได้เพื่อแลกกับห้องพักอาศัยในราคาไม่สูงเท่ากับคอนโดมิเนียมที่อยู่ติดถนนใหญ่ ชอบทำเลใกล้ห้าง หาของกินง่าย มีรถรับ-ส่ง ที่รถไฟฟ้า ชอบโครงการที่มีโถงทางเดิน Single Corridor มีการออกแบบสีสันสดใส ไม่เรียบๆน่าเบื่อ มี Facilities ให้ใช้ครบครัน ชอบห้องที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด และ Walk-in Closet แยกต่างหาก มีงบประมาณระดับ 2.2 – 5.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,400 – 38,500 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc