[รีวิวฉบับที่ 2838] ยังไง Campus Condo ย่านรังสิตก็ยังคงคึกคักอยู่ตลอด เพราะมีทั้งน้องๆนักศึกษา ผู้ปกครองและคนทำงานในย่านนี้ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง รวมไปถึงนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่าทำกำไรด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นโครงการใหม่ๆมาเปิดตัวกันอยู่เรื่อยๆ

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นคอนโดแห่งใหม่ ใกล้ ม.กรุงเทพ โดยเป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก dcondo Hype รังสิต บน Sansiri Community ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้าม ม.กรุงเทพ แต่บอกเลยว่ามีแนวคิด การออกแบบและ Layout ห้องใหม่ที่ไม่มีในโครงการแรก รวมถึงยังโดดเด่นด้วยราคาจับต้องง่ายสุดบนทำเล เริ่มต้นเพียง 1.49-2.99 ล้านบาท* โดยทางโครงการจะเปิด PRESALE ในวันที่ 15-16 นี้แล้ว งั้นเราพามาชมกันเลยว่าโครงการนี้จะมีความน่าสนใจอะไรบ้าง

  • ทำเลติดถนนใหญ่ ตรงข้าม ม.กรุงเทพ : เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วน มีรถ Shuttle Service วิ่งบริการรับ-ส่งจากโครงการไปมหาลัย รวมถึงมีสะพานลอยด้านหน้าโครงการให้เดินข้ามฝั่งไปมหาลัยได้สะดวก
  • เน้นความเป็นส่วนตัว : ตั้งอยู่ด้านใน Sansiri Community ประกอบกับจำนวนยูนิตเพียง 534 ยูนิต แตกต่างกับโครงการเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่มี 1,000 ยูนิตขึ้นไป ทำให้ได้บรรยากาศภายในโครงการที่ไม่พลุกพล่าน
  • ราคาจับต้องได้ง่ายสุดบนทำเล : ด้วยการซื้อแปลงที่ดินขนาดใหญ่มาทีเดียว ต้นทุนราคาที่ดินจึงถูกกว่าโครงการอื่น สร้างความโดดเด่นด้วยราคาจับต้องง่าย เริ่มต้น 1.49 ล้านบาท* พอๆกับราคาเปิดตัวของโครงการแรกเมื่อ 2-3 ปีก่อนเลย
  • ตกแต่งแบบ Fully Furnished : เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว แต่น่าสนใจที่คำนึงถึงคุณภาพและสุขภาพของลูกบ้าน อย่างเก้าอี้และโซฟา Memory Foam บุผ้าจาก PASAYA และออกแบบตามหลัก Ergonomic รองรับสรีระและลดแรงกดทับที่ทำให้เกิดอาการปวดตามร่างกาย
  • Sansiri Community : โครงการนี้และ dcondo Hype รังสิต เป็นส่วนหนึ่งของ Sansiri Community ที่มีแพลนจะเปิดตัวโครงการอื่นๆตามมา ทำให้มี Community Space เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกโครงการมาใช้งานร่วมกันได้

ข้อมูลโครงการ

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต)  ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568

 ชื่อโครงการ   dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
 ที่ดิน   4-3-24.7 ไร่
 ประเภทคอนโด   Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต   534 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 261 ยูนิต และอาคาร B 273 ยูนิต
 จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด   38 ยูนิต
 ที่จอดรถ   160 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2568
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   พ.ค. ปี 2569
 กำหนดการขาย   PRESALE 15-16 มี.ค. 2568
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.72 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.90 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 2.60 ล้านบาท*

 ราคาเริ่มต้น  1.49-2.99 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 76,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1685

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 14.04261445607972, 100.6167285423279
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • Campus Condo ติดถนนพหลโยธิน อยู่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ เดินทางได้สะดวกสบาย
  • Shuttle Service + สะพานลอยด้านหน้าโครงการ น้องๆนักศึกษาเดินทางไปเรียนได้ง่าย
  • ซื้อลงทุนปล่อยเช่าได้ ทั้งน้องๆนักศึกษาและพนักงานที่ทำงานในสถานศึกษา รวมถึงพนักงานในโรงพยาบาลและนิคมฯ

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก dcondo Hype รังสิต บน Sansiri Community ที่ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินและตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเป็น Campus Condo อีกแห่งที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคลากรและคนที่ทำงานในย่านรังสิต

สำหรับ Campus Condo บนย่านรังสิตนี้ก็มีอยู่หลายแห่ง รองรับกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรใน ม.กรุงเทพ, ม.ธรรมศาสตร์และม.รังสิต ประกอบกับทาง ม.กรุงเทพ ก็ได้ปิดวิทยาเขตกล้วยน้ำไทและย้ายมาย่านรังสิตแล้ว ทำให้ Demand ความต้องการอยู่อาศัยบนทำเลนี้เพิ่มมากขึ้นและการเปิดรับนักศึกษาใหม่ทุกปีก็ทำให้เกิดการหมุนเวียนของ Demand บนทำเลอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ Campus Condo บนย่านนี้จะเป็นที่นิยมของนักลงทุนเพื่อซื้อห้องปล่อยเช่า เพราะสามารถสร้างผลตอบแทน Yield ได้สูงสุดถึง 10%*

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินฝั่งขาเข้า จึงสามารถขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี – รังสิตผ่านดอนเมืองได้เลย หรือใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 4.1 กิโลเมตร รวมถึงมีทางพิเศษอุดรรัถยาและวงแหวนกาญจนาภิเษกให้ใช้งานด้วย

นอกจากนั้นยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ต่อขยายจากสถานีรังสิต ผ่านมหาวิทยาลัยกรุงเทพยาวไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ใช้เดินทางได้สะดวกสบายขึ้น โดยคาดเปิดบริการในปี 2571 หากเปิดให้บริการแล้วก็สามารถนั่งไป Future Park รังสิตได้สบายๆ หรือคนที่อยากกลับบ้านต่างจังหวัด ก็ไปลงสถานีดอนเมืองเชื่อมต่อสนามบินหรือรถไฟทางไกลได้เลยนั่นเอง

Image 1/6
บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลถือว่าสูงเลย เพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจึงเป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคัก โดยรอบมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารกระจายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยเฉพาะฝั่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีซอยชื่อรังสิตภิรมย์ที่นอกจากเป็นโซนหอพักนักศึกษา ยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารชื่อดังเต็มแน่นตลอดซอย

รวมถึงใกล้ๆ ม.กรุงเทพจะมี Mingle Community Mall ที่มีพื้นที่ให้นั่งทำงาน, ติวหนังสือ, ทานอาหารได้ ส่วนภายในปั๊มบางจากก็มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ข้างใน Hypermarket อย่าง Lotus’s และติดๆ กันเลยก็จะมี The ForRest พหลโยธิน ที่ภายในมี Decathlon ให้ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย เดินป่ากันได้แบบสะดวกๆ และร้านอาหารอย่าง KFC, หมูกระทะ, ชาบูและบุฟเฟต์ เรียกว่าหายห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ ถ้าใครอยากเดินห้างเปลี่ยนบรรยากาศ โครงการก็อยู่ไม่ไกลจาก Future Park รังสิต โดยขับตรงจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร

Image 1/3
ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์

ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์

ใครที่ใช้ทางด่วนบ่อยๆก็สะดวกเลย เพราะมีทางด่วนบนทำเลให้เลือกหลายเส้นทาง

  • ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ สามารถขับตรงจากโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วนได้เลย มีระยะห่าง 4.1 กิโลเมตร จึงเดินทางเข้าเมืองไปทางห้าแยกลาดพร้าว-ดินแดง-เพลินจิตได้
  • ทางด่วนอุดรรัถยา ใช้เดินทางเข้าเมืองโดยเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช ไปทางปากเกร็ด-จตุจักร-พระราม 3 ได้ มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร
  • ถนนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนรอบนอก โดยขับตรงจากโครงการไปยังถนนรังสิต-นครนายก เพื่อเข้าสู่เส้นกาญจนาภิเษกค่ะ มีระยะทางประมาณ 16.3 กิโลเมตร จึงเดินทางไปทางสายไหม-ลาดกระบัง-บางนาได้ง่าย

การเดินทางจากโครงการไป ม.กรุงเทพ

ถึงแม้ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.กรุงเทพ แต่ก็สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทางกลับรถแค่ 1.6 กิโลเมตร จึงใช้เวลาเดินทางไปเรียนได้ไม่นาน แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่บนทำเลที่ถึงแม้จะอยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย แต่ก็อยู่เลยตัวมหาลัยไปแล้ว ทำให้ขาไปมหาลัยจะต้องกลับรถไกลและใช้เวลาเยอะกว่า

ส่วนขากลับมายังตัวโครงการจะต้องใช้สะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก-คลองหลวง มีระยะทางประมาณ 6.6 กิโลเมตรค่ะ ถึงแม้ขากลับจะเสียเวลาไปบ้าง แต่เราก็มองว่ารอบขากลับมายังโครงการไม่ได้ต้องการความเร่งรีบเท่าตอนขาไปมหาลัยที่น้องๆนักศึกษาจะต้องรีบเข้าคลาสเรียนให้ทันเวลา

ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถก็จะมี Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการไปมหาลัยและวินมอเตอร์ไซค์ให้ใช้บริการได้ รวมถึงทางโครงการได้ก่อสร้างสะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community เพื่อให้น้องๆนักศึกษาเดินไปเรียนได้สะดวกมากขึ้น

Image 1/2
สะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community

สะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community

สะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ออกแบบมีหลังคาป้องกันแดดตลอดทาง จึงทำให้เดินไปเรียนได้ไม่ร้อน มีกำหนดการคาดเสร็จช่วง พ.ค. ปี 2568

พอน้องๆเดินข้ามสะพานลอยไปจะเจอปั๊มบางจากที่มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ภายในปั๊มให้มากินข้าวหรือซื้อของได้ง่ายๆ และเดินต่อไปอีก 130 เมตรก็จะถึงประตู ม.กรุงเทพเลยค่ะ

Image 1/4
Sales Gallery ของโครงการ 

Sales Gallery ของโครงการ 

Sales Gallery ของโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะอยู่บริเวณด้านหน้า Sansiri Community ติดถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็น Sale Gallery เดิมที่ใช้เป็นสำนักงานขายของ dcondo Hype รังสิต ภายในก็ตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีม-ส้ม ดูมีชีวิตชีวาดี หากใครสนใจก็สามารถแวะไปดูกันได้ โดยเปิด PRESALE ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้

Image 1/2
ที่ตั้งโครงการ

ที่ตั้งโครงการ

ที่ตั้งโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) อยู่ด้านในสุดของ Sansiri Community และอยู่ถัดจาก dcondo Hype รังสิต โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าของ Sansiri Community ซึ่งกำลังจะมีการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ฝั่งด้านข้างโครงการจะติดกับ dcondo Hype รังสิต สูง 8 ชั้น แต่ก็ออกแบบตัวอาคารมีระยะห่างกัน ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก ส่วนฝั่งด้านหลังโครงการจะเป็นอาคารแนวราบ ทำให้ปัจจุบันวิวโดยรอบโครงการค่อนข้างเปิดโล่ง ส่วนบริเวณด้านหน้าก็ติดถนนพหลโยธิน เดินทางได้สะดวกและเป็นส่วนตัวกว่าเมื่อเทียบกับโครงการหรือหอพักบางแห่งที่ตั้งอยู่ในซอย

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารแนวราบ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ คลองหนึ่งและที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนของโครงการและพื้นที่โครงการในอนาคต
  • ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโด dcondo Hype รังสิต สูง 8 ชั้น และถนนพหลโยธิน

Image 1/3
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้า Sansiri Community เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้า Sansiri Community เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้า Sansiri Community อยู่ติดถนนพหลโยธิน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • เมกา โฮม ~ 170 เมตร
  • ตลาดไท ~ 5.4 กิโลเมตร
  • Future Park รังสิต ~ 6 กิโลเมตร
  • Zpell รังสิต ~ 6.2 กิโลเมตร
  • ตลาดสี่มุมเมือง ~ 11 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลภัทรธนบุรี ~ 800 เมตร
  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 5.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ~ 7 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 500 เมตร
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 5.2 กิโลเมตร
  • AIT International School ~ 7 กิโลเมตร
  • สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ~ 7.1 กิโลเมตร
  • รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ ~ 7.8 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • ราคาจับต้องง่ายสุดบนทำเล ด้วยการซื้อแปลงที่ดินขนาดใหญ่มาทีเดียว ต้นทุนราคาที่ดินจึงถูกกว่าโครงการอื่น สามารถทำราคาโครงการได้ดี
  • เน้นความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ด้านใน Sansiri Community และมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง 534 ยูนิต
  • สระว่ายน้ำยาว 40 เมตร + สวนสีเขียวรวม 1 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นภายในโครงการ
  • ออกแบบส่วนกลางอยู่ทั้ง 2 อาคาร แบ่งเป็น Passive Facilities ในอาคาร A และ Active Facilities ในอาคาร B จึงเลือกอยู่อาศัยได้ตามการใช้งาน
  • Community Space อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ออกแบบเป็น Shared Facilities ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกัน

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ติดกับคอนโด dcondo Hype รังสิต เลย แต่ก่อนที่เราจะพาไปเจาะลึกตัวโครงการกัน อยากจะขอเล่าภาพรวม Sansiri Community บนเนื้อที่รวม 20 ไร่ ทำเลติดถนนพหลโยธินและอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.กรุงเทพกันก่อนค่ะ

“Sansiri Community” ออกแบบแบ่งผืนที่ดินเป็น 4 โครงการด้วยกัน โดยมีโครงการแรกเป็น dcondo Hype รังสิต และ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ 2 ซึ่งแต่ละโครงการจะมีทางเข้า-ออก, พื้นที่ส่วนกลางและการดูแลจากนิติบุคคลแยกกันชัดเจน รวมถึงจำนวนเพื่อนบ้านน้อยจึงมั่นใจได้ว่าจะมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและได้ความปลอดภัยที่ทั่วถึง

เรามองว่าข้อดีของโครงการนี้ นอกจากอยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางด้วยรถยนต์หรือเดินเท้าได้ง่าย มีความ Rare Item กว่าโครงการในซอย ยังมีเรื่องราคาที่จับต้องได้ง่ายสุดบนทำเลด้วย

ทุกคนอย่าลืมนะคะว่าทางแสนสิริได้ซื้อที่ดิน Sansiri Community ผืนใหญ่มาทีเดียว ไม่ใช่การทยอยซื้อทีละแปลง ทางโครงการจึงมีต้นทุนราคาที่ดินถูกกว่าราคาที่ดินในปัจจุบัน ทำให้ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ทำราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท* พอๆกับราคาเปิดตัวของ dcondo Hype รังสิต เมื่อ 2-3 ปีก่อน รวมถึงเราคาดว่าโครงการ 3-4 ที่จะตามมาในอนาคตก็น่าจะมีราคาเปิดตัวพอๆกัน ทำให้เรื่องราคาจึงเป็นข้อได้เปรียบของ dcondo ใน Sansiri Community ที่สามารถคงราคา 1 ล้านกลางๆได้ แตกต่างจากโครงการอื่นๆที่จะมีราคาเริ่มต้นขยับสูงขึ้นตามราคาที่ดินที่สูงกว่านั่นเอง

แนวคิดของ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) คือ “สีสันที่ใช่ ได้ชีวิตดีรอบด้าน” มีแรงบันดาลใจมาจาก Facade อาคารสไตล์ Contemporary สะท้อนความ Mature และ Growth พร้อมใช้โทนสีแดงสื่อถึงความมีชีวิตชีวา สดใสสมกับชื่อ Vivid โดยออกแบบเป็นคอนโด  Low Rise 8 ชั้น แบ่งเป็น 2 อาคาร รวม 534 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่

โครงการนี้ก็มีการร่วม Design ฟังก์ชันส่วนกลางและห้องพักกับทางนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม. กรุงเทพ ผ่านกิจกรรม BUD 😀 AWARD เหมือนตอนออกแบบ dcondo Hype รังสิต เพื่อศึกษาความต้องการและการใช้งาน แล้วนำมาใช้ในการออกแบบโครงการให้ถูกใจน้องๆนักศึกษามากขึ้น

โดยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของ dcondo Hype รังสิต เป็น Clubhouse แยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ทำให้พักผ่อนและเล่นสนุกได้เต็มที่เหมือนคำว่า Hype ที่เป็นชื่อโครงการ อีกทั้งมี Muti-Purpose Studio สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอ และ Game Room ให้มาใช้งานด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้

ส่วน dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ออกแบบส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 เน้นเดินมาใช้งานได้สะดวกสบายภายในอาคาร มีพื้นที่ทำอาหารทั้ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จัดปาร์ตี้ ทำอาหารกับเพื่อนๆ รวมถึงมีสระว่ายน้ำยาวถึง 40 เมตร ออกกำลังกายได้จริงจังค่ะ

ด้วยฟังก์ชันส่วนกลางที่แตกต่างกันของทั้ง 2 โครงการ เราจึงมองเห็นโอกาสที่ทางแสนสิริสามารถต่อยอดได้ โดยทำเป็น Co-Sharing Facilities มีพื้นที่ส่วนกลางที่ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการบน Sansiri Community สามารถใช้ร่วมกันได้ คล้ายๆกับโครงการ XT หากวันไหนอยากเล่นเกมก็เดินไป dcondo Hype รังสิต ถ้าอยากทำอาหารก็มาที่ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) แต่นี่เป็นสิ่งที่เราคิดเล่นๆเองนะคะ เพราะถ้าทางโครงการต่อยอดจากส่วนกลางที่แตกต่างแล้วทำเป็น Co-Sharing Facilities เราก็มองเป็น Benefit ที่ดีให้แก่ลูกบ้านบน Sansiri Community นี้

เรามาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้า Sansiri Community กันเลย ทางโครงการตกแต่งด้วย Iconic Sculpture นอกจากจะทำให้ดูสวยงาม น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังเพิ่มความโดดเด่นและมองเห็นทางเข้า-ออกโครงการได้ชัดเจนจากระยะไกลเลยค่ะ

บริเวณด้านข้างของทางเข้า-ออกโครงการจะมีอาคารพาณิชย์ 6 ยูนิตเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 ให้มาจับจ่ายใช้สอยได้ตลอด 24 ชม. โดยคาดเปิดบริการเดือน ก.ค. ปี 2568 ทันเวลาที่น้องๆเปิดเทอมหรือเข้ามาทำกิจกรรมรับน้อง ปฐมนิเทศพอดี

Image 1/3
ทางเข้า-ออก Sansiri Community

ทางเข้า-ออก Sansiri Community

ทางเข้า-ออก Sansiri Community แบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน มีความกว้างถนน 12 เมตรยาวไปจนด้านในสุดที่ดิน จึงขับสวนกันได้สบาย แต่ทางโครงการได้บอกว่าจะมีการทำซุ้มประตู Sansiri Community เป็นรั้วไม้กระดกและป้อมรปภ. เพิ่มอีกชั้น ตั้งอยู่ระหว่าง Iconic Sculpture และทางเข้า-ออกโครงการ dcondo Hype รังสิต

ทำให้ทุกโครงการใน Sansiri Community จะได้ Double Gate Security ประตูเข้า-ออกโครงการ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งตัวโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะอยู่ด้านในสุดของ Sansiri Community นี้ งั้นเราพามาดู Master Plan ของโครงการกันเลยค่ะ

สำหรับการวางผังโครงการ จะวางตัวอาคารทั้ง 2 อาคารเรียงต่อกันเป็นแนวยาวตามผืนที่ดินโครงการ โดยบริเวณด้านหน้าโครงการจะเป็นสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวรวมประมาณ 1 ไร่ เป็นวิวให้กับห้องพักที่หันเข้ามาด้านในโครงการ ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่บริเวณด้านหลัง ทำให้ไม่มีกลิ่นหรือควันรถยนต์ไปรบกวนพื้นที่สวนสีเขียว

นอกจากนั้นทางโครงการได้บอกมาว่าบริเวณตรงท้ายของ Sansiri Community จะทำเป็น Community Space ขนาดประมาณครึ่งไร่ ซึ่งเป็น Shared Facilities ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกัน อาจจะมีการจัด Event หรืองานเทศกาลต่างๆที่เข้ากับเด็กมหาลัยอย่าง Flea Market พื้นที่ตลาดนัดให้ลูกบ้านมาขายของได้ งานเทศกาลดนตรี เพื่อให้เกิดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่และสังคมที่อบอุ่น

สำหรับทางเข้า – ออกของโครงการอยู่ติดถนนภาระจำยอมที่ยาวมาจากถนนพหลโยธิน โดยการเข้า – ออกโครงการจะใช้ระบบ Bluetooth ผ่านไม้กั้นกระดก พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง, LIVE-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Drop Off รับ-ส่งลูกบ้านและมี Visitor Parking อยู่ใกล้ๆให้มาใช้งานได้ จากนั้นจึงขับวนไปทางซ้าย เพื่อไปจอดรถบริเวณใต้อาคาร A และ B โดยมีที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และมี EV Charger 3 จุด รวม 6 หัวจ่าย บริเวณอาคาร A รองรับกับเทรนด์สมัยใหม่ที่คนนิยมหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเข้า-ออกโครงการ มีการตกแต่งสวนสีเขียวภายในโครงการยาวตลอดแนวถนน นอกจากจะเป็นวิวสีเขียว สร้างบรรยากาศร่มรื่นให้กับตัวโครงการแล้ว ยังเป็น Buffer Zone ป้องกันเสียงและกลิ่นควันของรถยนต์ที่ขับไป-มาบนถนนด้านหน้าไม่ให้ไปรบกวนการอยู่อาศัยภายในอาคาร

อาคาร A

ทางโครงการออกแบบแบ่งพื้นที่ส่วนกลางเป็น Passive Facilities อยู่ในอาคาร A เน้นนั่งพักผ่อน พูดคุยหรือทำงานและ Active Facilites ในอาคาร B เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย ทำให้ลูกบ้านสามารถเลือกอยู่อาศัยได้ตามการใช้งาน อย่างคนที่ใช้ Fitness เป็นประจำก็แนะนำให้เลือกห้องในอาคาร B เพราะสามารถลงลิฟต์มาใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคารจะมีทั้ง CCTV และระบบ Face Scan-Key Card ในการเดินเข้าออกและขึ้นลงในอาคาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

นอกจากนั้นจะมี Outdoor Co-Dining และ Swimming Pool ถือเป็นฟังก์ชันที่ลูกบ้านมาใช้งานกันบ่อยๆ ตั้งอยู่ระหว่าง 2 อาคาร จึงทำให้ลูกบ้านของทั้ง 2 อาคารมาใช้งานได้ง่าย

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Welcome Lobby ของอาคาร A ออกแบบเป็น Double Volume ห้องฝ้าเพดานสูง เพิ่มความโปร่งสบาย พร้อมกระจกขนาดใหญ่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านนอก ส่วนภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีมและตัดด้วยสีส้ม เพิ่มสีสันสดใส ทำให้ได้บรรยากาศที่ดูสดชื่น มีชีวิตชีวา

บริเวณ Co-Working Space จัดเป็นชุดโซฟา เพื่อใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขก นั่งเล่นพูดคุยหรือทำโปรเจกต์กับเพื่อนๆ ส่วนด้านข้างห้องจะมี Tutoring Room และ Private Pods สำหรับคนที่ต้องการสมาธิในการทำงานหรืออ่านหนังสือช่วงสอบ โดยสามารถนั่งได้ 4 คน จึงมานั่งติวหนังสือหรือทำงานกับกลุ่มเพื่อน

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Co-Kitchen & Pantry ของอาคาร A โดยตั้งอยู่ถัดจาก Welcome Lobby จึงมีการออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูงในโทนสีขาว-ส้มเหมือนกัน

ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมโต๊ะ 8 ที่นั่งและอุปกรณ์ทำอาหารครบครันให้น้องๆมาทำอาหารหรือจัดปาร์ตี้ฉลองต่างๆได้ นอกจากนั้นยังมีช่องแสงขนาดใหญ่เปิดรับวิวสีเขียวด้านนอกและเปิดเชื่อมไปยัง Outdoor Co-Dining ที่อยู่ระหว่าง 2 อาคาร ซึ่งทั้ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จะเป็นส่วนกลางที่มีเฉพาะในโครงการนี้เท่านั้นนะคะ

ทางโครงการได้ใช้ประโยชน์จากระยะห่างของทั้งอาคาร A และ B ที่นอกจากจะทำเป็นสวนสีเขียวแล้ว ยังจัดเป็น Outdoor Co-Dining ให้ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารมานั่งปาร์ตี้สังสรรค์และเชื่อมต่อกับ Co-Kitchen & Pantry ในอาคาร A จึงใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Outdoor Co-Dining ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร โดยใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนๆได้ มีทั้งชุดโต๊ะ-เก้าอี้แบบ Outdoor และมีที่นั่งแบบ Bar พร้อมปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ล้อมรอบเป็นร่มเงาให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานได้นานขึ้น

แต่เอาจริงๆเราก็สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานได้เหมือนกันนะ เผื่อน้องๆอยากเปลี่ยนบรรยากาศการนั่งทำงานมานั่งท่ามกลางสวนสีเขียวบ้าง

อาคาร B

พื้นที่ส่วนกลางในอาคาร B จะเป็น Active Facilities ทั้ง Fitness และ Yoga Room เหมาะกับสายออกกำลังกายโดยเฉพาะ แต่ห้องพักอาศัยของอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 1 ถึงแม้จะได้วิวสวนส่วนกลางแบบเต็มๆ แต่ก็อาจได้ยินเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากพื้นที่จอดรถหรือส่วนกลาง เราจึงมองว่าห้องพักในชั้นนี้เหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์และส่วนกลาง

ส่วนด้านข้างของอาคาร B จะเป็นสระว่ายน้ำยาว 40 เมตร และสวนสีเขียวยาวรวม 125 เมตร จึงทำให้ห้องพักอาศัยในอาหาร B จะได้วิวสีเขียวตรงบริเวณนี้ไปเต็มๆ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Fitness ของอาคาร B ซึ่งทางโครงการได้จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายมาครบครันทั้ง Cardio และ Weight Training

โดยโซน Cardio จะอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ ส่วนโซน Weight Training เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการโฟกัสกล้ามเนื้อ ก็จะอยู่ถัดเข้ามาด้านในห้องและมีกระจกเงาไว้ส่องเช็กท่าทางให้ถูกต้องเวลาออกกำลังกายด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Swimming Pool ระบบเกลือ มีขนาด 4.50-6.50×40.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร ถือว่ามีความยาวสระมากกว่า dcondo Hype รังสิต อีกนะ (ขนาดสระของ dcondo Hype รังสิต 5×20 เมตร) ทำให้สามารถมาว่ายน้ำได้จริงจังเลย ส่วนด้านข้างก็มีพื้นที่นั่งริมสระด้วย

ถึงแม้จะออกแบบเป็นสระกลางแจ้งและอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ แต่ด้วยเงาของอาคารและต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆ ก็ช่วยบังสายตาและทิศทางของแดดได้พอดี ประกอบกับน้องๆนักศึกษาส่วนใหญ่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยในช่วงกลางวัน ทำให้เวลามาใช้งานสระว่ายน้ำก็จะเป็นช่วงเช้าหรือตอนค่ำๆที่แดดไม่แรงแล้วนั่นเอง

พื้นที่สวนสีเขียวของโครงการมีขนาดรวมประมาณ 1 ไร่ โดยจะอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคาร B ประกอบกับห้องพักของอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 1 จึงทำให้สามารถการันตีว่าห้องพักโซนนี้จะได้วิวสวนสีเขียวสวยๆไปนานๆ ด้วยการดูแลจากนิติบุคคลที่คอยดูแลรักษาส่วนกลางให้สวยงามอยู่เสมอ

สำหรับพื้นสวนสีเขียวนี้ประกอบด้วย Outdoor Active Space พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, Multi Purpose Lawn สวนสีเขียวแนวยาวและ Sansiri Backyard โซนพืชผักสวนครัว ถือเป็น Signature Facilities ที่มีในทุกโครงการของแสนสิริ เพื่อให้ลูกบ้านมาเก็บผัก ผลไม้นำไปทำอาหารได้

อย่างที่เราได้เกริ่นไปเล็กน้อยว่าบริเวณด้านในสุดของ Sansiri Community จะเป็น Community Space ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกันได้ โดยสามารถจัดงานเทศกาลต่างๆที่เข้ากับน้องๆนักศึกษา หรือเป็นพื้นที่ตลาดนัดให้ลูกบ้านมาขายของ ช้อปปิ้งกันภายใน Sansiri Community ได้เลยนั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Outdoor Active Space เผื่อลูกบ้านอยากเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายใน Fitness มาออกกำลังกายกลางแจ้งกันบ้าง โดยจะมีเครื่องออกกำลังกายมาให้ใช้งาน ส่วนโดยรอบก็ปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ สร้างบรรยากาศสดชื่นและร่มรื่นในขณะที่ใช้งานในบริเวณนี้ได้ดี

แปลนชั้นพักอาศัยของโครงการ

Image 1/7
อาคาร A : ชั้น 2

อาคาร A : ชั้น 2

อาคาร A จะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการ มีจำนวนรวม 261 ยูนิต ออกแบบชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 และวางตำแหน่งลิฟต์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 131 : 1 ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางอาคาร อิงไปทางฝั่งขวา ทำให้ห้องพักในปีกขวาอาคารจะมีระยะเดินที่ใกล้กว่า ส่วนโถงทางเดินภายในอาคารเป็น Double load Corridor มีห้องอยู่ 2 ฝั่งของโถงทางเดิน แต่พยายามออกแบบไม่ให้ตำแหน่งประตูห้องแต่ละฝั่งตรงกัน เวลาเปิด-ปิดประตูจะได้ไม่ต้องเจอเพื่อนบ้านตรงๆ จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จะมีเฉพาะห้องพักปีกขวาในชั้น 2 ที่ได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม

ตำแหน่งห้องขนาดเล็กอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. และ 25.00-26.75 ตร.ม. จะอยู่ฝั่งที่หันออกไปด้านนอกอาคารทางทิศเหนือที่ไม่ร้อน ส่วนห้องที่หันเข้ามาด้านในโครงการ เหมาะกับคนที่อยากได้วิวส่วนกลางด้านล่างและวิวเปิดโล่ง โดยเป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. (มีหลายห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียวให้เลือก) และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. เป็นห้องใหญ่สุดของโครงการ นอกจากนั้นห้องตำแหน่ง 33-34 ยังออกแบบมีกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้กว้างขึ้นค่ะ

Image 1/8
อาคาร B : ชั้น 1

อาคาร B : ชั้น 1

อาคาร B ออกแบบชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทำให้มีจำนวนรวม 273 ยูนิตมากกว่าอาคาร A เพียงเล็กน้อย แต่ห้องพักตรงชั้น 1 นี้อาจได้ยินเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากพื้นที่ส่วนกลางอยู่เหมือนกัน จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์และส่วนกลางเป็นหลัก

ส่วนการวางตำแหน่งลิฟต์และโถงทางเดินเหมือนอาคาร A มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 137 : 1 ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางอาคาร อิงไปทางฝั่งซ้ายและโถงทางเดินแบบ Double load Corridor เปิดประตูได้ไม่ชนกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม จะมีเฉพาะห้องตรงชั้น 1 และห้องปีกซ้ายของชั้น 2 ที่ได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ตำแหน่งห้องของทั้งอาคาร A และ B จะจัดตำแหน่งคล้ายๆกัน โดย 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. และ 25.00-26.75 ตร.ม. จะหันไปด้านนอกอาคารทางทิศเหนือ ห้องจึงไม่ร้อน ส่วน 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. จะหันเข้ามาด้านในได้วิวเปิดโล่งและวิวสีเขียวด้านล่าง อีกทั้งยังออกแบบมีห้องกระจกเข้ามุมเปิดรับแสงและวิวได้กว้างตรงตำแหน่ง 04 และ 25

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  •  อาคาร A
    – Welcome Lobby
    – Co-Working Space
    – Tutoring Room
    – Private Pods
    – Co-Kitchen & Pantry
    – Laundry Room
    – Juristic Room
    – Mailbox
  •  อาคาร B
    – Fitness
    – Yoga Room
    – Laundry Room
    – Mailbox
  • Outdoor Facilities
    – Swimming Pool ขนาด 4.50-6.50×40.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร
    – Outdoor Active Space
    – Outdoor Co-Working Space
    – Multi Purpose Lawn
    – Sansiri Backyard
    – Outdoor Co-Dining
    – Grab & Go
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 134 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 131 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 137 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • EV Charger 3 จุด รวม 6 หัวจ่าย บริเวณอาคาร A
  • Double Gate Security ประตูเข้า-ออกโครงการ 2 ชั้น
  • การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ผ่านไม้กั้นกระดก
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร  CCTV / Face Scan / Key Card
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
  • LIVE-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง
  • กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง

แบบห้อง

Highlight

  • เน้นห้อง 1 Bedroom จึงอยู่อาศัยคนเดียวหรือแชร์กับ Roommate ได้สบายๆ
  • ตกแต่งแบบ Fully Furnished ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว ประหยัดงบค่าตกแต่งไปได้ประมาณนึงเลย
  • ออกแบบตามหลัก Ergonomic + Memory Foam + บุผ้าจาก PASAYA ทั้งเก้าอี้นั่งอ่านหนังสือและโซฟา ช่วยปรับและรองรับสรีระของร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยตัวเวลานั่งนานๆ อีกทั้งยังมีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ใช้งานได้นาน

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะกับนักศึกษาหรือคนที่หาที่พักใกล้ที่ทำงานอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ รวมถึงตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished ที่ซื้อของเพิ่มนิดหน่อยก็เข้าพักอาศัยได้เลย

ตัวห้องมีการจัด Layout เหมือนกับ dcondo Hype รังสิต จะมีเพียง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ที่เป็น Layout ใหม่ให้เลือก ออกแบบมีการกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นแยกจากห้องนอน ทำให้พื้นที่ภายในห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

Image 1/6
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.

ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างครบทั้ง Built-in และลอยตัว ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, Memory Foam Sofa, โต๊ะกลาง, โต๊ะทำงาน+Ergonomic Cushion Chair, เคาน์เตอร์ครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องเก็บของด้านล่างและเครื่องปรับอากาศ แต่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นจะขึ้นอยู่กับแบบห้องนะคะ เราจึงประหยัดงบตกแต่งไปได้ประมาณนึงเลยค่ะ

วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
– พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จำนวน 1-3 ตัว (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน

วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– เคาน์เตอร์ครัว Top Counter เป็น HPL พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน
– อ่างล้างจาน จาก TEKA

วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก ENGLEFIELD
– อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH
– ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ทางโครงการจะมีห้องตัวอย่างของ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. เพียงห้องเดียวให้ชมที่ Sales Gallery นะคะ แต่ว่าแบบห้องอื่นๆของโครงการนี้จะมีการจัด Layout ห้องเหมือนกับ dcondo Hype รังสิต ดังนั้นเราจึงได้เก็บภาพบรรยากาศของ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. ในโครงการ dcondo Hype รังสิต มาให้ชมกันด้วย


1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.

Image 1/2
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. จะเป็น Layout ห้องแบบใหม่ที่ไม่มีใน dcondo Hype รังสิตมาก่อน โดยมีจำนวนยูนิตเยอะเป็นอันดับ 2 รองจาก 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ตัวห้องออกแบบมีประตูกระจก 3 ตอน กั้นระหว่าง Common Area และห้องนอน เพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนภายในห้องและห้องนอนก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

สำหรับตำแหน่งของแบบห้องนี้ส่วนใหญ่จะหันไปทางด้านหน้าโครงการฝั่งทิศใต้ ถึงแม้จะโดนแดดแรงหน่อย แต่ก็ได้วิวเปิดโล่งและมองเห็นวิวส่วนกลางด้านล่าง นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งห้องที่ติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียวให้เลือกหลายห้อง แต่ตำแหน่ง 33 ในอาคาร A และตำแหน่ง 25 ในอาคาร B จะเป็นห้องมุมอาคารที่ได้กระจกเข้ามุมตรงพื้นที่นั่งอ่านหนังสือจึงเปิดรับแสงและวิวได้เยอะดีค่ะ

  • แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่ด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี
  • พื้นที่นั่งเล่น แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวกสบาย
  • ห้องนอน ได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งอ่านหนังสือติดหน้าต่าง
  • ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
  • ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างตั้งเครื่องซักผ้าได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน

ประตูห้องจะเป็นบานลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องพกบัตรหรือกุญแจให้วุ่นวาย

ทางโครงการได้ออกแบบแบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่บริเวณด้านหน้าและโซนพักผ่อนจะอยู่บริเวณด้านในห้อง ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี

เราชอบที่ออกแบบโซนห้องครัวและห้องน้ำอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง เพราะนอกจากจะให้ช่างมาซ่อมแซมบำรุงรักษาได้ง่าย ไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่อื่นๆภายในห้อง ยังทำหน้าที่เป็น Buffer Zone ช่วยกันเสียงดังจากโถงทางเดินไม่ให้ไปรบกวนโซนพักผ่อนที่อยู่ด้านใน รวมถึงทำให้โซนพักผ่อนทั้งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้กว้าง สร้างบรรยากาศผ่อนคลายภายในห้องได้ดีเลยค่ะ

Image 1/4
ห้องครัวแบบเปิด

ห้องครัวแบบเปิด

เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเป็นห้องครัวแบบเปิด มีขนาดประมาณ 1.850×2.00 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และมีพื้นที่ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 1.25 เมตร

ทางโครงการได้ Built-in ชุดเคาน์เตอร์ครัวมาเหมือนห้องตัวอย่างเลย โดย Top Counter เป็น HPL (High Pressure Laminate) มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี ติดตั้งอ่างล้างจาน จาก TEKA พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน ทำให้สามารถเก็บอุปกรณ์ของใช้ในครัวได้เป็นระเบียบ ไม่ต้องกลัวฝุ่นและมีเว้นพื้นที่เพื่อตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าไว้ด้วย

หากใครชอบทำอาหารและต้องการใช้งานครัวจริงจังก็สามารถหาซื้อเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและติดตั้ง Backsplash บริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์เพิ่มได้นะคะ รวมถึงแนะนำให้ติดตั้งประตูกระจกเพื่อกั้นเป็นครัวปิดก็ดีเหมือนกัน จะได้ป้องกันไม่ให้กลิ่น-ควันอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ด้านในห้องค่ะ

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่ครัวเลยนะคะ มีข้อดีเวลาที่เราพาเพื่อนๆมานั่งเล่นที่ห้อง เพื่อนๆก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ทำให้ห้องนอนของเราก็มีความเป็นส่วนตัว

ประตูภายในห้องก็ออกแบบเป็นบานลายไม้เหมือนกับประตูด้านหน้าห้องเลยนะคะ ส่วนมือจับติดตั้งเป็นก้านโยก ทำให้เปิด-ปิดได้ง่ายดีค่ะ เราชอบที่เวลายกของเต็ม 2 มือก็สามารถใช้แขนดันเปิดประตูได้ง่ายกว่าพวกมือจับลูกบิดนะ

Image 1/7
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.80×1.90 เมตร ออกแบบมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในห้องได้ ส่วนภายในห้องน้ำก็ออกแบบแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน สำหรับพื้นและผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร สีและลวดลายเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำอย่างก๊อกน้ำเลือกใช้จาก ENGLEFIELD ส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH ถึงแม้ชื่อแบรนด์อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่เราเห็นว่ามีขายในบุญถาวร จึงทำให้สามารถหาซื้ออะไหล่เปลี่ยนได้ไม่ยาก

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.80×1.55 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง เพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้สะดวก รวมถึงติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ทำให้เปิด-ปิดได้กว้างและช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น

จากพื้นที่ห้องครัวไปยังโซนพักผ่อนจะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตรเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ที่มีผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง เพื่อปรับบรรยากาศภายในห้องให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น

Image 1/2
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 1.90×3.75 เมตร ปูเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย (ความสูงทั่วไป 2.40 เมตร) ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นอีก

โดยฝั่งนึงของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ตั้งโซฟาและโต๊ะกลาง ทำให้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.45 เมตร จึงตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ ถึงแม้ทางโครงการจะออกแบบพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางห้อง แต่ก็เลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อดึงแสงจากหน้าต่างตรงห้องนอนเข้ามา ทำให้ภายในห้องดูสว่าง ได้บรรยากาศโปร่งสบายดี

ทางโครงการได้ให้ตู้วางทีวีมาตามภาพด้านบนเลยนะคะ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของได้สบายๆ รวมถึงยังสามารถหาซื้อตู้เก็บของมาติดตั้งด้านบนทีวีเพิ่มได้ด้วย

นอกจากนั้นยังใช้ตู้นี้เป็นตู้เก็บรองเท้าได้ด้วยนะ แต่ถ้าเป็นเราจะซื้อตู้เก็บรองเท้าตั้งไว้ใกล้ๆประตูหน้าห้อง เวลาเข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าได้เลย ไม่ต้องเดินใส่รองเท้าเลอะสิ่งสกปรกมายังบริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่ะ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

ทางโครงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตามแนวคิด Well-Being & Sustainability ออกแบบเป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน โดยโซฟา 2 ที่นั่ง มีวัสดุเป็น Memory Foam โอบรับสรีระให้รู้สึกนั่งได้สบายตัว ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย และบุผ้าหุ้มโซฟาจากแบรนด์ PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ส่วนโต๊ะกลางที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นโต๊ะกลางสีดำสามารถปรับขนาดความสูงได้

เครื่องปรับอากาศจะมีจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง อย่างห้อง 1 Bedroom จะได้มา 1-2 ตัว ติดตั้งบริเวณ Common Area และห้องนอน ส่วน 1 Bedroom Plus จะได้ 3 ตัว ติดตั้งตรง Common Area, ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์

ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน เราชอบที่นอกจากจะใช้เป็นประตูกระจก ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะแล้ว ก็ยังสามารถเปิด-ปิดได้กว้าง ทำให้เวลาเปิดเชื่อมพื้นที่นั่งเล่น-ห้องนอนก็จะได้บรรยากาศโปร่งโล่งดีค่ะ

เราแนะนำสำหรับคนที่อยากให้พื้นที่ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว ก็สามารถหาซื้อผ้าม่านมาติดตรงประตู พอตอนกลางวันก็เปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงจากหน้าต่างเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่น แต่พอมีแขกมาเยี่ยมที่ห้องก็สามารถปิดผ้าม่านบังสายตาไม่ให้เห็นห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราได้นั่นเอง

Image 1/3
ห้องนอน

ห้องนอน

ห้องนอนมีขนาด 3.40×3.75 เมตร มีช่องแสงจากทั้งหน้าต่างและระเบียง โดยภายในห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุต ตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนบริเวณปลายเตียงก็มีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าและยืนแต่งตัว นอกจากนั้นตรงริมหน้าต่างก็มีพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือได้สบายๆเลยค่ะ

Image 1/2
ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง

ทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง เราจึงสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของกระจุกกระจิกหรือพวกหนังสือต่างๆ นอกจากนั้นยังดีไซน์หัวเตียงเป็นแบบโค้งมน เพื่อลดเหลี่ยมมุมแหลมคม ป้องกันอาการบาดเจ็บเวลาเดินชนหรือกระแทก

บริเวณปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าและพื้นที่นั่งอ่านหนังสือที่ทางโครงการได้ให้มาทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะ-เก้าอี้ จึงช่วยประหยัดเงินค่าตกแต่งไปได้ประมาณนึงเหมือนกันนะ

ทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึงฝ้าเหมือนในภาพเลยนะคะ ภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้าด้านบน-ล่าง แบ่งโซนเสื้อและกางเกง-กระโปรง ส่วนด้านข้างบานตู้มีติดกระจกเงามาให้ พร้อมชั้นวางของเล็กๆด้านหน้า ไว้วางของกระจุกกระจิกได้ สำหรับช่องด้านบนก็สามารถเก็บทั้งเสื้อผ้าหรือกระเป๋าเดินทาง ส่วนพื้นที่ยืนแต่งตัวก็กว้าง 0.95 เมตร ทำให้เดินผ่านไป-มาหรือยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ

Image 1/3
พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่าง

พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่าง

พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างมีขนาดประมาณ 1.75×2.25 เมตร เวลานั่งอ่านหนังสือก็สามารถมองออกไปชมวิวด้านนอกได้ โดยแบบห้องนี้จะได้โต๊ะทำงานยาว 2 ตัว พร้อม Ergonomic Cushion Chair 2 ตัว ทำให้มีพื้นที่นั่งทำงานกว้าง เราจึงชวนเพื่อนมานั่งเรียนหรือติวหนังสือด้วยกันในช่วงสอบได้ด้วย

ตัวเบาะเป็น Memory Foam บุด้วยผ้าจาก PASAYA มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งออกแบบเก้าอี้นี้ตามหลัก Ergonomics มีส่วนเว้าโค้งของตัวเบาะที่ช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ นั่งได้หลังตรง-คอตรง ลดการทำงานของกล้ามเนื้อคอ บ่า หลังและลดการกดทับของปุ่มกระดูกบริเวณก้น จึงทำให้เราสามารถนั่งทำงาน อ่านหนังสือเป็นระยะเวลานานได้โดยไม่ปวดตัว นอกจากนั้นยังคงดีไซน์ลบเหลี่ยมตรงมุมโต๊ะ ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตามแนวคิด Well-Being & Sustainability ของโครงการ

ด้านข้างของเตียงนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนเปิดไปยังพื้นที่ระเบียงส่วนตัวค่ะ

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.20×1.40 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร ทำความสะอาดได้ง่าย โดยออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างทำเป็นมุมปลูกต้นไม้ เพิ่มวิวสีเขียวให้กับห้องนอน เสริมด้วยเก้าอี้มานั่งรับลมได้ รวมถึงมีออกแบบเป็นระแนงพรางสายตาตรงพื้นที่ Condensing Unit ทำให้ดูสวยงามดีเมื่อมองจากด้านนอกอาคารค่ะ


1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.

Image 1/2
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.

อย่างที่เราได้เกริ่นไปนะคะว่า 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ของ dcondo Hype รังสิต และโครงการนี้มี Layout ห้องเหมือนกัน เราจึงไปเก็บภาพห้องตัวอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ในโครงการ dcondo Hype รังสิต มาให้ชมกันด้วย

สำหรับแบบห้องนี้จะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ มีตำแหน่งห้องส่วนใหญ่หันออกด้านนอกอาคารทางทิศเหนือที่ไม่โดนแดดจัด ห้องจึงไม่ร้อน ส่วนห้องที่หันเข้ามาด้านในโครงการจะได้วิวส่วนกลางและวิวเปิดโล่ง ห้องที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นตำแหน่ง 22-23 ในอาคาร B ที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียว  ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนตำแหน่ง 01 ในอาคาร A และตำแหน่ง 38 ในอาคาร B จะเป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียวและใกล้ลิฟต์ จึงเหมาะกับคนที่เน้นขึ้น-ลงอาคารได้สะดวกค่ะ งั้นเราพาไปดูจุดเด่นของห้องนี้กันเลย

  • แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่ด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี
  • Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนเข้าด้วยกัน ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • พื้นที่นั่งอ่านหนังสือติดหน้าต่าง ทำให้นั่งทำงานไปชมวิวไปได้เพลินๆ
  • พื้นที่แต่งตัวอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
  • ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารจะลอยเข้าไปในห้อง
  • ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
  • ระเบียง แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้

ประตูห้องจะออกแบบเหมือนกันทุกยูนิต โดยเป็นบานลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน ใช้งานได้ง่าย

ทางโครงการออกแบบแบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่บริเวณด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน โดยกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นโซน Service (ห้องครัวและห้องน้ำ) ก็เป็น Buffer Zone ช่วยป้องกันเสียงจากโถงทางเดินไม่ให้เข้าไปรบกวนโซนพักผ่อนด้านในห้อง

Image 1/2
Built-in ตู้รองเท้าจากโครงการ

Built-in ตู้รองเท้าจากโครงการ

บริเวณด้านข้างประตูห้องจะมีตู้รองเท้าแบบ Built-in จากโครงการมาให้เรียบร้อย เราชอบที่พอเข้าห้องมาก็สามารถถอดและเก็บรองเท้าได้เลย ภายในตู้วางรองเท้าได้ประมาณ 12-15 คู่ ส่วนข้างบนตู้ก็มีพื้นที่วางกุญแจหรือบัตรต่างๆที่ใช้งานบ่อยๆ รวมถึงเรายังติดตั้งราวแขวนเสื้อคลุม กระเป๋าหรือหมวกเพิ่มได้ ก็ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าดีค่ะ

Image 1/3
ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวแบบปิด

ห้องครัวมีขนาด 2.10×2.20 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงออกแบบเป็นครัวปิดจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารจะเข้าไปภายในห้อง

ทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ มี Top Counter เป็น HPL (High Pressure Laminate) ติดตั้งอ่างล้างจานจาก TEKA พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน ออกแบบมีเว้นช่องใส่ไมโครเวฟและพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า รวมถึงมีพื้นที่ด้านข้างกว้างประมาณ 0.55 เมตร เพื่อตั้งตู้เย็นด้วย

สำหรับทางเดินมีความกว้าง 1.15 เมตร ทำให้เราเดินผ่านเข้า-ออกห้องและยืนทำอาหารได้สบายๆ ถึงแม้ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและ Backsplash ตรงด้านหลังเคาน์เตอร์มาให้ แต่เราก็สามารถหาซื้อเพิ่มเอง ก็ทำให้เราได้เลือกแบรนด์หรืออุปกรณ์ชุดครัวได้ตามการใช้งานของเราเลย

ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่เต็มผนังกั้นระหว่างห้องครัวและ Common Area ทำให้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้กว้างกว่าประตูแบบ 2 ตอนทั่วไป ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันอาหารลอยเข้าไปในห้อง รวมถึงช่วยดึงแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาได้เยอะดี

Image 1/3
Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, เตียงนอน, แต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือ

Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, เตียงนอน, แต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือ

เมื่อเข้ามายังโซนพักผ่อนจะออกแบบ Common Area เป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, เตียงนอน, แต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือเข้าด้วยกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ 3.75×4.80 เมตร การออกแบบนี้มีข้อดี คือ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันและได้บรรยากาศโปร่งโล่ง รวมถึงมีพื้นที่รอบๆแต่ละฟังก์ชันค่อนข้างกว้าง จึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

วัสดุปูพื้นของโซนพักผ่อนจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย (ความสูงทั่วไป 2.40 เมตร) จึงได้บรรยากาศที่โปร่งสบายมากขึ้น

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ถัดจากห้องครัวเลย ทางโครงการจะให้โต๊ะกลางสีดำ สามารถปรับขนาดความสูงได้และโซฟา 2 ที่นั่งแบบ Memory Foam ทำให้นั่งได้สบายตัว ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย พร้อมบุผ้าหุ้มจากแบรนด์ PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งเราสามารถเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปวางตำแหน่งอื่นได้ตามการใช้งานนะคะ

Image 1/3
พื้นที่เตียงนอน

พื้นที่เตียงนอน

พื้นที่เตียงนอนจะอยู่บริเวณตรงกลางห้องและมีตำแหน่งตรงกับชั้นวางทีวี ทำให้นอนดูหนังได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการให้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง ส่วนบริเวณหัวเตียงมีการลบเหลี่ยมมุมออก เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

ทางโครงการออกแบบให้พื้นที่แต่งตัวอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ เราชอบที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี พออาบน้ำเสร็จก็มาเลือกเสื้อผ้าแต่งตัวได้ โดย Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึงฝ้าเพดานเหมือนห้องตัวอย่าง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นติดอยู่ด้านบนตู้เลย ส่วนภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้าด้านบน-ล่าง พร้อมกระจกเงาและชั้นวางของเล็กๆไว้วางของกระจุกกระจิก ส่วนช่องด้านบนตู้เสื้อผ้าก็ใช้วางกระเป๋าเดินทางได้สบายๆ

Image 1/4
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.90×2.00 เมตร ออกแบบมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในห้อง ส่วนภายในห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาเป็นสัดส่วน สำหรับพื้นและผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร

ทางโครงเลือกติดตั้งก๊อกน้ำจาก ENGLEFIELD ส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.00 เมตร มีการเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง เพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้ง่าย พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ 3 ตอนที่เปิด-ปิดได้กว้างและป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น

ต่อมาเราพากลับมาตรงพื้นที่นั่งอ่านหนังสือกัน โดยมีขนาดประมาณ 0.85×2.25 เมตร อยู่บริเวณริมหน้าต่าง ทำให้เราสามารถนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับชมวิวด้านนอกได้เพลินๆ

ทางโครงการได้ให้โต๊ะทำงานที่ออกแบบลบเหลี่ยมคมตรงมุมโต๊ะ ป้องกันอาการบาดเจ็บจากการชนหรือกระแทก พร้อม Ergonomic Cushion Chair 2 ตัว ออกแบบตัวเบาะเป็น Memory Foam ดีไซน์ตามหลัก Ergonomics ช่วยปรับสรีระของร่างกายและลดอาการปวดเมื่อยตัวเวลานั่งนานๆ อีกทั้งบุด้วยผ้าจาก PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย

ด้านข้างพื้นที่นั่งอ่านหนังสือจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเปิดออกไปยังระเบียง ทำให้เวลาน้องๆนั่งอ่านหนังสือนานๆก็ออกมายืนรับลมชมวิวตรงนี้ได้นะ

ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.85×1.10 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ทั้งเป็นพื้นที่ตากผ้า มุมต้นไม้หรือพื้นที่นั่งเล่น


1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

Image 1/2
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ โดยแบบห้องนี้จะไม่มีห้องตัวอย่างให้ชมใน Sales Gallery แต่เราสามารถเดินไปชมห้องตัวอย่างใน dcondo Hype รังสิต ที่อยู่ข้างๆ Sales Gallery ได้ เพราะ 1 Bedroom Plus ของทั้ง 2 โครงการมีการจัด Layout ห้องเหมือนกัน

ตำแหน่งของห้องนี้ทั้งหมดจะหันเข้ามาด้านในโครงการที่ได้วิวเปิดโล่งและวิวส่วนกลางของโครงการ เรามองว่าตำแหน่ง 34 ในอาคาร A และตำแหน่ง 04 ในอาคาร B น่าสนใจเพราะนอกจากจะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูงแล้ว ยังมีการออกแบบกระจกเข้ามุมที่ห้องอเนกประสงค์ เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง รวมถึงมีหน้าต่างด้านข้างตรงพื้นที่ครัว จึงสามารถกั้นเป็นครัวปิดแล้วเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้

  • Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • ห้องนอน มีพื้นที่เป็นสัดส่วน พร้อมระเบียงส่วนตัว
  • ห้องอเนกประสงค์ ปรับเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานได้
  • พื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
  • ห้องน้ำ แบ่งพื้นที่โซนแห้ง-เปียกชัดเจน
  • ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ ด้วยการแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน

Image 1/11
บริเวณด้านหน้าห้อง

บริเวณด้านหน้าห้อง

ทางโครงการออกแบบ Common Area เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยการเชื่อมพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่ง ส่วนห้องนอนก็มีพื้นที่วางเตียง ตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ พร้อมระเบียงทำเป็นมุมนั่งเล่น ปลูกต้นไม้เพิ่มวิวสีเขียวในห้องนอน สำหรับห้องน้ำติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องมาครบครันและมีห้องอเนกประสงค์ปรับเป็นห้องนอนของ Roommate หรือทำเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือได้เหมือนกัน

แบบแปลน

Image 1/2
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.

Image 1/4
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.

Image 1/9
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.

Image 1/4
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.

ราคา

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต)  ราคา ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.72 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.90 ล้านบาท*
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.60 ล้านบาท*

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, Memory Foam Sofa, โต๊ะกลาง, โต๊ะทำงาน+Ergonomic Cushion Chair, เคาน์เตอร์ครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องเก็บของด้านล่างและเครื่องปรับอากาศ
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
  • เคาน์เตอร์ครัว Top Counter เป็น HPL พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน และอ่างล้างจาน จาก TEKA
  • ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก ENGLEFIELD / อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH / ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
  • เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จำนวน 1-3 ตัว (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
  • ค่าจอง 1 Bedroom 10,000 บาท และ 1 Bedroom Plus 20,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 1 Bedroom 20,000 บาท และ 1 Bedroom Plus 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเฉพาะนักศึกษาหรือบุคลากรในมหาลัยเพราะอยู่ในระยะที่แค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงเลย รอบโครงการก็มีร้านอาหาร ร้านค้าอยู่หลากหลาย ส่วนด้านหน้าโครงการก็มี 7-11 ให้มาจับจ่ายได้สะดวก แต่ภาพรวมก็ยังไม่ได้คึกคักเท่าฝั่งมหาวิทยาลัย สำหรับทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านรังสิตที่นอกจากใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งแล้ว ยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าและ Hub ใหญ่ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆได้อีกด้วย

การเดินทางโดยใช้รถ :

อยู่ติดกับถนนใหญ่พหลโยธิน ขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย มีทางด่วนทั้งทางด่วนอุดรรัถยา, ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษกให้ใช้งาน รวมถึงเดินทางขาไปมหาลัยได้ง่าย จึงสะดวกและได้เปรียบกว่าโครงการหรือหอพักฝั่งที่อยู่ติดกับมหาลัย เพราะต้องไปกลับรถค่อนข้างไกล ส่วนที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 160 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมซ้อนคัน) อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าโอเคกับโครงการใกล้มหาลัยในระยะที่พอเดินได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ด้านหน้าโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธินจึงมีรถสาธารณะทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถแท็กซี่และรถสองแถวให้เรียกใช้บริการ อีกทั้งมีแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงตัดผ่านในอนาคต ช่วยให้เดินทางได้สะดวกขึ้น มีกำหนดคาดเปิดบริการในปี 2571

ส่วนการเดินทางไปยัง ม.กรุงเทพก็ถือว่าสะดวก เพราะมี Shuttle Bus รับ-ส่งจากโครงการไปยังมหาลัย รวมถึงมีสะพานลอย น้องๆจึงเดินข้ามฝั่งจากบริเวณด้านหน้าโครงการไปมหาลัยได้ง่าย ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเสร็จเดือน พ.ค. 2568

วัสดุ :

รูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้มาทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว เราจึงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย ส่วนวัสดุได้ตามมาตรฐานระดับราคา พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบและมีแอร์มาให้

แต่มีความน่าสนใจที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์เป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน อย่างโซฟาและเก้าอี้เป็น Memory Foam ออกแบบตามหลัก Ergonomic ช่วยปรับและรองรับสรีระของร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยตัว, ผ้าบุโซฟา-เก้าอี้มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย, ขอบเตียง-โต๊ะแบบลบมุมเหลี่ยม ลดการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ

การออกแบบ :

โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ 2 ใน Sansiri Community ประกอบด้วย 4 โครงการ บนเนื้อที่ 20 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยเป็นคอนโด Low Rise เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะตั้งอยู่ด้านในและมียูนิตน้อยเพียง 534 ยูนิต แตกต่างจากคอนโดเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่มีจำนวนเกิน 1,000 ห้อง พื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบอยู่ทั้ง 2 อาคาร แบ่งเป็น Passive และ Active Facilities มีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวบริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นภายในโครงการ

แบบห้องมีให้เลือก 4 แบบ เน้นเป็น 1 Bedroom เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน โดยมี Layout ห้องเหมือนกับ dcondo Hype รังสิต ออกแบบโซน Service อยู่ด้านหน้า ส่วนโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน เน้นเชื่อมต่อใช้งานง่ายและได้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึง จะมีเพียง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ที่เป็น Layout ใหม่ มีการกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นแยกจากห้องนอน ทำให้พื้นที่ภายในห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

สาธารณูปโภค :

ส่วนกลางให้มาครบครันตามมาตรฐาน ออกแบบ Passive Facilities และ Active Facilities อยู่คนละอาคาร พร้อมสระว่ายน้ำยาว 40 เมตรและสวนสีเขียวรวม 1 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จะเป็นส่วนกลางที่มีเฉพาะในโครงการนี้เท่านั้น ทำให้มาจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์หรือฝึกทำอาหารกันได้สบาย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 76,000 บาท/ตร.ม., 3 มีนาคม 2568

  • ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ อยู่ฝั่งตรงข้ามม.กรุงเทพ มี 7-11 หน้าโครงการ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย ไม่ไกลจากจุดกลับรถ
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – มี Shuttle Service รับ – ส่งไปม.กรุงเทพ สะพานลอยจะสร้างเสร็จช่วง พ.ค. ปี 2568
  • วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์ฯครบ ทั้ง Built-in และลอยตัว ออกแบบเฟอร์ฯดีกับสุขภาพ
  • แบบ 7.75/10 – เน้นเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ด้านใน+ยูนิตน้อย เน้น 1 Bedroom เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง อยู่ได้ 1-2 คน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางครบครัน แยกอาคารเป็น Passive และ Active Facilities พร้อมสระยาว 40 เมตรและสวนรวม 1 ไร่

  • ECONOMY CLASS
  • 8.00 / 10.00

dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เหมาะกับใคร

โครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพหรืออยู่ในย่านรังสิต เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว เน้นห้องขนาดเล็กอยู่ได้ 1-2 คน แบ่งโซน Service และพักผ่อนแยกกันชัดเจน ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ซื้อของอีกนิดหน่อยเข้าอยู่ได้เลย อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องกลางปล่อยเช่าเพื่อทำกำไร มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.49-2.99 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 8,940-20,930 บาท*

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่