รีวิวฉบับที่ 424 … ตึก Empire Place สาทร – นราธิวาส เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ โครงการสร้างเสร็จนานพอสมควรแล้วจากค่าย TCC Capital Land แต่ยังพอจะมียูนิตใหญ่ๆเหลือขายอยู่บ้าง และสาเหตุที่เราหยิบยกขึ้นมาพูดในครั้งนี้ ก็เพราะตึก Empire Office Building อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มาจากค่ายเดียวกันนั้นกำลังปรับปรุงใหม่อยู่พอดี ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะพาเพื่อนๆไปชมโครงการ Empire Place กันละครับ
Fact @ 10 September 2013
- Empire Place สาทร – นราธิวาส
- TCC Capital Land Co., Ltd.
- LUXURY CLASS (2009) (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 45 ชั้น 1 อาคาร 493 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 752 คัน คิดเป็น 152%
- ที่ดินประมาณ 5-1-78 ไร่
- สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปี 2552
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 54 – 64 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 100 – 114 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms+ 130 – 180 ตารางเมตร
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 110,000 – 130,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรี ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี
- http://www.tcccapitalland.com
- โทร 02-166-1017
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
โครงก Empire Place นั้นตั้งอยู่บนถนนใหญ่นราธิวาสราชนครินทร์ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีราว 500 เมตร แต่ถ้าวัดจากหน้าโครงการไปถึงทางขึ้นสะพานซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานี BRT ก็จะได้ราวๆ 200 เมตรครับ
ผมยืนอยู่ที่หน้าตึก The Infinity กำลังจะเดินไปที่โครงการ Empire Place เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่รอบๆกันครับ
เดินขึ้นทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS หน้าตึก the Infinity ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับโปรเจค MahaNakhon
ตึกนี้คือตึก Sathorn Square และ W Hotel เป็นอาคารสำนักงานใหม่ที่เปิดขึ้นมาทีหลังตึก Empire จนทำให้ตึก Empire ต้องปรับปรุงหน้าตาภาพลักษณ์ให้ดูดีขึ้นหน่อย
หน้าตาทางเข้าอาคาร Sathorn Square
หลังจากที่มีทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS เข้ากับรถด่วน BRT แล้ว เราก็จะมีทางเดินที่สะดวกสบายมากขึ้น วางอยู่เหนือคลองและตอหม้อเหล่านี้ละครับ
สี่แยกสาทร-นราธิวาส เป็นหนึ่งในสี่แยกที่รถติดที่สุดในประเทศไทย
สะพานตรงนี้ทำออกมาคล้ายๆงาช้าง เห็นตึก Empire อยู่ด้านหลัง กลายเป็นสัญลักษณ์ Land Mark แห่งหนึ่งของ Bangkok CBD ไปเสียแล้ว
ตรงนี้เป็นสถานีต้นทางของรถด่วน BRT วิ่งจากสาทร ไป ราชพฤกษ์ นะครับ แรกๆ 10 บาท ทำไปทำมาลดราคาเหลือ 5 บาท ถูกกว่ารถเมล์อีก คนเลยแน่นเอี๊ยด
การจราจรนราธิวาสฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าสาทรเป็นเส้นที่หนักที่สุดแล้ว ดูจากปริมาณรถยนต์ที่สะสมสิครับ
เทียบกับฝั่งสาทรมุ่งหน้าสีลม … อย่างกับอยู่คนละประเทศ
พี่วินบิดไปพระราม 9 คิด 150 จะโหดไปไหน?
จากทางเดินต่างระดับทั้งหมดทำให้เรามาลงได้ที่หน้าซอยนราธิวาส 4 เลย เวลาเดินง่ายๆลอยฟ้ามันก็รู้สึกเหมือนประหยัดเวลาหรือระยะเดินสั้นลงไปพอควรนะ ทั้งๆที่จริงๆแล้วก็เดินเท่ากัน แถมต้องขึ้นลงบันไดอีก
หน้าตึก Empire Place มีบันได สามารถข้ามไปนราธิวาสฝั่งตรงข้ามได้เลย
หางแถวรถติดยังยาวมาถึงนี่
ถ้าเดินเลยไปอีกนิดก็จะถึง City Viva (ภาพจาก Google) คอมมิวนิตี้มอลล์ เรียกได้ว่ามีตึก Empire Place เป็น Background อยู่ด้านหลังได้เลย
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คอนโด Empire Place มีทางเข้าออกรถยนต์ทางที่สองด้วยนะครับ คือเป็นตรอกเล็กๆที่เชื่อมกับซอยเซนต์หลุยส์ 3 ด้านหลังโครงการ
สามารถเข้าได้จากทางนี้อีกช่องทางหนึ่ง
ตรอกนี้จะค่อนข้างแคบหน่อย การเดินทางก็ไม่ค่อยสะดวกนัก แต่ถ้าจังหวะจำเป็นจริงๆก็สามารถใช้เลี่ยงรถติด ลัดไปเซ็นต์หลุยส์ 3 ออกสาธุประดิษฐ์ได้
แต่โชคมักจะไม่ค่อยเข้าข้างเท่าไร เพราะซอยเซ็นต์หลุย์ 3 นี้ก็ติดใช่เล่นเหมือนกัน
ทางเข้าออกทางนี้ก็จะมีป้อม รปภ. รักษาความปลอดภัยตลอด ไม่ต่างจากป้อมหน้าครับ
วันนี้ผมพาไปดูทำเลแบบคร่าวๆนะครับ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาอ่านได้ที่ มองหาทำเลน่าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรี ที่คุณบูมได้ไปศึกษามาอย่างละเอียดแล้วครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
จุดเด่นหลักๆของโครงการ Empire Place นั้นอยู่ที่ Facility และเนื้อโครงการ ที่สร้างออกมาแบบไม่มียูนิตที่เล็กกว่า 50 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอนที่ไม่มีขนาดต่ำกว่า 100 ตารางเมตร ทำให้มีความอยู่สบายสูงเมื่อเทียบกับคอนโดสมัยนี้
โครงการนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่ตั้งแต่ปี 2552 มีต้นทุนและราคาขายต่ำกว่าคอนโดในปัจจุบันมาก ระดับ 100,000 บาทต่อตารางเมตร บวกลบยังสามารถซื้อได้ ผมจัดเป็นคอนโดเกรด LUXURY CLASS เมื่อเทียบกับราคาสมัยโน้นนะครับ
จุด Drop Off และประตูหมุนแบบยุโรป ทำให้ดูแกรนด์และอลังการมากกว่าคอนโดทั่วไป
จะหมุนเข้ามาก็ได้ หรือจะเปิดประตูด้านข้างเดินอย่างคนไทยทั่วๆไปก็ได้ครับ
Lobby ที่นั่งเพดานสูงเกือบ 3 ชั้น หลังคาเป็นโดมในบางจุด
โถงทางเดินได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรม 4 ดาว
ประตูกั้นรักษาความปลอดภัย
มีระบบ Audio Doorphone และ Key Card Access ด้วย
ห้อง Mailbox กว้างขวางดี ไม่ได้อึดอัดคับแคบ
ชั้นต่างๆของอาคารที่ Empire Place จะเรียกประหลาดกว่าที่อื่น คือชั้น Facility ที่อยู่ด้านบนของชั้นจอดรถจะเรียกว่าชั้น 1 เป็นชั้นอาศัยชั้นแรก สูงขึ้นไปจนถึงชั้น 38 … ไม่รวมชั้นจอดรถและชั้น Lobby อีก 7 ชั้นที่อยู่ด้านล่าง ทำให้ชั้น 1 จริงๆแล้วก็คือชั้น 8 เมื่อเทียบกับอาคารอื่น (หรือสูงประมาณชั้น 9-10 เพราะ Lobby ล่างสุดทำเป็นเพดานสูงเกือบ 2-3 ชั้น)
สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสาธารณูปโภคต่างๆจะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 นี่ละครับ
ให้ดูความสูงจาก “ชั้น 1” ที่เขาเรียกกัน … ในตึกนี้
ว่าแล้วเราก็ไปดูชั้น 1 กันบ้างเลยดีกว่า
ชั้นนี้เป็นชั้นของ Pent House + Pool Villa ยูนิตใหญ่ที่มีสระว่ายน้ำในตัว ที่มีส่วน Access มายังส่วนกลางได้
หน้าตาของโถงลิฟท์ชั้นบนดูดรอปลงไปจากชั้น Lobby หน่อย แต่ก็ยังทำออกมาได้ดูดีอยู่
Lift เป็นแบบ Lock ชั้นทั้งหมด กดอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่ง L หรือ ชั้น ส่วนกลาง
ถ้าเป็นลูกบ้านทั่วไปจะเดินไปใช้ส่วนกลาง ก็ต้องเดินผ่าน Court พวกนี้ เป็นทางเดินที่มีหลังคาโปร่งและมีต้นไม้โดยรอบ น่าเดินดีครับ
โซนนี้ทำเป็นเพดานสูง 3 ชั้น พร้อมกับห้องแบบ Single Loaded Corridor
โถงทางเดินของพวกห้อง Single Loaded Corridor ก็จะโล่งๆแบบนี้ ดูแล้วสบายตาดีครับ
พอเดินอ้อมจากตัวตึกพักอาศัยมาส่วนของด้านหลังอาคาร เราก็จะเห็นเป็นส่วนกลางขนาดใหญ่ มีลูกบ้านมาใช้งานกันเต็มไปหมด
น้องๆฝรั่งสองคนนั้นวิ่งกันได้รั่วมาก เกือบจะโดดลงสระไปหลายทีแล้วดีที่มีพ่อเค้าห้ามไว้
ถัดจากสระว่ายน้ำก็เป็นสนามเด็กเล่น ปูพื้นด้วยวัสดุประเภทยางกันกระแทก เด็กหกล้มหัวเข่าจะได้ไม่ถลอก
คนซ้ายนี่ปีนได้ทุกอย่างจริงๆ
ในวันอากาศดีๆ Daybed ทั้งหลายมีคนมาจับจองกันเกือบหมด
ด้านหลังมีสระเด็กตื้นๆ
ถัดจากสระน้ำก็จะเป็นอาคารด้านหลัง มี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็น Outdoor Lobby ให้ลูกบ้านมานั่งคุย นั่งเล่นกันได้
ส่วนทางซ้ายลิบๆที่เห็นนั้นเป็นห้องฟิตเนสครับ
นั่งกินลมชมวิวนี้ได้ ฟ้าเปิด โล่งๆ
ห้องฟิตเนสมี 2 ชั้น ด้านในมีห้องโล่งๆ เอาไว้เต้นก็ได้นะ
ชั้นบนจัดเป็นห้องสมุดและโต๊ะนั่ง Outdoor
ห้องสมุดใหญ่โต แต่มีที่นั่งน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาดห้อง
ฟิตเนสเอาไปเลย 2 ห้อง กลัวไม่พอ
ุมุมมองสระว่ายน้ำจากฟิตเนสชั้น 2
สุดท้ายคือส่วนชั้นดาดฟ้าของฟิตเนสและห้องสมุด มีคอร์ทเทนนิสด้วยครับ
เราพาไปดูชั้นจอดรถกันบ้างมีตั้งแต่ P1A – P5A
ช่องรถจอดได้รวม 752 คัน คิดเป็น 152% โดยห้อง 2 BR จะได้สติ๊กเกอร์ 2 ใบ และห้อง 3 BR จะได้ สติ๊กเกอร์ 3 ใบ … เหลือเฟือครับ ไม่ต้องห่วง ถนนใหญ่แบบนี้ซ้อนคันได้อีกทั้งแถบ แบบว่าหายห่วงไปเลย
มาดูผังโครงการกันบ้าง ตัวอาคารพักอาศัยจัดเป็นตัว L โดยจะมีจำนวนห้องสูงสุดต่อชั้นเป็น 19 ห้องสูงสุด ยูนิตส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 100 ตารางเมตร ทั้ง Simplex และ Duplex และมีห้องแบบ 1 Bedroom 54 – 65 ตารางเมตรแทรกอยู่เป็นส่วนๆ
Core ลิฟท์มีทั้งหมด 3 จุด กระจายตัวเป็น 3 ส่วนของอาคาร ทำให้ไม่ต้องเดินไกลจากหน้าลิฟท์ ซึ่งดีมากๆ ปัจจุบันคงจะไม่ได้เห็นตึกแบบนี้สักเท่าไร นอกจากคอนโดเกรด Super Luxury ที่มีเนื้ออาคารมากๆเท่าตึก Empire Place
ลิฟท์มีทั้งหมด 8 ตัว เป็น Service 1 และโดยสาร 7 ทำให้มีอัตราส่วนลิฟท์ เพียง 70:1 จัดว่าสบายมากๆหากเทียบกับจำนวนห้องที่เฉียดๆ 500 ห้องนะครับ
ชั้นบนๆ ก็จะมีห้องแบบ 3 Bedrooms ด้วย และ Core Lift ก็จะลดเหลือเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น ทำให้มี Lift ชุดหนึ่งเป็น Low Zone แชร์โหลดบางส่วนออกไปครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ เด็กและผู้ใหญ่
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง
- ห้องสมุด
- Outdoor Lobby
- สนามเทนนิส
- สนามเด็กเล่น
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 7 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 70:1 ล็อคชั้น
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 752 คัน คิดเป็น 152%
- ระบบ CCTV / Access Card ที่ทางเข้าออกทั้งสองทาง
Product Walkthrough
ห้องแรกที่เราจะพามาดู เป็นห้องแบบ 3 Bedrooms นะครับ
ห้องนี้ใช้ระบบ Digital Doorlock รุ่นเก่าแล้วของ Gateman ก็แน่ละคอนโดสร้างเสร็จตอนปี 2552 ก็ต้องวางสเปคกันตั้งแต่ 2548 – 2549 เลยได้มั้ง
ภายในห้องเดินเข้าไปแล้วก็จะดูกว้างๆ โล่งๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่เล่นสีเล่นลาย แยกส่วนครัวกับห้องนั่งเล่นออกจากกันด้วยลายพื้น
เพดานห้องสูง 2.65 – 2.8 เมตร
ส่วนของครัวทำเป็นครัวเปิดรูปตัว L มีแพนทรี่กับส่วนทำอาหารแยกกัน ใช้งานได้ดี
แอร์ฝังฝ้าให้ทั้งหมด
Counter เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีซิงก์ล้างจานแบบ 2 หลุมพร้อมที่พักจาน และไมโครเวฟ
หน้าประตูมีระบบ Audio Doorphone
วัสดุที่เอามาทำครัวอาจจะไม่ได้พรีเมี่ยมและมีตัวเลือกให้เท่ากับคอนโดใหม่ๆในสมัยปัจจุบัน
ด้านหลังมีเตาอบ เตาไฟฟ้า และ Hood ดูดควัน พร้อมกับตู้เย็นให้เรียบร้อย
ด้านข้างครัว สามารถเปิดออกไปที่ลานซักล้างได้ ซึ่งจะเป็นระเบียงภายใน เชื่อมต่อกับโถงทางเดินส่วนกลาง
มีห้องน้ำในตัวด้วย
ส่วนรับประทานอาหาร ถ้าแต่งดีๆ วางโต๊ะสวยๆใหญ่ๆ จะนั่งได้ 6 – 8 คน สบายๆ
ส่วนรับแขกก็ใช้ชุดเฟอร์ชุดเล็กไป พื้นที่ขนาดนี้ถ้าอยากลงชุด Grand Sofa ก็ลงได้
วิวที่ได้ก็สวยงามนะครับ มองไปเห็นเส้นขอบฟ้าเลย
ถ้าออกไปยืนที่ระเบียง กวาดสายตาไปทางซ้ายอาจจะเห็นโรงแรมอนันตราหน่อย
ด้านหลังไกลๆลิบๆนั่นเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
ถ้ามองลงมาด้านล่าง จะเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้น Facility ต่อเชื่อมกับสระส่วนตัวของพวกห้อง Pool Villa Penthouse
กริลแอร์ปิดมิดชิด
ขนาดระเบียงใหญ่ ไม่ต้องมีเครื่องซักผ้ามาวางเกะกะด้วย ใช้งานได้เต็มที่ วางเก้าอี้และโต๊ะเล็กๆได้
มือจับและฟิตติ้งต่างๆเป็นไวนิลสีขาว
ห้องนอน 3 ซึ่งเป็นห้องนอนเล็ก ขนาดพอใช้ได้ ไม่เล็กเกินไป
ในตัวห้องนอนมีการทำ Built-in ให้ แต่ว่าแอร์จะได้เป็นแบบ Wall Type ธรรมดา ซ่อนอยู่ในกล่องด้านขวาบนของภาพ
ห้องน้ำขนาดไม่กว้างนัก หั่นมุมหนึ่งทำเป็นห้องอาบน้ำ
กระเบื้องห้องน้ำสวยงาม ใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard
ถัดออกมาเป็นห้อง Powder Room อาบไม่ได้ เอาไว้เป็นห้องน้ำแขก
ประตูห้องน้ำก็เป็นประตูไม้สีสวยๆ แต่ตำแหน่งซิงก์กับโถจะใกล้กันไปไหน?
ทางเดินตรงนี้พาเข้าไปสู่ห้องนอน 2 และห้องนอนใหญ่
ขนาดห้องนอน 2 นั้นใหญ่กว่าห้องนอน 3 มาก … อยู่สบายกว่ากันเยอะ
พื้นที่วางเตียง เรียบร้อย
อ่อ พื้นทำจาก Engineering Floor นะครับ
วิวจากห้องนอน
ให้ดูลายพื้นและสีของพื้น
ลายท๊อป Counter สีครีมสวย มีบานปิดไม้เรียบร้อย
ฝักบัว
ชุดนี้สวยสู้ของใหม่ๆในตลาดปัจจุบันไม่ได้ แต่ก็ว่าไม่ได้นะครับดีไซน์รุ่นเก่าในสมัยก่อน
เราไปดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง มือจับยังเป็นลูกบิดกลมอยู่เลย
ห้องนอนใหญ่กว้างขวาง ระยะปลายเตียงเหลือเฟือ
มีที่นั่งทำงานด้วย
ระเบียงส่วนตัว เข้ามุม
พื้นที่ด้านข้างก็เหลือเฟือ
เพียงแต่แอร์ซ่อนแบบนี้ อาจจะดูไม่ดีเท่าห้องนั่งเล่น
มี Walk-in Closet ด้วย
ห้องน้ำแบบ 5 Fixtures … นานๆๆๆๆ จะเห็นสักครั้งในคอนโดมิเนียม
อ่างอาบน้ำวางอยู่บน Counter หิน ข้างๆหน้าต่าง มีที่ระบายอากาศและรับแสงตามธรรมชาติ
ห้องน้ำใหญ่ แต่ Counter เล็กไปนิดนึง … เอาพื้นที่ด้านข้างไปทำ “ห้องสุขา” ภายในห้องน้ำอีกที
แต่อย่าน้อยใจไป มี Sink อีกชุด ให้คุณผู้หญิง พร้อมกระจกส่องหน้าโดยเฉพาะ แยกกันไปเลยคนละซิงก์แบบ His & Her
ห้องนี้ได้ Rain Shower ด้วยนะ แบบรังผึ้ง Classic
ฟังก์ชั่นต่างๆแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เพราะขนาดห้องสุขายังมีกระจกกั้น ได้สุขภัณฑ์เป็นแบบโถใหญ่ นั่งสบาย
อีกห้องหนึ่งที่เราจะพาไปดูนั้นอยู่ที่ชั้น 14 ละครับ
เป็นห้อง Duplex ขนาด 2 Bedrooms
จุดเด่นอยู่ที่หน้าต่างบานนี้ ซึ่งจะได้ความสูง 6 เมตรได้ แต่มุมมันถูกบังด้วยปีกตึกที่เป็นตัว L มากไปหน่อย เลยทำให้ไม่สวยเท่าที่ควร
ชั้นล่างมีบันไดวนขึ้นไปข้างบนได้
ประตูหน้าห้องบานใหญ่เบ้อเร่อ
ชุดครัวดึงหัวออกมาได้แบบนี้นะ
ครัวมีหน้าต่างด้านหลังด้วย
ระบายออกไปช่องระบายอากาศด้านนอก ที่ต่อกับช่องชาฟและทางเดิน
เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Siemens
จากระเบียงมองกลับเข้ามา ก็จะเห็นเป็นห้อง Duplex แบบนี้
โดยห้องนี้แต่งเป็นแบบ Fully Fitted คือจะไม่มีเฟอร์ให้แบบห้อง 3 Bedrooms เมื่อครู่
นี่เป็นห้องนอนชั้นล่าง
ห้องน้ำชั้นล่าง
เดินขึ้นบันไดวนไป … เก๋ๆ แต่ว่าขั้นเล็ก ก้าวยากนิดนึง
มุมนี้เหมาะกับการทำ Family Room หรือ Working Area ที่สุด
มองออกไปได้ฟิวมากๆ เสียดายหน้าต่างน่าจะกว้างกว่านี้ และไม่น่าโดนมุมตึกปิดเลย
ห้องนอนด้านบนใหญ่กว่าด้านล่าง
จัดเป็น Master Bedroom ที่มี Sexy Bathroom ในตัว
สุขภัณฑ์เหมือนจะยัดลงไปนิดนึง พื้นที่ชิดกันมาก
มีกระจกส่องหน้าด้วยนะ
ตัวก๊อกน้ำก็สวยดี
ได้โถชิ้นนี้เป็นชิ้นที่เล็กลงจากห้อง 3 Bedrooms นิดหน่อย
ตู้เสื้อผ้าทำให้หมด เข้ามุมไว้
แนวบันไดสวยดีครับ
จบการรีวิวห้องตัวอย่างของ The Empire Place กันเท่านี้ละ
ราคาได้มาแต่แบบห้อง Duplex 2 Bedrooms ที่เหลือนะครับ เพราะว่าห้อง 3 Bedrooms ตอนที่ผมเข้าไปดูนั้นเหมือนจะโดนวางเงินจองไว้แล้ว เลยไม่สามารถ Quote ได้
เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดขายมานานแล้ว ห้องส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีให้เลือกแล้วละครับ ต้องไปตามหาราคาในท้องตลาดมือ 2 เอา ซึ่งส่วนใหญ่จะ Quote กันอยู่ที่ 100,000 – 120,000 บาทต่อตารางเมตร (Sep 2013)
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10/09/2013
- Fully Fitted เป็นมาตรฐาน มี Fully Furnished เป็นบางห้อง
- เพดานสูง 2.65 – 2.80 เมตร สำหรับยูนิตที่ไม่ใช่ Duplex
- ห้องเสร็จพร้อมโอน
- ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
เป็นเรื่องไม่น่าแปลกที่โปรเจคคอนโดในอดีตจะดูแล้วดี อยู่สบาย กว่าคอนโดในยุคปัจจุบันที่ราคาพอๆกันมาก ทั้งจากเรื่องราคาที่ดิน ราคาค่าก่อสร้าง ทำให้รู้สึกว่าคอนโด The Empire Place นั้นคุ้มกว่ามาก เมื่อเทียบกับคอนโดสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นในย่านเดียวกัน ที่ขายในราคาใกล้เคียงกัน ยกตัวอย่างเช่น The Rhythm สาทร – นราธิวาส หรือ Nara 9 ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
แต่ด้วยความที่เป็นคอนโดที่สร้างเสร็จมานานแล้ว เรื่องความสวยงาม เหมือนใหม่ สด กิ๊ก นั้นก็คงจะสู้พวกตึกใหม่ๆไม่ได้แน่นอน และตัวเลือกของห้องทั้งหลายก็ลดน้อยลงไป เหลือแต่ห้องที่ขายยาก หรือเป็นห้องที่มีความต้องการพิเศษอย่างพวก Duplex ซึ่งคุณภาพของห้องจากการไปเยี่ยมชมก็ไม่ได้สมบูรณ์ 100% เหมือนกับตอนพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ แม้ว่าจะเป็นห้องมือ 1 ก็ตาม
ด้วยทำเลของ The Empire Place นั้น ขายตัวของมันเองอยู่แล้ว คนที่ทำงานอยู่บริเวณ CBD ย่านสาทร สามารถเดินไปทำงานสบายๆในช่วงเช้า และเดินกลับบ้านสบายๆในช่วงเย็น ผ่านถนนใหญ่นราธิวาส ผ่าน Skywalk ที่คร่อมสี่แยกอยู่ โดยไม่ต้องขึ้นรถไฟฟ้าหรือขับรถยนต์ให้ปวดหัว เนื่องจากถนนนราธิวาสฝั่ง Empire Place นั้นค่อนข้างติดถึงติดมาก บางครั้งช่วงเย็นๆ เราอาจจะเห็นรถติดลากยาวมาตั้งแต่สุรศักดิ์ พันมาถึงสี่แยกเลยทีเดียว
การหลีกหนีรถติดอาจจะทำได้โดยใช้เส้นทางออกด้านหลัง แต่ซอยเซ็นต์หลุยส์ 3 ที่เป็นเป้าให้ทะลุไปนั้น บางครั้งก็ติดมากๆไม่แพ้กัน ต้องอยู่ไปสักพัก กะเวลาให้ถูก เลือกให้ดีว่าจะไปทะลุถนนจันทน์ หรือจะเดินทางด้วยถนนนราธิวาสฯดี
เป็นข้อดีมากๆของคอนโดเกรด Luxury ในสมัยก่อนที่ให้ที่จอดรถมาอย่างเหลือเฟือ … 150% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ทำให้มีที่จอดรถเพียงพอต่อความต้องการของห้องพักเกือบๆ 500 ห้อง อีกทั้งแถวนี้เป็นทำเลออฟฟิศ จึงมีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่มาก และส่วนใหญ่ก็ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว จะเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ซึ่งสามารถขึ้นได้ที่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ในระยะเดิน 500 เมตร หรือจะเดินไปหาซื้อของเข้าบ้านที่ The City Viva และในอนาคตจะมี Mall / Retails ใหม่อีกสองแห่ง ที่ MahaNakhon และ Empire Office
การเดินทางโดยไม่ใช้รถมีตัวเลือกใหญ่ๆอยู่สองตัวเลือก ก็คือ BTS หรือ BRT แน่นอนว่า BTS ได้รับความนิยมสูงกว่ามาก แต่ BRT ก็สะดวกและปลอดภัยเช่นกัน หากคนที่ไม่เคยขึ้นอาจจะไม่ค่อย Positive กับรถด่วน BRT เท่าไร แต่ถ้าได้ลองใช้ดูแล้ว มันก็ไม่เลวนะครับ ยิ่งพักหลังลดราคาเหลือ 5 บาทด้วย
แบบห้องทั้งหลายทำออกมาได้ดี ใหญ่ กว้างขวาง อยู่สบาย จัดฟังก์ชั่นต่างๆด้วยพื้นที่เหลือเฟือ ขนาด 54 ตารางเมตรเป็นไซส์ที่เล็กที่สุดของ 1 Bedroom และ 100 ตารางเมตรเป็นขนาดที่เล็กที่สุดของ 2 Bedrooms
อัตราส่วนลิฟท์ทำออกมาได้ดี อยู่ที่ 70:1 แม้ว่าจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดจะมากไปนิด อยู่ที่ 19 ห้องต่อชั้น แต่ก็สามารถกระจายความหนาแน่น และระยะห่างจากลิฟท์ ได้ด้วยระบบการแยก Core Lift เป็นสามชุด ทำให้ลูกบ้านที่พักอยู่ในแต่ละปีกสามารถเลือกขึ้นลงลิฟท์ที่ใกล้ห้องตัวเองได้
สาธารณูปโภคจัดเป็นจุดเด่นอีกจุดหนึ่ง ที่มีให้เยอะ เหมาะสม และใช้งานได้จริง ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส 2 ห้อง สนามเด็กเล่น Lobby ด้านล่าง สนามเทนนิส
ข้อเสียเด่นๆข้อเดียวของ Empire Place เลยก็คือ “ขนาดไม่เข้ากับกระเป๋าเงิน” เนื่องจากเป็นคอนโดสมัยก่อนที่ทุกห้องออกแบบมาเป็นห้องใหญ่ทั้งสิ้น การที่จะซื้อห้อง 1 Bedroom ขนาด 54 – 64 ตารางเมตร ก็ต้องมีแถวๆ 6 – 7 ล้าน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถซื้อห้อง 2 Bedrooms ของโปรเจคที่ออกแบบห้องเล็ก กระชับกว่าได้ ในขณะที่ราคาห้อง 2 Bedrooms ขนาด 100+ ตารางเมตร ก็ต้องวิ่งขึ้นไปแตะ 10 ล้านกว่า ทำให้คนที่อยากได้ “ฟังก์ชั่น” เยอะ แต่มีเงินจำกัด ไม่สามารถหยิบจับได้สะดวก เหมือนกับโครงการใหม่ๆที่สร้างหลังจากปี 2010
รีวิวนี้อาจจะช่วยให้เพื่อนๆหลายท่านรู้สึกได้ว่า อย่ามองข้ามโครงการเก่าทั้งๆที่เป็นโครงการที่ห้องส่วนใหญ่ขายหมดไปแล้ว ทั้งเรื่องราคา ความอยู่สบาย สัดส่วนห้อง การออกแบบต่างๆ โครงการเก่ามักจะมีส่วนที่ทำดีกว่าคอนโดสมัยใหม่ที่อยู่ใกล้ๆกันเสมอ แม้ว่าแบบรูปลักษณ์จะดูเชย โบราณ เก่าไม่สดใหม่ แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องภายนอก ถ้านิติฯบริหารจัดการ ดูแลสภาพตึกสภาพโครงการดีๆ ก็น่าหยิบโครงการเหล่านี้มาพิจารณาเป็นตัวเลือกอยู่ครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 120,000 บาทต่อตารางเมตร, 10/09/2013
- ทำเล 9/10 – ใจกลางเมือง ใกล้สี่แยกสาทร-นราธิวาส กลาง CBD
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – รถติดมาก แต่รถติดสุดๆ เข้าออกได้สองทางและมีที่จอดรถเยอะมาก
- ไม่ใช้รถ 9/10 – ใกล้ทั้ง BTS และ BRT
- วัสดุ 7/10 – สภาพจัดว่าโอเค แต่โดยรวมจะเก่าหน่อยแล้ว เพราะสร้างเสร็จมานาน 4 ปี
- แบบ 9/10 – ห้องใหญ่อยู่สบาย แต่ไม่มีห้องเล็กนะ
- สาธารณูปโภค 9/10 – มีครบ มีเยอะ ดูดี
- LUXURY CLASS
- 8.55 / 10.00
BOTTOM LINE
Empire Place เหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่ใกล้ที่ทำงานย่านสาทร ชอบห้องใหญ่ ส่วนกลางกว้างขวาง แต่ก็ต้องมีงบประมาณสูงในระดับหนึ่ง
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ