รีวิวฉบับที่ 1539 … Feel Condominium ลาดพร้าว 33 คอนโดในย่านลาดพร้าว ที่อยู่ใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าว ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 430 เมตร ใช้รถยนต์ส่วนตัวสะดวกมีเส้นทางให้เลือกเยอะ ได้ที่จอดรถ 55% ใกล้ MRT ลาดพร้าว อยู่ในระยะใช้รถโดยสารสาธารณะ 1 ต่อ ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมาขึ้น สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานี ภาวนา
Fact @ 26 February 2018
- Feel Condominium Ladprao 33 (ฟีล คอนโดมิเนียม ลาดพร้าว 33)
- บริษัท ไลฟ์ อิมเมจ คอนโดมิเนียม
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอยลาดพร้าว 33 เขต จตุจักร
- คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 79 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 36 คันคิดเป็น 45% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 56%
- ที่ดินประมาณ 0-3-43 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ม.ค. 2561
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พ.ค. 2562
- 1 Bedroom 25 – 40.5 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 39 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.83 – 2.98 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 74,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร :
02 106 8444061-953-7777 (up date 5/2/2021)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : ดูแผนที่ Google Map กดที่นี่
ทำเลของโครงการนี้อยู่ในย่านลาดพร้าวตอนต้น ใกล้กับแยกรัชดาลาดพร้าว ตัวโครงอยู่ในซอยลาดพร้าว 33 ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยมี ในอนาคตบนเส้นลาดพร้าวจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีภาวนา การเดินทางไปห้างใหญ่ๆอย่าง เซ็นทรัล ลาดพร้าว Union Mall ก็ทำได้สะดวกเพราะมีระยะเดินทางไม่ไกล
ทำเลของโครงการอยู่ในซอยตันนะครับ แต่ก็ยังมีตัวเลือกในการเดินทางที่เยอะอยู่ เพราะในซอยบริเวณใกล้เคียงสามารถใช้ไปทะลุออกถนนหลักอื่นๆได้ เช่น ซอยลาดพร้าว 35 ใช้เป็นทางลัดไปทะลุออกถนนรัชดาได้ ส่วนซอยลาดพร้าว 41 เอาไว้ไปทะลุลาดพร้าววังหินเพื่อไปออกถนนเกษตร – นวมินทร์ และ ใช้ถนนสังคมสงเคราะห์ เพื่อไปออกถนนเลียบด่วนรามอินทรา ถ้าใครที่คุ้นเคยกับซอยทางลัดต่างๆเหล่านี้จะรู้ว่าทางลัดต่างๆนี้ช่วยเลี่ยงรถติดบนถนนได้ดีเหมือนกันครับ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบของโครงการนี้ จะเป็นลักษณะที่ต้องเดินทางหน่อยเพราะในระยะใกล้ๆกับโครงการไม่เกิน 400 เมตรจะไม่มีร้านค้ามีแต่บ้านพักอาศัย แต่พอเดินมาบริเวณปากซอยริมถนนใหญ่ลาดพร้าวก็จะมีของกินให้เลือกเยอะขึ้น มีร้านอาหารตามสั่งทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกมีร้านซะดวกซื้ออยู่ด้วย สำหรับการไปเดินเล่นที่ห้างใหญ่ หรือการซื้อของใช้เข้าบ้านต้องไปตรง 5 แยกลาดพร้าวที่เป็นแหล่งความเจริญสูงสุดในย่านนี้มีทั้ง เซ็นทรัล ลาดพร้าว Union Mall และ Tesco Lotus ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะ จะมีระยะเดินจากโครงการมาที่ถนนใหญ่ประมาณ 430 เมตร ซึ่งปากซอยนี้มีข้อดีตรงที่มีสะพานลอยอยู่หน้าปากซอยเลยทำให้เวลาเดินทางไปห้าแยกลาดพร้าวทำได้สะดวกขึ้นพอข้ามไปแล้วก็มีป้ายรถเมล์ใกล้ๆเลย ส่วนฝั่งขาไปบางกะปิก็มีป้ายรถเมล์ให้เลือก 2 จุดคือตรงปากซอย ลาดพร้าว 33 หรือ ปากซอยลาดพร้าว 35/1 สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ณ ตอนนี้ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น MRT ลาดพร้าวก็นั่งรถเมล์ต่อไปได้ไม่ไกลประมาณ 3 ป้ายระเมล์
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์สุดในย่านนี้คือ ห้าแยกลาดพร้าว แล้วมุ่งหน้าตรงไปทางถนนรัชดาผ่านแยก รัดา – ลาดพร้าว ไปไม่ไกลก็ถึงซอยลาดพร้าว 33 แล้วเลี้ยวเข้าซอยไป 430 เมตรจะถึงโครงการครับ
วันนี้ผมใช้เส้นทางเริ่มจากห้าแยกลาดพร้าว ด้านซ้ายมือที่เห็นคือ Union Mall ที่สามารถเดินทะลุจากตัวห้างข้ามไปเซ็นทรัลลาดพร้าวได้
วิ่งตามเส้นลาดพร้าวมาถึงช่วงกลางๆก่อนเจอแยกรัชดา – ลาดพร้าวจะมี Big C Extra เป็นแหล่งซื้อของเข้าบ้านที่ใกล้ที่สุดครับ
ถัดมาเป็นแยกรัชดา – ลาดพร้าวที่มี MRT ลาดพร้าวให้ใช้่จากตรงนี้ไปโครงการมีระยะประมาณ 1.2 กม. นั่งรถเมล์ประมาณ 3 ป้ายครับ
พอเลยแยกรัชดา – ลาดพร้าวมา 750 เมตรให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยลาดพร้าว 33 ข้อดีของซอยนี้คือมีสะพานลอยอยู่ปากซอยทำให้เดินไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้ามได้ง่าย และใกล้ๆสะพานลอยจะมีธนาคารกรุงไทยกับ Family Mart กับร้านอาหารอยู่นิดหน่อย
ช่วงต้นๆ ซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่กับอพาร์ตเมนต์
ช่วงกลางๆซอยจะเริ่มเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมดแล้ว
และช่วงกลางๆซอยจะมีคอร์สนามเทนนิสอยู่ด้วย
เลยสนามเทนนิสมาไม่ไกลก็จะถึงสำนักงานขายของโครบการแล้วครับ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการถือว่ามีความสงบและเป็นส่วนตัว เพราะเป็นซอยตันและพื้นที่รอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยเกือบทั้งหมด มีฝั่งตรงข้ามที่เป็นโรงแรมแต่ทางเข้าจะอยู่อีกซอยเลยไม่มีความวุ่นวาย ตัวผังอาคารจะวางแนวห้องให้เห็นวิวด้านทิศเหนือและด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์แบะบ้านพักอาศัยที่สูง 2 ชั้น จึงไม่ได้บังวิวอะไร ใครที่อยากได้คอนโดที่สงบๆ ไม่วุ่นวายน่าจะชอบโครงการนี้
ถ่ายรูปตัวที่ดินโครงการมาให้ดูครับ ตอนนี้กำลังเริ่มก่อสร้างกันแล้วโดยด้านหน้าจะเป็นสำนักงานขายที่มีห้องตัวอย่างให้ดู ถ้าใครสนใจก็เข้ามาดูที่สำนักงานขายได้เลยครับ
ด้านซ้ายมือของโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยและทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ส่วนด้านหลังที่เห็นจะเป็นคอนโดของอีกซอยซึ่งไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะบังวิวห้องพักอาศัยนะ (ขอบเขตที่ดินของโครงการอยู่ในเส้นประสีแดงนะครับ)
ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันก็มี อพาร์ตเมนต์ ทางเข้าออก Service ของโรงแรม และบ้านพักอาศัย
หันมาดูอีกด้านของที่ดินด้านขวามือจะติดกับทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น (ขอบเขตที่ดินของโครงการอยู่ในเส้นประสีแดงนะครับ)
ด้านหน้าซอยมีรถจอดอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังมีความกว้างเหลือให้วิ่งได้อยู่
ส่วนบรรยากาศภายในซอยก็ดูร่มรื่นดีครับ ดูสงบเรียบร้อยดี
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เซ็นทรัล ลาดพร้าว
- Union Mall
- Big C ลาดพร้าว
- The Street
- Esplanade รัชดา
- โรงพยาบาลเปาโลโชคชัย 4
- โรงพยาบาลลาดพร้าว
- โรงเรียนหอวัง
- ม.จันทร์เกษม
- ม.เซนต์จอห์น
ตัวอาคารของโครงการ Feel Condominium ลาดพร้าว 33 จะมีลักษณะเป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น และมี 1 อาคารเท่านั้น เป็นโครงการเล็กๆที่เน้นความเป็นส่วนตัวและมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ มีเพื่อนบ้านแค่ 79 ยูนิต
โครงการนี้ให้ที่จอดรถมาประมาณ 55% รวมซ้อนคันแล้วก็ถือว่าให้มาอยู่ในเกณฑ์กลางๆ กำลังดี ที่นี่วางผังให้ Facilities หลักๆ ของโครงการอยู่ด้านหลังสุดเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยสระว่ายน้ำจะหลบมุมอยู่ด้านในและมีห้อง Fitness บังสายตาจากด้านนอกให้อีกที ตัวสระว่ายน้ำมีขนาด 2.5 x 11 เมตรระบบเกลือ เป็นขนากกระทัดรัดตามขนาดของโครงการนะ ระบบความปลอดภัยด้านหน้าโครงการจะมีรั้วกั้นไม้กระดก ผ่านเข้าออกด้วย Access Card
ตำแหน่งการวางตัวอาคารจะมีระยะร่นจากถนนหน้าโครงการเข้าไปพอสมควร
โดยพื้นที่ด้านหน้าโครงการจะทำเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง การเข้าออกจะมีระบบ Access Card และป้อมรปภ.ที่ด้านหน้าโครงการ
ที่จอดรถภายในอาคารทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นแบบกึ่งกลางแจ้งนะครับ
สาธารณูปโภคหลักๆ ของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 ด้านหลังสุดของโครงการนะครับ ซึ่งเป็นตำแหน่งเอาไว้หลบสายตาจากคนภายนอกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำและห้อง Fitness ด้านหลังของโครงการ บริเวณนี้จะมีการจัดสวนเล็กๆมาให้ซึ่งห้อง Fitness จะทำหน้าที่บังสายตาจากด้านนอกช่วยให้ผู้ใช้งานมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ผังชั้น 2 จะเป็นผังชั้นพักอาศัยที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 14 ห้อง และภายในอาคารมีลิฟต์โดยสารมาให้ 1 ตัว ขนาดของห้องของชั้นนี้จะเป็นแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด โดยที่มีขนาดห้องมาตรฐานคือ 25 -27 เป็นแบบที่มีจำนวนห้องเยอะสุด และห้องที่ใหญ่ที่สุดจะมีขนาดถึง 40 ตร.ม.ที่อยู่ปลายอาคารห้องที่เป็นสีฟ้าครับ
ผังห้องชั้น 3 – 7 จะมีห้องพักอาศัยทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom อยู่ด้วยทำให้มีจำนวนยูนิตต่อชั้นลดน้อยลงเหลือ 13 ยูนิตต่อชั้น ห้องที่เป็นแบบ 2 ห้องนอนมีห้องเดียวต่อชั้นคือห้องสีชมพูที่เป็นห้องมุม
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 2.5 x 11 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 3.5 x 6.5 ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
- ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 79 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 36 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 55%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างที่มีให้ดูเป็นห้องขนาด 27 ตร.ม. ซึ่งแบบนี้จะเป็นแบบที่คล้ายๆกับห้อง 25 และ 28.5 ตร.ม. ถ้าใครอยากได้ห้องที่ใหญ่ขึ้นหรือมีงบจำกัดก็ยังพอดูบรรยากาศจากห้องตัวอย่างได้ครับ ผังห้องนี้เป็นผังที่ให้ฟังก์ชันในการใช้งานมาครบ ซึ่งพื้นที่แต่ละส่วนจะมีขนาดเล็กใหญ่ตามขนาดห้องแต่ก็ถือว่ามีให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ดี ส่วนหน้าห้องจะเป็นโซนนั่งเล่นดูทีวี ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันคือส่วนรับประทานอาหาร และส่วนของครัวเปิดที่เน้นการใช้งานทำอาหารแบบเบาๆ โซนนี้จะได้รับแสงธรรมชาติจากประตูกระจกที่ออกไประเบียง สำหรับห้องนอนสามารถใส่เตียง 6′ ได้สบายๆ โดยยังมีระยะวางตู้เสื้อผ้าได้แบบเหลือเฟือ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนและมีพื้นที่การใช้งานกำลังดี
รูปแบบการขายของโครงการนี้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ สิ่งที่ได้คือเคาน์เตอร์ครัวชุดล่างและชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำได้ตามห้องตัวอย่างครับ
เรามาเริ่มกันที่โซนนั่งเล่นที่หน้าห้อง ตรงนี้จะมีระยะดูทีวีประมาณ 2.3 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 46″ – 52″ ได้
พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ แต่ถ้าอยากได้แบบ 3 ที่นั่งก็ยังพอวางได้แค่เอาโต๊ะข้างโซฟาออก แล้วเลือกโซฟาที่ขนาดไม่ใหญ่มากมาวาง กระจกด้านหลังของจริงไม่มีนะครับเป็นผนังทึบ
ถ่ายระยะการวางเฟอร์นิเจอร์ของส่วนนั่งเล่นกับส่วนครัวมาให้ดู ถ้าใครอยากวางโซฟาใหญ่กว่าห้องตัวอย่างยังพอทำได้อยู่
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ทำครัวซึ่งเป็นครัวเปิดไม่เน้นการทำอาหารหนักๆนะ ข้อดีของแปลนนี้คือสามารถวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งได้สบายๆ โดยที่ยังมีระยะเดินไปตรงเคาน์เตอร์ครัวไปยังระเบียงได้ พื้นห้องทั้งส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนครัวจะได้เป็นพื้นกระเบื้องยางไวนิล ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนน้ำ ทนความชื้นได้ดีกว่าลามิเนต แต่ตอนที่ช่างปูต้องปรับระดับพื้นให้เรียบจริงๆไม่อย่างนั้นจะมีอาการพื้นไม่เรียบเสมอกันทั้งห้อง
สำหรับการวางโต๊ะกินข้าวตรงนี้ เป็นการวางที่ใช้งานได้สะดวกพอสมควรเพราะมีระยะให้เลื่อนเก้าอี้ถอยหลังได้ทั้ง 2 ตัว
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเฉพาะชุดล่างและมีให้แค่อ่างล้างจาน ไม่มีเตาและเครื่องดูดวันมาให้นะ
การจัดวางตู้จะว้นช่องวางไมโครเวฟไว้ด้านบนและเอาลิ้นชักใส่ช้อนส้อมไว้ด้านล่าง
Top เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นหินสังเคราะห์ ซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เห็นโครงการระดับราคานี้ให้วัสดุนี้มา ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ปาติเกิ้ลเคลือบเมลามีนซะมากกว่า
ส่วนผนังครัวมีการติดกระเบื้องขนาดใหญ่ 60 x 60 ซม.กันเปื้อนมาให้ ช่วยให้การทำความสะอาดทำได้ดีขึ้น
สำหรับประตูของและหน้าต่างของโครงการนี้ใช้ของ Tostem ซึ่งเป็นของคุณภาพดีนะครับ ประตูนี้จะเป็นช่องแสงธรรมชาติที่นำแสงเข้าสู่ส่วนครัวและห้องนั่งเล่น
รายละเอียดของบานประตูมีจะตัวล็อกอยู่ตรงกลาง ตัวบานมีการเก็บงานที่เรียร้อย ส่วนตรงร่องประตูจะมีซีลยางกันฝุ่นและเสียงมาให้
พื้นระเบียงด้านนอกได้เป็นกระเบื้องลายไม้แบบนี้เลยทำออกมาสวยดี ได้บรรยากาศที่ดูอบอุ่นขึ้น และขนาดของระเบียงก็ใหญ่พอให้วางราวตากผ้าได้สบายๆ ไม่ต้องกลุ้มใจเรื่องหาที่ตากผ้าไม่ได้ สำหรับราวระเบียงจะได้เป็นกระจกนิรภัยด้วย วัสดุนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราไม่ค่อยได้เห็นโครงการระดับราคานี้ให้กันนะ การที่ให้กระจกมาแบบนี้นอกจากจะช่วยให้เวลาเรามองออกไปด้านนอกห้องดูโปร่งสบายตาแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการเพิ่มแสงธรรมาติให้กับตัวห้องด้วย
แอร์ที่ให้มาจะแถมมาให้ 2 ตัว และแขวนหันเป่าเข้าระเบียงแบบนี้ ถ้าใครไม่ชอบรู้สึกว่าทำให้ระเบียงอบ ร้อน เกินไป ก็หากริลงเบี่ยงทิศทางลมแอร์มาติดนะครับ
กลับมาดูที่ห้องนอนกันต่อ ทางเข้าห้องนอนอยู่ตรงบริเวณโต๊ะกินข้าว
พื้นที่ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างใหญ่สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom ลองดูจากพื้นที่เหลือด้านข้างเตียงสิครับ นี่ขนาดวางเตียง 6′ นะ ยังใส่ตู้เส้อผ้าได้ 3 หน้าบานเลย โต๊ะเครื่องแป้งเอามาติดผนังด้านซ้ายมือก่อนเข้าห้องน้ำยังได้เลย
พื้นที่หน้าต่างของห้องนอนจะได้เป็นบานใหญ่ 2 ชุด ชุดบนเป็นบานเลื่อนสลัับและชุดล่างเป็นบาน Fix ช่วยเพิ่มแสงให้กับห้องนอน
ระยะข้างเตียงอีกด้านถ้าลงจากเตียงมาแล้วยังมีระยะให้เดินได้สบายๆอยู่
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ด้านในตรงประตูทางเข้าห้อง
ธรณีของห้องน้ำก็ยกสูงและให้เป็นหินสังเคราะห์มาด้วย
ภายในห้องน้ำได้ฟังก์ชันมาครบ ผนังตรงอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ได้ Low Wall มาให้วางของเพิ่มได้ เสียดายที่ให้กระจกเงาบานเล็กไปหน่อย พื้นที่โซนอาบน้ำจะมีให้ฉากกั้นอาบน้ำของ OVERSEAS
ตัวอ่างเป็นไฟเบอร์เรซิ่นของ Charmer ขนาดอ่างกลางๆนะ และได้ที่วางของด้านข้างมาด้วย
ชุดดูสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto หรือเทียบเท่า ระยะการใช้งานถือว่าใช้งานได้สะดวก แต่ที่แขวนทิชชู่ไปอยู่ด้านหลังอาจหยิบใช้ไม่สะดวกเท่าไหร่
สำหรับพื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดใหญ่กำลังดีอาบน้ำยืดแขนยืดขาได้ไม่ติดอะไร
ด้านข้างของผนังที่ติดชุดฝักบัวจะมีช่องเอาไว้ติดตั้งชั้นวางพวกสบู่อาบน้ำและข้าวของต่างๆ
ชุดฝักบัวที่ให้ถือว่าให้มาดีเหมือนกันนะ เป็นของ Cotto จับได้ถนัดมือและตัวสายเป็นแบบเรียบๆ ช่วยลดการเกาะของคราบสบู่และทำความสะอาดง่ายขึ้น
ห้องน้ำของห้อง Type นี้จะมีตำแหน่งที่ไม่ได้อยู่ติดกับหน้าต่างทางโครงการเลยติดพัดลมดูดอากาศมาให้ เพื่อช่วยในเรื่องการระบายความความชื้นครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26 February 2018
- 1 Bedroom ชั้น 4 พื้นที่ใช้สอย 25 ตร.ม. ราคา 1,837,500 ล้านบาท หรือ 73,500 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 2 พื้นที่ใช้สอย 27 ตร.ม. ราคา 1,890,000 ล้านบาท หรือ 70,000 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom ชั้น 7 พื้นที่ใช้สอย 27 ตร.ม. ราคา 2,038,500 ล้านบาท หรือ 75,500 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 40,000 บาท
- ค่ากองทุน 1,000 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 12 เดือน ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเล – ทำเลของโครงการ Feel Condominium ลาดพร้าว 33 เป็นทำเลในย่านลาดพร้าวที่อยู่ใกล้กับแยก รัชดา – ลาดพร้าว ตัวโครงการอยู่จะในซอยลาดพร้าว 33 ที่ไม่ได้เป็นซอยทะลุทำให้ภายในซอยมีความสงบและเป็นส่วนตัว บรรยากาศรอบๆโครงการก็เป็นบ้านพักอาศัยซะเป็นส่วนมาก ไม่ได้มีเสียงหรือรถคอยวิ่งผ่านหน้าโครงการให้หนวกหู และไม่มีฝุ่นควันเยอะเหมือนโครงการที่ติดถนนใหญ่ด้วย
ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินได้แบบใกล้ๆ ยังไม่มีนะครับ แต่ถ้าเดินไปตรงปากซอยจะเริ่มมีของกินแล้ว เพราะมีธนาคารกรุงไทยอยู่ด้านหน้า มีร้านอาหารและ Family Mart อยู่ใกล้ๆ หรือถ้าเดินไปทางซอย 31 จะมีอีกหลายร้านให้เลือก ร้านที่ดังๆและอร่อยจะเป็นห่านท่าดินแดงตรงซอย 35/1 ร้านนี้ดีงามอยู่ครับไปลองมาแล้วจัดไป 3 จานเลย ถ้าเบื่อๆแถวนี้ก็ไปหาของกินในโชคชัย 4 กับลาดพร้าววังหิินได้อีก สำหรับห้างใหญ่ๆ จะไปรวมตัวกันอยู่แถวๆ ห้าแยกลาดพร้าว มีทั้ง เซ็นทรัลลาดพร้าว Union Mall Tesco Lotus และ Big C ที่อยู่ตรงลาดพร้าวซอย 7 ครับ
การเดินทางโดยใช้รถ – ถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวแค่ 430 เมตร และตัวซอยมีความกว้างที่วิ่งสวนกันได้สบายๆ แม้จะมีรถจอดอยู่ อยู่ใกล้กับแยกรัชดา – ลาดพร้าว เอาไว้ใช้วิ่งเข้าเมืองโซนพระราม 9 อโศกได้ง่าย โดยเราสามารถไปออกถนนรัชดาโดยเข้าซอยลาดพร้าว 35 ได้ ส่วนถ้าใครจะไปออกเกษตรนวมินทร์ ไปเข้าซอยลาดพร้าว-วังหิน และใช้ถนนโชคชัย 4 ไปออกเลียบด่วนรามอินทราได้ โครงการนี้ให้ที่จอดรถรวมซ้อนคันมาที่ 55% ถือว่าให้มาเยอะกว่าคอนโด Low Rise ทั่วๆไปนะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สำหรับโครงการนี้จะมีระยะเดินที่ประมาณ 430 เมตร จากในโครงการมาปากซอย ถ้าเป็นคนขยันเดินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร สภาพแวดล้อมในซอยก็ไม่ได้ดูเปลี่ยวนะส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยซะเป็นส่วนมากมีอะพาร์ตเมนต์อยู่บ้างในช่วงปากซอย จะมีที่ดินว่างเปล่าก็คงเป็นช่วงกลางๆซอยที่เป็นสนามเทนนิส สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินอาจจะติดตรงที่ไม่มีวินมอเตอร์ไซค์ให้เรียกทั้งขาออก/เข้าโครงการ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในตอนนี้ยังมีให้เลือกแค่ MRT ลาดพร้าว โดยนั่งรถเมล์ไปประมาณ 3 ป้าย แต่ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีที่ใกล้สุดจะอยู่ตรงแยกภาวนา ซึ่งอยู่ใกล้กว่าการเดินทางไป MRT ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็จะมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น
วัสดุ – วัสดุของโครงการนี้เป็นการขายแบบ Fully Fitted ได้ Digital Door lock พื้นห้องได้เป็นกระเบื้องยางไวนิลที่มีทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต ความสูงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร ชุดครัวได้เคาน์เตอร์ครัวเฉพาะชุดล่าง ได้อ่างล่างจาน แต่ไม่ได้ Hob & Hood นะ ได้ผนังกันเปื้อนเป็นแกระเบื้องใหญ่ 60 x 60 ซม. Top ได้หินสังเคราะห์ กรอบหน้าต่างได้ของ TOSTEM มีคุณภาพดี ได้แอร์ 2 ตัว ในห้องน้ำได้กระเบื้องเซรามิค ฉากกั้นอาบน้ำได้ของ Overseas อ่างล้างหน้าได้เป็นไฟเบอร์เรซิ่นของ Charmer โถสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto
การออกแบบ – แบบห้องของที่นี่จะเน้นเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ซะเยอะ ซึ่งมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 25 – 36.5 ตร.ม. ห้องส่วนมากจะมีขนาดอยู่ที่ 25 และ 27 ตร.ม. แบบ 27 จะเป็นแบบที่พอเหมาะกับคนที่ชอบห้องนอนกว้างๆ เพราะเค้าออกแบบโดยให้ความสำคัญกับห้องนอนเป็นหลัก โดยที่มีมีฟังก์ชันโต๊ะกินข้าว 2 ที่นั่งมาให้แบบไม่ต้องนั่งหันหน้าเข้าหากำแพง แต่ถ้าใครมีงบจำกัดอาจดูเป็นห้องขนาด 25 ตร.ม.ก็ได้ ส่วนคนที่ต้องการห้องแบบ 1 Bedroom แบบหน้ากว้างที่นี่ก็มีให้เลือกนะ เป็นห้องขนาด 36.5 ตร.ม.ได้ครัวปิดด้วย ซึ่งมีแค่ชั้นละห้องเท่านั้น
สาธารณูปโภค – มีมาให้ครบทั้งสระว่ายน้ำขนาด 2.5 x 11 เมตร ระบบเกลือ และห้องออกกำลังกาย แต่เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการขนาดเล็ก ทำให้จัดสาธารณูปโภคมาได้ตามขนาดของโครงการ เรียกว่าพอมีให้ใช้แต่จะไม่ได้ใหญ่เหมือนพวกโครงการหลายร้อยยูนิตนะครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 74,000 บาท/ตร.ม., 26 February 2018
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลสงบและเป็นส่วนตัว ไม่มีของกินใกล้ๆ ถ้าไม่ใช้รถการเข้าออกโครงการต้องเดินเอา
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – เดินทางได้สะดวกใกล้ถนนใหญ่ได้ที่จอดรถเยอะ
- ไม่ใช้รถ 7/10 – มีระยะเดิน 430 ม. มีร่มเงาให้เดินได้แต่ไม่มีพี่วินให้บริการ
- วัสดุ 7.25/10 – ได้แบบ Fully Fitted ให้มาน้อยแต่ได้ของค่อนข้างดี
- แบบ 8/10 – ออกแบบห้องมาดีได้ฟังก์ชันครบ มีห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ให้มาครบทั้งสระว่ายน้ำและห้อง Fitness แต่ขนาดก็เล็กตามขนาดของโครงการ
- MAIN CLASS
- 7.56 / 10.00
BOTTOM LINE
Feel Condominium ลาดพร้าว 33 เป็นคอนโดโครงการเล็กๆ ที่อยู่อิงกับถนนใหญ่ลาดพร้าว เหมาะกับที่หาคอนโดจำนวนยูนิตน้อยใกล้ถนนใหญ่ลาดพร้าวในราคาที่พอหยิบจับได้ เน้นการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่ชอบความวุ่นวาย อยากได้ที่พักอาศัยที่สงบๆ เอาไว้พักผ่อน มีใช้ส่วนกลางบ้าง และอยู่กันแบบครอบครัวเล็กๆ มีงบประมาณระดับ 1.8 – 2.1 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 17,000 บาท/เดือน