Flexi Riverview เจริญนคร คอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมส่วนกลาง Sky Facility จาก SENA Hankyu Hanshin [รีวิวฉบับที่ 2623]

Flexi Riverview – Charoennakorn (เฟล็กซี่ ริเวอร์วิว-เจริญนคร) ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.698312659166096, 100.48647871534382
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Highlight 

• คอนโดติดถนนใหญ่(ถนนเจริญนคร) เดินทางสะดวกเชื่อมต่อถนนหลายสายไม่ว่าจะเป็น ถนนพระราม 3 ถนนเจริญกรุงและถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เดินทางเข้าเมืองไปยังย่านสาทรได้สะดวก
• โครงการห่างจาก BTS สถานีกรุงธนบุรี ประมาณ 4.8 กิโลเมตร ในอนาคตจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สถานีดาวคะนอง ที่มีแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2570
• โครงการเดินทางไปขึ้นทางด่วน ทางพิเศษเฉลิมมหานครประมาณ 5.1 กิโลเมตร
• ความอุดมสมบูรณ์มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด ช่วงใกล้กับวงเวียนใหญ่ เดอะมอลล์ท่าพระ และรถไฟฟ้า

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

“เจริญนคร” เป็นพื้นที่การอยู่อาศัยเก่าแก่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นชุมชน แต่ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมหรูตั้งอยู่ริมถนนเจริญนครหลายแห่งนะคะ อย่างเช่น โรงแรม Millennium Hilton โรงแรม Peninsula Bangkok และโรงแรม AVANI Riverside Bangkok รวมถึง ICONSIAM ที่เป็นโครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้มากทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองที่จะวิ่งผ่านบนถนนเจริญนคร ทำให้ในย่านนี้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยเกิดขึ้นเรื่อยๆ อีกหนึ่งจุดเด่นของทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งในชั้นสูงๆ เราจะเห็นวิวโค้งแม่น้ำด้วยค่ะ

โครงการ Flexi Riverview เจริญนคร ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ระหว่างซอยเจริญนคร 68 และ 70 เดินทางสะดวกเข้าถึงโครงการได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 3 ถนนเจริญกรุง ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อมายังถนนเจริญนครฝั่งราษฎร์บูรณะ หรือจะมาจากทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครก็สะดวกค่ะ ใครที่จะเดินทางไปเข้าเมืองก็วิ่งเข้าถนนเจริญนคร ไปออกถนนกรุงธนบุรี ข้ามสะพานตากสินไปก็ถึงย่านสาทรแล้ว ส่วนใครจะวิ่งไปวงเวียนใหญ่ก็ง่ายมากเราสามารถวิ่งตรงบนถนนเจริญนครไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าถนนลาดหญ้าเพื่อไปยังวงเวียนใหญ่ได้

สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ถ้าหากเราไม่อยากเดินทางโดยใช้รถก็มีตัวเลือกพอสมควรเลยค่ะ อย่างวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์ อีกทั้งยังสามารถใช้ BTS ได้หลายสถานี เช่น BTS สถานีกรุงธนบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 4.8 กิโลเมตร และในอนาคตจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ‘สถานีดาวคะนอง’ ที่มีแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2570 ค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆทำเลนี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรนะคะ มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด จะมีความหนาแน่นช่วงใกล้กับวงเวียนใหญ่และรถไฟฟ้ามากกว่า ส่วนรอบๆโครงการทางฝั่งเดียวกันนั้นไม่ค่อยมีร้านค้าร้านอาหารสักเท่าไหร่ จะต้องเดินข้ามถนนไปยังฝั่งเจริญนครซอยเลขคู่จะมีตลาดสุวรรณเกลียวทองอยู่
แต่ถ้าใครชอบร้านอาหารดังๆ ก็สามารถเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารอื่นๆใกล้กับวงเวียนใหญ่ได้สะดวกค่ะ

แหล่งจับจ่ายใช้สอยที่ใกล้กับโครงการจะมีบิ๊กซีดาวคะนอง The Mall ท่าพระ ตลาดสุวรรณเกลียวทอง ตลาดดาวคะนอง ตลาดอินดี้ มี Community mall ด้านล่างโรงแรม AVANI Riverside ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารแบรนด์อยู่เยอะเหมือนกัน รวมถึง Senafest Community mall ของทาง Sena Hankyu Hanshin ก็มีร้านให้แวะกินหรือสั่ง Delivery ได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชน อาคารแถวพักอาศัย ร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่แถววงเวียนใหญ่ หรือเจริญนครช่วงต้น พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชน วัด โรงเรียน  และองค์การสินค้ากระทรวงพาณิชย์ จึงมีโอกาสน้อยที่จะเกิดอาคารสูงมาบดบังวิวแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

• ทิศเหนือ – ชุมชนพักอาศัย สูง 2 – 8 ชั้น
• ทิศตะวันออก – ติดกับถนนเจริญนคร ถัดไปเป็นโกดังสินค้าและแม่น้ำเจ้าพระยา
• ทิศใต้ – ชุมชนพักอาศัยสูง 2 – 8 ชั้น มองเห็นโครงการนิช โมโน เจริญนคร ในระยะห่างประมาณ 150 เมตร
• ทิศตะวันตก – ชุมชนพักอาศัย สูง 2 – 8 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Mall ท่าพระ – 2.5 km
• SENA Fest – 3.5 km
• Asiatiqe Riverside – 3.8 km
• ตลาดพลู – 4.2 km
• ICONSIAM – 4.9 km

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี – 2.3 km
• โรงพยาบาลบางประกอก9 – 3.6 km
• โรงพยาบาลตากสิน – 5.4 km

โรงเรียน

• โรงเรียนบางประกอกวิทยาคม – 2.3 km
• โรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry – 4.4 km
• โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 6.7 km
• โรงเรียนอัสสัมชันบางรัก – 7.1 km

สถานที่อื่นๆ

• AVANI Riverside – 1.7 km
• โรงแรม AVANI Reverside – 1.7 km

Highlight 

• คอนโด High Rise 33 ชั้น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยโครงการออกแบบให้ห้องพักอาศัยสามารถมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 85% ของจำนวนยูนิต
• Sky Facilities ส่วนกลางจัดเต็ม มองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาในมุมสูงชั้นบนสุดของอาคาร
•  คอนโดมิเนียม Low Carbon ประหยัดพลังงานโดยใช้ Solar Energy ในพื้นที่ส่วนกลาง, แยกขยะในโครงการ, ปลูกต้นไม้ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในสวน, ใช้ Hydraulic Cement เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ ฯลฯ
• มี Application “SENA 360 App” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ทั้งเรื่องของการเดินทาง บริการ Shuttle Service (V-Move), ระบบจัดการที่จอดรถ (Digital Parking) เป็นต้น

หลังจากที่โครงการรุ่นพี่อย่าง Niche MONO เจริญนคร ของ SENA Hankyu Hanshin ประสบความสำเร็จ (ตอนที่เราเขียนบทความนี้อยู่ก็เหลือเพียงยูนิตสุดท้ายแล้วค่ะ) ทาง SENA เขาก็เปิดตัวโครงการรุ่นน้อง “Flexi Riverview เจริญนคร” ออกมาแล้วนะคะ โดยโครงการนี้ก็เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง SENA Development และ Hankyu Hanshin Property ในชื่อบริษัท เจริญนครแลนด์ จำกัด

โครงการ Flexi Riverview เจริญนคร เป็นคอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ สูง 33 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 700 ยูนิต ที่ออกแบบมาภายใต้แนวคิด ‘Always on Vacay’ ให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตพักผ่อนเหมือนกับวันหยุดในทุกๆวัน โดยเต็มอิ่มกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panorama และใช้ Rooftop Facilities ที่มองเห็นพลุได้ทั้ง Asia Tique และมุมโค้งแม่น้ำฝั่ง Terminal พระราม 3 ได้ในทุกเทศกาลค่ะ

• ชั้น 1
  –  Lobby
  – Mail Box
  – Garden
  – Jogging Track
  – EV Charger
  – Parking
  – Greenest Garden
• ชั้น 2 – 4 
  – Parking ทั้งหมดประมาณ 41% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ชั้น 5
  – Sky Garden
  – ห้องพักอาศัย
• ชั้น 6 – 32 
  – ห้องพักอาศัย
• ชั้น 33
  – Sky Fitness
  – Sky Swimming Pool ระบบเกลือ ยาว 21.50 เมตร
  – Kid’s Pool ระบบเกลือ ยาว 3 เมตร
  – Riverview Hydrotherapy
  – Sunrise Sunken
  – Sky Lobby Lounge
  – Sky Art & Craft Studio
  – Sky Co-Working
  – Sky Meeting
  – Laundry & Vending Lounge
  – Sky Yoga Studio

โครงการกำลังจะเปิดให้เข้าชมและจองพร้อม ราคา Early Bird ในวันที่ 28 – 29 ตุลาคมนี้ เราเลยขอพาเพื่อนๆ มาชมรายละเอียดโครงการและห้องตัวอย่างกันก่อนนะคะ

โครงการ Flexi Riverview เจริญนคร ตั้งอยู่ติดถนนเจริญนคร มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวนะคะ เข้ามาแล้วจะเจอกับ Drop off รับ-ส่งคนเข้าไปยัง Main Lobby ได้เลยโดยไม่ต้องโดนแดดและฝน การสัญจรภายในอาคารเรียบง่ายเดินรถรอบอาคารเป็น One way โดยสามารถจอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 4 ค่ะ

ภายนอกอาคารมีการตกแต่งพื้นที่สีเขียวเป็นสวนสำหรับพักผ่อน มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ แบ่งเป็นโซนๆ ทั้งด้านหน้าและด้านข้างของอาคารพร้อม Jogging Track ค่ะ และที่สำคัญมีการออกแบบ Smart Feature มาให้ในหลายด้าน ดังนี้

• Smart Living / Health 
  – Touchless Facility ระบบประตูและสุขภัณฑ์แบบไร้การสัมผัส
  – Health Station จัดเตรียมห้อง First Aid สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งจัดให้เป็นห้องที่มีการติดตั้งเครื่องตรวจร่างกายพื้นฐานและมี Monitor กับระบบที่รองรับการพูดคุยปรึกษาแพทย์
• Smart Energy
  – EV Station โครงการจัดเตรียมช่องจอดและงานระบบรองรับ EV Charger ไว้ให้ 3 ช่องจอด
  – Motorcycle Parking จัดเตรียมที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ พร้อมกับจัดเตรียมปลั๊ก ในกรณีชาร์จมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า
• Smart Mobility / Safety / Convenience
  – Delivery Room จัดเตรียมพื้นที่ห้องวางอาหารและสิ่งของ Delivery
  – Parcel Storage + Late Night Parcel แบ่งพื้นที่ห้องนิติฯ เป็นจุดบริการรับส่งพัสดุ และเพิ่มห้องรับพัสดุยามดึก กรณีลูกบ้านกลับไม่ตรงเวลาที่นิติฯ อยู่ รวมถึงติดตั้ง Smart Locker มาให้
  – Smart Parking ระบบพื้นที่จอดรถที่ลูกบ้านสามารถเช็กได้ว่า มีที่จอดรถเหลืออยู่กี่คันในโครงการ
  – Wifi ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์เทรนด์Work Anywhere
• Smart Environment
  – Building Management System (BMS) ติดตั้งระบบเทคโนโลยีบริหารจัดการอาคาร โดยการรวมเครือข่าย ข้อมูล และระบบควบคุมเข้าด้วยกัน เพื่อการทำงานแบบอัตโนมัติ การเฝ้าตรวจและควบคุมของแอร์ แสงสว่าง และหน้าที่อื่นๆ ในอาคาร
• Waste Management
  – Valuable Garbage Room ห้องแยกประเภทขยะที่นำไปขายต่อได้ง่าย

สำหรับทางขึ้นห้องพักอาศัย ทุกคนจะต้องผ่าน Main Lobby เข้าไปยังโถงลิฟต์ที่อยู่ด้านหลังของอาคารค่ะ โดยจะมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และ Service Lift ด้านนอกอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 175 :  1 ถือว่าค่อนข้างเยอะนะคะ แต่ถ้าลิฟต์เร็วก็อาจจะทำให้ไม่ต้องรอนานในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ

บรรยากาศจำลองด้านหน้าโครงการ Flexi Riverview เจริญนคร อยู่ติดถนนใหญ่ มีป้ายชื่อโครงการมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ เข้า-ออกด้วยระบบ Keycard Access แบบ Bluetooth ระยะไกลผ่านไม้กั้นกระดก

บรรยากาศจำลองภายใน Main Lobby มีความโปร่งกว้าง มีผนังกระจกขนาดใหญ่ยาวตลอดแนว ทำให้มองเห็นสวนด้านข้างได้ สามารถมานั่งพูดคุยธุระหรือพักผ่อนระหว่างรอเรียกรถได้ค่ะ

ชั้น 5 

เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยค่ะ ผังอาคารเป็นรูปตัว L โถงทางเดินแบบ Double Corridor โดยจะมีทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom (สีโทนส้ม) หันไปทางทิศใต้และทิศตะวันตก และห้อง 1 Bedroom Plus (สีเนื้อ) หันไปทางทิศเหนือ มองเห็นวิวสวนส่วนกลางที่ชั้น 5 ได้ และมีห้องใหญ่ 2 Bedroom (สีเทา) เพียง 3 ยูนิตอยู่บริเวณริมอาคารค่ะ (เส้นประสีฟ้า)

ห้องที่มีตำแหน่งน่าสนใจคือห้อง 1 Bedroom (เส้นประสีเหลือง) ที่อยู่ริมอาคาร เป็นห้องที่ไม่ติดกับใครเลย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ เดินไม่ไกลจากลิฟต์ และมองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ อีกตำแหน่งหนึ่งคือห้อง 1 Bedroom สีส้มอ่อน ที่มองเห็นวิวสวนได้ และอยู่ทางทิศเหนือ มีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้นเอง

พื้นที่ส่วนกลางของชั้น 5 จะมี Sky Garden ลูกบ้านเดินออกจากลิฟต์มาก็จะเจอทางเดินเข้าไปยังสวนได้เลยค่ะ ภายในสวนออกแบบเป็น Universal Design ให้สามารถใช้งานได้ทุกวัย นอกจากนั้นยังมีต้นไม้หลายสายพันธุ์ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ และเลือกใช้วัสดุที่ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ตามแนวคิดคอนโด Low Carbon ด้วยนะ

ชั้น 6 – 32 

ชั้น 6 – 32 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดค่ะ โดยวางผังเหมือนกันกับชั้น 5 เลยค่ะ แตกต่างกันที่ขนาดของโครงสร้างอาคารเพียงเล็กน้อย ผังอาคารเป็นรูปตัว L โถงทางเดินแบบ Double Corridor มีทั้งหมด 25 ยูนิต/ชั้น

ห้อง 1 Bedroom (สีโทนส้ม) จะหันไปทางทิศใต้และทิศตะวันตกมองเห็นวิวเมือง ชุมชนพักอาศัย ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิด และห้อง 1 Bedroom Plus (สีเนื้อ) หันไปทางทิศเหนือมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำและสะพานพระราม 3 ค่ะ และมีห้องใหญ่ 2 Bedroom (สีเทา) เพียง 3 ยูนิตอยู่บริเวณริมอาคาร มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาตรงๆเลยค่ะ

จุดเด่น ของโครงการ Flexi Riverview เจริญนคร คือพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ชั้น 33 หรือเป็น Sky Facilities ที่มองเห็นวิวรอบด้าน มองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panorama โดยไม่ต้องไปเที่ยวพักโรงแรมที่ไหน สามารถมองเห็นวิวแบบนี้ได้ทุกวันที่คอนโด ตาม Concept ‘Always on Vacay’ นั่นเองค่ะ

ชั้น 33

เป็นชั้นของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเลยค่ะ โดยโครงการจะยกเอา Facilities หลักขึ้นมาไว้ที่ชั้นนี้ทั้งหมดเลย เพื่อให้ลูกบ้านใช้งานพร้อมกับชมวิว บรรยากาศเมืองกรุงเทพฯ และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่

ออกจากลิฟต์มาแล้วจะเจอกับ Sky Lobby Lounge ทางซ้ายมือ เป็นพื้นที่พักผ่อน นั่งทำงาน อ่านหนังสือ มองเห็นวิวได้ 3 ฝั่ง ถัดมาจะเป็นห้อง Sky Fitness ห้องออกกำลังกายพร้อมห้อง Yoga Studio ตรงข้ามกันจะมีห้องแยกกัน 3 ฟังก์ชัน คือ Sky Art & Craft Studio, Sky Co-Working และ Sky Meeting ให้ใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว ด้านหน้าโครงการจะเป็น Highlight สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ว่ายออกกำลังกายก็ได้แช่น้ำชมวิวก็ดีค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Swimming Pool เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 21.50 เมตรว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง เป็นพื้นส่วนกลางที่มองเห็นวิวแม่น้ำได้เต็มตา ช่วงเทศกาลมีพลุก็คงจะสวยน่าดูเลยค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Lobby Lounge ตกแต่งคล้ายกับ Lobby ในโรงแรมหรู สามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 3 ด้าน ภายในมีที่นั่งแบ่งเป็นโซนๆ ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน ถ่ายรูป ทำงาน หรืออ่านหนังสือสบายๆ ค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Sky Fitness มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบ ทั้ง Weight Training และ Cardio ให้ลูกบ้านออกกำลังกายไปด้วย มองวิวสวยๆ ไปด้วยค่ะ

ห้อง Sky Art & Craft Studio สามารถมานั่งทำงาน Work Shop คนเดียวหรือเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ ได้ โดยด้านในมีโต๊ะทำงาน มุม Pantry และ TV มาให้เรียบร้อยค่ะ

ห้อง Sky Meeting สำหรับคนที่ทำงานจริงจัง ต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถจองมาใช้งานได้นะ โดยทางโครงการมี TV สำหรับประชุมออนไลน์มาให้ด้วยค่ะ

ส่วนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่ Service งานระบบต่างๆ และมีพื้นที่ชมวิว ให้ลูกบ้านขึ้นมาใช้งานได้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1
  –  Lobby
  – Mail Box
  – Garden
  – Jogging Track
  – EV Charger
  – Greenest Garden
• ชั้น 5
  – Sky Garden
• ชั้น 33
  – Sky Fitness ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
  – Sky Swimming Pool ระบบเกลือ ยาว 21.50 เมตร
  – Kid’s Pool ระบบเกลือ
  – Riverview Hydrotherapy
  – Sunrise Sunken
  – Sky Lobby Lounge
  – Sky Art & Craft Studio
  – Sky Co-Working
  – Sky Meeting
  – Laundry & Vending Lounge
  – Sky Yoga Studio
• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 175 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ประมาณ 41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชม.
• ระบบ Access Control และลิฟต์แบบ Lock ชั้น
• ระบบ Visitor Management

Highlight 

• แบบห้องมีให้เลือกตั้งแต่อยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัวเริ่มต้น 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 26.5 – 53 ตร.ม.
• เฟอร์นิเจอร์ครบ (Fully Furnished) ทั้งชุดครัว ห้องน้ำ Built-in เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนอน
• ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้
• ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 86,000 บาท/ตร.ม.

ห้องพักอาศัยในโครงการ Flexi Riverview เจริญนคร มีทั้งหมด 3 แบบ ตอบโจทย์ทั้งคนที่อยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัว 3 – 4 คนเลยค่ะ

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.5 – 27.5 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34 – 35 ตร.ม.
• 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.5 – 53 ตร.ม.

มีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์หลักๆ ครบครัน ทำให้ไม่เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ สามารถเข้าอยู่ได้เลย เพราะทางโครงการเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ สิ่งที่ได้ภายในห้องจะมี ดังนี้

• ชุดเคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้า จาก TEKA
• สุขภัณฑ์ อ่างล้างน้ำพร้อมตู้ใต้อ่าง จาก Cotto โถสุขภัณฑ์และชุดฝักบัว จาก American Standard
• เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง จาก PANASONIC
• ตู้เก็บรองเท้า
• โซฟา
• ชั้นวาง TV
• โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้
• ตู้เสื้อผ้า
• ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
• Digital Door Lock

ห้องตัวอย่างเราจะพาทุกคนไปชม 2 ห้องเลยค่ะ เริ่มที่ห้อง 1 Bedroom Plus ที่มีการออกแบบผังและฟังก์ชันต่างๆ ได้น่าสนใจ และ 1 Bedroom ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* นั่นเองค่ะ

มาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom Plus 34 – 35 ตร.ม. ห้องนี้มีความน่าสนใจตรงที่ออกแบบให้พื้นที่ครัวอยู่ด้านหน้าห้องพร้อมกับมีช่องหน้าต่างสามารถวางอาหารที่โต๊ะกินข้าวได้เลย โดยไม่ต้องถือจานร้อนๆ เดินไป-มาค่ะ ส่วนห้องอเนกประสงค์จะยื่นออกมาจากอาคาร ได้กระจกเข้ามุมทำให้มองเห็นวิวได้มากขึ้นด้วย นอกจากนั้นห้องน้ำยังเข้าได้จากทั้งครัวและห้องนอน ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

• ครัว : ครัวปิดทำอาหารจริงจังได้ กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย มีช่องหน้าต่างเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น เสิร์ฟอาหารได้สะดวก
• ห้องนั่งเล่น : มีพื้นที่กว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งได้
• ห้องอเนกประสงค์ : มีประตูกระจกกั้น ได้ความเป็นส่วนตัวและมองเห็นวิวได้กว้างจากหน้าต่างบานใหญ่
• ห้องนอน : แยกออกมาเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบ มีระเบียงส่วนตัวใช้งานได้จริง
• ห้องน้ำ : เข้าได้ 2 ทาง ใช้งานง่ายไม่ต้องเดินอ้อมไป-มา

ประตูห้องมี Digital Door Lock ใช้งานเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องพกกุญแจให้หนักกระเป๋า

เข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับส่วนครัวก่อนซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ มีประตูกระจกกั้นปิดเพื่อไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายภายในห้อง ทำอาหารจริงจังได้เลย พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องทำความสะอาดได้ง่ายทนน้ำได้ดี

การที่มีครัวอยู่ด้านหน้าห้องมีข้อดีก็คือ เวลาที่เราซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของเดินผ่านห้องนั่งเล่น และห้องครัวด้านหน้ายังเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เห็นด้านในห้องของเรานั่นเองค่ะ

ด้านหน้าห้องมีตู้รองเท้ามาให้ เก็บรองเท้าวางของเพื่อหยิบใช้งานก่อนออกจากห้องได้สะดวกเลยค่ะ

เราแวะมาดูส่วนครัวกันก่อนนะคะ บริเวณนี้จะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว หยิบของจากตู้เย็นออกมาทำอาหารได้ง่าย

พื้นที่วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้ากว้างประมาณ 1.50 เมตร ใครที่ชอบตู้เย็นแบบ 4 ประตูก็สามารถวางได้เช่นกันค่ะ

เคาน์เตอร์ครัว Built-in มาให้พอดีกับพื้นที่เป็นรูปตัว I โดยเคาน์เตอร์จะมีตู้เก็บของทั้งชั้นบนชั้นล่าง ด้านหลังมีการออกแบบให้เป็นหน้าต่าง สามารถหยิบ-ส่งของจากในครัวไปยังโต๊ะรับประทานอาหารได้เลย

ชั้นวางของด้านบนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง แบบไม่มีบานปิดเอาไว้วางของที่หยิบใช้บ่อยๆ เครื่องปรุง ขนมต่างๆ และมีบานปิดอีก 1 ช่องสำหรับวางของกระจุกกระจิกได้ค่ะ ส่วนชั้นล่างจะมีช่องสำหรับไมโครเวฟให้ด้วย พร้อมลิ้นชักช้อน ส้อม และตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน เอาไว้วางถังขยะ หรือเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ 1 จุด จาก TEKA หรือเทียบเท่า สามารถทำอาหารรับประทานเองแบบง่ายๆ ได้เลยค่ะ

ห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะปูพื้นด้วย SPC หนา 4 มม. (ถ้าใครอยากรู้ความแตกต่างของพื้นลายไม้ชนิดต่างๆ อ่านบทความได้ที่นี่ค่ะ>>เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน) ทนน้ำได้ดี ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ภายในห้องจะได้รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวด้านนอกได้ผ่านห้องอเนกประสงค์

พื้นที่รับประทานอาหารวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้พอดีๆ โดยทางโครงการมีโต๊ะมาให้เป็นแบบลอยตัวเคลื่อนย้ายได้ ถ้าเราวางติดกับห้องครัวก็จะสามารถส่งของวางจานอาหารผ่านหน้าต่างห้องครัวได้เลย สะดวกมากค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นมีโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ (แต่จะเป็นคนละแบบกับในห้องตัวอย่างนะคะ) สามารถวางโต๊ะน้ำชาเล็กๆ หรือโต๊ะกลางเพิ่มเติมได้ มีระยะดู TV ประมาณ 2.3 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 43 – 50 นิ้ว

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus ถือว่าค่อนข้างสบายๆ มีพื้นที่แต่ละฟังก์ชันครบค่ะ

ภายในห้องนั่งเล่นจะได้ชั้นวาง TV มาให้ค่ะ สามารถเก็บของได้ 4 ช่อง มีทั้งบานเปิด 2 ช่องลิ้นชักและแบบไม่มีหน้าบาน วางกล่อง TV ได้ไม่เกะกะ

ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทำให้ภายในห้องดูโปร่งสบาย ในห้องอเนกประสงค์เองยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่เข้ามุมมองเห็นวิวได้ 2 ฝั่งเลยค่ะ

ห้องอเนกประสงค์มีพื้นที่ประมาณ 1.80 x 2.60 เมตร สามารถวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต เป็นห้องนอนสำรองได้ หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเล่นโยคะก็ปรับได้ตามความชอบค่ะ

มาดูห้องนอนกันบ้าง ภายในห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวเพราะมีผนังทึบแยกจากห้องนั่งเล่นชัดเจน ภายในห้องมีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ออกไปยังระเบียงได้ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง และนอนมองวิวได้ค่ะ

ในห้องนอนจะได้ฐานเตียง 5 ฟุตมาให้ด้วย มีช่องเก็บของที่ฐานเตียงเพื่อให้ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุด

ห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 3.60 เมตร (รวมพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า) เมื่อวางเตียง 5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ 2 ฝั่ง ปลายเตียงเดินได้พอดีๆ ถ้าใครต้องการวาง TV แนะนำเป็นแบบแขวนผนังค่ะ

ห้องนอนจะเชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอก มี Condensing Units แขวนอยู่ด้านบนไม่รบกวนสายตาและไม่ทำให้ระเบียงร้อนค่ะ ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 0.8 x 2.70 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างยาว สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือทำราวตากผ้าเล็กๆได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำความสะอาดง่าย

ตรงข้ามกับระเบียงจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำค่ะ

ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างค่ะ ด้านในมีทั้งราวแขวน ชั้นวางของและลิ้นชัก ใช้งานได้หลากหลาย

ห้องน้ำของ 1 Bedroom Plus สามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนอนและครัวค่ะ มีข้อดีคือสามารถเดินเข้าใช้งานได้สะดวกในตอนกลางวันและกลางคืน หรือถ้ามีแขกหรือเพื่อนมาที่ห้องก็เข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนของเราให้เสียความเป็นส่วนตัว

ภายในห้องน้ำจะกรุด้วยกระเบื้องโทนสีเทาดูเรียบร้อยสะอาดตา ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งด้วยขอบบริเวณที่อาบน้ำ ได้อ่างล้างหน้าพร้อมตู้ใต้อ่างจาก Cotto โถสุขภัณฑ์จาก American Standard

ส่วนอาบน้ำไม่ได้กั้นกระจกมาให้นะคะ สามารถกั้นผ้าม่านอาบน้ำหรือฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมได้เอง มีพื้นที่อาบประมาณ 0.9 x 1 เมตร ยืนอาบได้พอดีๆ มีฝักบัวสายอ่อน จาก American Standard พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ

ถัดมาเรามาดูห้อง 1 Bedroom 26.5 – 27.5 ตร.ม. กันบ้างค่ะ ห้องนี้มีจำนวนเยอะที่สุด และเหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ไม่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะมากนัก แต่ได้ฟังก์ชันลงตัว เป็นสัดส่วนและใช้งานได้จริงค่ะ ห้องนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท* (โปรโมชัน)

• ห้องนั่งเล่น : มีความโปร่งกว้าง วางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ
• ห้องน้ำ : เข้าจากห้องนั่งเล่น แบ่งส่วนเปียก-แห้ง
• ห้องนอน : เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจก ทำให้ห้องดูโปร่งสบายไม่อึดอัด นอนมองเห็นวิวด้านนอกได้
• ครัว : ครัวปิดติดระเบียงทำให้ระบายอากาศได้ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารรบกวน

ห้องนี้เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นหรือ Common Area ก่อนค่ะ ภายในห้องจะมีความโล่งกว้างพอสมควร เนื่องจากห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนที่มีประตูบานเลื่อนกระจกมองเห็นเชื่อมถึงกันได้

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานห้องอยู่ที่ 2.60 เมตร พื้นปูด้วย SPC* หนา 4 มม. เช่นกันค่ะ
* อ่านบทความเพิ่มเติม>>เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน

ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 3.40 เมตร ขนาดค่อนข้างกว้างสามารถวางโซฟา 2 – 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะน้ำชาตรงกลาง และโต๊ะรับประทานอาหารด้านข้างได้สบายๆ เดินผ่านไป – มาได้สะดวก มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.40 เมตร สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ ชอบดูหนังฟังเพลงที่อยู่ห้อง ก็สามารถเลือก TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ทางโครงการมีโซฟา 2 ที่นั่งมาให้ แบบเดียวกับในห้องตัวอย่าง พอดีๆกับพื้นที่ เราจะได้ไม่ต้องไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ยุ่งยากค่ะ

ภายในห้องนั่งเล่นจะได้ชั้นวางรองเท้าและชั้นวาง TV มาให้ เก็บรองได้เป็นระเบียบเรียบร้อยส่วนชั้นวาง TV เก็บของได้ 4 ช่อง มีทั้งบานเปิด 2 ช่องลิ้นชักและแบบไม่มีหน้าบานเหมือนกับห้อง 1 Bedroom Plus

ด้านข้างโซฟาเป็นพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร แต่ถ้าใครทำงานที่บ้าน หรือต้องการมีมุมเล่นเกม มุมทำงานอดิเรกก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ได้ค่ะ

หันหลังกลับมาจะเจอกับส่วน Service คือห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งมีประตูกั้นมาให้เป็นสัดส่วนค่ะ

ห้องน้ำจะเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom Plus เลยค่ะ แต่จะมีทางเข้าทางเดียวบริเวณ Common Area ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีเทาเรียบง่าย ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งด้วยขอบบริเวณที่อาบน้ำ ได้อ่างล้างหน้าพร้อมตู้ใต้อ่างจาก Cotto โถสุขภัณฑ์จาก American Standard

ส่วนอาบน้ำไม่ได้กั้นกระจกมาให้ สามารถกั้นผ้าม่านอาบน้ำหรือฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมได้เอง มีพื้นที่อาบประมาณ 0.8 x 1 เมตร ยืนอาบได้พอดีๆ มีฝักบัวสายอ่อน จาก American Standard พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ

ห้องครัวกั้นปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้กลิ่นอาหารจากในครัวไม่ฟุ้งกระจายมาภายในห้อง และดูโปร่งสบายตามองเห็นกันได้ด้วยค่ะ

ภายในห้องครัวมีเคาน์เตอร์ครัว Built-in รูปตัว I มาให้ พร้อมเว้นพื้นที่ 2 ข้างไว้สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าค่ะ ความกว้างของห้องครัวยืนทำอาหารคนเดียวได้สะดวก มีแสงธรรมชาติเข้าถึงและเปิดประตูระบายอากาศที่ระเบียงได้ ลดกลิ่นอับได้ดีทีเดียวค่ะ

พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้องทำความสะอาดได้ง่ายทนน้ำ ทนสารเคมีได้ดีมากขึ้นค่ะ

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีความทนทานทำความสะอาดง่าย มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ 1 จุด จาก TEKA หรือเทียบเท่า สามารถทำอาหารรับประทานเองได้สบายๆ

ตู้เก็บของห้องครัวจะเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom Plus เลยค่ะ มีทั้งมีบานปิดและไม่มีบานปิดเพื่อให้หยิบของได้สะดวก ชั้นล่างมีช่องสำหรับไมโครเวฟ ลิ้นชักช้อน ส้อม และตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน

ด้านข้างมีระบบท่อสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ไม่ต้องวางที่ระเบียง ทำให้ใช้งานได้สะดวก ยุงไม่กัดและช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องซักผ้าให้ไม่ต้องโดนแดดโดนฝนด้วยค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.10 x 1.35 เมตร ใช้งานได้เต็มพื้นที่ เพราะโครงการเขายก Condensing Units ไปไว้ด้านบน ตากผ้าแห้งไวเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบลมร้อนบริเวณระเบียงก็สามารถติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมได้

ส่วนของห้องนอนจะกั้นปิดด้วยประตูบานเลื่อนกระจกนะคะ มีข้อดีคือทำให้ห้องดูโปร่งสบายไม่อึดอัด แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวมากหน่อยก็อาจจะต้องติดม่านเพิ่มเติมค่ะ

ห้องนอนจะได้ช่องแสงด้านข้าง นอนมองเห็นวิวและรับแสงธรรมชาติได้ค่ะ ภายในห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 2.90 เมตร เหมาะกับวางเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้า เมื่อวางเตียงแล้วจะเหลือทางเดินปลายเตียงให้เดินผ่านได้ ส่วนด้านข้างเตียงจะเหลือพื้นที่ไม่มากเท่าไหร่ เหมาะกับโคมไฟแบบติดผนังหรือโคมไฟแขวน

พื้นที่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้าสามารถยืนแต่งตัวได้สบายๆ ใครที่อยากติด TV ในห้องนอนเพิ่มแนะนำเป็น TV แบบแขวนผนัง เพื่อให้มีพื้นที่เดินได้สะดวกค่ะ

ทางโครงการมีฐานเตียง 5 ฟุตมาให้ พร้อมช่องเก็บของเพื่อให้ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า

นอกจากนั้นยังได้ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยค่ะ ภายในมีราวแขวน ชั้นวางของและลิ้นชักใช้งานได้จริง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Flexi Riverview – Charoennakorn (เฟล็กซี่ ริเวอร์วิว-เจริญนคร) ราคา ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2566

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 26.5 – 27.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท*
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 34 – 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท*
• 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.5 – 53 ตร.ม.  ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท*

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
• สุขภัณฑ์ : อ่างล้างหน้าพร้อมตู้ใต้อ่าง Cotto / โถสุขภัณฑ์และชุดฝักบัวจาก American Standard
• จอง n/a บาท
• ทำสัญญา n/a บาท
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการ Flexi Riverview เจริญนคร ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ระหว่างซอยเจริญนคร 68 และ 70 เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ จุดเด่นของทำเลคือ โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ 

รอบๆทำเลถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร  มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ตลาด จะมีความหนาแน่นช่วงใกล้กับวงเวียนใหญ่และรถไฟฟ้า ส่วนรอบๆโครงการในระยะเดินฝั่งเดียวกันอาจจะหาของกินยากหน่อยจะต้องข้ามถนนไปยังตลาดค่ะ แต่ก็สามารถนั่งรถไปยังห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารอื่นๆ ใกล้กับวงเวียนใหญ่และตลาดพลูได้สะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ :

เดินทางสะดวกเข้าถึงโครงการได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 3 ถนนเจริญกรุง ถนนเจริญนคร และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อมายังถนนเจริญนครฝั่งราษฎร์บูรณะ หรือจะมาจากทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครก็ไม่ยาก เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านเจริญนคร สาทร สีลม เป็นต้น

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

มีบริการ Shuttle Service วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และรถเมล์ผ่านหน้าโครงการ สามารถใช้ BTS ได้หลายสถานี เช่น BTS สถานีกรุงธนบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 4.8 กิโลเมตร และในอนาคตจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ‘สถานีดาวคะนอง’ ที่มีแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2570

วัสดุ :

โครงการมีรูปแบบการขาย Fully Furnished ได้ เฟอร์นิเจอร์หลักๆ ครบครัน คือ ชุดเคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้า จาก TEKA, สุขภัณฑ์ อ่างล้างน้ำพร้อมตู้ใต้อ่าง จาก Cotto โถสุขภัณฑ์และชุดฝักบัว จาก American Standard, เครื่องปรับอากาศ จาก PANASONIC, ตู้เก็บรองเท้า, โซฟา, ชั้นวาง TV, โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และ Digital Door Lock ถือว่าให้มาค่อนข้างดีเลยค่ะ เทียบกับราคา 86,000 บาท/ตร.ม.

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการเลือกให้มี Facility อยู่ชั้นสูงสุดของอาคาร มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ และมีการออกแบบให้ห้องพักอาศัยสามารถมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึง 85% ของจำนวนยูนิต นอกจากนั้นยังออกแบบโดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงานโดยใช้ Solar Energy ในพื้นที่ส่วนกลาง, แยกขยะในโครงการ, ปลูกต้นไม้ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ในสวน, ใช้ Hydraulic Cement เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น

ห้องพักอาศัยมีให้เลือกตั้งแต่อยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัวเริ่มต้น พื้นที่ใช้สอย 26.5 – 53 ตร.ม. ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีมุมที่น่าสนใจ เช่น ห้อง 1 Bedroom Plus มีช่องหน้าต่างในครัวให้สามารถยกจาน ชามไปวางที่โต๊ะรับประทานอาหารได้เลย, ห้องอเนกประสงค์ได้กระจกเข้ามุม มองเห็นวิวได้เต็มที่ ฯลฯ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางให้มาหลากหลายทีเดียวค่ะ โดยแบ่งเป็นพื้นที่นั่งพักคอยและสวนที่ชั้น 1 สวนที่ชั้น 5 และ Facility หลักๆ จะอยู่ชั้น 33 บนสุดของอาคาร ให้มาครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Fitness, สระว่ายน้ำ, Sky Lobby Lounge, Sky Art & Craft Studio, Sky Co-Working, Sky Meeting และ Laundry & Vending Lounge ให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวก มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และ Service Lift ด้านนอกอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 175 : 1 และที่จอดรถประมาณ 41% ของจำนวนยูนิต ถือว่าให้มาตามมาตรฐาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 – 90,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 10 ตุลาคม 2566

• ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ หาของกินยากต้องต่อรถ แต่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
• เดินทางด้วยรถ 8.00/10 – เดินทางสะดวกไปยังสาทร พระราม 3 ใกล้ทางด่วน
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีวินมอเตอร์ไซค์ และรถสาธารณะผ่าน
• วัสดุ 8.25/10 – Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ วัสดุคุณภาพมาตรฐานทั่วไป
• แบบ 8.5/10 – ห้องพักอาศัยออกแบบได้ลงตัว
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – Facilities หลากหลายบนชั้นสูงสุดของอาคาร มองเห็นวิวได้เต็มที่

• MAIN CLASS
• 8.01 / 10.00

Flexi Riverview เจริญนคร เหมาะกับใคร

โครงการ Flexi Riverview เจริญนคร เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในทำเลเจริญนคร ชอบโครงการติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก เข้าเมืองไปย่านสาทรได้ไม่ยาก มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า (แต่ไม่ติดรถไฟฟ้า แลกกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและราคาที่เข้าถึงง่าย) ชอบโครงการที่มี Facilities มุมสูง มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา มองเห็นพลุในช่วงเทศกาลได้ ให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องครบ มีงบประมาณ 2 – 4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 25,000 บาท/เดือน

ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่