รีวิวฉบับที่ 1957.. ใครกำลังมองหาคอนโดมิเนียมในซอยรัชดา 32 ที่มียูนิตน้อย และได้ความเป็นส่วนตัว วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการแบรนด์ใหม่ Galileo รัชดา 32 คอนโด Low Rise ในซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ใกล้กับถนนลาดพร้าว-วังหิน หาของกินง่าย ห่างจากรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ภายในโครงการเน้นห้องพักอาศัย 1 Bedroom มีระบบ Home Automation พร้อมบริการทำความสะอาด 2 ปีในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทค่ะ โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

Fact @ 3 OCTOER 2019

  • Galileo Ratchada 32 (กาลิเลโอ รัชดา 32)
  • บริษัท กาลิเลโอ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: :ซอย รัชดาภิเษก 32 เขต จตุจักร
  • ที่ดินประมาณ  0-1-95.65 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 64 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 35 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q4 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2563
  • 1 Bedroom 22.40-28.31 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 31.48-34.05 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (โปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 093-946-4655
  • Call Center : 065-426-5655

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.818203, 100.586884
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ซึ่งเป็นซอยย่อยในซอย รัชดาภิเษก 32 นั่นเองค่ะ ซอยนี้สามารถเชื่อมต่อกับถนน รัชดาภิเษก เข้าซอยมาประมาณ 1.3 กิโลเมตร ทำเลค่อนไปทางฝั่งถนนลาดพร้าว-วังหิน ทำเลนี้เป็นทำเลที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับสถานี MRT ลาดพร้าว ห่างจากสถานีประมาณ 2.5 กิโลเมตร สามารถต่อวินมอเตอร์ไซค์ได้ อีกทั้งสถานีนี้ยังเป็นสถานี Interchange หรือเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตด้วยค่ะ

โครงการ Galileo รัชดา 32 อยู่ในทำเล รัชดา 32 สามารถออกถนนหลักได้ 3 ทางเลยค่ะ คือถนนรัชดาภิเษก วิ่งไปยังแยกรัชโยธินเพื่อเชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินได้ หรือจะเข้าเมืองไปทางฝั่งพระราม 9 ต่อไปยังอโศก สุขุมวิท ก็สะดวกแต่อาจจะต้องเผื่อเวลารถติดสักหน่อยนะคะ ส่วนถนนลาดพร้าว ก็สามารถใช้เดินทางไปยังบางกะปิ หรือไปยังห้าแยกลาดพร้าวได้ และอีกเส้นคือใช้ถนนลาดพร้าว-วังหิน ไปออกยังถนนลาดปาเค้า และเข้าถนนประเสริฐมนูกิจได้ หรือจะเชื่อมต่อไปยังนาคนิวาส ออกไปยังเส้นเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทราก็ได้เช่นกันค่ะ ภายในซอยรัชดา 32 เองก็มีซอยย่อยหลายซอยให้สามารถเลือกใช้เพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้เหมือนกัน

สำหรับทางด่วนในทำเลนี้ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนเลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ ซึ่งจุดขึ้น-ลงทางด่วนจะอยู่บริเวณที่วงกลมสีแดง มีระยะจากโครงการประมาณ 6.5 กิโลเมตร

ส่วนใครที่ต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะ ภายในซอยรัชดา 32 ก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ สามารถเรียกไปรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าวได้ ราคาประมาณ 30 บาทค่ะ ส่วนถ้าหน้าปากซอย ถนนรัชดาภิเษก จะอยู่ที่ 20 บาท ซึ่งถนนรัชดาภิเษกก็จะมีป้ายรถประจำทางอยู่ตรงข้ามศาลอาญาค่ะ และใครที่ต้องการเรียก Taxi ก็ไม่ต้องกังวลเนื่องจากมี Taxi วิ่งผ่านในซอยรัชดา 32 อยู่ตลอดทั้งวันค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ก็ไม่ต้องห่วงเลย เนื่องจากทำเลของโครงการจะอยู่ในซอยรัชดา 32 ค่อนข้างลึกหน่อย จึงเน้นไปที่ความอุดมสมบูรณ์ของถนนลาดพร้าว-วังหิน ที่มี Community Mall , Hyper Market, ร้านค้า, ร้านอาหารอยู่ตลอดทั้งเส้น ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมคร่าวๆตอนเดินทางไปยังโครงการค่ะ ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงต้นซอย จะมีร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้ออยู่บ้างประปราย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย ค่ะ ใกล้กับโครงการในระยะเดินก็สามารถเดินไปยังร้านอาหารที่อยู่ติดกับโครงการ, 7-Eleven, ร้านบุฟเฟ่ต์, ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นต้น

ไกลออกมาอีกหน่อย ก็จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์เป็นจุดใหญ่ๆคือ ที่ห้าแยกลาดพร้าว มีศูนย์การค้าอย่างเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ หรือที่แยกรัชโยธินเองก็จะมีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าอย่างเมเจอร์ รัชโยธิน และมหาวิทยาลัยเกษตร และสุดท้ายฝั่งถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา นั้นก็มีห้างอย่าง Central East Ville, CDC, Crystal Park, The Walk และตลาดนัดเลียบด่วน ที่สามารถมาเที่ยวเล่นกันได้เช่นกันค่ะ โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูงเลยค่ะ

สำหรับวันนี้เส้นทางที่เราจะพาไปเริ่มจากถนนประเสริฐมนูกิจ เลี้ยวเข้าถนนเสนานิคม เพื่อเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่น ไปออกยังถนนลาดพร้าว-วังหิน แล้วค่อยเลี้ยวขวาเข้าซอย รัชดา 32 ค่ะ ระยะทางประมาณ 6.3 กิโลเมตร

เริ่มจากบนถนนประเสริฐมนูกิจ มุ่งหน้าไปยังแยกเกษตร ผ่านทางแยกถนนสุคนธสวัสดิ์ตรงไปค่ะ

ขับมาเรื่อยๆจะผ่านโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ฝั่งซ้ายมือ

ให้สังเกตป้ายบอกทางไว้ค่ะ เมื่อเจอป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเสนานิคม ให้เตรียมตัวชิดซ้าย

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเสนานิคม ซึ่งเป็นซ้ายผ่านตลอดค่ะ

ภายในถนนเสนานิคมค่อนข้างเงียบ แต่ก็มีรถผ่านอยู่บ้าง สำหรับใช้เป็นทางเลี่ยงถนนประเสริฐมนูกิจที่มีการจราจรหนาแน่น

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับทางแยกจุดสังเกตคือ 7-Eleven ให้เลี้ยวขวาค่ะ

เลี้ยวมาแล้วจะเป็นถนนเสนานิคม 1 ซึ่งสองข้างทางก็จะมีความคึกคักมากขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัย ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถว ชั้นล่างทำเป็นร้านค้าอยู่บ้างค่ะ ตรงนี้ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอกับแยกค่ะ

เมื่อขับตรงมาแล้วจะเจอกับแยกตัดกับถนนลาดพร้าว-วังหิน ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว-วังหินได้เลยค่ะ

ขับตรงมาเรื่อยๆบนถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็จะเจอกับความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งเส้น จะมี Tesco Lotus อยู่ทางฝั่งขวามือ มีร้าน KFC สามารถแวะกินก่อนกลับบ้านได้ค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ Community Mall อย่าง The Jas ภายในก็มีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกเลยค่ะ

ถัดมาหน่อยก็จะเจอกับ Plaza Lagoon ซึ่งจะมีทั้ง Super market อย่าง Maxvalu และธนาคารสาขาย่อย แวะซื้อของได้สะดวก

ตรงมาอีกนิดจะเจอกับแยก มีสัญญาณไฟจราจร ให้เราเลี้ยวขวาเข้าซอยรัชดา 32 ค่ะ

ข้ามสะพานมาให้เราตรงไปใกล้จะถึงโครงการแล้วค่ะ

ขับมาอีกหน่อยจะเจอกับซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ จุดสังเกตคือมีร้าน White Balance Get Together เป็นร้านอาหารอยู่หน้าซอยเลย ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ถัดจากร้านอาหารไป ที่เห็นสีชมพูๆนั่นเองค่ะ

เข้ามาในซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งขวามือ ระยะจากหน้าปากซอยประมาณ 40 เมตรค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Galileo รัชดา 32 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น จะมีด้านหลังโครงการทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะมีอาคารสูง 7 ชั้นอยู่ ซึ่งจะทำให้บังวิวทางทิศนั้นไปค่ะ แต่นอกจากนั้นก็จะเห็นวิวบ้านพักอาศัยและวิวโล่งในชั้นที่สูงขึ้น พื้นที่ดินของโครงการมีทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ (รวมบริเวณเส้นประ) แต่สำหรับโครงการ Galileo รัชดา 32 ที่เราพามารีวิววันนี้จะมีพื้นที่ครึ่งไร่ ตามกรอบสีแดงค่ะ ซึ่งในอนาคตพื้นที่บริเวณเส้นประอาจจะมีการพัฒนาเป็นโครงการได้ โดยสรุปพื้นที่ของโครงการติดกับสถานที่ต่างๆ ดังนี้

  • ทิศเหนือ ติดกับ ลาดจอดรถของร้านอาหาร White Balance Get Together
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า รอการพัฒนาในอนาคต
  • ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารสูง 7 ชั้น

บรรยากาศบริเวณหน้าซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 จะมีร้านอาหารอยู่ด้านหน้า สังเกตเห็นได้ง่ายค่ะ

ร้าน White Balance Get Together เป็นร้านสเต็ก มีเครื่องดื่มและเบียร์ บรรยากาศสไตล์คาเฟ่ ตกแต่งสวยช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีให้กับหน้าซอยค่ะ

บรรยากาศภายในซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย มีรถเข้า-ออกอยู่บ้างแต่ไม่เยอะค่ะ

พื้นที่โครงการ Galileo รัชดา 32 มีเนื้อที่ประมาณครึ่งไร่

ทางทิศเหนือของโครงการติดกับ ด้านหลังร้านอาหาร เป็นพื้นที่จอดรถค่ะ

ทิศตะวันออกติดกับซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

ด้านหลังซอยทางทิศใต้จะมีซอยแยก รัชดาภิเษก 36 แยก 19-4-1

ซึ่งบรรยากาศภายในซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-4-1 ก็ค่อนข้างเงียบสงบและมีบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Plaza Lagoon ~ 800 เมตร
  • Green Plaza ~ 1.1 กิโลเมตร
  • The JAS ~ 1.1 กิโลเมตร
  • วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) ~ 1.5 กิโลเมตร
  • ม.ราชภัฎจันทรเกษม ~ 1.6 กิโลเมตร
  • ตลาดวังหินยิ่งเจริญ ~  2.0 กิโลเมตร
  • รพ.เปาโล โชคชัย 4 ~ 3.0 กิโลเมตร
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~ 3.6 กิโลเมตร
  • ตลาดโชคชัย 4 ~ 3.9 กิโลเมตร
  • รร.เซนต์จอห์น ~ 4.2 กิโลเมตร
  • ศาลอาญา ~ 4.2 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 4.3 กิโลเมตร
  • Major Cineplex รัชโยธิน ~ 4.4 กิโลเมตร
  • Union Mall ~ 4.7 กิโลเมตร
  • ม.เกษตรศาสตร์ ~ 5.8 กิโลเมตร
  • Esplanade รัชดา ~ 7.1 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Galileo รัชดา 32 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ขนาดเล็ก 1 อาคาร ความสูง 8 ชั้น บนที่ดินประมาณ 0-1-95.65 ไร่ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 64 ยูนิตค่ะ โดยพื้นที่การใช้งานจะแบ่งออกเป็นชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ห้องพักอาศัยจะเริ่มจากชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 มีพื้นที่ Facility อยู่ที่ชั้น 2, 8 และดาดฟ้า ภายในโครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

เริ่มกันที่ชั้น 1 ทางเข้า-ออก ของโครงการจะอยู่ติดกับซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 เข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่จอดรถ แบบ Conventional หรือช่อจอดปกติ สามารถจอดได้ประมาณ 23 คัน หรือ 35% และขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นพักอาศัยได้เลย สำหรับคนที่เดินเข้าโครงการสามารถเข้าที่ประตูคนเดินตามลูกศรสีส้ม เพื่อขึ้นไปยัง Lobby บริเวณชั้น 2 ได้เลยค่ะ สำหรับพื้นที่สีเขียวของโครงการ จะมีสวนนั่งเล่นพักผ่อนอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งทางโครงการจะทำเป็นสนามเด็กเล่น ลูกบ้านสามารถพาเด็กๆมาเล่นในช่วงเวลาเย็นๆ ได้ค่ะ

รูปด้านหน้าอาคารทางทิศตะวันออก มีการใช้ Arch โค้งสไตล์ยุโรป เป็นลูกเล่นบริเวณซุ้มทางเดินขึ้น Lobby เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นว่า Lobby เป็นโถงสูง Double Volume ทำให้ดูโปร่ง มองเห็นวิวภายในซอยได้ ส่วนห้องพักอาศัยด้านบนชั้น 8 ก็จะมีการตกแต่งกรอบอาคารให้ดูเข้ากับ Lobby ค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าโครงการ แบ่งเป็นทางเข้ารถยนต์ (ฝั่งขวามือ) และทางเข้าสำหรับคนเดินเพื่อขึ้นไปยัง Lobby ได้เลย (ฝั่งซ้ายมือ)ค่ะ

ด้านข้างโครงการฝั่งทิศใต้ มีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนสำหรับนั่งพักผ่อน หรือพาเด็กๆมาวิ่งเล่นได้ค่ะ

รูปด้านข้างอาคารฝั่งทิศเหนือ เป็นมุมที่มองเข้ามาจากหน้าปากซอย รัชดาภิเษก 36 แยก 19-1 ค่ะ

ด้านหลังโครงการ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเห็นพื้นที่สวนบริเวณชั้น 1 ค่ะ

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

ชั้น 2 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัย โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง คือ Lobby & Co-Working Space ที่เป็นโถงสูง Double Volume สามารถเดินขึ้นมาจากชั้น 1 เพื่อมานั่งทำงาน หรือพักคอยเพื่อนๆได้ ซึ่งโครงการจะกั้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้โดยประตู Key Card ค่ะ ทำให้คนที่อยู่ชั้นนี้ไม่วุ่นวายค่ะ

ห้องพักอาศัยในชั้นนี้จะมีทั้งหมด 9 ยูนิต ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบมาให้ประตูห้องพักอาศัยไม่ตรงกัน (ยกเว้นยูนิตริมอาคารทางทิศตะวันตก) เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านค่ะ โดยห้องที่มีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีผนังด้านใดติดกับห้องอื่นเลย คือห้องตำแหน่ง A203 ค่ะ ส่วนวิวของชั้นนี้ ส่วนใหญ่จะเห็นวิวต้นไม้จากทางทิศเหนือบริเวณร้านอาหาร และจากทิศใต้ที่เป็นสวนของโครงการ ส่วนทิศตะวันตกจะเจอกับอาคารสูง 7 ชั้น ผนังด้านนี้จึงเป็นผนังทึบค่ะ

ลิฟต์โดยสารภายในโครงการมีทั้งหมด 1 ตัว เนื่องจากยูนิตไม่เยอะทำให้มีอัตราส่วนอยู่ที่ 64 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่น ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในชั่วโมงเร่งด่วนค่ะ และเนื่องจากยูนิตไม่เยอะอีกเช่นกันทำให้ห้องที่อยู่ด้านในสุดก็เดินไม่ไกลจากโถงลิฟต์เท่าไหร่ค่ะ

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

ชั้น 3 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัย 10 ยูนิตต่อชั้น เพิ่มขึ้นมา 1 ยูนิตทางทิศตะวันออกเป็นห้องที่ไม่มีผนังฝั่งไหนติดกับห้องอื่น ทำให้มีความเป็นส่วนตัว แลกกำตำแหน่งที่อยู่ใกล้ลิฟต์อาจจะมีเสียงจากโถงลิฟต์รบกวนได้ค่ะ

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

ชั้น 4 – 7 เป็นชั้น Typical Floor Plan มีทั้งหมด 10 ยูนิตต่อชั้น โถงทางเดินเป็น Double Corridor โครงการได้ออกแบบมาให้ประตูห้องพักอาศัยไม่ตรงกัน (ยกเว้นยูนิตริมอาคารทางทิศตะวันตก) เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน สำหรับชั้น 4-7 นี้จะได้วิวที่โล่งขึ้น ทางทิศเหนือได้วิวร้านอาหาร และมองเห็นซอย รัชดา 32 ได้ค่ะ ทางทิศตะวันออกจะเห็นเป็นวิวชุมชนพักอาศัย และทางทิศใต้ จะเห็นวิวที่ดินโครงการ ทิศนี้อาจจะมีโครงการขึ้นในอนาคตได้ค่ะ สำหรับใครที่ต้องการห้องที่วิวโล่งเท่านั้นแนะนำเป็นทิศเหนือและทิศตะวันออกนะคะ ส่วนทิศตะวันตกที่ติดกับอาคารสูง 7 ชั้น จะได้เป็นผนังทึบ เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นบนสุด จะมีเพียง 3 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นค่ะ เนื่องจากพื้นที่อีกฝั่งเป็นงานระบบของสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้า ทำให้ชั้นนี้มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor ทั้งหมดเลย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางจะมีห้อง Fitness และห้องน้ำส่วนกลางมาให้ โดย Fitness จะได้วิวชุมชนพักอาศัยทางทิศตะวันออกค่ะ สำหรับลูกบ้านชั้นนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะโครงการมีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและโถงทางเดินไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

*ผังโครงการอาจจะมีการปรับเปลี่ยน

ชั้นสุดท้ายเป็นชั้น Rooftop มี Facility ทั้งหมด 2 ส่วน คือสวนพักผ่อนด้านหน้าโครงการ และสระว่ายน้ำค่ะ โดยสระว่ายน้ำที่ได้จะเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.20 เมตร มองเห็นวิวร้านอาหารและซอยรัชดา 32 ค่ะ

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำชั้น Rooftop มีพื้นที่นั่งเล่นริมสระ ให้ผู้ปกครองมาดูเด็กๆว่ายน้ำ หรือไว้วางของใช้ส่วนตัวได้ค่ะ

บรรยากาศบริเวณสวนชั้น Rooftop สำหรับขึ้นมาอ่านหนังสือ พักผ่อนในช่วงที่แดดไม่ร้อน และ บริเวณนี้ยังมีกล้องดูดาวไว้ให้ขึ้นใช้งานด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-Working Space
  • สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5 x 12 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 64 :  1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 35 % (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Finger Scan


Product Walkthrough

โครงการ Galileo รัชดา 32 จะเน้นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดนะคะ โดยจะมีขนาดห้องให้เลือก ดังนี้

  • 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 22.40-28.31 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดตั้งแต่ 31.48-34.05 ตร.ม.

โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in คือ ชั้นวาง TV, ชั้นวางรองเท้า, ชุดครัว, ชั้นเก็บของและชั้นเครื่องซักผ้า, ตู้เสื้อผ้า รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่าง ฐานเตียง และโซฟาด้วยค่ะ ซึ่งแต่ละห้องก็จะได้เฟอร์นิเจอร์รูปแบบแตกต่างกันออกไปตามพื้นที่ และภายในห้องยังได้ระบบ Home Automation ควบคุมการเปิด-ปิด ไฟ สวิตซ์ จาก Home Huk และสำหรับลูกบ้านภายในโครงการ ยังได้บริการพิเศษจากบริการทำความสะอาดที่มีชื่อว่า “นู๋เมด” ทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ

โดยวันนี้เราจะพาไปชมห้อง 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร ซึ่งมีผังให้เลือกทั้งแบบหน้ากว้างและแบบตอนลึกกันนะคะ

ห้องแรกเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.47 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีหน้ากว้าง พื้นที่ห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบ่งพื้นที่การใช้งานภายในเป็นสัดส่วน เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับห้องนั่งเล่นและทานข้าว เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวและระเบียง ทำให้ห้องนั่งเล่นสามารถรับแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากระเบียงได้ค่ะ พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 1-2 ที่นั่งได้ ส่วนครัวจะได้เป็นครัวปิด ขนาดค่อนข้างใหญ่ภายในมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วยค่ะ ซึ่งข้อดีของครัวปิดก็คือเวลาที่ทำอาหารจริงจังกลิ่นจะไม่ฟุ้งกระจายออกมาด้านนอก และผังที่มีครัวติดระเบียงแบบนี้สามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้อีกทางค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่ทางฝั่งขวามีพื้นที่ประมาณครึ่งห้อง และมีห้องน้ำในตัว สามารถกั้นห้องนอนแยกได้ โดยใช้ประตูตู้เสื้อผ้า(ตามเส้นประ) ซึ่งข้อดีของผังแบบนี้คือ เมื่อเจ้าของห้องอยู่ในห้องนอนสามารถเดินเข้าห้องน้ำได้สะดวก และถ้ามีแขกหรือเพื่อนๆมาที่ห้อง สามารถกั้นปิดเพื่อให้เพื่อนเดินเข้าห้องน้ำได้โดยไม่มองเห็นห้องนอนค่ะ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับเจ้าของห้องได้ โดยห้องนี้จะได้เครื่องปรับอากาศมาให้ 2 จุด คือห้องนั่งเล่น และห้องนอน ภายในจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ประตูทางเข้าห้องจะติดตั้ง Digital Door Lock จาก Hafele นะคะ สามารถตั้งรหัสผ่าน, ใช้ Key Card หรือ Rabbit Card บัตรรถไฟฟ้าก็สามารถใช้ได้ค่ะ และมีกุญแจสำรองให้กรณีฉุกเฉิน

เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารมองเชื่อมต่อกับห้องครัวและระเบียง สามารถมองเห็นวิวและรับแสงธรรมชาติได้จากระเบียง ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดค่ะ โดยห้องนี้จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 เมตร เป็นระยะความสูงทั่วไปของคอนโด Low Rise 8 ชั้น ภายในห้องปูพื้นด้วยกระเบื้องยางไวนิล ลายไม้ ส่วนฝ้าเพดานและผนังจะเป็นฉาบเรียบสีขาว และมีโคมไฟ Down Light ติดตั้งมาให้ค่ะ

ภายในห้องนั่งเล่นจะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่างโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ด้วยค่ะ หน้าตาแบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลย

อีกฝั่งเป็นชั้นวาง TV Built-in และชั้นวางรองเท้าด้านข้างมาให้ด้วย ส่วนชั้นวางของด้านบนจะได้เป็นชั้นวางของชั้นเดียวนะคะ เพื่อไม่ให้บังลมจากเครื่องปรับอากาศค่ะ

ชั้นเก็บของ Built-in จะได้เป็นหน้าบาน Hi Gloss สีเทา เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ ด้านข้างสามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 3-4 คู่ ใช้งานได้สะดวก ก่อนออกจากบ้านก็หยิบใส่เดินออกได้เลยค่ะ ไม่ต้องซื้อชั้นวางมาตั้งเอง ส่วนชั้นวาง TV ก็สามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆอย่างเครื่องเล่นเกม หรือหนังสือได้

ระยะดู TV ของห้องนี้กว้างประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับวาง TV ประมาณ 26-30 นิ้ว สามารถวางโต๊ะกลางเล็กๆได้ โดยอาจจะต้องวางเข้ามาด้านในห้องหน่อย เพื่อไม่ให้ขวางทางเดินเข้า-ออกค่ะ

ด้านข้างมีพื้นที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กได้ 1-2 ที่นั่ง แต่ชุดโต๊ะนี้ทางโครงการไม่ได้ให้มานะคะ จะต้องซื้อมาติดตั้งเอง ควรเลือกขนาดให้พอดีกับพื้นที่ค่ะ

ส่วนครัวเป็นพื้นที่ครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้ 3 ตอนแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ข้อดีคือ สามารถกันกลิ่นเวลาทำอาหารไม่ให้ฟุ้งกระจายออกมาด้านนอกได้ แต่ก็ยังสามารถได้แสง และวิวจากระเบียงได้เช่นกัน โดยพื้นส่วนครัวทางโครงการจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ ซึ่งมีข้อดีคือ มีความทนทานต่อน้ำ และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นค่ะ

พื้นที่ครัวถือว่าค่อยข้างใหญ่สำหรับห้อง 26 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ทางฝั่งขวามือจะมีเคาน์เตอร์ Built-in และชั้นเก็บของด้านบนมาให้ สามารถยืนทำอาหารได้สบายๆ และเห็นวิวด้านนอกไปด้วยค่ะ

Top ครัวจะได้เป็นหินสีดำ และมีการติดตั้ง Back Splash วัสดุเป็นกระเบื้องมาให้ ทำให้ทำความสะอาดผนังด้านหลังได้ง่าย ไม่มีคราบเลอะ

โดยจะมีอ่างล้างจานสเตนเลส, เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน จาก Techno มาให้

ชั้นเก็บของด้านบน (ภาพซ้าย) มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องไมโครเวฟ ทำให้ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารด้านบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

ชั้นเก็บของด้านล่าง (ภาพขวา) มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน ส้อม และภาชนะต่างๆมาให้ เป็นแบบ Soft Close ช่วยลดแรงกระแทก และเสียงดังเวลาปิดค่ะ ส่วนพื้นที่ใต้อ่างล้างจานสามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือวางของชิ้นใหญ่ๆได้

ส่วนฝั่งซ้ายมือของครัวเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น และเครื่องซักผ้า ถือว่ามีพื้นที่สำหรับหยิบจับ และเตรียมของสำหรับเครื่องซักผ้าพอสมควรค่ะ

สำหรับพื้นที่วางเครื่องซักผ้า จะมีชั้นวางของเป็นเคาน์เตอร์ไว้ให้ด้วย ตรงนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มเติมภายในครัว หรือจะวางน้ำยาซักผ้า, น้ำยาปรับผ้านุ่น ต่างๆก็ได้ค่ะ ส่วนด้านบนก็จะมีชั้นเก็บของมาให้เช่นกันค่ะ

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม ทำให้แสงสว่างเข้ามาในครัว และทะลุไปยังห้องนั่งเล่นได้

ระเบียงจะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง ประมาณ 2.50 x 0.80 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดได้ง่าย บริเวณพื้นที่ระเบียงจะมี Condensing Units แขวนอยู่ อาจจะทำให้มีลมร้อนออกมา แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมค่ะ

มาดูห้องนอนกันบ้างค่ะ ห้องนอนจะแยกเป็นสัดส่วนโดยมีประตูกระจกบานเลื่อนสามารถกั้นแบ่งพื้นที่ให้แอร์ไม่ไหลออกมาได้ค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งตรงนี้ทางโครงการติดกระจกบานใหญ่ และโต๊ะ Built-in มาให้เลย ทำให้ไม่ต้องหาเฟอร์นิเจอร์ที่พอดีกับพื้นที่เองค่ะ

ห้องนอนจะมีพื้นที่ประมาณ 3.70 x 2.60 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ ทางโครงการได้ให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มาให้แล้ว มีพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโต๊ะเล็กๆหรือโคมไฟได้ค่ะ

ห้องนอนมีช่องแสงมาให้ค่อนข้างใหญ่ ทำให้แสงจากธรรมชาติเข้ามาได้ค่อนข้างเยอะ สามารถเปิดหน้าต่างบานเลื่อน เพื่อระบายอากาศภายในห้องได้ค่ะ

อีกฝั่งเป็นตู้เสื้อผ้าเราสามารถเลื่อนประตูมาปิดกั้นพื้นที่ห้องนอนได้เช่นกันค่ะ

ข้อดีของการใช้ประตูตู้เสื้อผ้าปิด สามารถกั้นพื้นที่ห้องนอนให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เวลามีแขกมาบ้านสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ผ่านห้องนอนค่ะ และไม่รบกวนผู้ที่นอนอยู่ แต่แอบเสียดายนิดหน่อยที่ปิดแล้วไม่แนบสนิทไปกับผนังค่ะ

ผังห้องนอนสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบทั้งประตูบานเลื่อนกระจก (สีน้ำเงิน) และประตูตู้เสื้อผ้า(สีแดง) ทำให้เจ้าของห้องจัดพื้นที่ความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ

ห้องน้ำที่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน ตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิคพื้นผิวสัมผัสคล้ายกับหิน ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ มีกระจกเงาบานใหญ่ติดผนังมาให้ ทำให้ห้องดูกว้างไม่อึดอัดค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างเซรามิคสีขาว มีชั้นวางของด้านล่าง สามารถเก็บของชิ้นเล็กๆน้อยๆ ได้ จาก American Standard ค่ะ

ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์สีขาว มีอุปกรณ์ประกอบมาให้จาก American Standard ระยะด้านข้างมีพื้นที่พอสมควรสามารถนั่งได้ไม่อึดอัดค่ะ

พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ หน้าตาแบบเดียวในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ช่วยกั้นไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเวลาอาบน้ำค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.00 x 0.95 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย พร้อมติดตั้งฝักบัวสายอ่อน และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ ด้านข้างสำหรับคนที่มีของค่อนข้างเยอะ จะมีผนังเว้าเข้าไปเป็นช่องสามารถทำชั้นเก็บของเพิ่มเติมได้

สุดท้ายภายในห้องจะได้ระบบ Home Automation ควบคุมการเปิด -ปิดไฟ และสวิตซ์จาก Home Huk สามารถสั่งการได้ผ่าน Application แม้ไม่อยู่บ้าน (ผ่านอินเตอร์เน็ต) ติดตั้งมาให้ทุกยูนิตค่ะ

ห้องที่สองที่เราพามาชมคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.43 ตารางเมตร แบบตอนลึก สำหรับคนที่ชอบพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน คล้ายห้อง Studio แต่ก็มีความเป็นสัดส่วน สามารถกั้นห้องนอนปิดได้ ห้องนี้เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น และห้องนอน ได้แสงธรรมชาติผ่านทางหน้าต่างบริเวณห้องนอนค่ะ ส่วนพื้นที่ครัวและห้องน้ำจะถูกวางไว้ริมห้อง ฝั่งเดียวกัน ซึ่งจะได้ครัวปิด ติดกับระเบียงเช่นกันค่ะ สามารถทำอาหารจริงจังมีกลิ่นได้ แต่ห้องนี้จะมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าไว้ที่ระเบียงแทน เหมาะสำหรับคนที่ไม่เน้นใช้งานพื้นที่ระเบียงเท่าไหร่ค่ะ ส่วนห้องน้ำจะมีพื้นที่แยกส่วนเปียก-แห้งมาให้พร้อมฉากกั้นกระจก ภายในจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนอน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.40 เมตร และพื้นปูด้วยไวนิลลายไม้เช่นกันค่ะ ซึ่งห้องนี้จะมีระยะดู TV อยู่ที่ 2.15 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 26-30 นิ้วค่ะ

ภายในห้องนั่งเล่นจะได้โซฟา 2 ที่นั่งมาให้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่หมอนซื้อมาเพิ่มเติมเองได้ตามสไตล์เจ้าของเลยค่ะ

ส่วนชั้นวาง TV ของห้องนี้จะได้ค่อนข้างยาวกว่าห้องแรก เนื่องจากรูปแบบของพื้นที่ภายในแตกต่างกันค่ะ

แต่ที่เหมือนกันคือชั้นวางรองเท้า ด้านข้าง หน้าบาน Hi Gloss สีเทาค่ะ

ชั้นวาง TV และช่องเก็บของจะได้ยาวขึ้นและมีบานเลื่อนเปิด-ปิด 2 บานค่ะ สามารถเลื่อนได้ตามรูปบน และรูปล่างเลยค่ะ

ห้องนี้จะมีพื้นที่ด้านข้างโซฟาที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ขนาดใหญ่ขึ้น วางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ประมาณ 2-4 ที่นั่งค่ะ

ประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อนกระจกสไลด์ 3 ตอน สูงเต็มผนังทำให้ดูค่อยข้างโปร่งค่ะ สามารถรับแสงธรรมชาติจากระเบียงได้บ้าง แต่เนื่องจากเป็นห้องที่ค่อนข้างลึกสักหน่อย ทำให้ต้องเปิดไฟเพิ่มเมื่อนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นนะคะ

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.50 x 3.20 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี ซึ่งทางโครงการก็มีฐานเตียงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ห้องนอนจะได้ช่องแสงและช่องเปิดเหมือนกันกับห้องที่แล้วเลยค่ะ

พื้นที่ด้านข้างเตียง จะมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนเปิด สามารถเลื่อนได้ 2 ฝั่ง มีกระจกเงามาให้สะดวกสำหรับการแต่งตัวค่ะ ภายในตู้จะมีพื้นที่แขวนชุดเดรสยาว และมีลิ้นชักสำหรับใส่ผ้าพับไว้ให้ค่ะ ส่วนด้านบนตู้เสื้อผ้าห้องจริงจะได้เป็นช่องเก็บของเพิ่มเติม เก็บของได้มากขึ้นค่ะ (เส้นประ)

มาดูอีกฝั่งของห้องที่เป็นเหมือนฝั่ง Service กันบ้างค่ะ ตรงนี้เมื่อมองเข้าไปจะเห็นว่ามีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ด้วย ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำออกมาแล้วสามารถนั่งแต่งหน้า ฉีดน้ำหอม สวยๆได้เลยค่ะ ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ห้องครัว

เรามาดูครัวกันก่อนนะคะ ห้องนี้ก็ได้พื้นที่ครัวปิดเช่นกัน สามารถกันกลิ่นฟุ้งกระจายเวลาทำอาหารได้ ภายในครัวจะปูพื้นด้วยกระเบื้องลามิเนตมาให้ ช่วยให้ทำความสะอาดง่ายและมีความทนต่อน้ำมากขึ้นค่ะ ซึ่งเข้าครัวมาแล้วก็จะเป็นที่วางตู้เย็นก่อนเลย สามารถมาเปิดหยิบของได้ง่าย  แต่ห้องนี้จะได้พื้นที่ครัวค่อนข้างแคบสักหน่อยนะคะ มีความกว้างทางเดินอยู่ที่ประมาณ 0.65 เมตร เหมาะกับใช้งานคนเดียวค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเหมือนกับห้องที่แล้ว มี Backsplash กระเบื้องติดมาให้ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายไม่เลอะคราบเวลาทำอาหารค่ะ

บนเคาน์เตอร์จะมีอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนมาให้จาก Techno เช่นกัน ส่วนชั้นเก็บของด้านบนก็จะได้ช่องสำหรับเก็บของมาให้ มีทั้งแบบมีหน้าบานและไม่มีสำหรับวางของที่หยิบใช้งานได้บ่อย ส่วนชั้นเก็บของด้านล่าง จะมีลิ้นชัก และพื้นที่สำหรับวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

ประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม ทำให้แสงสว่างเข้ามาในครัว และสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกทางหนึ่งค่ะ พื้นที่ระเบียงห้องนี้ขนาดประมาณ 1.25 x 0.80 เมตร มีงานระบบสำหรับเครื่องซักผ้าเดินไว้ให้ค่ะ ส่วนตัว Condensing Units จะเป็นแบบแขวนหันหน้าเข้าระเบียง แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมค่ะ

ส่วนห้องน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องครัว จะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจนพร้อมฉากกั้นกระจก ภายในจะตกแต่งงด้วยกระเบื้องที่มีผิวสัมผัสคล้ายหิน ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร และได้กระจกเงาบานใหญ่เช่นกันค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นอ่างเซรามิคสีขาว มีชั้นวางของด้านล่างสามารถเก็บของชิ้นเล็กๆน้อยๆ ได้ จาก American Standard

ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์สีขาว มีอุปกรณ์ประกอบมาให้จาก American Standard เช่นกันนะคะ

พื้นที่อาบน้ำได้ฉากกั้นกระจก 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำช่วยกั้นไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเวลาอาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้กว้างประมาณ 0.90 x 0.85 เมตร ผนังมีช่องสำหรับวางของใช้ เช่น สบู่, แชมพู ฯลฯ พร้อมติดตั้งฝักบัวสายอ่อน จาก American Standard และเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ

.**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 OCTOER 2019

  • 1 Bedroom / เนื้อที่ 21.70-22.40 ตารางเมตร / ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท หรือประมาณ 87,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom / เนื้อที่ 26.50-31.50 ตารางเมตร / ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือประมาณ 85,600 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus / เนื้อที่ 31.50-34.10 ตารางเมตร / ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท หรือประมาณ n/a บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหิน
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Techno
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 40,000 บาท (1 Bedroom) 50,000 บาท (1 Bedroom Plus)
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 14 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล :

โครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-6 ซึ่งเป็นซอยย่อยในซอย รัชดา 32 สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายเส้น เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เน้นแหล่งหาซื้อของกิน ของใช้ที่ถนนลาดพร้าว-วังหิน ที่มี Community Mall , Hyper Market, ร้านค้า, ร้านอาหารอยู่ตลอดทั้งเส้น รอบๆโครงการเองก็สามารถเดินไปร้านอาหารต่างๆได้ค่ะ สำหรับคนที่ขับรถก็จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์เป็นจุดใหญ่ๆ ที่ห้าแยกลาดพร้าว มีเซ็นทรัล ลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ หรือที่แยกรัชโยธินก็จะมีห้างอย่าง เมเจอร์ รัชโยธิน  และสำนักงานหลายแห่ง หรือออกไปทางเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ก็จะมี Central East Ville, CDC, Crystal Park, The Walk และตลาดนัดเลียบด่วน เดินทางไปได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ :

สำหรับการเดินทางโดยใช้รถในทำเลนี้ถือว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียว เนื่องจากในซอยรัชดา 32 เองสามารถทะลุ ไปยังถนนใหญ่ได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว ถนนประดิษฐ์มนูธรรม และถนนประเสริฐมนูกิจ และยังมีซอยลัดเลาะสำหรับเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดด้วยค่ะ และถ้าพูดถึงการเดินทางด้วยรถยนต์ คงต้องคำนึงถึงพื้นที่จอดรถด้วยนะคะ ภายในโครงการมีที่จอดรถมาให้ 35 % ถือว่าปานกลาง เนื่องจากยังสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์สามารถทำได้ เนื่องจากภายในซอยรัชดา 32 ก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ สามารถเรียกไปรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ที่ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กิโลเมตรได้ (ราคาประมาณ 30 บาท) ซึ่งสถานีนี้ยังเป็นสถานี Interchange หรือเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตด้วย บริเวณถนนรัชดาภิเษกเองก็จะมีป้ายรถประจำทางอยู่เป็นระยะ และมี Taxi วิ่งผ่านตลอดทั้งวันค่ะ

วัสดุ :

วัสดุโครงการให้มาค่อนข้างมาตรฐานดีเมื่อเทียบกับราคา ซึ่งจะได้เป็น Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างครบเลย คือ ชั้นวาง TV, ชั้นวางรองเท้า, ชุดครัว, ชั้นเก็บของและชั้นเครื่องซักผ้า, ตู้เสื้อผ้า รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอย่าง ฐานเตียง และโซฟา และภายในห้องจะได้ ระบบ Home Automation ควบคุมการเปิด-ปิด ไฟ สวิตซ์ จาก Home Huk ด้วยค่ะ ภายในห้องได้ Digital Door Lock จาก Hafele พื้นห้องเป็นพื้นไวนิลลายไม้ ได้ชุดครัวจาก Techno และสุขภัณฑ์ จาก American Standard พร้อมฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการมีการตกแต่งสไตล์ยุโรป ใช้ Arch โค้ง เข้ามาเป็นลูกเล่นในพื้นที่ส่วนกลาง ภายในโครงการเน้นความเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย มีการกั้นพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ห้องพักอาศัยชัดเจน มีการจัดพื้นที่ Facility ที่ชั้น 1,2,8 และ Rooftop ใช้งานได้สะดวก

การออกแบบห้องพักอาศัย แบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วนชัดเจน มีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบทั้งห้องหน้ากว้าง และห้องตอนลึกเลือกได้ตามความชอบของผู้ซื้อได้เลย ได้พื้นที่ครัวเป็นแบบครัวปิดติดกับระเบียง ช่วยให้กลิ่นไม่ฟุ้งกระจายเวลาทำอาหารและเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ค่ะ ส่วนจุดเด่นของห้องแบบหน้ากว้างที่เราพาไปชมก็คือสามารถกั้นประตูห้องนอนได้หลายแบบ เพื่อความเป็นส่วนตัวในกรณีที่มีแขกมาบ้านได้ด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคของโครงการให้มาค่อนข้างครบ และเพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ทั้ง Lobby, Co-Working Space , Fitness , สระว่ายน้ำ และสวน กระจายตามแต่ละจุดของอาคารใช้งานได้ง่าย และมีบริการทำความสะอาดให้ลูกบ้านเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 ปี


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 3 OCTOER 2019

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ในซอยรัชดา 32 ใกล้ถนนลาดพร้าว-วังหิน มีความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวก มีเส้นทางลัด และออกถนนหลักได้หลายเส้น
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – มีวินมอเตอร์ไซค์ ต่อไปยัง MRT ลาดพร้าวได้
  • วัสดุ 8/10 – ได้มาตรฐานดี ขายแบบ Fully Furnished และระบบ Home Automation ให้
  • แบบ 8/10 – ยูนิตน้อยมีความเป็นส่วนตัวสูง ภายในห้องจัดพื้นที่การใช้งานดี
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ได้ครบตามาตรฐาน และมีบริการทำความสะอาด

  • MAIN CLASS
  • 7.76/ 10.00

BOTTOM LINE

Galileo รัชดา 32 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมือหนึ่ง ในซอยรัชดา 32 ที่มียูนิตน้อย ไม่เกิน 70 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีพื้นที่ส่วนกลางให้ได้ใช้งาน ราคาไม่แรง แลกกับการเข้ามาในซอยลึกหน่อย แต่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ย่านลาดพร้าว-วังหิน เดินทางด้วยรถส่วนตัว หรือสามารถนั่งวินต่อเดียวถึงสถานีรถไฟฟ้าได้   มีงบประมาณระดับ 1.9 – 3.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,500 – 24,500 บาท/เดือน


 

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving