รีวิวฉบับที่ 1919 …  วันนี้เราพามาชมโครงการใหม่ย่านลาซาล-แบริ่ง เดินทางสะดวกกับโครงการ Attitude ลาซาล อยู่ในซอยลาซาล 12 ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีแบริ่งประมาณ 750 เมตร มาพร้อมกับแนวคิด Digital Living ให้สิ่งอำนวยความสะดวกมาหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Smart Mirror, Home Automation เฟอร์นิเจอร์ครบ และ Smart Locker, Smart Office ที่พื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น ในราคาที่หยิบจับได้จริง เริ่มต้น 1.84 ล้านบาทค่ะ

Fact @ 25 JULY 2019

  • ATTITUDE LASALLE (แอดติจูด ลาซาล)
  • THE URBAN PROPERTY CO.,LTD
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ซอย ลาซาล 12 ถนนสุขุมวิท 105 เขตบางนา
  • ที่ดินประมาณ 0-3-35.2 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 147 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 19 คัน (Conventional) 34 คัน (Auto-Parking) รวม  53 คัน คิดเป็น  38% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q2 ปี 2563
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2564
  • Studio 23.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท
  • 1 Bedroom  24.71 – 34.19 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 34.52 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 53.5 – 57.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.84 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  :  091-491-4414

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.659767, 100.607615
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลที่ตั้งโครงการ Attitude ลาซาลตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 105 หรือที่เรียกกันว่าซอยลาซาล นั่นเองค่ะ เป็นทำเลสุขุมวิทช่วงปลายๆที่มีทั้งชุมชนดั้งเดิม โครงการแนวราบ และคอนโดมิเนียมที่พัฒนาตามแนวรถไฟฟ้า ที่มีราคาหยิบจับง่าย โครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งประมาณ 750 เมตร เป็นทำเลที่เดินได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบเดิน ด้านหน้าซอยลาซาล 12 เอง ก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่นะคะ ส่วนในซอยลาซาลก็มีรถสองแถววิ่งรับส่งตลอดทั้งซอย ถ้าออกมาถนนใหญ่ก็เรียกแท็กซี่ รถเมล์ หรือ ไปขึ้นรถตู้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางได้ การเดินทางโดยไม่ใช้รถจึงถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ สำหรับใครมองหาคอนโดที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเลย

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ด้านการหาของกิน จะหนาแน่นช่วงต้นซอยติดกับถนนสุขุมวิท นะคะ ซึ่งจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร หรือตลาดสด ภายในซอยมีร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดทั้งเส้นรวมๆแล้วก็ค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตลาดลาซาล 10 , Tesco Lotus Express , 7-eleven , Family Mart หรือ CP Fresh Mart ทำให้ง่ายต่อการซื้อหาของกินและของใช้ได้ตลอดทั้งวัน ในละแวกใกล้เคียงก็มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่างๆครบครัน ทั้ง ห้างสรรพสินค้าหรือ Community Mall เช่น 101 The Third Place, อิมพีเรียลสำโรง , เซ็นทรัลบางนา, Seacon Square , Paradise Park  และ Mega Bangna รวมถึง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ อย่างBangkok Mall ที่กำลังจะสร้างในอนาคตด้วย นอกจากนั้นยังมีสนามกอล์ฟ โรงพยาบาล Centerpoint Studio รวมไปถึงโรงเรียนนานาชาติ โรงแรม โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ซึ่งถือว่าค่อนข้างครบครันเลยทีเดียว

ในเรื่องการเดินทางโดยใช้รถ สามารถใช้เส้นทางเข้าเมืองได้จากทางถนนสุขุมวิทจะขึ้นไปทางสุขุมวิทตอนต้นเพื่อไปยัง เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศกได้ แต่จะมีการจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังมีทางเลือกให้สามารถใช้ทางด่วนได้ หลายเส้นทาง ทั้งทางด่วนบางนา ทางด่วนสุขุมวิท62 และทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก สำหรับอีกฝั่งหนึ่งของซอยหรือฝั่งท้ายซอยจะไปเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ เส้นนี้ใช้วิ่งไปขึ้นเหนือไปบางนา หรือ ลงใต้ไปสมุทรปราการได้ ก็ถือว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกเช่นกันค่ะ

ถนนลาซาล มีซอยย่อยหลายซอยที่สามารถทะลุไปออกยังถนนแบริ่งได้นะคะ หนึ่งในนั้นก็คือซอยลาซาล 12 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ เชื่อมต่อไปออกยังซอยแบริ่ง 1 หรือแบริ่ง 3 ได้

วันนี้เราจะพาทุกคนเดินทางไปยังโครงการโดยเริ่มกันที่สถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งนะคะ แล้วจะเดินเข้าซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาลเข้าไปประมาณ 700 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย 12 เดินเข้าซอยประมาณ 50 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือค่ะ

เริ่มจากนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีแบริ่งก่อน สถานีแบริ่งเป็นส่วนต่อขยายนะคะถ้าใครเดินทางแบบเป็นเที่ยวจะต้องเสียเพิ่ม 10 หรือ 15 บาท(แล้วแต่ประเภทบัตร)เพิ่มเติมขึ้นมา

เมื่อแตะบัตรออกแล้ว ให้เราออกไปยังฝั่งทางออกที่ 1 เพื่อเดินลงไปยังซอยแบริ่ง ทางด้านล่างจะมองเห็นสนามฟุตบอลของโรงเรียนนานาชาติ St.Andrews เป็นจุดสังเกตค่ะ

เดินลงมาด้านล่างไปทางซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล)

โดยความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ค่อนข้างดีมาก หาของกินง่าย อีกฝั่งของ BTS ก็สามารถเดินไปยัง APT แบริ่งมอลล์ เพื่อซื้อของกินหรือชอปปิ้งได้

บริเวณหน้าซอยลาซาลจะมีสัญญาณไฟจราจร ฝั่งตรงข้ามเป็น 7-Eleven

ด้านหน้าซอยมี 7-eleven สะดวกต่อการซื้อของก่อนนั่งวินเข้าไปในโครงการ หรือถ้าใครไม่อยากถือของไปก็สามารถซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อข้างๆโครงการได้เลย มีทั้ง 7-eleven, Family Mart, Lotus Express และ CP Fresh Mart เลยค่ะ

เมื่อเข้าซอยจะเห็นว่ามีโรงเรียนนานาชาติ St.Andrews ทางขวามือ และ 7-eleven ด้านซ้ายมือค่ะ เดินตรงไปอีกหน่อยจะมีวินมอไซค์อยู่ด้านหน้าเลยค่ะซึ่งค่าโดยสารไปโครงการประมาณ 10 บาท

เดินเลยวินมอไซค์มาแล้วจะเจอจุดสังเกตด้านซ้ายมือเป็น สตูดิโอ Centerpoint Entertainment และด้านซ้ายเป็นลานจอดรถ บริการสำหรับคนที่ต้องการจอดรถด้านหน้าซอยแล้วโดยสาร BTS หรือเดินทางต่อโดยไม่ใช้รถด้วยค่ะ

หลังจากเดินมาเรื่อยๆแล้วจะเจอกับ ซอยลาซาล 7 บริเวณนี้มีวินมอเตอร์ไซค์สำหรับคนที่ต้องการนั่งวินออกไปหน้าปากซอยได้อีกจุดนึง

เดินมาอีกนิดจะเจอกับตลาดาซาล 10 ฝั่งขวามือ ร้านค้าในตลาดส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นของกิน ทำให้คนที่อยู่แถวนี้ไม่ต้องกลัวหิวเลยค่ะ

ถัดจากตลาดมาแล้ว ก็จะมีร้าน Hypermarket และร้านสะดวกซื้อไม่ว่าจะเป็น 7-eleven, Family Mart, Lotus Express และ CP Fresh Mart สะดวกต่อการจับจ่ายใช้สอยมากๆ

เดินมาถึงซอย 11 ก็จะเจอกับ 7-Eleven (อีกแล้ววว :D)

เราเดินต่อไปอีกนิดหนึ่งก็จะเห็นซอย 12 ทางด้านขวามือค่ะ

ด้านหน้าซอย 12 ก็จะมีวินอยู่ข้างหน้าเลยค่ะ เดินออกจากโครงการมาก็มาใช้บริการพี่วินที่จุดนี้ได้

ราคานั่งไปปากซอยลาซาล 10 บาทเท่านั้นเองค่ะ

เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับอพาร์ทเม้นท์ทางด้านซ้ายมือ ติดกับอพาร์ทเม้นท์คือที่ดินของโครงการนั่นเองค่ะ (ล้อมรั้วสีเขียว)

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Attitude ลาซาล ส่วนใหญ่เป็นอาคาร Low Rise เนื่องจากอยู่ในซอยย่อย ที่ดินติดกับโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น จะมีทางทิศเหนือที่ติดกับอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น แต่จะไม่บังวิวห้องพักอาศัยของโครงการโดยตรงเนื่องจากห้องส่วนใหญ่ของโครงการจะอยู่บริเวณลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์ จะโดนบังวิวแค่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ลานจอดรถและอพาร์ทเม้นท์ ความสูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอย ลาซาล 12 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น

ที่ดินติดกับโครงการทางทิศใต้ เป็นพื้นที่บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น

บรรยากาศภายในที่ดินโครงการเมื่อมองไปทางทิศใต้ เห็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

บรรยากาศภายในที่ดินโครงการเมื่อมองไปทางทิศเหนือ เห็นอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้นที่อยู่ติดกับโครงการทางทิศเหนือ ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนลาซาล Sence Andrew International School ~ 900 เมตร
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 4.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 1.0 กิโลเมตร
  • สนามกอล์ฟราชนาวี บางนา ~ 1.1  กิโลเมตร
  • Summer Lasalle ~ 1.2 กิโลเมตร
  • Dadfa Lasalle ~ 1.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนบางกอกพัฒนา ~ 2.1 กิโลเมตร
  • BITEC บางนา ~ 2.6 กิโลเมตร
  • Lasalle Avenue ~ 3.0 กิโลเมตร
  • Whizdom 101 ~ 3.9 กิโลเมตร
  • Central Plaza Bangna ~ 5.4 กิโลเมตร
  • Mega บางนา ~ 11.40 กิโลเมตร
  • Bangkok Mall ~ 12.8 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Attitude ลาซาล  ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนที่ดิน 0-3-35.2 ไร่ออกแบบให้มีกลิ่นอายความคลาสสิค ภายในอาคารใช้ Arch โค้งผสมกับกับการนำเอาวัสดุโมเดิร์นเข้ามาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เช่น ภายใน Lobby Lounge เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการนำเอา Technology เข้ามาใช้ตามแนวคิดการใช้ชีวิตในคอนโดแบบ Digital Living โดยจะติดตั้งอุปกรณ์ให้ ดังนี้

  • EV Charger รองรับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า
  • Smart Locker สามารถรับ-ส่งของได้โดยไม่ต้องรอนิติฯ ค่ะ
  • Smart Office มีเครื่องถ่ายเอกสารให้บริการภายในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
  • Public Area Wi-Fi ให้ในพื้นที่ส่วนกลาง
  • Shuttle Electric Cart รถรับ-ส่ง ไปยัง BTS แบริ่ง
  • Outdoor Cinema มีพื้นที่ดูหนังที่ดาดฟ้าโครงการ
  • Outdoor Outlet มีปลั๊กตามจุดต่างๆของพื้นที่ส่วนกลาง
  • Key Card & Access Control

ด้านหน้าโครงการหันมาทางทิศตะวันตก มีทางเข้า-ออกอยู่ที่ซอยลาซาล 12 ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถ และ Lobby Lounge ค่ะ ส่วนชั้น 2 -8 จะเป็นพื้นที่พักอาศัย รวม 147 ยูนิต และมี Facility ให้ใช้ที่ดาดฟ้าด้วยค่ะ

รูปด้านโครงการทางทิศใต้  มีป้ายชื่อโครงการบอกสำหรับคนที่มาจากถนนแบริ่งค่ะ

รูปด้านโครงการทางทิศตะวันออก เน้นพื้นที่ช่องแสงเยอะ ทำให้มองเห็นวิวเมืองแนวราบ และรับแสงธรรมชาติที่ไม่ร้อนในช่วงเช้าได้ค่ะ

รูปด้านโครงการทางทิศเหนือ จะไม่เน้นช่องเปิดมากนักเนื่องจากอยู่ติดกับพื้นที่อพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น ทางทิศนี้จึงไม่เน้นมองวิวมากนักค่ะ

มาดูผังโครงการที่ชั้น 1 กันก่อนนะคะ ด้านหน้าโครงการมีทางเข้า-ออก 2 จุด คือทางรถยนต์ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะมีที่จอดรถแบบ Conventional ประมาณ 19 คัน และที่จอดรถแบบ Auto-Parking ด้านใน 34 คัน รวมที่จอดทั้งหมด 53 คันหรือ 38 % นั่นเองค่ะ ส่วนทางเข้า-ออกของคนเดินจะสามารถเข้ามายัง Lobby ได้เลย ซึ่งภายในจะแบ่งย่อยเป็นพื้นที่ Co-Working Space, Library, Smart Office และ Muti Area ซึ่งตรงนี้สามารถเดินขึ้นไปยัง Fitness ชั้น 2 ได้ค่ะ

บรรยากาศทางเข้าด้านหน้าโครงการที่ติดกับซอยลาซาล 12 ฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับคนเดิน ส่วนฝั่งขวาเป็นทางเข้า-ออกรถยนต์ สวนกันได้ค่ะ

บรรยากาศภายใน Lobby เป็นโถงสูง Double Space ชั้นล่างเป็นพื้นที่ Co-Working Space และด้านบนเป็น Fitness ค่ะ เน้นการตกแต่งโดยใช้ Arch โค้ง ใช้วัสดุสมัยใหม่ เช่น โครงเหล็ก และสีสีนให้ดูโมเดิร์นเหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบความแอคทีฟค่ะ

อีกมุมหนึ่งของ Lobby Lounge ที่เดินขึ้นไปยัง Fitness ชั้น 2 ได้ค่ะ

บริเวณ Fitness ชั้น 2 เน้นใช้กระจกเต็มผนังทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง มีเครื่องเล่นประมาณ 5 เครื่องค่ะ

บรรยากาศบริเวณโถงตรงกลางระหว่างอาคารสามารถมองทะลุลงไปเห็นที่จอดรถชั้น 1 ได้ค่ะ

ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก มี 20 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว U มีโถงทางเดินตรงกลางและมีห้องพักอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง จึงเป็น Double Corridor ทั้งหมดค่ะ ยกเว้น 2 ห้องทางทิศเหนือตรงข้ามกับ Fitness และห้องตรงข้ามกับโถงกลางอาคาร จะได้ Single Corridor นะคะ โถงทางเดินจะได้ช่องแสง 3 จุดที่บริเวณปลายทางเดิน และตรงกลางอาคารทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา ช่วยให้ทางเดินสว่างและโปร่งขึ้นค่ะ และเนื่องจาก Fitness สามารถขึ้นได้จาก Lobby ทางเดียว ทำให้ลูกบ้านที่อยู่อาศัยภายในชั้นนี้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวไป โถงลิฟต์จะอยู่ค่อนไปทางฝั่งซ้ายของอาคารทำให้คนที่อยู่ปีกขวาเดินไกลกว่าสักหน่อย

ชั้น 3 – 7 เป็นชั้น Typical Floor มีจำนวนห้องทั้งหมด 22 ยูนิตต่อชั้นนะคะ จากที่ลองสังเกตดูในผังนะคะเราจะเห็นว่าห้องส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นห้องตอนลึก โดยห้องที่มีจำนวนมากที่สุดคือห้อง 1 Bedroom และห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างกันค่ะ ส่วนห้อง 2 Bedroom มีอยู่ 1 ห้องต่อชั้นนะคะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทุกแบบจะได้พื้นที่ครัวเป็นครัวปิด ยกเว้นห้องตรงกลางอาคาร(สีเขียวอ่อน) เป็นห้องที่มีครัวเปิดเน้นพื้นที่โล่งกว้าง และเป็นห้องที่ไม่ติดกับห้องอื่นๆ มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ

ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยที่สูงที่สุด และพื้นที่บางส่วนเป็นส่วน Service ของ Facility ชั้นบน จึงทำให้มีทั้งหมด 17 ยูนิต ซึ่งเป็นชั้นที่มียูนิตน้อยที่สุดค่ะ มีห้อง 2 Bedroom อยู่ 2 ตำแหน่งคือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งห้องทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะไม่ติดกับห้องอื่นเลย และเดินไม่ไกลจากโถงลิฟต์ ถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นส่วนตัวและสะดวกในการเข้าถึงค่ะ

ชั้น Rooftop เป็นพื้นที่ Facility ของโครงการ มีสระว่ายน้ำที่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Shallow Pool ขนาดประมาณ 10.20 x 3.2 เมตร ความลึกประมาณ 10 เซนติเมตร สำหรับลงเดินเล่นนั่งเล่นชิลๆไม่ให้เปียกค่ะ และส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 15.40 x 4.5 เมตร ลึก 1.20 เมตร สำหรับว่ายปกติ ทางทิศใต้เป็นส่วน Cinematic Area เป็นพื้นที่ฉายภาพยนต์แบบโปรเจคเตอร์ และถัดมาเป็นพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งค่ะ ในพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ก็จะมีปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์ติดตั้งมาให้อยู่ทั่วพื้นที่ สำหรับรองรับการใช้ชีวิตแบบ Digital ค่ะ

บรรยากาศ Facility บริเวณ Rooftop มองเห็นสระว่ายน้ำและ Shallow Pool

บรรยากาศจำลองบริเวณ Shallow Pool  จะมีที่นั่งชมวิวมาให้ และสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้รอบด้านค่ะ

บรรยากาศ Facility บริเวณ Rooftop ฝั่ง Cinematic Area และพื้นที่ออกกำลังกาย Outdoor โดยจะมีเครื่องออกกำลังกาย เช่น กระสอบทราย ติดมาให้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Library
  • Muti-purpose Room
  • สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด  15.40 x 4.5 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • Shallow Pool  ขนาดประมาณ 10.20 x 3.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • Cinematic Area ชั้นดาดฟ้า
  • Exercise Area ชั้นดาดฟ้า
  • Wi-fi ส่วนกลาง
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 73.5 :  1
  • Service Lift  – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 19 คัน (Conventional) 34 คัน (Auto-Parking) รวม  53 คัน คิดเป็น  38% (รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
  • Shuttle bus


Product Walkthrough

โครงการ Attitude ลาซาล นี้มีห้องทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

  • Studio ขนาด 23.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 24.71 – 34.19 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34.52 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาดตั้งแต่ 53.5 – 57.3 ตร.ม.

โครงการนี้ขายรูปแบบ Fully Furnishedได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ทั้ง Built-in และลอยตัว เช่น ชุดครัว, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, ชั้นวาง TV , เตียง แค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้เลย และนอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ Smart Home Package ตามแนวคิดของโครงการที่เป็น Digital Living ด้วยโดยภายในห้องจะติดตั้งอุปกรณ์ ดังนี้ค่ะ

  • Smart Mirror กระจก Touch Screen ติดตั้งมาให้ภายในห้องน้ำ
  • Digital Door Lock
  • Home Automation System ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ผ่านโทรศัพท์มือถือ
  • Smart IR Remote
  • Motion Sensor
  • Smart Outlet ปลั๊กเสียบ USB
  • Smart Juristic Application
  • Smart Switch สวิทซ์สัมผัส

วันนี้เราพาทุกคนไปชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ กันนะคะภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

ห้องแรกเริ่มกันที่ 1 Bedroom ค่ะ ห้องนี้มีขนาด 28.65 ตารางเมตร จะได้เฟอร์นิเจอร์รูปแบบตามรูปที่แนบมาด้านข้างนะคะ บางส่วนจะไม่เหมือนกับในห้องตัวอย่างค่ะ การวางผังของห้องนี้ค่อนข้างแบ่งเป็นสัดส่วน เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน โดยส่วนนั่งเล่นจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบทั้งโซฟา, ชั้นวาง TV และชุดโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังผนังที่ติดตั้ง TV โดยมีประตูทางเข้าซ่อนอยู่ด้านข้างมองไม่เห็นจากห้องนั่งเล่นค่ะ ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน มีฉากกั้นกระจกสำหรับพื้นที่อาบน้ำมาให้ค่ะ ด้านหน้าห้องน้ำมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ด้วย เป็นข้อดีสำหรับโครงการที่ให้เฟอร์มาแบบ Fully Furnished นะคะ เพราะจะได้ขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่พอดีกับขนาดของห้องเลย ถ้าต้องไปหาซื้อเองตามขนาดที่จำกัดมักไม่ค่อยมี และอีกอย่างคือช่วยประหยัดงบในการตกแต่งให้ไม่บานปลายด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนจะแยกออกมาเป็นสัดส่วน เห็นวิวได้กว้างจากกระจกบานใหญ่ มีตู้เสื้อผ้ามา Built-in และกระจกสำหรับแต่งตัวติดตั้งมาให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ ส่วนครัวภายในโครงการนี้จะได้เป็นพื้นที่ครัวปิดทั้งหมด (ยกเว้น 7 ยูนิตตรงกลางอาคารที่เป็น Layout พิเศษ) ข้อดีของครัวในห้องนี้ก็คืออยู่ติดระเบียงสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศเวลาทำอาหารที่มีกลิ่นได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้จริง และมีระบบรองรับเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวถึง 2 คนไม่เน้นพื้นที่การใช้งานมากแต่ชอบพื้นที่แบ่งเป็นสัดส่วน และชอบทำอาหารรับประทานเอง เป็นต้น

ประตูด้านหน้าห้องจะได้แบบห้องตัวอย่างเลยนะคะ (ยกเว้นขอบสีทอง) โดยจะเป็นประตูบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ และติดตั้ง Digital Door Lock มาให้

Digital Door Lock ที่ได้ยี่ห้อ Home Huk จาก Light – Trio ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับ Smart Mirror ที่โครงการเลือกใช้ค่ะ โดยจะสามารถรองรับได้ 4 ระบบ คือ

  • กุญแจ ในกรณีถ่านหมด
  • Finger Scan รองรับได้ 20 นิ้ว
  • Passcode ที่สามารถกดรหัสหลอกได้ (กดตัวที่ติดกับตัวถูก)
  • Card mFair 2 ใบ ใช้เป็น Key Card

นอกจากนั้นยังสามารถสั่งเปิดประตูได้จากระยะไกล และสามารถตั้ง User Code ใส่ชื่อคน, วันที่, เวลาใช้งาน และยกเลิกได้ไม่จำกัด มีกริ่งกดเข้า จะมีการแจ้งเตือนไปที่ Application และสามารถ Record คนเข้าได้ค่ะ ถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด หรือเช็คเวลาเข้าห้องในแต่ละวันได้ค่ะ

ภายในห้องเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นก่อน ภายในห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากประตูครัวและระเบียงค่ะ ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.40 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เชื่อมต่อกันทั้งหมดค่ะ

บริเวณห้องนั่งเล่นมีความกว้างประมาณ 2.75 เมตร เหมาะกับการดู TV ขนาดประมาณ 29-32 นิ้วค่ะ สามารถวางโต๊ะกลางตรงกลางได้แต่อาจจะต้องเว้นระยะห่างจากประตูเล็กน้อย เพื่อความสะดวกในในการเข้า-ออก

ทางโครงการจะให้โซฟามาด้วยนะคะ เป็นโซฟา 2 ที่นั่งสีเทา และมีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งมาให้ (สามารถดูแบบได้จากภาพเฟอร์นิเจอร์ตรงผังห้องได้เลยค่ะ)

ส่วนบริเวณฝั่ง TV จะมีเครื่องปรับอากาศ และชั้นวาง TV ติดตั้งมาให้นะคะ โดยจะเป็นชั้นวางแบบมีบานเปิด ส่วนด้านหลังเป็นห้องน้ำค่ะ

ด้านหน้าห้องน้ำมีชั้นเก็บของ Built-in มาให้ โดยจะเป็นบานสีครีมเหมือนกับห้องครัวนะคะ ตรงนี้สามารถใช้เก็บของทั่วไปให้เป็นระเบียบ เช่น กระเป๋า รองเท้า ฯลฯ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ผนังห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหิน ดูไม่น่าเบื่อ และปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคแบบผิวด้านช่วยกันลื่นได้ในระดับนึง

พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยให้เวลาล้างห้องน้ำแล้วน้ำไม่กระเด็นออกไปเลอะด้านนอก

อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เป็นเซรามิคสีขาว จาก American Standard พร้อมอุปกรณ์ประกอบอย่างสายชำระ, ที่แขวนกระดาษชำระ จาก Kudos และติดตั้งกระจก Smart Mirror มาให้ค่ะ (ตามรูปด้านล่าง)

Smart Mirror เป็นเหมือนกับโทรศัพท์มือถือของเราเลยค่ะ ซึ่งเป็นระบบ Android สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ดู Youtube ฟังเพลงขณะแปรงฟันได้ หรือจะเช็ค Social ก็ทำได้ตลอดเวลาเลย

บริเวณพื้นที่อาบน้ำก็มีฉากกั้นกระจก Tempered บานเปลือยติดตั้งมาให้ดูสวยงาม ช่วยไม่ให้น้ำกระเด็นออกมายังส่วนแห้งเวลาอาบน้ำค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 0.95 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ส่วนฝักบัวจะได้ทั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จาก Kudos และติดตั้งระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ

ภายในห้องนอนขนาดประมาณ 3.00 x 2.55 เมตร โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้ พอดีกับพื้นที่ สามารถติดตั้ง TV ที่ปลายเตียงได้ แต่ไม่แนะนำให้วางชั้นวาง TV นะคะ เพราะจะทำให้ไม่มีที่เดินปลายเตียงค่ะ

พอวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างประมาณ 0.30 – 0.60 เมตร ควรจะเว้นให้ระยะทางฝั่งขวามากหน่อยสำหรับเปิดบานเปิดตู้เสื้อผ้า แต่ถ้าตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ใช้งานได้มากขึ้นค่ะ

ห้องนอนจะได้กระจกบานใหญ่วงกบอลูมิเนียมสีดำ สามารถมองเห็นวิวได้กว้างและช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก ห้องนอนจะมีการ Drop ฝ้าเพดานริมหน้าต่างเพื่อซ่อนรางม่านมาให้ด้วย ทำให้ดูสวยงามมากขึ้นค่ะ

ช่องแสงจะมีช่องเปิดมาให้ 1 บานเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศภายในห้องนอนได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้า Built-in จะได้แบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลยนะคะ เป็นบานเปิด 2 บาน และมีลิ้นชักเก็บของด้านใน สามารถเก็บเครื่องประดับหรือของชิ้นเล็กๆได้ แต่เสียดายนิดนึงตรงที่บานเปิดจะทำให้กินพื้นที่ด้านหน้าตู้เสื้อผ้าไปหน่อยค่ะ

ด้านข้างตู้เสื้อผ้าจะมีพื้นที่เหลือเล็กน้อยจึงสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆได้ โดยทางโครงการจะติดตั้งกระจกมาให้ค่ะ

มาดูห้องครัวกันบ้าง ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดนะคะ ช่วยไม่ให้กลิ่นฟุ้งกระจายเข้ามารบกวนภายในห้องเวลาเราทำอาหาร ครัวกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก กรอบอลูมิเนียม ทำให้รับแสงธรรมชาติจากระเบียงเข้าสู่ตัวห้องได้

ภายในมีเคาน์เตอร์ พร้อมชั้นเก็บของด้านบน และเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นมาให้ค่ะ โดยจะมีระยะเหลือสำหรับเดินและทำครัวประมาณ 1 เมตร ถือว่าพอดีๆไม่อึดอัดค่ะ

Top ครัวได้หินสังเคราะห์สีขาว และมี Backsplash เป็นกระเบื้องติดตั้งมาให้ค่ะ

บนเคาน์เตอร์จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออก จาก Franke มาให้ ด้านข้างเป็นอ่างล้างจานสเตนเลสแบบมีฝาปิดช่วยเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารให้มากขึ้นค่ะ

ชั้นเก็บของด้านบนเหมาะกับเก็บอุปกรณ์ทำอาหารและวัตถุดับต่างๆ หน้าบานตู้เป็นบานเมลามีน มี Soft Close มาให้ทุกบาน ช่วยกันบานกระแทกแล้วเกิดเสียงดังค่ะ

ด้านล่างมีช่องสำหรับวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ช่วยประหยัดพื้นที่ด้านบนเคาน์เตอร์ และมีช่องเก็บของแบบลิ้นชักมาให้ด้วย เหมาะกับการเก็บจาน ชาม ฯลฯ ใต้อ่างล้างจานจะได้ช่องขนาดใหญ่เหมาะกับเก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดค่ะ

ด้านบนพื้นที่วางตู้เย็นก็ไม่ได้ปล่อยให้เสียพื้นที่เปล่าๆ มีช่องเก็บของเพิ่มมาให้อีก 2 บานค่ะ

ครัวเชื่อมต่อกับระเบียงด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ ช่วยรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.60 – 1.00 เมตร ปูพื้นเซรามิคทำความสะอาดง่าย มีระบบรองรับเครื่องซักผ้ามาให้ ด้านบนวาง Condensing Units แบบแขวนหันหน้าเข้าด้านข้าง ทำให้มีลมร้อนออกมาตรงระเบียง แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มนะคะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านแต่งบ้านทั่วไป จะทำให้ระเบียงไม่ร้อนและใช้งานได้สบายๆค่ะ

อีกห้องหนึ่งที่เราจะพามาดูก็คือ ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.52 เมตร ห้องนี้จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาค่ะ การวางผังห้องนี้เน้นพื้นที่ Common Area กว้าง เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ดูโปร่งสบาย โซฟาและชั้นวาง TV จะได้แบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom เลย แต่ส่วนรับประทานอาหารจะได้เป็นโต๊ะยาวค่ะ อีกฝั่งของห้องเป็นฝั่ง Service มีห้องน้ำและครัว ห้องน้ำเหมือนกับห้อง 1 Bedroom แยกส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน และมีฉากกั้นอาบน้ำติดตั้งมาให้ค่ะ ส่วนครัวได้เป็นครัวปิด แต่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระเบียงแล้ว เวลาทำอาหารที่มีกลิ่นจะต้องใช้เครื่องดูดควันอย่างเดียวค่ะ ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่างจะแบ่งเป็นห้องนอน และห้องอเนกประสงค์เชื่อมต่อกับระเบียงค่ะ ห้องนอนจะได้หน้าต่างบานใหญ่ และตู้เสื้อผ้ามาให้ ส่วนห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องนอนเล็ก หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้เช่นกันค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวถึง 2 คน ที่ชอบใช้งานพื้นที่ Common Area ไม่เน้นทำครัวมากนัก ชอบพื้นที่ทำงานแยกเป็นสัดส่วน เป็นต้น ภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารทำให้ส่วน Common Area นี้ดูโปร่งและกว้างพอสมควรเลยค่ะ ห้องนี้ก็มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.40 เมตร และปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรเหมือนกับห้อง 1 Bedroom

หันกลับมาดูหน้าห้องบริเวณส่วนนั่งเล่นกันก่อน พื้นที่สำหรับชั้นวาง TV จะอยู่ด้านขวากว้างประมาณ 2.00 เมตร เพราะฝั่งซ้ายจะเป็นพื้นที่ทางเข้าหลักของห้องค่ะ ตรงนี้มีข้อดีคือเวลาคนเดินเข้า-ออกจะไม่ขวางคนที่กำลังดู TV อยู่ แต่จะทำให้ไม่สามารถทำ Built-in ชั้นวาง TV หรือตู้เก็บของเต็มผนังได้ค่ะ

ระยะดู TV ของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 2.75 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 32 – 40 นิ้ว ความกว้างอาจจะไม่เหมาะกับการวางโต๊ะกลางเท่าไรนัก แนะนำให้วางโต๊ะด้านข้างโซฟาแทนค่ะ

โซฟาที่จะได้จะคล้ายกับโซฟาที่ห้องตัวอย่างตัวนี้นะคะ แต่จะได้เป็นสีออกเทาๆค่ะ

ส่วนด้านหลังส่วนนั่งเล่น จะเป็นพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งจะได้เป็นโต๊ะยาวสามารถนั่งได้ 2-4 ที่นั่ง แต่ถ้าใครอยู่กันแค่ 2 คนก็สามารถจัดให้นั่งฝั่งเดียวได้ จะได้เพิ่มพื้นที่นั่งเล่นให้กว้างขึ้นค่ะ

ห้องน้ำที่ได้จะมีลักษณะการตกแต่งและโทนสีของห้องเหมือนกับห้อง 1 Bedroom คือมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก – แห้งชัดเจน แต่จะเปิดเข้ามาเจอกับอ่างล้างมือก่อน สะดวกในการใช้งาน และมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้ค่ะ ส่วนกระจกที่อ่างล้างมือจะได้เป็น Smart Mirror เปิดเพลงและเล่น Application ได้เช่นกัน

อ่างล้างมือติดตั้งมาให้แบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์สีขาว จาก American Standard และอุปกรณ์ประกอบจาก Kudos ค่ะ

ส่วนฉากกั้นอาบน้ำก็จะได้เป็นกระจกบานเปลือย Tempered มาให้ ไม่ต้องติดตั้งเองช่วยประหยัดงบไปได้พอสมควรเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.10 x 0.90 เมตร สามารถยืนอาบได้สบาย ส่วนฝักบัวจะได้ทั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จาก Kudos และติดตั้งระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เช่นกัน

ส่วนครัวของห้องนี้จะอยู่ด้านใน เชื่อมต่อกับพื้นที่รับบประทานอาหารทำให้สะดวกในการเสิร์ฟ ครัวที่ได้มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นปิดมาให้ทำให้กลิ่นไม่ฟุ้งกระจายออกมาด้านนอก แต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ติดกับระเบียงอาจจะทำให้ระบายอากาศได้น้อยลงต้องใช้เครื่องดูดควันอย่างเดียวค่ะ

เคาน์เตอร์ด้านในเป็นรูปตัว I มีชั้นเก็บของมาให้ทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนด้านขวาจะเว้นไว้ให้สำหรับวางตู้เย็นค่ะ

Top ครัวได้หินสังเคราะห์สีขาว และมี Backsplash เป็นกระเบื้องติดตั้งมาให้ค่ะ บนเคาน์เตอร์จะมีเตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออก จาก Franke มาให้ ด้านข้างเป็นอ่างล้างจานสเตนเลสแบบมีฝาปิดช่วยเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารให้มากขึ้นค่ะ

ชั้นเก็บของด้านล่างมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และช่องเก็บของใช้อื่นๆมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะเลยค่ะ

ชั้นเก็บของด้านบนก็จะมีมาให้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลย หน้าบานตู้เป็นบานเมลามีน มี Soft Close มาให้ทุกบานเช่นกันค่ะ

ห้องนอนห้องนี้กว้างประมาณ 3.35 x 2.50 เมตร ทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ค่ะ ใครที่ชอบดู TV ภายในห้องนอนแนะนำให้ติดตั้งเป็น TV แบบแขวนผนังจะทำให้มีพื้นที่เดินรอบๆเตียงได้ ซึ่งห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงบานใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก และมีช่องเปิดระบายอากาศมาให้ 1 จุด และมีแนว Drop ฝ้าเพดานสำหรับซ่อนรางม่านมาให้ที่ริมหน้าต่างค่ะ

พอวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วจะเหลือพื้นที่ด้านข้างประมาณ 0.30 – 0.60 เมตร ควรเว้นให้ระยะทางฝั่งขวามากหน่อยเพื่อไม่ให้ชนกับระยะบานเปิดตู้เสื้อผ้าค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ค่ะ

มาดูห้องอเนกประสงค์กันค่ะ ประตูห้องอเนกประสงค์จะเป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ทำให้แสงจากระเบียงเข้ามาภายในห้องได้  แต่ถ้าใครใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนอาจจะต้องติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเติมเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

ภายในห้องอเนกประสงค์กว้างประมาณ 2.25 x 1.70 เมตร สามารถทำเป็นห้องทำงานแบบในห้องตัวอย่าง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องออกกำลังกาย, ห้อง Laundry หรือห้องนอนเล็ก วางเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุตก็ได้เช่นกัน เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่อเนกประสงค์ แยกเป็นสัดส่วน

ระเบียงขนาดประมาณ 1.70 x 1.00 เมตร ปูพื้นเซรามิคมาให้ ทำความสะอาดง่าย มีระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าเดินไว้เรียบร้อย และด้านบนเป็นที่ตั้ง Condensing Units แบบแขวนค่ะ ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมจะทำให้ออกไปใช้งานที่ระเบียงได้ไม่ร้อนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 JULY 2019

  • Studio / เนื้อที่ 23 ตร.ม. / ราคา 1.84 ล้านบาท หรือ 80,000 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Franke
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS แบริ่ง
  • Studio, 1 Bedroom

  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท

  • 2 Bedroom
    • จอง 20,000 บาท
    • ทำสัญญา 40,000 บาท

  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
  • **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล :

    ทำเลโครงการ Attitude ลาซาล อยู่ในซอยลาซาล 12 ไม่ไกลจาก BTS แบริ่ง สามารถเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ได้มีระยะห่างประมาณ 750 เมตร บรรยากาศภายในซอยเป็นชุมชน มีร้านค้าร้านอาหารอยู่หลากหลาย ถือว่าเป็นอีกทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบครัน สามารถหาของกินได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น ตลาดนัด, Tesco Lotus Express , 7-eleven , Family Mart หรือ CP Fresh Mart ก็อยู่ใกล้ในระยะเดินเลย ในแง่ของค่าครองชีพก็อยู่ในระดับที่ไม่แพง เหมาะกับคนที่เป็นพนักงานออฟฟิศที่ทำงานในเมือง หรือขยับขยายออกมาจากครอบครัวเดิมค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ :

    การเดินทางโดยใช้รถทำได้สะดวก เนื่องจากอยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท วิ่งขึ้นเหนือไปเข้าเมืองอย่าง เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศกได้ง่าย แต่ก็มีการจราจรที่ติดขัด มีทางด่วนอยู่ใกล้ๆหลายเส้นทาง ทั้งทางด่วนบางนาและทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก เมื่อพูดถึงการเดินทางด้วยรถอีกอย่างที่ต้องคำนึงถึงคือจำนวนที่จอดรถภายในโครงการ ซึ่งโดยรวมมีที่จอดรถประมาณ 53 คัน คิดเป็น 38% ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไปเนื่องจากเป็นโครงการที่ยังอิงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอยู่ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

    สำหรับคนที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็สามารถทำได้ไม่ยากนะคะ เนื่องจากโครงการมีรถรับ-ส่ง ที่สถานีรถไฟฟ้าแบริ่งด้วย ในระหว่างทางเองก็จะมีความคึกคักอยู่พอสมควรทำให้เดินได้ไม่เปลี่ยว แต่ทั้งนี้รายละเอียดจะขึ้นอยู่กับนิติบุคคล ถ้าใครไม่อยากเดินก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าปากซอยลาซาล 12 เลยค่ะ นอกจากนั้น ยังมีรถสองแถววิ่งรับส่งตลอดทั้งซอย เมื่ออกมาถนนใหญ่ก็สามารถเรียก Taxi หรือรถเมล์ได้ง่าย รวมๆแล้วถือว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกค่ะ

    วัสดุ :

    รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ , สุขภัณฑ์จาก American Standard และ Kudos พร้อมฉากกั้นกระจก, ครัวจาก Franke และที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ อุปกรณ์ Smart Home Package ตามแนวคิดของโครงการที่เป็น Digital Living ซึ่งมีมาให้ครบเลย ไม่ว่าจะเป็น Smart Mirror, Digital Door Lock, Home Automation System, Motion Sensor ฯลฯ  ซึ่งถือว่าได้จัดเต็มเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันค่ะ

    การออกแบบ :

    การออกแบบโครงการเน้นสไตล์คลาสสิคผสมผสานกับการใช้วัสดุโมเดิร์น มีการนำ Arch โค้งมาเป็นลูกเล่นในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ตัวผังโครงการแบ่งพื้นที่การใช้งานชัดเจน ระหว่างพื้นที่ส่วนกลาง และห้องพักอาศัยจะแยกออกจากกันไปเลย ทำให้ห้องพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัว มี Facility ที่เน้นการมองวิวอยู่ด้านบนดาดฟ้า เช่น สระว่ายน้ำและพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ข้อดีก็คือเห็นวิวสวยแต่ก็มีข้อเสียตรงที่เวลากลางวันจะแดดร้อน อาจจะใช้งานไม่ได้ในบางช่วงค่ะ

    การออกแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 23 – 57 ตารางเมตร ส่วนใหญ่เป็นห้องตอนลึก มีการจัดพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ได้พื้นที่ครัวปิดทั้งหมดทำให้กลิ่นเวลาทำอาหารไม่ฟุ้งกระจาย และมีพื้นที่ Common Area สำหรับนั่งเล่นและรับประทานอาหารกว้าง เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่แยกเป็นสัดส่วน แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าคับแคบค่ะ

    สาธารณูปโภค :

    สาธารณูปโภคถือว่าให้มีค่อนข้างครบครันและเพียงพอต่อจำนวนยูนิต โดยแบ่งส่วนกลางออกเป็น 2 จุด คือชั้น 1 และดาดฟ้า ชั้น 1 จะเป็นส่วน Lobby มีพื้นที่ Co-Working Space และ Muti-purpose Room มีห้อง Office ให้สำหรับปริ้นงานหรือถ่านเอกสาร และเดินขึ้นไป Fitness ที่ชั้น 2 ได้ ส่วนดาดฟ้าจะมีสระว่ายน้ำ ขนาดประมาณ 15.40 x 4.5 เมตร และพื้นที่ดูหนัง , ออกกำลังกายแบบ Outdoor มาให้ค่ะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 75,000-80,000 บาท/ตร.ม., 25 JULY 2019

    • ทำเล 7.5/10 – มีความอุดมสมบูรณ์ครบครัน หาของกินง่าย ค่าครองชีพไม่แพง
    • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ระหว่างซอยแบริ่ง-ลาซาล เดินทางสะดวกเข้าสุขุมวิทและศรีนครินทร์ได้
    • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างจาก BTS 750 เมตร มี Shuttle Service
    • วัสดุ 8.5/10 – ได้ Fully Furnished พร้อม Smart Mirror, Home Automation
    • แบบ 8/10 – ส่วนกลางสวยน่าใช้ ห้องพักหลายกหลาย เป็นสัดส่วน
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ครบหลากหลาย มี Technology เข้ามาใช้

    • MAIN CLASS
    • 7.78 / 10.00

    BOTTOM LINE

    Attitude ลาซาล เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดย่านลาซาล-แบริ่ง เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก ชอบโครงการขนาดเล็ก มีความเป็นส่วนตัว มีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ ชอบสิ่งอำนวยความสะดวกหากหลาย และมี Facility ครบให้ได้ใช้งานค่ะ   มีงบประมาณระดับ 1.85 – 4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,950 – 28,000 บาท/เดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving