D 25 คอนโดสไตล์ญี่ปุ่นในซอยทองหล่อ โดย D Well Grand Asset [รีวิวฉบับที่ 460]

รีวิวฉบับที่ 460 จะพาไปชมโครงการ D’25 Thonglor ซึ่งเป็นคอนโด Low Rise ในซอยทองหล่อ25 เข้าไปในซอยไม่ลึกมาก โดยเป็นโครงการที่มีเเนวความคิดในการออกแบบตัวสถาปัตยกรรมมาจาก Origami (โอริกามิ)หรือการพับกระดาษของญี่ปุ่นค่ะ เพราะกลุ่มเป้าหมายของโครงการคือชาวญี่ปุ่น เนื่องจากบริเวณย่านทองหล่อ สุขุมวิทตอนต้น มีชาวญี่ปุ่นทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ยูนิตที่มีส่วนใหญ่จึงเป็นแบบ 1 ห้องนอน เน้นห้องนั่งเล่นกว้างกว่าห้องนอน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของชาวญี่ปุ่น

Fact @ 2 November 2013

• D’25 Thonglor (ดี25 ทองหล่อ)
• D Well Grand Asset co.,Ltd.
• High Class  (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 98 Units 
• ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน ประมาณ  60%
• ที่ดินประมาณ 376 ตารางวา
• 1 – 2 Bedrooms
• เพดานสูง 2.5 เมตร
• พื้นที่ใช้สอย 35.56-68.88ตร.ม.
• ราคาปัจจุบันเริ่มต้นตอนนี้อยุ่ที่ 4.29 ล้านบาท
• ราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยประมาณ  122,000 บาท
• ขายแบบ Fully Furnished 
• ตอนนี้เหลือเพียง 10 ยูนิต
• เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ทองหล่อได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ทองหล่อ (E6)
• ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม  โทร 082-4162525
• www.d25thonglor.com

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาคอนโดหน่อยนะคะ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด 13.739093,100.582792

แผนที่จากโครงการนะคะ  โครงการ D’25 ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เข้าจากปากซอยทองหล่อ 25 ประมาณ 200 เมตรซึ่งถือว่าเดินได้สบายค่ะซึ่งเหมาะกับการพักอาศัยเนื่องจากยังอยุ่ในเส้นทองหล่อที่สาธารณูปโภคครบครัน แต่ก็มีความวุ่นวายที่น้อยกว่า ไปบีทีเอสไม่ยากมีหลายช่องทางให้เลือกแต่ถ้าจะเดินถือว่าไกลทีเดียวค่ะ  สิ่งอำนวนความสะดวกโดยรอบมีหลากหลายทั้งโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลคามิเลียน

จาก BTS ทองหล่อไปโครงการเส้นทางง่ายๆค่ะ ระยะทางคือประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าไปตามเส้นทองหล่อจะสามารถไปยังเส้นถนนเพชรบุรีได้ค่ะ ดังนั้นรถติดเป็นเรื่องที่ดูจะเป็นปกติไปแล้ว สำหรับทำเลในเมืองย่าน BTS ทองหล่อ เนื่องจากเป็นถนนเชื่อมระหว่างสองสายหลักนี้

จากทองหล่อเราสามารถไปยังจุดหมายเดียวกันได้หลายทางค่ะ  เช่น ถ้าเราจะไปสยาม  ซอย25 เป็นซอยท้าย ๆ ของทองหล่อดังนั้นไปใช้ถนนเพชรบุรีได้ค่ะ

ข้อเสียข้อหนึ่งของย่านทองหล่อ คือมันไม่ใกล้ทางด่วนเท่าไรนักในขณะที่คนที่อยู่แถวนี้ก็ใช้รถใช้ถนนกันเยอะ จะเห็นว่าทางขึ้นมันจะกระจายตัวอยู่รอบๆ แล้วสถานีทองหล่อมันจะอยู่ตรงกลาง ซึ่งควรจะดูก่อนว่าเราจะไปไหน ซึ่งต้องดูดีๆ เพราะบางทีทางขึ้น กับทางลง มันไม่ได้ไปทางเดียวกัน เช่น ตรงเพลินจิต ถ้าจะไปดินแดง พระราม 9 แจ้งวัฒนะ มันก็ต้องขึ้นฝั่งสุขุมวิท แต่ถ้าจะไปบางนา-ดาวคะนอง มันก็ต้องขึ้นทางถนนเพชรบุรี เป็นต้น

แถวนี้ทางหนีทีไล่เยอะค่ะ ถ้าจะให้กล่าวถึงทั้งหมดคงจะไม่ไหว ขอยึดส่วนที่อยู่ใกล้สถานีทองหล่อแล้วกันค่ะ เริ่มจากออกถนนพระราม 4 ไล่มาเลยตั้งแต่สุขุมวิท 34 ที่สามารถไปทะลุออกซอยอารีย์ (26) ได้ (เชื่อมตรงซอยคุณหญิงพวงรัตน์ประไพ ซอยจะแคบหน่อย) ต่อมาเป็นซอย 36, 38, 40 ที่ข้างในซอยเชื่อมถึงกันหมด โดยที่ซอย 40 จะเป็นวันเวย์วิ่งจากสุขุมวิทไปพระราม 4 เท่านั้น หากจะวิ่งกลับมาต้องใช้ซอย 42 แทน

จากปากซอยทองหล่อ 25หรือซอยแสงเงิน เป็นซอยที่สามารถใช้ไปทะลุสุขุมวิท 49 หรือ ไปออกพร้อมพงษ์ อโศกก็ได้ จากโครงการเดินไปขึ้นเรือได้เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการเดินทางนี่แล้วแต่ถนัดนะคะ เข้ามาถึงโครงการ 200 เมตรค่ะ เป็นซอยที่ไม่พลุกพล่านมากนัก

เรามาเริ่มเดินทางไปยังโครงการกันดีกว่าค่ะ  มองไปที่ถนนฝั่งสุขุมวิทซอยเลขคี่ ซ้ายมือเลี้ยวเข้าทองหล่อ สภาพการจราจรที่ไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วน รถไม่ติดค่ะ แต่ถ้าช่วงเร่งด่วนแล้วตรงนี้ติดหนักเอาการเลย

เมื่อลงมาจาก BTS จะเจอร้านอาหารเต็มไปหมดเลยคะ มีเเผงลอยตั้งขายเยอะเเยะเลย วันนี้จะพาเดินไปจนถึงโครงการเลยนะคะ คือถ้าถามว่าเดินได้ไหม ตอบว่าได้ค่ะ แต่เหนื่อยไหม บอกเลยว่าเหนื่อย!! ดังนั้นขอเเนะนำว่าถ้าใครที่มาชมโครงการแนะนำให้นั่งรถไปเถอะค่ะ

เมื่อเดินเลี้ยวเข้ามายังถนนทองหล่อ จะเจอวินมอเตอร์ไซค์ เยอะเเยะเลยค่ะ

หรือใครไม่อยากนั่งวินก็อาศัยรถกะป๊อเล็ก ๆ แบบนี้ได้

และยังมีอีกตัวเลือกสำหรับผู้อาศัยในซอยทองหล่อ นั่นก็คือรถเมล์เล็กสีแดงซึ่งจะว่ิงแค่ในทองหล่อค่ะ

นี่คือสภาพการจราจรและอาคารในซอยทองหล่อค่ะ รถยังไม่ติดสภาพการจราจรช่วง10 โมงถือว่าคล่องตัว อาคารโดยรอบมีทั้งตึกสูงและร้านค้ามากมาย ทองหล่อเป็นเส้นถนนเศรฐกิจเส้นหนึ่งเลยค่ะจึงมีร้านต่างๆ และ Community Mall หลายเเห่งซึ่งจะพาชมทั้งหมดคงไม่ไหวเพราะเยอะมากจริงๆ  ดังนั้นจะเอามาอย่างคร่าว ๆ ตลอดเส้นทางตั้งแต่ปากซอยทองหล่อจนถึงซอยทองหล่อ25 ที่ตั้งโครงการละกันนะคะ

ลักษณะฟุตบาทในซอยทองหล่อและบรรยากาศการเดินค่ะ  จะมีต้นไม้เป็นระยะ ๆ พอให้ได้พักหลบเเดดกันบ้าง

Community Mall แรกที่พาชมอยู่ใกล้ซอยทองหล่อ 2 ติดกับคอนโด Fifty Fifth Tower ค่ะ

เดินเลยไปก่อนถึงซอย1จะเจอกับสถาบันปรีดี พนมยงค์ ซึ่งมักจะจัดนิทรรศการหรืองานศิลป์ให้เข้าชมค่ะ

Thonglor Town Center อยู่เลยซอยทองหล่อ 5 มานิดหน่อย เป็น Community Mall ที่มีทั้ง Top และ Starbucks,Burger King,Swensen’s และร้านอื่น ๆ มากมายค่ะ

ใกล้ทองหล่อซอย 8 เป็น 8Thonglor เเหล่ง Shopping ที่มีหลากหลายสไตล์ให้เลือกเลยค่ะ

มาถึงซอยทองหล่อ 15 จะเจอกับ J Avenue

ซอยทองหล่อ 16 เป็น Community Mall อีกเเห่งหนึ่งค่ะ

เดินมาถึงซอยทองหล่อ 19 จะมีวินมอเตอร์ไซค์

 

ฝั่งตรงข้ามซอย 19 เป็นสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อค่ะ

ตอนนี้มาถึงซอยทองหล่อ 25 กันแล้วนะคะ หน้าปากซอยก็มีร้านอาหารเยอะเเยะเลยค่ะ เอาเป็นว่าอยู่เเถวนี้ไม่อดตายแน่ค่ะ ราคาก็มีตั้งแต่สบายกระเป๋าไปจนถึงกระเป๋าเบาสบายได้ทีเดียวเลยค่ะ

ถ้าตรงไปจนสุดเส้นทองหล่อจะเป็นถนนเพชรบุรีค่ะ ซึ่งช่วงเวลาเร่งด่วนเส้นนั้นรถติดหนักเหมือนกันค่ะ ทางซ้ายมือเป็นโรงพยาบาลคามิลเลียน

เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยทองหล่อ 25 นี่คือสถนนในซอยค่ะ ฟุตบาทมีแค่ทางด้านซ้ายและเเคบ เดิน ๆ ไปจะเจอกับเสาไฟฟ้ากั้นอยู่

เดินเข้ามาเกือบสุดทางก่อนจะเจอทางโค้ง เราจะเจอกับร้านอาหารญี่ปุ่นมิยาบิค่ะ

เลี้ยวขวาไปก็เป็นถนนหน้าโครงการ  ถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมไปยังซอยสุขุมวิท49ได้ค่ะ

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ D’25 Thong lor เป็นโครงการที่มีเเนวความคิดคือ Origamiหรือการพับกระดาษของญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ  การตกเเต่งหน้าตาอาคารจึงมีลักษณะคล้ายการพับ หัก ทำมุมแบบกระดาษ การที่มีแนวความคิดเป็น  Origami ของญี่ปุ่นเพราะกลุ่มเป้าหมายของเค้าคือคนโสดชาวญี่ปุ่น ดังนั้น ดังนั้นการจัดแปลนห้องจะมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างเพราะส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นมักจะใช้ห้องนั่งเล่นบ่อยที่สุด ห้องนอนก็เพียงพอแต่การนอน อาจมีโต๊ะข้างเตียงหรือโต๊ะทำงานเล็ก  ๆ ได้  ห้องน้ำก็ต้องมีอ่างอาบน้ำและต้องมี Shower เพราะคนญี่ปุ่นชอบเเช่อ่างอาบน้ำและก่อนแช่ก็ต้องล้างตัวก่อน วัสดุเเละ Built in ต่าง ๆ จะดูเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่นเค้าหละ

แต่ถ้าใครบอกว่า..อ่าวกลุ่มเป้าหมายเเละการออกแบบดูตอบรับคนญี่ปุ่นขนาดนี้แล้วคนไทยจะอยู่ได้ไหม  ตอบเลยค่ะว่าได้ เพราะการออกเเบบจะดูเรียบง่าย เป็นสัดส่วนและดูเรียบร้อยดีค่ะ ต้องดูว่าเราชอบแบบไหน การใช้ชีวิตเราเป็นอย่างไร ถ้าใครชอบทำครัวจัดหนัก คงไม่เหมาะนักเพราะครัวเป็นครัวเปิด ดังนั้นถ้าสนใจโครงการก็อ่านรีวิวเป็นข้อมุลเเล้วเข้าไปเดินดูโครงการได้เลยคะ ยิ่งตอนนี้เสร็จแล้ว จะทำให้เห็นห้องที่เราสนใจว่าอยู่มุมไหน วิวเป็นอะไร การตัดสินใจก็ง่ายขึ้นค่ะ

 

Master Plan ชั้น Ground ชั้นนี้จะเป็นLobby ,สำนักงานนิติบุคคล และพื้นที่จอดรถ โดยจะมีทางเข้าพื้นที่จอดรถชั้นใต้ดินค่ะ

Plan ชั้น 2 ชั้นนี้มี ส่วนfacility ของโครงการคือสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังการ สระว่ายน้ำอยู่ติดกับถนนหน้าโครงการ เนื่องจากพื้นที่ดินโครงการเป็นรูปร่างเหลี่ยมเเบบเฉียงๆ  ดังนั้นจึงทำห้องให้เฉียงตามเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานค่ะ

 

 

 

 

Plan ชั้น 4-6 ชั้น  เนื่องจากการทำเเปลนห้องเฉียงตามพื้นที่ตั้งจึงทำให้ห้องมีหลายแบบมาก Plan ห้องจะมีความเเตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อยค่ะซึ่งตอนนี้เหลือเพียง 10 ยูนิต คือ

ชั้น2 เหลือ Type 1C-1, 1C-2, 1C-4

ชั้น3 เหลือ Type 1B-3 , 1C-1 , 1C-6

ชั้น4 เหลือ Type 1A-3

ชั้น5 เหลือ Type 1C-2

ชั้น7 เหลือ Type 1B-1 , 1C-2

ชั้น8 เหลือ Type 1B-5+1B-6 (Combine)   ต่อไปจะพาเข้าชมโครงการเเล้วนะคะ

อย่างที่กล่าวไปตอนแรกเลยคือโครงการเน้นการเจาะตลาดไปที่ชาวญี่ปุ่นที่มาทำงานในบ้านเราค่ะ ดังนั้นหน้าตา ส่วนกลาง และขนาดห้องต่างๆ จึงคิดมาเพื่อตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่น 🙂

รูปร่างหน้าตาเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่นแบบ  Origami คือการหักมุมจะเห็นตรงส่วน Lobby ทางซ้ายมือ(ที่มีรถกระบะจอดอยู่ค่ะ) และสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น2 บริเวณที่ยื่นออกมาเห็นราวกันตกกระจกนั่นแหละค่ะ

เดินเข้ามาข้างบนนี่คือสระว่ายน้ำนะคะซ้ายมือคือทางเข้าLobby และส่วนที่พัก ตรงไปเป็นที่จอดรถค่ะ

เดินเลยเข้ามาอีกหน่อยเพื่อจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาตึก จะเห็นระเบียงห้องพักของแต่ละชั้นค่ะ

มองกลับไปจะเห็นสระว่ายน้ไและทางเข้าที่เราเดินผ่านมาเมื่อกี้ค่ะ เห็นว่าสระว่ายน้ำนี่อยู่เหนือ Drop-Off พอดีเลยนะ ไม่มีราวกั้น คือถ้าโดดน้ำเล่นกันน้ำกระฉอกข้างล่างเปียกนะคะ

โครงการมี Shutter car รับส่งวิ่งภายในซอยทองหล่อด้วยนะคะ

ให้เห็นชัด ๆ กับประตูทางเข้า Lobby และส่วนที่พัก ประตูทางเข้าจะมีจุดเดียวนะคะ

ซ้ายมือจะเป็นที่นั่งเล่นแบบ Out door ฐานด้านหลังกำลังมีการจัดตั้งศาลพระภูมิค่ะ

มีน้ำพุกับสวนเล็ก ๆ ติดกับLobby ค่ะ

เข้ามาในส่วน Lobby ขนาดกำลังดี มีที่นั่งสบาย ๆ หลายจุดให้ลูกบ้านใช้งาน  ตอนนี้ส่วนนี้ยังเป็นสำนักงานขายไปในตัวด้วยค่ะ

เมื่อเข้าประตูมาทางขวามือจะเป็นทางเดินไปยังประตูที่จะขึ้นไปส่วนที่พักแบบนี้ค่ะ

เดินมาตามทางจะเห็นห้องทำงานของนิติบุคคล ลูกบ้านสามารถติดต่อเเละเข้าถึงได้ง่ายเพราะเป็นทางเดินผ่านอยู่แล้วค่ะ

ประตูทางเข้าส่วนที่พักต้องใช้ Access Card ถึงจะเข้าไปได้

สำหรับแขกของลูกบ้านสามารถติดต่อลูกบ้านที่อยู่ในห้องจาก Video door phone โดย call ขึ้นไปที่ห้องลูกบ้านก็จะเปิดประตูส่วนนี้ให้จากที่ห้องได้ค่ะ

เข้ามาจะเป็นส่วนของ Mail box วางเป็นระเบียบ แบบดูเรียบ ๆ สวยงามค่ะ

ลิฟท์จะขึ้นไปก็ต้องใช้  Access Card นะคะ แขกลูกบ้านที่ผ่านประตูเข้ามาแล้วยังไงก็ต้องรอลูกบ้านมารับขึ้นลิฟท์ไปอยู่ดีค่ะ อาจจะดูยุ่งยากไปหน่อยเพราะเข้ามาเเล้วสุดท้ายลูกบ้านก็ต้องลงมาหาอยู่ดี โครงการเเจ้งว่าส่วนนี้ถ้าเข้ามาอยู่ลูกบ้านอาจจะประชุมเเละทำข้อตกลงจัดการส่วนนี้ให้ง่ายขึ้นก็ได้ค่ะ โถงลิฟท์มีแสงธรรมชาติเข้าแบบนี้เลย เปิดระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 พามาชม facility ห้องออกกำลังกายจะอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำค่ะ ซ้ายมือคือสระว่ายน้ำ ส่วนขวามือคือห้องออกกำลังกาย

ห้องออกกำลังกาย ขนาดเล็กค่ะแต่ทำให้ดูกว้างขึ้นโดยการให้ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมดแต่ก็ยังมีความ Private นิด ๆ ตรงมีสติกเกอร์ฝ้ามาบังส่วนด้านล่างไว้  ซึ่งถ้ามองตรงกระจกก้มลงไปก็คือส่วน Lobby นั่นเองค่ะ  ในห้องออกกำลังกายมีห้องน้ำ 1 ห้องซึ่งอยู่ในสุดห้องนี้ค่ะ

ห้องน้ำไม่มีส่วนอาบน้ำให้นะคะ

ต่อไปมาดูสระว่ายน้ำกันค่ะ สระว่ายน้ำที่นี่เป็นรูปตัว L เเบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ โดยสระเด็กจะอยู่ขวามือส่วนที่ติดกับราวกันตกนั่นเองค่ะ ขนาดอยู่ที่ 4×4 ม.สระผู้ใหญ่ขนาดอยู่ที่ 10×4 ม. มีการเจาะช่องเปิดสอดคล้องกัน เท่ห์ๆ

ที่อาบน้ำก่อนลงสระ ถ้าเดินขึ้นบันไดมาจะเจอส่วนนี้ก่อนเลยค่ะ สระที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำหรือแต่งตัวให้นะคะ ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสียมาก ๆ อย่างน้อยน่าจะมีให้ซัก2ห้องก็ยังดีกว่าไม่มี ใครว่ายเสร็จอาจเดินตัวเปียก ๆ เข้าห้องไป จะให้ไปเปลี่ยนในห้องออกกำลังกายก็ไม่น่าจะได้ คงต้องรอให้ตัวเเห้งนิดหน่อยแล้วค่อยเข้าห้องไม่งั้นน้ำหยดตามทางแน่ค่ะ  ใครอยู่ชั้นนี้เดินก็ระวังลื่นน้ำจากคนมาเล่นสระหน่อยละกัน

สระว่ายน้ำอีกมุมค่ะ จะเห็นว่าด้านขวา ที่ติดกับห้องพักไม่มีราวกันตกหรือกั้นขอบปัญหาที่จะเกิดคืออันตรายและเวลาเล่นน้ำ ถ้ามีใครโดดลงสระน้ำอาจจะล้นลงไปชั้นล่าง

ให้เห็นชัด ๆ ว่าจะเป็นแบบนี้ ถ้าเล่นธรรมดาคงไม่ล้นอะไรมาก แต่ถ้าเล่นเเบบกระโดดตูมคงล้นค่ะ แล้วก็ต้องระวังไม่ให้นั่งขอบสระ ถ้าเกิดพลาดหงายหลังลงไปความกว้างของขอบกันตกน่าจะไม่พอค่ะ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วในพื้นที่สีเขียวในโครงการ?  ไม่ต้องห่วงค่ะมีแน่นอน แต่อยู่บนดาดฟ้าซึ่งลูกบ้านสามารถขึ้นมาให้งานได้  เปิดประตูออกมาจะเห็นเป็นพื้นที่เเบบนี้ค่ะ มีทั้งที่ Golf Puttingโต๊ะนั่งเล่น และสนามหญ้าเทียม (น่าเสียดายที่สนามหญ้าไม่ใช่หญ้าจริง แม้มันจะดูเเลง่ายและดูเขียวตลอดเวลาก็ตามค่ะ) ซึ่งจุดนี้เอาใจชาวญี่ปุ่นที่ชอบตีกอล์ฟนั่นเอง

หันกลับมาดูตรงประตูทางเข้าดาดฟ้าและพื้นที่ Golf Putting เเบบชัด ๆ กันหน่อยค่ะ

ส่วนนี้คือด้านข้างประตูทางเข้าค่ะ

วิวทางนี้หันไปเจอโรงพยาบาลคามิลเลี่ยนทองหล่อ ของโครงการ วิวทางทิศนี้จะเห็นตึกสูงประปราย ไม่มีราวกันตกนะคะ มีแต่ต้นไม้กระถางแบบนี้

วิวด้านทิศตะวันตก ทิศนี้คือด้านหน้าโครงการค่ะ วิวนี้ตึกสูงใกล้จะไม่ค่อยมีส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยไม่เกิน 3 ชั้น  ถ้ายืนมองก็ไม่ถือว่าสวยมากนักนะคะสำหรับวิวนี้ แต่ถ้านั่งเล่นก็จะสบายตาหน่อยเพราะต้นไม้ช่วยบังตึกไประดับหนึ่งแล้ว จากภาพนี้จะเห็นถนนที่เชื่อมกับสุขุมวิท 49 ชัดเจนค่ะ

วิวด้านทิศใต้  ด้านนี้เห็นตึกสูงเยอะเเยะเลยค่ะ

วิวด้านทิศตะวันออกค่ะ  วิวทิศนี้จะเป็นแนวดาดฟ้าของตึก D25  เพราะดาดฟ้าที่เป็นสวนนั้นไม่ได้จัดเต็มหมดทั้งส่วนของดาดฟ้าค่ะ จัดไว้เพียงส่วนตึกด้านหน้า คือตึกเป็นรูปตัว U สวนดาดฟ้าคือด้านเดียวของตัว U ค่

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำระบบเกลือ สระเด็กขนาด 4×4 ม. สระผู้ใหญ่ขนาด 10×4 ม.
• ห้องออกกำลังกาย
• พื้นที่ต้อนรับ ที่นั่งเล่น
• สวนรอบบนดาดฟ้าพร้อมพื้นที่ Golf Putting
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
• ระบบ CCTV / Access Card
• Video door phone
• Shutter car

Product Walkthrough

ห้องที่จะพามาดูวันนี้คือห้อง Type 1C-4 ขนาด 46.82 ตร.ม. ห้องนี้ส่วนระเบียงและห้องนอนจะเฉียงนิดนึงค่ะ จากแปลนห้องจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนของห้องนั่งเล่นนั้นมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน เพราะแนวความคิดของโครงการที่มุ่งเน้นการอยู่อาศัยสไตล์ญี่ปุ่น ดังนั้นห้องนอนจัดไว้ให้เพียงพอต่อการใช้นอน อาจมีโต๊ะเล็ก ๆ ได้ ห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำและ Showerเพราะคนญี่ปุ่นมักชอบเเช่ในอ่างอาบน้ำแต่ก็จะต้องมีส่วน Shower ให้ล้างตัวก่อน  ส่วนห้องนั่งเล่นก็จะใหญ่หน่อยแม้จะเเบ่งพื้นที่กับส่วนครัวแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นพื้นที่ที่ใหญ่เพราะถือว่าเป็นส่วนที่ผู้อาศัยมักจะใช้งานมากที่สุด  ส่วนห้องครัวก็เป็นแบบเปิด สำหรับจัดเตรียมอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พื้นที่เคาน์เตอร์มีให้มาเเบบเตรียมอาหารได้สบายๆ  เลยค่ะ ระเบียงแม้จะเเคบแต่ก็พอตากผ้าได้บ้าง จากเเปลนห้องส่วนนั่งเล่นจะมีโซฟาและโต๊ะทานอาหารซึ่งลูกบ้านสามารถวางโซฟาตัว Lได้เลยค่ะ แต่ในห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมเค้าจะวางโซฟาพร้อมโต๊ะเล็ก ๆ วางโคมไฟทำให้ไม่สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้ ซึ่งใครอยากได้โซฟารูปทรงไหน โต๊ะทานอาหารต้องการหรือไม่ควรจะวัดขนาดพื้นที่และเฟอร์นิเจอร์กันดี ๆ นะคะ ห้องนี้เฟอร์นิเจอร์ของ Vinitto เฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากอิตาลีค่ะ

เข้ามาในห้องกลับเข้าไปดูตรงประตูจะมีระบบ Digital door lock ของ Yale และ Video door phone ซึ่งจะเห็นคนที่อยู่ประตูทางเข้าค่ะ เวลาเเขกมาก็เช็คได้ว่าใครแล้วค่อยลงไปเปิดประตูให้ค่ะ

ภาพเเรกที่เข้ามาในห้องค่ะ ส่วนซ้ายมือคือส่วนครัว ขวามือเป็นพื้นที่นั่งเล่น โดยทั้งสองส่วนเเยกกันโดยโซฟาและพื้นค่ะ สังเกตว่าพื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเเกรนิตโต้ขนาด 60×60ซม. แต่พื้นที่นั่งเล่นจะปูด้วยลามิเนตหนา 12 mm. ซึ่งความหนาเเบบนี้พื้นจะรู้สึกเเน่นดีค่ะ

เคาน์เตอร์ครัววางตามเเนวผนัง พื้นที่เตรียมอาหารมีพอควรค่ะ แต่ด้วยความที่โครงการเน้นกลุ่มเป้าหมายคือคนโสดชาวญี่ปุ่นซึ่งการทำอาหารอาจจะไม่บ่อยครั้งนักและไม่เป้นอาหารเเบบจัดหนัก ครัวจึงเป็นครัวเเบบเปิดค่ะ พื้นที่ตุ้เย็นมีที่ให้วางเเบบเหลือเฟือ ดังนั้นใครจะซื้ออาหารมาตุนไว้อยากได้ตู้เย็นใหญ่ ๆ ก็คงไม่ต้องห่วงแล้วค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่เยอะค่ะเสียดายแต่ที่เตากับอ่างล้านจานใกล้กันไปหน่อย ชุดครัว เคาน์เตอร์ได้ตามนี้เลยนะคะ คือHob, Hood, Sink ของ Franke ส่วนTop เคาน์เตอร์เป็นหินเเกรนิตสีดำนะคะ

พื้นที่นั่งเล่นจะเห็นว่ากว้างทีเดียวค่ะ ถ้าเทียบกับห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ส่วนใหญ่ให้พื้นที่มาพอเเค่โซฟาเล็ก ๆ สำหรับ 2 คน แต่ด้วยเเนวความคิดของโครงการจึงทำพื้นที่นั่งเล่นให้กว้าง เวลาเเขกมาก็นังกันได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ

คราวนี้ลองมองภาพรวมของห้องนั่งเล่นกันดีกว่านะคะ  ยิ่งภาพนี้จะยิ่งเห็นว่าพื้นที่นั่งเล่นมีที่สำหรับวางโซฟาได้พอควรเลยค่ะ แต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ทำให้ไม่มีพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารนะคะ ดังนั้นใครอยากได้โซฟาตัวใหญ่ ๆ และอยากมีโต๊ะทานอาหารต้องดูระยะดี ๆ นะคะ

ประตูส่วนระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ ธรณีประตูกั้นเป็นขอบขึ้นมา เรื่องน้ำฝนจะไหลเข้ามาในห้องก็คงไม่ต้องห่วงค่ะ

ส่วนระเบียงจะเป็นตำเเหน่งคอมเพรสเซอร์แอร์ มีระเเนงเหล็กกั้นบังสายตาเพื่อความสวยงามค่ะ

ต่อไปมาดูห้องนอนกันค่ะ วงกบไม้สีขาว ประตูไม้สีน้ำตาลอ่อนส่วนพื้นเป็นลามิเนตเช่นเดียวกับพื้นที่นั่งเล่นเลยค่ะ

เข้ามาข้างในก็จะเจอเตียงขนาด 5 ฟุตก่อนค่ะ ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ขวามือประตูทางเข้า  ปลายเตียงจะเป็นส่วนของห้องน้ำ จะเห็นว่ามีกระจกใสตรงปลายเตียงตำเเหน่งนั้นในห้องน้ำคืออ่างอาบน้ำค่ะ Sexy Bath กันเลยทีเดียว

ห้องนอนไม่ใหญ่มากเนื่องจากแนวคิดโครงการสไตล์ญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่นั้นห้องนอนก็ไว้นอน ไม่ต้องมีโต๊ะทำงานหรืออะไรเยอะเเยะ แต่พื้นที่ข้างเตียงมีพื้นที่มาพอสมควรเลยใครชอบทำงานในห้องนอนก็ทำโต๊ะเล็ก ๆ ไว้ทำงานก็ได้นะคะ

ตู้เสื้อผ้าจะอยุู่เต็มผนังด้านนี้เลยค่ะ จะเห็นว่าขวามือคือประตูทางเข้าห้องนอนที่เราผ่านเข้ามาเมื่อกี้  ส่วนซ้ายมือคือห้องน้ำค่ะ  ห้องน้ำของห้องแบบนี้เข้าได้ทางเดียวนะคะ คือต้องผ่านห้องนอน

ห้องน้ำเปิดเข้ามาจะอ่างล้างหน้าทางขวามมือเลยค่ะ โถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงหน้า เข้าไปก็เปิดปิดสะดวกนะคะ แต่อาจต้องหลบไปทางโถสุขภัณฑ์นิดนึงค่ะ

พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องขนาด 60×60 ธรณีประตูเป็นหินสีขาวกั้นขอบขึ้นมาเพียงเล็กน้อยค่ะ

ระยะห่างระหว่างโถสุขภัณฑ์กับผนังข้าง ๆ ค่ะ แม้จะดูเหมือนอยู่ในซอกแต่ระยะห่างเยอะพอควรทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ โดยโถสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ American Standard

อ่างล้างหน้าของ American Standard เช่นกันค่ะ เคาน์เตอร์และชั้นวางของมีให้นะคะ ซึ่งทำให้เก็บของได้เยอะขึ้นค่ะ อ่างล้างหน้ารูปทรงนี้ดูเรียบง่ายเหมาะกับแนวความคิดของของโครงการที่จะให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ  ค่ะ

ส่วนเปียก มีธรณีประตูกั้นขั้นมานิดนึง ประตูเป็นกระจกใสบานใหญ่ค่ะ

เข้าไปจะเจออางอาบน้ำซึ่งคนญี่ปุ่นจะชอบแช่น้ำใช่ไหมค่ะ แต่ก่อนแช่ก็จะต้องอาบน้ำล้างตัวกันก่อนดังนั้นช้างๆ  อ่างจะมี Shower ให้ได้ใช้กันค่ะ ส่วนใครที่ไม่ค่อยชอบแช่อ่า’ก็อาบน้ำได้สบาย ๆ ไม่ต้องยืนอาบในอ่างเพราะนั่นลำบากทีเดียวค่ะ

ภาพนี้ถ่ายตรงห้องนอนค่ะ ที่เป็นกระจกปลายเตียงที่บอกไว้ข้างต้น มุมนี้จะเห็นตำเเหน่ง Shower ชัดเจนขึ้นค่ะ มีพื้นที่วางของและเป็นแบบ Rain Shower ด้วยนะคะ ส่วนนี้ถ้าใครอยู่คนเดียวคงไม่ต้องเขินอายใคร อาบน้ำแบบ Sexy นิด ๆ ได้แต่ถ้าว้นไหนมีเเขกมาหรืออยู่กัน 2 คนก็หาผ้าม่านหรืออะไรมาปิดก็ได้ค่ะ 🙂

ห้องถัดไปที่จะพาไปชม เป็นห้องเปล่านะคะเป็นห้อง Type 1B-3 ขนาด 44.45 ตร.ม. ห้องนี้เเบบเเปลนห้องนั่งเล่นและห้องนอนมีขนาดใกล้เคียงกันค่ะ  การออกแบบห้องดูเป็นสัดส่วนดีคะ โต๊ะทานอาหารดูไม่เกะกะทางเดินเหมือนแบบที่ให้ชมเมื่อกี้ เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว L ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหาร/วางของได้เยอะขึ้น แต่ข้อเสียก็คือตำเเหน่งวางตู้เย็นค่ะเพราะตำเเหน่งนี้จะบังสวิตช์ไฟพอดีเลย  ห้องนอนติดระเบียงซึ่งเข้าจากห้องนั่งเล่นได้ เเถมยังมี  walk in closet ให้ด้วย ส่วนในห้องน้ำก็จะมีเหมือนกันคืออ่างอาบน้ำและ  Shower ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทางค่ะ

ห้องนี้เราจะเริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยดีกว่าค่ะ  ประตูเป็นประตูไม้ วงกบสีขาว ด้านข้างขวามือนั่นคือช่อง shaft โดยประตูมีระบบ Digital door lock   และข้างในห้องจะมี Video door phone เช่นเดียวกัน

เข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นครัวที่เคาน์เตอร์เป็นรูปตัวL เเบบนี้ค่ะ พื้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้น ด้านซ้ายมือในรูปจะเป็นว่ามีปลั๊กอยู่ นั่นคือตำเเหน่งวางตู้เย็นค่ะ ซึ่งถ้าวางตู้เย็นแล้วจะบังสวิตช์พอดีข้อนี้คือเป็นข้อเสียเลยคะเพราะต้องสอดมือหลังตู้เย็นเพื่อเปิดไฟห้อง และต้องวางตู้เย็นห่างกับผนังเยอะ ๆหน่อย ส่วนTop เคาน์เตอร์เป็นหินเเกรนิตสีดำนะคะ

ภาพนี้มองกลับมายังประตูทางเข้าค่ะ เห็นสวิตซ์ใกล้ประตูรึเปล่าค่ะ ตำเเหน่งตู้เย็นก็อยู่ตรงนั้น ประตูที่เห็นทางซ้ายมือคือห้องน้ำค่ะ

เคาน์เตอร์ทำเป็นตู้เก็บของไปในตัวด้วย ภายนอกจะดูเรียบ ๆ เปิดมาวางพวกซอส เครื่องปรุงได้เยอะอยู่ค่ะ

ด้านนี้ก็จะเป็นตำเเหน่งวางเครื่องซักผ้าซึ่งทางโครงการก็จะติดตั้งท่อน้ำดีและท่อน้ำท้ิงไว้ให้แล้วค่ะ

ถัดไปจากส่วนครัวก็เป็นพื้นที่นั่งเล่น ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมด จะมีแค่สองบานตรงกลางด้านบนเท่านั้นนะคะที่เปิดได้ โดยเป็นหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ  การทำด้านนี้ให้เป็นกระจกทำให้ห้องดูสว่างและไม่อึดอัด ประตูที่เห็นทางขวามือนี่คือห้องนอนนะคะ

พื้นที่นั่งเล่นสามารถไปยังระเบียงห้องได้โดยมีประตูเชื่อมตรงนี้ค่ะ  ห้องนี้ถือว่าวิวโอเคทีเดียวเพราะโชคดีอยู่ติดกับสวนของบ้านข้าง ๆ และมีต้นไม้เยอะเเยะเลยค่ะ

ที่นี้เราเข้ามาดูห้องนอนกันบ้างดีกว่า ห้องนี้วิวก็ยังดีเหมือนเดิม ได้ต้นไม้บ้านข้าง ๆ ช่วยไว้เเท้ ๆ ระเบีบงห้องเปิดออกไปสามารถเดินเข้าไปส่วนนั่งเล่นได้่เช่นกันค่ะ

ทีนี้เรามามองกลับอีกด้านกันดีกว่า ด้านนี้ซ้ายมือคือ Sexy bath กระจกบานใหญ่ใส ๆ อาบน้ำว๊าบหวิวทีเดียว ขวามือเป็น walk in closet ประตูสีขาวที่เห็นคือประตูห้องน้ำค่ะ

ภาพนี้เปิดให้ดูว่าตู้เสื้อผ้าข้างในประมาณไหน และเปิดประตูห้องน้ำเป็นยังไง  พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปนิดนึงค่ะ ธรณีประตูเป็นหินสีขาวเก็บขอบเรียบร้อยค่ะ

 

นี่คือระดับห้องน้ำกับพื้นส่วนครัวค่ะขนาดกระเบื้องใช้ขนาดเดียวกันต่างกันตรงสี ในห้องน้ำจะเป็นโทนน้ำตาลอ่อนนิด ๆ ค่ะ

ภาพนี้ถ่ายจากประตูส่วนห้องครัวนะคะ พื้นที่เปิดปิดประตูสะดวกส่วนเปียกก็กั้นชัดเจนและมีขอบกันน้ำขึ้นมาอีกนิดหน่อยค่ะ โดยสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ American Standard

หันกลับไปด้านซ้ายของห้อง จะเป็นอ่างล้างหน้า ห้องนี้พื้นที่วางของน้อยกว่าห้องแรกที่พาไปชม รูปทรงเหมือนกันทั้งโครงการค่ะ แต่โครงการเพิ่มพื้นที่วางของให้ตรงกระจกโดยทำเป็นชั้นเเบน ๆ ให้แบบนี้ค่ะ

เดินเข้ามาส่วนเปียก ขวามือจะเป็นอ่างอาบน้ำแบบนี้ค่ะ

หันไปด้านซ้ายของส่วนเปียกจะเจอกับ Shower ส่วนนี้จะเห็นห้องนอนชัดเจนค่ะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11/10/2556

โครงการสร้างเสร็จแล้ว ดังนั้นแต่ละห้องจะจัดโปรโมชั่นและมีราคาต่างกัน เนื่องจาก วิว ตำเเหน่งห้อง ชั้นห้อง  ผลดีของโครงการที่สร้างเสร็จคือเราจะได้เห็นห้องและวิวจริง ๆ ของห้องที่เราสนใจทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ตอนนี้เหลือเพียง 10 ยูนิตเท่านั้นดังนั้นราคาที่จะลงจะเป็นราคาของยูนิตที่เหลือนะคะ

• Type 1A-3  ชั้น 4 แบบ  1 ห้องนอน เนื้อที่ 35.22 ตารางเมตร  ราคาตอนนี้อยู่ที่ 4.29 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. 122,000 บาท
• Type 1A-3  ชั้น 3 แบบ  1 ห้องนอน เนื้อที่ 48.60 ตารางเมตร  ราคาตอนนี้อยู่ที่ 6.07 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. 125,000 บาท
• Type 1B-5+1B-6 ชั้น 8 แบบ  2 ห้องนอน(Combine) เนื้อที่ 83.72 ตารางเมตร  ราคาตอนนี้อยู่ที่ 10.75 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. 128,500 บาท
• ราคาและโปรโมชั่นจะแตกต่างกันไปตามวิวและชั้น จึงแนะนำให้สอบถามทางโครงการโดยตรงเลยดีกว่าค่ะ
• Fully Furnished
• จอง 50,000 บาท
• ทำสัญญา 100,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จ่ายล่วงหน้า 1 ปี
• ตอนนี้มีโปรส่งท้ายปี คือ “โปรโมชั่น one price” ตร.ม. ละ 100,000 เริ่ม 3.5 ล้าน

 

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ อยู่ในซอย 25 ในส่วนของนี้จุดเสียคือค่อนข้างไกลจากรถไฟฟ้ามากไปหน่อย แต่โครงการมีจัดรถ Shutter service ไว้ให้เลยชดเชยไปได้ จุดดีคือสภาพรอบข้างดูดีเหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัย เทียบกับซอยทองหล่อเป็นซอยที่พลุกพล่านมากไปนิด ช่วงต้นๆกลางๆซอยนี่เรียกว่าแสงสีเสียง ในเจอก็ทองหล่อตลอด แต่ถ้าเข้าไปในซอยทองหล่อ 25 ก็จะ Privacy ขึ้นมาหน่อยค่ะ เเต่ก็ไม่ได้เข้าซอยมาลึกมาก จากปากซอย 25 ก็เดินเข้ามาเพียง 200 เมตร ในซอยไม่มีร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหาร(มีเพียงร้านมิยาบิ) แต่ถ้าเดินออกมาปากซอยก็มีให้เลือกเยอะเลยค่ะ สภาพถนนซอยอาจจะไม่ค่อยสะดวกในการเดินเท่าไหร่เพราะมีฟุตบาทฝั่งเดียวค่ะ ยังดีที่ค่อนข้างร่มรื่น

การจราจรเส้นทองหล่อช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีรถติดค่ะ ถ้าติดบางทีก็ติดแบบลุกลามไปไกลหลายซอย แต่ยังดีที่ตัวโครงการอยู่ในซอยที่สามรถใช้เส้นทางอื่นไปทะลุออกสุขุมวิทได้เพื่อเลี่ยงรถติดในเส้นทองหล่อ ทำเลไกลจากบีทีเอสแต่ก็มีหลายช่องทางให้เลือกทั้งวิน รถกะป๊อ รถเมล์ หรือรถของโครงการ และด้วยความที่ซอยทองหล่อเป็นลักษณะซอยที่เชื่อมถึงกันได้หลายจุดดังนั้นก็สะดวกต่อการลัดเลาะไปยังที่ต่าง ๆ แต่ถ้าใครมือใหม่สำหรับเเถวนั้นก็ลองขับรถเล่นดูจะได้รู้ว่าซอยไหนทะลุไปไหนบ้างก็ดีค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็จริงๆสามารถเลือกได้หลายอย่างนะคะ เรือ บีทีเอสที่อยู่ปากซอย เดินไปจะเหนื่อยเกินไป แต่ถ้าใครสนใจเปลี่ยนเป็นปั่นแทน ซอยนี้น่าปั่นไม่น้อยเลยนะคะ

การออกแบบ ทำมาได้ดีค่ะแม้จะมีส่วนของห้องที่เฉียง ๆ ก็ไม่มีพื้นที่เสียเปล่า พื้นครัวก็ปูวัสดุต่างกับพื้นห้องนั่งเล่นซึ่งตรงนี้จะสะดวกต่อการทำความสะอาด ส่วนใครที่ทำอาหารจัดหนักก็คงเเอบเสียดายที่ครัวไม่ได้เป็นครัวปิด พื้นที่เก็บของน้อยไปหน่อย ใครของเยอะ เสื้อผ้าเยอะคงต้องหาการจัดวางตู้เพิ่มดี ๆ นะคะ  ห้องน้ำกว้างสบายดูไม่อึดอัดวัสดุและโทนสีที่เลือกดูเข้ากับแนวความคิดของโครงการดีค่ะ

วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา เลือกของดีทีเดียวค่ะ และมีทั้งDigital door lock และVideo door phone ถือว่าสะดวกทีเดียว

สาธารณูปโภคบางส่วนให้พอดี บางส่วนให้น้อย เเละบางส่วนคือไม่มีเลย จึงเฉลี่ยๆ  กันไปค่ะว่าดีไม่ดี นั่นคือสระว่ายน้ำถือว่าเล็กไม่สามารถว่ายแบบออกกำลังกายได้ อาจจะไปแนวว่ายเล่นซะมากกว่า แต่ข้อเสียคือไม่มีห้องอาบน้ำให้ หรืออย่างน้อยแค่ห้องเปลี่ยนชุดก็ยังดีค่ะ พื้นที่สีเขียวในโครงการมีน้อยค่ะ ชั้นGround แทบไม่มีเลยที่มีมาให้และได้ใช้คือดาดฟ้า แต่ก็ดันให้เป็นหญ้าเทียม ต้นไม้มีไม่เยอะ ต้นไม้ใหญ่นี่เเทบไม่มีเลยค่ะ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 122,000 บาทต่อตารางเมตร, 11/10/2013

• ทำเล 8/10 ทำเลอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เข้ามาจากปากซอยไม่ไกล ส่วนซอยทองหล่อหลักก็มีสาธารณูปโภคครบครัน
• เดินทางด้วยรถ 8/10 ไปได้หลายทาง
• ไม่ใช้รถ 7.25/10 เดินลำบากนะคะ ถ้าเดินไปหรือกลับจาก BTS เล่นเอาเหนื่อยเลยค่ะ ถ้ามีจักรยานปั่นเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว 🙂
• วัสดุ 7.8/10 คุณภาพของวัสดุดี ได้รับทั้งเซ็ตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวและเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished
• แบบ 7.8/10 แบบในห้องถือว่าดีเลยค่ะ จัดได้ลงตัวแม้จะมีบางจุดที่ติดขัดไปบ้าง
• สาธารณูปโภค 7/10 ขนาดกำลังเหมาะสมสำหรับโครงการแต่บางส่วนที่ไม่ได้ให้มาเช่นห้องน้ำซึ่งถือว่าจำเป็นมากค่ะ

• HIGH CLASS   
•  7.64 / 10.00