Chambers อ่อนนุช สเตชั่น

รีวิวฉบับที่1974  Chambers อ่อนนุช สเตชั่น ถือว่าเป็นคอนโด Low Rise เปิดใหม่สร้างเสร็จก่อนขาย ที่มีทำเลใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช มากที่สุดในตอนนี้ด้วยระยะห่าง 230 เมตร สามารถเดินได้สบายๆ หาของกินง่าย ในราคาเริ่มต้นที่ 3.49 ล้านบาทค่ะ ตัวโครงการขายแบบ Fully Furnished เน้นขายห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์ดู Cozy แนวอบอุ่นๆ โครงการนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลย 🙂

Fact @ 22 October 2019

  • Chambers On Nut Station (แชมเบอร์ส อ่อนนุช สเตชั่น)
  • บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : เขตพระโขนง
  • ที่ดินประมาณ 3-2-43 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 487 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 175 คัน คิดเป็น 40%
  • เริ่มก่อสร้าง : n/a
  • สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (ปี2019)
  • 1 Bedroom 26-35 sq.m.
  • 1 Bedroom Plus 35 sq.m.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1749

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

 


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps :  13.705439, 100.603448
หรือสามารถ  คลิกที่นี่

ที่ตั้งของโครงการ Chambers อ่อนนุช สเตชั่น ตั้งอยู่ช่วงต้นซอยสุขุมวิท 81 ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุช ซอยนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 ได้ ซึ่งซอยอ่อนนุชจะไปเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์พอดี ซึ่งในอนาคตถนนเส้นนี้จะเป็นถนนที่มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่าน ใช้เดินทางเข้าเมืองไปทางลาดพร้าวได้ค่ะ

ทำเลของ Chambers อ่อนนุช สเตชั่น ตั้งอยู่ในซอยอ่อนนุช 81 ช่วงต้นซอย ใกล้กับถนนสุขุมวิทนะคะ แต่จะอยู่ที่ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ โดยถนนเส้นนี้เป็นถนนอีกเส้นที่คนกรุงเทพใช้เดินทางกันเป็นหลัก และเป็นถนนที่รถไฟฟ้าตัดผ่าน นอกจากจะใช้เดินทางไปยังโซนตะวันออกของกรุงเทพหรือมุ่งหน้าไปยังสมุทรปราการเชื่อมกับบางนาได้ ยังสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังสยามได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ซอยสุขุมวิท 81 เป็นซอยที่สามารถใช้ไปออกยังซอยสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุชได้ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับถนนศรีนครินทร์อีกที ทำให้เดินทางไปยังถนนพัฒนาการ รามคำแหง หรือบางกะปิได้เลย ส่วนในแง่ของทางด่วนจะมีทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนฉลองรัชให้เลือกใช้ ลงตรงสุขุมวิท 50 เพื่อมายังโครงการก็สะดวก ขึ้นตรงสุขุมวิท 50 ก็ได้เหมือนกันค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เนื่องจากทำเลนี้เป็นทำเลใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินสบาย แม้จะเข้าซอยไปก็อยู่ห่างจากรถไฟฟ้า 230 เมตร จะเรียกวินมอเตอร์ไซค์, Taxi ก็ง่าย หรือจะเดินออกไปยังถนนสุขุมวิทก็จะมีป้ายรถเมล์ด้วยค่ะ

สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชนี้ถือเป็นสถานีที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากสถานีหนึ่งเลยค่ะ มีทั้ง Hypermarket อย่าง Tesco Lotus , Tops Supermarket ที่ Century Movie Plaza , Community mall ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนสุขุมวิทอย่าง The Phyll, ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-eleven ก็มีทั้งปากซอยสุขุมวิท 81 และมีอีกสาขาเยื้องๆโครงการเราเลย หรือจะเป็นร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย อย่างในซอยสุขุมวิท 81 จะมี Apartment ให้เช่าเยอะ มีร้านอาหารอยู่ข้างทางภายในซอยให้เลือก หรือจะเดินมายัง Food Court ของ Tesco Lotus ก็ได้ แต่ถ้าอยากทานอาหารเป็นร้านดีๆหน่อยก็มายัง Century movie Plaza ก็จะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะเลยค่ะ แถมเบื่อๆก็มาดูหนังหรือสายสุขภาพก็มาออกกำลังกายใน Studio ที่ Century ก็มีเหมือนกันนะคะ ทั้งหมดที่เล่ามาคืออยู่ในระยะเดินถึงหมดเลย ไม่ต้องเสียค่ารถต่อไปไหนด้วย ประหยัดทั้งค่าเดินทางและเวลาการเดินทาง แต่ถ้าจะขยับออกมาหน่อยก็จะมี True Digital Park 101 ที่มีทั้งฟิตเนสให้เล่น มีตัวเลือกร้านอาหารเพิ่มขึ้น หรือจะมาทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆก็ได้ค่ะ แต่ถ้าขยับเข้าเมืองก็จะเป็นเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ที่จะมีร้านกินดื่ม ไลฟ์สไตล์หรูมากขึ้นด้วยค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

โครงการ Chambers อ่อนนุช สเตชั่น ถือว่าเป็นคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินสบายเลยค่ะ ลงจากรถไฟฟ้าอ่อนนุช มาทางฝั่ง Century The Movie Plaza จะวนเข้าไปในห้างช้อปปิ้งซื้อชานมก่อนได้ หรือว่าเดินลงตรงสะพานลอยจะมายังเกือบปากซอยสุขุมวิท 81 แล้วค่ะ เดินเข้าซอยไป ไม่ถึง 200 เมตรก็จะเจอโครงการตั้งอยู่ทางขวามือแล้ว

Image 1/9
เริ่มต้นกันที่ BTS สถานีอ่อนนุชค่ะ

เริ่มต้นกันที่ BTS สถานีอ่อนนุชค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ 

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 81 จะเป็นซอยที่มีทั้งความอุดมสมบูรณ์และคึกคักอยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นซอยที่สามารถเชื่อมไปยังซอยอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 ได้ เลยทำให้มีรถราผ่านเข้า-ออกในซอยมาก และยังเป็นซอยที่มี Apartment อยู่เยอะ จึงทำให้มีความสะดวกอื่นๆอย่างร้านอาหาร วินมอเตอร์ไซค์กระจายตัวอยู่ด้านในค่ะ เรียกได้ว่าไม่เปลี่ยวนะ

  • ทิศเหนือ : ติดกับถนนสุขุมวิท 81 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น และที่อยู่อาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ Apartment สูง 8 ชั้น
  • ทิศใต้ : ติดกับที่ดินเปล่าและที่อยู่อาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก : ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น

ทิศตะวันตก  ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบสูง 1-2 ชั้น

ทิศตะวันออก ติดกับ Apartment สูง 8 ชั้น

ทิศเหนือ ติดกับถนนสุขุมวิท 81 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น

เข้าไปในซอยสุขุมวิท 81 จะเห็น 7-eleven อยู่ทางซ้ายมือ และจะมี Apartment ให้เช่าอยู่ค่อนข้างมาก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS อ่อนนุช ~ 230 m.
  • Century Movie Plaza อ่อนนุช ~ 300 m.
  • โลตัสอ่อนนุช ~ 350 m.
  • The Phyll ~ 550 m.
  • รร.นานาชาติเวลล์ส ~ 850 m.
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 850 m.
  • ตลาดอ่อนนุช ~ 900 m.
  • People Park ~ 1.4 km.
  • Habito Mall ~ 1.5 km.
  • Summer Hill ~ 1.9 km.
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 2.5 km.
  • Gateway เอกมัย ~ 2.6 km.
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 2.6 km.
  • True Digital park 101 / 101 The Third Place ~ 2.6 km.
  • รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ ~ 4.8 km.
  • เซ็นทรัลพลาซา บางนา ~ 6.9 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

Chambers อ่อนนุช สเตชั่น  ถือเป็นคอนโด Low Rise ใกล้รถไฟฟ้าโครงการหนึ่งเลยนะคะ โดยทั่วไปแล้วโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแบบเดินสบายส่วนใหญ่มักจะเป็นคอนโด High Rise ที่ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ เนื่องด้วยกฏหมายและการสร้างให้คุ้มทุนมากที่สุดของ Developer ด้วย เลยทำให้โครงการที่เป็น Low Rise นั้นมักจะมีที่ตั้งอยู่ภายในซอยแทน และทำให้ไกลจากรถไฟฟ้าเช่นกัน แต่สำหรับโครงการนี้แม้จะเป็นโครงการที่อยู่ในซอย แต่ก็อยู่ในช่วงต้นซอยเลยค่ะ เดินจากรถไฟฟ้าไม่ไกลเลยด้วย ส่วนข้อแตกต่างของโครงการ High Rise กับ Low Rise นั้นที่เห็นชัดเจนเลยคือเรื่องวิว ที่ถ้าเป็น High Rise ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะได้วิวเปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้า เมือง หรือบางทำเลมองเห็นแม่น้ำด้วย แต่ Low Rise มักจะเป็นอาคารที่ยังไม่สูงรอบๆมักจะเป็นอาคารที่สูงเท่ากัน ดังนั้นเรื่องวิวอาจจะคาดหวังอะไรมากไม่ได้ และอีกเรื่องหนึ่งที่มีความต่างของคอนโด High Rise กับ Low Rise คือส่วนกลาง ที่เมื่อเป็นตึกสูง จำนวนห้องพักมักจะเยอะกว่า พื้นที่ส่วนกลางก็จะใหญ่กว่าด้วย ในขณะที่คอนโด Low Rise ส่วนใหญ่ จะไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่มากนัก

สำหรับโครงการนี้ แม้จะเป็น Low Rise แต่ก็เป็นโครงการที่ประกอบไปด้วย 3 อาคาร ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางกระจายตัวไปทั้ง 3 อาคารเลยค่ะ บรรยากาศการตกแต่งส่วนกลางก็ดูสวย น่าใช้งานค่ะ และด้วยการจัดวาง Lay out ของโครงการ ทำให้เกิดพื้นที่ย่อยๆระหว่างอาคาร จัดเป็นวิวภายในได้ด้วย ไม่ต้องพึ่งวิวด้านนอกมากนัก

มาดูที่ผังอาคารกันก่อน ที่ดินของโครงการจะเป็นแนวยาวลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ โดยอาคารทั้ง 3 อาคารจะถูกวางลึกเข้าไปด้านใน อาคาร A อยู่หน้าสุด จะมีข้อดีตรงที่ใกล้ถนนใหญ่ เดินเข้าออกสะดวก ไป 7-eleven ง่าย มี Shop อยู่ด้านล่าง(ทางโครงการแจ้งว่าจะเป็นร้านกาแฟ แต่ตอนนี้ยังไม่ระบุว่าจะเป็นร้านอะไร) อาคารนี้จะมีรูปร่างเป็นตัว U มีส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Lobby ที่มีความสูงแบบ Double Volume มี Hidden Courtyard และมี Library ค่ะ นอกจากส่วนกลางที่ชั้น 1 แล้วยังมีสวนอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าด้วย

ถัดมาที่อาคาร B อาคารนี้จะมีรูปร่างเป็นรูปตัว I (ไอ) ซึ่งจุดเด่นของอาคารนี้คือจะเป็นอาคารที่มีที่จอดรถอยู่ชั้นใต้ดิน (ลึกลงไป 2 ชั้น) และมีลิฟต์ที่ขึ้นจากที่จอดรถไปยังชั้นพักอาศัยได้เลย ดังนั้นใครที่ใช้รถเป็นประจำ ไม่นิยมส่วนกลางอาจจะเหมาะกับอาคารนี้นะคะ

สุดท้ายอาคาร C จะอยู่ด้านในสุด มีผังรูปร่างตัว L อาคารนี้แม้จะอยู่ลึกสุดแต่ก็จะมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นจุดที่มี Facility อย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนสอยู่ค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางเพราะเดินออกมาใช้ได้สะดวกมากๆ ห้องที่อยู่ด้านในของตัว L ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำไปเต็มๆ แต่ก็อาจจะมีเสียงรบกวนได้สำหรับห้องชั้นล่างๆข
ณะที่มีเด็กมาเล่นที่สระว่ายน้ำนะคะ

สรุปพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 เป็นหลัก แต่ละอาคารจะมี Lobby แยก รวมไปถึง Mail Room ด้วยค่ะ นอกจากนี้จะมี Smart Locker ให้มาด้วย เผื่อลูกบ้านคนไหนชอบสั่งของ Online อะไรก็มาหยิบเอาได้ที่ Locker นี้เลย จาก Lobby ทั้ง 3 อาคาร ที่  Lobby A จะมีความสูงแบบ Double Volume ค่ะ ส่วนพื้นที่สวนจะมีการจัดสวนรอบๆอาคารและกระจายตัวระหว่างอาคาร เช่น บริเวณชั้น 1 ของพื้นที่ Court ตัว U ของอาคาร A , ข้างๆทางเดินรถของอาคาร B ที่มีการจัดสวนแบบไล่ Step หรือรอบๆสระว่ายน้ำของอาคาร C เป็นต้นค่ะ โดยรวมถือว่าให้ส่วนกลางมากระจายตัวไปในทุกๆอาคารนะคะ และมีการสร้างบรรยากาศด้วยต้นไม้และสวนต่างๆค่อนข้างร่มรื่นเลย เดี๋ยวเราไปดูอาคารจริงพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ

ทางเข้าโครงการวันที่ไปถ่ายยังไม่เสร็จเรียบร้อยเท่าไหร่นะคะ เดี๋ยวจะมีการติดตั้งรั้วรอบขอบเขตที่ดินด้านหน้าและมีประตูบานเลื่อนตรงทางเข้าที่จอดรถเพิ่มมาอีก ตรงทางเข้านี้จึงสามารถแยกทางเดินรถกับทางคนเดินเข้าได้เลย

อาคาร A จะเป็นอาคารที่อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ด้วยการออกแบบที่ชั้น 1 เป็น Lobby ที่สูงเท่ากับตึก 2 ชั้น ตรงนี้ก็จะช่วยให้ลูกบ้านที่มีห้องอยู่ทางฝั่งนี้ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมา เพราะ ห้องพักด้านนี้จะเริ่มที่ชั้น 3 คนที่เดินผ่านไปมา ก็จะมองเข้าไปไม่เห็นภายในห้องพักนั่นเองค่ะ

โครงการนี้จะมีพื้นที่สำหรับปล่อยเช่าเป็น shop อยู่ 1 ยูนิต ตอนนี้โครงการกำลังเล็งร้านกาแฟไว้ โดยพื้นที่ตรงนี้คนนอกจะสามารถเข้าไปใช้บริการได้ บริเวณทางเข้าจึงมีทางเดินเข้าแยกออกมาด้วยค่ะ ซึ่งจะแตกต่างกับส่วนอื่นๆตรงที่จะไม่มี Landscape ที่เป็นต้นไม้ช่วยพรางตา ส่วนที่มีต้นไม้ก็จะทำให้คนที่ใช้งาน Lobby ยังได้มองเห็นพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้นี้ ได้เเสงสว่างเต็มที่ แต่ยังได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

ทางเข้าโครงการออกแบบมาอยู่ภายใต้อาคาร A พอดี ตกแต่งด้วยผนังระแนงสีขาว มีชื่อโครงการดูเรียบหรูอยู่ด้านหน้าเห็นได้ชัดเจน

หน้าป้ายชื่อโครงการจะจัด Landscape ด้วยน้ำพุและต้นไม้ขนาดต่างๆ สร้างความร่มรื่นให้กับทางเข้า เมื่อเข้ามาจะเจอกับป้อมรปภ.อยู่ทางซ้ายมือค่ะ มีที่จอดรถอยู่แถวนี้นิดหน่อย

ตรงทางเข้าเมื่อซักครู่เดี๋ยวจะมีประตูบานเลื่อนมาติดตั้งนะคะ และพอเข้ามาอีกจะเจอไม้กั้นกระดก ซึ่งรถที่จะเข้าไปภายในโครงการจะต้องใช้ Key Card เพื่อ Scan เข้าไปค่ะ ตรงนี้ถือว่าเป็นทางเข้าหลักของโครงการ ส่วนประตูบานเลื่อนด้านหน้า อาจจะต้องรอดูอีกทีว่าจะมีการบริหารจัดการอย่างไร จะปิดตลอดเวลาหรือว่าปิดเฉพาะตอนกลางคืนค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับป้อมรปภ.จะเป็นทางเข้า Lobby อาคาร A ที่มีความสูงแบบ Double Volume

พอพื้นที่ภายในมีความสูงเท่ากับตึก 2 ชั้น ผนังกระจกก็เลยถูกออกแบบให้สูงตาม แต่ด้านนอกมีการออกแบบ FACADE หรือสิ่งตกแต่งอาคารเพิ่มเติมเป็นชุดแผงเหล็กขึ้นลายเหลี่ยม และโค้ง แบบที่เห็นในรูป สร้างมิติและความสวยงามให้กับภายนอกอาคารมากขึ้น

มาดูที่อาคาร A กันก่อนนะคะ เมื่อเข้ามาที่ Lobby อาคาร A จะมีขนาดที่ใหญ่สุดและมีความสูงแบบ Double Volume มีมุมนั่งเล่นเยอะกว่าอาคารอื่นเลย การตกแต่งภายในจะเลือกใช้พื้นลายหินอ่อน มีกระจกคล้ายโมเสกตกแต่งอยู่ที่เสาของอาคาร และเน้นเฟอร์นิเจอร์สีขาว-ดำ และลายไม้

พอรวมกับพื้นที่ที่สูงกว่าปกติทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งมากเลยค่ะ มองผ่านต้นไม้ออกไปเห็นถนนและความวุ่นวายภายนอก ตัดกับความอบอุ่นเเละสงบด้านใน ดูๆไปบรรยากาศเป็นร้านกาแฟเก๋ๆได้เลย

ไม่ใช่แค่โซฟานะคะ แต่จะมีชุดโต๊ะที่สามารถเอาคอมมากางทำงานหรือถ้าใครต้องนัดเพื่อนติวหนังสือ ทำงานกลุ่ม หรือประชุมงานก็สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เหมือนกัน รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย

ตรง Lobby ของทุกอาคารจะมี Mail room แยกไปแต่ละอาคารค่ะ และจะมี Smart Locker ของ BOX24 ติดตั้งไว้ให้ เหมาะกับคนที่มักจะซื้อของ Online, ฝากของให้เพื่อน, ใช้บริการซักรีดต่างๆก็มารับส่งที่ Locker นี้ได้เลย ช่วยลดการทำงานของนิติบุคคลได้ด้วย ข้าวของที่สั่งก็จะปลอดภัย ไม่หาย ไม่ปะปนอยู่ที่ห้องทำงานนิติด้วยค่ะ

ที่ Lobby ตรงนี้จะมีบันไดวนที่เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ได้ด้วย ซึ่งจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับ Lobby นี้อีกที โดยพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่คนที่อยู่อาคาร A ที่จะใช้ได้นะคะ ลูกบ้านทั้งหมดที่อยู่ภายในโครงการสามารถเข้ามาใช้ได้ค่ะ

ที่ชั้น 2 จะมีมุมนั่งเล่นเพิ่มเติมนิดหน่อย มองลงมาเห็นพื้นที่ชั้น 1 ได้ เป็นเหมือนชั้นลอยของบ้านค่ะ ถ้าใครขี้เกียจเดินขึ้นมาก็สามารถใช้ลิฟต์ได้นะคะ

โดยชั้น 2 ที่จะเริ่มมีห้องพักแล้ว แต่ส่วนพักอาศัยจะมีประตูกั้นแยกออกมาอีกที ต้องเป็นลูกบ้านที่อาศัยที่อาคาร A ชั้น 2 เท่านั้นที่จะเข้าไปส่วนที่เป็นทางเดินหน้าห้องพักได้

ขอเดินลงมาดูที่โถงลิฟต์ของอาคารที่ชั้น 1 กันก่อน ก่อนจะเข้าไปยังหน้าลิฟต์จะต้อง Scan ด้วย Key Card อีกครั้งนะคะ ถึงจะเข้าไปใช้งานลิฟต์ได้ ผนังรอบๆออกแบบเป็นผนังกระจกสลับกรอบบานไม้ สวยงามแปลกตาดีค่ะ

ลิฟต์โดยสารจะมีให้อยู่ 2 ตัวต่ออาคาร ทุกชั้นจะมีหน้าต่างไว้ระบายอากาศหน้าโถงลิฟต์ด้วย ทำให้หน้าลิฟต์ไม่มืด แถมระบายอากาศได้ดีค่ะ แต่ที่ชั้น 1 หน้าโถงลิฟต์จะมีการออกแบบดีไซน์โค้งตรงกับประตูลิฟต์ ดูแล้วคิดถึง Alice in the wonderland 🙂

อาคาร A จะเป็นอาคารที่มีผังเป็นตัว U นะคะ โดยตัวอาคารจะมีการดีไซน์ที่ไม่ใช่เเค่ผนังทึบ , ราวกันตก และกระจกเท่านั้น เเต่จะมีการเอาอิฐบล็อกสี่เหลี่ยมจัตุรัส มาเรียงเหลื่อมกันนิดๆด้วย รูปแบบดีไซน์เหมือนช่วง Mid-Century ของจริงดูดีมาก (การก่อสร้างก็ถือว่าแอบยากนะคะเเบบนี้ เพราะต้องเรียงบล็อกทีละก้อนให้เหลื่อมในจังหวะที่เท่าๆกันด้วย)

ตัวบล็อกช่องลมนี้จะเป็นจุดพรางตาส่วน Service ภายในห้องอย่าง CDU แอร์และเครื่องซักผ้าที่วางอยู่ตรงระเบียงด้วย ทำให้มองจากภายนอกเข้าไปจะดูเรียบร้อย

อาคาร A ตรงกลางของตัว U จะถูกจัดเป็นที่จอดรถกลางแจ้งและมีสวน (Hidden Courtyard) ซึ่งจะมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ตรงนี้ด้วย ตัวต้นไม้ก็จะช่วยพรางตาจากห้องฝั่งตรงข้ามที่สามารถมองเข้ามายังห้องนอนเราได้ และเป็นพื้นที่สีเขียว สร้างมุมมองสบายตาให้กับห้องพักที่อยู่ตรงนี้ด้วยค่ะ

ตรงกลางของอาคาร A ที่เป็นตัว U จะหันไปเจอกับอาคารข้างๆ ที่เป็นอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้นเช่นกัน แต่ด้วยระยะที่ไม่ได้ตั้งกระชั้นใกล้กันมาก และอาคารฝั่งตรงข้ามเป็นหน้าต่างช่องเล็ก เเละไม่มีระเบียง ทำให้ภายในโครงการเรายังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ (มีต้นไม้ใหญ่ เล็ก ปลูกรอบๆรั้วโครงการด้วย สร้างมุมมองและพื้นที่สีเขียวให้ภายในโครงการได้อีก)

กลับมาที่ตรงกลางภายในคอร์ทของอาคาร A กันต่อนะคะ ส่วนที่จัดเป็นสวนไว้จะมีพื้นที่นั่งเล่นกลางสวนอยู่ด้วย สามารถไปนั่งเล่นมือถือก็ได้นะคะ ในแต่ละกล่องที่เห็นจะมีจุดชาร์จโทรศัพท์ด้วย USB เอาไว้ให้ด้วย

ส่วนขาของตัว U อีกฝั่งจะเป็นห้อง Library ค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีฝ้าเพดานระดับปกติ เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือทำงานเพิ่มขึ้น ขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้คนไม่สามารถใช้งานเยอะๆพร้อมๆกันได้ ซึ่งก็เป็นข้อดีนะคะ เพราะคนที่มาใช้ก็จะได้ความสงบ ความเป็นส่วนตัวดี สร้างสมาธิในการทำงานหรือการอ่านหนังสือได้ง่ายกว่า

ภายใน Library ก็ยังคงตกแต่งด้วยโทนอบอุ่น และไม่ได้เป็นห้องปิดทึบ มีมุมที่มองออกไปเห็นสวนด้านข้างได้

เลยอาคาร A มาดูที่อาคาร B กันต่อค่ะ ระหว่าง 2 อาคารจะเป็นทางเดินรถที่สามารถเลี้ยวเข้าไปจอดใต้อาคาร A และ B ได้ หรือจะลงไปยังที่จอดรถได้อาคารได้ค่ะ โดยที่จอดรถใต้ดินจะอยู่ที่ใต้ตึก B เท่านั้น มีทั้งหมด 2 ชั้น

ซ้ายมือจะเป็นทางเดินรถไปยังหน้าอาคาร C ส่วนขวามือจะเป็นทางลงไปยังที่จอดรถใต้ดินค่ะ ทางขึ้น-ลง จะมีอยู่จุดเดียวคือตรงนี้นะคะ ติดกับทางลงที่จอดรถ จะเป็น Lobby ของอาคาร B

อาคาร B นี้ Lobby จะมีขนาดเล็กลงและมีความสูงระดับปกติค่ะ มีมุมนั่งเล่นนั่งรอเพื่อนได้

และมี Mail-Room กับ Smart Locker ให้มา แยกตึกใครตึกคนนั้น

เข้ามาในสุดจะเจอกับลิฟต์ขึ้นไปยังที่พักอาศัยค่ะ หรือจะลงไปยังที่จอดรถก็ได้

ความน่าสนใจของตึกนี้นอกจากจะได้ข้อดีที่เป็นตึกเดียวกับที่จอดรถแล้วคือหน้าลิฟต์จะมีโถง Skylight สูงโปร่งโล่งแบบนี้เลยค่ะ ตอนนี้ทางโครงการมีการออกแบบเพิ่มเติมอยู่ อาจจะมีเฟอร์นิเจอร์มาจัดวางให้บริเวณนี้นะคะ

โถงนี้จะสูงขึ้นไปยังดาดฟ้าเลย เป็น Skylight ทำให้บริเวณหน้าลิฟต์สว่างและโปร่งมากขึ้นค่ะ แต่ละชั้นสามารถมองเชื่อมต่อกันได้ด้วย

ส่วนทางเดินหน้าห้องพักฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ สุดทางเดินจะมีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศให้ค่ะ

ตามทางเดินจะมีไฟส่องสว่างติดตลอดแนวด้วย

จากอาคาร B เราตรงเข้าไปยังอาคาร C ที่เป็นอาคารสุดท้ายของโครงการนี้กันค่ะ

ลอดใต้อาคารมาจะเจอกับขาของอาคาร B ทางด้านขวานะคะ และอาคาร C อยู่ด้านใน ตรงอาคาร C จะไม่มีที่จอดรถข้างใต้ ใครที่อยู่อาคาร C สามารขับอ้อมด้านหน้าอาคารไปลองวนดูใต้อาคาร A และ B ได้ หรือจะวนลงไปจอดใต้อาคาร B ได้เช่นกันค่ะ

ตรงอาคาร B จะมีการจัดสวนไว้ให้ด้วย สวนตรงนี้จะยก Step เป็นขั้นๆไว้ให้ ห้องพักที่ชั้นล่างๆจะได้ถูกพรางตาจากคนที่สัญจรไปมา และได้วิวเป็นสวนสีเขียวเล็กๆตรงนี้ค่ะ

สวนตรงนี้จะปูพื้นไม้ มีต้นไม้ใหญ่สร้างร่มเงาไว้ให้นะคะ เดี๋ยวจะมีเฟอร์นิเจอร์มาลงเพิ่ม จัดเป็นมุมนั่งเล่นกลางสวนได้ค่ะ

และด้วยการที่ยกระดับสูงจากพื้นถนน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ

มาดูที่อาคาร C กันค่ะ อาคารนี้ถือว่าเป็นอาคารที่รวมส่วนกลางสาย Sport ไว้เลย เพราะจะเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำและฟิตเนสค่ะ ลูกบ้านที่อาคารอื่นก็มาใช้งานได้ไม่ยาก เพราะจะถูกตั้งไว้ที่ชั้น 1 ของอาคารเลย แต่จะมีผนังก่อขึ้นมาระหว่างถนนและสระว่ายน้ำช่วยพรางตาจากรถที่ยังขับผ่านหน้าอาคาร C ค่ะ เราชอบที่มีต้นไม่ใหญ่ลงไว้ให้ด้วย บรรยากาศก็จะได้ทั้งความร่มรื่นและร่มเงาไปในตัว

เดินเข้ามาจะเจอกับฟิตเนสซ้ายมือ สระว่ายน้ำขวามือ ตรงเข้าไปจะเป็นห้องน้ำและทางไปยัง Lobby อาคาร C ค่ะ เดี๋ยวเราดูสระว่ายน้ำกันก่อนนะ

สระว่ายน้ำจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ กว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตรค่ะ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ รอบๆสระจะมีต้นไม้ปลูกไว้ให้ สระว่ายน้ำก็จะได้ความร่มรื่นและความเป็นส่วนตัวขณะใช้งาน

อาคาร C จะเป็นอาคารรูปตัว L ค่ะ ดังนั้นจะมีเงาของอาคารบังเเดดให้ได้บ้างในช่วงเวลากลางวัน เราจะเห็นได้เลยนะคะว่าคนที่อยู่อาคาร C จะได้วิวที่เป็นสระว่ายน้ำนี้ค่ะ แต่ว่าก็อาจจะมีเรื่องเสียงรบกวนได้บ้าง ช่วงที่มีเด็กๆมาเล่นน้ำ ชั้นล่างๆเลยอาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความครึกครื้นนะคะ

ที่อาคารนี้จะมี 3 ยูนิตพิเศษ เป็นยูนิตแบบ Pool Access เลย

จากตัวห้องคือมีบันไดเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ

ฝั่งนี้จะมีมุมนั่งเล่นในสระให้ด้วย 2 จุด

อีกฝั่งจะมี Sunken Seat เป็นที่นั่งลงไป ตรงนี้จะมีลูกเล่นคือระดับที่ถูกขุดลงไปจะมีผนังส่วนหนึ่งเป็นกระจกใส ทำให้เห็นด้านข้างของสระว่ายน้ำค่ะ ดูเก๋ไปอีกแบบ

มีจุดล้างตัวให้ข้างสระอยู่ 1 จุดที่ใต้อาคาร

รอบๆสระจะมีน้ำพุด้วย คนที่อยู่แถวนี้ก็จะได้ยินเสียงน้ำพุตลอดเวลา จริงๆแล้ว Background noise ที่เป็นเสียงธรรมชาติแบบนี้จะช่วยสร้างสมาธิได้เหมือนกันนะคะ

จบที่สระว่ายน้ำกันไปเรามาดูบรรยากาศที่ Lobby ของอาคาร C กันบ้างค่ะ เข้ามาเราจะเจอกับ Mail Room และ Smart Locker ทางซ้ายมือ ขวามือเป็นโซฟาพักผ่อน ตรงเข้าไปจะเป็นทางไปยังโถงลิฟต์และห้องพักค่ะ

ที่ Lobby จะได้วิวสระว่ายน้ำแบบนี้เลย บรรยากาศดูร่มรื่นด้วยต้นไม้เหมือนกันนะคะ เหมือนบ้านสวน หรือสไตล์รีสอร์ท

บรรยากาศของโถงลิฟต์จะมีการตกแต่งคล้ายๆกันหมดทั้งโครงการ ส่วนที่เป็นห้องพักที่ชั้นนี้จะมีประตูเข้าไปอีกชั้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ที่อาศัยชั้นนี้ค่ะ

สุดท้ายเรามาดูที่ฟิตเนสกันค่ะ ฟิตเนสของที่นี่จะมีเครื่องเล่นให้เยอะอยู่นะคะ พื้นที่ตรงนี้จะสูงระดับปกติ แต่จะเปิดวิวทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะมองออกไปยังสระว่ายน้ำ อีกฝั่งจะเป็นวิวต้นไม้ค่ะ

สำหรับผังพื้นแต่ละอาคารสามารถคลิกเลื่อนรูปเพื่อดูรายละเอียดแต่ละชั้นได้เลยนะคะ

ผังอาคาร A

Image 1/4
อาคาร A จะเป็นอาคารแรกที่อยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 81 ค่ะ ดังนั้นจะเป็นอาคารที่ได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางเข้าออกมากที่สุด และจะเป็นอาคารที่มี Lobby ที่ใหญ่สุดอยู่ เป็น Lobby แบบ Double Space นอกจากนี้จะมี Shop (ที่คาดว่าจะเป็นร้านกาแฟ) และมี Library อยู่ด้วยภายในอาคาร ส่วนนอกอาคารตรงกลางของตัวU จะเป็น Hidden Courtyard จัดเป็นสวนและมีที่นั่งซ่อนอยู่ ส่วนของที่จอดรถนั้น สามารถวนไปจอดใต้อาคารรอบๆได้ค่ะ บางส่วนจะเป็นที่จอดรถในร่ม บางส่วนจะเป็นที่จอดรถกลางแจ้งค่ะ

อาคาร A จะเป็นอาคารแรกที่อยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 81 ค่ะ ดังนั้นจะเป็นอาคารที่ได้ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางเข้าออกมากที่สุด และจะเป็นอาคารที่มี Lobby ที่ใหญ่สุดอยู่ เป็น Lobby แบบ Double Space นอกจากนี้จะมี Shop (ที่คาดว่าจะเป็นร้านกาแฟ) และมี Library อยู่ด้วยภายในอาคาร ส่วนนอกอาคารตรงกลางของตัวU จะเป็น Hidden Courtyard จัดเป็นสวนและมีที่นั่งซ่อนอยู่ ส่วนของที่จอดรถนั้น สามารถวนไปจอดใต้อาคารรอบๆได้ค่ะ บางส่วนจะเป็นที่จอดรถในร่ม บางส่วนจะเป็นที่จอดรถกลางแจ้งค่ะ

ผังอาคาร B

Image 1/5
มาที่อาคาร B กันค่ะ อาคารนี้จะอยู่ตรงกลางและเป็นอาคารที่มีที่จอดรถอยู่ใต้ดินสองชั้น ดังนั้นอาคารนี้จึงเหมาะกับคนที่ขับรถมากนะคะ เพราะสามารถขึ้นจากที่จอดรถมาถึงตัวอาคารได้เลย ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ชั้น 1 จะสามารถวนรถและจอดรถรอบๆอาคารได้ ส่วนตัวตึกจะมี Lobby, Mail Room+Smart Locker และมี Step-Garden อยู่อีกฝั่งค่ะ

มาที่อาคาร B กันค่ะ อาคารนี้จะอยู่ตรงกลางและเป็นอาคารที่มีที่จอดรถอยู่ใต้ดินสองชั้น ดังนั้นอาคารนี้จึงเหมาะกับคนที่ขับรถมากนะคะ เพราะสามารถขึ้นจากที่จอดรถมาถึงตัวอาคารได้เลย ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ชั้น 1 จะสามารถวนรถและจอดรถรอบๆอาคารได้ ส่วนตัวตึกจะมี Lobby, Mail Room+Smart Locker และมี Step-Garden อยู่อีกฝั่งค่ะ

ผังอาคาร C

Image 1/2
สุดท้ายที่อาคาร C ค่ะ อาคารนี้จะเป็น Facility หลักของโครงการเลย ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ กับฟิตเนสที่มีเพิ่มขึ้นมาพิเศษจาก Lobby และ Mailroom ที่มีให้อยู่แล้วในทุกอาคารค่ะ โดยจากด้านหน้าอาคารจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางก่อน โดยซ้ายมือใต้อาคารจะเป็นฟิตเนสที่สามารถมองออกไปยังสระว่ายน้ำไ้ด้ และตรงกลางจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ค่ะ มีโซนที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้ยาว 20 เมตร และโซนที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่อาคารนี้จะมีห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 เลย และมียูนิตพิเศษเป็นห้อง 1 Bedroom Plus แบบ Pool Access ที่จากห้องนอนสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ

สุดท้ายที่อาคาร C ค่ะ อาคารนี้จะเป็น Facility หลักของโครงการเลย ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ กับฟิตเนสที่มีเพิ่มขึ้นมาพิเศษจาก Lobby และ Mailroom ที่มีให้อยู่แล้วในทุกอาคารค่ะ โดยจากด้านหน้าอาคารจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางก่อน โดยซ้ายมือใต้อาคารจะเป็นฟิตเนสที่สามารถมองออกไปยังสระว่ายน้ำไ้ด้ และตรงกลางจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ค่ะ มีโซนที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้ยาว 20 เมตร และโซนที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่อาคารนี้จะมีห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 เลย และมียูนิตพิเศษเป็นห้อง 1 Bedroom Plus แบบ Pool Access ที่จากห้องนอนสามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Double Space Lobby ที่อาคาร A และ Lobby ทุกอาคาร
  • Library ที่อาคาร A
  • Hidden courtyard ที่อาคาร A
  • Step-Garden ที่อาคาร B
  • Swimming Pool & Jacuzzi ที่อาคาร C ขนาด 5×20 เมตร ลึก 1.2 เมตร ระบบเกลือ
  • Kids Pool ที่อาคาร C
  • Fitness Room ที่อาคาร C
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 81 : 1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถประมาณ 175 คัน คิดเป็น 40%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
  • Home Automation ผ่าน Application ” บ้านรู้ใจ “


Product Walkthrough

สำหรับแบบห้องของ Chambers อ่อนนุช สเตชั่น จะมีแต่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 26-35 ตร.ม. กับ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. นะคะ ซึ่งห้องแบบ 1 Bedroom จะมีมากกว่า และจะเป็นห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันเลยค่ะ ซึ่งโครงการนี้จะขายห้องเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชิ้น รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้น อย่างเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ สร้างเสร็จพร้อมอยู่พร้อมเฟอร์นิเจอร์เลยราคาห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท ผังห้องและภายในห้องจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

ดูที่ผังห้องกันก่อนค่ะ สำหรับห้องนี้จะเป็น 1 Bedroom แบบหน้ากว้างนะคะ ห้องหน้ากว้างจะเป็นห้องที่มีพื้นที่ติดกับพื้นผิวหรือผนังภายนอกอาคารเยอะ ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ภายในห้องออกเป็น 2 ส่วนได้ และทำให้ฟังก์ชันทั้ง 2 นั้นจะอยู่ใกล้ชิดกับหน้าต่าง  คือฝั่งที่เป็นส่วนพักผ่อน ประกอบไปด้วยส่วน Living และห้องนอนที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับประตูทางเข้าห้องเลย และอีกฝั่งที่เป็นเหมือนส่วน Service ของห้อง คือครัวและห้องน้ำค่ะ การจัดแบบนี้จะมีข้อดีคือห้องครัวจะอยู่ใกล้กับระเบียงและหน้าต่าง ทำให้เวลาทำอาหาร การระบายอากาศก็จะดีขึ้น แถมยังได้เป็นครัวปิด มีเครื่องดูดควันเป็นระบบดูดออกนอกอาคารอีก ตรงพื้นที่ครัวนี้ ในแง่การใช้งานถือว่าดีเลยนะคะ ส่วนพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนที่อยู่ติดกัน พื้นที่ 2 ส่วนนี้จะถูกแบ่งออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ที่เมื่อเปิดพื้นที่ก็จะสามารถเชื่อมต่อกันได้ ดูเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่เวลานอน เราอาจจะเลื่อนประตูมาปิด เพื่อให้แอร์ภายในห้องนอนไม่ต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น หรือเมื่อมีเพื่อนมาเยี่ยมก็เลื่อนประตูปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นก็ได้ (หลายๆคนก็คงไม่อยากให้ใครมาเห็นเตียงตัวเองหรือบางทีห้องนอนรกเกินไปก็ไม่ต้องการให้เห็นความไม่เรียบร้อยนั้นก็ได้นะคะ) สิ่งที่ยังขาดไปสำหรับห้องนี้จะมีอยู่ 1 ฟังก์ชันก็คือโต๊ะทานอาหารที่ไม่ได้ให้มาด้วยค่ะ ดังนั้นห้องนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบดูทีวีไปทานข้าวไป เอาอาหารมานั่งทานที่โซฟาแทนนะคะ

เข้ามาดูภายในห้องกันดีกว่าค่ะ ห้องนี้ที่บอกไปจะขายเป็นแบบ Fully Furnished ดังนั้นสิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างจะเหมือนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จริงเลยค่ะ จะไม่ได้บางอย่างเช่น ฟูกของที่นอน หมอน ของตกแต่งต่างๆ และดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามแบบห้องที่ต่างไปนะคะ เช่นวัสดุบุโซฟา ขนาดของชั้นวางทีวี เป็นต้นค่ะ

ประตูทางเข้าห้องจะเป็น HDF ลายไม้นะคะ มี Digital Door Lock ของ Schlage ให้มาด้วยค่ะ ใช้กุญแจ, Keycard และ Password ในการเข้า-ออกห้องได้ นอกจากนี้ยังมี Home Automation ให้ด้วย โดยใช้งานผ่าน Application “บ้านรู้ใจ “ ซึ่งเป็น Application ที่ถูกพัฒนามาให้ลูกบ้านของ SC Asset โดยเฉพาะ สิ่งที่ Link เข้ากับ Home Automation คือสามารถสั่งงานเปิด-ปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศผ่าน Application นี้ได้ นอกจากนี้ภายใน Application ก็จะมีการสื่อสารกิจกรรมต่างๆที่ SC Asset จัดขึ้นเพื่อลูกบ้าน สามารถอำนวยความสะดวกเรื่องกินอยู่ได้ เช่น จัดหาน้ำดื่ม หาแม่บ้านทำความสะอาด หรือล้างรถให้ได้ด้วยค่ะ จากที่เราอ่านมายังมีอีกหลาย Features ภายใน Apps ที่น่าสนใจทั้งเชิง Finance และการติดต่อนิติบุคคลด้วยนะคะ แต่อาจจะต้องถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกครั้งว่า ณ ปัจจุบัน Application นี้เปิดให้ใช้งานทุก Feature แบบเต็มรูปแบบรึยัง? และโครงการ Chambes อ่อนนุช สเตชั่น นี้จะได้ Benefits อะไรจาก “บ้านรู้ใจ “ บ้าง 🙂

กลับมาดูที่ภายในห้องกันต่อ เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านในใช่ไหมค่ะ ส่วนอีกฝั่งนึงจะเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำและห้องครัวที่อยู่อีกฝั่งของห้อง โดยวัสดุที่ให้มาตรฐานภายในห้องจะได้พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนห้องครัวและห้องน้ำจะได้พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคค่ะ ผนังและฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสีให้นะคะ ไม่มีการตกแต่งแบบในห้องตัวอย่างนี้ ใครอยากแต่งเพิ่มตามก็ได้ ไฟส่องสว่างภายในห้องจะได้เป็นดาวน์ไลท์ ความสูงของห้องอยู่ที่ 2.5 เมตร ไม่มากไม่น้อยค่ะ

เข้ามาส่วนแรกเราจะเจอกับส่วนนั่งเล่นมีขนาด 2.5×2.8 เมตร พื้นที่ส่วนนี้จะมีชั้นวางรองเท้า ชั้นวางทีวี โซฟา และโต๊ะหน้าโซฟาให้มาค่ะ วัสดุเฟอร์นิเจอร์จะเป็นโทนสีขาวเทา และลายไม้สีอ่อนเพิ่มความ Cozy ให้กับพื้นที่นั่งเล่น

โซฟาที่ได้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่งนะคะ มีโต๊ะหน้าโซฟาอยู่ การใช้งานอาจจะปรับพื้นที่ตรงนี้เป็นที่นั่งทานอาหารไปด้วยเลยได้ ข้างๆโซฟายังพอมีพื้นที่เหลือ อาจจะเอากระถางต้นไม้มาไว้เพิ่มความสดชื่นภายในห้องได้ หรือ ใครที่ชอบอ่านหนังสืออาจจะหาโคมไฟตั้งพื้นมาวางข้างๆโซฟาก็ได้ค่ะ

ระยะทางเดินเข้า-ออกอยู่ที่ 1 เมตรพอดี จัดว่าเป็นระยะที่เดินสบายเลยนะคะ ระยะดูทีวีก็อยู่ที่ 2.2-2.5 เมตร เลือกทีวีขนาด 50 นิ้วได้เลยค่ะ

ชั้นวางทีวีกับตู้รองเท้าจะวางอยู่ใกล้กันเลย ใกล้ประตูทางเข้าห้องด้วย เข้ามาถึงก็เก็บรองเท้าเรียบร้อย ฝุ่นและความสกปรกจากรองเท้าจะได้ไม่เข้าไปภายในห้องมากนัก ตัวชั้นวางทีวีจะมีตู้บานเลื่อนเอาไว้เก็บของด้านล่างให้ ขนาด 1.00×0.35 เมตร ส่วนชั้นวางรองเท้าจะกว้าง 40 ซม.

ภายในชั้นวางรองเท้าจะมีหมุดหรือตะขอเอาไว้แขวนพวกกุญแจได้ด้วยค่ะ

ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอนนะคะ โดยห้องนอนจะถูกแบ่งออกจากพื้นที่นั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ตรงนี้มีการดีไซน์ที่เราชอบคือกรอบของบานเลื่อนสามารถเลื่อนไปเก็บอยู่หลังผนังได้หมดเลย และความสูงก็สูงจากพื้นจรดฝ้าและสุดขอบผนังด้วย ทำให้เมื่อเปิดสุด พื้นที่ดูเชื่อมต่อกันได้เต็มที่ แต่ยังมีส่วนที่เป็นบานจับยื่นออกมานิดหน่อย ทำให้จับเลื่อนได้สะดวก ไม่ต้องกลัวมือโดนหนีบตรงซอกผนังด้วยค่ะ

ตัวบานจะเป็นกระจกใส กรอบบานเป็นอลูมิเนียมค่ะ

ภายในห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างไม่มีระเบียงนะคะ ห้องนี้จะได้เตียงนอน โต๊ะหัวเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้ค่ะ

เตียงนอนจะได้เตียงที่กว้าง 1.60 เมตรดีไซน์แบบมีพนักหัวเตียงลายไม้เข้าชุดกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆภายในห้อง โดยห้องนอนจะมีหน้าต่างอยู่สองชุดสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานเลย แสงสว่างส่องเข้ามาได้เต็มที่

พื้นที่รอบๆเตียงอยู่ในระยะที่เดินรอบสบายนะคะ ฝั่งหน้าต่างกว้าง 45 ซม. พอดีวางโต๊ะหัวเตียงแบบกลมและเป็นระยะติดม่าน ฝั่งนี้อาจจะไม่ได้เดินไปใช้งานบ่อยนักส่วนฝั่งห้องนั่งเล่นกว้าง 50 ซม. ฝั่งนี้เวลาใช้งานมักจะต้องเปิดประตูอยู่เเล้วซึ่งระยะเดินก็จะกว้างขึ้นตามไปด้วยค่ะ ส่วนปลายเตียงมีระยะอยู่ที่ 65 ซม. ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน สามารถยืนเลือกเสื้อผ้าได้พอดีๆ

ตำแหน่งปลายเตียงจะเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ (ใครดูทีวีก็เดินไปดูที่ห้องนั่งเล่นแทนนะคะ)

ตรงโต๊ะเครื่องแป้งจะมีกระจกเงาไว้ให้นะคะ สามารถส่องแต่งตัวแต่งหน้าได้ ส่วนภายในตู้เสื้อผ้าจะมีราวแขวนทั้งบนและล่าง พร้อมลิ้นชักไว้ให้ สำหรับใครที่มีกระเป๋าเดินทางอาจจะต้องยกขึ้นไปเก็บที่ด้านบนตู้เสื้อผ้าแทนค่ะ

ตรงโต๊ะเครื่องแป้งจะมีลิ้นชักให้ด้วย และมีปลั๊กไฟให้ เผื่อใครมานั่งไดร์ผมหรือม้วนผมตรงนี้แทนในห้องน้ำ นอกจากนี้สามารถเลื่อนเก้าอี้ออกมาเพื่อใช้งานได้เต็มที่เลยค่ะ

ถือว่าอยู่อาศัยกันได้ 2 คนแบบสบายๆเลยนะคะ

เราไปดูพื้นที่ส่วน Service ของห้องกันค่ะ เดินไปเราจะเจอกับตำแหน่งวางตู้เย็นอยู่สุดทางเดิน ซ้ายมือเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็นครัวค่ะ ทั่วๆไปเรามักจะเจอกับตู้เย็นที่วางไว้ภายในครัวกันนะคะ แต่การที่วางตู้เย็นออกมาจากครัวนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน อย่างข้อดีคือเวลาเราใช้ชีวิตประจำวัน เรามักจะชอบเดินไปหยิบขนม เครื่องดื่มที่แช่ไว้ในตู้เย็นมาทานกรุบกริบระหว่างวัน หรือระหว่างดูทีวีกันใช่ไหมคะ ดังนั้นการที่เราเดินไปใช้งานตู้เย็นได้ง่ายก็ถือว่าเป็นข้อดีเลย แต่ถ้าใครชอบทำอาหารแล้วต้องหยิบของสดจากตู้เย็นเดินไปในครัวบ่อยๆ น้ำคาวจากอาหารอาจจะหยดเลอะเทอะพื้นที่เป็นไม้ลามิเนตตรงนี้ได้ หรือในกรณีที่ตู้เย็นมีปัญหาน้ำไหลซึมออกมา พื้นลามิเนตตรงนี้ก็อาจจะบวมน้ำได้ค่ะ

ขอไปดูที่ครัวกันก่อน ครัวภายในห้องนี้จะได้เป็นครัวปิดค่ะ มีประตูบานเลื่อนกั้นปิดครัวให้ และภายในครัวจะเป็นทางเดินฝั่งนึง และเคาน์เตอร์ครัวอีกฝังค่ะ

ประตูบานเลื่อนจะเป็นกรอบบานอลูมิเนียมสีขาว ตัวบานเป็นกระจกลูกฟูก ให้แสงสว่างยังส่องเข้ามายังทางเดินหน้าห้องน้ำได้ ตัวรางอยู่ด้านบน ทำให้เดินเข้าออกง่ายไม่สะดุดค่ะ

พื้นภายในครัวจะเปลี่ยนวัสดุจากลามิเนตหนา 8 มม. มาเป็นกระเบื้องเซรามิคที่ทนน้ำและง่ายต่อการทำความสะอาดมากขึ้น ทางเดินตรงนี้จะกว้าง 90 ซม. เป็นระยะที่เดินใช้งานสะดวกนะคะ แต่เดินสวนกันอาจจะแคบไปนิดนึง

ท็อปครัวจะให้หินแกรนิตมา ซึ่งทนและทำความสะอาดง่าย แต่ผนังด้านหลังจะไม่ได้กรุวัสดุอะไรให้มานะคะ ถ้าใครกลัวผนังเลอะเปื้อนคราบหรือเขม่าควันจากการทำอาหาร อาจจะหากระเบื้องมาติดเพิ่มก็ได้จะได้ง่ายในการทำความสะอาดและดูเรียบร้อยสวยงามด้วยค่ะ ส่วนชุดครัวจะได้ของ Teka ทั้งหมดเลยทั้งอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบดูดออกนอกอาคาร มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารพร้อมปลั๊กไฟมาให้ เผื่ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้า เช่น กาต้มน้ำ หม้อหุงข้าว ขนาดเคาน์เตอร์นี้รวมแล้วจะอยู่ที่ 1.50×0.60 เมตร

ตู้บนจะเป็นเป็นบานเปิดลายไม้ มีช่องเก็บของและพื้นที่เก็บของที่ดึงลงมาได้ เหมาะกับคนที่สูงไม่มากแบบผู้เขียนเลยค่ะ 🙂

ส่วนตู้ล่างจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ (พร้อมให้ไมโครเวฟของ Electrolux มา) ใต้อ่างล้างจานจะมีถังขยะที่มาพร้อมกับประตูบานเปิดสวิงของตู้แบบนี้เลย

ติดกับห้องครัวจะเป็นระเบียงนะคะ พื้นที่ครัวไปยังระเบียงจะมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนค่ะ เปิดสุดจะพอดีกับแนวเคาน์เตอร์ครัวเลย มีธรณีประตูยกสูงขึ้นมา กันฝุ่นและน้ำฝนจากพื้นระเบียงไม่ให้เข้าห้องค่ะ

ระเบียงจะมีขนาด 0.90×1.60 เมตร เป็นพื้นที่วาง CDU แอร์และเป็นพื้นที่ซักล้าง วางเครื่องซักผ้า (โครงการจะให้เครื่อวซักผ้าของ Electrolux มาด้วย)

ตำแหน่งวาง CDU แอร์จะหันข้างเข้าระเบียงนะคะ ถ้าไม่ได้ติดกริลก็ควรติดนะคะ จะได้เบี่ยงลมร้อนออกไปยังนอกอาคารได้

เดี๋ยวไปดูพื้นที่ส่วนสุดท้ายของห้องกันค่ะ ห้องน้ำนั่นเอง

เข้ามาภายในห้องน้ำเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อนเลยคืออ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์ ห้องนี้จะได้กระจกเงาเต็มผนังแบบในรูปเลยค่ะ และเนื่องจากห้องน้ำอยู่ด้านใน จึงติดพัดลมดูดอากาศให้มาด้วย สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเป็นของ American Standard ใต้อ่างล้างมือจะมี Built-in ตู้เก็บของมาให้ สามารถเป็นที่เก็บของเล็กๆน้อยๆได้

โถสุขภัณฑ์ให้มาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษชำระค่ะ ติดตั้งในระยะและตำแหน่งที่ใช้งานสบายนะ เราชอบที่ตำแหน่งวางกระดาษชำระไม่ใกล้กับอ่างล้างหน้า ไม่งั้นทิชชู่แห้งอาจจะกลายเป็นทิชชู่เปียกได้ทุกเช้าเย็นหลังแปรงฟันนะ

ฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ของห้องอาบน้ำค่ะ

ตรงนี้จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้ เป็นแบบบานเปิดเข้า (ดีนะคะ เพราะน้ำที่เกาะตรงประตูจะได้ไม่ไหลหยดลงด้านนอกพื้นที่อาบน้ำ ด้านในจะมีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำให้ ใครข้าวของเยอะอาจจะติดชั้นเพิ่มเข้าไปในช่องได้นะคะ นอกจากนี้ยังมี Junction Box เดินสายไว้ให้ เผื่อใครจะติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มก็ไม่ยากค่ะ

พื้นที่ภายในมีขนาด 1.05×0.85 เมตร ถือว่ายังใช้งานหมุนตัวสะดวก

ฝักบัวหน้าตาแบบนี้ หัวเล็กไปนิด หวังว่าน้ำจะแรงสะใจนะคะ

ห้องอีกแบบของโครงการนี้จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus แต่น่าเสียดายที่วันที่เราไปยังโครงการยังตกแต่งห้องไม่เสร็จ ดังนั้นวันนี้เรามาดูผังก่อนแล้วกัน ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 35 ตร.ม. จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาให้ ดังนั้นการจัดวาง Layout ของห้องจะเปลี่ยนไปนะคะ อย่างเช่นครัวและห้องน้ำจะมาอยู่ด้านในของห้องแทน จะต้องเดินเข้าไปในครัวเพื่อเข้าไปห้องน้ำเท่านั้น แต่ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้พื้นที่ใหญ่ขึ้น มีมุมทานอาหารเพิ่มขึ้นมา ส่วนห้องนอนก็จะเป็นห้องนอนที่ประตูปิดทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ ห้องนี้เหมาะสำหรับอยู่ 1-3 คน แต่อยู่ 1-2 คนกำลังดีนะคะ มีพื้นที่เหลือสามารถปรับเป็นห้องทำงาน ห้องสำหรับทำงานอดิเรก หรือจะปรับห้องอเนกประสงค์เป็น Walk-in Closet ได้ เป็นคนที่ต้องการพื้นที่ภายในห้องเพิ่ม และใช้ชีวิตในห้องมากกว่าเเค่นอนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 October 2019

  • 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท หรือ 134,231 บาทต่อตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท หรือ 122,858 บาทต่อตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินแกรนิต
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
  • จองเริ่มต้น 10,000 บาท
  • ทำสัญญาเริ่มต้น 40,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอ่อนนุชซึ่งเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก เมื่อเทียบกับสถานีอื่นๆใกล้เคียง และมีความหลากหลายของความอุดมสมบูรณ์ด้วย เช่น Hyper Market อย่าง Tesco Lotus , ห้างสรรพสินค้าและโรงหนังอย่าง Century Movie Plaza , Tops Super Market , Community Mall อย่าง The Phyll , Convenience Store อย่าง 7-eleven ใกล้ๆโครงการ รวมไปถึงร้านอาหารระดับชุมชนในระยะเดินถึง นอกจากนี้ทำเลนี้ถือเป็นแหล่งที่มีคนอยู่อาศัยเยอะมาก มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวเป็นระยะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 81 ซึ่งเป็นสุขุมวิทฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ แต่ว่ามีจุดกลับรถไม่ไกลมาก และสามารถเลือกใช้งานทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนฉลองรัชได้สะดวก และในซอยสุขุมวิท81 นี้เองจะไปเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุชที่ไปยังถนนศรีนครินทร์ทำให้ขับรถไปทางบางนา-ตราดได้ง่ายหรือว่าจะเข้าเมืองไปฝั่งพัฒนาการ รามคำแหงหรือบางกะปิได้เช่นกัน ภายในโครงการให้ที่จอดรถมาประมาณ 40% ไม่มาก แต่เนื่องจากเป็นทำเลที่อิงการใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักมากกว่า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าสะดวกมาก โดยเฉพาะระยะทางที่เดินไปยังรถไฟฟ้า BTS ได้ 230 เมตร (ไม่ต้องต่อวินมอเตอร์ไซค์หรือเดินเปียกเหงื่อ) นอกจากนี้ในซอยสุขุมวิท 81 เป็นซอยที่มีทั้งวินมอเตอร์ไซค์และ Taxi ขับผ่านเข้า-ออกภายในซอยเป็นประจำ เรียกใช้งานได้ไม่ยาก หรือจะเดินมายังตรงใต้สถานีรถไฟฟ้า ก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนเลย

วัสดุ : ขายเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชิ้น พร้อมอยู่ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็น เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟด้วย นอกจากนี้โครงการยังมี Application “บ้านรู้ใจ” ที่เชื่อมกับ Home Automation เปิด-ปิด ไฟและแอร์ภายในห้องได้ ส่วนวัสดุอื่นๆก็จะได้พื้นไม้ลามิเนต กับพื้นกระเบื้องเซรามิคที่ห้องครัวและห้องน้ำ ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้มา ความสูงของห้องอยู่ที่ 2.5 เมตร ห้องครัวจะได้ครัวปิดประตูกระจกลูกฟูกบานเลื่อนพร้อมกรอบบานอลูมิเนียม ครัวให้มาครบชุดพร้อมเตาและเครื่องดูดควันแบบออกนอกอาคารของ Teka ท็อปหินแกรนิต ส่วนห้องน้ำจะให้สุขภัณฑ์ของ American Standard และมีฉากกั้นอาบน้ำให้มาด้วยค่ะ

การออกแบบ : ตัวโครงการมีแนวคิดในการออกแบบอิง “บ้านสุขุมวิท” หรือบรรยากาศของบ้านแถบนี้ คือจะมีความอบอุ่น (Cozy) อยู่สบายเหมือนอยู่บ้าน ตัวอาคารมีการจัดวาง Layout ที่น่าสนใจมีความแตกต่างไปแต่ละอาคาร ได้วิวและได้ข้อดีที่แตกต่างไปด้วย ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกอาคารมีการนำอิฐบล็อกมาใช้ได้น่าสนใจ สไตล์แบบ Mid-Century ที่ดูคลาสสิก สวยงามแต่ไม่หวือหวา ส่วนรูปแบบห้องจะเน้นห้องที่อยู่อาศัยได้ 1-3 คน เป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus เป็นหลัก ได้ครัวปิดเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร ภายในห้องนอนไม่เล็กมากอยู่อาศัยสบาย และได้ห้องหน้ากว้างทุกยูนิต

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางถูกกระจายตัวไปแต่ละอาคารต่างกัน ที่อาคาร A จะเด่นที่พื้นที่นั่งเล่นและทำงาน มี Lobby ที่สูงแบบ Double Space และมี Library ให้มา ส่วนอาคาร B จะมีที่จอดรถอยู่ใต้ดินใช้งานสะดวก ส่วนอาคาร C จะมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสอยู่ที่อาคารนี้ กลายเป็นวิวให้กับห้องพักที่อาคารนี้ด้วย การออกแบบตกแต่งทำออกมาได้ดูดีน่าใช้งาน และดูร่มรื่นจากสวนที่จัดรอบๆโครงการด้วย ในแง่ปริมาณถือว่าเหมาะสมกับจำนวนยูนิต

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 135,000 บาท/ตร.ม., 22 Oct 2019

  • ทำเล 7.5/10 – ความอุดมสมบูรณ์สูง
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ใกล้ถนนใหญ่ เชื่อมต่อไปยังศรีนครินทร์ได้
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินสบาย เรียกรถสาธารณะอื่นๆได้ง่าย
  • วัสดุ 7.5/10 – ให้ Fully Furnished อื่นๆตามมาตรฐาน
  • แบบ 8/10 – ดีไซน์อาคารสวย แบบห้องลงตัวได้ห้องหน้ากว้าง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาร่มรื่น น่าใช้งานทั้ง Lobby และสระว่ายน้ำ

  • HIGH CLASS
  • 7.68 / 10.00

BOTTOM LINE

Chambers อ่อนนุช สเตชั่น เป็นอีกหนึ่งคอนโดพร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินถึงที่เหมาะกับนักเรียนหรือคนทำงานที่หาที่อยู่อาศัยอยู่ 1-2 คน ชอบบรรยากาศแบบ Low Rise แต่มีความอุดมสมบูรณ์และความสะดวกสบายครบครัน ห้องอยู่สบาย มีส่วนกลางสวยงามให้ใช้ มีงบประมาณ 3.5 – 5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนที่ 24,500 – 35,000 บาทต่อเดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving