
[รีวิวฉบับที่ 2838] ยังไง Campus Condo ย่านรังสิตก็ยังคงคึกคักอยู่ตลอด เพราะมีทั้งน้องๆนักศึกษา ผู้ปกครองและคนทำงานในย่านนี้ที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง รวมไปถึงนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่าทำกำไรด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นโครงการใหม่ๆมาเปิดตัวกันอยู่เรื่อยๆ
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นคอนโดแห่งใหม่ ใกล้ ม.กรุงเทพ โดยเป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก dcondo Hype รังสิต บน Sansiri Community ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้าม ม.กรุงเทพ แต่บอกเลยว่ามีแนวคิด การออกแบบและ Layout ห้องใหม่ที่ไม่มีในโครงการแรก รวมถึงยังโดดเด่นด้วยราคาจับต้องง่ายสุดบนทำเล เริ่มต้นเพียง 1.49-2.99 ล้านบาท* โดยทางโครงการจะเปิด PRESALE ในวันที่ 15-16 นี้แล้ว งั้นเราพามาชมกันเลยว่าโครงการนี้จะมีความน่าสนใจอะไรบ้าง
- ทำเลติดถนนใหญ่ ตรงข้าม ม.กรุงเทพ : เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วน มีรถ Shuttle Service วิ่งบริการรับ-ส่งจากโครงการไปมหาลัย รวมถึงมีสะพานลอยด้านหน้าโครงการให้เดินข้ามฝั่งไปมหาลัยได้สะดวก
- เน้นความเป็นส่วนตัว : ตั้งอยู่ด้านใน Sansiri Community ประกอบกับจำนวนยูนิตเพียง 534 ยูนิต แตกต่างกับโครงการเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่มี 1,000 ยูนิตขึ้นไป ทำให้ได้บรรยากาศภายในโครงการที่ไม่พลุกพล่าน
- ราคาจับต้องได้ง่ายสุดบนทำเล : ด้วยการซื้อแปลงที่ดินขนาดใหญ่มาทีเดียว ต้นทุนราคาที่ดินจึงถูกกว่าโครงการอื่น สร้างความโดดเด่นด้วยราคาจับต้องง่าย เริ่มต้น 1.49 ล้านบาท* พอๆกับราคาเปิดตัวของโครงการแรกเมื่อ 2-3 ปีก่อนเลย
- ตกแต่งแบบ Fully Furnished : เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว แต่น่าสนใจที่คำนึงถึงคุณภาพและสุขภาพของลูกบ้าน อย่างเก้าอี้และโซฟา Memory Foam บุผ้าจาก PASAYA และออกแบบตามหลัก Ergonomic รองรับสรีระและลดแรงกดทับที่ทำให้เกิดอาการปวดตามร่างกาย
- Sansiri Community : โครงการนี้และ dcondo Hype รังสิต เป็นส่วนหนึ่งของ Sansiri Community ที่มีแพลนจะเปิดตัวโครงการอื่นๆตามมา ทำให้มี Community Space เป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ทุกโครงการมาใช้งานร่วมกันได้
ข้อมูลโครงการ
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568
ชื่อโครงการ | dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี |
ที่ดิน | 4-3-24.7 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 534 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 261 ยูนิต และอาคาร B 273 ยูนิต |
จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 38 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 160 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2568 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | พ.ค. ปี 2569 |
กำหนดการขาย | PRESALE 15-16 มี.ค. 2568 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 1.49-2.99 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 76,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 14.04261445607972, 100.6167285423279
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- Campus Condo ติดถนนพหลโยธิน อยู่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ เดินทางได้สะดวกสบาย
- Shuttle Service + สะพานลอยด้านหน้าโครงการ น้องๆนักศึกษาเดินทางไปเรียนได้ง่าย
- ซื้อลงทุนปล่อยเช่าได้ ทั้งน้องๆนักศึกษาและพนักงานที่ทำงานในสถานศึกษา รวมถึงพนักงานในโรงพยาบาลและนิคมฯ
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก dcondo Hype รังสิต บน Sansiri Community ที่ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินและตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเป็น Campus Condo อีกแห่งที่ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคลากรและคนที่ทำงานในย่านรังสิต
สำหรับ Campus Condo บนย่านรังสิตนี้ก็มีอยู่หลายแห่ง รองรับกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรใน ม.กรุงเทพ, ม.ธรรมศาสตร์และม.รังสิต ประกอบกับทาง ม.กรุงเทพ ก็ได้ปิดวิทยาเขตกล้วยน้ำไทและย้ายมาย่านรังสิตแล้ว ทำให้ Demand ความต้องการอยู่อาศัยบนทำเลนี้เพิ่มมากขึ้นและการเปิดรับนักศึกษาใหม่ทุกปีก็ทำให้เกิดการหมุนเวียนของ Demand บนทำเลอยู่เสมอ จึงไม่แปลกที่ Campus Condo บนย่านนี้จะเป็นที่นิยมของนักลงทุนเพื่อซื้อห้องปล่อยเช่า เพราะสามารถสร้างผลตอบแทน Yield ได้สูงสุดถึง 10%*
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินฝั่งขาเข้า จึงสามารถขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี – รังสิตผ่านดอนเมืองได้เลย หรือใช้ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการ 4.1 กิโลเมตร รวมถึงมีทางพิเศษอุดรรัถยาและวงแหวนกาญจนาภิเษกให้ใช้งานด้วย
นอกจากนั้นยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ต่อขยายจากสถานีรังสิต ผ่านมหาวิทยาลัยกรุงเทพยาวไปถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ใช้เดินทางได้สะดวกสบายขึ้น โดยคาดเปิดบริการในปี 2571 หากเปิดให้บริการแล้วก็สามารถนั่งไป Future Park รังสิตได้สบายๆ หรือคนที่อยากกลับบ้านต่างจังหวัด ก็ไปลงสถานีดอนเมืองเชื่อมต่อสนามบินหรือรถไฟทางไกลได้เลยนั่นเอง
บรรยากาศรอบๆมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลถือว่าสูงเลย เพราะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจึงเป็นย่านที่ค่อนข้างคึกคัก โดยรอบมีทั้งร้านค้าและร้านอาหารกระจายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยเฉพาะฝั่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มีซอยชื่อรังสิตภิรมย์ที่นอกจากเป็นโซนหอพักนักศึกษา ยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารชื่อดังเต็มแน่นตลอดซอย
รวมถึงใกล้ๆ ม.กรุงเทพจะมี Mingle Community Mall ที่มีพื้นที่ให้นั่งทำงาน, ติวหนังสือ, ทานอาหารได้ ส่วนภายในปั๊มบางจากก็มีร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารอยู่ข้างใน Hypermarket อย่าง Lotus’s และติดๆ กันเลยก็จะมี The ForRest พหลโยธิน ที่ภายในมี Decathlon ให้ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย เดินป่ากันได้แบบสะดวกๆ และร้านอาหารอย่าง KFC, หมูกระทะ, ชาบูและบุฟเฟต์ เรียกว่าหายห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ ถ้าใครอยากเดินห้างเปลี่ยนบรรยากาศ โครงการก็อยู่ไม่ไกลจาก Future Park รังสิต โดยขับตรงจากโครงการไปประมาณ 6 กิโลเมตร
ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์
ใครที่ใช้ทางด่วนบ่อยๆก็สะดวกเลย เพราะมีทางด่วนบนทำเลให้เลือกหลายเส้นทาง
- ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ สามารถขับตรงจากโครงการไปยังจุดขึ้นทางด่วนได้เลย มีระยะห่าง 4.1 กิโลเมตร จึงเดินทางเข้าเมืองไปทางห้าแยกลาดพร้าว-ดินแดง-เพลินจิตได้
- ทางด่วนอุดรรัถยา ใช้เดินทางเข้าเมืองโดยเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช ไปทางปากเกร็ด-จตุจักร-พระราม 3 ได้ มีระยะทางประมาณ 8.9 กิโลเมตร
- ถนนกาญจนาภิเษกหรือวงแหวนรอบนอก โดยขับตรงจากโครงการไปยังถนนรังสิต-นครนายก เพื่อเข้าสู่เส้นกาญจนาภิเษกค่ะ มีระยะทางประมาณ 16.3 กิโลเมตร จึงเดินทางไปทางสายไหม-ลาดกระบัง-บางนาได้ง่าย
การเดินทางจากโครงการไป ม.กรุงเทพ
ถึงแม้ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.กรุงเทพ แต่ก็สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทางกลับรถแค่ 1.6 กิโลเมตร จึงใช้เวลาเดินทางไปเรียนได้ไม่นาน แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่บนทำเลที่ถึงแม้จะอยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย แต่ก็อยู่เลยตัวมหาลัยไปแล้ว ทำให้ขาไปมหาลัยจะต้องกลับรถไกลและใช้เวลาเยอะกว่า
ส่วนขากลับมายังตัวโครงการจะต้องใช้สะพานกลับรถที่ถนนเชียงราก-คลองหลวง มีระยะทางประมาณ 6.6 กิโลเมตรค่ะ ถึงแม้ขากลับจะเสียเวลาไปบ้าง แต่เราก็มองว่ารอบขากลับมายังโครงการไม่ได้ต้องการความเร่งรีบเท่าตอนขาไปมหาลัยที่น้องๆนักศึกษาจะต้องรีบเข้าคลาสเรียนให้ทันเวลา
ส่วนใครที่ไม่ได้ขับรถก็จะมี Shuttle Service รับ-ส่งจากโครงการไปมหาลัยและวินมอเตอร์ไซค์ให้ใช้บริการได้ รวมถึงทางโครงการได้ก่อสร้างสะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community เพื่อให้น้องๆนักศึกษาเดินไปเรียนได้สะดวกมากขึ้น
สะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community
สะพานลอยบริเวณด้านหน้า Sansiri Community กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ออกแบบมีหลังคาป้องกันแดดตลอดทาง จึงทำให้เดินไปเรียนได้ไม่ร้อน มีกำหนดการคาดเสร็จช่วง พ.ค. ปี 2568
พอน้องๆเดินข้ามสะพานลอยไปจะเจอปั๊มบางจากที่มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ภายในปั๊มให้มากินข้าวหรือซื้อของได้ง่ายๆ และเดินต่อไปอีก 130 เมตรก็จะถึงประตู ม.กรุงเทพเลยค่ะ
Sales Gallery ของโครงการ
Sales Gallery ของโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะอยู่บริเวณด้านหน้า Sansiri Community ติดถนนพหลโยธิน ซึ่งเป็น Sale Gallery เดิมที่ใช้เป็นสำนักงานขายของ dcondo Hype รังสิต ภายในก็ตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีม-ส้ม ดูมีชีวิตชีวาดี หากใครสนใจก็สามารถแวะไปดูกันได้ โดยเปิด PRESALE ในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้
ที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) อยู่ด้านในสุดของ Sansiri Community และอยู่ถัดจาก dcondo Hype รังสิต โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าของ Sansiri Community ซึ่งกำลังจะมีการพัฒนาเป็นโครงการในอนาคต ฝั่งด้านข้างโครงการจะติดกับ dcondo Hype รังสิต สูง 8 ชั้น แต่ก็ออกแบบตัวอาคารมีระยะห่างกัน ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดมากนัก ส่วนฝั่งด้านหลังโครงการจะเป็นอาคารแนวราบ ทำให้ปัจจุบันวิวโดยรอบโครงการค่อนข้างเปิดโล่ง ส่วนบริเวณด้านหน้าก็ติดถนนพหลโยธิน เดินทางได้สะดวกและเป็นส่วนตัวกว่าเมื่อเทียบกับโครงการหรือหอพักบางแห่งที่ตั้งอยู่ในซอย
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารแนวราบ
- ทิศตะวันออก ติดกับ คลองหนึ่งและที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ ติดกับ ถนนของโครงการและพื้นที่โครงการในอนาคต
- ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโด dcondo Hype รังสิต สูง 8 ชั้น และถนนพหลโยธิน
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้า Sansiri Community เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม
ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้า Sansiri Community อยู่ติดถนนพหลโยธิน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- เมกา โฮม ~ 170 เมตร
- ตลาดไท ~ 5.4 กิโลเมตร
- Future Park รังสิต ~ 6 กิโลเมตร
- Zpell รังสิต ~ 6.2 กิโลเมตร
- ตลาดสี่มุมเมือง ~ 11 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลภัทรธนบุรี ~ 800 เมตร
- โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ~ 5.8 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ~ 7 กิโลเมตร
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 500 เมตร
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 5.2 กิโลเมตร
- AIT International School ~ 7 กิโลเมตร
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ~ 7.1 กิโลเมตร
- รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 7.8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ราคาจับต้องง่ายสุดบนทำเล ด้วยการซื้อแปลงที่ดินขนาดใหญ่มาทีเดียว ต้นทุนราคาที่ดินจึงถูกกว่าโครงการอื่น สามารถทำราคาโครงการได้ดี
- เน้นความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ด้านใน Sansiri Community และมีจำนวนยูนิตน้อยเพียง 534 ยูนิต
- สระว่ายน้ำยาว 40 เมตร + สวนสีเขียวรวม 1 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นภายในโครงการ
- ออกแบบส่วนกลางอยู่ทั้ง 2 อาคาร แบ่งเป็น Passive Facilities ในอาคาร A และ Active Facilities ในอาคาร B จึงเลือกอยู่อาศัยได้ตามการใช้งาน
- Community Space อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ ออกแบบเป็น Shared Facilities ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกัน
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ติดกับคอนโด dcondo Hype รังสิต เลย แต่ก่อนที่เราจะพาไปเจาะลึกตัวโครงการกัน อยากจะขอเล่าภาพรวม Sansiri Community บนเนื้อที่รวม 20 ไร่ ทำเลติดถนนพหลโยธินและอยู่ฝั่งตรงข้าม ม.กรุงเทพกันก่อนค่ะ
“Sansiri Community” ออกแบบแบ่งผืนที่ดินเป็น 4 โครงการด้วยกัน โดยมีโครงการแรกเป็น dcondo Hype รังสิต และ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เป็นโครงการที่ 2 ซึ่งแต่ละโครงการจะมีทางเข้า-ออก, พื้นที่ส่วนกลางและการดูแลจากนิติบุคคลแยกกันชัดเจน รวมถึงจำนวนเพื่อนบ้านน้อยจึงมั่นใจได้ว่าจะมีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและได้ความปลอดภัยที่ทั่วถึง
เรามองว่าข้อดีของโครงการนี้ นอกจากอยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางด้วยรถยนต์หรือเดินเท้าได้ง่าย มีความ Rare Item กว่าโครงการในซอย ยังมีเรื่องราคาที่จับต้องได้ง่ายสุดบนทำเลด้วย
ทุกคนอย่าลืมนะคะว่าทางแสนสิริได้ซื้อที่ดิน Sansiri Community ผืนใหญ่มาทีเดียว ไม่ใช่การทยอยซื้อทีละแปลง ทางโครงการจึงมีต้นทุนราคาที่ดินถูกกว่าราคาที่ดินในปัจจุบัน ทำให้ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ทำราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท* พอๆกับราคาเปิดตัวของ dcondo Hype รังสิต เมื่อ 2-3 ปีก่อน รวมถึงเราคาดว่าโครงการ 3-4 ที่จะตามมาในอนาคตก็น่าจะมีราคาเปิดตัวพอๆกัน ทำให้เรื่องราคาจึงเป็นข้อได้เปรียบของ dcondo ใน Sansiri Community ที่สามารถคงราคา 1 ล้านกลางๆได้ แตกต่างจากโครงการอื่นๆที่จะมีราคาเริ่มต้นขยับสูงขึ้นตามราคาที่ดินที่สูงกว่านั่นเอง
แนวคิดของ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) คือ “สีสันที่ใช่ ได้ชีวิตดีรอบด้าน” มีแรงบันดาลใจมาจาก Facade อาคารสไตล์ Contemporary สะท้อนความ Mature และ Growth พร้อมใช้โทนสีแดงสื่อถึงความมีชีวิตชีวา สดใสสมกับชื่อ Vivid โดยออกแบบเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น แบ่งเป็น 2 อาคาร รวม 534 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่
โครงการนี้ก็มีการร่วม Design ฟังก์ชันส่วนกลางและห้องพักกับทางนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม. กรุงเทพ ผ่านกิจกรรม BUD 😀 AWARD เหมือนตอนออกแบบ dcondo Hype รังสิต เพื่อศึกษาความต้องการและการใช้งาน แล้วนำมาใช้ในการออกแบบโครงการให้ถูกใจน้องๆนักศึกษามากขึ้น
โดยการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของ dcondo Hype รังสิต เป็น Clubhouse แยกจากส่วนพักอาศัยชัดเจน ทำให้พักผ่อนและเล่นสนุกได้เต็มที่เหมือนคำว่า Hype ที่เป็นชื่อโครงการ อีกทั้งมี Muti-Purpose Studio สำหรับถ่ายภาพหรือวิดีโอ และ Game Room ให้มาใช้งานด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้
ส่วน dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ออกแบบส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 เน้นเดินมาใช้งานได้สะดวกสบายภายในอาคาร มีพื้นที่ทำอาหารทั้ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จัดปาร์ตี้ ทำอาหารกับเพื่อนๆ รวมถึงมีสระว่ายน้ำยาวถึง 40 เมตร ออกกำลังกายได้จริงจังค่ะ
ด้วยฟังก์ชันส่วนกลางที่แตกต่างกันของทั้ง 2 โครงการ เราจึงมองเห็นโอกาสที่ทางแสนสิริสามารถต่อยอดได้ โดยทำเป็น Co-Sharing Facilities มีพื้นที่ส่วนกลางที่ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการบน Sansiri Community สามารถใช้ร่วมกันได้ คล้ายๆกับโครงการ XT หากวันไหนอยากเล่นเกมก็เดินไป dcondo Hype รังสิต ถ้าอยากทำอาหารก็มาที่ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) แต่นี่เป็นสิ่งที่เราคิดเล่นๆเองนะคะ เพราะถ้าทางโครงการต่อยอดจากส่วนกลางที่แตกต่างแล้วทำเป็น Co-Sharing Facilities เราก็มองเป็น Benefit ที่ดีให้แก่ลูกบ้านบน Sansiri Community นี้
เรามาเริ่มกันที่บริเวณด้านหน้า Sansiri Community กันเลย ทางโครงการตกแต่งด้วย Iconic Sculpture นอกจากจะทำให้ดูสวยงาม น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังเพิ่มความโดดเด่นและมองเห็นทางเข้า-ออกโครงการได้ชัดเจนจากระยะไกลเลยค่ะ
บริเวณด้านข้างของทางเข้า-ออกโครงการจะมีอาคารพาณิชย์ 6 ยูนิตเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-11 ให้มาจับจ่ายใช้สอยได้ตลอด 24 ชม. โดยคาดเปิดบริการเดือน ก.ค. ปี 2568 ทันเวลาที่น้องๆเปิดเทอมหรือเข้ามาทำกิจกรรมรับน้อง ปฐมนิเทศพอดี
ทางเข้า-ออก Sansiri Community
ทางเข้า-ออก Sansiri Community แบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน มีความกว้างถนน 12 เมตรยาวไปจนด้านในสุดที่ดิน จึงขับสวนกันได้สบาย แต่ทางโครงการได้บอกว่าจะมีการทำซุ้มประตู Sansiri Community เป็นรั้วไม้กระดกและป้อมรปภ. เพิ่มอีกชั้น ตั้งอยู่ระหว่าง Iconic Sculpture และทางเข้า-ออกโครงการ dcondo Hype รังสิต
ทำให้ทุกโครงการใน Sansiri Community จะได้ Double Gate Security ประตูเข้า-ออกโครงการ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยและมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งตัวโครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) จะอยู่ด้านในสุดของ Sansiri Community นี้ งั้นเราพามาดู Master Plan ของโครงการกันเลยค่ะ
สำหรับการวางผังโครงการ จะวางตัวอาคารทั้ง 2 อาคารเรียงต่อกันเป็นแนวยาวตามผืนที่ดินโครงการ โดยบริเวณด้านหน้าโครงการจะเป็นสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวรวมประมาณ 1 ไร่ เป็นวิวให้กับห้องพักที่หันเข้ามาด้านในโครงการ ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่บริเวณด้านหลัง ทำให้ไม่มีกลิ่นหรือควันรถยนต์ไปรบกวนพื้นที่สวนสีเขียว
นอกจากนั้นทางโครงการได้บอกมาว่าบริเวณตรงท้ายของ Sansiri Community จะทำเป็น Community Space ขนาดประมาณครึ่งไร่ ซึ่งเป็น Shared Facilities ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกัน อาจจะมีการจัด Event หรืองานเทศกาลต่างๆที่เข้ากับเด็กมหาลัยอย่าง Flea Market พื้นที่ตลาดนัดให้ลูกบ้านมาขายของได้ งานเทศกาลดนตรี เพื่อให้เกิดบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่และสังคมที่อบอุ่น
สำหรับทางเข้า – ออกของโครงการอยู่ติดถนนภาระจำยอมที่ยาวมาจากถนนพหลโยธิน โดยการเข้า – ออกโครงการจะใช้ระบบ Bluetooth ผ่านไม้กั้นกระดก พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง, LIVE-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงและกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Drop Off รับ-ส่งลูกบ้านและมี Visitor Parking อยู่ใกล้ๆให้มาใช้งานได้ จากนั้นจึงขับวนไปทางซ้าย เพื่อไปจอดรถบริเวณใต้อาคาร A และ B โดยมีที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และมี EV Charger 3 จุด รวม 6 หัวจ่าย บริเวณอาคาร A รองรับกับเทรนด์สมัยใหม่ที่คนนิยมหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเข้า-ออกโครงการ มีการตกแต่งสวนสีเขียวภายในโครงการยาวตลอดแนวถนน นอกจากจะเป็นวิวสีเขียว สร้างบรรยากาศร่มรื่นให้กับตัวโครงการแล้ว ยังเป็น Buffer Zone ป้องกันเสียงและกลิ่นควันของรถยนต์ที่ขับไป-มาบนถนนด้านหน้าไม่ให้ไปรบกวนการอยู่อาศัยภายในอาคาร
อาคาร A
ทางโครงการออกแบบแบ่งพื้นที่ส่วนกลางเป็น Passive Facilities อยู่ในอาคาร A เน้นนั่งพักผ่อน พูดคุยหรือทำงานและ Active Facilites ในอาคาร B เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย ทำให้ลูกบ้านสามารถเลือกอยู่อาศัยได้ตามการใช้งาน อย่างคนที่ใช้ Fitness เป็นประจำก็แนะนำให้เลือกห้องในอาคาร B เพราะสามารถลงลิฟต์มาใช้งานได้สะดวกดีค่ะ
ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคารจะมีทั้ง CCTV และระบบ Face Scan-Key Card ในการเดินเข้าออกและขึ้นลงในอาคาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน
นอกจากนั้นจะมี Outdoor Co-Dining และ Swimming Pool ถือเป็นฟังก์ชันที่ลูกบ้านมาใช้งานกันบ่อยๆ ตั้งอยู่ระหว่าง 2 อาคาร จึงทำให้ลูกบ้านของทั้ง 2 อาคารมาใช้งานได้ง่าย
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Welcome Lobby ของอาคาร A ออกแบบเป็น Double Volume ห้องฝ้าเพดานสูง เพิ่มความโปร่งสบาย พร้อมกระจกขนาดใหญ่เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านนอก ส่วนภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีมและตัดด้วยสีส้ม เพิ่มสีสันสดใส ทำให้ได้บรรยากาศที่ดูสดชื่น มีชีวิตชีวา
บริเวณ Co-Working Space จัดเป็นชุดโซฟา เพื่อใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับแขก นั่งเล่นพูดคุยหรือทำโปรเจกต์กับเพื่อนๆ ส่วนด้านข้างห้องจะมี Tutoring Room และ Private Pods สำหรับคนที่ต้องการสมาธิในการทำงานหรืออ่านหนังสือช่วงสอบ โดยสามารถนั่งได้ 4 คน จึงมานั่งติวหนังสือหรือทำงานกับกลุ่มเพื่อน
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Co-Kitchen & Pantry ของอาคาร A โดยตั้งอยู่ถัดจาก Welcome Lobby จึงมีการออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูงในโทนสีขาว-ส้มเหมือนกัน
ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว พร้อมโต๊ะ 8 ที่นั่งและอุปกรณ์ทำอาหารครบครันให้น้องๆมาทำอาหารหรือจัดปาร์ตี้ฉลองต่างๆได้ นอกจากนั้นยังมีช่องแสงขนาดใหญ่เปิดรับวิวสีเขียวด้านนอกและเปิดเชื่อมไปยัง Outdoor Co-Dining ที่อยู่ระหว่าง 2 อาคาร ซึ่งทั้ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จะเป็นส่วนกลางที่มีเฉพาะในโครงการนี้เท่านั้นนะคะ
ทางโครงการได้ใช้ประโยชน์จากระยะห่างของทั้งอาคาร A และ B ที่นอกจากจะทำเป็นสวนสีเขียวแล้ว ยังจัดเป็น Outdoor Co-Dining ให้ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารมานั่งปาร์ตี้สังสรรค์และเชื่อมต่อกับ Co-Kitchen & Pantry ในอาคาร A จึงใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Outdoor Co-Dining ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร โดยใช้เป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนๆได้ มีทั้งชุดโต๊ะ-เก้าอี้แบบ Outdoor และมีที่นั่งแบบ Bar พร้อมปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ล้อมรอบเป็นร่มเงาให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานได้นานขึ้น
แต่เอาจริงๆเราก็สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานได้เหมือนกันนะ เผื่อน้องๆอยากเปลี่ยนบรรยากาศการนั่งทำงานมานั่งท่ามกลางสวนสีเขียวบ้าง
อาคาร B
พื้นที่ส่วนกลางในอาคาร B จะเป็น Active Facilities ทั้ง Fitness และ Yoga Room เหมาะกับสายออกกำลังกายโดยเฉพาะ แต่ห้องพักอาศัยของอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 1 ถึงแม้จะได้วิวสวนส่วนกลางแบบเต็มๆ แต่ก็อาจได้ยินเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากพื้นที่จอดรถหรือส่วนกลาง เราจึงมองว่าห้องพักในชั้นนี้เหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์และส่วนกลาง
ส่วนด้านข้างของอาคาร B จะเป็นสระว่ายน้ำยาว 40 เมตร และสวนสีเขียวยาวรวม 125 เมตร จึงทำให้ห้องพักอาศัยในอาหาร B จะได้วิวสีเขียวตรงบริเวณนี้ไปเต็มๆ
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Fitness ของอาคาร B ซึ่งทางโครงการได้จัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายมาครบครันทั้ง Cardio และ Weight Training
โดยโซน Cardio จะอยู่ติดกับหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เปิดรับวิวสวนสีเขียวด้านหน้าโครงการ ส่วนโซน Weight Training เป็นการออกกำลังกายที่เน้นการโฟกัสกล้ามเนื้อ ก็จะอยู่ถัดเข้ามาด้านในห้องและมีกระจกเงาไว้ส่องเช็กท่าทางให้ถูกต้องเวลาออกกำลังกายด้วย
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Swimming Pool ระบบเกลือ มีขนาด 4.50-6.50×40.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร ถือว่ามีความยาวสระมากกว่า dcondo Hype รังสิต อีกนะ (ขนาดสระของ dcondo Hype รังสิต 5×20 เมตร) ทำให้สามารถมาว่ายน้ำได้จริงจังเลย ส่วนด้านข้างก็มีพื้นที่นั่งริมสระด้วย
ถึงแม้จะออกแบบเป็นสระกลางแจ้งและอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ แต่ด้วยเงาของอาคารและต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆ ก็ช่วยบังสายตาและทิศทางของแดดได้พอดี ประกอบกับน้องๆนักศึกษาส่วนใหญ่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยในช่วงกลางวัน ทำให้เวลามาใช้งานสระว่ายน้ำก็จะเป็นช่วงเช้าหรือตอนค่ำๆที่แดดไม่แรงแล้วนั่นเอง
พื้นที่สวนสีเขียวของโครงการมีขนาดรวมประมาณ 1 ไร่ โดยจะอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคาร B ประกอบกับห้องพักของอาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 1 จึงทำให้สามารถการันตีว่าห้องพักโซนนี้จะได้วิวสวนสีเขียวสวยๆไปนานๆ ด้วยการดูแลจากนิติบุคคลที่คอยดูแลรักษาส่วนกลางให้สวยงามอยู่เสมอ
สำหรับพื้นสวนสีเขียวนี้ประกอบด้วย Outdoor Active Space พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, Multi Purpose Lawn สวนสีเขียวแนวยาวและ Sansiri Backyard โซนพืชผักสวนครัว ถือเป็น Signature Facilities ที่มีในทุกโครงการของแสนสิริ เพื่อให้ลูกบ้านมาเก็บผัก ผลไม้นำไปทำอาหารได้
อย่างที่เราได้เกริ่นไปเล็กน้อยว่าบริเวณด้านในสุดของ Sansiri Community จะเป็น Community Space ให้ลูกบ้านทั้ง 4 โครงการมาใช้งานร่วมกันได้ โดยสามารถจัดงานเทศกาลต่างๆที่เข้ากับน้องๆนักศึกษา หรือเป็นพื้นที่ตลาดนัดให้ลูกบ้านมาขายของ ช้อปปิ้งกันภายใน Sansiri Community ได้เลยนั่นเอง
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Outdoor Active Space เผื่อลูกบ้านอยากเปลี่ยนบรรยากาศการออกกำลังกายใน Fitness มาออกกำลังกายกลางแจ้งกันบ้าง โดยจะมีเครื่องออกกำลังกายมาให้ใช้งาน ส่วนโดยรอบก็ปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ สร้างบรรยากาศสดชื่นและร่มรื่นในขณะที่ใช้งานในบริเวณนี้ได้ดี
แปลนชั้นพักอาศัยของโครงการ
อาคาร A : ชั้น 2
อาคาร A จะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการ มีจำนวนรวม 261 ยูนิต ออกแบบชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 และวางตำแหน่งลิฟต์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 131 : 1 ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางอาคาร อิงไปทางฝั่งขวา ทำให้ห้องพักในปีกขวาอาคารจะมีระยะเดินที่ใกล้กว่า ส่วนโถงทางเดินภายในอาคารเป็น Double load Corridor มีห้องอยู่ 2 ฝั่งของโถงทางเดิน แต่พยายามออกแบบไม่ให้ตำแหน่งประตูห้องแต่ละฝั่งตรงกัน เวลาเปิด-ปิดประตูจะได้ไม่ต้องเจอเพื่อนบ้านตรงๆ จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น จะมีเฉพาะห้องพักปีกขวาในชั้น 2 ที่ได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม
ตำแหน่งห้องขนาดเล็กอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. และ 25.00-26.75 ตร.ม. จะอยู่ฝั่งที่หันออกไปด้านนอกอาคารทางทิศเหนือที่ไม่ร้อน ส่วนห้องที่หันเข้ามาด้านในโครงการ เหมาะกับคนที่อยากได้วิวส่วนกลางด้านล่างและวิวเปิดโล่ง โดยเป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. (มีหลายห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียวให้เลือก) และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. เป็นห้องใหญ่สุดของโครงการ นอกจากนั้นห้องตำแหน่ง 33-34 ยังออกแบบมีกระจกเข้ามุม เปิดรับแสงและวิวได้กว้างขึ้นค่ะ
อาคาร B : ชั้น 1
อาคาร B ออกแบบชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ทำให้มีจำนวนรวม 273 ยูนิตมากกว่าอาคาร A เพียงเล็กน้อย แต่ห้องพักตรงชั้น 1 นี้อาจได้ยินเสียงรบกวนและความวุ่นวายจากพื้นที่ส่วนกลางอยู่เหมือนกัน จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์และส่วนกลางเป็นหลัก
ส่วนการวางตำแหน่งลิฟต์และโถงทางเดินเหมือนอาคาร A มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 137 : 1 ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางอาคาร อิงไปทางฝั่งซ้ายและโถงทางเดินแบบ Double load Corridor เปิดประตูได้ไม่ชนกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม จะมีเฉพาะห้องตรงชั้น 1 และห้องปีกซ้ายของชั้น 2 ที่ได้โถงทางเดินแบบ Single load Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ตำแหน่งห้องของทั้งอาคาร A และ B จะจัดตำแหน่งคล้ายๆกัน โดย 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. และ 25.00-26.75 ตร.ม. จะหันไปด้านนอกอาคารทางทิศเหนือ ห้องจึงไม่ร้อน ส่วน 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. จะหันเข้ามาด้านในได้วิวเปิดโล่งและวิวสีเขียวด้านล่าง อีกทั้งยังออกแบบมีห้องกระจกเข้ามุมเปิดรับแสงและวิวได้กว้างตรงตำแหน่ง 04 และ 25
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร A
– Welcome Lobby
– Co-Working Space
– Tutoring Room
– Private Pods
– Co-Kitchen & Pantry
– Laundry Room
– Juristic Room
– Mailbox - อาคาร B
– Fitness
– Yoga Room
– Laundry Room
– Mailbox - Outdoor Facilities
– Swimming Pool ขนาด 4.50-6.50×40.00 เมตร ความลึก 1.20 เมตร
– Outdoor Active Space
– Outdoor Co-Working Space
– Multi Purpose Lawn
– Sansiri Backyard
– Outdoor Co-Dining
– Grab & Go - ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 134 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 131 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 137 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 160 คันคิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
- EV Charger 3 จุด รวม 6 หัวจ่าย บริเวณอาคาร A
- Double Gate Security ประตูเข้า-ออกโครงการ 2 ชั้น
- การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth ผ่านไม้กั้นกระดก
- ระบบรักษาความปลอดภัยในอาคาร CCTV / Face Scan / Key Card
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
- LIVE-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง
- กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
แบบห้อง
Highlight
- เน้นห้อง 1 Bedroom จึงอยู่อาศัยคนเดียวหรือแชร์กับ Roommate ได้สบายๆ
- ตกแต่งแบบ Fully Furnished ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว ประหยัดงบค่าตกแต่งไปได้ประมาณนึงเลย
- ออกแบบตามหลัก Ergonomic + Memory Foam + บุผ้าจาก PASAYA ทั้งเก้าอี้นั่งอ่านหนังสือและโซฟา ช่วยปรับและรองรับสรีระของร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยตัวเวลานั่งนานๆ อีกทั้งยังมีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ใช้งานได้นาน
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) มีรูปแบบห้องพักอาศัยทั้ง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เหมาะกับนักศึกษาหรือคนที่หาที่พักใกล้ที่ทำงานอยู่ 1-2 คนได้สบายๆ รวมถึงตกแต่งห้องแบบ Fully Furnished ที่ซื้อของเพิ่มนิดหน่อยก็เข้าพักอาศัยได้เลย
ตัวห้องมีการจัด Layout เหมือนกับ dcondo Hype รังสิต จะมีเพียง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ที่เป็น Layout ใหม่ให้เลือก ออกแบบมีการกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นแยกจากห้องนอน ทำให้พื้นที่ภายในห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.
ทางโครงการให้เฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างครบทั้ง Built-in และลอยตัว ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, Memory Foam Sofa, โต๊ะกลาง, โต๊ะทำงาน+Ergonomic Cushion Chair, เคาน์เตอร์ครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องเก็บของด้านล่างและเครื่องปรับอากาศ แต่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นจะขึ้นอยู่กับแบบห้องนะคะ เราจึงประหยัดงบตกแต่งไปได้ประมาณนึงเลยค่ะ
วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
– พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จำนวน 1-3 ตัว (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน
วัสดุห้องครัว
– พื้นห้องครัว : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– เคาน์เตอร์ครัว Top Counter เป็น HPL พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน
– อ่างล้างจาน จาก TEKA
วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก ENGLEFIELD
– อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH
– ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ทางโครงการจะมีห้องตัวอย่างของ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. เพียงห้องเดียวให้ชมที่ Sales Gallery นะคะ แต่ว่าแบบห้องอื่นๆของโครงการนี้จะมีการจัด Layout ห้องเหมือนกับ dcondo Hype รังสิต ดังนั้นเราจึงได้เก็บภาพบรรยากาศของ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. ในโครงการ dcondo Hype รังสิต มาให้ชมกันด้วย
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. จะเป็น Layout ห้องแบบใหม่ที่ไม่มีใน dcondo Hype รังสิตมาก่อน โดยมีจำนวนยูนิตเยอะเป็นอันดับ 2 รองจาก 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ตัวห้องออกแบบมีประตูกระจก 3 ตอน กั้นระหว่าง Common Area และห้องนอน เพื่อเพิ่มความเป็นสัดส่วนภายในห้องและห้องนอนก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
สำหรับตำแหน่งของแบบห้องนี้ส่วนใหญ่จะหันไปทางด้านหน้าโครงการฝั่งทิศใต้ ถึงแม้จะโดนแดดแรงหน่อย แต่ก็ได้วิวเปิดโล่งและมองเห็นวิวส่วนกลางด้านล่าง นอกจากนั้นยังมีตำแหน่งห้องที่ติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียวให้เลือกหลายห้อง แต่ตำแหน่ง 33 ในอาคาร A และตำแหน่ง 25 ในอาคาร B จะเป็นห้องมุมอาคารที่ได้กระจกเข้ามุมตรงพื้นที่นั่งอ่านหนังสือจึงเปิดรับแสงและวิวได้เยอะดีค่ะ
- แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่ด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี
- พื้นที่นั่งเล่น แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ใช้งานได้สะดวกสบาย
- ห้องนอน ได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่ พร้อมพื้นที่นั่งอ่านหนังสือติดหน้าต่าง
- ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
- ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างตั้งเครื่องซักผ้าได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
ประตูห้องจะเป็นบานลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องพกบัตรหรือกุญแจให้วุ่นวาย
ทางโครงการได้ออกแบบแบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่บริเวณด้านหน้าและโซนพักผ่อนจะอยู่บริเวณด้านในห้อง ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี
เราชอบที่ออกแบบโซนห้องครัวและห้องน้ำอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง เพราะนอกจากจะให้ช่างมาซ่อมแซมบำรุงรักษาได้ง่าย ไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่อื่นๆภายในห้อง ยังทำหน้าที่เป็น Buffer Zone ช่วยกันเสียงดังจากโถงทางเดินไม่ให้ไปรบกวนโซนพักผ่อนที่อยู่ด้านใน รวมถึงทำให้โซนพักผ่อนทั้งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวได้กว้าง สร้างบรรยากาศผ่อนคลายภายในห้องได้ดีเลยค่ะ
ห้องครัวแบบเปิด
เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเป็นห้องครัวแบบเปิด มีขนาดประมาณ 1.850×2.00 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และมีพื้นที่ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 1.25 เมตร
ทางโครงการได้ Built-in ชุดเคาน์เตอร์ครัวมาเหมือนห้องตัวอย่างเลย โดย Top Counter เป็น HPL (High Pressure Laminate) มีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี ติดตั้งอ่างล้างจาน จาก TEKA พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน ทำให้สามารถเก็บอุปกรณ์ของใช้ในครัวได้เป็นระเบียบ ไม่ต้องกลัวฝุ่นและมีเว้นพื้นที่เพื่อตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าไว้ด้วย
หากใครชอบทำอาหารและต้องการใช้งานครัวจริงจังก็สามารถหาซื้อเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและติดตั้ง Backsplash บริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์เพิ่มได้นะคะ รวมถึงแนะนำให้ติดตั้งประตูกระจกเพื่อกั้นเป็นครัวปิดก็ดีเหมือนกัน จะได้ป้องกันไม่ให้กลิ่น-ควันอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ด้านในห้องค่ะ
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างของพื้นที่ครัวเลยนะคะ มีข้อดีเวลาที่เราพาเพื่อนๆมานั่งเล่นที่ห้อง เพื่อนๆก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ทำให้ห้องนอนของเราก็มีความเป็นส่วนตัว
ประตูภายในห้องก็ออกแบบเป็นบานลายไม้เหมือนกับประตูด้านหน้าห้องเลยนะคะ ส่วนมือจับติดตั้งเป็นก้านโยก ทำให้เปิด-ปิดได้ง่ายดีค่ะ เราชอบที่เวลายกของเต็ม 2 มือก็สามารถใช้แขนดันเปิดประตูได้ง่ายกว่าพวกมือจับลูกบิดนะ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.80×1.90 เมตร ออกแบบมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในห้องได้ ส่วนภายในห้องน้ำก็ออกแบบแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน สำหรับพื้นและผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร สีและลวดลายเหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ
สุขภัณฑ์ในห้องน้ำอย่างก๊อกน้ำเลือกใช้จาก ENGLEFIELD ส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH ถึงแม้ชื่อแบรนด์อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่เราเห็นว่ามีขายในบุญถาวร จึงทำให้สามารถหาซื้ออะไหล่เปลี่ยนได้ไม่ยาก
ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.80×1.55 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง เพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้สะดวก รวมถึงติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ทำให้เปิด-ปิดได้กว้างและช่วยป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น
จากพื้นที่ห้องครัวไปยังโซนพักผ่อนจะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตรเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ที่มีผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง เพื่อปรับบรรยากาศภายในห้องให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น
พื้นที่นั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดประมาณ 1.90×3.75 เมตร ปูเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย (ความสูงทั่วไป 2.40 เมตร) ทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นอีก
โดยฝั่งนึงของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ตั้งโซฟาและโต๊ะกลาง ทำให้มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.45 เมตร จึงตั้งทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ ถึงแม้ทางโครงการจะออกแบบพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงกลางห้อง แต่ก็เลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อดึงแสงจากหน้าต่างตรงห้องนอนเข้ามา ทำให้ภายในห้องดูสว่าง ได้บรรยากาศโปร่งสบายดี
ทางโครงการได้ให้ตู้วางทีวีมาตามภาพด้านบนเลยนะคะ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของได้สบายๆ รวมถึงยังสามารถหาซื้อตู้เก็บของมาติดตั้งด้านบนทีวีเพิ่มได้ด้วย
นอกจากนั้นยังใช้ตู้นี้เป็นตู้เก็บรองเท้าได้ด้วยนะ แต่ถ้าเป็นเราจะซื้อตู้เก็บรองเท้าตั้งไว้ใกล้ๆประตูหน้าห้อง เวลาเข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าได้เลย ไม่ต้องเดินใส่รองเท้าเลอะสิ่งสกปรกมายังบริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่ะ
พื้นที่นั่งเล่น
ทางโครงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ตามแนวคิด Well-Being & Sustainability ออกแบบเป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน โดยโซฟา 2 ที่นั่ง มีวัสดุเป็น Memory Foam โอบรับสรีระให้รู้สึกนั่งได้สบายตัว ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย และบุผ้าหุ้มโซฟาจากแบรนด์ PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ส่วนโต๊ะกลางที่ทางโครงการแถมมาให้จะเป็นโต๊ะกลางสีดำสามารถปรับขนาดความสูงได้
เครื่องปรับอากาศจะมีจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง อย่างห้อง 1 Bedroom จะได้มา 1-2 ตัว ติดตั้งบริเวณ Common Area และห้องนอน ส่วน 1 Bedroom Plus จะได้ 3 ตัว ติดตั้งตรง Common Area, ห้องนอนและห้องอเนกประสงค์
ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน เราชอบที่นอกจากจะใช้เป็นประตูกระจก ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะแล้ว ก็ยังสามารถเปิด-ปิดได้กว้าง ทำให้เวลาเปิดเชื่อมพื้นที่นั่งเล่น-ห้องนอนก็จะได้บรรยากาศโปร่งโล่งดีค่ะ
เราแนะนำสำหรับคนที่อยากให้พื้นที่ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว ก็สามารถหาซื้อผ้าม่านมาติดตรงประตู พอตอนกลางวันก็เปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงจากหน้าต่างเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่น แต่พอมีแขกมาเยี่ยมที่ห้องก็สามารถปิดผ้าม่านบังสายตาไม่ให้เห็นห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราได้นั่นเอง
ห้องนอน
ห้องนอนมีขนาด 3.40×3.75 เมตร มีช่องแสงจากทั้งหน้าต่างและระเบียง โดยภายในห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุต ตั้งโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนบริเวณปลายเตียงก็มีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าและยืนแต่งตัว นอกจากนั้นตรงริมหน้าต่างก็มีพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือได้สบายๆเลยค่ะ
ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง
ทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง เราจึงสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บของกระจุกกระจิกหรือพวกหนังสือต่างๆ นอกจากนั้นยังดีไซน์หัวเตียงเป็นแบบโค้งมน เพื่อลดเหลี่ยมมุมแหลมคม ป้องกันอาการบาดเจ็บเวลาเดินชนหรือกระแทก
บริเวณปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าและพื้นที่นั่งอ่านหนังสือที่ทางโครงการได้ให้มาทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะ-เก้าอี้ จึงช่วยประหยัดเงินค่าตกแต่งไปได้ประมาณนึงเหมือนกันนะ
ทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึงฝ้าเหมือนในภาพเลยนะคะ ภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้าด้านบน-ล่าง แบ่งโซนเสื้อและกางเกง-กระโปรง ส่วนด้านข้างบานตู้มีติดกระจกเงามาให้ พร้อมชั้นวางของเล็กๆด้านหน้า ไว้วางของกระจุกกระจิกได้ สำหรับช่องด้านบนก็สามารถเก็บทั้งเสื้อผ้าหรือกระเป๋าเดินทาง ส่วนพื้นที่ยืนแต่งตัวก็กว้าง 0.95 เมตร ทำให้เดินผ่านไป-มาหรือยืนเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆ
พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่าง
พื้นที่นั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างมีขนาดประมาณ 1.75×2.25 เมตร เวลานั่งอ่านหนังสือก็สามารถมองออกไปชมวิวด้านนอกได้ โดยแบบห้องนี้จะได้โต๊ะทำงานยาว 2 ตัว พร้อม Ergonomic Cushion Chair 2 ตัว ทำให้มีพื้นที่นั่งทำงานกว้าง เราจึงชวนเพื่อนมานั่งเรียนหรือติวหนังสือด้วยกันในช่วงสอบได้ด้วย
ตัวเบาะเป็น Memory Foam บุด้วยผ้าจาก PASAYA มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งออกแบบเก้าอี้นี้ตามหลัก Ergonomics มีส่วนเว้าโค้งของตัวเบาะที่ช่วยปรับท่านั่งให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ นั่งได้หลังตรง-คอตรง ลดการทำงานของกล้ามเนื้อคอ บ่า หลังและลดการกดทับของปุ่มกระดูกบริเวณก้น จึงทำให้เราสามารถนั่งทำงาน อ่านหนังสือเป็นระยะเวลานานได้โดยไม่ปวดตัว นอกจากนั้นยังคงดีไซน์ลบเหลี่ยมตรงมุมโต๊ะ ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุตามแนวคิด Well-Being & Sustainability ของโครงการ
ด้านข้างของเตียงนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนเปิดไปยังพื้นที่ระเบียงส่วนตัวค่ะ
ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.20×1.40 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร ทำความสะอาดได้ง่าย โดยออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างทำเป็นมุมปลูกต้นไม้ เพิ่มวิวสีเขียวให้กับห้องนอน เสริมด้วยเก้าอี้มานั่งรับลมได้ รวมถึงมีออกแบบเป็นระแนงพรางสายตาตรงพื้นที่ Condensing Unit ทำให้ดูสวยงามดีเมื่อมองจากด้านนอกอาคารค่ะ
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
อย่างที่เราได้เกริ่นไปนะคะว่า 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ของ dcondo Hype รังสิต และโครงการนี้มี Layout ห้องเหมือนกัน เราจึงไปเก็บภาพห้องตัวอย่าง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ในโครงการ dcondo Hype รังสิต มาให้ชมกันด้วย
สำหรับแบบห้องนี้จะมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ มีตำแหน่งห้องส่วนใหญ่หันออกด้านนอกอาคารทางทิศเหนือที่ไม่โดนแดดจัด ห้องจึงไม่ร้อน ส่วนห้องที่หันเข้ามาด้านในโครงการจะได้วิวส่วนกลางและวิวเปิดโล่ง ห้องที่เรามองว่าน่าสนใจจะเป็นตำแหน่ง 22-23 ในอาคาร B ที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนตำแหน่ง 01 ในอาคาร A และตำแหน่ง 38 ในอาคาร B จะเป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียวและใกล้ลิฟต์ จึงเหมาะกับคนที่เน้นขึ้น-ลงอาคารได้สะดวกค่ะ งั้นเราพาไปดูจุดเด่นของห้องนี้กันเลย
- แบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่ด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัวดี
- Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนเข้าด้วยกัน ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
- พื้นที่นั่งอ่านหนังสือติดหน้าต่าง ทำให้นั่งทำงานไปชมวิวไปได้เพลินๆ
- พื้นที่แต่งตัวอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
- ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารจะลอยเข้าไปในห้อง
- ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
- ระเบียง แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้
ประตูห้องจะออกแบบเหมือนกันทุกยูนิต โดยเป็นบานลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน ใช้งานได้ง่าย
ทางโครงการออกแบบแบ่งพื้นที่ภายในห้องเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Service อยู่บริเวณด้านหน้าและโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน โดยกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นโซน Service (ห้องครัวและห้องน้ำ) ก็เป็น Buffer Zone ช่วยป้องกันเสียงจากโถงทางเดินไม่ให้เข้าไปรบกวนโซนพักผ่อนด้านในห้อง
Built-in ตู้รองเท้าจากโครงการ
บริเวณด้านข้างประตูห้องจะมีตู้รองเท้าแบบ Built-in จากโครงการมาให้เรียบร้อย เราชอบที่พอเข้าห้องมาก็สามารถถอดและเก็บรองเท้าได้เลย ภายในตู้วางรองเท้าได้ประมาณ 12-15 คู่ ส่วนข้างบนตู้ก็มีพื้นที่วางกุญแจหรือบัตรต่างๆที่ใช้งานบ่อยๆ รวมถึงเรายังติดตั้งราวแขวนเสื้อคลุม กระเป๋าหรือหมวกเพิ่มได้ ก็ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าดีค่ะ
ห้องครัวแบบปิด
ห้องครัวมีขนาด 2.10×2.20 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 60×60 เซนติเมตร สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงออกแบบเป็นครัวปิดจึงไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารจะเข้าไปภายในห้อง
ทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ มี Top Counter เป็น HPL (High Pressure Laminate) ติดตั้งอ่างล้างจานจาก TEKA พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน ออกแบบมีเว้นช่องใส่ไมโครเวฟและพื้นที่ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า รวมถึงมีพื้นที่ด้านข้างกว้างประมาณ 0.55 เมตร เพื่อตั้งตู้เย็นด้วย
สำหรับทางเดินมีความกว้าง 1.15 เมตร ทำให้เราเดินผ่านเข้า-ออกห้องและยืนทำอาหารได้สบายๆ ถึงแม้ทางโครงการจะไม่ได้ติดตั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและ Backsplash ตรงด้านหลังเคาน์เตอร์มาให้ แต่เราก็สามารถหาซื้อเพิ่มเอง ก็ทำให้เราได้เลือกแบรนด์หรืออุปกรณ์ชุดครัวได้ตามการใช้งานของเราเลย
ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่เต็มผนังกั้นระหว่างห้องครัวและ Common Area ทำให้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้กว้างกว่าประตูแบบ 2 ตอนทั่วไป ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันอาหารลอยเข้าไปในห้อง รวมถึงช่วยดึงแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาได้เยอะดี
Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, เตียงนอน, แต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือ
เมื่อเข้ามายังโซนพักผ่อนจะออกแบบ Common Area เป็น Open Plan เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น, เตียงนอน, แต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือเข้าด้วยกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ 3.75×4.80 เมตร การออกแบบนี้มีข้อดี คือ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันและได้บรรยากาศโปร่งโล่ง รวมถึงมีพื้นที่รอบๆแต่ละฟังก์ชันค่อนข้างกว้าง จึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ
วัสดุปูพื้นของโซนพักผ่อนจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวและไฟแบบดาวน์ไลท์ มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตรสูงกว่าคอนโดทั่วไปเล็กน้อย (ความสูงทั่วไป 2.40 เมตร) จึงได้บรรยากาศที่โปร่งสบายมากขึ้น
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ถัดจากห้องครัวเลย ทางโครงการจะให้โต๊ะกลางสีดำ สามารถปรับขนาดความสูงได้และโซฟา 2 ที่นั่งแบบ Memory Foam ทำให้นั่งได้สบายตัว ช่วยลดแรงกดทับที่มาของอาการปวดตามร่างกาย พร้อมบุผ้าหุ้มจากแบรนด์ PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งเราสามารถเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปวางตำแหน่งอื่นได้ตามการใช้งานนะคะ
พื้นที่เตียงนอน
พื้นที่เตียงนอนจะอยู่บริเวณตรงกลางห้องและมีตำแหน่งตรงกับชั้นวางทีวี ทำให้นอนดูหนังได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการให้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต พร้อมช่องเก็บของด้านล่าง ส่วนบริเวณหัวเตียงมีการลบเหลี่ยมมุมออก เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
ทางโครงการออกแบบให้พื้นที่แต่งตัวอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ เราชอบที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี พออาบน้ำเสร็จก็มาเลือกเสื้อผ้าแต่งตัวได้ โดย Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึงฝ้าเพดานเหมือนห้องตัวอย่าง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นติดอยู่ด้านบนตู้เลย ส่วนภายในตู้มีราวแขวนเสื้อผ้าด้านบน-ล่าง พร้อมกระจกเงาและชั้นวางของเล็กๆไว้วางของกระจุกกระจิก ส่วนช่องด้านบนตู้เสื้อผ้าก็ใช้วางกระเป๋าเดินทางได้สบายๆ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 1.90×2.00 เมตร ออกแบบมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในห้อง ส่วนภายในห้องน้ำก็แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาเป็นสัดส่วน สำหรับพื้นและผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร
ทางโครงเลือกติดตั้งก๊อกน้ำจาก ENGLEFIELD ส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×1.00 เมตร มีการเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง เพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้ง่าย พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำ 3 ตอนที่เปิด-ปิดได้กว้างและป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่น
ต่อมาเราพากลับมาตรงพื้นที่นั่งอ่านหนังสือกัน โดยมีขนาดประมาณ 0.85×2.25 เมตร อยู่บริเวณริมหน้าต่าง ทำให้เราสามารถนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับชมวิวด้านนอกได้เพลินๆ
ทางโครงการได้ให้โต๊ะทำงานที่ออกแบบลบเหลี่ยมคมตรงมุมโต๊ะ ป้องกันอาการบาดเจ็บจากการชนหรือกระแทก พร้อม Ergonomic Cushion Chair 2 ตัว ออกแบบตัวเบาะเป็น Memory Foam ดีไซน์ตามหลัก Ergonomics ช่วยปรับสรีระของร่างกายและลดอาการปวดเมื่อยตัวเวลานั่งนานๆ อีกทั้งบุด้วยผ้าจาก PASAYA ที่มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย
ด้านข้างพื้นที่นั่งอ่านหนังสือจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเปิดออกไปยังระเบียง ทำให้เวลาน้องๆนั่งอ่านหนังสือนานๆก็ออกมายืนรับลมชมวิวตรงนี้ได้นะ
ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.85×1.10 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 เซนติเมตร สามารถทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ทั้งเป็นพื้นที่ตากผ้า มุมต้นไม้หรือพื้นที่นั่งเล่น
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. เป็นห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการ โดยแบบห้องนี้จะไม่มีห้องตัวอย่างให้ชมใน Sales Gallery แต่เราสามารถเดินไปชมห้องตัวอย่างใน dcondo Hype รังสิต ที่อยู่ข้างๆ Sales Gallery ได้ เพราะ 1 Bedroom Plus ของทั้ง 2 โครงการมีการจัด Layout ห้องเหมือนกัน
ตำแหน่งของห้องนี้ทั้งหมดจะหันเข้ามาด้านในโครงการที่ได้วิวเปิดโล่งและวิวส่วนกลางของโครงการ เรามองว่าตำแหน่ง 34 ในอาคาร A และตำแหน่ง 04 ในอาคาร B น่าสนใจเพราะนอกจากจะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูงแล้ว ยังมีการออกแบบกระจกเข้ามุมที่ห้องอเนกประสงค์ เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง รวมถึงมีหน้าต่างด้านข้างตรงพื้นที่ครัว จึงสามารถกั้นเป็นครัวปิดแล้วเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้
- Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง
- ห้องนอน มีพื้นที่เป็นสัดส่วน พร้อมระเบียงส่วนตัว
- ห้องอเนกประสงค์ ปรับเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานได้
- พื้นที่ครัวและพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
- ห้องน้ำ แบ่งพื้นที่โซนแห้ง-เปียกชัดเจน
- ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ ด้วยการแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
บริเวณด้านหน้าห้อง
ทางโครงการออกแบบ Common Area เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วยการเชื่อมพื้นที่ครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งโล่ง ส่วนห้องนอนก็มีพื้นที่วางเตียง ตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ พร้อมระเบียงทำเป็นมุมนั่งเล่น ปลูกต้นไม้เพิ่มวิวสีเขียวในห้องนอน สำหรับห้องน้ำติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องมาครบครันและมีห้องอเนกประสงค์ปรับเป็นห้องนอนของ Roommate หรือทำเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือได้เหมือนกัน
แบบแปลน
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม.
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม.
1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม.
ราคา
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) ราคา ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท*
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.00-26.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.72 ล้านบาท*
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.90 ล้านบาท*
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00-34.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.60 ล้านบาท*
- รูปแบบการขาย Fully Furnished ได้แก่ ตู้รองเท้า, ชั้นวางทีวี, Memory Foam Sofa, โต๊ะกลาง, โต๊ะทำงาน+Ergonomic Cushion Chair, เคาน์เตอร์ครัว, โต๊ะรับประทานอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มีช่องเก็บของด้านล่างและเครื่องปรับอากาศ
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
- เคาน์เตอร์ครัว Top Counter เป็น HPL พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านบน-ล่าง หน้าบานเฟอร์นิเจอร์กรุเมลามีน และอ่างล้างจาน จาก TEKA
- ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก ENGLEFIELD / อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ จาก GELATO BATH / ฉากกั้นอาบน้ำ กระจกเทมเปอร์ 3 ตอน
- เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จำนวน 1-3 ตัว (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
- มีรถ Shuttle Bus ไปกลับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- ค่าจอง 1 Bedroom 10,000 บาท และ 1 Bedroom Plus 20,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 1 Bedroom 20,000 บาท และ 1 Bedroom Plus 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธินฝั่งขาเข้า ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเฉพาะนักศึกษาหรือบุคลากรในมหาลัยเพราะอยู่ในระยะที่แค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงเลย รอบโครงการก็มีร้านอาหาร ร้านค้าอยู่หลากหลาย ส่วนด้านหน้าโครงการก็มี 7-11 ให้มาจับจ่ายได้สะดวก แต่ภาพรวมก็ยังไม่ได้คึกคักเท่าฝั่งมหาวิทยาลัย สำหรับทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านรังสิตที่นอกจากใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งแล้ว ยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าและ Hub ใหญ่ที่เป็นเส้นทางคมนาคมหลักจากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดต่างๆได้อีกด้วย
การเดินทางโดยใช้รถ :
อยู่ติดกับถนนใหญ่พหลโยธิน ขับตรงเข้าเมืองได้ง่าย มีทางด่วนทั้งทางด่วนอุดรรัถยา, ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์และวงแหวนกาญจนาภิเษกให้ใช้งาน รวมถึงเดินทางขาไปมหาลัยได้ง่าย จึงสะดวกและได้เปรียบกว่าโครงการหรือหอพักฝั่งที่อยู่ติดกับมหาลัย เพราะต้องไปกลับรถค่อนข้างไกล ส่วนที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 160 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมซ้อนคัน) อาจจะน้อยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าโอเคกับโครงการใกล้มหาลัยในระยะที่พอเดินได้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ด้านหน้าโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธินจึงมีรถสาธารณะทั้งวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ รถแท็กซี่และรถสองแถวให้เรียกใช้บริการ อีกทั้งมีแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงตัดผ่านในอนาคต ช่วยให้เดินทางได้สะดวกขึ้น มีกำหนดคาดเปิดบริการในปี 2571
ส่วนการเดินทางไปยัง ม.กรุงเทพก็ถือว่าสะดวก เพราะมี Shuttle Bus รับ-ส่งจากโครงการไปยังมหาลัย รวมถึงมีสะพานลอย น้องๆจึงเดินข้ามฝั่งจากบริเวณด้านหน้าโครงการไปมหาลัยได้ง่าย ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดเสร็จเดือน พ.ค. 2568
วัสดุ :
รูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้มาทั้งเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัว เราจึงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและชุดเครื่องนอนเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เข้าอยู่ได้เลย ส่วนวัสดุได้ตามมาตรฐานระดับราคา พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบและมีแอร์มาให้
แต่มีความน่าสนใจที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์เป็นมิตรทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้งาน อย่างโซฟาและเก้าอี้เป็น Memory Foam ออกแบบตามหลัก Ergonomic ช่วยปรับและรองรับสรีระของร่างกาย ลดอาการปวดเมื่อยตัว, ผ้าบุโซฟา-เก้าอี้มีสารกันเชื้อราและแบคทีเรีย, ขอบเตียง-โต๊ะแบบลบมุมเหลี่ยม ลดการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุ
การออกแบบ :
โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ 2 ใน Sansiri Community ประกอบด้วย 4 โครงการ บนเนื้อที่ 20 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยเป็นคอนโด Low Rise เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะตั้งอยู่ด้านในและมียูนิตน้อยเพียง 534 ยูนิต แตกต่างจากคอนโดเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่มีจำนวนเกิน 1,000 ห้อง พื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบอยู่ทั้ง 2 อาคาร แบ่งเป็น Passive และ Active Facilities มีสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวบริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องและเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นภายในโครงการ
แบบห้องมีให้เลือก 4 แบบ เน้นเป็น 1 Bedroom เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คน โดยมี Layout ห้องเหมือนกับ dcondo Hype รังสิต ออกแบบโซน Service อยู่ด้านหน้า ส่วนโซนพักผ่อนอยู่ด้านใน เน้นเชื่อมต่อใช้งานง่ายและได้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึง จะมีเพียง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.00-29.75 ตร.ม. ที่เป็น Layout ใหม่ มีการกั้นแบ่งพื้นที่นั่งเล่นแยกจากห้องนอน ทำให้พื้นที่ภายในห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
สาธารณูปโภค :
ส่วนกลางให้มาครบครันตามมาตรฐาน ออกแบบ Passive Facilities และ Active Facilities อยู่คนละอาคาร พร้อมสระว่ายน้ำยาว 40 เมตรและสวนสีเขียวรวม 1 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่ง Co-Kitchen & Pantry และ Outdoor Co-Dining จะเป็นส่วนกลางที่มีเฉพาะในโครงการนี้เท่านั้น ทำให้มาจัดงานปาร์ตี้สังสรรค์หรือฝึกทำอาหารกันได้สบาย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 76,000 บาท/ตร.ม., 3 มีนาคม 2568
- ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ อยู่ฝั่งตรงข้ามม.กรุงเทพ มี 7-11 หน้าโครงการ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ฝั่งถนนพหลโยธินขาเข้า เดินทางเข้า – ออกเมืองง่าย ไม่ไกลจากจุดกลับรถ
- ไม่ใช้รถ 8/10 – มี Shuttle Service รับ – ส่งไปม.กรุงเทพ สะพานลอยจะสร้างเสร็จช่วง พ.ค. ปี 2568
- วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์ฯครบ ทั้ง Built-in และลอยตัว ออกแบบเฟอร์ฯดีกับสุขภาพ
- แบบ 7.75/10 – เน้นเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ด้านใน+ยูนิตน้อย เน้น 1 Bedroom เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง อยู่ได้ 1-2 คน
- สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางครบครัน แยกอาคารเป็น Passive และ Active Facilities พร้อมสระยาว 40 เมตรและสวนรวม 1 ไร่
- ECONOMY CLASS
- 8.00 / 10.00
dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เหมาะกับใคร
โครงการ dcondo Vivid Rangsit (ดีคอนโด วิวิด รังสิต) เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพหรืออยู่ในย่านรังสิต เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ จำนวนยูนิตน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว เน้นห้องขนาดเล็กอยู่ได้ 1-2 คน แบ่งโซน Service และพักผ่อนแยกกันชัดเจน ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ซื้อของอีกนิดหน่อยเข้าอยู่ได้เลย อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องกลางปล่อยเช่าเพื่อทำกำไร มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.49-2.99 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 8,940-20,930 บาท*
ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่