ATMOZ KANAAL RANGSIT คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต บรรยากาศริมน้ำ ติดถนนรังสิต-ปทุมธานี จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2365]

 ATMOZ KANAAL RANGSIT (แอทโมซ คาแนล รังสิต) ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565

พิกัด Google Maps : 13.985441, 100.600508
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ATMOZ KANAAL RANGSIT ตั้งอยู่ติดถนนรังสิต-ปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ ทำเล “รังสิต” นี้ไม่บ่อยนักที่จะมีคอนโดมิเนียมมาเปิดโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบเสียมากกว่า โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่จะรายล้อมไปด้วยหมู่บ้านและอพาร์ตเมนต์ปล่อยเช่า สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น “รังสิต” ถือว่าเป็นทำเลที่ครบครัน มีความอุดมสมบูรณ์สูง รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้า Hypermarket และตลาดมากมาย ยิ่งมีการมาของรถไฟฟ้าสายสีแดงก็ยิ่งทำให้รังสิตเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ 

โดยจุดศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์หลักของย่านนี้จะอยู่ที่บริเวณฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่จะมีทั้งเมเจอร์ โลตัส โรงพยาบาล และบริเวณใกล้ๆกับโครงการจะมีตลาดอยู่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ ทั้งตลาดรังสิต ตลาด 200 ปี และตลาดสุชาติ เราสามารถหาซื้อของกินในราคาย่อมเยาได้ตลอด ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์เลย นอกจากนั้นยังมีสถานศึกษาในบริเวณใกล้เคียงอย่าง ม.รังสิต  รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต รร.Saint Joseph เมืองเอก และถ้าถัดขึ้นไปก็จะมี ม.กรุงเทพ และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิตอีกด้วย ส่วนแหล่งงานก็จะมี Workpoint Entertainment และนิคมอุตสาหกรรมบางกะดีอยู่ในบริเวณใกล้เคียงค่ะ

การเดินทางถือว่าสะดวกสามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย เชื่อมต่อใจกลางเมืองได้ด้วยทางด่วนและโทลล์เวย์ และยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียงได้ทั้งนครนายก  อยุธยา และนนทบุรี มีรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองโดย ห่างจากสถานีรังสิตประมาณ 700 เมตร และทางโครงการได้มี Shuttle Service บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางอีกด้วย และทางโครงการได้มี Shuttle Service บริการรับ-ส่งลูกบ้านที่สถานีรังสิต และฟิวเจอร์พาร์คเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางอีกด้วย

เส้นทางการเดินทาง

การเข้าถึงโครงการถ้าเรามาจากในเมืองโดยใช้ถนนวิภาวดีรังสิต เราสามารถวิ่งเข้าถนนกำแพงเพชร 6 ตรงมาเรื่อยๆ พอเจอถนนรังสิต-ปทุมธานี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยค่ะ เส้นทางนี้ถือว่าสะดวกมากๆ

ส่วนถ้าเรามาจากฝั่งรังสิต-นครนายกหรือถนนพหลโยธิน โดยใช้ถนนรังสิต-ปทุมธานี เราจะต้องข้ามสะพานข้ามแยก ซึ่งขาลงสะพานเราจะเลยทางเข้าโครงการ ต้องตรงไปเลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถมาเข้าถนนรังสิต-ปทุมธานีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อไปกลับรถใต้สะพานมาเข้าโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ATMOZ KANAAL RANGSIT ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า อพาร์ตเมนต์ และตลาด ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่รังสิต-ปทุมธานี ช่วงทางลงสะพานข้ามแยก ซึ่งถ้าเราขับรถลงสะพานมาจะเลยทางเข้า-ออก จึงต้องไปกลับรถมาเข้าโครงการ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (วัดระยะจากการใช้รถ / รวมระยะกลับรถ)

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาด 200 ปี ∼ 3 กิโลเมตร
• ตลาด รังสิต ∼ 4.4 กิโลเมตร
• ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ∼ 4.7 กิโลเมตร
• โลตัส รังสิต ∼ 4.7 กิโลเมตร
• ตลาด สุชาติ ∼ 5 กิโลเมตร
• เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ∼ 5.3 กิโลเมตร
• แม็คโคร รังสิต ∼ 6.1 กิโลเมตร
• เซียร์รังสิต ∼ 7.9 กิโลเมตร
• ตลาดสี่มุมเมือง ∼ 8.3 กิโลเมตร
• The Nine Center ติวานนท์ ∼ 11.4 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาล ปทุมเวช ∼ 3.4 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล เปาโลรังสิต ∼ 4.9 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ∼ 6 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล แพทย์รังสิต ∼ 7.3 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล บางปะกอก-รังสิต ∼ 8.4 กิโลเมตร
• โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ ∼ 9.2 กิโลเมตร

โรงเรียน

• รร.Saint Joseph เมืองเอก ∼ 2.1 กิโลเมตร
• รร.สาธิตแห่ง มหาวิทยาลัยรังสิต ∼ 2.9 กิโลเมตร
• ม.รังสิต ∼ 5 กิโลเมตร

แหล่งงาน

• นิคมอุตสาหกรรม​บางกะดี ∼ 8.5 กิโลเมตร

ATMOZ KANAAL RANGSIT เป็นโครงการที่ 7 ภายใต้แบรนด์ ATMOZ โดยแบรนด์นี้จะพัฒนาโครงการออกมาเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม Low Rise สไตล์รีสอร์ตส่วนตัว ที่มีจุดเด่นคือบรรยากาศที่มีความร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน และพื้นที่ส่วนกลางที่จัดเต็มแบบสุดๆ

สำหรับ Concept ในการออกแบบโครงการ ATMOZ KANAAL RANGSIT นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมือง Amsterdam เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองริมแม่น้ำบรรยากาศสุดโรแมนติก ซึ่งที่ตั้งของโครงการเองก็ตั้งอยู่ริมน้ำเช่นเดียวกันค่ะ โดยการออกแบบจะนำเอาบรรยากาศและรายละเอียดของเมือง Amsterdam มาใช้ในการออกแบบเช่น งานสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งเราจะเห็นอย่างโดดเด่นในพื้นที่ส่วนกลางทั้งภายในและภายนอกอาคาร โครงการนี้มีส่วนกลางมาให้กว่า 43 รายการ บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร ถือเป็นโครงการที่ให้ส่วนกลางมากกว่าที่อื่นบนทำเลรังสิตในช่วงเวลานี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

ATMOZ KANAAL RANGSIT เป็นโครงการคอนโด Low Rise 4 อาคาร จำนวน 974 ยูนิต และ ร้านค้า จำนวน 5 Shops บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ จุดเด่นหนึ่งของโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาแบบจัดเต็มมากๆ มีหลายฟังก์ชัน รองรับทั้งกลุ่มคนทำงาน บุคลากรทางการแพทย์ อาจารย์ และนักศึกษา โดยจะมีทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ภายนอกอาคารและภายในอาคาร

ทางโครงการวางผังโดยเอาพื้นที่ส่วนกลางมาไว้ตรงกลางและรายล้อมด้วยกลุ่มอาคาร ซึ่งข้อดีห้องพักอาศัยฝั่งที่อยู่ด้านในจะสามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ และยังเป็นการกระจาย Facilities ให้คนแต่ละอาคารลงมาใช้งานได้สะดวก สามารถจัดบรรยากาศให้มีพื้นที่สีเขียว มีความร่มรื่นตามสไตล์รีสอร์ตได้

อาคาร A และ C จะอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก ส่วนอาคาร B และ D จะอยู่ถัดเข้ามาด้านใน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าหน่อย โดยห้องที่อยู่ในอาคาร C และ D ฝั่งด้านนอกโครงการจะเห็นวิวบรรยากาศริมน้ำ อาคาร A และ B จะเห็นวิวรถไฟฟ้า ส่วนพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารจะมีการกระจายกันอยู่ในแต่ละอาคาร มี Lobby มาให้ใช้ทุกอาคาร ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆนั้น เราขอสปอยไว้ก่อนว่าทางโครงการจัดเต็มมาให้ทั้งฟังก์ชันและการออกแบบไม่แพ้ภายนอกอาคารเลยค่ะ

เราจะพาไปชมโครงการกันทีละส่วนนะคะ เริ่มจากบริเวณทางเข้าโครงการที่ได้บรรยากาศร่มรื่นจากแนวต้นไม้ใหญ่ ให้อารมณ์คอนโดสไตล์รีสอร์ตตั้งแต่หน้าโครงการเลย โครงการนี้จะมีนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและความปลอดภัยมาให้ครบครันทั้ง

• SMART ASSETWISE APPLICATION
• SMART CONTROL BOOKING FACILITIES
• SMART DIGITAL DOOR LOCK
• SMART VENDING MACHINE
• SMART LAUNDRY
• SMART LOCKER
• SMART SECURITY LIVING
• BLUETOOTH SOUND SYSTEM
• HOME AUTOMATION

นอกจากนั้นยังมีการออกแบบการใช้ชีวิตแบบไร้สัมผัส ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ส่วนกลางไปจนถึงห้องพักเลยค่ะ

เข้ามาในโครงการจะเจอกับอาคารที่เป็นสำนักงานขายในปัจจุบัน และร้านค้าจำนวน 5 ร้าน

สำนักงานขายมีการออกแบบโดยใช้ซุ้มประตูโค้งที่นำเอาดีเทลมาจากงานสถาปัตยกรรมของเมือง Amsterdam มาใช้ในการออกแบบ มีการติดจอ Present Concept ของโครงการทำให้อาคารดูเด่นมากๆค่ะ และมีลูกเล่นโดยการติดอักษรคำว่า I am atmoz ซึ่งได้ไอเดียมาจากป้าย I amsterdam จุดถ่ายรูปยอดฮิตของเมืองค่ะ

ภายในสำนักงานขายจะจำลองเอาดีไซน์บางส่วนของ Grand Lobby Lounge มาไว้ที่นี่ค่ะ

Outdoor Facility

Outdoor Facility ส่วนแรกจะอยู่ระหว่างอาคาร A และ C ที่ชั้น 2 โดยจะมี Outdoor Working Area ให้เราได้มานั่งพักผ่อนหรือทำงานท่ามกลางความร่มรื่นของสวนหย่อม ถัดมาจะเป็น Sky Bar ริมสระว่ายน้ำ ที่ด้านล่างดีไซน์เป็นม่านน้ำตกและ Jacuzzi

ถัดมาเป็นส่วนที่เป็นไฮไลท์ของโครงการเลยก็ว่าได้ค่ะ บริเวณกลางโครงการจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Olympic Size ยาว 50 เมตร ที่จัดฟังก์ชันกิจกรรมมาให้ใช้หลากหลายทั้ง Hydro Therapy ให้นอนแช่พักผ่อน นวดตัว / Fun Pool ที่มีสไลเดอร์เอาไว้เล่นสนุกๆ / Kid’s Pool สำหรับน้องๆหนูๆ / Waterfront Chilling Area และ The Glass House บริเวณนี้เปรียบเสมือน Co-Working Space ที่เปิด 24 ชม. ให้ลูกบ้านได้มา Work From Kanaal เทควิวสระว่ายน้ำแบบ Panorama เลยทีเดียว โดยได้นำเอาสถาปัตยกรรมบ้านแบบหลังคาจั่ว และสะพานข้ามแม่น้ำมาจากเมือง Amsterdam

รวมถึงรอบๆสระทางโครงการได้จัดพื้นที่พักผ่อนมาให้หลายจุดทั้ง Sun Lounge และ Net Seating เปลตาข่ายให้เรามานั่งเล่นหรือมาถ่ายรูปสวยๆเสมือนอยู่ในคาเฟ่ค่ะ

ต่อมาบริเวณด้านล่างระหว่างอาคาร B และ D จะมีจุดชมวิวที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหย่อม ซึ่งบริเวณนี้ได้มีการออกแบบให้มีลิฟต์ขึ้นมาชั้น 2 เพื่อรองรับกลุ่มคนสูงวัยและคนที่ต้องใช้ Wheel Chair นอกจากนั้นบนชั้น Roof Top ของอาคาร B จะมี Organic Garden ให้ลูกบ้านมาปลูกผักรับประทานได้ และ Glamping and Outdoor Cinema สำหรับฉายหนังกลางแจ้งค่ะ

The Glass House ที่เป็นไฮไลท์ของโครงการจะเปิดให้ใช้งาน 24 ชั่วโมงเลยนะคะ เราสามารถมานั่งพักผ่อนได้ตลอด บรรยากาศบริเวณนี้ทำออกมาได้ดีตรง Concept ทีเดียวค่ะ

ภายใน The Glass House จะมีบรรยากาศโปร่งโล่งจากฝ้าเพดานที่สูงและดีไซน์ผนังที่เป็นกระจกตลอดทั้งแนว ทางโครงการจัดที่นั่งมาให้นั่งทำงานหรือพักผ่อนชมวิวสระว่ายน้ำและสวนหย่อม การออกแบบบริเวณนี้จะใช้โครงสร้างและหน้าต่างซุ้มทรงโค้งให้ได้กลิ่นอายของเมือง Amsterdam

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารนั้น ทางโครงการจัดมาให้กระจายอยู่ในทุกๆอาคาร ไม่ได้มีการใช้งานจุดเดียวเหมือนคอนโดอื่นๆทั่วไป เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก ไม่ว่าจะอยู่อาคารไหน โดยได้จัดกลุ่มให้แต่ละอาคารก็มี Character ที่แตกต่างกันไป รองรับคนได้หลากหลาย Lifestyle ค่ะ

• อาคาร A – จะเน้นพื้นที่นั่งพักผ่อน พื้นที่ทำงานและติวหนังสือจึงมี Lobby มาให้ทั้ง Grand Lobby Lounge (สำหรับแขก) และ Atmozer’s Lobby (สำหรับลูกบ้าน) มี Cafe ให้นั่งทำงานหรือพักผ่อนแบบชิลล์ๆ รวมถึงมี Tutor Working Pod  มาให้น้องๆนักเรียน นักศึกษาด้วย
• อาคาร B – เป็นอาคารที่เหมาะกับคนที่เป็นสาย Game สายบันเทิง เพราะมี VR Room Play Space และ Game Arena มาให้ มี Karaoke Room ให้ร้องเพลงคลายเครียด และ Live Studio สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มา Live ขายของกันค่ะ
• อาคาร C – เป็นอาคารที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวขึ้นมาหน่อย ส่วนกลางจะเป็นกลุ่มของการ Therapy ทำสวย จัดปาร์ตี้ รวมถึงมี Library Lounge และ Kid’s Club อยู่ในอาคารนี้ด้วยค่ะ
• อาคาร D – เป็นอาคารสำหรับคนสายสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายและกิจกรรมที่ Active โดยห้องฟิตเนส  FIT STATION (เปิด 24 ชม.) Yoga Club Sauna และ Social Club จะอยู่ที่อาคารนี้ค่ะ

อาคาร A

เข้ามาในอาคาร A จุดแรกที่จะเจอคือ Grand Lobby Lounge ที่บรรยากาศจะคล้ายๆกับสำนักงานขาย โดยจะเป็น Lobby ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ ซึ่งการออกแบบจะใช้ดีเทลของสถาปัตยกรรมของ Amsterdam มาลดทอนผสมกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น

ถัดมาเป็น ATMOZer’s Lobby เราอยากบอกว่าแต่ละอาคารของโครงการนี้จะมี Lobby มาให้ทุกอาคาร และมีการดีไซน์ที่แตกต่างกันเป็น Gimmick ด้วยค่ะ

ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับ Tutor Working Pod  สำหรับมานั่งทบทวนตำราหรือติวหนังสือแบบตัวต่อตัว หรือกลุ่มเล็กๆ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มน้องๆนักเรียนนักศึกษาค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปจะเริ่มเป็นห้องพักอาศัย โดยห้องพักจะแบ่งออกเป็น 4 Type ห้อง 1 Bedroom จะมีให้เลือกทั้ง 2 ฝั่ง (ทิศตะวันออกและตะวันตก) ห้อง 1 Bedroom Extra จะอยู่ฝั่งด้านในโครงการที่เห็นวิวเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนห้อง 1 Bedroom Exclusive จะอยู่ฝั่งด้านนอกโครงการทางทิศตะวันออกค่ะ ชั้น 3-8 ผังจะคล้ายๆกันเพียงแต่จะมีห้อง  1 Bedroom Plus เพิ่มเข้ามาชั้นละ 2 ห้อง แทนที่พื้นที่ Tutor Working Pod (ในตำแหน่งที่เราวงเส้นประสีแดงไว้) และเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะอยู่ทางปีกอาคารที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ เนื่องจากตำแหน่งของลิฟต์จะค่อนมาทางฝั่งขวามากกว่าค่ะ

อาคาร B

Lobby ของอาคาร B คือ Green Haus Lobby ที่เอาดีไซน์ของงานโครงสร้างมาผสมกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น บรรยากาศจะเท่ๆหน่อย

อาคารนี้อย่างที่บอกไปว่าพื้นที่ส่วนกลางจะเหมาะกับคนที่เป็นสาย Game สายบันเทิงเริ่มจากชั้นล่างที่จะมี Play Space พื้นที่นั่งเล่น ที่มีโต๊ะพูลมาให้ด้วย บริเวณนี้จะเชื่อมต่อกับ VR Room และ Game Arena

ห้อง Game Arena ที่คนที่ชอบเล่น Game ต้องร้องว้าวแน่นอนค่ะ

ถัดมาในอาคารนี้จะมี Grab n’ Go Station พื้นที่สำหรับรอรับ-ส่งพัสดุหรืออาหาร ซึ่งปัจจุบันนี้  Delivery ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว

ส่วนใครที่ขายของออนไลน์ ทางโครงก็มี Live Studio มาให้ สามารถมาจองห้อง Live สดขายของกันได้

ถ้าใครทำงานกันเครียดๆอยากผ่อนคลาย อาคารนี้จะมีห้อง Karaoke Room มาให้ด้วยนะคะ

อาคาร C

เรามาต่อกันที่อาคาร C ซึ่ง Lobby ของอาคารนี้คือ The Hallway มาในโทนเรียบหรู โอ่โถง

พื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จะรวมกิจกรรมการพักผ่อน นวดตัว เสริมสวย Therapy อยู่ด้วยกัน อย่างห้องนี้คือ Healing Therapy ที่เราสามารถจ้างช่างมาทำสปา นวดตัวในวันที่เหนื่อยล้าได้

ส่วน Grooming Salon นี้น่าจะเป็นที่ถูกใจของสาวๆ เพราะสามารถจ้างช่างทำผม ทำเล็บมาทำได้ถึงในโครงการได้อย่างเป็นส่วนตัว ไม่ต้องออกไปที่ร้านให้เหนื่อยค่ะ

ห้อง Co-Dining Party สำหรับจัดปาร์ตี้ งานเลี้ยงต่างๆ หรือจะมาใช้ห้องเพื่อทำอาหารกินกันเองในครอบครัวในโอกาสสำคัญก็ได้ค่ะ ภายในห้องตกแต่งสวยงาม เน้นโทนสีขาว ดูหรูหรามากๆ และยังได้วิวสระว่ายน้ำจากผนังกระจกบานใหญ่ด้วยนะ

นอกจากนั้นยังมี Private Tutor ห้องติวแบบส่วนตัวเอาไว้รองรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการติวแบบกลุ่มใหญ่ หรือใช้ห้องสำหรับประชุมทำรายงาน

Kid’s Club ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องที่เราชอบมากๆ เพราะออกแบบมาสวย สีสันสดใส จัดเต็ม ของเล่น เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก โดยห้องนี้นอกจากดีไซน์สวยแล้วยังคำนึกถึงความปลอดภัยของคุณหนูๆ โดยจะเลือกวัสดุที่เหมาะกับเด็ก และมีการลบเหลี่ยมมุมทุกจุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอีกด้วย

Library Lounge ที่ออกแบบมาได้สวยเหมือนหลุดเข้าไปในหนังเรื่อง Harry Potter ภายในมีทั้งที่นั่งแบบเป็นส่วนตัว 1-2 คน โต๊ะใหญ่สำหรับนั่งเป็นกลุ่มและมีห้องประชุม Gathering Room มาให้ด้วยค่ะ

อาคาร D

FIT Station หรือห้องฟิตเนสเป็นอีกโซนที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงค่ะ หมดปัญหาทำงานเลิกดึกกลับบ้านมาแล้วฟิตเนสปิดไปเลย การออกแบบจะใช้อิฐและโครงสร้างงานสถาปัตยกรรมของเมือง Amsterdam ทำให้ห้องดูสวยคลาสสิกค่ะ

อาคาร D จะเป็นรูปตัว L ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 เช่นเดียวกัน โดยสัดส่วนของห้องพักจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom Exclusive ตั้งแต่ชั้น 3-8 จะมีห้อง 1 Bedroom Extra 27.30 – 28.80 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus 34.60 – 34.90 ตร.ม. เพิ่มเข้ามาค่ะ โดยห้อง 1 Bedroom Plus จะอยู่บริเวณมุมของอาคารและเป็นตำแหน่งห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

*ปัจจุบันทางโครงการเปิดขายอาคาร A และ D ก่อนจึงมีแปลนมาให้ชมกันเฉพาะ 2 อาคารนี้นะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

G Floor

• Sun Lounge
• Fun Pool
• Jacuzzi
• Hydro Therapy
• Sunlight Pool
• Kid’s Pool
• Net Seating
• The Glass House (24 Hrs.)
• Edible Garden
• Waterfront Chilling Area
• Outdoor Terrace with Pier
• Bike Station

ชั้น2

• Outdoor Working Area
• Sky Bar
• Sky Garden
• View Deck

Rooftop

• Organic Garden
• Glamping and Outdoor Cinema

อาคาร A

• ATMOZer’s Lobby
• Grand Lobby Lounge
• Tutor Working Pod
• Outdoor Chilling cafe

อาคาร B

• Green Haus Lobby
• Play Space
• VR Room
• Game Arena
• Grab n’ Go Station
• Laundry
• Live Studio
• Karaoke Room

อาคาร C

• The Hallway Lobby
• Gathering Room
• Library Lounge
• Co-Dining Party
• Kid’s Club
• Healing Therapy
• Grooming Salon
• Private Tutor

อาคาร D

• Social Club
• FIT Station (24 Hrs.)
• Yoga Club
• Sauna
• Cinematic Room

• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 121 :  1
• ประมาณ 37% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV

มีห้องแบบไหนให้เลือกบ้าง?

ห้องพักอาศัยในโครงการ  ATMOZ KANAAL RANGSIT  มีทั้งหมด 4 Type ได้แก่

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.60 – 24.70 ตร.ม.
• 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.60 – 26.90 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.30 – 28.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.60 – 34.90 ตร.ม.

โดยห้อง Type 1 Bedroom Exclusive จะแบ่งย่อยเป็นอีก 2 แบบ B1 และ B2 โครงการจะมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบชุด รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศ (จำนวน BTU ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง) เพียงซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาเพิ่มก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยค่ะ

สรุปรายการวัสดุ

พื้น

• ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และเตรียมอาหาร = พื้น Smart Vinyl ขนาด 6″x36″ หนา 3 mm.
• ห้องน้ำ และ ระเบียง = กระเบื้องเซรามิก

โซนครัว

• Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์
• Hob&hood จาก Teka
• Sink จาก Teka

ห้องน้ำ

• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto
• ก๊อกและอ่างล้างหน้าของ Cotto
• ฝักบัวของ American Standard

พาชมห้องตัวอย่าง

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทุกแบบเลยนะคะ แต่จะเน้นไปที่ 1 Bedroom กับ 1 Bedroom Exclusive (B1) ค่ะ

เริ่มกันที่ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 24.2 ตารางเมตร ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ Living Area และ Bedroom เป็นหลัก เพราะเขาจัดพื้นที่ของ 2 โซนนี้มาให้ค่อนข้างกว้างโดยไม่มีผนังกั้น และวางตำแหน่งไว้ให้ติดกับหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง แต่พื้นที่ครัวและห้องน้ำจะอยู่ด้านในฝั่งหน้าห้องแทน โดยครัวจะมีการกั้นเป็นครัวปิดมาให้เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารในห้องได้ค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ก็จะได้ครบตามในรูปเลยค่ะ ให้มาครบครันและดีไซน์สวยงามน่าใช้ โดยที่นี่ถือเป็นโครงการแรกที่มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใสค่ะ

เริ่มจากทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้สำเร็จรูป ติดระบบ Digital Door Lockมาให้

ซึ่ง Digital Door Lock รุ่นที่ทางโครงการเลือกมาใช้นี้สามารถเปิดประตูได้ทั้งหมด 5 วิธี ได้แก่ Fingerprint, RFID Card , Password กุญแจ Master Key และ Bluetooth

เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวเป็นโซนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Living Area ซึ่งทางโครงการออกแบบให้มีประตูกั้นปิดระหว่างห้องไว้ด้วย ทำให้เวลาทำอาหารกลิ่นและควันในห้องครัวไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่อยู่อาศัยด้านใน

เคาน์เตอร์ครัวจะมีขนาดกะทัดรัดหน่อย เหมาะกับการใช้งานในห้องที่อยู่อาศัยกัน 1-2 คน แต่ก็ยังได้ฟังก์ชันมาครบทั้งลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ลิ้นชักเก็บของ Hob&Hood และอ่างล้างจาน

จุดที่เราชอบมากคือมีลิ้นชักที่ดึงออกมาเป็นที่วางของได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับครัวในคอนโดได้ดีค่ะ

Hob&Hood และอ่างล้างจาน เราจะได้ของ Teka หน้าตาตามในรูปเลยนะคะ

มองกลับมาที่บริเวณหน้าห้อง ห้องครัวจะอยู่ติดกับห้องน้ำค่ะ

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ติดกับโซนครัวเลยค่ะ ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันต่างๆ ไว้ครบและมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกัน

พื้นที่อาบน้ำทางโครงการกั้น Shower Box มาให้เป็นสัดส่วน โดยประตูเป็นบานเปิดแบบ3 ตอน ช่วยให้ได้ช่องเปิดที่กว้าง

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเราจะได้ของตามนี้เลยค่ะ

ผนังบริเวณพื้นที่อาบน้ำ ทางโครงการเลือกใช้กระเบื้องทำให้ห้องดูสว่าง โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.95 x 1.10 เมตร สามารถอาบได้สบายๆ และมีการทำช่องสำหรับวางของมาให้ด้วย

ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่รวมกันของ Living Area + Bedroom ซึ่งมีการวางผังแตกต่างจากแปลนห้องอื่นที่มักจะกั้นฟังก์ชันแยกกันเป็นห้องๆ ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้คือความโปร่งโล่ง เชื่อมต่อ Space ถึงกัน เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นห้องนี้จะได้ระยะดูทีวีที่กว้างถึง 3.80 เมตร สามารถวางทีวีได้ถึง 55 นิ้ว

พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดกับเตียงนอนแบบนี้ ถ้าดูทีวีอยู่ก็สามารถกลิ้งตัวลงไปนอนได้เลย ด้วยความที่มีระยะดูทีวีที่กว้างจึงทำให้มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลางหน้าโซฟาได้ด้วย เผื่อไว้สำหรับวางแก้วน้ำ ขนมต่างๆ หรือใช้รับประทานอาหาร

ทุกห้องของโครงการจะได้ BLUETOOTH SOUND SYSTEM และ HOME AUTOMATION ที่เป็นมาตรฐานของแบรนด์มาให้ด้วยค่ะ

ห้องนี้จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยโซนเตียงนอนเป็นหลัก จึงวางไว้ในตำแหน่งด้านในสุดติดกับหน้าต่าง เป็นโซนที่ได้วิวและแสงธรรมชาติผ่านเข้ามา และจัดระยะรอบเตียงให้สามารถเดินได้รอบด้าน

บริเวณฐานเตียงจะมีการเพิ่มฟังก์ชันในการเก็บของมาให้ สามารถวางหนังสือหรือของใช้เล็กๆน้อยๆได้ค่ะ

บริเวณปลายเตียงจะมีพื้นที่ให้วางชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าได้

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้ เป็นตู้บานเลื่อนที่หน้าบานมีทั้งกระจกและบานทึบ ภายในสามารถแขวนผ้าและเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้

ผนังด้านข้างเตียงเป็นมุมที่โปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากทั้งประตูและหน้าต่าง

ซึ่งด้านข้างเตียงยังเหลือพื้นที่อเนกประสงค์อีกนิดหน่อย สามารถใช้วางโต๊ะทำงานก็ได้ หรือทำเป็นโซฟาตัวยาว ไว้นั่งชมวิวริมหน้าต่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์เจ้าของห้องเลยค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.00 x 1.50 เมตร มีติดตั้งก๊อกน้ำและปลั๊กไฟมาให้ครบ Condensing Unit ของแอร์จะแขวนหันออกนอกอาคาร ทำให้เวลามาใช้งานไม่โดนลมร้อนค่ะ

ห้องตัวอย่างถัดมาที่เราจะพาไปชมคือ 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 26.1 ตารางเมตร หรือ Type B1

ข้อดีของห้องนี้คือทุกฟังก์ชันจะมีประตูกั้นออกเป็นสัดส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ทำได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว รวมถึงห้องครัวก็ได้เป็นครัวปิด ทำอาหารที่มีกลิ่นก็สามารถเปิดประตูระเบียงระบายกลิ่นและควันได้ มีโต๊ะรับประทานอาหารเป็นสัดส่วน ห้องน้ำก็เข้าได้ 2 ทางคือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้เวลาเพื่อนๆ มาหาที่ห้องแล้วอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน จึงเป็นแปลนที่เรามองว่าลงตัวดีนะคะ จากขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 26 ตร.ม. นั้นถือว่าไม่เล็กจนเกินไปที่จะอยู่กัน 1-2 คน ได้ค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มาจะหน้าตาเหมือนในภาพนี้นะคะ

ห้องนี้เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นห้องนอนและห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียง สังเกตว่าทุกห้องจะมีการกั้นผนังเป็นสัดส่วนเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว สามารถอยู่ได้สบายๆมากกว่า 1 คน โดยไม่รบกวนกัน

ห้องนี้เราจะได้ระยะดูทีวีกว้าง 2.55 เมตร สามารถวางทีวีได้ถึง 50 นิ้วและมีพื้นที่สำหรับจัดวางชั้นวางทีวีถึง 2 เมตร ดังนั้นถ้าใครอยากได้พื้นที่วางของหรือโชว์งานอดิเรกเหมือนในห้องตัวอย่างก็สามารถ Built-in ได้เต็มที่ค่ะ

ข้างๆโซฟาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะอาหาร ห้องนี้จะมีฟังก์ชันพื้นฐานค่อนข้างครบ อยู่อาศัยได้แบบสบายๆ

ถัดจากห้องนี้ไปจะเป็นห้องครัว ห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งทุกห้องจะมีการกั้นประตูเป็นสัดส่วนทั้งหมดค่ะ

ครัวของห้องนี้เป็นครัวปิด ดังนั้นจึงสามารถทำอาหารได้เต็มที่และข้อดีอีกจุดคือเป็นครัวที่ติดกับระเบียงสามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ

ชุดเคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้า ที่ดูดควัน อ่างล้างจาน ทางโครงการมีมาให้ครบ Spec เหมือนกับห้องก่อนหน้านะ

มีพื้นที่ระเบียงให้ออกมาใช้งาน ซักล้างได้ค่ะ โดยทางโครงการได้เตรียมก๊อกน้ำและปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำก็มีความเป็นสัดส่วน แยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้ กั้นด้วยฉากกั้นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ข้อดีของบานเลื่อน 3 ตอนคือ ทำให้เราสามารถเปิดประตูได้กว้าง ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้อง Type นี้เลยก็คือ ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากทางห้องนั่งเล่นและห้องนอน เวลาดึกๆ อยากเข้าห้องน้ำก็สะดวก ไม่ต้องเดินอ้อม หรือเวลาที่เพื่อนมาหาก็เข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเช่นกัน

สุขภัณฑ์ได้ของ Cotto โดยอ่างล้างหน้าจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของใต้อ่างได้ ส่วนโถสุขภัณฑ์ให้มาพร้อมอุปกรณ์ในห้องน้ำอื่นๆ ได้แก่ สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างยาวประมาณ 0.87 x 1 เมตร กั้นพื้นที่ด้วยขอบ Shower Box เพื่อไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง พร้อมติดตั้งฝักบัวของ American Standard และมีพื้นที่สำหรับวางของที่ผนังมาให้ค่ะ

ห้องนอนมีการกั้นผนังเป็นสัดส่วน โครงการจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ชิดหน้าต่าง จึงสามารถนอนดูทีวีและชมวิวภายนอกไปพร้อมๆ กันได้ และยังได้หน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ โดยทางโครงการจะให้แอร์ระบบกรองฝุ่น PM2.5 ค่ะ

ส่วน 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.7 ตร.ม. หรือ Type B2 จะเป็นห้องที่มีการกั้นผนังเป็นสัดส่วนเช่นเดียวกัน แต่ห้องน้ำจะต้องเดินมาเข้าผ่านทางห้องครัว และประตูที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนค่ะ

1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.30 – 28.80 ตร.ม. จะเป็นห้องที่มีการกั้นเป็นสัดส่วนเช่นเดียวกัน แต่จะมีส่วน Walk-in Closet เพิ่มเข้ามา เหมาะกับคนที่อยากได้ฟังก์ชันตู้เสื้อผ้าหรือตู้เก็บของเยอะๆค่ะ

สุดท้ายคือ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.60 – 34.90 ตร.ม. ห้องนี้จะไม่ได้มีห้องตัวอย่างนะคะ โดยจะมีห้อง Plus เพิ่มขึ้นมา สามารถจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอนหรือห้องทำงาน WFH เพิ่มได้ และอีกจุดที่น่าสนใจคือเป็นห้องหน้ากว้าง ทำให้บรรยากาศของห้องดูโปร่ง โล่ง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่อีกด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ATMOZ KANAAL RANGSIT ราคา ณ พฤษภาคม 2565

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.60 – 24.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท
• 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 25.60 – 26.90  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.55 ล้านบาท
• 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 27.30 – 28.80 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.86 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.60 – 34.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.46 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
• จอง + ทำสัญญา 10,000 บาท
• ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 17 งวด
• ค่ากองทุน  500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : ATMOZ KANAAL RANGSIT เป็นคอนโด Low Rise ในย่านรังสิตที่ติดถนนใหญ่และไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก ตัวทำเลถือว่ามีความสะดวกพอสมควร แต่จุดที่น่าสนใจคือนานๆทีบนทำเลนี้จะมีคอนโดมาเปิดสักโครงการ ในขณะที่พื้นที่โดยรอบมี Demand ของที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตั้งโครงการจะรายล้อมไปด้วยตลาดทั้งเล็กใหญ่ ใกล้โรงพยาบาล สถานศึกษา และแหล่งงานเช่นนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ทำให้มีกลุ่มคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดอยู่พอสมควร เพื่อมาพักอาศัยชั่วคราวเวลาทำงานหรือไปเรียน หรืออาจจะเป็นการซื้อเพื่อขยายครอบครัวจากบ้านเดิมที่อยู่ในละแวกเดียวกันค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกสามารถใช้เส้นทางได้หลากหลาย เชื่อมต่อใจกลางเมืองได้ด้วยทางด่วนและโทลล์เวย์ และยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียงได้ทั้งนครนายก อยุธยา และนนทบุรี ติดตรงที่ปัจจุบันการเข้าถึงโครงการหากลงสะพานข้ามแยกจะเลยทางเข้า-ออก ต้องไปวนรถกลับมาค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ติดถนนใหญ่สามารถเรียกรถสาธารณะได้ไม่ยาก มีรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองโดย ห่างจากสถานีรังสิตประมาณ 700 เมตร และทางโครงการได้มี Shuttle Service บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางอีกด้วย

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้มาทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว เรียกได้ว่าซื้อแค่ฟูกที่นอน ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้ ส่วนวัสดุส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานราคา มีบางส่วนที่ดีกว่ามาตรฐานเช่น Bluetooth Sound System และ Home Automation

การออกแบบ : สำหรับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางนั้นทำออกมาได้ดี คือ จัดให้ส่วนกลางเชื่อมต่อกันทั้งหมด โดยเฉพาะ Outdoor Facility ที่เชื่อมกันเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ให้อารมณ์รีสอร์ตตามลักษณะของแบรนด์ ATMOZ  ส่วน Indoor Facility จะกระจายไว้ทุกอาคารเลยค่ะ แต่ละอาคารก็จัดฟังก์ชันไว้ต่างๆ กัน รวมกว่า 40 รายการ จุดที่ชอบคือการดีไซน์แต่ละห้องได้ตรง Concept ไม่ซ้ำกันเลย

รูปแบบห้องที่ ATMOZ ทำออกมาเจาะกลุ่มวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา จึงมีขนาดที่กะทัดรัดหน่อย มีแบบให้เลือกเหมาะ จัดฟังก์ชันไว้เป็นสัดส่วน ทุกแบบจะได้ครัวปิดทั้งหมด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก ซึ่งนั่นทำให้ราคาเริ่มต้นของโครงการนั้นหยิบจับง่าย เริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท

สาธารณูปโภค : โครงการนี้มีจุดเด่นกว่าโครงการเพื่อนบ้านตรงที่ให้ Facility มาเยอะที่สุดในย่านรังสิตนี้แล้วค่ะ โดยการให้พื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ เราชอบตรงที่ทางโครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า กระจายส่วนกลางอยู่ในทุกๆอาคารและแบ่งตาม Lifestyle เช่น อาคาร A จะเน้นพื้นที่นั่งพักผ่อน พื้นที่ทำงานและติวหนังสือ อาคาร B เหมาะกับคนที่เป็นสาย Game สายบันเทิง  อาคาร C เหมาะกับกลุ่มครอบครัว และอาคาร D เป็นอาคารสำหรับคนรักสุขภาพ เป็นต้น

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 50,000 – 70,000 บาท/ตร.ม., พฤษภาคม 2565

• ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่รังสิต-ปทุมธานี ห่างสถานีรังสิต 700 เมตร ใกล้ฟิวเจอร์พาร์ค
• เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – เดินทางสะดวก มีโทลล์เวย์และทางด่วนให้ใช้เข้าเมือง แต่บางเส้นทางต้องไปกลับรถเพื่อเข้าถึงโครงการ
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – อยู่ติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะได้ง่าย มี Shuttle Service รับส่ง
• วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished / Home Automation และ Bluetooth Sound System
• แบบ 9/10 – ออกแบบโครงการค่อนข้างลงตัว พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน ตกแต่งได้สวยทุกโซน ห้องพักอาศัยฟังก์ชันดี เป็นสัดส่วน มีให้เลือกเยอะ
• สาธารณูปโภค 9.5/10 – ครบครัน จัดเต็ม ถือว่ามากที่สุดในทำเลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

• ECONOMY CLASS
• 8.05 / 10.00

ATMOZ KANAAL RANGSIT เหมาะกับใคร

โครงการ ATMOZ KANAAL RANGSIT เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านรังสิต ฝั่งปทุมธานี โดยอาจจะเป็นคนที่ทำงานในละแวกใกล้เคียงหรือคนที่อยากได้คอนโดราคาย่อมเยา แต่เดินทางเข้าเมืองในละแวกใกล้เคียงสะดวก ชอบพื้นที่ส่วนกลางเยอะๆ และอยากได้คอนโดที่มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ หรืออีกมุมนึงก็เหมาะกับนักลงทุนไปเลย เพราะห้องมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก มีงบประมาณระดับ 1.49 – 3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,500 – 21,000 บาท/เดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc