รีวิวฉบับที่ 195 … เป็นการรีวิวคอนโด Diamond สุขุมวิทที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว ใน Line BTS อ่อนนุชที่มีผู้อ่านขอเข้ามาพอสมควร กว่าทุกอย่างจะพร้อมและลงตัวให้ทาง Think of Living เข้าไปรีวิวได้ก็ใช้เวลาพักใหญ่อยู่เหมือนกัน ซึ่งในที่สุดเราก็เก็บรีวิวมาได้สำเร็จนะครับ =) ลองอ่านกันดูได้เลย

Fact @ 15 July 2012

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

โครงการ Diamond สุขุมวิท ตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 48/3 และ 48/4 วัดระยะทางเป๊ะๆจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช 250 เมตร

ตัวคอนโดมิเนียมตั้งอยู่ตรงข้ามสามแยกอ่อนนุชพอดี

โครงการนี้ตั้งชนกับคู่แข่งอย่าง Q.House สุขุมวิท 79, IDEO Verve สุขุมวิท, IDEO Mobi สุขุมวิท, The Rhythm สุขุมวิท 50 และ President สุขุมวิท 81 หากวัดระยะทางจากรถไฟฟ้าถึงหน้าตึก โครงการ Diamond จะเสียเปรียบคู่แข่งอื่นๆอยู่บ้าง แต่เอาราคามาเทียบด้วยแล้วก็จะเห็นว่า Diamond สุขุมวิทยังถูกกว่าเพื่อนบ้านที่เป็น High Rise ติดถนนใหญ่รอบๆอยู่เหมือนกัน

เราเดินลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ลงฝั่งโลตัสเดินข้ามถนนใหญ่สุขุมวิท 50 มาที่หน้าโครงการ Diamond สุขุมวิท

โลตัสอ่อนนุช ศูนย์รวมการใช้ชีวิตของคนแถวนี้ ต้องเดินผ่านทุกวันอยู่แล้วถ้าจะใช้ BTS

ก่อนที่จะถึงโครงการเป็นการประปานครหลวง รั้วสีฟ้าๆแบบนี้ หน้าการประปามีป้ายรถเมล์พอดี คนอยู่คอนโดเลยได้รับความสะดวกสบายไปด้วย

ฝั่งที่เลยโครงการไปนิดนึงมีสะพานลอยข้ามไปถนนอ่อนนุชได้เลย ซึ่งหน้าปากซอยจะมีร้านค้าขายของกินเยอะแยะ รับรองว่าไม่อดตาย

หน้าโครงการนะครับ

บรรยากาศหน้าโครงการ ไม่ค่อยคึกคักขวักไขว่เหมือนฝั่งซอยเลขคี่

ระยะทางเดินจากรถไฟฟ้ายังไม่ทันเหนื่อยครับ

เจาะลึกตัวสินค้า

หน้าโครงการมี Shop ร้านกาแฟอยู่นิดหน่อย

ซุ้มประตูทางเข้าตึกก่อนที่จะเดินไปยัง Lobby

ศาลพระภูมิและแนวสวนหน้าโครงการ

สวนรอบโครงการและทางเดินรถไปยัง Drop Off ด้านซ้ายมีฟุตบาทให้ลูกบ้านเดินแยกต่างหาก

สวนรอบๆมีเก้าอี้นั่งได้

จุด Drop Off เป็นวงเวียน

Lobby ของ Diamond สุขุมวิท พอปรับปรุงแล้วก็ดูโอเคดี

สไตล์จะออกจีนๆบ้านๆหน่อย ใช้สีแนวส้มเป็นหลัก ไม่เน้นความหรูหราอลังการเหมือน Q.House แต่มีความอบอุ่นน่าอยู่คล้ายกับบ้านมากกว่าโรงแรม

ชุดรับแขก

ระบบรักษาความปลอดภัยจะกั้นตั้งแต่ประตูกระจกที่จะขึ้นห้องบริเวณ Lobby

ตู้จดหมายก่อนที่จะถึงโถงลิฟท์ ออกแบบมาให้เดินผ่านทุกครั้งก่อนเข้าและออกจากบ้าน ไม่ให้ลูกบ้านต้องเสียเวลาเดินย้อนไปย้อนมาระหว่างลิฟท์และตู้จดหมาย

โถงลิฟท์ชั้น G ทำออกมาได้โอเค สมกับคอนโดมิเนียมระดับ UPPER CLASS แต่การใช้ Glass Block ด้านหลังนั้นออกจะล้าสมัยไปนิดหน่อย

หน้าตาของบริเวณกดลิฟท์ทำออกมาใช้ได้

ลิฟท์ตกแต่งด้วยไม้ ล็อคชั้น ใช้ Key Card Access กดได้เฉพาะชั้นของตัวเองและชั้นส่วนกลาง

เรามาที่ชั้น 5 กันก่อน อันเป็นชั้นส่วนกลาง ซึ่ง Facility ที่ใช้ได้ประกอบไปด้วยห้องประชุมเป็นอันดับแรก

มีฟิตเนสอยู่ตรงโน้น เดี๋ยวจะเดินเข้าไปดูนะ

มีห้องซาวน่าแยกชายหญิง ผมเข้าได้แต่ห้องผู้ชาย

ซิงก์ยังดูเรียบๆ แต่ก็ใช้วัสดุโอเค หินแกรนิต

ห้องซาวน่าตามมาตรฐาน

มีห้องอาบน้ำให้เรียบร้อย

ฟิตเนสมีเครื่องเล่นพอสมควรเลย วิ่งแล้วมองออกไปที่สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำยาวอยู่ ว่ายออกกำลังกายได้เหมาะสม

ริมสระมีท่อปล่อยน้ำออกมาเป็นน้ำตก บังเอิญวันนี้ปิด

ตามข้างสระน้ำก็มีสวน

มองทะลุสระว่ายน้ำออกไปจะเห็นรางรถไฟฟ้าอยู่ไกลๆ

มองย้อนขึ้นไปชั้นบน

เราเดินขึ้นไปสำรวจห้องกันบ้าง

หน้าตาโถงลิฟท์ชั้นธรรมดา กรุหินรอบลิฟท์ดูดีหน่อย และมีแสงสว่างใช้ได้ ไม่อับ ไม่ทึบ

นี่เป็นโถงทางเดิน ปูด้วยกระเบื้องแผ่นเล็ก ทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ซึ่งน่าจะใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่นะ อย่างน้อยควรจะใช้ 30 x 60 ซม. ปูแล้วจะได้ดูดีขึ้นอีกหน่อย

Floor Plan ของที่นี่เป็นรูปตัว L ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้จะมองไปเห็น การประปาและ Rhythm, ทางฝั่งทิศเหนือจะมองออกไปเห็นวิวเมืองและอ่อนนุช ส่วนทางทิศตะวันตกนั้นจะได้วิวเคลียร์ มองไปสุดจะเห็นทางด่วนและเวิ้งเจ้าพระยา

ชั้น 5 ที่เป็นส่วนกลางก็ไม่เต็มฟลอร์ มีบางส่วนเป็นห้องพัก

ลิฟท์ทั้งหมดมี 5 ตัว แบ่งเป็น 4 โดยสารและ 1 บริการ เอามาหารจำนวนห้องแล้วก็จะได้ราวๆ 120:1 ยังอยู่ในอัตราส่วนที่รับได้สำหรับคอนโดราคาตารางเมตรต่ำกว่า 1 แสนบาท

คอนโด High Rise จะดีไม่ดีก็ต้องดูกันที่วิวด้วย หากมองออกไปแล้วติดลูกตาหมดก็ไม่ไหว ดังนั้นเราจะมาทยอยดูวิวแต่ละทิศกันเลยดีกว่า … ตึกเสร็จแล้ว ถ่ายง่าย ชอบตรงนี้แหละ

นี่เป็นทิศเหนือ มองไปทางพระโขนง เห็นถนนอ่อนนุชอยู่ทางขวา

นี่เป็นทิศเหนือเฉียงไปทางตะวันตกหน่อยๆ มองไปทางพระโขนงเต็มๆ เห็นทางด่วนพาดผ่าน

นี่เป็นทิศตะวันตก วิวโล่งเลย ไกลๆลิบๆจะเห็นเจ้าพระยา

นี่เป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ มองไปทางสถานี BTS อ่อนนุช และจะเห็นตึก IDEO Verve … ตึกสวยให้อภัยได้

ตึกไกลๆที่สร้างอยู่คือ President และจะมี IDEO Mobi หลังจากนั้น

ส่วนแปลงใกล้ๆที่เห็นว่ามีปรับที่ดินกันอยู่จะขึ้นมาเป็น Q.House สุขุมวิท 79 ซึ่งจะบังสายตาเยอะพอตัวเลย

ทิศตะวันตก ร้อนหน่อย เห็นเจ้าพระยาไกลๆ

ทิศใต้ เจอตึก The Rhythm บังแบบนี้ มีพื้นที่ให้มองลอดไปได้

ถ้ามองเฉียงๆก็จะหลบได้แบบนี้

แต่ด้านล่างจะมีแทงก์น้ำ ถ้าอยากให้รอดก็ต้องซื้อเหนือแทงก์น้ำไป

อันนี้เด็ดสุด ทิศที่เห็นบางกระเจ้า เขียวๆเลย

วิวระยะเฉียดฉิว เป็นตึกแถวทั้งนั้น

ส่วนนี่เป็นวิวสระน้ำ ถ้าใครชอบก็โอเคครับ อยู่ชั้นล่างๆหน่อยนะ 6-7 ไรงี้

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องออกกำลังกายชั้น 5
  • สระว่ายน้ำชั้น 5
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, Service Lift 1 ตัว
  • ห้องประชุม
  • สวนตามชั้นต่างๆ
  • Shop Units
  • Lobby
  • ที่จอดรถ 220 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน ซ้อนคันได้อีกประมาณ 35 คัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 52.5% ของจำนวนยูนิต
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

เรามาดูที่ 2 Bedrooms กันก่อนนะครับ เป็นห้องใหญ่ของที่นี่ ซึ่งมีขนาดส่วนใหญ่คือ 61.4 – 63.4 ตารางเมตร แบ่งเป็นส่วนนั่งเล่นกลาง, Pantry และโต๊ะทานข้าว ด้านซ้ายขวาแบ่งออกเป็นห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่ ซึ่งห้องนอนเล็กใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องนั่งเล่น

เรามาดูที่ห้อง 714 นะครับ โดยปกติแล้วคอนโด Diamond สุขุมวิทจะขายเป็น Fully Furnished อยู่แล้ว ซึ่งห้อง Standard Room ก็จะได้แบบนั้นเลย แต่ว่าห้องที่เราดูนี้คือห้อง Plus Room ที่จะขายในมูลค่าอัพไปอีก 2 แสนบาท โดยจะมีการตกแต่งเพิ่มเติมจากห้อง Standard Room เข้าไปอีก ทำให้ครบเครื่องน่าอยู่มากขึ้น

การที่ให้โครงการตกแต่งให้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็คืองบ 2 แสนบาทสำหรับการตกแต่งนั้น จะสามารถรวมอยู่ในก้อนเดียวกับค่าห้องได้ ทำให้สามารถกู้แบงก์ได้ทั้งหมด ส่วนข้อเสียก็คือว่าจะไม่ได้สิ่งที่ตรงใจกับเราไปเสียทุกอย่างเหมือนกับการตกแต่งห้องเอง ซึ่งผมก็เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆคนมีความฝันที่จะอยากแต่งห้องเองครับ

เริ่มจากห้องนั่งเล่นก่อน ที่ตกแต่งโดยใช้ผ้าม่านโปร่งและลาย Wall Paper แบบขรึมๆหน่อย ทำให้เกิดบรรยากาศของความหรูเพิ่มเข้ามาจากห้องแบบ Standard

ฝ้าเพดานของที่นี่สูง 2.5 เมตร ซึ่งเสียเปรียบเพื่อนบ้านที่สูง 2.7 เมตรอยู่พอควรเลย

สังเกตว่าพวกชั้นวางทีวีสีขาวเหล่านั้นซึ่งเป็นของ Standard ไม่ได้ถูกถอดออกนะครับ ยังคงใช้อยู่ที่เดิม

สวิทช์ไฟและลาย Wall Paper ที่อัพเกรดขึ้นมา

วงกบยังเป็นอลูมิเนียมอบขาวเหมือนเดิม

ระเบียงปูกระเบื้องแผ่นเล็ก ความกว้าง 4 แผ่น มีการแขวน Compressor แอร์ทั้งสิ้น 3 ตัวในแนวดิ่ง (2 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่น)

มีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำให้

ชุดครัวเป็นแบบนี้

Hood ของ Mex

เตาไฟฟ้า Teka แบบ Hot Plate สองหัว (ปกติสองห้องนอนน่าจะได้ 4 หัว)

ซิงก์สแตนเลสยี่ห้อ Teka แบบ 1 หลุม ท๊อปเป็นหินแกรนิต

ประตูและตู้เย็น

ชุดครัวเวลาเปิดหมดได้แบบนี้

มุมโต๊ะรับประทานอาหารนั่งได้ 4 คน ติดกระจกบานใหญ่เอาไว้สะท้อนห้องให้มีมิติเพิ่มขึ้น

ห้องน้ำปูกระเบื้องพื้น 30 x 30 ซม.

ซิงก์น้ำสี่เหลี่ยม มีท๊อปข้างๆเป็นหินแกรนิต ด้านหลังปูโมเสก

กระจกและชั้นวางของ

โถสุขภัณฑ์หน้าตาแบบนี้ มีสายฉีดชำระให้แล้ว

ฝักบัวหัวใหญ่หน่อย ติดหินแกรนิตเป็นที่วางสบู่แชมพู มีฉากกั้นเป็นกระจก Tempered Glass

ลูกบิดประตูห้องและเนื้อประตูไม้อัด

ห้อง นอนเล็กวางเตียง 3.5 ฟุต

มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงครบสองตัว วอลล์เปเปอร์เล่นลายอิฐมีมิติดี

ตู้เสื้อผ้ามาพร้อมห้อง Standard

มาห้องนอนใหญ่กันบ้าง ชุดวางทีวีนี่เป็น Standard ตกแต่งเพิ่มเติมเป็นลาย Wall Paper

กระจกบานใหญ่ใช้ม่านพับ เตียงวางเตียงใหญ่ได้เต็มที่

ขนาด 5 ฟุต พร้อมกับโต๊ะข้างเตียงสองตัวและตู้เสื้อผ้า

ห้องน้ำเหมือนๆกับห้องน้ำข้างนอก

สุขภัณฑ์ American Standard

ออกมาจากห้องน้ำมาดู Breaker กันบ้าง

ดาวน์ไลท์มีการเติมให้อีก 4 จุดสำหรับห้อง Plus

ด้านใต้ประตูมีตัวล็อค ให้เปิดประตูค้างไว้ได้

จบไปสำหรับแบบ 2 Bedrooms คราวนี้เรามาดูห้อง 1 Bedroom กันบ้าง

ห้องที่เราเลือกจะใช้เป็นห้อง Standard จะได้รู้กันว่าบรรยากาศต่างกับห้อง Plus อย่างไร

ตัวห้องออกเป็นสีโทนส้มๆ มีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัววางบางส่วน ผนังโล่งๆไม่ได้จัดตกแต่งอะไร

มีโซฟาผ้า เก้าอี้ผ้า โต๊ะกลาง โต๊ะกินข้าวให้อย่างละตัว ดูแล้วเพลนไปนิดนึง ผมว่าห้อง Plus สวยกว่าเยอะเลย

ห้อง 1 Bedroom ของที่นี่ดีที่เป็นห้องแบบเก่า ที่มีพื้นที่ใช้สอย 34.8 ตารางเมตร ทำให้เป็นห้องที่กว้างพอ มี Space ทำโน่นนี่ได้เยอะ ต่างกับห้องสมัยใหม่ 21.5 ตารางเมตรของ IDEO Mobi ที่หันไปไหนก็ชนผนังหมด

ครัวเป็นแนวตู้สั้นๆ ต่อออกไปก็จะเป็นระเบียง ตำแหน่งของครัววางเอาไว้ดีพอควร สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ตามใจชอบ

ซิงก์เหมือนเดิม Teka

เตา Teka Hot Plate และหินแกรนิต

Hood MEX

กระจกภายนอกเป็นกระจกเขียวตัดแสง 6 มม. และกรอบอลูมิเนียมอบขาว มีพื้นที่พอให้วางเครื่องซักผ้าแบบเปิดฝาบนก็ได้นะ สังเกตว่าเหลือที่จากคอมเพรสเซอร์ที่แขวนไว้

ห้องน้ำมีห้องเดียว

ซิงก์น้ำ

สุขภัณฑ์

ฝักบัวและที่วางสบู่

ก๊อกผสมของ Grohe

เช่นเดียวกับฝักบัว

ดูภาพรวมห้องน้ำอีกครั้ง มี Counter วางของและชั้นวางค่อนข้างเพียงพอ แต่ขาดที่ไม่มีตู้ใต้ซิงก์

ห้องนอนใหญ่แต่งแบบเรียบๆ ดูโล่งกว่าเดิม ของจริงมีฟูกให้แต่ไม่มีผ้าปูที่นอน

Space ข้างๆวางโต๊ะหัวเตียงพอดีเด๊ะ

ตู้เสื้อผ้า

ชั้นวางทีวีและโต๊ะเครื่องแป้ง

สวิทช์และลาย Wallpaper ที่ดูแล้วอาจจะโบราณไปนิดนึง ถ้าเปลี่ยนสีส้มอ่อนๆให้ดู Modern ขึ้นแบบห้องที่แล้ว ห้องจะสวยกว่านี้มาก

ลูกบิดและประตูไม้อัด

แอร์ซัมซุง 2 เครื่อง ในห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ตัวจบระหว่างลามิเนต 8 มม. และพื้นห้องน้ำใช้เป็นหินแกรนิต กั้นไม่ให้น้ำกระเด็นกระดอนออกมา

คือวัสดุเนี่ยดูดีนะครับ แต่มันไม่เข้ากันเลย จะเห็นว่าออกมาเป็น 3 สี ที่ไม่ match กัน

มาจบที่ประตูทางเข้าห้อง เป็นมือจับเขาควายและ Dead Lock อยู่ด้านล่างครับ

ห้องแบบ 1 Bedroom นะครับ ที่นี่ห้อง 33 ตารางเมตรจะเป็นห้องหน้ากว้างกว่า ใช้การวางเลย์เอ้าท์แบบ 2 Bay คือทั้งห้องนอนและ Living Area จะติดหน้าต่างทั้งคู่

Price vs Performance

  • 1 Bedroom 34.16 ตารางเมตร ชั้น 26 ห้อง 03 ราคา 3.621 ล้านบาท หรือ 106,000 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom 34.00 ตารางเมตร ชั้น 30 ห้อง 05 ราคา 3.675 ล้านบาท หรือ 108,100 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 56.77 ตารางเมตร ชั้น 9 ห้อง 14 ราคา 5.506 ล้านบาท หรือ 97,000 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 58.80 ตารางเมตร ชั้น 26 ห้อง 06 ราคา 6.297 ล้านบาท หรือ 107,100 บาทต่อตารางเมตร

  • Fully Furnished ทุกห้องแบบ Standard
  • แต่งแบบ Plus จ่ายเพิ่ม
  • จอง 5,000 บาท
  • พร้อมโอน
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

สิ่งที่ต้องดูก่อนเลยของ Diamond สุขุมวิท ไม่ใช่เรื่องอะไรอื่นแต่เป็นเรื่องของราคา ที่สามารถต่อกันลดได้อีกหลักแสน เช่นพวกโปรโมชั่นแถมรถห้องละคันก็สามารถเปลี่ยนเป็นส่วนลดเงินสดได้เยอะอยู่ ทำให้ราคาขายจริงของ Diamond สุขุมวิทไม่ใช่ราคาตารางเมตรและเหยียบแสน แต่อยู่แถวๆตารางเมตรละ 90,000 ต้นๆ ซึ่งจะต่ำกว่าราคาขายของคอนโดมิเนียม High Rise แบรนด์เนมรอบด้านอยู่ราวๆ 10-15%

สิ่งที่สองของ Diamond สุขุมวิทคือเรื่องของ Developer ที่ไม่ใช่ Developer หน้าใหม่แกะกล่อง แต่เป็นเจ้าที่เคยทำคอนโดมิเนียมและโครงการหมู่บ้านอื่นๆมาแล้วอีก 5 โครงการ คือ Grand Diamond ที่ประตู้น้ำ, Petch 9, ภูภัทราเขาใหญ่, บ้านภัทราที่อ่อนนุชและ Diamond รัชดา ทำให้เจ้าของโครงการรายนี้เชื่อถือได้พอสมควรนะครับ

ทำเลของโครงการ Diamond สุขุมวิทอยู่ใกล้ทั้งสถานีรถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ และแหล่งชุมชน ทั้งอ่อนนุชและสุขุมวิทตอนปลาย จึงทำให้ทำเลของโครงการ Diamond จัดเป็นทำเลอันดับต้นๆเพื่อการอยู่อาศัย ในแหล่งที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ช่วง BTS ตอนปลาย

การเดินทางด้วยรถยนต์ของโครงการ Diamond สุขุมวิท อาจจะทำได้ลำบากกว่าโครงการข้างเตียงหน่อย เพราะว่าโครงการนี้อยู่เลยซอยสุขุมวิท 50 มาแล้ว ทำให้เวลาจะขึ้นทางด่วนต้องไปกลับรถใต้สะพานข้ามคลองพระโขนง (ซึ่งอยู่ห่างไปไม่มาก) แล้วกลับรถอีกรอบหนึ่งเพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 50 และถ้าจะขึ้นทางด่วนสุขุมวิท 62 ก็ต้องวิ่งไปเลี้ยวขวาแถวบางจาก ซึ่งจะมีระยะทางไกลกว่าเพื่อนๆที่อยู่ซอยเลขคี่เล็กน้อย

ข้อดีของโครงการนี้อาจจะเป็นเรื่องการเดินด้วยเท้าที่สามารถข้ามสะพานลอยไปถึงอ่อนนุชได้เลย ทำให้เข้าถึงแหล่งซื้อของโน่นนี่ได้ใกล้กว่าพวก IDEO Mobi, IDEO Verve หรือ President ที่อยู่ค่อนไปทางซอย 81 มากกว่า ทำให้ต้องเดินผ่านซอย 79 ก่อนถึงจะมาถึงอ่อนนุชได้

สำหรับระยะทางจาก BTS ก็ต้องจัดว่า Diamond นี้ไกลกว่าเพื่อนๆ ในระยะ 250 เมตร แต่ก็ยังอยู่ในระยะเดินสบายๆ ไม่เหนื่อย ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรมาก

วัสดุอุปกรณ์ของ Diamond น่าจะจัดอยู่ในระดับดีกว่า Main Class นิดหน่อย เช่นลามิเนต 8 มม. , กระเบื้อง 30 x 30 ซม. , การตกแต่งโถงทางเดินและโถงลิฟท์ด้วยกระเบื้องแผ่นเล็ก แต่ยังดีที่ตัวห้องแถม Furniture แบบ Fully Furnished ทั้งห้อง และห้องน้ำห้องครัวให้ท๊อปหินแกรนิตและหัวก๊อก Grohe จึงทำให้ช่วยดึงคะแนนขึ้นมาในระดับมาตรฐานได้บ้าง

การออกแบบของที่นี่ยังเป็นสไตล์คอนโดสมัยก่อน ใช้โทนสีส้มๆที่ดูแล้วไม่ทันสมัยเท่าที่ควร ทำให้ภาพลักษณ์ดูสู้ตึก High Rise ข้างเคียงที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ไม่ได้ เช่น IDEO Verve, Mobi ที่จะเน้น Modern จ๋า และ Q.House, Rhythm ที่เน้นความหรูหรา ทำให้ Diamond สุขุมวิทต้องปรับตัว มาตกแต่งห้องใหม่ให้ดูเป็นแบบ Plus เน้น Interior สมัยใหม่ ปรับภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูดีขึ้นมา

ส่วนฟังก์ชั่นการใช้สอยก็ต้องบอกว่า ห้องสมัยก่อนออกแบบมาได้คล่องตัวกว่าห้องสมัยใหม่ พอจะมีพื้นที่เหลือๆให้เดินบ้าง เช่นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร ที่เป็นมาตรฐานของคอนโดสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันถูกลดลงไปเหลือแถวๆ 28 – 30 ตารางเมตรแล้ว

Judgement

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 92,000 บาทต่อตารางเมตร, Q1/2012

Update คะแนนเล็กน้อยครับ สะท้อนเสียงการบ่นเรื่องวัสดุ (10 Nov 2012)

  • ทำเล 8.5/10 – ทำเลดี ติดถนนใหญ่สุขุมวิท อยู่ในแหล่งชุมชน มี Lotus อยู่ใกล้ๆ แต่โดนแทงก์บังวิวไปข้างหนึ่ง
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ใช้ได้ มีทางด่วนทั้งสุขุมวิท 50, 62 แต่ต้องกลับรถ ที่จอดรถ 52.5%
  • ไม่ใช้รถ 9/10 – 250 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้า มีป้ายรถเมล์อยู่ข้างหน้า
  • วัสดุ 6/10 – ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน
  • แบบ 7/10 – ยังไม่ค่อยทันสมัย มีการปรับปรุง Interior ให้ดูดีขึ้น
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – พอมีให้ใช้งานได้  สระว่ายน้ำ ห้องประชุม ฟิตเนส สวน

  • UPPER CLASS
  • 8.33 7.95 / 10.00

BOTTOM LINE

คอนโดมิเนียม Diamond Sukhumvit เป็นคอนโดที่ได้ Value for money หรือความคุ้มค่าสูงเมื่อเทียบกับตึกสูง High Rise ด้วยกัน ในย่านที่อยู่ในระยะเดินสบายๆไม่ไกลมากจาก BTS อ่อนนุช ครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ