Atmoz Season ลาดกระบัง คอนโดโครงการใหม่ใกล้นิคมฯ ลาดกระบัง จาก Asset Wise ที่นี่มีจุดเด่นที่ส่วนกลางเยอะ ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ในราคาโปรโมชันเปิดตัว 1.29 ล้านบาท

  • คอนโดที่ส่วนกลางเยอะที่สุดในย่าน : ที่นี่ให้พื้นที่ส่วนกลางมาทุกอาคาร รวมมากกว่า 43 ฟังก์ชัน ทั้งภายในและภายนอกอาคาร บางพื้นที่เปิดรองรับการใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง
  • ห้องขายพร้อมเฟอร์ : รูปแบบการขายจะเป็นแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ วางพอดีกับแปลนห้องมาให้เลย
  • ทำเล : เข้า-ออกได้จากถนนฉลองกรุง ใกล้กับ V Market เดินทางสะดวก ใกล้นิคมฯ ลาดกระบัง และ พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง มีตัวเลือกของกินหลากหลาย
  • ราคา : เริ่มต้น 1.29 ล้านถือว่าเป็นราคาเริ่มต้นที่สูงกว่าโครงการข้างเคียง แต่ก็เป็นโครงการที่มีการออกแบบบรรยากาศออกมาดูดีกว่า ฟังก์ชันส่วนกลางมากกว่า และได้ห้องแบบ Fully Furnished ด้วยค่ะ เรียกว่าไม่ใช่ซื้อแค่ห้องพัก แต่ซื้อไลฟ์สไตล์ และสิทธิ์การใช้พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนะ

รายละเอียดโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านรีวิวกันต่อเลยค่ะ

ลงทะเบียนชมโครงการ > https://bit.ly/4307vv3

ข้อมูลโครงการ

Atmoz Season ลาดกระบัง ณ วันที่ 8 May 2023

 ชื่อโครงการ  Atmoz Season Ladkrabang (แอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท WISE ESTATE 14 พัฒนาภายใต้ บริษัท แอสเซทไวซ์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  ECONOMY – MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง
 ที่ดิน  5 – 3 – 48.2  ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร
 จำนวนยูนิต  706 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 229 ยูนิต , อาคาร B 248 ยูนิต , อาคาร C 229 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   37 ยูนิตต่อชั้น ที่อาคาร B
 ที่จอดรถ ประมาณ 30% (ไม่รวมซ้อนคัน) รวมจอดซ้อนคัน ประมาณ 35% มอเตอร์ไซค์ 53 คัน ที่จอด EV 2 คัน
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปลายปี 2567
 รูปแบบห้อง  – One Bedroom ขนาด 23.2 – 24.2 ตร.ม.
One Bedroom Exclusive ขนาด 26.3 – 27.8 ตร.ม.
One Bedroom Extra ขนาด 28.2 – 28.7 ตร.ม.
One Bedroom Plus ขนาด 34.4 – 34.9 ตร.ม.
 ฝ้าเพดานสูง  2.4 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.29 ล้านบาท* (Promotion)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 62,000 บาท/ตร.ม.
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  N/A
 เว็บไซต์โครงการ atmozcondo.com/condominium/atmoz-season-ladkrabang/
 Call Center 02-168-0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.762347 , 100.7998522
หรือสามารถ คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Atmoz Season ลาดกระบัง เป็นคอนโดใหม่ที่ตั้งอยู่บนถนนฉลองกรุง (ทางเข้า-ออกโครงการห่างจากถนนใหญ่ 130 เมตร) ภาพรวมของทำเลนี้จะเป็นโซนลาดกระบังที่ใกล้กับ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ พระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ซึ่งคนที่เรียนหรือทำงานตรงนี้ ถือว่าเป็น Target หรือกลุ่มลูกค้าหลักของโครงการค่ะ

ในแง่การเดินทางถือว่าสะดวก เนื่องจากบนถนนฉลองกรุงจะมีรถสาธารณะผ่านเป็นประจำ และสามารถใช้รถส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ได้ง่าย เชื่อมต่อไปยังถนนลาดกระบังเข้าสุวรรณภูมิได้สะดวก หรือใครที่ต้องการเข้าเมืองก็สามารถไปใช้ Motorway หรือถนนเจ้าคุณทหารเพื่อวิ่งข้ามไปยังถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทั้งสองเส้นทางนี้ใช้เข้าเมืองไปยังถนนพระราม 9 ได้ค่ะ

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์อาหารการกิน ในระยะที่ใกล้ๆ มี V Market อยู่ ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีทั้ง Community mall ตลาด ร้านค้าให้หาของกินได้สะดวกเช่นกัน หรือถ้าไปทางถนนลาดกระบังก็จะมี Robinson และ Paseo เพิ่มเติมเป็นตัวเลือกให้จับจ่ายใช้สอยค่ะ

ตลาดคอนโดมิเนียมในโซนนี้

บริเวณนี้ถือว่าพอมีตัวเลือกที่อยู่อาศัยที่เป็นคอนโดมิเนียมให้เลือกอยู่บ้างค่ะ ต้องบอกก่อนว่าส่วนใหญ่แล้วจะมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า Atmoz Season ลาดกระบัง แต่ด้วยการออกแบบโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง ทำให้จุดเด่นที่แท้จริงของ Atmoz Season ลาดกระบัง คือเรื่องคุณภาพการใช้ชีวิต ไม่ได้เป็นคอนโดที่เอาไว้แค่กลับห้องนอน แต่สามารถสร้างกิจกรรมอื่นๆ ที่นี่ได้ ทั้งออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ทำงานอดิเรกฯ ซึ่งรายละเอียดเราจะเห็นกันใน part ถัดไปค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ตัวโครงการจะมีทางเข้า-ออกหลักจากถนนฉลองกรุง โดยบอกมาว่าทางเข้าโครงการ(ตำแหน่งที่วงไว้) จะห่างจากถนนใหญ่ราวๆ 130 เมตร

สภาพรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า เราจะเห็นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ ส่วนสิ่งก่อสร้าง ก็จะเป็นอาคารแนวราบ บ้านพักอาศัย หรือว่าสำนักงาน อาคารพาณิชย์แนวราบเท่านั้นค่ะ

Image 1/5
ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางด้านหลัง Sale Gallery ค่ะ ปัจจุบันล้อมรั้วเรียบร้อย

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางด้านหลัง Sale Gallery ค่ะ ปัจจุบันล้อมรั้วเรียบร้อย

Image 1/2
Sale Gallery โครงการจะตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย

Sale Gallery โครงการจะตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • V Market ~ 850 m.
  • iPlace Park ~ 1 km.
  • ตลาดคุ้มเกล้า ~ 3.7 km.
  • ตลาดนัดสุวรรณภูมิ ~ 8.7 km.
  • Paseo ~ 13.5 km.
  • Robinson ลาดกระบัง ~ 14 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลลาดกระบัง ~ 7.2 km.

สถานศึกษา / สถานที่ทำงาน

  • นิคมอุตสาหกรรม ลาดกระบัง ~ 500 m.
  • KMITL ~ 4.9 km.

ระบบคมนาคม

  • ARL ลาดกระบัง ~ 9.6 km.
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 11.7 km.
  • ARL สุวรรณภูมิ ~ 14 km.

รายละเอียดโครงการ

Atmoz Season ลาดกระบัง เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคารวางเรียงต่อกัน ขนานไปกับแนวถนนภาระจำยอมที่ตัดขึ้นมาใหม่นี้เท่านั้น

โครงการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 6 ไร่ โดยมี Concept ในการออกแบบคือ Season หรือว่าฤดูกาล ซึ่งทาง Asset Wise ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ในทุกๆ ซีซั่น ซึ่งแรงบันดาลใจนี้จะสื่อออกมาเป็นอาคารต่างๆ 3 อาคาร + 1 พื้นที่สีเขียว โดยจะเอาฤดูทั้ง 4 คือ Winter (ฤดูหนาว – อาคาร A) , Spring (ฤดูใบไม้ผลิ – อาคาร B) , Summer (ฤดูร้อน – อาคาร C) และ Autume (ฤดูใบไม้ร่วง – สวนส่วนกลางหน้าอาคาร B) มาเป็นแนวคิดในการออกแบบ Interior ภายในของพื้นที่ส่วนกลางในแต่ละอาคารนั่นเอง

อีกหนึ่งจุดเด่นของคอนโด จาก Asset Wise คือเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง ที่ออกแบบมาได้จัดเต็มถึง 43 ฟังก์ชันกระจายไปในทุกอาคาร มีสระว่ายน้ำมาให้ถึง 2 สระ และมีพื้นที่สีเขียวขนาดมากกว่า 2,000 ตร.ม. ส่วนตัวมองว่าเป็นคอนโด Low Rise ที่ให้ส่วนกลางมาเยอะเลยทีเดียวค่ะ

โดยค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 45 บาท/ตร.ม./เดือน หรือตกราวๆ 1,000 – 1,600 บาท/เดือนค่ะ ถือเป็นเรทที่เรามองว่าแลกกับการมาใช้งาน มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหลายจุด มีพื้นที่ให้เราออกกำลังกาย ทดแทนการไปสมัครฟิตเนสข้างนอกหรือไปนั่งทำงาน/อ่านหนังสือตามร้านกาแฟได้เลยนะคะ

นอกจากนี้ในแต่ละอาคารก็มีการจัดฟังก์ชันที่น่าจะเหมาะกับรสนิยมของผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกันอยู่ค่ะ

  • อาคาร A จะเป็นอาคารที่ใกล้กับทางเข้าออกและถนนใหญ่มากที่สุด : อาคารนี้จะมีฟังก์ชันออกกำลังกายที่โดดเด่น มีสระว่ายน้ำ และ มี Gym ที่แอบได้ยินมาว่าเปิดให้ใช้งาน 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ดังนั้น เราจึงมองว่าเหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกาย เลือกอยู่อาคารนี้เลยก็จะเหมาะนะ
  • อาคาร B ตรงกลาง : เป็นอาคารเดียวที่ไม่มีสระว่ายน้ำ แต่จะมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าอาคารแทน นอกจากนี้ก็จะมีฟังก์ชันส่วนกลางหลากหลาย มี Studio หลายห้อง รวมไปถึงห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน ห้องเกมส์ ดังนั้น อาคารนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบความสงบมากขึ้นหน่อย อยากได้พื้นที่หลากหลายเอาไว้ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบของตัวเอง
  • อาคาร C ด้านในสุด : อาคารนี้ออกแบบมารองรับลูกค้าที่แพลนว่าจะอยู่กันเป็นครอบครัวค่ะ ซึ่งฟังก์ชันส่วนกลางของอาคารนี้ก็จะรองรับผู้ใช้งานที่เป็นเด็กด้วย เช่น สระว่ายน้ำเด็ก ห้องเล่นเด็ก เป็นต้น

บรรยากาศทางเข้าโครงการ

Image 1/3
บรรยากาศรวมโครงการ

บรรยากาศรวมโครงการ

เห็นบรรยากาศด้านหน้าโครงการกันแล้ว เราไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันทีละอาคารดีกว่าค่ะ

Facility Building A : Winter

อาคาร A หรืออาคารแรกที่ใกล้กับทางเข้า-ออกและถนนใหญ่มากที่สุด อาคารนี้จะมีสระว่ายน้ำอยู่ค่ะ โดยฟังก์ชันส่วนกลางที่ชั้น 1 จะมี Lobby, Mail Box และ ห้องซักรีด ส่วนชั้น 2 จะเป็นสระว่ายน้ำซึ่งอยู่กลางแจ้ง ส่วนภายในอาคารก็จะมี Loungr, Gym, Bike Simulator และ Health Center ให้ลูกบ้านได้ติดต่อกับคุณหมอได้

Image 1/2
อาคาร A จะมีผังเป็นรูปตัว L โอบล้อมสระไว้

อาคาร A จะมีผังเป็นรูปตัว L โอบล้อมสระไว้

บรรยากาศของ Lobby ที่อาคาร A โดย concept ของอาคารนี้คือ Winter หรือฤดูหนาว ดังนั้นการออกแบบก็จะเน้นโทนสีฟ้า ม่วง เทา เป็นหลักค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-outdoor ที่ชั้น 2 อาคาร A ค่ะ เป็นมุมที่มานั่งพักผ่อนได้บรรยากาศสบายๆ

Bike Simulator เป็นห้องปั่นจักรยานที่มีจอ Display ติดตั้ง จำลองการปั่นไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ค่ะ

Image 1/2
Arctic Gym หรือห้องออกกำลังกายที่เปิดให้ใช้งาน 24 ชั่วโมง

Arctic Gym หรือห้องออกกำลังกายที่เปิดให้ใช้งาน 24 ชั่วโมง

เนื่องจากอาคารนี้จะเน้นฟังก์ชันส่วนกลางแนวออกกำลังกาย ดังนั้นตัวห้องน้ำจึงจะมีขนาดใหญ่ และมี Locker รองรับการใช้งานด้วยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศสระว่ายน้ำที่อาคาร A พื้นที่รอบสระก็จะมีที่นั่งพักผ่อนชวนผ่อนคลาย

บรรยากาศสระว่ายน้ำที่อาคาร A พื้นที่รอบสระก็จะมีที่นั่งพักผ่อนชวนผ่อนคลาย

สระว่ายน้ำที่กลายมาเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยอาคารนี้ เป็นอีกจุดที่โครงการข้างเคียงไม่มีห้องวิวสระนะคะ ตัวสระจะยกขึ้นมาอยู่ที่ชั้น 2 เวลาใช้งานก็จะได้ความเป็นส่วนตัว

Facility Building B : Spring

อาคาร B ที่อยู่กึ่งกลาง เป็นอาคารเดียวที่ไม่มีสระว่ายน้ำ แต่จะได้พื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตร.ม.อยู่ทางด้านหน้าแทน โดยภายในตัวอาคารจะได้แรงบันดาลใจมาจากฤดูใบไม้ผลิหรือ Spring ส่วนตัวสวนจะได้แรงบันดาลใจจากฤดูใบไม้ร่วงหรือว่า Autumn ค่ะ

อาคารนี้เรามองว่ามีจุดเด่นคือฟังก์ชันใช้งานที่หลากหลายเลย เช่น พื้นที่สวนก็จะแบ่งฟังก์ชันย่อยๆ เป็น Co-working, Co-living หรือว่า outdoor gym ให้ได้ใช้งานกลางแจ้ง

ส่วนในอาคารก็จะมีฟังก์ชันสนุกๆ น่าสนใจที่หาจากโครงการ Low Rise อื่นๆ ในย่านนี้ได้ยาก เช่น Cinema, Game Room, Bar, Amphitheater, E-sport, Musician studio, Photo studio, Podcast room เป็นต้น

ผังอาคาร B จะยาวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยจะมีสวนขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าอาคารแทน

Image 1/3
สวนที่อาคาร B ถูกแบ่งเป็นโซนๆ

สวนที่อาคาร B ถูกแบ่งเป็นโซนๆ

Iconic Season Pavilion ที่นั่งพักผ่อนกลางสวน ไล่สีสันดูเป็นเอกลักษณ์ของโครงการ

Image 1/8
Garden

Garden

Image 1/2
Spring Lobby and Library Lounge พื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 1 และ 2 ของอาคาร B

Spring Lobby and Library Lounge พื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 1 และ 2 ของอาคาร B

บรรยากาศ Co-Working Area ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ดีไซน์ให้มีที่นั่งหลายรูปแบบ มาใช้งานสลับๆได้ตามอารมณ์

Image 1/2
Bar และ Co-Living area ที่ดีไซน์เป็น Amphitheater ให้นั่งเปลี่ยนบรรยากาศและทำเครื่องดื่มระหว่างอ่านหนังสือที่ชั้นนี้ได้

Bar และ Co-Living area ที่ดีไซน์เป็น Amphitheater ให้นั่งเปลี่ยนบรรยากาศและทำเครื่องดื่มระหว่างอ่านหนังสือที่ชั้นนี้ได้

Game Room จะมีเครื่องเกมส์ตั้งไว้ให้ สามารถชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันได้ค่ะ

ตัวอย่างบรรยากาศ Lift Hall ของโครงการ

Meeting Room ที่นอกจากจะมีที่นั่งประชุมงานให้ ก็ยังมีกระดานให้ใช้งานด้วย

Podcast Room สำหรับคนที่อยากทำ Podcast เป็นงานอดิเรก

Cinema หรือห้องดูหนังที่เราสามารถมาใช้นั่งดูหนัง ดูบอล พร้อมกันกับเพื่อนได้ค่ะ

Facility Building C : Summer

อาคาร C ตั้งอยู่ด้านในสุดของโครงการค่ะ อาคารนี้จะมี Concept Summer หรือว่าฤดูร้อน ดังนั้นการตกแต่งก็จะเน้นโทนสีแสด สีเหลืองสดใส และสีน้ำเงินเป็นหลัก

ฟังก์ชันของที่นี่ ชั้น 1 จะมี Lobby, Mail Box และห้องซักรีด ส่วนชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำที่อยู่กลางแจ้ง ส่วนภายในอาคารจะมี Kid’s Club, Co-Kitchen, Co-Living เป็นต้นค่ะ

Image 1/2
อาคารนี้จะคล้ายกับอาคาร A แต่สลับด้านกัน โดยจะมีสระว่ายน้ำในตัว

อาคารนี้จะคล้ายกับอาคาร A แต่สลับด้านกัน โดยจะมีสระว่ายน้ำในตัว

บรรยากาศของ Lobby อาคาร C เน้นสีส้มเหลือง สื่อถึงฤดูร้อน

ห้อง Mail Box ค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Kid's Club ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีขนาดจิ๋วตาม รองรับการใช้งานของเด็กๆ

บรรยากาศภายใน Kid's Club ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีขนาดจิ๋วตาม รองรับการใช้งานของเด็กๆ

Co-living Room จะมีขนาดกว้างสบาย เป็นอีกมุมที่มานั่งพักผ่อนได้ไม่มีเบื่อเลยค่ะ

ส่วนด้านในจะมี Co-Kitchen & Living ที่สามารถชวนเพื่อนหรือญาติมาทำอาหารกินกัน จัด Party เล็กๆ ได้ที่ตรงนี้นะ

บรรยากาศสระว่ายน้ำอาคาร C

Plan ชั้นพักอาศัย

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Atmoz Season ลาดกระบังจะมีทั้งหมด 706 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A 229 ยูนิต , อาคาร B 248 ยูนิต , อาคาร C 229 ยูนิต

ที่ชั้น 1 พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถ วนใต้อาคาร รวมทั้งสิ้นประมาณ 30% ไม่รวมซ้อนคัน และมีจุดสำหรับ EV Charger และ จุดสำหรับจอดมอเตอร์ไซค์มาให้

นอกจากนี้ก็จะมีพื้นที่สวนอยู่หน้าอาคาร B รายละเอียดตามที่เล่าไปก่อนหน้า ส่วนฟังก์ชันที่อยู่ในอาคารชั้นนี้จะมี Lobby, Mail Box และห้องซักรีดที่จัดไว้ให้มีทุกอาคารเหมือนกัน / ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่จะใช้ Key Card แบบล็อกชั้น ซึ่งสามารถเข้าได้เฉพาะชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของทุกอาคาร และชั้นพักอาศัยเฉพาะตำแหน่งชั้นของห้องที่เราอยู่เท่านั้นค่ะ

อาคาร A

Image 1/2
อาคาร A ชั้น 2

อาคาร A ชั้น 2

ที่อาคาร A จะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ส่วนกลางแนวออกกำลังกาย เพราะจะได้ทั้งสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกายที่เปิดใช้งาน 24 ชั่วโมง โดยผังพื้นจะเหมือนกันตั้งแต่ 2-8 เพียงแต่ชั้น 2 นั้นจำนวนห้องพักอาศัยจะหายไป กลายมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางแทน

  • ใครที่คิดว่าตัวเองใช้งานส่วนกลางแน่ๆ อยู่ที่ชั้น 2 ก็ถือว่าสะดวกมากที่สุดค่ะ เรียกว่าเปิดประตูห้องก็เดินไปเล่นฟิตเนสหรือว่ายน้ำได้เลย
  • การวางตำแหน่งห้องจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง เราขอเรียกว่าฝั่งหันหน้าทางทิศเหนือ และฝั่งหันหน้าเข้าสระว่ายน้ำ (ทิศใต้แทนนะคะ)
  • เนื่องจากแดดประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นแดดอ้อมใต้ ดังนั้นทิศนี้จะรับแดดมากกว่าทางทิศเหนือแน่นอน แต่ก็จะมีข้อดีตรงนี้ได้วิวเป็นสระว่ายน้ำ ซึ่งหาวิวแบบนี้ยากในคอนโดโซนนี้ และทิศทางลมประจำถิ่นของไทยก็มักจะมาจากทิศใต้ ห้องฝั่งนี้ก็จะได้ลมที่ดีกว่าค่ะ ถ้าให้แนะนำเราว่าห้องนี้ก็อาจจะเหมาะกับคนที่อยู่ห้องไม่บ่อย กลางวันไปทำงาน แต่ก็อยากได้วิวสระว่ายน้ำ ฝั่งนี้ก็จะเหมาะค่ะ
  • ส่วนห้องที่หันทางฝั่งทิศเหนือ จะเป็นห้องที่ร่มกว่า แต่ไม่ได้วิว ดังนั้นเราจะเห็นว่าทางโครงการจะจัดเอาห้องขนาดและราคาเริ่มต้นแบบ 1 Bedroom ไว้ทางฝั่งนี้ทั้งหมดเลย ซึ่งข้อดีก็จะเป็นเรื่องราคาห้อง และ ความสงบที่ได้ค่ะ
  • ห้อง 1 Bedroom Plus ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่สุด จะได้วิวที่หันเข้าหาสระว่ายน้ำ เป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคาร และมีเพียง 3 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น
  • ส่วนห้องขนาดกลางอย่าง 1 Bedroom Extra นี้ก็ถือเป็น Rare item เหมือนกัน เพราะเป็นห้องขนาดเล็กที่หันหน้าเข้าฝั่งสระว่ายน้ำ มีเพียง 3 ยูนิตต่อชั้นเช่นกัน ส่วน 1 Bedroom Exclusive จะเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะเช่นกัน จะเรียงตัวสลับทั้งสองฝั่งค่ะ

อาคาร B

Image 1/2
อาคาร B ชั้น 2

อาคาร B ชั้น 2

ที่อาคาร B ก็เช่นกัน ผังชั้น 2-8 จะเหมือนกันหมด เพียงแต่ชั้น 2 จะแบ่งพื้นที่บางส่วนไปเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

  • ที่อาคาร B ผังอาคารจะมีรูปร่างยาวเป็นตัว I และเป็นอาคารที่ไม่มีสระว่ายน้ำในตัว ดังนั้น ตัวห้องก็จะมี 2 ฝั่ง คือทิศเหนือ หันออกนอกโครงการ และทิศใต้ หันไปยังสวนด้านหน้าโครงการค่ะ
  • ทางทิศเหนือจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom เรียงสลับกับ 1 Bedroom Exclusive
  • ส่วนห้องทิศใต้(หันหน้าหาสวน) จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Extra , 1 Bedroom Exclusive สลับกัน และมีห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดใหญ่ 2 ยูนิตอยู่ที่มุมอาคาร
  • อาคารนี้แม้จะไม่มีสระว่ายน้ำ แต่ก็มีฟังก์ชันส่วนกลางที่หลากหลาย เหมาะกับคนที่ชอบใช้ส่วนกลางแนวที่เป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงาน อยากได้พื้นที่อ่านหนังสือ ทำงาน จัด Podcast ประชุมกับเพื่อน อาคารนี้ก็จะเหมาะค่ะ

อาคาร C

Image 1/2
อาคาร C ชั้น 2

อาคาร C ชั้น 2

อาคาร C เป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุด เป็นอาคารที่จัดพื้นที่ส่วนกลางที่เหมาะสำหรับครอบครัวเอาไว้ โดยจะมีสระว่ายน้ำเด็ก และ ห้องสำหรับเด็กอยู่ที่อาคารนี้ค่ะ

  • การวางผังห้องพัก ชั้น 2-8 จะเหมือนกันหมด แต่ว่าชั้น 2 จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่
  • ผังอาคารนี้จะเหมือนกันกับอาคาร A เพียงแต่สลับด้าน(Mirror)กันซ้าย-ขวาค่ะ
  • ห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Exclusive จะวางสลับกันอยู่ทางฝั่งรอบนอกอาคารหรือทิศเหนือ
  • ส่วนห้องที่ได้วิวสระว่ายน้ำจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Extra , 1 Bedroom Exclusive และมีห้อง 1 Bedroom Plus อยู่ที่มุมอาคารชั้นละ 3 ยูนิตค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Building A : Winter Season

  • Winter Lobby
  • Outdoor Lounge
  • Health Station
  • Laundry
  • Arctic Gym (Fitness)
  • Moonlight Pool
  • Mail Room
  • Bike Simulation
  • Stella Pavilion

Building B : Spring Season

  • Spring Lobby
  • Library Lounge
  • Laundry
  • Mail Room
  • Meeting Room
  • Podcast Room
  • Co-Working Area
  • Semi-Private Booth
  • Photo Studio
  • Musician Studio
  • E-Sport
  • Amphitheater
  • Bar
  • Co-Living
  • Game Room
  • Cinema
  • Outdoor Stretching Gym
  • Co-Living Outdoor Lobby
  • Co-Working Space Outdoor
  • Backyard Hammock
  • Reflexology Rejuvenize
  • Edible Garden & Social Space

Building C : Summer Season

  • Summer Lobby
  • Laundry
  • Mail Room
  • Outdoor Lounge
  • Co-Kitchen&Living (Chef’s Table)
  • Vending Machine
  • Lollipop Kid’s Club ( Play & Learn Corner / Rock Climbing / Sky Slider)
  • Flamingo Pavilion
  • Palm Beach Pool
  • Kid’s Pool
  • Jacuzzi
  • Sunset Slider
  • Sunrise Spiral

ระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ

  • รั้วรอบโครงการ
  • Smart Security Living (CCTV, Security Guard) ตลอด 24 ชั่วโมง
  • Smart Digital Door Lock
  • Keycard Access (ล็อคชั้น)

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ Atmoz Season ลาดกระบัง จะเน้นไปที่ห้องพักขนาดเล็ก 1 Bedroom เท่านั้น แต่ก็จะมีหลากหลาย Plan ให้เลือก ตั้งแต่ขนาด 23.2 ตร.ม. ไปจนถึง 34.9 ตร.ม. โดยราคาเริ่มต้นโปรโมชันจะอยู่ที่ 1.29 ล้านบาท ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ค่ะ

One Bedroom ขนาด 23.2 – 24.2 ตร.ม.
One Bedroom Exclusive ขนาด 26.3 – 27.8 ตร.ม.
One Bedroom Extra ขนาด 28.2 – 28.7 ตร.ม.
One Bedroom Plus ขนาด 34.4 – 34.9 ตร.ม.

ในรีวิวนี้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ดูถึง 3 ห้องเลย เป็นห้อง One Bedroom เริ่มต้นขนาด 23.5 ตร.ม. (ห้องราคาโปรโมชันจะมีผังแบบนี้ค่ะ) ส่วนห้องต่อมาจะเป็น One Bedroom Exclusive ขนาด 27.1 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนเยอะพอๆ กับ One Bedroom ขนาดเริ่มต้นเลย และห้องสุดท้ายที่จะไปรีวิวคือห้อง One Bedroom Plus ห้องใหญ่ขนาด 34.9 ตร.ม. ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ห้องแต่ละแบบหน้าตาเป็นอย่างไร ไปดูกันค่ะ

รายการวัสดุภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ดังนี้ โซฟา , ชั้นวางทีวี , โต๊ะกินข้าว , เก้าอี้ , ชุดครัว , ฐานเตียง และ ตู้เสื้อผ้า (ดีไซน์และขนาดขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
  • เครื่องปรับอากาศภายในห้อง (ขนาดและจำนวนขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
  • Smart Bluetooth Sound System (ลำโพงภายในห้อง)
  • พื้นห้องนอน+ครัว : พื้นไวนิลหนา 4 มม.
  • ผนังห้องฉาบเรียบทาสี
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ภายในครัวได้เคาน์เตอร์ Built-in พร้อมกระเบื้องแกรนิตโต้เป็น Backsplash ด้านหลัง
  • ชุดครัว อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และ เครื่องดูดควันของ Teka
  • พื้นและผนังภายในห้องน้ำติดกระเบื้องเซรามิค
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ Cotto และ American Standard

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ


1 Bedroom

ห้องตัวอย่างแรก เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นของโครงการ 23.5 ตร.ม. เป็นห้องตอนลึกที่มัดเอาฟังก์ชันอยู่อาศัยรวมกัน ทั้งโซฟาพักผ่อน กินข้าว และ เตียงนอน ส่วนห้องครัวและห้องน้ำ จะแยกออกไปอีกฝั่งมีประตูกั้นไม่ให้กลิ่นรบกวนกัน

ดีไซน์แบบนี้จะเหมือนกับห้องแบบที่เรียกว่า Studio ค่ะ ซึ่งมีข้อดีตรงนี้พื้นที่ห้องจะดูโล่งกว้าง เนื่องจากไม่มีประตูกั้นระหว่างโซฟาและเตียงนอน นอกจากนี้เราสามารถขยับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ปรับตำแหน่งการวางได้ตามใจ

โดยห้องนี้เหมาะสำหรับคนโสดหรืออยู่คนเดียวนะ ลองคิดดูว่าถ้าอยู่สองคน คนหนึ่งจะนอน อีกคนจะดูทีวี แสง+เสียงก็จะรบกวนกันได้ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสก็สามารถอยู่กันเป็นคู่ได้ค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ Living – Dining – Bedroom วางฟังก์ชันยาวต่อเนื่องลึกเข้าไปด้านใน พื้นที่ห้องดูมีขนาดกว้างเนื่องจากไม่มีผนังกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นค่ะ

ติดกับประตูจะเป็นโซนพักผ่อน ตรงนี้เราจะได้โซฟาและชั้นวางทีวีนะคะ (ดีไซน์คนละแบบกับในห้องตัวอย่าง)

วัสดุหลักภายในห้อง ตัวพื้นจะเป็นพื้นไวนิล ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้

โซฟาจัดวางได้ขนาด 2 ที่นั่งค่ะ

โซฟาของจริงที่ได้จะดีไซน์แบบนี้ค่ะ ฐานโซฟาจะมีลิ้นชักเก็บของเพิ่มเติมให้ นอกจากนี้ที่พนักพิงแขน ก็จะมี USB charge มาให้ด้วย สามารถนั่งพักผ่อน ชาร์จมือถือไปด้วย เล่นไปด้วยได้เลย

ขยับมาจะเป็นโต๊ะกินข้าว จัดไว้ได้ 1 ที่นั่ง

สำหรับห้องนี้จะได้โต๊ะกินข้าวที่พับเก็บได้ เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง โดยดีไซน์ของโต๊ะจะมีพื้นที่วางของด้านข้างมาให้ด้วย เผื่อใครเอาไว้วางกระดาษทิชชู่ เครื่องปรุงต่างๆ ก็เก็บไว้ตรงช่องต่างๆ ได้ค่ะ

ส่วนเก้าอี้จะได้สีฟ้าพาสเทลหน้าตาแบบนี้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวีค่ะ

ดีไซน์ของชั้นวางทีวีจะได้แบบนี้ เรามองว่าสามารถหากล่องรองเท้ามาวางได้ กลายเป็นพื้นที่เก็บรองเท้าได้ด้วย ทางเดินของจะได้ดูเรียบร้อยสวยงาม เวลาเดินเข้า-ออก ไม่มีรองเท้าวางเกะกะ

ถัดเข้ามาใจกลางห้องจะมีตู้เสื้อผ้ามาให้ค่ะ ดีไซน์เป็นบานเปิดสไลด์ ประหยัดพื้นที่ด้านหน้าตู้นะ

หน้าบานตู้ฝั่งหนึ่งจะเป็นกระจกใส อีกฝั่งเป็นบานทึบ กรอบบานเป็นสี Rose Gold ดูสวยงามเลย ส่วนภายในตู้ก็จะมีราวแขวนเสื้อมาให้และชั้นเก็บของด้านบน

พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้ามีขนาดกว้าง สามารถกางโต๊ะพับนั่งพื้นทำงานได้ด้วยค่ะ

ด้านในสุดของห้องจะเป็นมุมพักผ่อนวางเตียงนอน

ภายในห้องจะมีฐานเตียงมาให้ขนาดประมาณ 5 ฟุต ด้านข้างมีช่องเก็บของเพิ่มเติมมาให้

หน้าต่างห้องถือว่าได้บานใหญ่พอสมควร เปิดหน้าต่างที แสงสว่างส่องเข้ามาใจกลางห้องได้ทั่วถึง

ที่ปลายเตียงจะเหลือทางเดินเล็กๆ ไม่เหมาะสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพิ่มแล้วค่ะ แต่จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือผนังที่เป็น Peg board เป็นรูๆ ถือเป็นไอเดียน่าสนใจเพิ่มพื้นที่เก็บของบริเวณผนังได้นะคะ

จากพื้นที่พักผ่อนไปดูส่วน Service ของห้องกันค่ะ ตรงนี้จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เชื่อมไปยังครัวและห้องน้ำที่อยู่ด้านข้าง

เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวที่ Built-in มาให้ครบชุดเลย

Image 1/7
ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ติดตั้งกระเบื้องเป็น Back splash ทำความสะอาดคราบ ควันที่เกิดจากการทำอาหารได้ง่าย

ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ติดตั้งกระเบื้องเป็น Back splash ทำความสะอาดคราบ ควันที่เกิดจากการทำอาหารได้ง่าย

Image 1/2
ในส่วนของเครื่องซักผ้าก็จะมีการจัดเตรียมงานระบบไว้ให้ที่ระเบียง สามารถหาเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดราวๆ 9 กม.มาวางได้

ในส่วนของเครื่องซักผ้าก็จะมีการจัดเตรียมงานระบบไว้ให้ที่ระเบียง สามารถหาเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดราวๆ 9 กม.มาวางได้

ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเอาไว้ให้ โดยสุขภัณฑ์หลักๆ จะได้ของ Cotto มีกระจกเงาพร้อมชั้นวางของบริเวณกระจกให้มา

Image 1/3
ในห้องจริงจะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะคะ เราติดตั้งเป็นฉากกั้นหรือจะหาม่านอาบน้ำมาติดเพิ่มได้ไม่ยากค่ะ

ในห้องจริงจะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะคะ เราติดตั้งเป็นฉากกั้นหรือจะหาม่านอาบน้ำมาติดเพิ่มได้ไม่ยากค่ะ

นี่เป็นห้องตัวอย่างแรกที่เราพาไปดูกัน ห้องนี้เหมาะสำหรับคนโสดหรืออยู่คนเดียว ชอบห้องไม่ใหญ่มากแต่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน ราคาหยิบจับง่ายเริ่มต้นประมาณ 1.39 ล้านบาท และมีโปรโมชันพิเศษช่วงเปิดตัวเหลือ 1.29 ล้านบาทค่ะ


1 Bedroom Exclusive

ห้องตัวอย่างถัดมาเป็น 1 Bedroom Exclusive type B ขนาด 27.1 ตร.ม. ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์เป็น fully furnished โดยดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์จะเหมือนกันกับห้องที่แล้วนะคะ

แปลนห้องนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีค่ะ เป็นห้องหน้ากว้างที่ตัวห้องนอนเป็นห้องปิดเป็นสัดส่วน ตัวห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียงทำให้เวลาทำอาหารก็สามารถระบายกลิ่น ควันได้ดี ส่วนห้องนั่งเล่น+กินข้าวอยู่ติดกับทางเข้า แต่ก็จะได้แสงสว่างที่ส่องผ่านมาจากห้องครัว (ซึ่งเราค่อนข้างชอบแปลนแบบนี้ เพราะแสงสะท้อนจากหน้าต่างไปยังทีวีจะน้อย เหมาะสำหรับคนชอบดูทีวีในช่วงกลางวันนะคะ) และจุดสุดท้ายที่น่าสนใจคือห้องน้ำที่ออกแบบทางเข้า-ออกไว้ 2 ทาง สามารถเข้าได้ทั้งจากในห้องนอน และ ห้องนั่งเล่น เวลาที่แขกมาเยี่ยมก็ไม่ต้องผ่านห้องนอนเรา และช่วงเวลากลางคืนที่อยากเข้าห้องน้ำก็เดินมาได้โดยตรงเลยค่ะ

มาดูห้องตัวอย่างกันนะ ห้องนี้จะตกแต่งออกมาค่อนข้างจัดเต็ม แต่ในห้องมาตรฐานจะได้พื้นไวนิล(แบบในห้องตัวอย่าง) ผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ค่ะ

จุดที่น่าสนใจที่มีให้ในทุกๆห้องคือ Bluetooth Sound System ลำโพงพร้อมแผงควบคุมที่ช่วยให้เราเปิดเพลงฟัง สร้างบรรยากาศสนุกสนาน หรือผ่อนคลายได้เวลาที่เราอยู่บ้านนะ

Image 1/6
ตัวห้องนั่งเล่นจะรวมกับพื้นที่กินข้าวเอาไว้ ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะหน้าตาเหมือนที่เราแนะนำไปที่ห้องตัวอย่างก่อนหน้า

ตัวห้องนั่งเล่นจะรวมกับพื้นที่กินข้าวเอาไว้ ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะหน้าตาเหมือนที่เราแนะนำไปที่ห้องตัวอย่างก่อนหน้า

ไซส์ห้องขนาดกะทัดรัด โดยจะมีเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา โต๊ะกินข้าว และ เก้าอี้กินข้าวมาให้ ขนาดเลยจะพอดีกับพื้นที่ห้อง ไม่ต้องเสียเวลาวัดขนาดและหาเฟอร์นิเจอร์เองนะ

ระยะทางเดินกำลังดี สามารถหา coffee table เล็กๆ มาตั้งเพิ่มได้ค่ะ

มุมสำหรับกินข้าว ใครที่ไม่ชอบโต๊ะพับที่ทางโครงการให้มา ก็หาโต๊ะไซส์เล็กมาวาง เป็นพื้นที่กินข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งได้ค่ะ

พื้นที่ทางเดินถือว่าไม่เบียดนะ มี Space โล่งเล็กๆ มองว่าห้องกว้างอยู่ค่ะ

ที่มุมห้องติดกับพื้นที่กินข้าวจะเป็นห้องครัวค่ะ โดยครัวนี้จะเป็นห้องครัวปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน เปิดสุดได้ ช่วยให้แสงสว่างจากนอกอาคารมายังพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวได้

Image 1/5
เคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ของ Teka ผนังทางด้านหลังติดกระเบื้องเป็น Back splash ง่ายต่อการทำความสะอาด

เคาน์เตอร์ครัวจะมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ของ Teka ผนังทางด้านหลังติดกระเบื้องเป็น Back splash ง่ายต่อการทำความสะอาด

Image 1/2
ระเบียงตรงนี้จะเป็นระเบียงสำหรับ Service วาง CDU แอร์และเครื่องซักผ้า

ระเบียงตรงนี้จะเป็นระเบียงสำหรับ Service วาง CDU แอร์และเครื่องซักผ้า

ออกจากห้องครัวเราจะไปดูห้องน้ำกันต่อ โดยตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่หลังผนังฝั่งชั้นวางทีวีนะ

ห้องน้ำจะแยกส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ ได้ตามที่เห็นในรูปเลย ยกเว้นฉากกั้นอาบน้ำ

Image 1/5
ห้องน้ำมีทางเข้า-ออกสองทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ถือเป็นข้อดีอีกข้อของผังห้องนี้เลยค่ะ

ห้องน้ำมีทางเข้า-ออกสองทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ถือเป็นข้อดีอีกข้อของผังห้องนี้เลยค่ะ

มาดูที่ห้องนอนกันค่ะ ห้องนี้จะมีขนาดที่กว้างขึ้น เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะมีฐานเตียงและตู้เสื้อผ้า แต่ดูจากห้องตัวอย่างเรามองว่าจะหาโต๊ะเครื่องแป้งหรือมุมนั่งทำงานเพิ่มส่วนตัวภายในห้องนอนก็ทำได้นะ

Image 1/3
ระยะทางเดินรอบเตียงถือว่าไม่แคบมาก สามารถเดินได้สบายค่ะ

ระยะทางเดินรอบเตียงถือว่าไม่แคบมาก สามารถเดินได้สบายค่ะ

ปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้ แต่เรามองว่าไม่ต้องติดเพิ่มแล้วไปดูที่ห้องนั่งเล่นแทนดีกว่าค่ะ

ทางเข้าห้องน้ำจะมีมุมสำหรับแต่งตัวอยู่ด้านหน้าพอดี เป็นการออกแบบผังที่เป็นสัดส่วนดีนะคะ

Image 1/3
ข้างเตียงสามารถหาโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆมาวางได้ หรือจะเป็นโต๊ะเล็กข้างหัวเตียงก็ได้ค่ะ

ข้างเตียงสามารถหาโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆมาวางได้ หรือจะเป็นโต๊ะเล็กข้างหัวเตียงก็ได้ค่ะ

ห้องนี้เป็นห้องที่เรามองว่าเหมาะสำหรับอยู่กัน 2 คนแบบสบายๆเลยค่ะ ต่างคนต่างหามุมส่วนตัวไม่รบกวนกันได้ โดยห้องนี้จะมีราคาอยู่ในช่วง 1.5 – 2 ล้านบาทโดยประมาณ ใครที่อยากอยู่กันสองคนแล้วมีงบเพิ่มนิดหน่อย ห้องนี้ถือว่าน่าสนใจเลยนะ


1 Bedroom Plus

มาดูห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายกันค่ะ ห้องนี้จะอยู่ตำแหน่งมุมอาคาร เป็นห้อง 1 Bedroom Plus ได้ 1 ห้องนอน+ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งออกแบบผังมาได้ดีหลายจุดเลยค่ะ

  • ได้ครัวปิด
  • ห้องน้ำเข้า 2 ทาง (ห้องนอนสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้ง่าย และได้ความเป็นส่วนตัว)
  • ตำแหน่งครัวจะห่างจากห้องนอน โดยมีห้องน้ำคั่น เวลาทำอาหาร เผื่อมีกลิ่น หรือ ควันคลุ้งลอยออกมาก็จะไกลจากห้องนอนออกมาหน่อยค่ะ
  • ห้องอเนกประสงค์ ปรับใช้ได้ยืดหยุ่น เป็นห้องนอนรอง ห้องทำงาน หรือว่าพื้นที่เก็บของเก็บเสื้อผ้าเพิ่มเติมได้
  • ห้องนอนมีขนาดใหญ่ สามารถจัดฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น มุมอ่านหนังสือ หรือว่ามุมทำงานส่วนตัวได้

ห้องนี้จะอยู่ในช่วงราคาเริ่มต้น 2.42 – 2.87 ล้านบาท ใครที่มีงบเพิ่มหน่อย อยากได้ห้องพักที่อยู่สบาย ห้องนี้ถือว่าน่าสนใจเลยค่ะ

หน้าตาของประตูเข้าห้องจะปิดผิวลายไม้ ติดตั้ง Digital Door Lock ให้

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Common area ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเรียงถัดกันเข้าไป

ตรงนี้เราจะได้โซฟา / ชั้นวางทีวี ดีไซน์เหมือนกับห้องที่ผ่านมานะคะ

แต่ส่วนที่เป็นโต๊ะกินข้าว 2 ห้องตัวอย่างที่ดูไปก่อนหน้าจะเป็นโต๊ะแบบพับได้ แต่ห้องนี้จะเปลี่ยนมาเป็นโต๊ะยาวแทน รองรับได้ 2 ที่นั่ง กินข้าวไป ดูทีวีไปด้วยได้ (ดีไซน์ของโต๊ะจะไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง สามารถชมของจริงได้ที่สำนักงานขายค่ะ)

อีกฝั่งของห้องทางขวาจะเป็นครัว ตรงกลางเป็นห้องน้ำ ส่วนซ้ายมือเป็นห้องนอนค่ะ

Image 1/2
ประตูเข้าครัวเป็นบานเปิดเลื่อนกระจก 3 ตอน ให้แสงเข้าไปในครัวได้เต็มที่

ประตูเข้าครัวเป็นบานเปิดเลื่อนกระจก 3 ตอน ให้แสงเข้าไปในครัวได้เต็มที่

Image 1/9
พื้นที่ครัวจะกว้างขึ้น เข้ามุมเป็นรูปตัว L ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็กรุกระเบื้องเอาไว้ ให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

พื้นที่ครัวจะกว้างขึ้น เข้ามุมเป็นรูปตัว L ผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ก็กรุกระเบื้องเอาไว้ ให้ง่ายต่อการทำความสะอาด

หน้าตาสวิตช์ไฟและ Bluetooth sound system ที่ได้มาพร้อมกับตัวห้อง โดยจะมีลำโพงติดตั้งมาไว้ เชื่อมต่อ Bluetooth เปิดเพลงฟังได้ภายในห้องค่ะ

มาดูที่ห้องน้ำต่อกัน

ห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ส่วนแห้ง-เปียกออกจากกัน (ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมา สามารถติดตั้งเองภายหลัง หรือ ซื้อเป็นผ้าม่านอาบน้ำมาใช้แทนได้ค่ะ)

Image 1/5
ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนั่งเล่น และ ห้องนอน

ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง จากห้องนั่งเล่น และ ห้องนอน

ถัดเข้าไปด้านในจะแบ่งออกเป็น 2 ห้อง ห้องอเนกประสงค์ทางซ้าย แบ่งพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส ส่วนห้องนอนทางขวาจะได้เป็นประตูเปิดสวิงบานทึบ ให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว

ประตูกระจกใสของห้องอเนกประสงค์จะเป็นบานเลื่อน 3 ตอน พื้นที่เชื่อมต่อมายัง Common area ได้ ให้บรรยากาศห้องดูกว้าง

ห้องนี้จะอยู่ติดระเบียง สามารถปรับใช้เป็นห้องนอนได้ค่ะ จัดวางเตียงขนาดประมาณ 3-3.5 ฟุตได้นะ

หรือใครที่ต้อง Work from home ก็จัดเป็น Working Station สำหรับทำงานพร้อมกับงานอดิเรกอย่างต่อโมเดล เลโก้ จิ๊กซอว์ ฯลฯ ได้เลยค่ะ

ส่วนระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนี้ก็มีประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อออกไปอีกทีนะ

Image 1/3
เราสามารถนำเสื้อผ้าที่ซักในห้องครัวมาตากผึ่งแดดได้ค่ะ

เราสามารถนำเสื้อผ้าที่ซักในห้องครัวมาตากผึ่งแดดได้ค่ะ

มาดูที่ห้องนอนกันบ้างค่ะ เรามองว่าห้องนอนนี้มีขนาดใหญ่มาก เป็นไซส์ที่วางเตียงใหญ่แบบ king size ได้เลย แต่สำหรับเตียงที่ให้มาจะเป็นขนาด Queen Size นะคะ

Image 1/4
วางเตียงไปในห้องจะเห็นว่ามีพื้นที่รอบเตียงเหลือเยอะเลยค่ะ

วางเตียงไปในห้องจะเห็นว่ามีพื้นที่รอบเตียงเหลือเยอะเลยค่ะ

Image 1/2
หน้าต่างภายในห้องนอนถือว่ามีขนาดกว้างเลยค่ะ แสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึง

หน้าต่างภายในห้องนอนถือว่ามีขนาดกว้างเลยค่ะ แสงสว่างส่องเข้ามาได้ทั่วถึง

ส่วนหน้าห้องน้ำจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้

สำหรับห้องนี้ตู้เสื้อผ้าจะมีดีไซน์ที่แตกต่าง คือจะได้หน้าบานเป็นบานเปิดสวิงค์ และเป็นกระจกใสทั้งคู่ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนที่ยื่นออกมาเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งให้มาด้วย

ระยะตรงนี้ถือว่ากว้างพอสมควร หากระจกเงาแบบเต็มตัวมาวางข้างตู้เสื้อผ้าก็ได้นะคะ เอาไว้ส่องเช็คการแต่งตัวก่อนออกจากบ้านได้พอดีเลย

สำหรับห้องนี้ถือว่าเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ เป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่กัน 2 คน แต่ก็รองรับการมีสมาชิกคนที่ 3 เพิ่มได้ และเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยในการอยู่อาศัย เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบได้ค่ะ

ราคา

Atmoz Season ลาดกระบัง ราคา @ 8 May 2023

  • ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท (โปรโมชัน)

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • จอง 999 บาท
  • ทำสัญญา 5,999 – 10,999 บาท
  • ดาวน์ 18 งวด เริ่มเดือนละ 1,900 บาท (มีงวดบอลลูน 4 งวด)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
Atmoz Season ลาดกระบัง ตั้งอยู่บนถนนฉลองกรุง ในโซนนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซึ่งที่ตั้งนี้สามารถเดินทางไปยังพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบังได้ง่าย และก็ยังไม่ไกลจากสุวรรณภูมิด้วยค่ะ

ตรงนี้เป็นทำเลที่มีคอนโดเกิดขึ้นบ้าง ถ้ามองในแง่กลุ่มลูกค้าเรามองว่าเป็นคอนโดสำหรับคนที่ทำงานในนิคมฯเป็นหลัก และอาจจะมีนักศึกษาหรือคนที่ทำงานที่มหาลัยหรือสนามบินเป็นกลุ่มลูกค้ารอง ซึ่งคนที่เช่า apartment อยู่ในโซนนี้อยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อนคอนโดอยู่แทนได้ และ Atmoz Season ลาดกระบัง ก็ออกแบบมาให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย เสริมคุณภาพชีวิตขึ้นมาจากการอยู่ apartment หรือห้องเช่าค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
ทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ที่ถ.ฉลองกรุงเป็นหลัก ซึ่งใช้เชื่อมต่อไปยังถ.เจ้าคุณทหาร > ใช้วิ่งไปศรีนครินทร์-ร่มเกล้าได้ หรือจะไปยังมอเตอร์เวย์ ลาดกระบังได้สะดวก ถือเป็นจุดที่มีตัวเลือกวิ่งเข้าเมืองได้หลากหลายเส้นทาง โดย Atmoz Season ลาดกระบัง จะมีที่จอดรถให้มา 30-35% ถือว่าเป็นขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด แต่ก็มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ให้มาด้วย รองรับรูปแบบยานพาหนะที่คนในย่านนี้ใช้กันค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
บนถนนฉลองกรุงเองจะมีรถสาธารณะวิ่งผ่าน สามารถใช้เดินทางไปยังลาดกระบังหรือว่านิคมได้ นอกจากนี้เรามองว่าบริเวณนี้ไม่ได้ชานเมืองมาก สามารถเรียกรถ Taxi ผ่าน Application ต่างๆ ได้เช่นกันค่ะ

วัสดุ :
โครงการขายเป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ ให้มาครบ รวมถึงเครื่องปรับอากาศ, Digital Door Lock และ Bluetooth sound system ด้วยค่ะ ในแง่วัสดุก็เลยถือว่าเหมาะสมกับราคา เช่น พื้นไวนิล ได้ชุดครัว Built-in มาครบของ Teka ส่วนในห้องน้ำก็ได้สุขภัณฑ์ของ cotto เป็นหลักค่ะ

การออกแบบ :
Concept โครงการมาจากชื่อโครงการคือ Season ที่ต้องการให้คนที่อยู่ที่นี่สามารถสนุกได้ทุกฤดูกาล โดยตีโจทย์ออกมาเป็นการออกแบบ interior ทั้ง 3 อาคารให้มีโทนสีแตกต่าง และก็ออกมาเป็นเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะโครงการนี้เช่นกัน

ในการวางผังจะกระจายพื้นที่ส่วนกลางไปยังทุกอาคาร โดยลูกบ้านสามารถไปใช้ได้ทุกอาคารเลยค่ะ ส่วนแบบห้องพักอาศัยจะเน้นไปที่ห้องขนาดเล็ก 1 Bedroom – 1 Bedroom Plus ขนาดก็ 23 -35 ตร.ม.โดยประมาณ ซึ่งทำให้ราคาห้องรวมแล้วไม่สูงมาก สามารถหยิบจับได้ง่ายอยู่ค่ะ

สาธารณูปโภค :
ถือว่าเป็นจุดเด่น จุดขายของโครงการนี้เลย เพราะมีให้มาเยอะมาก ทั้งสระว่ายน้ำที่มีถึง 2 สระ พื้นที่สวนตรงกลางขนาดใหญ่ และฟังก์ชันภายในอาคารอย่างฟิตเนสที่ใช้ได้ 24 ชั่วโมง ห้องฟังก์ชันสนุกๆ อย่าง Podcast room, Game room, E-sport, Photo Studio และอีกมากมาย ที่เรามองว่าคนที่มีกิจกรรมหรืองานอดิเรกประเภทนี้อยู่แล้วน่าจะถูกใจ หรือคนที่ไม่เคยก็สามารถมาสร้างงานอดิเรก หรือความชอบใหม่ๆ ได้ที่นี่ด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 62,xxx บาท/ตร.ม., 18 May 2023

  • ทำเล 7.5/10 – ในโซนลาดกระบัง
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ใกล้ถนนใหญ่ เชื่อมต่อสะดวก
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – มีรถสาธารณะอยู่แถวถนนใหญ่
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished วัสดุสมราคา
  • แบบ 7.75/10 – จัดฟังก์ชันห้องออกมาดี
  • สาธารณูปโภค 9/10 – ให้ส่วนกลางเยอะ มากถึง 43 ฟังก์ชัน

  • ECONOMY to MAIN CLASS
  • 7.6375 / 10.00

Atmoz Season ลาดกระบัง เหมาะกับใคร?

Atmoz Season ลาดกระบัง เหมาะกับคนที่ทำงานในโซนนี้ อยากจะเปลี่ยนจากการเช่าห้องมาเป็นได้คอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต ไม่ได้หาคอนโดเอาไว้เพื่ออยู่ แต่อยากได้คอนโดที่สามารถใช้ชีวิตสนุกๆ ไปด้วยได้ ซึ่งฟังก์ชันส่วนกลางของที่นี่ก็สามารถสร้างกิจกรรมสนุกให้ได้เช่นกัน

ที่นี่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1-2 คน แต่ก็มีห้องที่รองรับได้ 3 คนเหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้น มีงบประมาณ 1 ล้านต้นๆ ก็ซื้อห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ได้ โดยห้องขนาดใหญ่ที่สุดก็ยังไม่เกิน 3 ล้านบาท แปลว่าคนที่เลือกอยู่ที่นี่น่าจะมีกำลังผ่อนประมาณ 9,800 – 20,000 บาท/เดือนค่ะ