รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.111 – รีวิวคอนโด Equinox พหล-วิภา
28 ธันวาคม 2014
รีวิวฉบับที่ 568 … Mr.Oe จะพาไปดูโครงการ Equinox ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ของ Major Development ที่เพิ่งจะเสร็จและกำลังอยู่ในช่วงทยอยโอนห้องให้ลูกค้าอยู่นะครับ รีวิวฉบับนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ผมเขียนถึงโครงการนี้ โดยผมเคยทำรีวิว Equinox ไปแล้วเมื่อเกือบสามปีก่อน เป็นรีวิวฉบับที่ 13 อันเป็นรีวิวแรกที่ผมเขียนให้ ThinkofLiving อย่างเป็นทางการครับ 🙂 เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ในรีวิวฉบับที่ 568 นี้ ผมจะไม่พูดซ้ำของเดิม แต่จะเน้นพาไปดูตึกของจริง ด้วยกันครับ 🙂
Fact @ 01 May 2014
- Equinox Phahol-Vibha (อีควิน็อกซ์ พหล-วิภา)
- Major Development Public Company Limited
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ด้านหน้าติดถนนวิภาวดี ด้านหลังมีทางออกพหลโยธิน, แขวงจอมพล เขตจตุจักร
- คอนโด High Rise 42 ชั้น 490 ห้อง (มีตึกคู่กันเป็นอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้น)
- จำนวนห้องต่อชั้นสูงสุด 17 ห้อง
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 440 คัน คิดเป็น 90%
- ที่ดินประมาณ 3-0-92 ไร่ (ที่ดินคอนโดไม่รวมที่ดินอาคารสำนักงาน)
- อยู่ในระหว่างตรวจรับและโอนห้อง โครงการพร้อมเข้าอยู่
- 1 Bedroom 30 – 40 ตารางเมตร ราคาปัจจุบัน 4.5 ล้านบาท (ห้อง 40 ตารางเมตร)
- 2 Bedrooms 60 – 76 ตารางเมตร ราคาปัจจุบัน 7.0 ล้านบาท (ห้อง 60 ตารางเมตร)
- Duplex Penthouse 106 – 290 ตารางเมตร ราคาปัจจุบัน 46.5 ล้านบาท (ห้อง 290 ตารางเมตร)
- ฝ้าเพดานสูง 2.9 เมตร
- ราคาเริ่มต้นปัจจุบันประมาณ 4.5 ล้านบาทหรือประมาณ 113,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาต่อตารางเมตรปัจจุบันเฉลี่ยประมาณ 120,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ MRT พหลโยธิน ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: MRT พหลโยธิน
- http://www.equinox-bangkok.com
- โทร 02-272 2200
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.809454, 100.558950
แผนที่โครงการ
ในส่วนของทำเล และตัวโครงการ ผมเคยมีทำรีวิวไปแล้วเมื่อ เดือนกันยา ปี 2554 ใครที่ยังไม่เคยอ่าน สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่ รีวิวฉบับที่ 13 Equinox นะครับ
ผ่านมาแล้ว เกือบ 3 ปี ทำเลตรงนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปมิใช่น้อย Central ปรับโฉมใหม่แล้ว Union Mall ก็คึกคักขึ้นมาก ย่านลาดพร้าวต้นๆ กลายเป็นทำเลที่มีคอนโดตามซอย ผุดขึ้นมาหลายตึกพอสมควร เปลี่ยนรูปแบบการพักอาศัยในชุมชนย่านนี้ไปมากทีเดียว … ทำเลของ Equinox คงหวังพึ่งพิง ความสมบูรณ์ของร้านค้าร้านอาหารในซอยเฉยพ่วงนะ เพราะถือเป็นศูนย์กลางอารยธรรม ของหนุ่มสาวออฟฟิศแถวนี้ ซึ่งมี อาคารบางกอกแอร์เวย์, เล้าเปงง้วน, ตึกซัน และธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ เป็นหลักอยู่แล้ว … แต่ของ Equinox จะพิเศษหน่อย เพราะตึกคู่แฝดที่สร้างมาคู่กัน ก็เป็นอาคารสำนักงาน ที่ชั้นล่างเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งจะเพิ่มความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายในการพักอาศัย เพิ่มขึ้นได้อีกมาก
ตัวโครงการเข้าออกได้ทั้งจากทางด้าน วิภาวดี และ พหลโยธิน จึงเป็นความได้เปรียบในด้านการเดินทางมากนะครับ ถ้าเรามาจากดอนเมืองสามารถขึ้นสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวแล้ววนออกพหลโยธิน เลี้ยวเข้าโครงการได้ โดยไม่ต้องไปยูเทิร์นไกลๆ ส่วนการเข้าจากทางด้านวิภาวดี ถือเป็นทางหลักที่เข้าใจไม่ยากอยู่แล้ว
ด้านหน้าตัวโครงการอยู่ใกล้สะพานข้ามแยกลาดพร้าว ดังนั้น ถ้าจะออกจากโครงการมุ่งหน้าดอนเมือง ต้องออกทางพหลโยธิน แล้ววนเข้าซอยเฉยพ่วง แล้วจึงจะขึ้นสะพานข้ามแยกได้นะ สะดวกน้อยลงหน่อย แต่ไม่ได้ลำบากเท่าไหร่ วนใกล้ๆครับ
รีวิวฉบับที่ 13 ที่ผมเคยทำไปนานแล้วนั้น มีแต่รูป และโมเดล และห้องตัวอย่าง ให้ดู ซึ่งต้องอาศัยจินตนาการและความคาดหวัง กันมากหน่อย … รีวิวฉบับนี้ ผมจะเน้น พาไปดูของจริง สภาพจริงนะครับ และจะเพิ่มส่วนรายละเอียดที่ตกหล่นไปเข้ามาในรีวิวฉบับนี้ด้วย เดี๋ยวเราไประลึกความหลัง ดูรูปเก่าตอนเปิดตัวกันก่อน แล้วค่อยไปดูของจริงครับ
รูปที่โปรยมาให้ดูตอนเปิดตัวครับ ให้ดูกันชัดๆว่า ตัวโครงการวางตึกยังไง ตัว Equinox นี้ เขาสร้างมาสองตึกนะครับ เป็นอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้น(ไม่รวมยอดตึก) และคอนโด สูง 42 ชั้น … ตึกที่ใกล้ตาเราคืออาคารสำนักงาน ส่วนตึกที่อยู่ถัดไปคอนโดครับ สีและการตกแต่ง จะเปลี่ยนไป ไม่ตรงกับในรูปนี้นัก
หน้าตาโครงการมองจากทางด้านหน้า ฝั่งถนนวิภาวดี ขวามือคืออาคารสำนักงาน ซ้ายมือคือคอนโด
รูป ขยายให้ดูกันชัดขึ้นนะครับ อาคารคอนโดจะอยู่ซ้ายมือ … โปรดสังเกตุสีตึกไว้
รูปตึก มองจากทางด้าน สวนจตุจักร
รูปด้านหน้าตึก ป้ายชื่อยังเป็นสีทอง ตัวตึกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนพวกป้อม รปภ และส่วนตกแต่งเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งของจริงมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนโทนสีใหม่
รูปด้านหน้าโครงการ เป็นแนว Art Deco ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งด้านนอกด้านใน
สวนด้านหน้าโครงการ มีประติมากรรม Equinox และน้ำพุ
ถนนด้านในโครงการ มีแนวกั้นแยกกันเด็ดขาดระหว่าง อาคารสำนักงานและคอนโด
รูปสระว่ายน้ำ บนชั้น 10 ซึ่งโทนสีและการตกแต่งของจริง แตกต่างไปเป็นคนละเรื่อง คนละอารมณ์ครับ
พื้นที่นั่งเล่น ที่ชั้น 10 นี่ก็แตกต่างจากของจริงไปมิใช่น้อย
ก่อนจะไปดูตัวโครงการของจริง เรามาทำความเข้าใจโครงการกัน ทีละชั้นๆ กันก่อนนะครับ ใจเย็นๆไม่ต้องรีบ 🙂
Master Plan ของโครงการ ขวามือคือด้านหน้าที่ติดถนนวิภาวดี ซ้ายมือคือด้านหลังที่ทะลุออกพหลโยธิน ด้านบนคืออาคารสำนักงาน ด้านล่างคืออาคารคอนโด โดยมีถนนกั้นกลาง ตัวคอนโดนอกจากจะมีพื้นที่จอดรถภายในอาคารแล้ว ยังมีพื้นที่จอดรถด้านหลังอาคารด้วย … รูปแบบการใช้งานคอนโดกับออฟฟิศ แยกกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เข้าออกกันคนละช่องสำหรับรถยนต์ ส่วนคนที่พักอาศัยในคอนโด เดินข้ามไปร้านค้าในอาคารสำนักงานได้สะดวกมาก
รูปขยายให้ดู ผังกันชัดๆนะครับ เรามา Focus กันที่อาคารคอนโด จะเห็นว่า เขาทำจุดวนรถและทางเข้าอาคาร แยกออกมาให้ได้ Privacy และไม่มั่วปนกัน มีต้นไม้และพื้นที่สวนด้านหน้า ทำหน้าที่เพิ่มความสวยงามและสร้าง Privacy บังมุมมองจากคนด้านนอกที่มองเข้ามาในอาคารอีกส่วนหนึ่ง… ด้านล่างมี Lobby เพดานสูงขนาดใหญ่ แต่ออกแนวโล่งๆ มี Reception และส่วนนิติ ตัวโถงลิฟท์โดยสารของลูกบ้าน จะแยกกับ ลิฟท์ขนของ(ดับเพลิง) เด็ดขาด ลิฟท์ขนของจะเข้าออกเชื่อมกับส่วนจอดรถได้ง่ายกว่า Mail Box ลูกบ้านทั้งหมดอยู่ในส่วน Lobby นี้ด้วย
ชั้น 10 เป็นชั้นสำคัญ เพราะเป็นชั้น Main Facility มีพวกสระว่ายน้ำ พื้นที่นั่งเล่น สวน สนามเด็กเล่น และ ห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้นนี้
Facility บนชั้น 10 ทั้งหมด
ผังชั้น 11-13 และชั้น 15 กับ 17 ซึ่งวางเป็นตัว L มีส่วนโถงลิฟท์ เกาะกลุ่มกันอยู่ตรงกลาง ลิฟท์โดยสารมี 4 ตัว ลิฟท์ขนของ(ดับเพลิง) 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 123 ห้อง ต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่า เกินค่ามาตรฐานไปเล็กน้อย ห้องที่อยู่ติดลิฟท์มีอยู่สองห้อง ซึ่งปกติเขาจะทำผนังมาหนากว่าผนังทั่วไปเพื่อเก็บเสียงอยู่แล้ว และทั้งสองห้องส่วนที่ติดลิฟท์ไม่ใช่ห้องนอน จึงน่าจะลดความกังวลเรื่องติดลิฟท์ไปได้บ้าง มีห้องอยู่หนึ่งห้องที่ประตูเปิดมาเจอโถงลิฟท์เลย เพราะอยู่ตรงข้ามโถงลิฟท์ แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะพลุกพล่านในช่วงคนใช้ลิฟท์เยอะ เพราะมีห้องที่ต้องเดินเข้าด้านนี้แค่ 12 ห้อง กระจายเข้าลิฟท์ 4 ตัว จึงน่าจะยังมี Privacy อยู่พอสมควร
วิวของโครงการ มีสี่ด้าน ด้านบน คือวิวทิศตะวันตก เห็นสวนสาธารณะ ที่ในอนาคต จะรวมเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ เหมือนมหานครที่เจริญแล้วทั้งมวล แต่ไม่ใช่ว่าจะเห็นสวยๆ เพราะมีตึกคู่แฝดที่เป็นออฟฟิศ บังแนวขวามือ และมีตึก TMB บังซ้ายมือ แถมนี่เป็นชั้นที่ยังไม่สูงพอที่จะเห็นวิวสวนแบบเต็มๆนะครับ … ห้องด้านนี้ เจอแดดตะวันตก ตอนบ่ายและเย็นจะร้อนกว่าด้านอื่นๆ เหมาะกับคนนอนตื่นสายยยย ออกจากบ้านบ่าย และกลับเข้าห้องตอนมืดแล้วครับ
ด้านล่างคือทิศตะวันออกฝั่งถนนวิภาวดี ซึ่งยังโล่งๆ ไม่ต้องกลัวมีใครมาสร้างตึกประชิดติดกัน เพราะติดถนน จะมีตึกได้ก็ฝั่งตรงข้ามนู่น ชั้นล่างๆ ยังได้วิวไม่สวย จะสวยมากๆ ก็ระดับชั้น 20 ที่เห็นไปไกลตามแนวถนนลาดพร้าว ทิศตะวันออกนี้ ตอนบ่ายและเย็นจะไม่ร้อนเท่าด้านอื่น เหมาะกับคนตื่นเช้าออกไปทำงานตามเวลามาตรฐาน กลับบ้านเย็นๆ
ด้านซ้ายคือทิศใต้ อยู่ประชิดติดตึกซัน มีห้องฝั่งนี้แค่ห้องเดียว ซึ่งเป็นผนังปิด ไม่ได้เปิดรับวิวด้านนี้ จึงไม่ใช่สาระอะไร … ไม่เหมือนกับด้านขวาที่เป็นทิศเหนือ จะมีห้องอยู่ 3 ห้องซึ่งต้องรับวิวด้านนี้ ซึ่งดูเหมือนกจะโดนอาคารสำนักงานคู่แฝดตัวเองบังมิด แต่ความจริงไม่บัง เพราะเขาวางตึกถอยหลบกันนะครับ(ไม่เชื่อดูรูปข้างล่างสิ) ห้องด้านทิศเหนือได้วิวเซ็นทรัลลาดพร้าว และมองยาวๆตามแนว ถนนวิภาวดี…แม้จะไม่โดนบังวิวแต่ห้องด้านทิศเหนือชั้นต่ำกว่า 35 จะเสีย Privacy จากการโดนส่องได้โดยคนที่อยู่อาคารสำนักงานครับ จะออกมาตากเครื่องใน หรือเปิดหน้าต่างโชว์การแสดงสิงโตทะเลกินมาม่า ก็ดูๆหน่อยละกัน
ให้ดูรูปการวางตึกอีกครั้ง จะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าด้านไหนเห็นอะไรครับ
ผังชั้น 14 ก็เหมือน ชั้นก่อนหน้านี้ที่อธิบายไปแล้ว เพียงแต่มีมุมที่เป็น Green Area แปะมาส่วนหนึ่ง
ผังชั้น 18-35 เหมือนก่อนหน้านี้ แต่แตกต่างมากในเรื่องวิว เพราะจะเห็นวิวสวยขึ้นมากในแทบจะทุกด้านครับ
ผังชั้น 36-40 เหมือนเดิมครับ เพียงแต่ปรับห้องให้เป็นห้องใหญ่ ทั้งชั้นมี 13 ห้องเท่านั้น
ชั้น 41-42 จะเป็นชั้นพิเศษ เพราะเป็นชั้นที่มีแต่ห้อง Duplex Penthouse ซึ่งชั้น 41 จะเป็นชั้นล่างของห้อง Duplex วิวของชั้น 41-42 เปิดโล่งแล้ว ไม่โดนบังวิว แต่เวลามองมุมกดลง จะเกะกะตึกใกล้เคียงบ้างนะครับ
ผังชั้น 42 ไม่มีอะไรมาก เป็นชั้น 2 ของห้อง Duplex Penthouse ครับ
อ่ะ.. ดูกันมาจนน่าจะเข้าใจรูปแบบโครงการแล้ว เดี๋ยวผมพาไปเดินดูของจริงที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆกันบ้างครับ
ด้านหน้าตึก จะเห็นว่าโทนสีจะจัดจ้านขึ้น ไม่เบาบางเหมือนในรูปที่ออกแบบไว้แต่แรก
ตัวตึก ด้านทิศใต้จะประชิดกับ ตึกซันเลย
ด้านหน้าตึก จะอยู่ติดถนนวิภาวดี แต่ถ้าออกจากตึกด้านนี้ จะเลี้ยวซ้ายเข้าพหล และ ยูเทิร์นไปดินแดงได้เท่านั้น ตรงไป หรือขึ้นสะพานไม่ได้ เพราะอยู่ตรงเชิงสะพานพอดีเลย
ถนนวิภาวดี ด้านหน้าโครงการ ถ้าช่วงเย็นๆ รถติดหนักๆ สามารถเข้าด้านพหลโยธิน หนีรถติดได้บ้าง
ด้านหน้าโครงการ
ตัวป้อม รปภ จะเน้นสีทองตัดขอบน้ำเงินซึ่งดูดีมีราคาและเข้ากับแนว Art Deco กว่าสีน้ำเงินทั้งก้อนแบบในรูปเมื่อสามปีก่อนนะ
ป้าย Equinox
ตึกคู่พี่น้อง ซ้ายคอนโด ขวาสำนักงาน
ฝั่งสำนักงานยังเสร็จช้ากว่าคอนโดนะครับ จะเห็นว่า ถนนที่คั่นระหว่างอาคาร มีเกาะกลางรั้วและต้นไม้กั้นไว้
ทางเข้าส่วนคอนโด จะแยกเด็ดขาดจากส่วนอาคารสำนักงาน มีรปภ ทีวีวงจรปิด และไม้กระดก รวมถึงแผงกั้น กันหลายอย่างเลย
ป้อมรปภ Art Deco มีสิ่งที่ไม่เข้ากันอยู่คือ เก้าอี้ รปภ นะฮะ 😀
แนวรั้วที่กั้น ระหว่าง สองอาคาร
ตัวตึกคอนโด ด้านนี้ จะเป็นบ่อน้ำ เป็นการสร้าง Space ไม่ให้คนเดินมาประชิด Lobby ของคอนโด ไปด้วยในตัว เพราะผนัง Lobby ด้านนี้เป็นกระจกใสครับ
ส่วน Drop Area หน้าทางเข้า Lobby เราจะเริ่มสังเกตุกันได้แล้วเนอะว่า สีมันทองๆ ทั้งโครงการเลย
สวนด้านหน้าโครงการ ทำเป็นที่นั่งเล่น ดูน้ำพุ
ประติมากรรม Equinox (Equinox คือวันที่มีช่วงเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากันพอดี) ทองเข้มเต็มๆอัน
ถนนด้านหน้าจะตรงเข้าไปส่วนจอดรถของอาคาร ซึ่งจะมีที่กั้นและรปภอีกชุดนะครับ Security ค่อนข้างเข้ม
ประตูเข้าอาคาร ซึ่งเปิดเข้าไปจะเจอ Reception และ Lobby
Lobby ด้านใน เป็น lobby เพดานสูง
ชุด Reception Desk ที่เห็นทางซ้ายมือ ปัจจุบันเป็นที่รับลูกค้าเข้าชมโครงการไปในตัว ส่วนโถงทางเดินตรงกลางนี้ จะเดินไปทะลุออกที่จอดรถ โดยมีสำนักงานนิติบุคคลอยู่ซ้ายมือก่อนถึงทางออกที่จอดรถ และมีห้องน้ำ กับทางเข้า Service Lift อยู่ทางขวามือตรงข้ามสำนักงานนิติครับ
ห้องน้ำ สำหรับแขกหรือคนที่มาติดต่อที่ Lobby ทองทั้งน้านนน
ตัว Mail box ของทุกห้องจะอยู่ด้านล่างในส่วน Lobby นี้นะครับ
กล่อง Mail Box นี่ก็ทองอร่ามไปทั้งห้อง
Lobby ส่วนนี้ จะดูแคบนะ ตัวโถง Lobby เขาเป็นรูปตัว L
ทางเข้าส่วนโถงลิฟท์ ทั้ง 4 ตัวที่จะขึ้นด้านบนไปห้องต่างๆ ยืนอยู่ที่ Lobby ก็จะมีแสงสีทองส่องประกายออกมาแบบที่เห็น
โถง Lobby Lift ที่นอกจากจะใส่สีทองแล้ว ยังจัดแสงเพิ่มเข้าไปอีก
โถงลิฟท์แบบเต็มๆ ที่เน้นสีทองจัดที่สุดแล้ว ในส่วนของการตกแต่งอาคารทั้งหมด
ทางวนขึ้นลงที่จอดรถ ขนาดมาตรฐาน มีจุดวนไม่ได้ลำบากอะไร แต่ถ้ามีรถจอดแนวขวาง จะวนยากหน่อย
ที่จอดรถ จอดเข้าซอง สบายๆ จำนวนที่จอดระดับ 90% แถมมีที่จอดด้านล่างเยอะ ใครขี้เกียจวนขึ้นตึก หรือรถคันใหญ่ๆ ก็จอดด้านล่างได้
ที่จอดรถด้านหลังที่ยังทำไม่เสร็จนะครับ
บริเวณที่จอดรถ
โถงลิฟท์ ชั้น 10 ที่แตกต่างคนละเรื่องกับ ตรง Lobby นะครับ ไม่ได้ทองแล้วนะ
เอาผัง Facility ชั้น 10 มาให้ดูอีกทีนะ จะได้ไม่ต้องเลื่อนขึ้นไปดูให้เมื่อยมือ
สระว่ายน้ำ ที่ชั้น 10 จะแตกต่างจากรูปในโบรชัวร์ ซึ่งพูดกันจริงๆ ผมว่าทำมาเข้ากันกับตึกของจริงกว่านะ ลองมาดูเองได้
ระดับสระว่ายน้ำ จะอยู่สูงกว่าทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ แช่น้ำดูรถวิ่งผ่านไปมาได้ รถวิ่งกันเร็ว มองเราไม่ทันหรอก 🙂
ขอบสระจะทำเป็นที่นั่งแช่น้ำเล่น
อันนี้รูปในโบรชัวร์เมื่อสามปีก่อน
สระว่ายน้ำ ของจริง… สิ่งที่แตกต่างกันอย่างมากคือ สระของจริงไม่มีคนนุ่งบิกินี่สักกะคน…
ให้ดูระดับความสูงว่า อยู่เหนือโทลเวย์ จริงๆนะ
ส่วนสระเด็กมีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย
Fitness อยู่ในห้องกระจกนี้ เขาปิดอยู่ ผมเลยเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ … ขออภัย
ห้องนี้ ในโบรชัวร์ ต้องจัดเป็น Library แต่ยังจัดไม่เรียบร้อย
พื้นที่ส่วนนั่งเล่น บริเวณนี้นั่งได้หลายกลุ่มครับ มีจัดชุดโซฟาและเก้าอี้ไว้เยอะเลย
เทียบกับรูปในโบรชัวร์เมื่อสามปีก่อน….
พื้นที่ด้านนี้จะอยู่ใกล้กับ ส่วนจอดรถของตึกซันนะครับ
เดินมาชะโงกดู ว่ามันติดประมาณไหน
ชุดโซฟานั่งเล่น ซึ่งเหมาะกับการตั้งกึ่ง out door แล้ว
ชุดที่นั่ง ซึ่งมีหลายชุด กระจายหลายจุด
อีกมุม
ส่วนสนามเด็กเล่น ปูหญ้าเทียม ซึ่งผมต้องขอเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองไว้ก่อนเลยนะครับ ว่าอย่าปล่อยเด็กเล่นกันเองโดยไม่ดูแลให้อยู่ในสายตา เพราะขอบกั้นตึกมันไม่ได้สูงมาก เด็กซนๆจะปีนได้ครับ ระวังให้มากๆไว้ก่อนไม่เสียหาย
ดูพื้นที่ขอบตึก เขาทำที่นั่งเล่นไว้ ดังนั้น เด็กซนๆ ปีนขึ้นได้นะครับ ไม่ได้มีอะไรกั้นด้วย
ตึก TMB ที่อยู่ติดกัน จะบังมุมทิศตะวันตกของด้านพื้นที่นั่งเล่นนี้ซะมิด มองไม่เห็นสวนจตุจักรหรอกนะ แต่มีข้อดีคือ TMB ช่วยบังแดดให้ ตอนบ่ายแก่ๆ ก็มานั่งเล่นได้แล้ว
บังวิว มิด แบบนี้แล…
วิวด้านทิศตะวันตก ของ Equinox ที่ชั้น 30 ในตำแหน่งห้องตรงกลางๆ จะเห็นสวนสาธารณะหลายสวน ซึ่งต่อไปจะรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่และน่าใช้ที่สุดของกรุงเทพตอนเหนือครับ … ด้านนี้การันตีไม่มีอะไรบัง แต่บางคนก็ไม่ชอบนะ มันโล่ง และร้อนกว่าด้านอื่น
มองมุมกด เห็นสวนเต็มๆ แต่มองไปทางขวาได้ไม่สุด เพราะจะติดอาคารสำนักงาน
อาคารสำนักงาน สูง 30 ชั้น ที่บังวิวทางขวามือไว้ เราต้องเผื่อความสูงของเครื่องประดับบนยอดตึกด้วยนะครับ
วิวด้านทิศเหนือ เห็นห้าแยกลาดพร้าวแบบเต็มๆ ซ้ายมือคือสวนจตุจักรและสวนรถไฟ ขวามือเหลืองๆนั่น Union Mall เห็น Central และแนวถนนวิภาวดี
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก้มมองเห็น เซนต์จอห์น ที่รื้อไปแล้ว และกำลังปรับใหม่เป็น mixed use ซึ่งเราคงจะเห็นอะไรดีๆ ขึ้นในบริเวณนี้ได้อีกนะครับ
ทิศตะวันออก วิวเปิดโล่งมาก เป็นย่านลาดพร้าว มองเห็นไปได้ไกลๆครับ
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ มองเห็นตึกการบินไทย และพื้นที่ตลาดลุงเพิ่มหลังตึกการบินไทยด้วยนะ … ฝั่งนี้โล่งดี แต่คนละอารมณ์กับฝั่งตะวันตก ฝั่งนี้จะเป็นตึกรามบ้านช่อง และก้มลงเห็นถนนวิภาวดีที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา… ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นพื้นที่สีเขียวที่ดูนิ่งและสงบกว่า … ใครชอบแบบไหน ขึ้นไปเล็งดูของจริงเองนะครับ ตึกเขาสร้างเสร็จแล้ว วิวไหนสวย ห้องไหนโดนบัง ก็ไม่ต้องมโน กันอีกต่อไป
ดูห้องของจริง
ตอนนี้เรียกว่าห้องของจริงได้แล้วนะครับ เป็นห้องจริงขายจริง แต่เขาตกแต่งเพิ่มเพื่อให้เป็นห้องตัวอย่างที่ลูกค้าจะได้เข้าใจพื้นที่และการใช้งานจริงๆ .. ห้องมีให้ดูห้องเดียว เป็นห้อง 1 Bedroom นะครับ
ผังห้อง 1 Bedroom Type B ขนาด 38 ตารางเมตร ห้องนี้ได้ครัวเปิด พอวางตู้เย็นและเชื่อมโต๊ะทานข้าวเข้ามา เลยแลดูคล้ายตัว U ไป ห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบบางส่วนและใช้ประตูบานเลื่อนกระจกทึบ ทำให้วางทีวีได้ไม่ Center ทั้งห้องนั่งเล่นและในห้องนอน มีพื้นที่วางโต๊ะทำงานอเนกประสงค์อยู่ติดหน้าต่าง มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอน ซึ่งห้องน้ำของจริง เวลาเปิดประตูเข้าไปจะเปิดได้ 90 องศา เพราะจะชนกับโถสุขภัณฑ์นะครับ พื้นห้องเป็น Engineering wood ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.9 เมตรครับ
โถงทางเดินหน้าห้อง ยังเก็บงานไม่เรียบร้อย หลายห้องยังทำไม่เสร็จนะครับ จะยังมีช่างทำงานในตึกไปอีกสักระยะ
ประตูหน้าห้อง
ประตูหน้าห้อง ซึ่งพื้นของห้องจะยกสูงกว่าพื้นของโถงทางเดินด้วยเล็กน้อย
เปิดประตูเข้ามา จะเป็นส่วนของ Living Area
ห้องนี้เป็นห้องด้านทิศตะวันตก เปิดประตูเข้ามาเราจะมองโล่งทะลุออกระเบียงไปเจอสวน พื้นที่สีเขียวของสวนจตุจักรอย่างที่เห็น
มองย้อนกลับไปที่ประตู
แอร์ที่ห้องเป็นแบบฝังฝ้า
ชุดครัว เขาไม่ได้วางตู้เย็นมาให้ดู ตำแหน่งวางตู้เย็นจะอยู่ข้างๆกับประตูทางเข้าห้องครับ
ตำแหน่งวางตู้เย็นแบบนี้ ผมแนะนำให้เลือกตู้เย็นที่ผอมที่สุด จะได้ไม่เกะกะมาก
โต๊ะทานอาหาร เชื่อมต่อกับ Pantry ทำให้สามารถใช้เป็นส่วนเตรียมอาหารได้ แต่ให้โต๊ะมาแคบไปหน่อย วางจานชนกันแบบนี้ นั่งกินข้าวท่าปกติลำบาก เข่ามันจะชนกัน วางจานก็ชนกัน คงต้องนั่งเยื้องๆกันแทน.. เสียความโรแมนติกไป 25%
ถ้าอยู่คนเดียว ก็นั่งกินข้าวดูวิวสวนจตุจักร โอเคอยู่นะ
ชุด Pantry พื้นที่ทำครัว เต็มไม้เต็มมือดี ได้ชุดครัวของ Starmark นะครับ
Sink ฝังของ Teka
เตาและเครื่องดูดควัน Teka แต่ชุดนี้ คงทำอาหารได้แบบเบาๆไม่จริงจังนะครับ เครื่องดูดควันไม่ได้แรงมาก และเป็นครัวเปิดด้วย
พื้นที่นั่งเล่นดูทีวี ซึ่งตำแหน่งวางทีวีที่ออกแบบมา คือตรงที่วางตู้สีดำๆนั่นแหละ ดังนั้น มันจะไม่ Center กับโซฟานะครับ
ห้องนอน ใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้
จริงๆแล้ว ถ้ากัดฟัน วาง Side Board แคบๆยาวมาถึงประตูกระจก แล้ววางทีวี LED บางๆ ก็พอจะทำได้นะ สำหรับคนที่ต้องการได้ TV Center กับโซฟา แต่ความสวยงามกลมกลืนกันของห้องจะลดลง
ระเบียงรับวิว ฝั่งตะวันตกสวนจตุจักร
ตัวระเบียง กั้นด้วยประตูกระจกอลูมิเนียม วางบน Curb แบบนี้ ไม่ได้สูงมาก
ชุดตัว Lock ประตู และขอบวงกบ ก็ทำออกมาใช้ได้
ขอบวงกบประตูอลูมิเนียม
ชุดวงกบประตูนี้ ค่อนข้างหนา และ ซีลออกมาดีใช้ได้ ปิดแล้วแน่นหนา ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวน จากลมตีกระพือ และไม่ค่อยได้ยินเสียงการจราจร … โครงการอยู่ติดถนนใหญ่สองเส้น หน้าหลังแถมใกล้ห้าแยกลาดพร้าวซึ่งการจราจรหนาแน่น เรื่องเก็บเสียงนี่ก็ต้องพิจารณาด้วย
ตัวระเบียง มีพื้นที่ใช้งาน ประมาณนี้
เครื่องซักผ้ามีที่ทางวางอยู่ใต้คอมแอร์
คอมแอร์ แขวนผนัง เป่าลมร้อนออกนอกอาคาร
งาน จะยังดูไม่ค่อยเรียบร้อยนะครับ เพราะยังคงต้องมีการเก็บงานก่อนส่งมอบห้องอีกรอบ
ตัวห้องนอน ใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้
ที่จับ และเลื่อน
ชุดบานประตูกระจก แขวนรางบน
มันจะมีช่อง ค่อนข้างเยอะ สำหรับพวกชุดบานเลื่อนแขวนรางบน ดังนั้นมันจะไม่เก็บเสียงเท่าที่ควร คุยอะไรกับใครที่โซฟา ก็อย่านึกนะว่า คนในห้องนอนไม่ได้ยิน… ระวังๆกันหน่อย 🙂 อีกข้อคือ เวลาเปิดแอร์แค่ห้องเดียวแอร์มันจะไหลออกมาได้บ้างนะครับ
ห้องนอน วางเตียงห้าฟุตนะครับ
กระจกตรงหัวเตียงนี่ ติดไว้ก็ดีนะ 🙂
wall paper ไม่ได้ให้มา ส่วนสวิทช์เปิดปิดไฟ หน้าตาแบบนี้
โต๊ะทำงานอเนกประสงค์ที่วางอยู่ริมหน้าต่าง
น่าเสียดาย ที่ไม่ได้พื้นที่หน้าต่างรับวิวเต็มที่ เพราะเสียพื้นที่ให้กับคอมแอร์ด้านข้างระเบียงไป
แอร์ห้องนอนได้แบบ Wall Type นะ ส่วนทีวี ต้องแขวนผนังในตำแหน่งนั้นเท่านั้น เราจึงได้ ทีวีที่มันไม่ Center กับเตียงนะ
ตู้เสื้อผ้าวางหน้าห้องน้ำ พื้นที่ตรงนั้นเลยกลายเป็นเหมือนโถงทางเดินเล็กๆ เข้าสู่ห้องน้ำไป เวลาเมาๆ อย่าเดินไปฉี่ในตู้เสื้อผ้าล่ะ
ประตูห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายนะ
พื้นที่หน้าห้องน้ำ
ห้องน้ำพื้นจะลดระดับเล็กน้อย ไม่มีธรณีประตูให้สะดุด
มือจับประตูห้องน้ำ
ตัวประตูของที่นี่จะซีลค่อนข้างดี บางคนไม่เข้าใจ ว่าจะซีลไปทำไมกันกับประตูห้องน้ำ 🙂 จริงๆแล้วการซีลประตูห้องน้ำนี่ดีมาก โดยเฉพาะห้องน้ำในห้องนอน เพราะห้องน้ำจะมีความชื้นมาก แม้เราไม่ได้อาบน้ำ ไม่เปียก แต่โถสุขภัณฑ์ก็มีน้ำขังตลอดเวลา ความชื้นมันจะกระจายออกมาในห้องนอน ทำให้แอร์ทำงานหนักเพื่อรีดความชื้นออกไป (ว่ากันว่า 70% ของการทำงานของแอร์คือการไล่ความชื้น ) และนอกจากนี้ การนอนสูดเอาความชื้นจากห้องน้ำในทุกๆคืน ก็ไม่ดีต่อสุขภาพด้วย … ไม่นับกลิ่นจากการทำธุระสำคัญนะฮะ
แม้ว่าวัสดุต่างๆเขาจะทำมาดี แต่พวกการเก็บงานรายละเอียด ยังมีจุดบกพร่องอยู่เยอะพอสมควรนะครับ ไม่เรียบร้อยสวยงาม ซึ่งของพวกนี้ ต้องตาดีๆหน่อย จะได้ให้เขาแก้ไขให้ครบ
ตัวขอบคิ้ว ที่ใช้ตกแต่งประตูและส่วนต่างๆ จะเล่นเส้นสแตนเลสแบบนี้
พอเปิดประตูเข้าห้องน้ำจะเปิดได้แค่นี้แหละ มันติดโถสุขภัณฑ์ทางขวามือครับ
ระวังๆหน่อยก็ดีนะตอนเปิด กระแทกแรงๆจะเสียหายเอา
อ่างล้างหน้า American Standard ชุดก๊อกน้ำ GROHE
โถสุขภัณฑ์ American Standard ใหญ่และอวบดี คนก้นใหญ่นั่งสบาย
ฝ้าและไฟ เขาให้มาแบบนี้เลยครับ
Shower Box อยู่ทางด้านซ้ายมือ
ประตูเป็นแบบ ผลักเข้า
เขากั้นกระจกนิรภัยเรียบร้อย
มีที่นั่งอาบน้ำด้วยนะ
ชุดฝักบัวได้ Rain Shower ก๊อกน้ำผสมน้ำร้อนเย็นมาให้
ชุดฝักบัวของ GROHE สวยและนุ่มมือ
Rain Shower
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 01 May 2014 (ห้องที่ยังเหลืออยู่ ณ.วันที่เข้าไปเก็บข้อมูล)
- 1 Bedroom เนื้อที่ 40 ตารางเมตร ชั้น 17 ทิศตะวันตก ราคา 4.55 ล้านบาท หรือ 113,750 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เนื้อที่ 60 ตารางเมตร ชั้น 22 ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ราคา 7.0 ล้านบาท หรือ 116,660 บาท/ตร.ม.
- Duplex Penthouse 290 ตารางเมตร ชั้น 41/42 ทิศตะวันตก ราคา 46.5 ล้านบาท หรือ 160,350 บาท/ตรม.
- Fully Fitted แถมแอร์ครบ
- เพดานสูง 2.9 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- พร้อมโอน
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 30 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Equinox เป็นโครงการที่อยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ตัวทำเลและรูปแบบโครงการจะแตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมมาตรฐานทั่วไปนะครับ เพราะสร้างมาพร้อมกับคู่แฝดที่เป็นอาคารสำนักงาน 30 ชั้น และมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ด้านล่างของอาคารสำนักงานนั้นด้วย ตัวทำเลเชื่อมถนนหลักสองเส้น เป็นถนนสายสำคัญของกรุงเทพทั้งคู่คือ ด้านหน้าติดถนนวิภาวดีรังสิต ด้านหลังเชื่อมออกถนนพหลโยธิน ตรงข้ามโครงการฝั่งถนนพหลโยธิน คือสวนจตุจักร ซึ่งกำลังจะมีการรวมสวนใกล้เคียงเข้าด้วยกัน เพื่อคืนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้กับประชาชน สวนขนาดใหญ่นี้ จะเป็นแหล่งพึ่งพิง เดินเล่นออกกำลังกาย ของชาวกรุงเทพย่านนี้ ไปอีกนานครับ
สภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์รายรอบโครงการ จัดอยู่ในระดับ สมบูรณ์อิ่มอ้วน เพราะนอกจากร้านค้าร้านอาหารที่อยู่ตึกติดกันแล้ว ยังเดินไปซอยเฉยพ่วงข้างๆ ที่เป็นที่รู้กันว่า ใต้ตึกซันและซอยเฉยพ่วงนี่มันน้องๆ ซอยละลายทรัพย์กันเลยทีเดียว คุณสาวๆคงจะชอบนะ กลางวันของขายเยอะดี… ความอุดมสมบูรณ์คึกคักนี้ มีได้ เพราะตรงนี้เป็นแหล่งอาคารสำนักงาน ที่มีกันอยู่หลายตึก คนเข้าออกทำงานในช่วงกลางวันตรงนี้ มีหลักหมื่น และถ้าสำนักงานตึกคู่แฝดเปิด ก็คงจะมีคนและความคึกคักเพิ่มหนักเข้าไปอีก… ส่วนพวกห้างที่อยู่ใกล้ๆ อย่าง เซ็นทรัลลาดพร้าว หรือพวกตลาดอ.ต.ก ตลาดลุงเพิ่มอะไรพวกนี้ ถ้าอยู่แถวนี้ได้ไปใช้แน่นอน
ทำเลตรงนี้ กลางวันคึกคักมาก แต่พอตกค่ำ จะเงียบนะครับ เพราะคนกลับบ้านกันหมดแล้ว แต่ความที่โครงการติดถนนใหญ่สองด้าน จึงไม่ได้เปลี่ยวหรือน่ากลัวอะไร ตอนดึกๆ ตีสองเป็นต้นไป จะมีพี่ๆตำหนวด มาตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ใกล้ๆกับหน้าโครงการ สร้างความอบอุ่นให้กับเรา แบ่งเบาปัญหาอาชญากรรมด้วยซ้ำไป … ถ้าเราไม่ดื่มอ่ะนะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ถือว่าสะดวกเป็นอย่างมาก เพราะใช้ถนนหลักได้สองเส้นทาง ในช่วงที่รถติดสามารถหลบหลีกเข้าออกอีกทางได้ และความที่สามารถวนเข้าซอยเฉยพ่วงได้ ยิ่งเพิ่มความสะดวกในการวนรถขึ้นสะพาน หรืออ้อมออกไปทางอื่นได้อีกมาก… คนใช้รถสามารถใช้ทางด่วน ขึ้นลงได้สามจุดหลักเพื่อหนีรถติด คือ ด่านดินแดง ด่านกำแพงเพชร และด่านประชาชื่น … ข้อเด่นมากสำหรับคนใช้รถคือ จำนวนที่จอดระดับ 90% ซึ่งน่าจะมั่นใจได้ว่า มีที่จอดพอเพียงแน่นอน และคนใช้รถใหญ่ๆ สามารถจอดในลานจอดด้านล่างได้ ไม่ต้องวนขึ้นตึก จอดได้หลายสิบคันอยู่
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ เลือกได้แทบทุกอย่าง พี่วิน, พี่ตู้, พี่แท็กซี่, น้องรถเมล์ ครบ อยู่ทั้งฝั่ง วิภาวดี และฝั่งพหลโยธิน สำรับคนที่กังวลเรื่องการข้ามถนนวิภาวดี ก็ไม่ต้องเครียด มันไม่ได้น่ากลัวหรือยากอย่างที่เห็นขนาดของถนน เพราะเราเดินลอดใต้สะพาน บนฟุตบาท และมีจุดให้ข้ามจริงๆ คือตรงส่วนที่รถยูเทิร์นเท่านั้นเอง ข้ามไม่ยากครับ… ส่วนรถไฟฟ้า สามารถเลือกได้ ทั้ง BTS จตุจักร และ MRT พหลโยธิน แต่เดินไป MRT สะดวกกว่า เดินได้ แต่ต้องขยันเดินหน่อยราวๆ 500 เมตร (BTS นั่งพี่วินสิบบาท วิ่งบนฟุตบาทตลอดทาง สบายยย)
ทำเลของ Equinox เป็นทำเลพึ่งพาตัวเองได้ มีออฟฟิศ และความสะดวกสบายรายรอบ เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ และไม่ใช้รถ ก็จริง แต่อย่าลืมว่า … นี่มันห้าแยกลาดพร้าวนะครับ ไม่ใช่โซน CBD ใจกลางเมือง ดังนั้น เราต้องมาแวะดูด้วยตัวเองว่า ทำเลตรงนี้ มันเหมาะกับการใช้ชีวิตของเราไหมนะ
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าคุ้มค่ามากนะ สำหรับคนที่ซื้อตั้งแต่ Presales แต่เมื่อโครงการปรับราคามาระดับนี้ คงต้องบอกว่า “สมราคา” ซึ่งตัวห้องไม่ได้ให้ของมาแบบ Fully Furnished ก็จริง แต่ครัว ห้องน้ำ และงานฝ้า งานแอร์ ก็ทำมาให้ใน Spec ที่ค่อนข้างดีครับ เพียงแต่ว่า ฝีมือช่างในนแต่ละคน มันไม่เท่ากัน ผมเจอทั้งห้องที่ค่อนข้างสวย และห้องที่ต้องแก้ไขเยอะ การตรวจดูห้อง ละเอียดๆหน่อยก็ดีครับ
การออกแบบ มีการปรับแก้ไข โทนสีและการตกแต่งจาก รูปแบบที่ทำไว้เมื่อสามปีก่อนไปบ้าง ซึ่งสำหรับผมมองว่าไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย เพราะหลายอย่างมันกลมกลืนกันมากขึ้นกว่าเดิม และมันทำให้เน้นความเป็น Art Deco ได้ดีมากขึ้นด้วย ส่วนรูปแบบความสวยงามนั้น ผมขอไม่พูดถึงเช่นเคย เพราะเรามองความสวยไม่เหมือนกัน … การออกแบบห้อง ทำออกมาดีนะ สำหรับห้องใหญ่ แต่ห้อง 1 Bedroom ยังมีส่วนเปิดรับวิวน้อยไป และขัดใจเรื่องที่วางทีวีกับระยะดูทีวี รวมถึงแบบโต๊ะกินข้าวครับ มันเหมาะกับคนโสดนะผมว่า
สาธารณูปโภคส่วนกลางจัดมาวางไว้ที่ชั้น 10 เป็นหลัก น่าเสียดายที่ไม่เอาไปไว้ด้านบนดาดฟ้าบ้าง เพราะวิวด้านบนสวยจริงๆครับ สำหรับคนรักน้องวิว รับรองกรี้ด… ตัวสาธารณูปโภค จัดมาเพื่อคน 490 ห้อง จึงน่าจะพอเพียง และการดูแลรักษากับความน่าใช้ ก็จัดอยู่ในระดับค่อนข้างดีครับ พาเพื่อนมาไม่อายใคร
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 120,000 บาทต่อตารางเมตร, 01 May 2014 ซึ่งเป็นโครงการที่ราคาสูงสุดโครงการหนึ่งในย่านนี้นะครับ
- ทำเล 8.5/10 – ทำเลดีมาก สำหรับคนมองหาบ้านในย่านนี้ ครบเครื่องและอุดมสมบูรณ์ แต่ถ้าไม่ใช่อยู่อาศัยหรือทำงานย่านนี้ ให้ลดคะแนนลงได้เองตามความสะดวก
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – สะดวกมาก ที่จอดรถสบายๆ เดินทางได้หลากหลาย
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ติดถนนใหญ่เรียกรถง่ายมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ปลอดภัยไม่เปลี่ยว เดินไป MRT พหลโยธินได้ แต่ไกลหน่อย
- วัสดุ 8.0/10 – ได้ของ Spec ค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่ความเรียบร้อย ยังไม่ดีเท่าไร
- แบบ 7.5/10 – ออกแบบมาค่อนข้างดี แต่ก็มีจุดให้ติอยู่บ้าง เช่นช่องแสง ตำแน่งการวางของต่างๆ
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบตามมาตรฐาน น่าใช้งานในระดับหนึ่ง
- UPPER CLASS
- 8.23 / 10.00
BOTTOM LINE
EQUINOX เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านห้าแยกลาดพร้าว ต้องการโครงการที่เดินทางสะดวก จอดรถพอเพียง พอจะเดินไปรถไฟฟ้าได้ และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้าง และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นคนซื้อของดูของที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง ไม่ได้เน้นที่หาของถูก มีงบประมาณ ระดับ 4.5 – 8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 30,000 – 50,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ