รีวิว Escent Trang (เอสเซ็นท์ ตรัง) คอนโดเปิดใหม่ของจังหวัดตรัง แตกต่างจากโครงการอื่นด้วยการเป็นคอนโด High Rise สูง 17 และ 22 ชั้น เปิดรับวิวมุมสูง มองวิวได้กว้างขึ้น และแน่นอนว่าคอนโดแบรนด์นี้ต้องมาพร้อมกับทำเลที่ใกล้ห้างสรรพสินค้าในเครือ CPN ซึ่งทำเลนี้ก็คือ ‘โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง’ เริ่ม 1.86 ล้านบาท มีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้

  • ทำเล : ใกล้โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง 200 m. มีความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถเดินไปช้อปปิ้งได้สบายๆ แต่ก็เป็นคอนโดที่มีราคาสูงขึ้นตามศักยภาพของทำเลไปด้วย
  • Sky Facility : ที่นี่เค้ายก Facility หลักของโครงการไว้ที่ชั้น 17 มีครบทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness, Yoga Area, พื้นที่สีเขียว จึงสามารถพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้าน
  • Fully Furnished : ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเอง
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน : ทำให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เช่น Double Gate, Face Scan, Key Card, ระบบ VMS เป็นต้น

ข้อมูลโครงการ

Escent Trang (เอสเซ็นท์ ตรัง) ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2566

 ชื่อโครงการ  Escent Trang  (เอสเซ็นท์ ตรัง)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ จำกัด
 โครงการตั้งอยู่  ถนนศรีตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
 ที่ดิน  3-1-73.8 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 2 อาคาร (ตึก A = 17 ชั้น / ตึก B = 22 ชั้น)
 จำนวนยูนิต  378 ยูนิต
 ที่จอดรถ  135 คัน ประมาณ 36%
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q4 ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 54 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.5 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.86 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 72,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) 66,000-80,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://residential.centralpattana.co.th/th/condominium/escent-ville-trang
 Call Center 065-512-3356

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 7.561057, 99.626082
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Highlights :

  • ใกล้ห้างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง 200 m. สามารถเดินไปกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนังได้ทุกวัน ความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าครบครันมาก
  • โครงการตั้งอยู่บนถนนศรีตรังเชื่อมต่อถนนเพชรเกษมได้เพียง 450 m. สามารถเชื่อมเข้าโซนเมืองเก่าและจังหวัดข้างเคียงได้ง่าย

แผนที่จากทางโครงการ Escent ตรัง ตั้งอยู่บนถนนศรีตรัง ใกล้ตัวเมืองเก่าที่มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ เชื่อมต่อถนนหลักได้ทั้ง 2 สาย คือถนนเพชรเกษมและทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4045 (ถ.บางรัก-ควนขัน) จึงไปอำเภอและจังหวัดข้างเคียงได้ง่าย

พูดถึงทำเลของคอนโด Escent ตรังนั้นมีตำแหน่งของโครงการที่แตกต่างจากโครงการของ Developer อื่นๆ เลยนะคะ เพราะอยู่ใกล้โรบินสันไลฟ์สไตล์ ตรัง ในระยะที่เดินไปได้สบาย 200 m. เท่านั้น จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง ไปช้อปปิ้งซื้อของกินของใช้ได้ง่าย

อีกประเด็นหนึ่งคือทำเลนี้อยู่ใกล้กับโรงเรียนใหญ่ทั้งเอกชนและรัฐบาลของจังหวัด ในระยะ 3-4 km. เช่น โรงเรียนสภาราชินี, ตรังร่วมพัฒนา, ตรังวิทยา, ปัญญาวิทย์, ตรังคริสเตียนศึกษา และไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ในระยะประมาณ 9 km. ค่ะ

ในส่วนของโรงพยาบาลที่จังหวัดตรังนั้นจะมีโรงพยาบาลใหญ่หลายแห่ง อย่างที่ใกล้ๆ โครงการในระยะไม่เกิน 2 km. เช่น โรงพยาบาลวัฒนะแพทย์, ตรังรวมแพทย์, ตรัง เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะรองรับคนในจังหวัดตรังเองแล้ว คนในจังหวัดข้างเคียงอย่างพัทลุง, สตูล, กระบี่ ก็แวะเวียนมาใช้บริการด้วยเช่นกัน

ทำเลของคอนโด Escent จึงตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่อยากให้ลูกหลานได้มีที่พักอยู่ใกล้สถานศึกษา และตอบโจทย์คุณหมอในโรงพยาบาลใกล้ๆ รวมถึงผู้ที่อยากมีคอนโดอยู่ใกล้โรบินสันในระยะเดินไปได้สบาย เอาไว้เป็นบ้านหลังที่สองก็น่าสนใจค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

คอนโด Escent ตรัง มีทางเข้าหลักอยู่บนถนนภาระจำยอม ซึ่งสามารถเชื่อมเข้าโรบินสันได้จากถนนเส้นนี้ โดยที่ไม่ต้องไปอ้อมเข้าถนนศรีตรังหรือถนนเพชรเกษมอีกครั้งหนึ่ง ที่ดินโดยรอบสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ดินเปล่า (มีศักยภาพในการพัฒนาได้)
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ดินเปล่า (มีศักยภาพในการพัฒนาได้)
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับถนนศรีตรัง ฝั่งตรงข้ามเป็นสนามฟุตบอลและร้านอาหารต่างๆ
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง สูง 2 ชั้น

ตำแหน่งของที่ดินอยู่ถนนศรีตรัง ซึ่งปัจจุบันมีการล้อมรั้วไว้เรียบร้อย และกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่นะคะ

สำนักงานขายจะอยู่ระหว่างโรบินสันกับที่ดินของโครงการ เราจะมองเห็นความคืบหน้าของคอนโดได้จากบริเวณหน้าสำนักงานขายเลย

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นสนามฟุตบอล แค่ข้ามถนนมาก็ถึงสนามแล้ว จึงนัดเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ได้สะดวก

ใกล้ๆ กันจะมีร้านอาหาร เช่นร้านชาบู, ส้มตำ ในส่วนของอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จะเป็นคลีนิคทำฟัน, คลีนิครักษาโรค เรียงรายกันอยู่หลายแห่งเลยค่ะ

Highlights ของทำเลนี้ต้องยกให้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เป็นศูนย์การค้าใหญ่สุดในจังหวัด ที่มีความครบครัน เช่น Tops Market, Power Buy, Super Sports และ B2S เป็นต้น

แวะเข้ามาตากแอร์ฯเย็นๆ ในเซ็นทรัลกันสักหน่อย …หากพูดถึงแบรนด์ร้านแฟชั่นที่มาลงสาขานี้ก็ถือว่าตามเทรนด์วัยรุ่นเป็นหลัก มีสินค้าหลายระดับราคาดี มีร้านเสริมความงามจำนวนมาก, มีร้านขายอุปกรณ์ IT, อุปกรณ์การเรียน

ชั้นล่างมีซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน ชั้นบนมีร้านอาหาร โรงหนัง ก็ถือว่าครบครันสำหรับชีวิตประจำวันและการพักผ่อนในวันหยุดด้วยนะคะ

สำหรับตลาดที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คงจะเป็นตลาดกลางเมืองตรัง อยู่บนถนนศรีตรังเช่นเดียวกัน ใกล้โครงการในระยะประมาณ 750 m. ภายในมีร้านอาหารหลากหลาย มีโต๊ะส่วนกลางให้นั่งทานเหมือนศูนย์อาหาร และมีร้านอาหารแบบ Stand Alone ด้วยค่ะ

นอกจากนี้บนถนนศรีตรังจะมีร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เกาะตามแนวถนนอยู่หลายร้านให้แวะเข้าไปนั่งเล่น เปลี่ยนบรรยากาศได้

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • โรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ ~ 160 m.
  • ตลาดกลางเมืองตรัง ~ 750 m.
  • Big C ตรัง ~ 2.6 km.
  • Makro ตรัง ~ 3.4 km.
  • ไทวัสดุ ~ 3.8 km.
  • Homepro ตรัง ~ 4 km.
  • Lotus ตรัง ~ 4.3 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลตรังรวมแพทย์ ~ 1.2 km.
  • โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง ~ 1.4 km.
  • โรงพยาบาลตรัง ~ 1.6 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา ~ 1.5 km.
  • โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดควนขัน) ~ 1.7 km.
  • โรงเรียนตรังวิทยา ~ 2.5 km.
  • โรงเรียนปัญญาวิทย์ (เเผนกมัธยม) ~ 2.7 km.
  • โรงเรียนตรังร่วมพัฒนา ~ 2.9 km.
  • โรงเรียนสภาราชินี ~ 3.1 km.
  • โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา ~ 3.4 km.
  • มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง ~ 9.8 km.

สถานที่สำคัญอื่นๆ

  • สถานีขนส่งตรัง ~ 1.4 km.
  • สวนสาธารณะอนุสาวรีย์รัษฎา ~ 1 km.
  • สถานีรถไฟตรัง ~ 3.1 km.
  • ท่าอากาศยานตรัง ~ 7.6 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • มีฟังก์ชันส่วนกลางสวยๆให้ใช้งานครบ เรียกได้ว่าจัดเต็มเยอะที่สุดของย่านในปัจจุบัน
  • Facility หลักๆ ของโครงการอยู่บนชั้น 17 จึงสามารถพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้านเลยนะคะ
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ทำให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เช่น Double Gate, Face Scan, Key Card, ระบบ VMS ใช้ในการแจ้งนัดพบลูกบ้านล่วงหน้า เป็นต้น

ใครยังจำคอนเซปต์ “1 ห้างฯ 1 คอนโด” ได้บ้างมั้ยคะ? เมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อนคอนเซปต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์คอนโด “Escent” จาก CPN ซึ่งมีจุดขายอยู่ที่ทำเลติดศูนย์การค้าของ CPN เลย ไม่เซ็นทรัลก็โรบินสัน ในส่วนของโปรดักส์ตั้งใจออกแบบมาให้ดีกว่าคู่แข่ง ทั้งในเรื่องของส่วนกลาง, แบบห้องและวัสดุ เพราะเค้าตั้งใจจะเคาะราคาให้สูงกว่าตามศักยภาพของทำเลด้วยเช่นกัน เปรียบเทียบให้เห็นภาพถ้าเป็นกรุงเทพฯ คอนโดที่ทำเลดีก็คงไม่พ้นทำเลติดรถไฟฟ้า เมื่อเป็นต่างจังหวัดทำเลที่มีศักยภาพก็คงไม่พ้นศูนย์การค้าใหญ่เป็นแน่ ดังนั้น ทำเลถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้เลยค่ะ

การออกแบบของโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของวิวภูเขาและทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นจุดขายของจังหวัดตรัง โดยสะท้อนผ่านรูปทรงอาคารที่มีความสูงเหมือนภูเขาล้อมรอบป่า และจัดวางพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าขนาดใหญ่กว่า 1,900 ตร.ม. เพื่อเปิดมุมมองให้ไกลขึ้นและใกล้ชิดท้องฟ้าได้มากขึ้น

โครงการ Escent ตรัง เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 17 ชั้น และอาคาร B สูง 22 ชั้น มีเพื่อนบ้านทั้งหมดเพียง 378 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3 ไร่กว่าๆ จุดเด่นของที่นี่คือการยก Facilities หลักๆ ของโครงการไว้ที่ชั้น 17 จึงเปิดรับวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้าน ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 22

นอกจากนี้พื้นที่สวนหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1 มีขนาดใหญ่ 1 ไร่กว่าๆ เลยทีเดียว ในส่วนของที่จอดรถอยู่ในชั้นใต้ดินรองรับได้ประมาณ 36% ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับคอนโดทำเลต่างจังหวัดที่มักจะไม่ได้มีผู้พักอาศัยอยู่เต็มทุกห้องพักตลอดเวลาค่ะ

มาดูรายละเอียดโครงการ Escent ตรัง ทีละชั้นกันนะ เริ่มจาก Masterplan จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว ประตูหลักจะผ่านเข้าออกด้วยระบบ License Plate (อ่านป้ายทะเบียน) ดังนั้นรถที่ผ่านเข้าออกได้จะเป็นรถของลูกบ้านที่ลงทะเบียนไว้ สำหรับรถของ Visitors จะต้องแลกบัตรนะคะ เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off เป็นจุดแรกเพื่อให้วนรับ-ส่งหน้าอาคารได้สะดวก แต่หากจะไปที่จอดรถจะต้องผ่านไม้กั้นกระดกมาอีกชั้นหนึ่ง นับว่าเป็นคอนโดที่ใช้ระบบแบบ Double Gate จึงมีการรักษาความปลอดภัยสูงทีเดียว

การเข้าอาคารจะใช้เป็น Face Scan เข้ากับยุคโควิดที่เน้น No Touch นะคะ Main Lobby จะอยู่ที่อาคาร B เป็น Lobby กว้างๆ ใช้เป็นหน้าเป็นตารับแขกได้ ถัดเข้าไปด้านในจึงจะเป็นทางเดินเชื่อมไปอาคาร A ซึ่งจะต้องสแกนหน้าเพื่อผ่านประตูเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน

โครงการนี้มีลิฟต์ให้ใช้ 4 ตัว แยกเป็นอาคารละ 2 ตัว ในส่วนของลิฟต์จะต้องใช้ Key Card ซึ่งเป็นแบบล็อกชั้น เข้าได้เฉพาะชั้น 1, 17 และชั้นที่ตนเองพักอาศัยเท่านั้นค่ะ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 95 :  1 ถือว่าไม่เยอะมากค่ะ

ประตูหลักของโครงการเป็นประตูบานเลื่อนช่วยบังสายตาจากคนภายนอกได้ดี ซึ่งพื้นที่บริเวณหน้าโครงการเป็นโซน Drop-Off สำหรับวนรถจึงไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยในโครงการ

พื้นที่สวนบนชั้น 1 มีขนาดใหญ่ 1 ไร่กว่า แบ่งฟังก์ชันเป็นหลายๆ ส่วนเช่น สนามหญ้ากว้างๆ, สนามเด็กเล่น, พื้นที่ปิคนิค เป็นต้น

ภาพจำลองบรรยากาศภายในสวนชั้น 1 มีตำแหน่งอยู่ด้านข้างอาคาร ได้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาโดยรอบ

ภาพจำลองภายใน Mian Lobby ตกแต่งในสไตล์ Nordic ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย โครงการเลือกใช้วัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Laundry Cafe มีบริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และพื้นที่นั่งคอยให้พร้อมเลย

โครงการนี้จะมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น (B1, B2) เป็นพื้นที่จอดรถแบบเต็มชั้น

ที่จอดรถชั้นใต้ดินจะซ่อนอยู่ใต้สวนส่วนกลาง ทำให้บรรยากาศรอบอาคารเป็นพื้นที่สวนเกือบทั้งหมดดูร่มรื่นดี

ตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปเป็นห้องพักอาศัยเต็มชั้น อาคาร A เป็นทรงตัว L มีจำนวน 14 ยูนิตต่อชั้น ส่วนอาคาร B มีจำนวน 9 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งถือว่าความหนาแน่นต่ำทั้ง 2 อาคารเลย แต่ใครที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็แนะนำให้เลือกอาคาร B เพราะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยแต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าอาคาร A เล็กน้อย

ตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจสำหรับเราคือห้องพักที่ได้วิวสวนส่วนกลาง ก็คือห้องในกรอบสีเขียวที่ได้ทั้งวิวส่วนกลางและทิศห้องที่หันไปทางทิศเหนือ จึงไม่ร้อน และกรอบสีม่วง (อาคาร A) และกรอบสีส้ม (อาคาร B) ก็ได้วิวสวนเช่นกันแต่ทิศทางของห้องจะได้แดดช่วงบ่ายสักหน่อยเพราะหันทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ มีให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 9 ผังจะคล้ายกับที่ชั้น 2-8 เลย แต่ความพิเศษของชั้นนี้คือ มียูนิต Type A ที่สามารถ Combine กันได้ 2 ตำแหน่ง (ในกรอบสีม่วง) ซึ่งเป็นตำแหน่งห้องที่ได้วิวสวนด้วยนะคะ

ตั้งแต่ชั้น 16 ขึ้นไปจะมีโซนพักอาศัยแค่เพียงอาคาร B มีจำนวน 9 ยูนิตต่อชั้น

ขึ้นมาที่ชั้น 17 ที่อาคาร A จัดเป็นชั้น Facility หลักของโครงการทั้งชั้น และมีสะพานลอยฟ้าเดินเชื่อมไป Sky Fitness ที่อาคาร B ได้ Highlight ก็คงเป็นสระว่ายน้ำที่เค้ายกขึ้นมาไว้บนชั้นนี้มีขนาด 5×26 m. ลึก 1.20 m. พร้อมแยกสระเด็กไว้ต่างหาก โดยตัวสระวางไว้แบบ Outdoor จึงเหมาะกับการมาใช้งานช่วงเย็นที่แดดร่มแล้ว นอกจากสระว่ายน้ำและ Fitness แล้ว ก็ยังมีพื้นที่สวนให้พักผ่อนและลานโยคะด้วยค่ะ

เราขอปรบมือให้กับ Facility ส่วนกลางหลักที่เค้าเลือกวางไว้บนชั้น 17 ทำให้การใช้ส่วนกลางที่นี่ได้วิวเมืองและมองเห็นภูเขาแบบ Panoramic ได้เลย ซึ่งจะแตกต่างจากคอนโดรอบข้างที่เป็นคอนโด Low Rise นะคะ

โดยเฉพาะเจ้าสระว่ายน้ำบนชั้น 17 นี้จะมีค่าก่อสร้างที่แพงกว่าการวางสระไว้ชั้นล่างๆ แลกมากับ Benefit ของลูกบ้านที่สามารถว่ายน้ำพร้อมชมวิว Skyline ไปด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศ Yoga & Relaxation Garden บนชั้น 17 มีต้นไม้ใหญ่คอยให้ความร่มรื่น

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Fitness มีการ ออกแบบผนังเป็นกระจกบานใหญ่เพื่อให้ชมวิวมุมสูงของเมืองได้ค่ะ

ชั้น 18 จะมีห้องพักอาศัยลดลงเหลือ 6 ยูนิตเท่านั้นอยู่ที่อาคาร B ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงๆ ชั้นนี้ก็น่าสนใจนะคะ

ตั้งแต่ชั้น 19 ขึ้นไปถึงชั้น 22 จะเป็นห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น มีห้องพักต่อชั้น 9 ยูนิต มีให้เลือกทุกแบบห้องเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น  1

  • Main Lobby
  • Social Lobby
  • Laundry Cafe
  • Garden ขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่

ชั้น 17

  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 26 x 5 m. ลึก 1.2 m.
  • Kid Pool
  • Fitness
  • Yoga&Relaxation Garden
  • Garden

อื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ = 95 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A = 105 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B = 84 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 135 ประมาณ 36%
  • Double Gate เข้าออกด้วยระบบ License Plate
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV/Key Card/ Face Scan
  • ระบบ VMS
  • รปภ. ดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • รั้วโครงการสูง 3 m.

แบบห้อง

Highlights :

  • มีรูปแบบห้องหลากหลาย กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ มีความเป็นส่วนตัวสูง ตั้งแต่ Type B ขึ้นไปจะเป็นห้องหน้ากว้าง
  • มีการใส่ระบบต่างๆที่ไม่มีในโครงการอื่นๆ เข้ามา เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย / ระบบ Drain น้ำในห้องครัว และผนังทีวีที่สามารถปรับหมุนใช้งานได้ 2 ห้อง
  • ขายแบบ Fully Furnished พร้อม Built-in เฟอร์ฯ มาให้พอดีกับพื้นที่ห้อง มีช่องเก็บของเยอะ เข้าใจคนอยู่คอนโด สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเอง

โครงการ Escent ตรัง มีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 3 แบบ และห้อง Combine อีก 1 แบบ ดังนี้

  • Type A และ B เป็นแปลนที่มีให้เลือกเยอะในโครงการนี้ เป็นห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ทั้งคู่ แตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยแบบ B จะใหญ่กว่าทำให้มีห้องครัวขนาดใหญ่ติดระเบียง ซึ่งระเบียงก็กว้างมากเช่นกัน
  • Type C เป็นห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom เหมาะกับการอยู่กันเป็นครอบครัวแบบพ่อแม่ลูกได้เลย ตำแหน่งจะเป็นห้องมุมจึงได้ระเบียง 2 จุด ในส่วนของห้องครัวจะเป็นครัวเปิด ต่อเชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่น
  • Combine จะเป็นการรวมห้องแปลน A ที่อยู่ติดกัน 2 ห้องเข้าด้วยกัน ฟังก์ชัน 2 Bedroom 2 Bathroom คล้าย Type C แต่ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดติดระเบียง จึงระบายควันได้ดีทำอาหารได้เต็มที่ แต่การ Combine ห้องจะต้องรีบจองในช่วงนี้ (ก่อนอาคารสร้างเสร็จ) เพื่อให้โครงการเตรียมปรับโครงสร้างไว้รองรับค่ะ

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ครบถ้วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ วัสดุที่ได้มีดังนี้

  • ประตูไม้ HMR
  • พื้นไม้ SPC และ พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้
  • ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
  • เคาน์เตอร์ครัว ปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์ + Backsplash ติดกระเบื้อง
  • เครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกด้านนอก
  • อ่างล้างจานของ Teka
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำใช้ของ COTTO เป็นหลัก
  • Furniture Built-in ทั้งห้อง เช่น ตู้เก็บรองเท้า, โต๊ะทานอาหาร + เก้าอี้, โซฟา 2-3 ที่นั่ง, เตียงนอน 5-6 ฟุต, ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง, TV Panel (หมุนได้) เป็นต้น
  • ระเบียงปูกระเบื้องแกรนิตโต้


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type A

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ของที่นี่ เรามองว่าเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ Living Area และ Bedroom เป็นหลัก เพราะเค้าวางตำแหน่งไว้ให้ติดกับหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

แต่ก็ต้องแลกมากับพื้นที่ครัวและห้องน้ำที่ต้องไปอยู่ด้านในอาคารแทน ประสิทธิภาพใช้งานครัวและห้องน้ำจึงลดลง เพราะต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของตัวอาคารล้วนๆ เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำครัวเยอะ ใช้พื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนเป็นหลัก อยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี อย่างไรก็ตามแบบห้องจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยแต่ละคนนะคะ

ห้องของโครงการขายแบบ Fully Furnished จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์ฯ ลอยตัวตามลิสต์นี้ ถือว่าครบถ้วนมากๆ เลย ซื้อฟูก+ชุดเครื่องนอนเพิ่มอีกหน่อยก็คืออยู่ได้สบายแล้วค่ะ

ประตูหน้าห้องเป็นประตูไม้ HMR มีคุณสมบัติในการทนความชื้นได้ดีกว่าไม้ MDF แบบเดิมๆ

พื้นห้องจะสูงกว่าโถงทางเดินภายนอกประมาณ 2 cm. การออกแบบนี้เป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านมากๆ ในกรณีที่เกิดเหตุว่าห้องอื่นบนชั้นเดียวกัน เปิดน้ำทิ้งไว้ทำให้น้ำไหลออกมาท่วมทางเดิน ก็จะไม่ไหลเข้ามาสร้างความเสียหายให้ภายในห้องพักของเรานะคะ

เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวเป็นโซนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Living Area ซึ่งเค้าออกแบบให้มีประตูกั้นปิดระหว่างห้องไว้ด้วย ทำให้กลิ่นควันในห้องครัวไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่อยู่อาศัยด้านใน

ส่วนที่เค้าเก็บดีเทลเพิ่มขึ้นมาก็คือ ท่อระบายน้ำที่ซ่อนเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ เผื่อในกรณีที่เราลืมปิดน้ำ น้ำล้นออกมาบนพื้นก็จะได้มีช่องทางระบายไปได้ ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้

Counter ครัวได้เป็นตัวครัวตัว I (ไอ) พอเหมาะกับการใช้งานในคอนโดแบบ 1 ห้องนอน โดยเจ้าเคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาก็จะมีตู้เก็บของด้านล่าง ทั้งตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก

มือจับตู้จะมีการทำร่องให้สามารถสอดมือเข้าไปได้ จึงไม่ต้องมีมือจับติดหน้าบานตู้ทำให้ดูเรียบร้อย ไม่ต้องห่วงเรื่องมือจับชำรุด

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 3 ช่องนะคะ ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน อีกช่องเป็นเคาน์เตอร์โล่งไว้ให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร Top Counter ได้วัสดุเป็นกระเบื้องสังเคราะห์ เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ซิงค์ล้างจานให้ของ Teka มีขนาดและความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา

นอกจากนี้ก็จะมีเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้ของ Teka เป็นระบบปล่อยควันออกไปด้านนอกจึงระบายอากาศได้ดีกว่าแบบหมุนเวียน แต่จะไม่ได้มีเตาไฟฟ้าติดตั้งมาให้นะคะ

ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนมีตู้บานเปิด + ช่องโล่งให้วางของ และวางไมโครเวฟได้

พื้นห้องครัวที่ได้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ จึงง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนประตูห้องครัวเป็นแบบบานพับ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้าง

อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งขนาดตู้เย็นในห้องตัวอย่างคือ 9 คิว พอดีๆ กับพื้นที่ว่างมุมนี้ ส่วนตัวคิดว่าพอใช้สำหรับ 1-2 คนนะคะ

เข้ามาดูห้องน้ำกันต่อ ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด และยัง Built-in ชั้นวางของและสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้แบบในห้องตัวอย่าง จุดเด่นของห้องน้ำที่นี่คือเป็น Smart Design ที่ออกแบบโดยรวบรวมระบบท่อไว้ในห้องของเราเอง เวลาซ่อมห้องน้ำก็ไม่ต้องไปรบกวนห้องชั้นล่างตามแบบระบบอาคารแบบเดิมๆ

อ่างล้างหน้าของ COTTO มีขนาดมาตรฐาน ด้านหลังอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้ได้

โถสุขภัณฑ์ของ COTTO มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่

ส่วนที่เราชอบเลยคือ ชั้นวางของที่เค้า Built-in มาให้หลายช่อง สามารถวางทั้งของใช้และของตกแต่งได้เยอะเลยค่ะ

ต่อไปมาดูพื้นที่อาบน้ำกันบ้าง จะมีฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอน เสียดายนิดนึงเรื่องความสูงของฉากกั้นอาบน้ำที่ไม่สูงถึงฝ้าเพดาน ถ้าเป็นคนตัวสูงแบบ 180 cm. ก็ต้องมีก้มหลบกันหน่อยนะ

ในห้องน้ำจะมีการยกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง จึงเป็นสัดส่วนดีทีเดียว โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1 m. ใช้งานได้สะดวกพอสมควร

ดีเทลอีกจุดหนึ่งก็คือ ตรงท่อระบายน้ำจะมียางซิลิโคน สำหรับใช้ปิดกันกลิ่นมาให้ด้วย

ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งอุปกรณ์มาให้เรียบร้อย ให้ฝักบัวของ COTTO ตามมาตรฐาน

นอกจากนี้ใน Shower Box ยังมีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้พร้อมเลยค่ะ

เนื่องจากห้องน้ำอยู่ด้านในอาคารจึงมีการติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้ เพื่อระบายกลิ่นออกด้านนอก

ถัดเข้ามาใน Living+Dining Area จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จึงสามารถนั่งเล่น, ทานอาหาร, ดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้หมด / ความสูงพื้นถึงฝ้าที่ 2.5 m. พื้นไม้ SPC ทนความชื้นมากกว่าพื้นลามิเนต ช่วยลดปัญหาเรื่องพื้นบวมน้ำนะคะ ส่วนผนังจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

เมื่อเข้ามาถึง Living+Dining Area ปุ๊บอย่างแรกเราจะพบกับตู้เก็บของที่โครงการ Built-in มาให้

เราสามารถใช้เก็บรองเท้า เก็บของที่ใช้ประจำอย่างพวกกุญแจรถ กุญแจบ้านได้ตั้งแต่หน้าห้องเลย ซึ่งตู้จะช่วยเก็บกลิ่นของรองเท้าได้รวมถึงพื้นภายในห้องยังไม่เลอะอีกด้วยนะ

ถัดเข้ามามีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ 2 ที่นั่ง ซึ่งจะได้โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้มาแบบนี้เลยนะคะ

ติดกับโต๊ะทานอาหาร จะเป็นตำแหน่งวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง ซึ่งเจ้าโซฟาและชั้นวางทีวีก็จะติดตั้งมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ โซนนี้จะมีระเบียงในตัวด้วย ทำให้ได้วิวและแสงธรรมชาติ

ความพิเศษของชั้นวางทีวีที่นี่จะสามารถหมุนผนังได้ แบบนี้ติดตั้งทีวีเครื่องเดียวในห้องก็สามารถใช้ได้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลยนะคะ

ติดกับโซฟาเป็นประตูระเบียงบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม + กระจกติดตัดแสงช่วยลดความร้อนเข้ามาในห้องพัก

ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.3 x 0.6 m. ใช้วางราวตากผ้าได้เต็มพื้นที่เลย เพราะเครื่องซักผ้าเค้าติดตั้งไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้วนะคะ

ระเบียงนี้เราสามารถใช้งานได้จริงเลยนะ เพราะเค้าแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูบานทึบ ภายในห้องค่อนข้างกว้าง วางเฟอร์ฯ ได้ครบตั้งแต่เตียงนอน 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งโครงการจะติดตั้งมาให้ครบถ้วนเลย

ตำแหน่งของเตียงนอนจะถูกวางไว้ชิดหน้าต่าง จึงนอนชมวิวพร้อมดูทีวีไปได้ ส่วนชั้นวางทีวีนั้นเป็นแบบที่สามารถหมุนผนังใช้แชร์ทีวีกับห้องนั่งเล่นได้ ไม่ต้องซื้อทีวี 2 เครื่องนะคะ

เตียงนอนที่โครงการให้มามีขนาด 5 ฟุต ซึ่งออกแบบให้มีช่องเก็บของใต้เตียงด้วย

หน้าต่างในห้องนอนนอกจากบาน Fix แล้วยังได้บานกระทุ้งมาด้วย จึงเปิดระบายอากาศได้

สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ Built-in จะได้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ทั้งตู้เสื้อผ้า+โต๊ะเครื่องแป้ง+เก้าอี้สตูล+ราวแขวนผ้า เชื่อว่าคุณผู้หญิงต้องชอบอย่างแน่นอน

ภายในตู้เสื้อผ้าจะแบ่งเป็นราวแขวนผ้าทั้งบนล่าง จึงเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ และมีลิ้นชักเก็บของแยกไว้ให้เก็บของได้เป็นสัดส่วน

ส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งก็มีลิ้นชักไว้ให้เก็บของกระจุกกระจิกได้อีก เรามองว่าเฟอร์ฯ ต่างๆ ที่โครงการ Built-in มาให้เก็บดีเทลได้เข้าใจคนอยู่คอนโดดีทีเดียวค่ะ

ไฟในห้องจะได้เป็นดาวน์ไลท์ พร้อมเครื่องตรวจจับความร้อนและกลิ่นควัน พร้อมสปริงเกอร์ครบถ้วน


ถัดมาที่ห้อง 1 Bedroom อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้างมีขนาดประมาณ 32 ตร.ม. ทำให้ฟังก์ชันทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว มีหน้าต่างและช่องระบายอากาศในตัวทั้งหมด จึงลงตัวในการใช้งานมากขึ้นแลกมากับราคาที่ขยับขึ้นมาประมาณ 5 แสนบาท เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คนกำลังดีค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะครบถ้วนไม่แพ้กับห้องแบบแรกเลยนะคะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Living+Dining Area กันก่อน ซึ่งโซนนี้จะเป็น Common Area ตรงกลาง และแยกห้องครัวกับห้องนอนไว้คนละฝั่งอย่างเป็นสัดส่วน

บริเวณหน้าห้องจะมีตู้รองเท้า Built-in และชั้นวางของไว้ครบถ้วนเลย

ภายในตู้เก็บของได้เยอะ ทำให้ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า

ห้องนี้จะได้โซฟาขนาดใหญ่ขึ้นนั่งได้ 2-3 ที่นั่ง ส่วนด้านข้างจะได้โต๊ะทานอาหารเข้ามุม พร้อมเก้าอี้ 2 ตัวค่ะ ซึ่งห้องนี้นอกจากจะมีหน้าต่างในตัวแล้ว ยังดูโปร่งขึ้นจากประตูห้องครัวที่เค้าเลือกมาเป็นบานเลื่อนกระจกด้วยนะคะ

สำหรับ Living Area ของห้องนี้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.5 m. เหมาะกับการวาง TV ขนาด ประมาณ 46 นิ้ว จะเป็นระยะที่สบายตา

พอตำแหน่งของโต๊ะทานอาหารอยู่ติดกับโซฟาแบบนี้ก็ทำให้เราสามารถทานอาหารพร้อมดูทีวีไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ

สำหรับห้องครัวของ Type นี้จะเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเป็นสัดส่วน วางตำแหน่งไว้ติดกับโต๊ะทานอาหารจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้ดีเลยค่ะ

ภายในห้องครัวจะติดตั้งเคาน์เตอร์ พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและซิงค์น้ำ แบบพร้อมใช้งาน สเปกเดียวกับห้องแบบแรกที่ได้เป็นของ Teka ทั้งหมด

พื้นที่วางตู้เย็นของ Type นี้จะกว้างกว่าแบบแรกจึงวางตู้ที่ใหญ่กว่า 8.7 คิวได้นะคะ

ข้อดีอีกอย่างของห้องครัวแปลนนี้ก็คือ ติดกับระเบียง เราจึงระบายกลิ่นควันออกทางระเบียงได้อีกทางหนึ่งด้วย

ประตูเป็นบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนจึงสามารถเปิดประตูได้กว้าง

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.7×1.6 m. ซึ่งโครงการเดินงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย

จุดที่น่าสนใจคือ โครงการแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนทำให้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ และรั้วกันตกเป็นแบบเข้ามุมจึงได้ความโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น มองวิวได้ไกลขึ้นค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูเปิดปิดบานทึบ

ห้องนอนใน Type นี้จะมีห้องน้ำในตัว ทำให้พื้นที่ผนังบางส่วนกลายเป็นทางเข้าห้องน้ำ จึงจะไม่ได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Full Option เหมือนแบบแรกนะคะ แต่ก็วางเฟอร์ฯมาให้ครบทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องนอนให้เตียงขนาด 5 ฟุตมาเช่นเดียวกับแบบแรก วางตำแหน่งไว้ติดหน้าต่างเช่นกัน ส่วนผนังปลายเตียงของห้องนี้จะหมุนไม่ได้นะ ต้องซื้อทีวีมาติดตั้ง 2 เครื่อง หากอยากดูทีวีทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ

ข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สตูล ซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำเลย เวลาอาบน้ำเสร็จก็มาแต่งตัวต่อได้สะดวกดี

ส่วนในห้องน้ำจะเป็น Smart Design เช่นกัน ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน มาพร้อมโถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก COTTO ส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้องน้ำที่นี่เลยก็คือ มีช่องวางของได้เยอะค่ะ

หน้าตาของปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ได้ของ Schneider ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Escent Trang (เอสเซ็นท์ ตรัง) ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2566

  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 28 ตร.ม. เริ่ม 1.86 ล้านบาท หรือ 66,428 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 32 ตร.ม. เริ่ม 2.33 ล้านบาท หรือ 72,812 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 54 ตร.ม. เริ่ม 3.9 ล้านบาท หรือ 72,222 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
  • จอง 10,000-20,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000-40,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 56 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : ทำเลของคอนโด Escent ตรังนั้นมีตำแหน่งของโครงการที่แตกต่างจากโครงการของ Developer อื่นๆ เลยนะคะ เพราะอยู่ใกล้ห้างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง 200 m. สามารถเดินไปกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนังได้ทุกวัน ความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าครบครันมาก และเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเด็กนักเรียนและผู้ปกครองที่อยากให้ลูกหลานมีที่พักอยู่ใกล้สถานศึกษา และตอบโจทย์คุณหมอในโรงพยาบาลใกล้ๆ รวมถึงผู้ที่อยากมีคอนโดอยู่ใกล้โรบินสันในระยะเดินไปได้สบาย เอาไว้เป็นบ้านหลังที่สองก็น่าสนใจค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ตั้งอยู่บนถนนศรีตรังเชื่อมต่อถนนหลักได้ทั้ง 2 สาย คือถนนเพชรเกษมและทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4045 (ถ.บางรัก-ควนขัน) จึงไปอำเภอและจังหวัดข้างเคียงได้ง่าย ซึ่งตัวโครงการให้พื้นที่จอดรถประมาณ 36% ถือว่ามาตรฐานสำหรับโครงการในต่างจังหวัดนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าสะดวกพอสมควร เพราะแค่เดินออกมาหน้าถนนศรีตรังประมาณ 100 m. ก็ถึงถนนใหญ่ที่มี Taxi และรถสาธารณะให้ใช้งานได้

วัสดุ : ภายในห้องส่วนที่เป็นมาตรฐานถือว่าให้มาค่อนข้างไปทางดี ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ทั้งห้อง เช่น ตู้รองเท้า เคาน์เตอร์ครัว ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ+เก้าอี้ทานอาหาร ซึ่งเฟอร์ฯแต่ละชิ้นจะมีพื้นที่เก็บของ ช่องใส่ของต่างๆ เยอะทีเดียวนะ ซื้อเพิ่มแค่ฟูก,ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย นอกจากนั้นยังมีวัสดุพิเศษที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไปเช่น พื้นห้องเป็น SPC ที่ทนต่อความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนตทั่วไป

การออกแบบ :

ตัวอาคาร – จุดเด่นของการออกแบบที่นี่คือการยก Facilities หลักๆ ของโครงการไว้ที่ชั้น 17 เปิดรับวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้าน ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2-22 สูงพอสมควรที่จะพ้นการบล็อกวิวจากอาคารรอบข้างมาได้ แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตไม่เยอะได้ความเป็นส่วนตัว

ตัวห้อง – สำหรับห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบ 1-Bedroom และ 2-Bedroom ซึ่งเรามองว่าเค้าออกแบบดีเทลในห้องมาดี เช่น ท่อระบายน้ำที่ซ่อนเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำแบบ Smart Design ที่ออกแบบโดยรวบรวมระบบท่อไว้ในห้องของเราเองจึงซ่อมบำรุงง่าย

สำหรับแปลนห้อง 1-Bedroom เราชอบการจัดแปลนที่ทำให้ทุกห้องได้เป็นสัดส่วน ได้ห้องครัวปิด ห้องนอนก็เป็นประตูทึบ ส่วน Living&Dining Area ได้พื้นที่รวมกันทำให้ดูกว้าง ส่วนแปลนห้อง 2-Bedroom จะมีให้เลือกทั้งแบบมีห้องน้ำเดียว กับมี 2 ห้องน้ำ ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับ Living&Dining Area เหมือนกันทั้ง 2 Type ก็อาจจะมีปัญหากลิ่นควันเวลาทำอาหารบ้าง ซึ่งพอดูแปลนแล้วห้อง 2-Bedroom จะเป็นห้องมุมทั้งหมด มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง อากาศจึงถ่ายเทได้ดีขึ้น

สาธารณูปโภค : ได้ Facility ค่อนข้างหลากหลาย, ฟังก์ชันน่าใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกบ้านที่ชอบส่วนกลางเยอะๆ ชอบการชมวิวบนชั้นสูงๆ

Judgement

เนื่องจากโครงการ Escent ตรัง เป็นคอนโดมิเนียมในทำเลที่ทาง Think of Living ไม่คุ้นเคยจึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันได้นะคะ

Escent ตรัง เหมาะกับใคร

คอนโด Escent ตรัง เหมาะกับคนมองหาคอนโดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะดวกสบาย อยากอยู่ติดโรบินสัน ชอบโครงการที่ยกส่วนกลางไว้บนชั้นสูง น่าใช้งาน ว่ายน้ำไปชมวิวเมืองไปได้ ให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัย ยอมจ่ายราคาสูงได้ถ้าสินค้าคุณภาพดี มีงบประมาณเริ่มต้น 1.86 -3.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 13,000-27,000 บาทต่อเดือน