รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise 3 อาคาร ใกล้สี่แยกคลองประปา จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2087]
22 มิถุนายน 2020
รีวิวฉบับที่ 1814 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราพาไปรีวิวโครงการใหม่จาก AssetWise ก่อนเปิดโครงการกัน กับ Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise บนถนนเลียบคลองประปา ใกล้สี่แยกคลองประปา มาพร้อมกับ Facilities ครบครันทีเดียว ในราคาหยิบจับง่ายนะคะ ใครสนใจมาอ่านรีวิวกันก่อนไปจองห้องนะคะ ^^
Fact @ 20 February 2019
- Atmoz Chaengwattana (แอทโมซ แจ้งวัฒนะ)
- บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถ.เลียบคลองประปา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 625 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 4-2-0 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : มีนาคม 2562
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พฤกษาคม 2563
- Studio 20.10-21.56 ตร.ม.
- 1 Bedroom 22.98-25.89 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive 29.04-31.64 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 33.12-34.99 ตร.ม.
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 63,000 บาท/ตร.ม.
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 02-168-0000
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.896856, 100.554430
โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา บริเวณใกล้กับสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ จึงจัดเป็นโครงการที่อิงทำเลแจ้งวัฒนะพอสมควรนะคะ ซึ่งต้องบอกว่าย่านนี้ในปัจจุบันถือว่าเป็นย่านสำคัญย่านหนึ่งของนนทบุรีเลยก็ว่าได้นะคะ เนื่องจากมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่จำนวนผู้เข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ มีแหล่งงานทั้งราชการและเอกชน อาคารสำนักงาน รวมไปถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็จัดว่าครบครันเพราะมีห้างและร้านค้าต่างๆ
อีกทั้งทำเลโครงการก็ถือเป็นทำเลที่น่าสนใจในการเดินทางเพราะเป็นถนนที่ตัดกับถนนสายสำคัญอย่าง ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนนใช้เชื่อมเข้าอีกถนนหลากหลายเส้น อีกทั้งมีทางด่วนศรีรัชผ่านให้เลือกใช้งานได้เช่นกัน
ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกไม่นานก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่านบนถนนแจ้งวัฒนะ จะช่วยให้การเดินทางของคนจากทางฝั่งนี้เข้า-ออกเมืองและเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วยนะคะ โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการจะอยู่ระหว่าง สถานีศรีรัช และสถานีแจ้งวัฒนะ 14 แต่ระยะห่างยังไม่เป๊ะนะคะ ต้องดูตำแหน่งสถานีพร้อมขาขึ้น-ลงอีกที หากคิดคร่าวๆ จะอยู่ห่างจากโครงการไปราวๆ 700 ม.-1 กม.
สถานที่สำคัญอิงไปบนถนนแจ้งวัฒนะ ที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้หลักๆเลยก็จะมีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ประจำย่าน นอกจากนั้นยังมี Big C , Lotus , The Avenue , แม็คโคร และ IT Square ค่อนข้างครบครันนะคะ และก็ยังอยู่ไม่ไกลจากเมืองทองธานี ซึ่งเป็น Hub ของคนในย่านนี้ ภายในมีทั้งศูนย์แสดงสินค้าและสถานที่จัดคอนเสิร์ตอีกด้วย
การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นกันที่บริเวณช่วงใกล้วงเวี่ยนหลักสี่ บนถนนพหลโยธิน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนแจ้งวัฒนะมุ่งหน้าตรงไปบริเวณสี่แยกคลองประปา จุดตัดกับถนนเลียบคลองประปา ตรงมาอีกหน่อยเพื่อเตรียมกลับรถ และกลับรถมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบคลองประปา จากนั้นตรงมาเพียง 80 ม. ก็จะเห็นที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
เริ่มต้นกันที่บริเวณวงเวี่ยนหลักสี่นะคะ ซึ่งแยกนี้ในอนาคตอันใกล้ก็จะเป็นจุด Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
ผ่านวงเวียนหลักสี่มาให้ชิดเข้าเลนซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะ
เมื่อเข้ามาถนนแจ้งวัฒนะแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังหลักสี่-ปากเกร็ดกันค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเจอทางแยกขึ้นสะพานให้เบี่ยงขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกหลักสี่
เมื่อข้ามสะพานมาแล้วจะเห็นว่าบรรยากาศ 2 ข้างทางเป็นย่านศูนย์ราชการขนาดใหญ่เลยนะคะ มีทั้ง TOT, ไปรษณีย์ไทย, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, ศาลปกครอง เป็นต้น
จากนั้นขับตรงมาอีกหน่อยก็ขึ้นสะพานเพื่อตรงไปยังปากเกร็ดกันต่อ
ขับตรงมาสักพักเห็นป้ายคำว่าถนนประชาชื่น ให้เบี่ยงซ้ายไม่ขึ้นสะพานนะคะ
หลังจากเบี่ยงซ้ายแล้ว เราจะเห็น Tesco Lotus อยู่ฝั่งขวามือ
ผ่านสี่แยกคลองประปา ให้เตรียมชิดเลนขวาสุดเพื่อกลับรถข้างหน้า
กลับรถมาแล้วให้เบี่ยงซ้ายเลยนะคะ เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองประปา บริเวณนี้จะกระชั้นเล็กน้อย
เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองประปาแล้ว ขับตรงมาเพียง 80 ม. ผ่านโครงการกรีนเน่ แจ้งวัฒนะเท่านั้น ก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยค่ะ
เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันบ้างนะคะ ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าบางตำแหน่งอาคาร B ฝั่งทิศใต้จะได้วิวเป็นโครงการ High Rise เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน และอาคาร C ที่หันไปทางทิศตะวันตก ใกล้กับโครงการ High Rise เพื่อนบ้านอีกโครงการ เพียงแต่ทิศตะวันตกจะไม่ได้ใกล้กันมาก ส่วนทิศเหนือและตะวันออกโปร่งโล่งดีเพราะใกล้กับบ้านพักอาศัยต่างๆ สูงไม่เกิน 2-3 ชั้น เลือกชั้น 4 ก็พอจะได้วิวระยะไกลแล้วค่ะ
สำหรับ Sale Gallery ของโครงการจะอยู่ด้านข้างใกล้กับที่ดินโครงการ (ที่ปัจจุบันทำเป็นที่จอดรถชั่วคราว)
บรรยากาศภายใน Sale Gallery ตั้งใจออกแบบให้มีกลิ่นอายและจำลองบรรยากาศภายในโครงการจริง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Makro แจ้งวัฒนะ
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
- Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ
- Major Cineplex แจ้งวัฒนะ
- บิ๊กซี แจ้งวัฒนะ
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
- สถาบันการจัดการ ปัญญาภิวัฒน์
- Software Park
- เมืองทองธานี
- โรงพยาบาล เวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์
- โฮมโปรแจ้งวัฒนะ
- มหาวิทยาลัยสุโขทัย
- Behive
โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise 3 อาคาร จำนวนยูนิต 625 ยูนิต บนเนื้อที่ดินกว่า 4 ไร่กว่า รูปแบบการออกแบบโครงการมาในสไตล์ Modern โดยเน้นรูปทรงเรียบง่าย และโทนสี Earthtone เทา-น้ำตาล
เรามาดูส่วน Model กันก่อนนะคะ เริ่มจากถนนเลียบคลองประปาซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ จะมีสะพานข้ามคลองเพื่อเข้าสู่ภายในอาคาร
ตัวอาคารมีทั้งหมด 3 อาคารนะคะ ดังนี้
- อาคาร A : อยู่ด้านหน้าโครงการ หากเทียบกันแล้วในระหว่างอาคาร B และ C อาคารนี้เดินเข้าออกง่ายสุด และตำแหน่งห้องที่หันไปทางทิศเหนือก็จัดเป็นทิศไม่โดนแดดแรงตอนบ่าย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทิศนี้ไม่ติดกับอาคารสูง ดังนั้นเลือกชั้น 4 ขึ้นไปก็จะได้วิวที่โปร่งโล่งนะคะ
- อาคาร B : อยู่ตำแหน่งหน้าโครงการเช่นกัน แต่หันไปทางทิศใต้สำหรับห้องฝั่งด้านนอกนะคะ ทั้งนี้จะไม่ใช่ประเด็นเรื่องแดดนะที่เป็นจุดที่พิจารณา เพราะคิดว่าได้โครงการข้างเคียงช่วยบังแดดให้แล้ว แต่อาจจะเป็นเรื่องวิวมากกว่าที่ไม่ได้โปร่งโล่งเท่ากับอาคาร A ทิศเหนือนะคะ แต่สำหรับห้องที่หันเข้าด้านในโครงการจะได้วิวดีทีเดียวเพราะหันเข้า Main Facilities โดยตรง และได้ทิศห้องเป็นทิศเหนืออีกด้วย
- อาคาร C : เป็นอาคารที่อยู่ด้านในโครงการมากที่สุด อาจจะไม่ได้ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการขนาดนั้น แต่แลกมากับความสงบมากกว่า และชั้นล่างอาคารวางตำแหน่ง Main Facilities ไว้ให้ เช่น Fitness, Co-Kitchen และ ติดสระว่ายน้ำอีกด้วย ทำให้คนที่เลือกอาคารนี้ใช้งาน Facilities ได้สะดวกดีค่ะ
ทั้งนี้เราไม่ได้วิเคราะห์ส่วนของราคาแต่ละอาคารว่ามีเรทที่แตกต่างกันไหม ทิศของห้องที่หันเข้าโครงการหรือหันออกราคาต่างกันเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นช่วงก่อนเปิดโครงการนะคะ ราคาจึงเป็นราคาโปรโมชั่นช่วง Pre-Sale หากใครสนใจตำแหน่งไหน แนะนำให้สอบถามกับเซลล์โดยตรงเพื่อเปรียบเทียบราคานะคะ
โดยด้านหน้าโครงการหลังจากเข้ามาแล้วก็จะเห็น Lobby ต้อนรับถึง 2 จุดด้วยกันทั้งจากอาคาร A และ อาคาร B พร้อมทั้งมีห้อง Meeting Room ด้านหน้าติดกับ Lobby เลย ตอบโจทย์คนที่ทำงานที่บ้านและมีนัดคุยงานซึ่งสามารถนัดลูกค้าที่โครงการได้เลย รวมไปถึงผู้เข้ามาติดต่อก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงภายในตึกเลย ซึ่งเป็นส่วนของลูกบ้านที่ควรจะได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ
บริเวณตรงกลางโครงการออกแบบให้เป็นอาคารล้อม Facilities เพื่อให้ห้องที่หันเข้ามาด้านในอาคารได้วิวส่วนกลางภายใน ซึ่งบริเวณนี้ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและสวนขนาดใหญ่
นอกจากสวนที่อยู่ชั้นล่างแล้ว ชั้นดาดฟ้าของอาคาร A นั้นก็มีการทำพื้นที่สีเขียวแต่จะเน้นเป็น Landscape ที่ออกแบบให้สามารถออกมาเดินเล่น ออกกำลังกายได้ พร้อมวิวมุมสูงเปลี่ยนบรรยากาศจากชั้นล่าง
เรามาดู Perspective ในส่วน Facilities กันต่อนะคะ จะเห็นว่าบรรยากาศส่วนสระว่ายน้ำและสวนแม้จะเป็น Outdoor แต่ด้วยความที่มีอาคารล้อมก็ทำให้ช่วยบังแดดได้พอสมควร ไม่ร้อนมากนัก ยกเว้นช่วงเที่ยงๆ ที่ดวงอาทิตย์ส่องมาตรงๆ เลย
มุมมองจากชั้นสูงๆ หน่อย จากอาคาร C ก็จะได้วิวตามรูป Perspective นี้นะคะ โดยได้วิวทั้งสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง
ถัดมาที่บริเวณ Outdoor Lobby บริเวณด้านหน้าอาคาร A จัดให้เป็นพื้นที่รับรองแบบ Semi-Outdoor สำหรับนั่งเล่นชิลๆ รับบรรยากาศสวนด้านหลังได้ หรือหากอยากนั่งแบบ Indoor เปิดแอร์เย็นๆ ก็มีห้อง Lobby จัดไว้ให้ใกล้ๆ เช่นกัน
สำหรับบรรยากาศในส่วน Co-Working Space นี้ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ฝั่งที่หันไปทางสวนส่วนกลางจัดให้เป็นกระจกทรงสูงจากพื้นถึงฝ้าเปิดรับวิวและแสงธรรมชาติภายนอกได้เต็มที่
ด้านในจัดโซนให้มีทั้งพื้นที่นั่งเล่นแบบโซฟา พื้นที่นั่งเล่นเป็นโต๊ะเก้าอี้ ไว้คุยงานต่างๆ ได้ หรือแบบเข้ามุมผนัง ไว้สำหรับเอาคอมมานั่งทำงานได้เช่นกัน
ปิดท้ายของรูป Perspective ด้วยห้อง Fitness ที่อยู่ชั้นล่างของอาคาร C ติดกับสระว่ายน้ำ วิ่งออกกำลังกายไปก็ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนได้ ภายในจัดให้มีมุมทั้งแบบ Active, Weight Training
เรามาดูในส่วน Master plan กันต่อ สำหรับชั้นล่างสุดนั้นทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ตรงกลางเป็นสวนส่วนกลาง โดยที่จอดรถนั้นให้มาอยู่ที่ 40% รวมซ้อนคัน คิดในแง่ของการเดินทางแล้วคิดว่าน่าจะได้ที่จอดรถมากกว่านี้ถึงจะเพียงพอในการใช้งานนะคะ เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกที่สุดสำหรับทำเลโครงการ แต่หากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเสร็จได้ใช้งาน ก็พอจะลดกลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้รถได้น้อยลงไป และหากเทียบกับเรื่องราคา 63,000 บาท/ตร.ม. แล้วเราคิดว่าจำนวนที่ให้ก็ไม่น้อยจนเกินไปค่ะ
สำหรับชั้น 2 นี้จะมีทั้งส่วน Facilities และห้องพักอาศัย โดยสำหรับ Facilities ของอาคาร A และ B จะเน้นอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการนะคะ ประกอบด้วยส่วน Lobby, Meeting Room, Library, Co-Working Space และ Shop ซึ่งหากสังเกตแล้ว Facilities เหล่านี้จะออกแบบให้เป็นแนวพื้นที่ต้อนรับและจุดนับพบของลูกบ้านกับ Visitor ได้ ในขณะที่ Facilities บริเวณอาคาร C ที่อยู่ด้านในของโครงการจะเน้นเป็น Facilities สำหรับลูกบ้านใช้งานโดยเฉพาะ อย่างสระว่ายน้ำ, Fitness และ Co-Kitchen
ขึ้นมาที่ชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แต่มีจำนวนยูนิตไม่มากเนื่องจากมีพื้นที่บางส่วนถูกตัดไปสำหรับเป็น Double Space ของชั้น 2 โดยอาคาร A ในชั้นนี้มีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 23 ยูนิต, อาคาร B อยู่ที่ 30 ยูนิต และอาคาร C มียูนิตอยู่ที่ 25 ยูนิตค่ะ
สำหรับชั้น Typical Floor Plan จะอยู่ที่ชั้น 4-8 โดยลักษณะการวางห้องของแต่ละอาคารจะใกล้เคียงกันคือ เน้นห้องไซส์ใหญ่อยู่ด้านในเพื่อให้ได้วิวพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนห้องไซส์เล็กลงมาจะอยู่ฝั่งด้านนอกโครงการนะคะ
จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดของแต่ละอาคาร A = 29 ยูนิต และอาคาร B, C อยู่ที่ 33 ยูนิต ความหนาแน่นโดยรวมถือว่าใกล้เคียงกัน ในส่วนการจัดวางผังโดยรวมแล้วลงตัวดี มีอาคาร B ที่วางตำแหน่งลิฟต์ค่อนไปทางด้านหน้าอาคาร ทำให้โซนห้องฝั่งด้านหลังจะเดินไกลหน่อย แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่วุ่นวายเท่าช่วงใกล้โถงลิฟต์
ชั้น Roof Top เฉพาะของอาคาร A ได้มีการจัดฟังก์ชันให้ใช้งานเป็น Excercise Lawn Area ไว้เดินเล่น สูดอากาศและชมวิวมุมสูงได้ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Secret Garden
- O2 Jogging Track
- Seat & Sooth
- The Oasis Pool (สระว่ายน้ำ)
- Waterfall Kids Pool
- Dinning Terrace
- Relax On The Roof
- Lifebrary (Library)
- Co-Creative Space
- Adaptable Meeting Room
- Tasty2party Space
- Adaptive Function Room เช่น
-ห้อง Co-Kitchen สามารถเปลี่ยนเป็น Party Room ได้
-โต๊ะห้อง meeting room และ library สามารถปรับแยกเป็นแบบกลุ่ม,แบบคู่ หรือแบบเดี่ยว - Shop ภายในโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 104.16 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
Product ของโครงการนี้มีหลากหลายทีเดียวนะคะ โดยรวมแล้วจะเป็นแพกเกจห้องขนาดกะทัดรัดตั้งแต่ Studio 20.10 ตร.ม. ถึงห้องใหญ่สุดอย่าง 1 Bedroom Plus 34.99 ตร.ม. ทำให้ราคานี้พอคูณกับราคาต่อตารางเมตรประมาณ 63,000 บาท แล้วจะมีราคาแพกเกจรวมหยิบจับง่าย เริ่มล้านต้นๆ ถึงสองล้านต้นๆ เท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้สิ่งที่เป็นจุดยืนของ AssetWise เลยคือการจัดห้องให้มาพร้อมเข้าอยู่ มีเฟอร์นิเจอร์ครบและมาพร้อมกับ Technology ต่างๆ ที่ช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น เช่น Thermostat, Bluetooth Sound System, Digital Door Lock, Rescue Alarm และ LED Lighting Motion Sensor
เรามาห้องแรกกันก่อนนะคะ ห้องนี้เป็นแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุดคือ 1 Bedroom ขนาด 22.38-25.89 ตร.ม. ลักษณะเป็นห้องหน้าแคบลึก แต่มีการจัดวางฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนลงตัวดี เริ่มจากหน้าห้องที่เข้ามาเป็นส่วนห้องครัวและด้านข้างเป็นห้องน้ำ เรียกว่าโซน Sevice นะคะ ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่จะวางตำแหน่งโซฟาเข้ามุมเป็นสัดส่วนมากขึ้น ไม่เกะกะทางเดินและได้ระยะทีวีกว้างมากขึ้น ทำให้สามารถวางทีวีขนาดใหญ่และยังอยู่ในระยะที่พอดีกับสายตาได้
ส่วนห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเพื่อได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนมากขึ้น และยังทำให้มีแสงสว่างเข้าทั่วถึงในห้อง สำหรับห้องนอนนี้วางเตียง 5 ฟุตได้ ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ได้มีที่วางทีวีนะคะ และที่พิเศษขึ้นมาคือข้างเตียงมีพื้นที่อเนกประสงค์สามารถจัดให้เป็นโต๊ะทำงานหรือมุมวางเก้าอี้โซฟาอ่านหนังสือได้ค่ะ ใกล้ๆ กันเป็นระเบียงที่ได้ขนาดใหญ่นะคะ เมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ใช้สอยรวมภายในห้อง สามารถใช้งานได้จริง
การตกแต่งที่นี่จัดมาแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบเซท จ่ายทีเดียวไม่ต้องเผื่องบไว้สำหรับตกแต่งชุดใหญ่เพิ่มเติมนะคะ
ดูภายในห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ เริ่มต้นที่ประตูทางเข้าเป็นประตู HDF ปิดผิวด้วยลามิเนต ส่วนมือจับเป็น ก้านโยกสแตนเลสมาตรฐาน
เพิ่มเติมคือมี Digital Door Lock จาก Yale ให้เป็นมาตรฐานเช่นกัน รุ่นนี้สามารถรองรับได้ทั้ง Keycard, Password และกุญแจ
พื้นในห้องนี้เป็น Smart Vinyl ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันน้ำและรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีกว่าลามิเนตทั่วไปนะคะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวก่อน ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ ถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
เรามาดูส่วนเคาน์เตอร์ครัวกันก่อนนะคะ ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวนี้ของจริงจะได้ตามห้องตัวอย่างเลย
ลักษณะครัวเป็นครัวเปิดนะคะ เชื่อมพื้นที่กับพื้นที่นั่งเล่นโซนถัดไป ดังนั้นการทำอาหารก็จะเน้นทำอาหารง่ายๆ มากกว่าทำแบบจริงจัง ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดประมาณ 8.5 คิวบิกฟุตกำลังพอดีๆ (ตามขนาดของห้องตัวอย่าง)
มาดูที่ตู้ Built-in ชั้นบนให้บานเปิดเป็น Soft Close ทั้งหมด ภายในจัดช่องเก็บของพอสมควร
ผนังเคาน์เตอร์ด้านหลังติด Back Splash เป็นกระเบื้องให้ ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายดีเลยค่ะ ส่วนท็อปเคาน์เตอร์เป็น Particle ปิดผิวด้วยไวนิลเคลือบเมลามีนกันน้ำอีกที แต่ต้องบอกว่าสามารถกันน้ำได้ระดับนึงนะคะ ไม่ควรมีน้ำขังทิ้งไว้
Sink ล้างจานหลุมเดี่ยวจาก MEX
Hob & Hood จาก MEX เตาเป็นไฟฟ้า 2 หัว ส่วน Hood ให้เป็นระบบหมุนเวียน
ผนังฝั่งตรงข้ามก่อนไปดูภายในห้องน้ำจะเห็นเครื่อง Thermostat หรือ แผงควบคุมอุณหภูมิห้อง แถมมาให้การทำงานของแผงนี้จะเชื่อมต่อกับพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ เป็นระบบที่เราสามารถตั้งว่า ถ้าสมมติในห้องน้ำเรามีอุณหภูมิถึงกี่องศา พัดลมดูดอากาศก็จะทำงานเองโดยอัตโนมัติจนกว่าอุณหภูมิจะลดลงเหลือตามที่เราตั้งไว้
ทางเข้าห้องน้ำก่อธรณีขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ส่วนพื้นปูเป็นกระเบื้องเซรามิกสีครีมขนาด 30×30 ซม. ไซส์มาตรฐานค่ะ
เข้ามาภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งไว้เป็นสัดส่วนนะคะ เริ่มจากโซนแห้งจะมีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ก่อน โดยบริเวณอ่างล้างมือตรงส่วนผนังกรุกระจกเงาให้สูงตั้งแต่ตัวอ่างไปจนถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว
อ่างล้างมือจาก Cotto ขนาดกำลังดีนะคะ ด้านล่างมี Built-in ชั้นวางของให้ด้วย
ส่วนโถสุขภัณฑ์จาก American Standard ด้านข้างมี Rescue Alarm เป็นปุ่มกดเพื่อส่งสัญญาณฉุกเฉินในห้องน้ำ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อกดปุ่ม เสียงจะดังขึ้น เพื่อที่ทางโครงการหรือเพื่อนบ้านสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที
กั้นโซนเปียกและแห้งด้วยฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อจะเปิดพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำได้กว้างมากขึ้น
ขนาดพื้นที่ภายในห้องน้ำที่สามารถใช้งานได้จริงจะอยู่ราวๆ 90 x 90 ซม. ถือว่าเป็นขนาดที่สามารถใช้งานได้สบายๆ นะคะ ไม่แคบเกินไป
มีพื้นที่เหลือด้านข้างเล็กน้อย ซึ่งจริงๆ จะเข้าไปใช้งานไม่ได้นะคะ แต่สามารถเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้โดย ทำเป็นชั้นวางของเพิ่มขึ้นแทน
ส่วนด้านข้างทำช่องสำหรับวางของไว้ให้เป็นมาตรฐาน
ฝักบัวสายอ่อนที่ได้จาก American Standard
เข้ามาส่วนพื้นที่นั่งเล่น บริเวณนี้มีระยะทีวีอยู่ประมาณ 3 เมตร
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาให้ขนาด 2 ที่นั่งกว้างเต็มพื้นที่ พร้อมโต๊ะกลาง ซึ่งสเป็ควัสดุเฟอร์นิเจอร์ในส่วนนี้จะไม่ได้หน้าตาเดียวกับห้องตัวอย่างนะคะ แต่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ สำหรับบรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นจริงๆ แล้วไม่ได้กว้างมากนักเป็นไปตามขนาดพื้นที่ของห้อง แต่เพราะได้กระจกบานเลื่อนด้านข้างที่มีความสูงถึงฝ้าเพดาน จึงช่วยให้บรรยายกาศโปร่งโล่งดีทีเดียว
ฝั่งตรงที่วางทีวีจัดชั้นวางทีวีมาให้เป็นมาตรฐานนะคะ
ด้านในมีชั้นวางของพอสมควร
และด้านข้างผนังของพื้นที่นั่งเล่นนี้มีการติดตั้ง Bluetooth Sound System เป็นระบบลำโพงที่เชื่อมต่อสัญญาณด้วย Bluetooth พร้อมลำโพงติดตั้งไว้ให้ สามารถเชื่อมต่อโดยใช้ Bluetooth หรือ Micro SD Card ก็ได้ค่ะ ส่วนลำโพงจะติดให้ 2 จุดคือ ห้องนั่งเล่นและห้องนอน จัดเป็น Function Signature ของ AssetWise ไปแล้ว
ประตูบานเลื่อนกระจกให้เป็นแบบ Full Height และ 3 ตอน สามารถเปิดทางเดินได้กว้างขวางมากขึ้น
การเดินรางของประตูบานเลื่อนนี้จะเดินทั้งด้านล่างและด้านบนนะคะ ซึ่งการเดินรางด้านล่างนั้นตัวรางจะอยู่เสมอพื้น ช่วยให้เดินไม่สะดุดได้อยู่ (แต่ถ้าไปดูในห้องตัวอย่างตัวรางจะยกขึ้นมาวางบนพื้นแทนซึ่งทางโครงการทำมาผิดนะคะ ของจริงจะอยู่เสมอพื้น)
เข้ามาภายในห้องนอนเห็นเตียงนอนก่อนเลย เพราะอยู่ติดชิดกับประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้มีฝั่งเดียวด้านข้างเตียงที่เดินได้ ส่วนขนาดของเตียงที่จะได้อยู่ที่ 5 ฟุต ตามห้องตัวอย่าง แต่ไม่รวมฟูกนะคะ
ริมปลายเตียงมี LED Lighting Motion Sensor มาให้ เอาไว้ใช้สำหรับกลางดึก เราลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ เมื่อผ่าน Sensor จะมีไฟติดบริเวณนี้ เอาไว้ดูทางเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
ส่วนปลายเตียงด้านล่างมีลิ้นชักไว้เก็บของได้ ซึ่งเรามองว่าเป็น Detail ที่ดีมากนะคะ เนื่องจากขนาดของห้องไม่ได้ใหญ่มากจึงไม่มีพื้นที่ให้เก็บของมากนัก การเพิ่มดีเทลแบบนี้ช่วยให้มีพื้นที่เก็บของมากขึ้น ของได้เก็บเป็นระเบียบก็ทำให้ห้องดูไม่รกได้ด้วย
ปลายเตียงเป็นตำแหน่งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
โต๊ะเครื่องแป้ง Built-in ให้ตามนี้เป็นมาตรฐานนะคะ ด้านในเป็นลิ้นชัก 2 ฝั่ง
ส่วนภายในตู้เสื้อผ้าจัดพื้นที่มาเป็นสัดส่วนดี และใช้บานเปิดแบบ Soft Close โดยระยะความกว้างทางเดินสามารถใช้เป็นบานเปิดได้อยู่ค่ะ เพียงแต่จะมีบานเปิดฝั่งซ้าย (ของรูป) ที่ติดกับเครื่องปรับอากาศด้านบน ทำให้เปิดได้ไม่สุดอยู่
ถัดมาที่โซนติดกับภายนอกอาคาร มีฟังก์ชันอยู่ 2 ฟังก์ชันด้วยกัน
เริ่มจากพื้นที่อเนกประสงค์ในส่วนนี้จะได้กระจกเข้ามุมเปิดมุมมองได้กว้าง รับแสงธรรมชาติได้ดีนะคะ สามารถจัดเป็นฟังก์ชันขนาดกะทัดรัดได้ เช่น เป็นพื้นที่ทำงาน หรือพื้นที่อ่านหนังสือ ซึ่งทางโครงการไม่ได้จัดเฟอร์นิเจอร์มาลงไว้ให้เป็นมาตรฐาน เฉพาะพื้นที่ส่วนนี้เพื่อให้ลูกบ้านเป็นอิสระในการจัดฟังก์ชันตามไลฟ์สไตล์ความชอบของตัวเองได้
ติดกันเป็นระเบียงซักล้างที่มีขนาดพอสมควรเลยนะคะ สามารถใช้งานได้จริงทั้งตากเสื้อผ้า หรือจะซักล้างต่างๆ อีกอย่างคือไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าตรงนี้ด้วย เนื่องจากห้องนี้ทางโครงการออกแบบให้เครื่องซักผ้าอยู่ใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้ว
ด้านบนแขวน CDU แอร์แบบหันออกไปด้านนอก
มาที่ห้องถัดไปกันนะคะ ห้องนี้เป็นอีกห้องที่น่าสนใจ เรียกว่า 1 Bedroom Exclusive ขนาดขยับขึ้นมาใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้วอยู่ที่ 29.04-31.64 ตร.ม. ซึ่งจะได้ห้องที่หน้ากว้างมากขึ้น มีพื้นที่รับประทานอาหารเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด และห้องนอนใหญ่ แขวนทีวีปลายเตียงได้ โดยหากใครที่มีงบประมาณมากขึ้นมาจากห้องที่แล้วประมาณ 3-4 แสนบาท เราก็แนะนำให้เลือกห้องนี้นะคะ
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้สำหรับห้อง Type นี้
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนนะคะ เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ไปสุดที่ประตูบานเลื่อนกระจกเข้าสู่ห้องนอน
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีระยะทีวีอยู่ราวๆ 2 ม. สามารถวางทีวีขนาดประมาณ 32″-42″
ขนาดของชุดโซฟาที่ได้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วหน่อยนะคะ สามารถนอนเล่นได้อยู่
ตรงข้ามได้ชุดวางทีวีเหมือนห้องที่แล้วเลย แต่ด้วยพื้นที่ที่มีขนาดกว้างมากขึ้น ก็จะมีพื้นที่เหลือด้านล่างที่สามารถวางตู้เก็บรองเท้า หรือเก็บของเพิ่มเติมได้
ด้านข้างโซฟาสามารถจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่งกำลังดี ซึ่งส่วนนี้ทางโครงการจะให้เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ 2 ที่นั่งให้นะคะ แต่สเป็คไม่ใช่ตามห้องตัวอย่าง
ถัดมาเป็นโซนห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน และฝั่งซ้ายมือเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังส่วนครัว ห้องน้ำ และระเบียงซักล้าง
ภายในห้องนอนจัดว่าค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียว ด้วยพื้นที่และชุดหน้าต่างบานใหญ่กว้างจากผนังถึงอีกผนังด้านนึงเลย ถ้าได้จากพื้นถึงฝ้าจะคุ้มค่ากับราคามากขึ้นไปอีกเยอะเลยค่ะ
ด้านข้างเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดเท่าๆ กับห้องที่แล้วนะคะ แต่ใช้งานได้สะดวกกว่าพอสมควร
เตียงขนาด 5 ฟุตเช่นเดิม แต่มีพื้นที่รอบข้างเตียงให้เดินได้สะดวก
ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้างนะคะ ครัวจะได้เป็นครัวปิดแล้วดังนั้นก็จะเหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น
ลักษณะของประตูบานเลื่อนกระจกนี้จะเดินรางเฉพาะด้านบนนะคะ ทำให้พื้นเชื่อมต่อกันเลย เดินได้สะดวก
ภายในห้องครัวจะมี 2 โซนด้วยกัน โซนแรกคือพื้นที่รับประทานอาหาร และอีกโซนคือเคาน์เตอร์ครัว
มุมพื้นที่รับประทานอาหารนี้ทางโครงการไม่ได้จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้นะคะ แต่เราสามารถจัดเป็น Breakfast Counter เหมือนห้องตัวอย่างได้ค่ะ
ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาจากห้องที่แล้วเล็กน้อย ส่วนสเป็คอื่นๆ เหมือนกันหมด
ริมประตูบานเลื่อนเว้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาด 8.5 คิวบิกฟุตเช่นเดิม ส่วนประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอนช่วยให้เปิดพื้นที่ได้กว้างขวางมากขึ้น
ขนาดของระเบียงจัดมาให้พอสมควรนะคะ อยู่ที่ประมาณ 1.5 x 1 ม.
CDU แอร์แขวนด้านข้างแต่ติดกริลล์เบี่ยงลมร้อนออกไปด้านนอกให้เรียบร้อย
เข้ามาส่วนห้องน้ำกันต่อนะคะ โดยตำแหน่งห้องน้ำนี้จะอยู่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารในห้องครัวค่ะ
ผนังด้านข้างห้องน้ำติดตั้ง Thermostat ให้เป็นมาตรฐาน
ภายในห้องน้ำมีการจัดวางฟังก์ชันและสเป็ควัสดุเช่นเดียวกับห้องที่แล้วเลยนะคะ คือแยกโซนเปียกและแห้งให้เรียบร้อยโดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
โซนแห้งวางโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือให้ ตรงกลางมี Rescue Alarm ติดตั้งเรียบร้อย
ประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นพื้นที่อาบน้ำได้ดี ส่วนขนาดในพื้นที่อาบน้ำจะเท่าๆ กับห้องที่แล้วนะคะ
ภายในให้เป็นฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard และช่องสำหรับวางของใช้เช่นเดียวกับห้องที่แล้วเลยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 February 2019
- Studio 20.10-21.56 ตร.ม. ราคาพิเศษ (Pre-Sale) 1.32 ล้านบาท หรือประมาณ 65,671 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom 22.38-25.89 ตร.ม. ราคาพิเศษ (Pre-Sale) 1.39 ล้านบาท หรือประมาณ 60,487 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive 29.04-31.64 ตร.ม. ราคาพิเศษ (Pre-Sale) 1.73 ล้านบาท หรือประมาณ 59,573 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 33.12-34.99 ตร.ม. ราคาพิเศษ (Pre-Sale) 2.08 ล้านบาท หรือประมาณ 62,801 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง
- Studio – 10,000 บาท
- 1 Bedroom – 10,000 บาท
- 1 Bedroom Exclusive – 10,000 บาท
- 1 Bedroom Plus – 20,000 บาท
- Studio – 20,000 บาท
- 1 Bedroom – 20,000 บาท
- 1 Bedroom Exclusive – 20,000 บาท
- 1 Bedroom Plus – 30,000 บาท
- Studio – 146,800 บาท
- 1 Bedroom – 190,800 บาท
- 1 Bedroom Exclusive – 222,800 บาท
- 1 Bedroom Plus – 254,800 บาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล – โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองประปา บริเวณใกล้กับสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนแจ้งวัฒนะ จึงจัดเป็นโครงการที่อิงทำเลแจ้งวัฒนะพอสมควร สำหรับบรรยากาศและความอุดสมบูรณ์โดยรอบถือว่ามีครบในระยะขับรถไม่ไกลเลยค่ะ โดยรวมแล้วมีทั้ง Hyper Market ใกล้ๆ อย่าง Tesco Lotus หรือออกไปหน่อยก็มีห้างสรรพสินค้าอย่าง Central แจ้งวัฒนะแล้ว นอกจากนี้ทำเลนี้ยังใกล้กับทางเข้าเมืองทองธานี ชุมชนขนาดใหญ่ และมีศูนย์จัดแสดงสินค้า คอนเสิร์ตภายใน เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของย่านนี้ก็ว่าได้ และต้องบอกว่าในย่านนี้ขยับมาช่วงต้นแจ้งวัฒนะจัดเป็นทำเลศูนย์ราชการขนาดใหญ่ ดังนั้นทำเลโครงการจึงสามารถตอบโจทย์กลุ่มข้าราชการต่างๆ ที่เน้นเดินทางไปทำงานสะดวกอีกด้วยค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ – เป็นทำเลที่น่าสนใจในการเดินทางเพราะเป็นถนนหน้าโครงการอย่างเลียบคลองประปา และอยู่ไม่ไกลจากสี่แยกคลองประปาที่ตัดกับถนนสายสำคัญอย่าง ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งถนนแจ้งวัฒนะนี้จัดเป็นถนนใช้เชื่อมเข้าอีกถนนหลากหลายเส้น อีกทั้งมีทางด่วนศรีรัชผ่านให้เลือกใช้งานได้สะดวกวิ่งเข้า-ออกตรงๆ ได้เลย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากหน้าโครงการต้องอาศัยเดินไปยังถนนแจ้งวัฒนะจะเรียกรถสาธารณะได้สะดวกกว่าบนถนนเลียบคลองประปาที่มีขนาดถนนไม่ใหญ่มากนัก รถแท็กซี่ไม่ค่อยวิ่งผ่านเท่าไหร่เมื่อเทียบกับถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งหากเดินไปต่อรถต่างๆ ก็จัดเป็นระยะที่ยังเดินได้ง่ายอยู่นะคะ
และในอนาคตเส้นทางบนถนนแจ้งวัฒนะก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูตัดผ่านจะช่วยให้การเดินทางของคนจากทางฝั่งนี้เข้า-ออกเมืองและเดินทางไปยังที่ต่างๆได้สะดวกมากขึ้น โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการจะอยู่ระหว่าง สถานีศรีรัช และสถานีแจ้งวัฒนะ 14 แต่ระยะห่างยังไม่เป๊ะนะคะ ต้องดูตำแหน่งสถานีพร้อมขาขึ้น-ลงอีกที หากคิดคร่าวๆ จะอยู่ห่างจากโครงการไปราวๆ 700 ม.-1 กม.
วัสดุ – สำหรับวัสดุโครงการถือว่าให้มาคุ้มค่าดีนะคะ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย โดยสิ่งที่ได้ก็จะเป็นไปตาม Concept ของ AssetWise คือตกแต่งครบ Fully Furnished พร้อมกับนำ Technology ต่างๆ เข้ามาช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น Thermostat, Bluetooth Sound System, Rescue Alarm และ LED Lighting Motion Sensor
การออกแบบ – รูปแบบโครงการนี้ออกแบบเป็นอาคารล้อม Facilities ตรงกลางนะคะ ทำให้ห้องด้านในทั้งหมด ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างดีทีเดียว นอกจากวิวแล้วคือตัวอาคารเองก็ช่วยบังแดดได้ ทำให้พื้นที่ Outdoor ไม่ร้อนมากนัก
ห้องพักอาศัยที่นี่เริ่มห้อง Studio ขนาดเล็กทีเดียวเริ่ม 20 กว่าตร.ม.เท่านั้น แต่ด้วยการจัดพื้นที่ภายในค่อนข้างลงตัวทำให้บรรยากาศจริงไม่เล็กมากนัก ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.38-25.89 ตร.ม.ที่เราพาไปดูในห้องตัวอย่างแรก เป็นแบบหน้าแคบลึก อาจจะไม่ได้โปร่งโล่งมากนักตามความกว้างของหน้าห้อง แต่ถือว่ามีการจัดผังภายในลงตัว ใช้งานได้จริง
ส่วนผังห้องที่เราชอบพิเศษก็จะเป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ที่ขยับพื้นที่ใช้สอยขึ้นมาอีกหน่อย ราคาเพิ่มขึ้นจากห้อง 1 Bedroom ปกติประมาณ 300,000-400,000 บาท แต่มีพื้นที่รับประทานอาหารเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด และห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าลงตัวดี เปิดใช้งานได้สะดวก
สาธารณูปโภค – จัดว่าออกแบบมาหลากหลายทีเดียวนะคะ และทุกอาคารก็จะมี Facilities ในชั้นล่างทุกอาคาร แต่มีรูปแบบแตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์กลุ่มไลฟ์สไตล์ในการใช้งานต่างกัน ใครที่เน้นการใช้ห้อง Meeting หรือ ห้อง Library ต่างๆ สำหรับคุยงาน มี Lobby ใกล้หน้าทางเข้า-ออกโครงการเพื่อนัดพบกับ Visitor ได้สะดวกก็ตอบโจทย์กับอาคาร A หรือ B ส่วนใครที่ชอบใช้ Facilities หลัก สำหรับพักผ่อนต่างๆ ก็เหมาะกับอยู่อาคาร C ที่ชั้นล่างติดกับสระว่ายน้ำ, Fitness และ Co-Kitchen แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลูกบ้านโครงการนี้ไม่ว่าอาคารไหน สามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละอาคารได้หมดนะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคา AVG 63,000 บาท/ตร.ม., 20 February 2019
- ทำเล 7.5/10 – ติดเลียบคลองประปา ใกล้สี่แยกคลองประปาตัดแจ้งวัฒนะ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนน ใกล้ทางด่วนศรีรัช
- ไม่ใช้รถ
- (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า) 7/10 – เรียกรถสาธารณะหน้าโครงการหรือเดินไปเรียกบนถนนแจ้งวัฒนะได้
- (กรณีมีรถไฟฟ้า) 7.5/10 – มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานี ศรีรัช ระยะหลุดระยะเดินง่ายมาหน่อย
- ECONOMY CLASS
- 7.63 (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า / 10.00)
- 7.70 (กรณีมีรถไฟฟ้า / 10.00)
BOTTOM LINE
โครงการ Atmoz แจ้งวัฒนะ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาหยิบจับง่าย เริ่มล้านต้นๆ – 2 ล้านต้นๆ เท่านั้น ในย่านแจ้งวัฒนะ – เลียบคลองประปา มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม และมี Facilities ครบครัน