สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีรีวิวคอนโด BEAT สุขุมวิท จาก Northland มาฝากกัน ที่นี่เป็นคอนโดที่ห้องขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ราคาเริ่มต้น 1.19 ล้านบาทเท่านั้น และทำเลก็อยู่ไม่ไกลเลยค่ะ ที่ตั้งในซอยสุขุมวิท 93 ปากซอยเป็นสถานีรถไฟฟ้าบางจาก มีรถรับ-ส่งปากซอยอีกด้วยนะ ใครที่กำลังมองหาคอนโดในโซนนี้อยู่ ลองมาอ่านรีวิวที่นี่กันก่อนได้เลย

  • ทำเล – อยู่ในซอยสุขุมวิท 93 โซนอ่อนนุช-ปุณณวิถี ความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งในซอยและในย่าน
  • เดินทางง่าย ใช้งานรถไฟฟ้าสะดวก – ตัวโครงการจะอยู่ในซอยแต่ก็มีรถรับ-ส่งปากซอย 93 ซึ่งมาใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่ายมากค่ะ นอกจากนี้ซอยนี้ก็ใช้เชื่อมต่อถนนอ่อนนุชและศรีนครินทร์ได้นะ
  • ห้องหน้ากว้าง – การออกแบบห้องที่นี่จะเป็นห้องหน้ากว้างทุกแบบ (ทำให้ภายในห้องดูใหญ่นะ) และได้เป็นครัวปิดด้วยค่ะ (ยกเว้นห้องแบบ Studio)
  • ห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ – รูปแบบการขายของ BEAT สุขุมวิท เป็น Fully Furnished ราคาเริ่มต้นเพียง 1.19 ล้านบาท ถูกที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ โดยห้องขนาดใหญ่หรือว่า 2 Bedroom ก็ยังมีราคาไม่ถึง 3.5 ล้านบาทนะ

นอกจากนี้ก็ยังเป็นคอนโดที่มีส่วนกลางให้ใช้ครบครัน มี Lobby แบบ Double Volume ถึง 2 จุด มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Co-working Space ให้ใช้งาน รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันต่อเลยค่ะ

 

ข้อมูลโครงการ

BEAT สุขุมวิท ณ วันที่ 7 July 2022

 ชื่อโครงการ  BEAT SUKHUMVIT (บีท สุขุมวิท)
 ชื่อผู้ประกอบการ  Northland Development
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยสุขุมวิท 93 ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง
 ที่ดิน  2 – 3 – 58.8 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
 จำนวนยูนิต  381 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 164 ยูนิต, อาคาร B 217ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   25 ยูนิต ที่อาคาร A, 31 ยูนิต ที่อาคาร B
 ที่จอดรถ  แบบรวมจอดซ้อนคัน ได้ 173 คัน คิดเป็น 45%
แบบไม่รวมจอดซ้อนคันได้ 136 คัน คิดเป็น 35%
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ขนาด 20.11 – 22.39 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด  24.84 – 27.55 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 36.17 – 36.49 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 41.49 – 48.35 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.45 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.19 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 66,000 บาท/ตร.ม. (July 2022)
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) 59,000 – 71,000 บาท/ตร.ม. (July 2022)
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ https://beatsukhumvit.com/
 Call Center 063-209-3444

ทำเลที่ตั้ง

พิกัดโครงการ Google Maps : 13.7021702 , 100.6110395
หรือสามารถ คลิกที่นี่

พิกัดสำนักงานขาย Google Maps : 13.6995302 , 100.6056294
หรือสามารถ : คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

BEAT สุขุมวิท เป็นคอนโด Low Rise ในซอยสุขุมวิท 93 ซึ่งซอยนี้เป็นซอยที่เชื่อมต่อไปยังถนนอ่อนนุชได้ ทำให้ในแง่การเดินทางก็สามารถเดินทางไปยังถนนอ่อนนุช, ถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ได้ง่ายค่ะ ทำให้ในซอยนี้มีรถราผ่านเข้า-ออกไปมาตลอด สามารถเรียกรถสาธารณะได้ไม่ยาก ทั้งรถสองแถวที่บริการภายในซอยหรือว่าวินมอเตอร์ไซค์ แต่จุดที่สำคัญคือบริเวณปากซอยของโครงการนี้(ปากซอยสุขุมวิท 93) จะมีสถานีรถไฟฟ้าตั้งอยู่ เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีบางจาก นับว่าเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่ใช้เดินทางเข้าไปเรียน / ทำงานใจกลางเมืองได้ง่ายค่ะ โดยตัวโครงการจะห่างจากปากซอยประมาณ 1 กม. แต่จะมีรถรับ-ส่งลูกบ้านไปยังปากซอยนะ ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ

รถรับ-ส่งจากตัวโครงการไปยังปากซอยสุขุมวิท 93

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากซอยนี้มีสภาพเป็นชุมชนเดิม มีที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบ apartment, คอนโด, ตึกแถว และอาคารพาณิชย์อยู่ ทำให้ในซอยมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอยู่เพียบ ไม่ต้องกลัวเรื่องหาของกินยากเลยค่ะ // แต่ถ้าอยากไปห้างสรรพสินค้าหรือว่า hypermarket ต่างๆ ก็สามารถไปใช้งานบริเวณอ่อนนุชหรือปุณณวิถีได้นะ ตรงอ่อนนุชก็จะมีทั้ง Lotus’s, Big-C, Century Movie plaza ให้ใช้งาน ส่วนที่ปุณณวิถีก็จะมี 101 True Digital Park อยู่ค่ะ

บรรยากาศภายในซอยสุขุมวิท 93

Image 1/6
ถนนภายในซอยเป็นถนน 2 เลน รถขับสวนกันได้นะคะ ด้านในก็มีทั้งบริษัทขนาดย่อม โกดัง ตึกแถว apartment

ถนนภายในซอยเป็นถนน 2 เลน รถขับสวนกันได้นะคะ ด้านในก็มีทั้งบริษัทขนาดย่อม โกดัง ตึกแถว apartment

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ที่ตั้งของ BEAT สุขุมวิทจะลึกเข้ามาในซอยประมาณ 1 กม. ค่ะ อยู่บริเวณหัวมุมซึ่งเป็นทางแยกไปยังอ่อนนุช หรือว่าสุขุมวิท 97/1 ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะอยู่ที่มุม แต่ว่าถนนด้านข้างโครงการจะเป็นซอยตัน ทำให้ห้องทางฝั่งนี้ไม่ได้ยินเสียงรถราจากถนนมากเท่าถนนเส้นที่มีรถผ่านตลอดนะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งหมดเลยค่ะ มีทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ที่ดินเปล่า โดยบ้านหลายๆ หลังก็ดัดแปลงมาเป็นร้านค้าร้านอาหารเช่นกัน ทำให้มีความคึกคัก ไม่เปลี่ยว สามารถหาอาหารการกินได้ง่ายค่ะ

Image 1/10
บรรยากาศที่ตั้งโครงการปัจจุบัน

บรรยากาศที่ตั้งโครงการปัจจุบัน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • The Phyll ~ 2.3 km.
  • Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 2.6 km.
  • 101 True Digital Park ~ 2.6 km.
  • Big C Extra อ่อนนุช ~ 2.7 km.
  • Habito Mall (T77) ~ 2.9 km.
  • One Udomsuk ~ 3.3 km.
  • Century Movie Plaza สุขุมวิท ~ 3.3 km.
  • Gateway เอกมัย ~ 4.7 km.
  • Central บางนา ~ 7 km.
  • Seacon Square ~ 7 km.
  • Paradise Park ~ 8.3 km.
  • Mega Bangna ~ 12.6 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท 2 ~ 3.7 km.
  • รพ.สุขุมวิท ~ 5.3 km.

โรงเรียน

  • Anglo-Singapore International School ~ 2.7 km.
  • Wells International School ~ 2.8 km.
  • Berkeley International School ~ 4.7 km.
  • Bangkok Pattana School ~ 7.7 km.

รายละเอียดโครงการ

BEAT สุขุมวิท เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2-3 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 93 ที่ตั้งโครงการจะอยู่บริเวณหัวมุมถนนพอดีค่ะ โดยทางเข้า-ออกจะติดกับซอยสุขุมวิท 93 เป็นหลัก ส่วนถนนทางด้านข้าง(ฝั่งขวาของรูป) จะเป็นซอยตัน

ด้านหน้าโครงการจะเป็นโซนที่มีรถผ่านไปมามากที่สุด เนื่องจากเป็นซอยที่เป็นเส้นทางลัดเลาะไปยังถนนอ่อนนุชได้ ดังนั้นในการออกแบบฟังก์ชันทางด้านนี้ก็จะเริ่มให้มีห้องพักอาศัยส่วนหนึ่งที่ชั้น 3 และเริ่มชั้นพักอาศัยแบบเต็มชั้นที่ชั้น 4 แบบ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยที่เลือกห้องทางฝั่งนี้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห่างจากเสียงรถราบนถนน ฝุ่นควัน และสายตาจากคนที่ผ่านไปมาหน้าโครงการด้วยค่ะ

รูปแบบที่ดินโครงการจะเป็นแนวลึกเข้าไปจากถนนทางด้านหน้าค่ะ แบ่งเป็น 2 อาคารที่มีผังรูปตัว L วางสลับแนวกัน เกิดเป็นพื้นที่ Court ระหว่างอาคารเป็นพื้นที่ส่วนกลางและวิวให้กับห้องพักอาศัยที่อยู่ด้านในด้วยนะคะ

ที่ชั้น 1 ของโครงการจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถนะ โดยการเดินรถภายในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียว (One way) วนใต้อาคาร เริ่มจากอาคาร A ไปยังอาคาร B ค่ะ สัดส่วนที่จอดรถอยู่ที่ 136 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 35% ถือว่าไม่มาก แต่เป็นสัดส่วนตามที่กฎหมายกำหนดนะ ใครที่มีรถส่วนตัวอาจจะต้องคำนึงถึงที่จอดรถไว้หน่อย แต่คนที่ใช้งานระบบขนส่งสาธารณะก็สบายหมดห่วงค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 นี้จะมีพื้นที่สระว่ายน้ำที่อยู่กลางแจ้ง (outdoor) ระหว่างอาคารนะ ตรงนี้จะมีมุม Edible garden หรือมุมสวนกินได้เอาไว้ด้วย โดยตัวสระว่ายน้ำเองก็มีความยาวถึง 26 เมตร เป็นระยะที่มาใช้งานออกกำลังกายได้ค่ะ

ส่วนในอาคารนั้นหลักๆ จะอยู่ที่อาคาร A นะคะ โดยจะแยก Lobby เป็น 2 ส่วน ทั้งคู่จะมีความสูงแบบ Double Volume ทั้งคู่เลยค่ะ ฝั่งหนึ่งจะเป็น Lobby ที่ใช้รองรับ Fitness ที่อยู่ด้านบน ส่วนอีกฝั่งจะเป็นมุมต้อนรับแขก และเป็นโซนที่ไปใช้งานส่วน Co-working Space ที่ชั้น 3 ได้ง่าย

ส่วนการไปยังห้องพักอาศัยนั้นทั้ง 2 อาคารจะมีโถงลิฟต์แยกอาคารกันค่ะ อยู่อาคารไหนไปขึ้นอาคารนั้นเลย โดยอาคาร B อาจจะอยู่ลึกหน่อย เดินไปยังโถงลิฟต์ได้จากที่จอดรถนะ (แต่ก็จะได้ความ Private เพิ่มขึ้นค่ะ)

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการ ด้านหน้าโครงการจะมีป้ายโครงการอยู่ค่ะ และไม่ได้ออกแบบให้เป็นรั้วทึบทั้งหมดนะคะ มีการใช้ Landscape หรือแนวต้นไม้มาช่วยแบ่งพื้นที่ภายในโครงการและภายนอกโครงการออกจากกัน

ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าโครงการค่ะ ตรงนี้จะเป็นทางเดินรถนะ ซ้ายมือจะเป็น Lobby หลักไปยังโถงลิฟต์อาคาร A และเป็นจุดที่ใช้ขึ้นไปยังโซน Co-working space ที่ชั้น 3 ได้ ส่วนทางขวามือจะเป็นทางไปยัง Lobby จุดที่สอง ซึ่งเชื่อมกับ Fitness ที่อยู่ชั้น 2 เป็นหลักค่ะ

โดยพื้นที่กลางโครงการ (ระหว่างอาคาร A และ B) จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหรือว่าสระว่ายน้ำนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำภายในโครงการค่ะ การที่ออกแบบพื้นที่ตรงกลางนี้ให้เป็นสระว่ายน้ำก็จะช่วยสร้างวิวให้กับห้องพักอาศัยที่หันเข้ามาด้านในโครงการด้วยค่ะ

ตัวสระว่ายน้ำจะยาวถึง 26 เมตร มีมุมที่เป็น Jacuzzi ด้วยนะ โดยพื้นที่ด้านข้างสระทั้ง 2 ฝั่งจะมีการออกแบบ Landscape เป็นต้นไม้ใหญ่ ที่นอกจากจะช่วยเรื่องการสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นแล้ว ยังช่วยบังสายตาจากที่จอดรถและห้องพักที่อยู่ชั้นล่างๆ ด้วยค่ะ เวลามาใช้งานสระว่ายน้ำจะได้ไม่เขินนะ

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำกลางโครงการค่ะ จะเห็นว่านอกจากแนวต้นไม้แล้ว ก็ยังจะมีแนวผนังที่ช่วยกั้นให้ฟังก์ชันของสระว่ายน้ำได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยนะคะ

บริเวณรอบๆ สระว่ายน้ำนี้ก็จะมีมุมนั่งเล่นอยู่ด้วยค่ะ วันไหนอากาศดีก็สามารถมานั่งเล่นริมสระเพลินๆ ได้เลย

ภาพจำลอง Lobby หลักของอาคาร A ค่ะ ตรงนี้จะออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงโปร่ง มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนนะคะ โดยตรงนี้ก็จะเชื่อมกับ Mail Area และ โถงลิฟต์ของอาคาร A ที่อยู่ทางด้านหลังค่ะ

ส่วน Lobby อีกจุดจะเป็นโซนที่เชื่อมต่อกับ Fitness ที่อยู่ชั้น 2 ของอาคาร A ซึ่ง Lobby ทางฝั่งนี้ก็จะออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงเช่นกัน แต่แนวการตกแต่ง interior จะมาเป็นสไตล์คาเฟ่ค่ะ ซึ่งทางโครงการตั้งใจไว้ว่าในอนาคต ลูกบ้านสามารถตกลงร่วมกันได้ว่าจะปล่อยเช่าพื้นที่นี้ให้เป็นคาเฟ่เพื่อนำเงินค่าเช่ามาเป็นกองกลางให้นิติบุคคลบริหารดูแลโครงการต่อไปก็ได้นะ

สำหรับชั้น 2 พื้นที่ส่วนกลางจะมีอยู่จุดเดียวคือที่อาคาร A ค่ะ เป็นพื้นที่ Fitness โดยจะมีห้องน้ำห้องแต่งตัวมาให้พร้อมในโซนนี้เลย โดยการขึ้นมาใช้งานนั้นจะต้องเดินขึ้นบันไดมาจาก Lobby ที่ชั้น 1 เท่านั้นนะคะ ถือว่าเป็นการเดินขึ้นบันได Warm up ร่างกายก่อนออกกำลังกายไปในตัว

พื้นที่ Fitness นี้ก็จะมีบรรยากาศที่ค่อนข้างโปร่งเลยค่ะ มีเครื่องเล่นให้ใช้งานหลากหลาย

และยังเป็นมุมที่มองไปยังกลางโครงการที่เป็นสระว่ายน้ำได้ด้วยค่ะ บรรยากาศน่าจะเพลินดีนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness ภายในโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางต่อมาจะอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคาร A ค่ะ เป็น Co-working Space

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Co-working Space จะมีการจัดมุมสำหรับนั่งทำงานหลายรูปแบบนะคะ เน้นโทนสีขาวดูสบายตา โดยพื้นที่ตรงนี้จะแบ่งโซนเป็นโซนเงียบกับโซนที่ใช้เสียงได้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวและคุณภาพในการมาใช้งานค่ะ ใครอยากนั่งทำงานเงียบๆก็เลือกอยู่ห้องหนึ่ง ใครที่อยากใช้เสียงคุยงานกับเพื่อน หรือ VDO Call ก็ไปอยู่อีกห้องได้เลย

ตรงนี้เป็นอีกฟังก์ชันที่เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศหรือนักเรียน ให้มาเปลี่ยนบรรยากาศในการอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานกัน

มีการจัดมุม Bean Bag นั่งเล่นมือถือสบายๆ ด้วยนะ

อีกส่วนที่เก๋คือมุมนี้ค่ะ ตรงนี้มีจอติดตั้งเอาไว้ ให้สายเทรดมาเทรดหุ้น เทรดคริปโตกัน

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารแล้วที่ชั้นบนสุดของทั้ง 2 อาคารจะจัดเป็น Roof top garden ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมาใช้งาน พักผ่อนด้วยค่ะ

ซึ่งพื้นที่ Roof top Garden นี้จะมีทั้งอาคาร A และอาคาร B เลย โดยจะมีทางเชื่อมระหว่างอาคารอยู่ที่ชั้นดาดฟ้านี้ด้วยนะ

โดยการใช้งานที่ชั้นนี้ก็จะมีลิฟต์ที่ขึ้นตรงมาที่ชั้นนี้ได้ อยู่ที่อาคาร A ค่ะ

ผังชั้นพักอาศัย

ห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะอยู่ที่ชั้น 2-8 ค่ะ โดยอาคาร A จะมีจำนวนยูนิตน้อยกว่า เนื่องจากพื้นที่บางชั้นจะถูกจัดไว้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้เรามองว่าแม้จำนวนยูนิตจะน้อย แต่ก็จะมี Traffic หรือคนสัญจรเข้าออกเยอะอยู่ดีค่ะ ในขณะที่อาคาร B ที่มีจำนวนยูนิตเยอะกว่า อาจจะได้ความเป็นส่วนตัวที่สูงกว่า เนื่องมาจากคนที่เข้า-ออกอาคารตั้งแต่ชั้น 1 มาจะมีเฉพาะผู้อยู่อาศัยที่อาคาร B นี้เท่านั้น

ในการวางห้องพักอาศัย เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่รูปแบบห้องภายในโครงการจะเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ส่วนห้อง Studio และ 2 Bedroom จะมีจำนวนน้อย อยู่ที่บริเวณมุมอาคารค่ะ ตำแหน่งห้องที่น่าสนใจสำหรับเราจะเป็นห้อง 1 Bedroom plus ที่อาคาร B เนื่องจากเป็นห้องที่หันหน้าเข้ากลางโครงการ ได้วิวสระว่ายน้ำ และไม่ได้มีห้องฝั่งตรงข้ามในระยะประชิดเท่าไหร่ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้นด้วยนะ

แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัวอยู่บริเวณมุมอาคาร แนวทางเดินหน้าห้องพักอาศัยเป็นแบบ Double Corridor คือจะมีห้องพักอาศัยขนาบทั้งสองฝั่งทางเดินค่ะ ดูจาก plan แล้วอาคาร A แนวทางเดินอาจจะมืดกว่าอาคาร B นะคะ เนื่องจากสุดปลายทางเดินทั้งสองฝั่งของอาคาร A นั้นจะเป็นห้องพักอาศัย ดังนั้นอาคารนี้ก็อาจจะต้องเปิดไฟบริเวณทางเดินหน้าห้องพักทั้งวัน แต่ว่าอาคาร B นั้นที่ปลายทางเดินทั้งสองฝั่งจะเป็นหน้าต่าง ที่ช่วยเป็นช่องแสงและระบายอากาศบริเวณทางเดินได้ค่ะ

Image 1/4
ผังชั้นพักอาศัยชั้น 2

ผังชั้นพักอาศัยชั้น 2

ถ้ามองในภาพรวมแล้ว ใครที่เน้นการใช้งานส่วนกลาง เราแนะนำให้เลือกอาคาร A เป็นหลักนะ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ใช้งานส่วนกลางบ่อย ชอบความสงบ เป็นส่วนตัว เราแนะนำให้เลือกห้องพักที่อาคาร B แทนค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Active Space : Fitness
  • Creative Space : Lobby + Co-working Space
  • Comfort Space : Swimming pool ยาว 26 เมตร + Jacuzzi
  • Ozone Space : สวนลอยฟ้าชั้น 8
  • Meeting Space
  • Fun and Rich Space : Game และ Trade
  • Library Space
  • Enjoy and Learn Space : mini Play Park
  • Edible Garden : สวนกินได้
  • Mailbox
  • Laundry Room
  • Shutter Service
  • ที่จอดรถประมาณ 173 คันคิดเป็น 45% รวมจอดซ้อนคัน
  • Shuttle Service รับ-ส่ง ปากซอยสุขุมวิท 93
  • Access Card Control
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร (ลิฟต์ผู้พิการ 1 ตัว/อาคาร)
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 96 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 82 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 108 : 1
  • CCTV Security guards 24 hours

แบบห้อง

รูปแบบของห้องพักภายในโครงการ BEAT สุขุมวิท จะมีให้เลือกตั้งแต่ห้องที่เป็น Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์และ Built-in ครัว ตู้เสื้อผ้า รายละเอียดรูปแบบห้องมีดังนี้ค่ะ

  • Studio ขนาด 20.11 – 22.39 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด  24.84 – 27.55 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 36.17 – 36.49 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 41.49 – 48.35 ตร.ม.

วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished ตกแต่งสไตล์ Minimal
  • ชุดเคาน์เตอร์ครัว Built-in ปิดผิวลามิเนตลายไม้
  • เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Hafele อ่างล้างจานของ Karat
  • ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร
  • โซฟา 2 ที่นั่ง
  • ชั้นวางทีวี
  • เตียงนอน 5 ฟุต
  • ตู้เสื้อผ้า Built-in
  • แอร์ 1-3 เครื่อง (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
  • ม่านทึบ 2-3 ชุด (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
  • Digital Door Lock เข้าออกด้วย Finger Scan , Password , Single Time Password (OTP), Key Card
  • พื้นห้อง SPC
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ห้องน้ำ พื้นและผนังกรุกระเบื้อง ดีไซน์เหมือนห้องตัวอย่าง
  • ห้องน้ำได้ฉากกั้นกระจกบริเวณที่อาบน้ำ และกระจกเงาบานใหญ่ เหมือนห้องตัวอย่าง
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Esther

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ในรีวิวนี้เราจะพาไปรีวิวห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้อง คือห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งเป็นห้อง 2 แบบที่มีจำนวนมากสุดในโครงการนี้ค่ะ ภายในห้องจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย


1 Bedroom

ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom ค่ะ ราคาเริ่มต้นของห้อง Type นี้อยู่ที่ 1.63 ล้านบาท จุดเด่นของห้องคือเป็นห้องหน้ากว้าง ได้ครัวปิด พื้นที่ภายในห้องนอนมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้าเป็นสัดส่วน มีมุมข้างหน้าต่างเหมือน Bay window ที่ใช้เป็นมุมนั่งทำงานหรือวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ ห้องนอนก็เป็นห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วน สามารถอยู่อาศัยกัน 2 คนได้สบาย คนหนึ่งนอนพักผ่อน อีกคนดูทีวีไม่รบกวนกันค่ะ

เข้ามาดูภายในห้องกันค่ะ ส่วนแรกที่เจอจะเป็นครัวนะคะ โดยวัสดุพื้นครัวจะเหมือนกับตัวห้อง เป็น SPC ส่วนผนังและฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสี ไฟดาวน์ไลท์ค่ะ

Image 1/2
ประตูห้องจะติด Digital Door Lock มาให้ เข้า-ออกได้ทั้ง Finger Scan , Password , Single Time Password (OTP), Key Card // ตัวประตูตรงนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะจะมีตัว Seal ขอบประตูเพื่อกันเสียงและกันแมลงด้วย เมื่อเข้าไปในห้องก็จะเงียบสงบดีนะคะ

ประตูห้องจะติด Digital Door Lock มาให้ เข้า-ออกได้ทั้ง Finger Scan , Password , Single Time Password (OTP), Key Card // ตัวประตูตรงนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะจะมีตัว Seal ขอบประตูเพื่อกันเสียงและกันแมลงด้วย เมื่อเข้าไปในห้องก็จะเงียบสงบดีนะคะ

ครัวที่ได้จะเป็นห้องครัวปิดค่ะ เวลาทำอาหาร กลิ่น/ควันก็ไม่ไหลลอยคลุ้งไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของห้องนะ แต่จุดที่เราว่าน่าสนใจคือพื้นที่ครัวจะเป็นครัวหน้ากว้างราวๆ 2 เมตร ค่อนข้างแตกต่างจากครัวในคอนโดส่วนใหญ่ ที่เข้ามาแล้วจะเป็นแนวทางเดินที่มีเคาน์เตอร์ครัวยาวค่ะ

โดยชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ได้นี้จะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ทำให้มีระยะยืนใช้งานเพิ่มขึ้น ถ้ามีคนใช้งานอยู่ อีกคนที่อยู่ด้วยก็สามารถเดินเข้า-ออกห้องได้สบาย แตกต่างจากผังครัวที่วางยาวขนานแนวทางเดินห้องแบบที่บอกไปก่อนหน้า

Image 1/2
ชุดครัวที่ได้ก็จะมีเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน มีอ่างล้างจานให้ครบ มีชั้นวางของตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ

ชุดครัวที่ได้ก็จะมีเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน มีอ่างล้างจานให้ครบ มีชั้นวางของตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ

ระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นแยกพื้นที่ค่ะ ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งานครัวก็สามารถเปิดให้พื้นที่เชื่อมต่อกันได้ ตัวห้องก็จะดูกว้างขึ้นด้วย

ในห้องนั่งเล่นเราสามารถจัดมุมนั่งกินข้าวได้ เหมาะสำหรับ 2 คนค่ะ

Image 1/2
โดยเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ก็จะได้มาพร้อมกับตัวห้องเลยนะคะ

โดยเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้ก็จะได้มาพร้อมกับตัวห้องเลยนะคะ

พื้นที่ส่วนต่อมาเป็นโซนนั่งเล่น/ รับแขกค่ะ หน้ากว้างตรงนี้อยู่ที่ 2.5 เมตร จุดที่น่าสนใจคือชุดหน้าต่างจะได้กว้างเต็มหน้ากว้างและสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เรามองว่าหายากในคอนโดที่ราคาอยู่ในช่วงล้านกว่าบาทแบบนี้นะคะ

โดยเราจะได้โซฟา 2 ที่นั่งยาวประมาณ 1.2 เมตรแบบนี้ด้วย

และก็มีชั้นวางทีวีให้มาค่ะ ตำแหน่งการวางก็เข้ามุมเป็นสัดส่วนหน้าห้องนอนเลย

ชั้นวางทีวีจะได้ขนาดยาว 1.35 เมตร เป็นตู้บานเปิดสวิงด้านข้าง เก็บข้าวของต่างๆ ด้านในได้

เป็นพื้นที่ส่วน Common area ที่จัดออกมาได้ครบทุกฟังก์ชัน และมีขนาดการใช้งานที่พอเหมาะสำหรับอยู่ 2 คน ใช้งานได้ไม่อึดอัดค่ะ

มาดูในห้องนอนกันต่อค่ะ ภายในห้องเราค่อนข้างชอบเลย เนื่องจากการออกแบบที่ทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ(ทางขวาของภาพ) มาให้เลย เป็นแนวเดียวกับผนัง ซึ่งดูเรียบร้อยสวยงามเลยนะ

ขนาดห้องก็ถือว่าใหญ่พอสมควร หน้ากว้าง 3 เมตร ลึกประมาณ 2.345 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตให้มาด้วย

ตัวฐานเตียงเองก็มีรายละเอียดน่ารักๆ เช่น ลิ้นชักที่ฐานเตียงให้เราเก็บของเพิ่มได้ค่ะ

ภายในห้องนอนนี้จะมีระเบียงส่วนตัวด้านในและมุมพิเศษภายในห้อง(ทางขวาของภาพ ข้างหัวเตียง)

ระยะจากปลายเตียงไปถึงผนังในห้องตัวอย่างจะอยู่ที่ประมาณ 80 ซม. เป็นระยะที่เดินได้สบายนะ แต่ไม่เหมาะสำหรับการวางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มค่ะ

Image 1/2
ตัวระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ระเบียงกว้าง 1.85 x 0.65 เมตร ได้ราวกันตกกระจกด้วยค่ะ

ตัวระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ระเบียงกว้าง 1.85 x 0.65 เมตร ได้ราวกันตกกระจกด้วยค่ะ

Image 1/2
ส่วนข้างเตียงอีกฝั่งระยะไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่มีพื้นที่พิเศษอยู่ค่ะ

ส่วนข้างเตียงอีกฝั่งระยะไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่มีพื้นที่พิเศษอยู่ค่ะ

ใครที่ชอบนอนดูหนังในห้องนอน ผนังที่ปลายเตียงยังสามารถติด TV แบบแขวนผนังได้นะคะ

เรามาดูชุดตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของแบบ Built-in กันดีกว่าค่ะ ตรงนี้จะทำมาให้แบบจัดเต็มมาก เป็นแนวเดียวกับประตูห้องน้ำเลย เข้ามุมดูเรียบร้อยสวยงาม

ด้วยความที่พื้นที่ข้างเตียงอาจจะไม่ได้กว้างมาก ชุดตู้เสื้อผ้าจึงเป็นแบบบานเปิดเลื่อนแทนนะ

ด้านในมีพื้นที่เก็บของ ราวแขวน ลิ้นชักต่างๆ มาให้ครบเลย ถือว่าเป็นห้องที่ออกแบบมาให้ความสำคัญกับพื้นที่เก็บของเลยนะคะ ใครที่ชอบสะสมของหรือว่าเป็นหนอนหนังสือก็มีที่เก็บเพียบ

มาดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์ของห้องโครงการนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะจะมีการออกแบบที่เลือกลายกระเบื้องดูแปลกตาจากโครงการอื่นๆ ที่เคยเจอ ตกแต่งเหมือนห้องน้ำตามคาเฟ่มินิมอลเลยนะคะ

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนแห้งก่อนค่ะ มีอ่างล้างหน้าตรงกลาง ทางขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในห้องจะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้นะคะ

Image 1/2
ดีไซน์อ่างจะมีขอบอ่างที่วางอุปกรณ์แปรงฟัน ล้างมือได้ หรือเราอาจจะหาชั้นวางของมาไว้ในห้องน้ำได้ ยังมีที่เหลือค่ะ

ดีไซน์อ่างจะมีขอบอ่างที่วางอุปกรณ์แปรงฟัน ล้างมือได้ หรือเราอาจจะหาชั้นวางของมาไว้ในห้องน้ำได้ ยังมีที่เหลือค่ะ

Image 1/3
พื้นที่อาบน้ำหรือว่าส่วนเปียกก็จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้มาค่ะ ด้านในก็มีชั้นวางของมานะ เอาไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้

พื้นที่อาบน้ำหรือว่าส่วนเปียกก็จะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้มาค่ะ ด้านในก็มีชั้นวางของมานะ เอาไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้


1 Bedroom Plus

ห้องตัวอย่างต่อมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ค่ะ ซึ่งห้องนี้สามารถปรับใช้เป็น 2 ห้องนอนได้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือครอบครัว 2-3 คนที่อยากได้ห้องเพิ่มเผื่อไว้เป็นห้องเด็กหรือว่าห้องทำงานนะคะ โดยราคาเริ่มต้นของห้องนี้จะอยู่ที่ 2.35 ล้านบาทค่ะ

ภายในห้องจะเป็นห้องหน้ากว้าง ตรงกลางเป็น Common area หรือว่าห้องกินข้าว-ห้องนั่งเล่น และมีห้องนอนขนาบสองฝั่ง โดยจะได้ห้องครัวปิดมาให้ด้วยค่ะ โดยห้องนี้ขายในรูปแบบ Fully Furnished เช่นกัน เพียงแต่ในห้องอเนกประสงค์หรือห้องนอนรองนั้น เราจะได้เป็นห้องเปล่าแทนนะคะ

มาดูบรรยากาศภายในห้องกันค่ะ เข้ามาจะเจอกับ Common area หรือว่าห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของห้องเลยค่ะ

ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่นั่งกินข้าว และมีห้องครัวอยู่ด้านข้าง

โต๊ะกินข้าวจะได้แบบ 4 ที่นั่ง ดีไซน์แบบที่เห็นเลยค่ะ เหมาะสำหรับการนั่งกินข้าวกันเป็นครอบครัวนะ มีพื้นที่บนโต๊ะวางกับข้าวได้เยอะ จัดหม้อต้มสุกี้ ชาบู หรือว่าอาหารเกาหลีเครื่องเคึยงเพียบก็จัดวางได้เต็มที่ค่ะ

สำหรับห้องครัว Type นี้เราจะได้ครัวปิดค่ะ โดยจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน เลื่อนไปซ่อนที่แนวผนังทึบด้านข้างนะ

Image 1/2
ภายในห้องครัวมีขนาด 2 x 1.35 เมตร ได้เคาน์เตอร์ครัวเข้ามุมเป็นรูปตัว L ค่ะ ชุดครัวจะได้ชั้นวางของด้านบนและตัวเคาน์เตอร์ลายไม้สีอ่อน ผิวลามิเนต

ภายในห้องครัวมีขนาด 2 x 1.35 เมตร ได้เคาน์เตอร์ครัวเข้ามุมเป็นรูปตัว L ค่ะ ชุดครัวจะได้ชั้นวางของด้านบนและตัวเคาน์เตอร์ลายไม้สีอ่อน ผิวลามิเนต

ส่วนห้องที่อยู่ติดกันกับครัวจะเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ ห้องอเนกประสงค์โครงการอื่นที่เราเจอส่วนใหญ่จะเป็นห้องที่กั้นด้วยประตูกระจกนะ แต่ของที่นี่จะเป็นห้องปิดทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวเต็มที่ เหมาะกับฟังก์ชันที่ต้องการความสงบสูง เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงานค่ะ

ในห้องนี้เราจะได้เป็นห้องเปล่านะคะ สามารถจัดฟังก์ชันใช้งานได้ตามต้องการเลย จุดที่น่าสนใจคือชุดกระจกที่ได้ก็ดีไซน์เต็มหน้ากว้างและความสูงห้อง ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยค่ะ

Image 1/2
ขนาดห้องนี้จะลึก 2.7 เมตร มีหน้ากว้าง 2-2.35 เมตรค่ะ สามารถจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้นะ

ขนาดห้องนี้จะลึก 2.7 เมตร มีหน้ากว้าง 2-2.35 เมตรค่ะ สามารถจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้นะ

หน้าห้องอเนกประสงค์มองออกไปเป็นครัวและพื้นที่กินข้าวค่ะ

เรามาดูห้องนั่งเล่นที่อยู่ใจกลางห้อง Type นี้กันค่ะ ตรงนี้เราจะได้โซฟา ชั้นวางทีวีและม่านมาด้วยนะ

ขนาดพื้นที่ตรงนี้จะมีหน้ากว้างอยู่ 2.3 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร (ไม่รวมขนาดทางเดิน)

ตัวโซฟาจะเป็นแบบ 2 ที่นั่งขนาดเท่ากับห้องก่อนหน้าที่พาไปดูนะคะ ข้างๆโซฟาเราอาจจะหาโคมไฟ หรือโต๊ะวางของเล็กๆมาวางเพิ่มได้ค่ะ หรือจะเป็นต้นไม้ฟอกอากาศมาวางเพิ่มความสดชื่นให้กับห้องของเราก็ดีเหมือนกันนะคะ

อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางทีวียาว 1.35 เมตร

พื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดกับระเบียงของห้องค่ะ โดยจะมีประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนขนาดใหญ่อยู่ด้านข้าง

ระเบียงถือว่ามีขนาดใหญ่เลยนะคะ 2.70 x 0.70 เมตร ได้ราวกันตกเป็นกระจกด้วย ดูดีเลยทีเดียว

พื้นที่ระเบียงนี้ก็เป็นโซนสำหรับซักล้างไปในตัว วางเครื่องซักผ้าได้ มีมุมสำหรับตากผ้า และด้วยความยาวของระเบียง จะใช้แบ่งพื้นที่ไว้ปลูกต้นไม้ อย่างไม้กระถางเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างความสดชื่นให้กับห้องของเราด้วยก็ได้ค่ะ

เป็นห้องที่มีพื้นที่กว้าง แบ่งหลายส่วนดีนะคะ อยู่กัน 2 คนก็ถือว่าใหญ่เลย ที่สำคัญคือห้องนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ในช่วง  2.35 – 2.66 ล้านบาท ค่ะ (ในรูปจะมีเสาอยู่ แต่ในห้องจริงจะไม่มีเสาต้นนี้นะคะ ตัวเสานี้เป็นเสาโครงสร้างของอาคารที่ทำ Sale gellery ค่ะ)

มาดูอีกฝั่งของห้องกันต่อค่ะ ตรงนี้จะมีห้องน้ำและห้องนอนอยู่นะ

พื้นที่ห้องนอนมีขนาดใหญ่ 2.45 x 3.25 เมตรเลยค่ะ ได้กระจกบานใหญ่เช่นเคย

เตียงนอนเราจะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมานะคะ

ฐานเตียงจะมีลิ้นชักอยู่ เอาไว้เก็บข้าวของเพิ่มเติมค่ะ

โครงการนี้จะมีแถมผ้าม่านมาให้ด้วย ไม่ต้องเสียเวลาหามาติดเพิ่ม และก็ไม่เสียเงินเพิ่มด้วยนะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือค่อนข้างกว้างเลย ในห้องตัวอย่างจะมีระยะประมาณ 75 ซม.เลยค่ะ

อีกฝั่งของห้องก็จะได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของด้านข้างแบบนี้นะ

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานเลื่อน หน้าบานฝั่งหนึ่งเป็นกระจกเงา เอาไว้สองลองชุดได้แบบเต็มตัวเลย ส่วนพื้นที่ด้านข้างตู้อาจจะจัดเป็นมุมสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆได้ (อาจจะต้องเช็กระยะจริงหน้างานดูอีกทีว่าติดระยะสวิงของบานประตูเข้าห้องด้วยไหมนะคะ)

มาดูที่ห้องน้ำกันค่ะ ห้องน้ำนี้จะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ ภายในจะมีพื้นที่ใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom ที่เราไปดูกันก่อนหน้าอีกนะคะ กระจกเงาก็จะได้บานใหญ่อย่างที่เห็นเลยค่ะ

Image 1/3
สุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำให้มาครบครัน เป็นของ Esther

สุขภัณฑ์ต่างๆในห้องน้ำให้มาครบครัน เป็นของ Esther

Image 1/2
พื้นที่ส่วนเปียกหรือว่าห้องอาบน้ำก็จะมีฉากกั้นอาบน้ำให้มาด้วย มีชั้นวางของด้านข้างเอาไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ (ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มด้วย)

พื้นที่ส่วนเปียกหรือว่าห้องอาบน้ำก็จะมีฉากกั้นอาบน้ำให้มาด้วย มีชั้นวางของด้านข้างเอาไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ (ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มด้วย)

แบบแปลน

ห้องตัวอย่าง 2 แบบที่พาไปดูกันก่อนหน้าจะเป็น 2 แบบที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ แต่สำหรับห้อง Studio ที่เป็นห้องขนาดเริ่มต้นและมีราคาเริ่มต้นเพียง 1.19 ล้านบาทจะเป็นอย่างไร และห้องขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวจะเป็นแบบไหนนั้น เราขออธิบายจากผังห้องแทนนะคะ

Studio

Studio เป็นคำจำกัดความของห้องชุดพักอาศัยที่ภายในห้องจะเป็นพื้นที่โล่งต่อเนื่องกันทั้งหมด หรือไม่มีการกั้นห้องแบ่งแยกฟังก์ชันต่างๆ ออกจากกันนั่นเองค่ะ โดยห้องแบบนี้จะมีลักษณะเปิดโล่ง เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่โล่งกว้าง อาจจะไม่ได้มีแขกหรือเพื่อนมาเยี่ยมบ่อย (บางคนอาจจะเขินถ้ามีใครเห็นเตียงนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว)

ห้อง Studio ในโครงการ BEAT สุขุมวิท นี้มีข้อดีที่เป็นห้องหน้ากว้าง โซนห้องนั่งเล่นและห้องนอนอยู่ติดกับผนังภายนอก ใกล้กับหน้าต่าง แสงสว่างส่องทั่วถึงทั้งห้อง ไม่อับค่ะ โดยฟังก์ชันที่อยู่ชิดกับแนวทางเดินจะเป็นครัวและห้องน้ำ ซึ่งการที่ครัวเปิดแบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารที่มีกลิ่น ควันเยอะๆ กินเองบ่อยๆ เพราะกลิ่นควันมีสิทธิ์ลอยคลุ้งไปติดยังโซฟาหรือที่นอนได้ค่ะ แต่ถ้าใครมักจะซื้ออาหารกินเองเราว่าเหมาะนะ

โดยห้องนี้ก็ยังขายพร้อม Furniture และ Built-in มาให้ครบเหมือนเดิมค่ะ มีทั้ง Built-in ชุดครัว และ ตู้เสื้อผ้าเลยนะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.19 ล้านบาท ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

2 Bedroom

สำหรับห้องใหญ่ที่สุดของโครงการนี้จะเป็นห้อง 2 Bedroom ค่ะ เป็นห้องที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังสร้างครอบครัวนะ อยู่กันสบายๆ 2-3 คน โดยจะมีห้องนอนรองไว้เผื่อให้ลูกอยู่ หรือว่าถ้าใครอยู่กัน 2 คน ห้องนี้ก็อาจจะปรับเป็นห้องทำงาน หรือ ห้องสำหรับงานอดิเรก เล่นเกม หรือว่า ออกกำลังกายได้ค่ะ

โดยห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้าง มุมอาคาร ได้ครัวปิด ติดระเบียง (สามารถระบายอากาศเวลาทำอาหารผ่านทางระเบียงได้เลย) และก็ได้ระเบียง 2 จุด โดยบริเวณครัวก็ใช้เป็นระเบียงซักล้าง ตากผ้าได้ ส่วนระเบียงในห้องนอนก็ใช้เป็นระเบียงพักผ่อนปลูกต้นไม้ได้ค่ะ และถ้าสังเกตดูจะเป็นว่าทางเข้าห้องนอนจะอยู่ตรงแนวทางเดินที่แยกออกมาจากพื้นที่ common area ที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าว ทำให้ส่วนพักผ่อนนี้ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย ซึ่งห้อง Type นี้มีราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท และห้องขนาดใหญ่สุดก็ยังมีราคาไม่เกิน 3.5 ล้านบาทค่ะ

ราคา

Beat สุขุมวิท ราคา ณ วันที่ 11 July 2022

  • Studio ขนาด 20.11 –  22.39 ตร.ม. ราคา 1.19 – 1.62 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 59,xxx บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 24.84. – 27.55 ตร.ม. ราคา 1.63 – 1.98 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 65,xxx บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 36.17 – 36.49 ตร.ม. ราคา 2.35 – 2.66 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 64,xxx บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 41.49 – 48.35 ตร.ม. ราคา 2.70 – 3.43 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยเริ่มต้น 65,xxx บาท/ตร.ม.
  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 10,000 – 40,000 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 18 งวด ผ่อนดาวน์ต่อเดือน 5,900 – 9,900 บาทต่อเดือน
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
ที่ตั้งของ BEAT สุขุมวิท อยู่ในซอยสุขุมวิท 93 ใกล้กับ BTS บางจาก ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่าง BTS อ่อนนุชและ BTS ปุณณวิถีซึ่งเป็น 2 node สำคัญที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงของโซนนี้ค่ะ โดยทำเลนี้ถือว่าเป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนอ่อนนุช มีสภาพเป็นชุมชน มีคนอยู่อาศัยเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์ให้เห็นตลอดทั้งซอยเลย

การเดินทางโดยใช้รถ :
ด้วยที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยที่ลัดเลาะได้สะดวก ดังนั้นในแง่เส้นทางก็จะมีตัวเลือกให้ใช้งานหลากหลาย ขับไปอ่อนนุชเพื่อไปศรีนครินทร์ก็ได้ หรือจะไปยังสุขุมวิทก็สะดวก แต่ว่าสัดส่วนที่จอดรถของโครงการนี้จะอยู่ที่ 35% ของจำนวนยูนิตพักอาศัย(แบบไม่ซ้อนคัน) ทำให้ถ้าใครมีรถส่วนตัว อาจจะต้องคำนึงถึงที่จอดรถเอาไว้ด้วยนะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ส่วนใครที่ใช้งานรถสาธารณะเป็นหลัก ภายในซอยนี้จะมีรถสาธารณะที่เป็นรถสองแถววิ่งภายในซอย และมีวินมอเตอร์ไซค์ประจำจุดต่างๆและผ่านเข้า-ออกเป็นประจำค่ะ แต่ที่สำคัญคือตัวโครงการเองก็จะมีรถรับ-ส่งปากซอย 93 มาให้เช่นกัน เป็นรถ 2 แถวเล็ก ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ต้องใช้รถไฟฟ้าไปเรียนหรือว่าไปทำงานด้วยนะ

วัสดุ :
ภายในห้องพักอาศัยมีรูปแบบการขายเป็น Fully Furnished ขายพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญภายในห้องมาให้ครบ ดีไซน์สไตล์มินิมอลค่ะ โดยวัสดุภายในห้องก็จะได้พื้น SPC ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ไฟดาวน์ไลท์ ครัว Built-in มาให้ครบชุดตู้เก็บของปิดผิวลามิเนต เตาไฟฟ้าของ Hafele อ่างล้างจานของ Karat (*ไม่มี backsplash ที่ผนังมาให้นะ) ส่วนห้องน้ำจะได้กระเบื้องดีไซน์เก๋เหมือนคาเฟ่ สุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ Esther

เฟอร์นิเจอร์อื่นๆที่ได้ก็จะมีชุดโต๊ะกินข้าว 2-4 ที่นั่ง(ขี้นอยู่กับ Type ห้อง) ได้โซฟาพักผ่อนและชั้นวางทีวี ในห้องนอนก็จะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตและ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ รวมไปถึงแอร์และผ้าม่านภายในห้องก็ได้เช่นกันค่ะ

การออกแบบ :
ตัวโครงการจะเป็น Low Rise 2 อาคาร ผังเป็นรูปตัว Lวาง interlock กันเกิดเป็นพื้นที่ว่างตรงกลาง (court) ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำ และเป็นวิวให้กับห้องที่หันหน้าเข้าภายในโครงการ พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่อาคาร A เป็นหลัก ดังนั้นถ้าใครชอบใช้งานส่วนกลางเลือกห้องที่อาคาร A ก็จะเหมาะ แต่ถ้าใครชอบความสงบแนะนำให้เลือกห้องที่อาคาร B แทนค่ะ

รูปแบบห้องพักทุกแบบจะมีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้าง ฟังก์ชันอย่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะอยู่ใกล้กับหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศในห้องก็จะมีความโปร่ง สว่างมากขึ้นตัวกระจกภายในห้องที่เลือกมาก็เป็นกระจกขนาดใหญ่ กว้างเต็มหน้ากว้างของพื้นที่และสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดานด้วยค่ะ นอกจากนี้ในห้องแทบทุกแบบ(ยกเว้น Studio) ก็จะได้ครัวปิด และห้องนอนปิด แยกเป็นสัดส่วน ช่วยให้เวลาใช้งานจริงจะได้ความสงบและเป็นส่วนตัวเวลาพักผ่อนด้วยนะคะ

สาธารณูปโภค :
ส่วนของ Facility ที่ได้มาในโครงการ เรามองว่าค่อนข้างดีนะคะ มีสระว่ายน้ำระหว่างอาคารยาว 26 เมตร เอาไว้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ก็จะมี Lobby มาให้ถึง 2 จุด ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ทั้งคู่ด้วย มีฟิตเนสพร้อมห้องน้ำ มี Co-working space ที่มีมุมหลากหลายให้นั่งทำงาน แบ่งเป็นโซนที่ใช้เสียงได้และโซนที่ใช้เสียงน้อย สำหรับคนที่ต้องการสมาธิอีก โดยค่าส่วนกลางจะจัดเก็บที่ 48 บาท/ตร.ม./เดือน คิดออกมาคร่าวๆ แต่ละห้องก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,000 – 2,300 บาท/เดือนค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 66,000 บาท/ตร.ม., 11 July 2022

  • ทำเล 8.25/10 – ในซอยสุขุมวิท 93 ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้รถไฟฟ้า
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เป็นซอยที่เชื่อมต่อถนนอ่อนนุชและถนนสุขุมวิท เพียงแต่สัดส่วนที่จอดรถไม่เยอะมาก
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – เรียกใช้งานรถสาธารณะง่าย มีรถรับ-ส่งปากซอยสุขุมวิท 93 ไปรถไฟฟ้าได้สะดวก
  • วัสดุ 8.25/10 – ขายเป็น Fully Furnished วัสดุที่ได้คุ้มราคา
  • แบบ 8/10 – ห้องหน้ากว้าง แยกพื้นที่เป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีให้ครบครัน น่าใช้งาน

  • ECONOMY CLASS
  • 8.0875 / 10.00

Beat สุขุมวิท เหมาะกับใคร?

Beat สุขุมวิท เหมาะกับ คนที่มองหาคอนโดย่านอ่อนนุช-ปุณณวิถีราคาย่อมเยาเพื่ออยู่ หรือ ลงทุนก็ได้ โดยที่นี่ถือว่าเป็นโครงการที่ราคาจับต้องได้ง่ายที่สุดในโซนนี้ และมีรูปแบบการขายที่เป็น Fully Furnished ทำให้คนซื้อสามารถควบคุมงบประมาณได้ สำหรับคนที่อยู่ 1-2 คนงบ 2 ล้านก็เอาอยู่ แต่ถ้าใครอยากสร้างครอบครัวอยู่ 2-3 คน งบ 2.5 – 3.5 ล้านบาทก็ได้ห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่แล้วค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc