รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ De LAPIS จรัญ81 คอนโด High Rise บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้สถานีบางพลัด จาก Grand Unity [รีวิวฉบับที่ 1925]

20 สิงหาคม 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1568 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชม De LAPIS จรัญ 81 เป็น 1 ใน 4 โครงการคอนโดใหม่ในปีนี้ที่ทาง Grand Unity Development ได้ปรับแบรนดิ้งใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense โดยตัวโครงการเป็น High Rise 32 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้สถานีบางพลัด เราไปชมกันค่ะ 

Fact @ 5 April 2018

  • De LAPIS Charan 81 (เดอ ลาพีส จรัญฯ 81)
  • Grand Unity Development Co.,Ltd.
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางพลัด
  • คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 635 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • อาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิตที่ชั้น 2-14
  • ที่จอดรถประมาณ 260 คันคิดเป็น 41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 322 คิดเป็น  51% รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 3-1-3.7 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : มกราคม 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กรกฎาคม 2562
  • Studio 26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom 26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus 34.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Corner 34.5 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 60 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 97,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • พาชมทำเล รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ – ท่าพระ (ภาพรวม) : คลิกที่นี่
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-652-4000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :  13.792394, 100.503582

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

จรัญสนิทวงศ์แต่เดิมมีลักษณะเป็นชุมชน ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว ทาวเฮ้าส์ และ อาคารพาณิชย์ ไม่ค่อยมีอาคารสูงซักเท่าไหร่ แต่หลังจากการมาของรถไฟฟ้าก็เริ่มมีคอนโดมาขึ้นกันอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ  De LAPIS จรัญ 81 ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์  ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด ทำเลจัดอยู่ในจรัญฯช่วงปลาย ซึ่งมีข้อดีคือใกล้สะพานพระราม 7 สามารถใช้เส้นทางข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองไปยังย่าน รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พระราม9 ได้สะดวก นอกจากนั้นยังใกล้สะพานกรุงธนฯหรือสะพานซังฮี้อีกหนึ่งสะพานที่ใช้ข้ามฝั่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้  บริเวณสะพานนี้จะมีท่าเรือใช้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทาง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใช้หนีรถติดได้ ถือเป็นอีกความสะดวกหนึ่งในการเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาดังนั้นในชั้นสูงๆก็จะเห็นวิวแม่น้ำด้วย ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถอื่นๆก็สะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถได้ง่ายทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ละแวกใกล้โครงการ รถประจำทางสาย 18,110,175,203,ปอ.18,ปอ.170,ปอ 203 ค่ะ

สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการนั้นส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ บ้าน วัด และโรงเรียน มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารอยู่บ้าง โดยจะทั้งร้านเล็กใหญ่ให้เลือก นอกจากนั้นบริเวณที่อยู่ริมแม่น้ำจะมีร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีๆให้มานั่งทานข้าวเปลี่ยนบรรยากาศกัน สถานที่สำคัญอื่นๆก็จะใกล้สำนักงานเขตบางพลัดและโรงพยาบาลยันฮี ที่ข้างๆโรงพยาบาลเป็นตลาดบางอ้อ ตลาดที่มีของขายทั้งคาวหวานเดินมาหาอะไรทานได้สะดวก มี Tesco Lotus สาขาบางพลัดในบริเวณใกล้เคียงเอาไว้ให้มาจับจ่ายใช้สอยกันได้ ถ้าอยากไปห้างใหญ่ๆต้องไปที่บริเวณถนนบรมราชชนนีซึ่งมีครบทั้งศูนย์การค้าอย่าง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และ Community mall อย่าง The Sense นอกจากนั้นยังมีพาต้า ห้างเก่าแก่แหล่งรวมร้านอาหาร วินรถตู้ รถเมล์ (ไม่รู้คิงคองจะยังอยู่ไหม) และช่างชุ่ย แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่อยู่ในทำเลใกล้ๆกัน

ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีบางพลัดประมาณ 30 เมตร และ อยู่ห่างทางขึ้นสถานีประมาณ 100 เมตร โดยสถานีบางพลัดเป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ซึ่งถ้าสร้างเสร็จจะสามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อข้ามฝั่งไปยังเตาปูนและบางซื่อเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ จะเดินทางไปเชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายปัจจุบันวิ่งเข้าเมืองก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอีกสายหนึ่งคือ ช่วงหัวลำโพง – บางแค ซึ่งก็มีสถานที่สำคัญๆหลายแห่งเช่น หัวลำโพง วัดมังกรกมลาวาส และย่านเพชรเกษม เป็นต้น

นอกจากตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ในทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาเพิ่มเข้ามาด้วย ก็ช่วยทุ่นเวลา ไม่ให้เราต้องอยู่บนท้องถนนนานนัก คลิกดูรายละเอียดเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ที่นี่เลย โดยท่าเรือที่ใกล้และสะดวกต่อการเดินทางคือท่าเรือสะพานกรุงธนฯ สามารถใช้เดินทางไปสาทรได้เลย

การเดินทางในวันนี้จะเริ่มจากถนนวงศ์สว่างมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แล้ววิ่งตรงเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ผ่านโรงพยาบาลยันฮี ตรงมาตามทางเรื่อยๆจากนั้นหาที่กลับรถ โครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 81

จากถนนวงศ์สว่างวิ่งตรงมาเรื่อยๆเพื่อข้ามสะพานพระราม 7

ขึ้นสะพานพระราม7 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์เพื่อไปยังโครงการ

เมื่อลงสะพานมาแล้ว ให้วิ่งตามป้ายเพื่อเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ค่ะ

พอลงสะพานมาแล้วจะเป็นถนนจรัญสนิทวงศ์ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบ ฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถว เราวิ่งตรงมาเรื่อยๆจะผ่านโรงพยาบาลยันฮี ซึ่งข้างๆโรงพยาบาลจะมีตลาดบางอ้อ

ตลาดบางอ้อ ที่มีของขายทั้งคาวหวานเดินมาหาอะไรทานได้สะดวก มีโต๊ะให้นั่งรับประทานด้วย ถ้าไม่อยากซื้อกลับไปทานที่ห้อง

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับสถานีบางอ้อ ถือเป็นสถานีแรกหลังจากข้ามสะพานพระราม 7 มา

ถัดมาจะเป็นสถานีบางพลัด อยู่ใกล้กับสำนักงานเขตบางพลัด เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการที่สุดค่ะ

ถัดจากตัวสถานีบางพลัดมาเราจะเห็นโครงการ De Lapis อยู่ฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวเราจะไปหาที่กลับรถ

ขับตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับ Tesco Lotus ห้างค้าปลีกค้าส่งที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด มาจับจ่ายใช้สอยซื้อของสดของแห้ง หรือ มาหาอะไรทานได้

ตรงต่อมาจะมีป้ายบอกทางไปสะพานกรุงธนฯ ถ้าลงอุโมงค์จะไปบรมราชชนนี เราตรงไปกลับรถก่อนนะไม่ต้องลงอุโมงค์ค่ะ

กลับรถค่ะ

พอกลับรถมา วิ่งตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับโครงการ De LAPIS จรัญ 81 ค่ะ

ด้านหน้าฝั่งติดถนนใหญ่เป็นสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตอาคารนี้จะใช้เป็นร้านค้าของโครงการค่ะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ

ห้องตัวอย่างจะอยู่ชั้น 2 นะ เดี๋ยวจะพาขึ้นไปชมค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่อยู่อาศัยฝั่งริมถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 3-1-3.7 ไร่ แปลงที่ดินเป็นแนวยาวข้างคลองบางพลัด และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางพลัดในระยะเดินถึง และ โครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เลยทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันออก – ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ แนวรถไฟฟ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์
  • ทิศใต้ – ติดกับคลองบางพลัด
  • ทิศตะวันตก – ติดกับที่พักอาศัยแนวราบ

ทิศเหนือ ติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 81 ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ

ทิศตะวันออก ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ แนวรถไฟฟ้า ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์

ทิศใต้ อยู่ติดกับคลองบางพลัด ยาวตลอดแนวของที่ดิน

ทิศตะวันตก หรือด้านหลังโครงการอยู่ติดกับที่พักอาศัยแนวราบสูง 2-3 ชั้น และอพาร์ทเม้นท์

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สำนักงานเขตบางพลัด – 260 เมตร
  • โรงพยาบาลยันฮี – 1.3 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus สาขา บางพลัด – 1.5 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
  • ตลาดบางอ้อ – 1.8 กิโลเมตร
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย – 2.8 กิโลเมตร
  • ท่าเรือสะพานกรุงธนบุรี – 2.9 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงแรม Riverside Bangkok – 3.2 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ – 3.3 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงเรียนทิวไผ่งาม – 4.1 กิโลเมตร
  • สวนสาธารณะพระราม7 – 4.1 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้านครเหนือ – 4.4 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า – 4.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนต์คาเบรียล – 4.9 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)
  • โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ – 5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนราชินีบน – 5.2 กิโลเมตร
  • รัฐสภาใหม่ – 6.3 กิโลเมตร
  • เมเจอร์ ปิ่นเกล้า – 8.1 กิโลเมตร (รวมระยะกลับรถ)


เจาะลึกตัวโครงการ

De LAPIS จรัญ 81 เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวน 635 ยูนิต แบ่งออกเป็นอาคารร้านค้า อาคารพักอาศัย และ อาคารจอดรถ 8 ชั้น ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense

โครงการตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้สถานีบางพลัด ในชั้นสูงๆจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ

ดูจากโมเดลจะเห็นว่าโครงการอยู่ติดกับสถานีบางพลัดเลย ถัดมาคือสถานีบางอ้อที่อยู่ใกล้ๆกับโรงพยาบาลยันฮี จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งข้ามฝั่งเข้าเมืองโดยใช้สะพานพระราม7 หรือมุ่งหน้าเข้าไปยังย่านปิ่นเกล้า

ทางเข้าออกของโครงการอยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์เลยจึงสามารถเรียกรถได้ง่ายและไม่ไกลจากสถานีบางพลัด ดังนั้นถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จจะทำให้มีความสะดวกในการเดินทางโดยไม่ใช้รถดีพอสมควร

ขับรถเข้าโครงการมาก็สามารถตรงเข้าไปจอดที่อาคารจอดรถด้านหลังได้เลย ส่วนถ้าใครจะวนรถรับ-ส่งจะมี Drop off อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร และมีที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อหรือจอดชั่วคราวอยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน ข้างๆอาคารพักอาศัยฝั่งหนึ่งจัดเป็นสวนหย่อมและพื้นที่นั่งพักผ่อน มีทำประตูกั้นเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นถึงจะเข้ามาใช้ได้

สำหรับภาพรวมของโครงการ De LAPIS จรัญ 81 แบ่งออกเป็น 3 อาคาร ประกอบด้วย อาคารร้านค้าอยู่ด้านหน้าติดกับถนนใหญ่ ประกอบด้วยร้านค้าจำนวน 2 ร้าน ถัดมาเป็นอาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น ชั้น 1 มี Lobby , Co-Working Space , โถงลิฟต์ , ห้องจดหมาย , สำนักงานนิติบุคคล ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป โดยฝั่งด้านหน้าอาคารชั้น 2-14 จะมีห้อง 1 Bedroom Corner ขนาด 34.5 ตารางเมตร หรือ 1 ห้องนอนห้องมุมที่ถือเป็นจุดเด่นของโครงการด้วย โดยปกติแล้วตำแหน่งที่เป็นมุมของอาคารมักจะเป็นห้องขนาดใหญ่แบบ 2 ห้องนอนมากกว่าซึ่งในชั้นที่อยู่สูงหน่อยจะเห็นวิวแม่น้ำด้วย ส่วนตำแหน่งเดียวกันกับห้อง 1 Bedroom Corner  ในชั้น 15-30 ปรับเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 60 ตารางเมตรแทน ตรงกลางอาคารเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร ส่วนฝั่งด้านหลังอาคารเป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom สำหรับชั้น 31-32 จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีกจุดหนึ่งเป็น Sky Facilities ได้แก่ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และ Sky Lounge

อีกฝั่งหนึ่งของตัวอาคาร บริเวณด้านหลังอาคารห้องพักจะเป็นห้องแบบ Studio 26 ตารางเมตร

ด้านหลังโครงการเป็นอาคารจอดรถ 8 ชั้น แยกเป็นสัดส่วนไม่ไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของอาคารพัก โดยสามารถจอดได้ประมาณ 260 คันคิดเป็น 41% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 322 คิดเป็น  51% แบบรวมจอดซ้อนคัน ในแง่ของการใช้งานเวลาจอดรถแล้วจะต้องเดินกลับมาที่อาคารพักอาศัย ต้องรอดูว่าถ้าโครงการสร้างเสร็จจะมีทำทางเดินกันแดดกันฝนเชื่อมกับตัวอาคารมาเพิ่มให้หรือไม่

พอเห็นภาพรวมแล้ว มาดูผังชั้น 1 กันค่ะ จะเห็นว่าด้านหน้าเป็นร้านค้า ถัดเข้ามาจะเจอกับ Drop off สำหรับวนรถรับส่ง ถ้าใครจะจอดรถก็สามารถตรงเข้าไปที่อาคารจอดรถด้านหลังได้เลย ส่วนอาคารพักอาศัยชั้น 1 จะมี Lobby สำนักงานนิติบุคคลและโถงลิฟต์ ส่วนชั้นลอยจะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Co-Working Space

ภาพจำลองบรรยากาศสวนหย่อมและพื้นที่พักผ่อนด้านข้างโครงการ

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 โดยในชั้น 2-14 ฝั่งด้านหน้าโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Corner ขนาด 34.5 ตารางเมตร ส่วนตำแหน่งเดียวกันในชั้น 15-30 เปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 60 ตารางเมตร ถัดมาช่วงกลางอาคารเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร (สีฟ้าอ่อน) ติดๆกันคือห้องแบบ 1 Bedroom 26 ตารางเมตร (สีฟ้าเข้ม) ส่วนด้านหลังอาคารที่วงเส้นสีชมพูไว้คือห้องแบบ Studio 26 ตารางเมตรค่ะ

ตัวอาคารมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ วางห้องพักแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งค่อนไปทางทิศเหนือ-ใต้ทั้งหมดซึ่งสามารถเลี่ยงแดดร้อนตอนบ่ายได้และยังรับลมได้ดี โถงลิฟต์ต้งอยู่ค่อนมาทางด้านหลังอาคารดังนั้นจึงมีฝั่งที่เดินใกล้ลิฟต์และมีจำนวนยูนิตที่น้อย เป็นส่วนตัวมากกว่า และฝั่งที่เดินไกลลิฟต์หน่อยมีจำนวนยูนิตที่เยอะกว่า ในชั้น 2-14 มีจำนวนยูยิตต่อชั้นเท่ากับ 23 ห้อง ส่วนในชั้น 15-30 จะมีจำนวนยูนิตเท่ากับ 21 ห้อง เพราะปรับบางห้องเป็น 2 Bedroom ลิฟต์โดยสารมีจำนวน 3 ตัว ลิฟต์บริการอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 212:1 อาจจะต้องรอกันหน่อยในเวลาเร่งด่วน

ขึ้นมาที่ชั้น 31 จะมีห้องน้ำที่มี Sauna และ Locker ส่วนในชั้น 32 หรือ Roof Top จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Sky Lounge ทั้งหมดเป็น Sky Facilities ที่สามารถขึ้นมาใช้งานพร้อมกับชมวิวไปด้วยได้

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำและฟิตเนสชั้นบนสุด

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Co-Working Space
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 5.7 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร และ สระเด็กขนาด 3 x 3.5 เมตร ลึก 0.30 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • Sky Lounge
  • สวนหย่อมรอบโครงการ + พื้นที่พักผ่อน
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 212 :  1
  • Service Lift : 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 260 คันคิดเป็น 41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 322 คิดเป็น  51% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยของโครงการมีทั้งหมด 5 แบบ ห้อง Studio , 1 Bedroom ขนาด 26 ตารางเมตร และ 1 Bedroom Corner , 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตารางเมตร ทั้ง 2 ห้องนี้มีฟังก์ชันคล้ายๆกัน ต่างกันตรงที่ห้อง 1 Bedroom Corner เป็นห้องมุมที่มีผนังฝั่งหนึ่งเป็นกระจกทั้งแผง เปิดรับวิวได้เต็มที่ อีกแบบหนึ่งคือห้อง 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted ให้รายการวัสดุมาตรฐาน รวมกับเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น เราไปชมห้องตัวอย่างกันค่ะ

ห้องแรกที่จะพาไปชมคือ Studio 26 ตารางเมตร เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและครัว โดยครัวของห้องนี้ได้เคาน์เตอร์เป็นแบบ 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งใช้ประกอบอาหาร ส่วนอีกฝั่งเอาไว้เตรียมอาหารหรือใช้เป็นที่นั่งรับประทานอาหารก็ได้ ถือว่าวางผังออกมาได้ดีสำหรับห้อง Studio ซึ่งส่วนใหญ่มักจะออกแบบครัวเป็นเพียงแค่เคาน์เตอร์เล็กๆ แต่ด้วยความที่เป็นครัวเปิด เวลาทำอาหารก็อาจจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นและควันบ้าง เหมาะกับการทำอาหารง่ายๆหรือซื้อกลับมาทานมากกว่าค่ะ ถัดเข้าไปด้านในตัวห้องเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน เตียงวางอยู่ข้างหน้าต่างแบบเข้ามุม (Bay Window) ปลายเตียงเป็นทางเดินไปห้องน้ำโดยหน้าห้องน้ำจะมี ตู้เสื้อผ้าและทางออกไปที่ระเบียง การวางผังบริเวณนี้ก็เป็นสัดส่วนดี พอเราอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลยสะดวกดี หรือถ้าเราซักผ้า-ตากผ้าเสร็จแค่หันหลังมาก็เอาเสื้อมาเก็บที่ตู้เสื้อผ้าได้เลยเช่นกัน โดยระเบียงออกแบบให้เป็น private balcony คือมีระแนงกั้นบังตา ให้เราใช้พื้นที่ได้อย่างเป็นส่วนตัวและช่วยให้ภายนอกอาคารดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่จะไม่ได้เรื่องของการออกไปชมวิวเท่าไหร่นะ เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากกว่า ห้องน้ำวางผังเป็นสัดส่วน แบ่งออกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน พื้นที่อาบน้ำมีช่องหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วยค่ะ

มาดูในห้องกันเลยค่ะ เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับครัว ถัดไปด้านหลังเป็นพื้นที่นอนพักผ่อน ส่วนฝั่งปลายเตียงเป็นทางไปที่ระเบียงและห้องน้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.75 m. พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 mm.

ฝั่งหน้าห้องเราจะได้ตู้วางรองเท้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้

ตู้รองเท้าอยู่หน้าห้องเลย เก็บของได้เยอะพอสมควร สะดวกต่อการใช้งานและช่วยให้ห้องเรียบร้อยขึ้น ไม่มีรองเท้ามาวางเกะกะ

ด้านหลังโซฟาเป็นครัวเปิดซึ่งเหมาะกับการทำอาหารง่ายๆหรือซื้อเข้ามาทานมากกว่า พื้นที่บริเวณนี้ทำออกมาได้ดีพอสมควร ถือเป็นห้อง Studio ที่ได้ครัวเป็นสัดส่วนดี ถ้าใครชอบทำอาหารก็สามารถกั้นเป็นครัวปิดได้นะแต่ก็จะต้องแลกกับความโปร่งของตัวห้อง

พื้นบริเวณครัวเป็นกระเบื้องเซรามิค เหมาะต่อการใช้งาน เช็ด ล้าง ทำความสะอาดได้ง่าย

เคาน์เตอร์ครัวทางโครงการให้มา 2 ฝั่งตามในภาพ ฝั่งหนึ่งใช้ประกอบอาหาร ส่วนอีกฝั่งใช้เตรียมอาหาร

เคาน์เตอร์ด้านหน้าใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารหรือจะใช้นั่งทานข้าวก็ได้ ด้านหลังเคาน์เตอร์เป็นช่องโล่งๆเอาไว้สำหรับวางเก้าอี้

เคาน์เตอร์ด้านหลังเป็นส่วนสำหรับใช้ทำอาหาร มีเตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน และ เครื่องดูดควันมาให้ครบ วัสดุโดยรอบเป็นลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว  ลิ้นชักและบานเปิดทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close ค่ะ

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ HAFELE

อ่างล้างจานของ HAFELE ได้เป็นแบบหลุมเดียว มีฝาปิดด้านบนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้

ด้านข้างเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของพวกจานชามช้อนส้อม ของเล็กๆน้อยๆ ตรงกลางเป็นช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

มีถาดสำหรับเก็บช้อน-ส้อมมาให้

ถัดจากครัวมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีระยะดูทีวีประมาณ 2.2 m. เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 46″

พื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับพื้นที่นอนพักผ่อนแบบนี้

พื้นที่ห้องนอนมีขนาดที่เหมาะสมไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปมีพื้นที่รอบข้างเตียงเหลือไว้ให้เดินได้ วางเตียงได้ขนาด Queen Size

ทางฝั่งซ้ายของเตียงมีระยะประมาณ 36 cm. ส่วนทางฝั่งขวาติดกับพื้นที่นั่งเล่น ฝั่งนี้มีระยะกว้างหน่อยพอวางโต๊ะข้างเตียงได้

ปลายเตียงมีระยะห่างจากผนังประมาณ 40 cm. พอเดินผ่านได้ แต่ถ้าอยากจะติดทีวีแนะนำให้แขวนที่ผนังเอาจะประหยัดพื้นที่กว่า

ผนังข้างเตียงนอนเป็นหน้าต่างกรอบบานอลูมิเนียมสีขาวความสูงอยู่ที่ประมาณ 2 m. สามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วยหน้าต่างบานกระทุ้ง อีกทั้งยังได้หน้าต่างเข้ามุม (Bay Window) อีกด้วย

บานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ค่ะ

ฝั่งปลายเตียงเป็นทางไปที่ระเบียงและห้องน้ำ

ด้านบนเป็นตำแหน่งของแอร์ โครงการให้ยี่ห้อ Samsung ค่ะ

ระหว่างทางเดินไปที่ห้องน้ำ ทางฝั่งซ้ายคือตู้เสื้อผ้า ส่วนทางฝั่งขวาเป็นทางออกไปที่ระเบียง

ตู้เสื้อผ้าเราได้หน้าตาแบบนี้เลย หน้าบานเป็นบานเลื่อน ด้านในมีราวแขวนผ้าและชั้นสำหรับเก็บของมาให้ครบ สำหรับการใช้งานเนื่องจากอยู่หน้าห้องน้ำพออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวบริเวณนี้ได้เลยสะดวกดี

อีกฝั่งเป็นทางออกไประเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน

ระเบียงสำหรับห้องนี้ จัดฟังก์ชั่นมาให้เป็นพื้นที่ซักล้าง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ด้านบนเป็นตำแหน่งของ Condensing Unit ของแอร์ ซึ่งหันตัวเครื่องออกด้านนอก เวลาเราออกมาใช้งานก็จะไม่โดนลมร้อนเป่าค่ะ สังเกตด้านนอกจะมีระแนงกั้นทั้งแผงเลย ทำให้พื้นที่ระเบียงมีความเป็นส่วนตัว ออกมาตากผ้าก็ไม่มีใครเห็น ช่วยให้รูปลักษณ์ภายนอกของตัวอาคารเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังช่วยกันแสงแดดได้ในระดับหนึ่ง ระเบียงแบบนี้จะไม่เน้นใช้ออกไปดูวิวนะ จะเน้นเรื่องการใช้งานมากกว่า

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.08 x 1.15 m. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm.

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน พื้น-ผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิคโดยรอบ ตรงกลางเป็นพื้นที่ล้างหน้า ติดตั้งสุขภัณฑ์และกระจกเงามาให้แบบนี้เลย

ห้องน้ำมีธรณีกั้นระหว่างพื้นที่ในและนอกห้องน้ำ วัสดุเป็นหินอ่อนเทียมสูง 5 cm. ส่วนพื้นที่อาบน้ำธรณีเป็นกระเบื้องเซรามิค

อ่างล้างหน้าได้ของ HAFELE เป็นแบบเคาน์เตอร์ที่มีชั้นสำหรับเก็บของ วางผ้าเช็ดตัวอยู่ด้านล่าง

โถสุขภัณฑ์ของ HAFELE เช่นเดียวกัน

อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยแบบ Frameless มาให้เป็นสัดส่วน มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศและรับแสง ธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.05 x 0.95 m. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาดพอเหมาะต่อการใช้งาน มีธรณีกั้นแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วน

ฝักบัวของ HAFELE ติดตั้งมาให้พร้อมกับเดินงานระบบสำหรับเครื่องทำน้ำร้อน

ฝักบัวที่ทางโครงการให้มา

ปลั๊กและสวิตช์ของ schneider

ต่อมาคือห้องแบบ 1 Bedroom Plus 34.5 ตารางเมตร ห้องนี้จัดพื้นที่ใช้สอยมาเป็นห้องนั่งเล่น ครัวเปิด และห้องนอนมาคล้ายๆกับห้อง Studio แต่มีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า มีการกั้นห้องนอนเป็นสัดส่วน เวลาใช้งานจะรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีก 1 ห้อง สำหรับจัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบ จะเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนแขกก็ได้ สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้แบบพอดีๆ ห้องนี้มีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียง มีประตูเปิดระบายอากาศและรับแสงได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด เราไปดูห้องจริงกันค่ะ

ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน ถัดไปจึงเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน อีกฝั่งเป็นครัว ห้องอเนกประสงค์ และ ห้องน้ำ ห้องนี้พื้นที่ในแต่ละส่วนจะเป็นสัดส่วนมากขึ้น ห้องนอนมีการกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแต่ยังรู้สึกโปร่งเนื่องจากเป็นประตูกระจกที่แสงผ่านได้ ส่วนวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆได้เหมือนห้องก่อนหน้าค่ะ

ระยะดูทีวีของห้องนี้ประมาณ 2.2 m. พอๆกันกับห้องก่อนหน้า ในการเลือกซื้อโซฟาแนะนำว่าให้เลือกขนาดที่พอดีๆ ไม่ใหญ่จนเกินไปจะทำให้ได้ระยะรอบๆที่กว้างขึ้น

หน้าห้องทางโครงการ Built-in ตู้รองเท้ามาให้เช่นกัน

ดีไซน์เดียวกับกับห้องก่อนหน้า ในตู้นี้ด้านบนจะเป็นตำแหน่งของเครื่องควบคุมไฟฟ้าด้วย

ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยที่ความโปร่งโล่งไม่ได้น้อยลงเนื่องจากเป็นบานกระจก ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวกรณีอยู่กันมากกว่า 1 คนก็หาผ้าม่านมาติดตั้งเพิ่มได้

ห้องนอนมีขนาดกำลังพอดี วางเตียงแล้วมีพื้นที่รอบๆเตียงให้เดินผ่านได้ มีหน้าต่างแบบเข้ามุมเปิดรับแสงเข้ามาในห้อง และสามารถใช้นอนวิวได้ด้วย

ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ หรือจะวางโคมไฟก็ได้นะ

ปลายเตียงมีระยะประมาณ 45 cm. เดินผ่านได้แต่ถ้าจะวางทีวีเพิ่มแนะนำให้แขวนเอาค่ะ

ข้างเตียงมีหน้าต่างแบบเข้ามุมเอาไว้นอนชมวิวชิลล์ๆ

ปลายเตียงทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ได้ตามแบบนี้เลย

ออกจากห้องนอนมา เรามาดูอีกฝั่งของตัวห้องกันซึ่งจะประกอบด้วยครัว ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์

ครัวเป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารแบบเบาๆ ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องอเนกประสงค์

เคาน์เตอร์ครัวได้เป็นแบบ 2 ฝั่งเช่นเดียวกันค่ะ พอเตรียมอาหารเสร็จอีกฝั่งหนึ่งก็ยกมาทำอาหารที่เคาน์เตอร์อีกฝั่งหนึ่ง

เคาน์เตอร์ด้านหลังดีไซน์เป็นแบบเดียวกันกับห้องก่อนหน้า แบ่งช่องเอาไว้เป็นของเป็นสัดส่วน

เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน และเครื่องดูดควันได้ของ HAFELE ค่ะ

ห้องอเนกประสงค์กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน

ห้องนี้มีขนาด 1.80 x 2.35 m. สามารถจัดเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นเพิ่มอีกห้องก็ได้ตาม Lifestyle ถ้าเป็นห้องนอนจะวางเตียงเล็กแบบ 3.5 ฟุตได้แบบพอดีๆ ห้องนี้อีกฝั่งเป็นทางออกไปที่ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกจึงทำให้ห้องดูโปร่งจากแสงธรรมชาติที่เข้ามาในตัวห้อง

ทางออกไปที่ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม หน้าบานเป็นกระจก

ระเบียงได้เป็นแบบ Private balcony ที่เน้นการใช้สอย เอาไว้ซักล้าง-ตากผ้า มีระแนงกั้นเป็นส่วนตัว และพื้นที่ด้านบนเป็นตำแหน่งของ Condensing unit ของแอร์

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1 x 1.75 m. นอกจากวางเครื่องซักผ้าแล้ว ยังมีระยะให้ออกไปใช้งานอยู่พอสมควร

ระหว่างภายในห้องและระเบียงมีธรณียกสูงขึ้นมากันน้ำเวลาที่เราซักล้างหรือตอนฝกตกค่ะ

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ อยู่แยกออกมา อาจจะไกลจากห้องนอนหน่อยแต่มีข้อดีคือ ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนของตัวห้องก็เดินไปใช้ได้สะดวก สามารถใช้เป็นห้องน้ำแขกได้โดยที่ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของเรา

ภายในห้องน้ำแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆได้เหมือนกับห้องก่อนหน้า

ตำแหน่งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์อยู่ข้างๆกันแบบนี้

อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยรวมทั้งมีธรณียกสูงขึ้นมาจากพื้นเพื่อแยกพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เวลาเราอาบน้ำ น้ำจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนแห้ง

1 Bedroom 26 ตารางเมตร ห้องนี้กั้นเป็นสัดส่วนทั้งหมดแบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำและระเบียงชัดเจน ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนได้ความโปร่งโล่งอยู่และได้กระจกแบบเข้ามุมเช่นเดียวกัน ส่วนครัวกั้นเป็นครัวปิดไปเลยและยังอยู่เชื่อมต่อกับระเบียงทำให้สามารถเปิดประตูระบายอากาศเวลาเราทำอาหารได้ โดยห้องนี้เราสามารถทำอาหารแบบต้ม ผัด แกง ทอด ได้เลยเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควัน ห้องน้ำต้องเดินมาเข้าบริเวณครัว ภายในแบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วน

เข้าห้องมาจะเจอห้องนั่งเล่น ถัดไปเป็นห้องนอนกั้นด้วยกระจกบานเลื่อน อีกฝั่งเป็นห้องครัวและห้องน้ำ

บรรยากาศภายในห้องนอนค่ะ เป็นสัดส่วนและดูไม่อึดอัด ขนาดห้องกำลังพอดีและได้แสงธรรมชาติจากบานหน้าต่างแบบเข้ามุม ปลายเตียงมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวี

ห้องนี้เราสามารถทำอาหารได้เลยเต็มที่เนื่องจากเป็นครัวปิดและสามารถเปิดประตูทางออกไประเบียงเพื่อระบายอากาศได้

ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งเป็นสัดส่วนค่ะ

ส่วนห้องที่ไม่มีห้องตัวอย่างที่น่าสนใจคือ 1 Bedroom Corner 34.5 ตารางเมตร โดยผังจะคล้ายกับแบบ 1 Bedroom Plus เลยแต่จะมีผนังฝั่งหนึ่งเป็นหน้าต่างบานกระจกทั้งแผง เปิดรับวิวและแสงสว่างได้เต็มที่ เป็น 1 Bedroom ห้องมุมที่ได้ห้องอเนกประสงค์ด้วย

แบบสุดท้ายคือ 2 Bedroom 60 ตารางเมตร เหมาะกับกลุ่มครอบครัว เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร นั่งกันได้หลายคน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางโซฟาแบบ L-Shape ได้ และมีทางออกไปที่ระเบียงซึ่งเน้นการใช้ซักล้าง-ตากผ้า มากกว่าชมวิว มีห้องน้ำสำหรับใช้รวมกัน 1 ห้องอยู่ตรงข้ามห้องนอนเล็ก ที่มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน ในสุดเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องค่อนข้างกว้าง วางเตียง King Size ได้และยังมีพื้นที่วาง Daybed ข้างเตียง มี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 April 2018

  • 1 Bedroom เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท หรือ 95,769 บาท/ตร.ม.
  • (ราคาห้องอื่นๆรอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางโครงการ)

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

De LAPIS จรัญ 81 เป็น 1 ใน 4 โครงการคอนโดใหม่ในปีนี้ที่ทาง Grand Unity Development ได้ปรับแบรนดิ้งใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Simply Makes Sense ทำเลตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์  ใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด ทำเลจัดอยู่ในจรัญฯช่วงปลาย ซึ่งมีข้อดีคือใกล้สะพานพระราม 7 สามารถใช้เส้นทางข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการนั้นส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ บ้าน วัด และโรงเรียน มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารอยู่บ้าง ในช่วงริมแม่น้ำจะมีร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดีๆ ใกล้สำนักงานเขตบางพลัดและโรงพยาบาลยันฮี ซึ่งข้างๆโรงพยาบาลมีตลาดบางอ้อ ที่มีของขายทั้งคาวหวานเดินมาหาอะไรทานได้สะดวก มี Tesco Lotus เอาไว้ให้มาจับจ่ายใช้สอยกันได้ ถ้าอยากไปห้างใหญ่ๆต้องไปที่บริเวณถนนบรมราชชนนีซึ่งมีครบทั้งศูนย์การค้าอย่าง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และ Community mall อย่าง The Sense นอกจากนั้นยังมีพาต้า ห้างเก่าแก่แหล่งรวมร้านอาหาร วินรถตู้ รถเมล์ และช่างชุ่ย แหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่อยู่ในทำเลใกล้ๆกัน

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่บนฝั่งธนบุรี ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เป็นถนนสายหลัก อยู่ค่อนมาใกล้สะพานพระราม 7 ระยะทางในการเดินทางเข้าออกเมืองนับว่าสะดวก สามารถใช้เส้นทางข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองไปยังย่าน รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พระราม9 ได้สะดวก นอกจากนั้นยังใกล้สะพานกรุงธนฯหรือสะพานซังฮี้อีกหนึ่งสะพานข้ามฝั่งเพื่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้  บริเวณสะพานนี้จะมีท่าเรือใช้เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการเดินทาง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใช้หนีรถติดได้อีกด้วย ที่จอดรถประมาณอยู่ที่ 260 คันคิดเป็น 41% ไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 322 คิดเป็น  51% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกได้ทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ละแวกใกล้โครงการ และรถประจำทาง อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินสถานีบางพลัด ซึ่งถ้าสร้างเสร็จจะสามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อข้ามฝั่งไปยังเตาปูนและบางซื่อเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ หรือจะใช้เชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายปัจจุบันวิ่งเข้าเมืองก็ได้ นอกจากนั้นอีกสายหนึ่งคือ ช่วงหัวลำโพง – บางแค ก็มีสถานที่สำคัญๆหลายแห่ง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยา ช่วยทุ่นเวลาไม่ให้เราต้องอยู่บนท้องถนนนานนัก

วัสดุ ให้มาแบบ Fully Fitted ได้วัสดุ-อุปกรณ์มาตรฐานดีสมราคา ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น พื้นเป็นไม้ลามิเนต กระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์-เตาไฟฟ้า-เครื่องดูดควัน-อ่างล้างจานได้ของ HAFELE ครัววัสดุเป็นลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว  ลิ้นชักและบานเปิดทั้งหมดเป็นแบบ Soft Close ห้องน้ำมีฉากกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ ได้ไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง ระเบียงติด Condensing air เป็นแบบแขวนมาให้

การออกแบบ ทำออกมาได้ดี ตัวอาคารเป็นสไตล์โมเดิร์น ทันสมัยมากขึ้น แบ่งอาคารออกเป็น 3 ส่วนแยกการใช้งานกัน คือร้านค้าอยู่ด้านหน้า และที่จอดรถอยู่ด้านหลัง ทำให้อาคารพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัว การวางผังมีการจัดให้ห้องแบบ 1 Bedroom Corner และ 2 Bedroom อยู่ด้านหน้าอาคารเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา การออกแบบห้องพักจัดฟังก์ชันออกมาน่าใช้งานและเป็นสัดส่วนทั้งห้อง Studio ที่มีเคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง มีห้อง 1 Bedroom Corner ห้อง 1 ห้องนอน+ห้องอเนกประสงค์ที่เป็นห้องมุมเป็นจุดขายของโครงการ พื้นที่ส่วนกลางจัดวางเอาไว้ชั้นล่างและชั้นบนสุดเป็น Sky Facilities

สาธารณูปโภค จัดมาให้ครบตามมาตรฐาน รอบๆโครงการมีสวนหย่อมและพื้นที่นั่งพักผ่อน ในตัวอาคารชั้น 1 มี Lobby , Co-Working Space , โถงลิฟต์ , ห้องจดหมาย , สำนักงานนิติบุคคล ขึ้นมาที่ชั้น 31 จะเป็น ห้องน้ำที่มี Sauna และ Locker ส่วนในชั้น 32 หรือ Roof Top จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Sky Lounge ทั้งหมดเป็น Sky Facilities ที่สามารถขึ้นมาใช้งานพร้อมกับชมวิวไปด้วยได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 97,000  บาท/ตร.ม., 5 April 2018

  • ทำเล 7.5/10 – ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ในจรัญฯช่วงปลายที่ใกล้ทางด่วนและสะพานข้ามแยก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางพลัด
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางด้วยรถสะดวก อยู่ระหว่าง 2 สะพานข้ามไปฝั่งพระนคร และไม่ไกลมากจากย่านปิ่นเกล้า
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – โครงการติดสถานีบางพลัด เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก 
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาดีเหมาะสมกับการใช้งาน ขายแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้น 
  • แบบ 7.75/10 – จัดวางฟังก์ชันในห้องได้ดี เป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบตามมาตรฐาน มี Sky Facilities 

  • UPPER CLASS
  • 7.83 / 10.00

BOTTOM LINE

De LAPIS จรัญ 81 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโด High Rise ทำเลจรัญฯช่วงปลาย ใกล้ทางด่วนและสะพานข้ามแยก ใกล้รถไฟฟ้า ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย มีส่วนกลางให้ใช้ครบครัน ห้องพักมีให้เลือกหลากหลาย ชอบห้องที่เป็นห้องมุมหรือห้องอเนกประสงค์ ได้วัสดุอุปกรณ์ดี มีงบประมาณเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อน เริ่มต้น 17,000 บาทต่อเดือน