สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 209 … เป็นคอนโดมิเนียมของค่าย AP ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา Aspire สุขุมวิท 48 ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสถานี BTS พระโขนง โปรเจคที่ก่อนหน้านี้ทาง Think of Living เคยพาขับรถลัดเลาะไปดูทำเลมาแล้วหนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นอะไรๆก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อย แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นไปเยอะแล้ว ตลอดจนข้อมูลต่างๆก็นิ่งพอควร จนทำให้เราสามารถรีวิวได้อย่างเต็มรูปแบบละครับ
Fact @ 25 July 2012
- Aspire สุขุมวิท 48
- Asian Property., Plc.
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 25, 30 ชั้น 2 อาคาร 838 ยูนิต พร้อม 1 อาคารจอดรถสูง 8 ชั้นด้านท้ายโครงการ
- ที่ดินประมาณ 5-0-98.3ไร่
- Studio / 1 Bedroom / 2 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 25 – 64 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 75,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS พระโขนงได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS พระโขนง (E8)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ตำแหน่งของโครงการอยู่เกือบปากซอยสุขุมวิท 48 ในรัศมีของ BTS พระโขนง
พื้นที่หน้าโครงการเดิมเคยเป็นตึกแถว ตรงนี้ทาง AP ก็ได้ซื้อที่ ขยายถนนซอย ปรับใหม่ให้กลายเป็นหน้าป้ายโครงการแบบนี้
บรรยากาศของซอยหน้าโครงการ
หน้าปากซอยโครงการ หากวิ่งตรงไปเรื่อยๆก็จะเป็นแยกปรีดี ก่อนที่จะถึงเอกมัยครับ
ซอยสุขุมวิท 48 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ปากซอย นี่เป็นราคาของวินมอเตอร์ไซค์ที่นี่ “วินปากซอย 48” ไป BTS ราคา 15 บาท ไปเอกมัยหรืออ่อนนุชราคา 30 บาท เอมโพเรี่ยม 60 บาท
เต้นท์นี้เอาไว้ให้พนักงานธนาคารออมสินมารับประทานเลย ปักร่มออมสินเต็มไปหมด
ตึกแถวต่างๆถัดจากธนาคารออมสิน ก็ขายของทั่วไป
ถัดจากโซนตึกแถวหน้าปากซอยก็จะเป็นที่ดินของ AP เริ่มจากสวนเวิ้งนี้ ที่ทาง AP มาทำเอาไว้ ซึ่งจะถูกผ่ากลางด้วยซอยย่อยของสุขุมวิท 48 ข้างในเป็นซอยตันทะลุไปไหนไม่ได้นะครับ
หน้าอาคาร AP ทำเป็นโซนสวน ลงต้นไม้ใหญ่ไว้ตั้งแต่ตอนต้นปี
กลับมาคราวนี้เมื่อเทียบกับคราวก่อน ต้นไม้ได้รับฝน โตขึ้นเยอะและเขียวขึ้น
ตรงนี้เป็นสำนักงานขายและลานจอดรถ ซึ่งเป็นที่ดินที่จะรอพัฒนาในอนาคตของ AP ไม่ใช่โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 นะครับ
ด้านหน้าสำนักงานขายก็มีน้ำพุชั่วคราว มองออกไปข้างๆก็จะเป็นแนวตึกแถวเรื่อยๆ
แนวตึกแถวครับ
สภาพซอยเวลามองเข้าไปลึกๆจะเป็นแบบนี้
ซอยข้างๆนี้คือซอยสุขุมวิทพลัส 2 ซึ่งทะลุไปออกพระราม 4 ได้
มาดูแนวไซต์โครงการอยู่ด้านหลังสังกะสีนี้
เราทะลุสำนักงานขายมาโผล่ด้านในสังกะสีเมื่อครู่ นี่เป็นที่ดินภายในโครงการ
ที่ดินทอดจากเหนือไปใต้แบบเฉียงๆ ปลายที่ดินสุดที่ริมคลองพระโขนง พอดีหญ้าขึ้นมารกๆเลยไม่ได้เดินไปดูจนสุด
ดูจากวิวรอบข้างก็ไม่มีตึกสูงในระยะใกล้ที่จะบังสายตา
มองไปฝั่งอ่อนนุช
พื้นที่ด้านหน้าของโครงการ Aspire ยังมีที่ดินว่างอยู่ ซึ่งเป็นที่ดินของ AP รอพัฒนาในอนาคต
ทิศตะวันออกมองไปทางอ่อนนุช
วิวทิศใต้มองไปทางด่วนและแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน
วิวทิศตะวันตก มองไปทางพระราม 4 และแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวทิศเหนือมองไปทางซอยปรีดีฯ
Aspire สุขุมวิท 48 เดินจากรถไฟฟ้าประมาณ 700 เมตรมาถึงหน้าประตูโครงการ เป็นเส้นทางบนถนนใหญ่สุขุมวิทข้ามถนนแยกพระราม 4 ประมาณ 500 กว่าเมตร แล้วเข้าซอยมาอีก 200 เมตร ซึ่งทางเดินในซอยค่อนข้างเปลี่ยวในเวลากลางคืน ทำให้ตรงนี้เดินยากพอสมควร แต่ถ้าทาง AP สามารถปรับปรุงสวนและพื้นที่ต่างๆให้มีแสงสว่างเหมาะสมกับการเดินเท้า ก็จะทำให้การเดินไป BTS ทำได้ง่ายขึ้น
ส่วนคนที่ขับรถก็สะดวกขึ้นพอสมควร เนื่องจากสามารถทะลุออกได้ 3 ทาง คือถนนพระราม 4, ทางด่วนสุขุมวิท 50 และปากซอย 48 ทำให้มีทางหนีทีไล่พอตัว
เจาะลึกตัวโครงการ
สำนักงานขายของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48
หน้าตาน้ำพุหน้าโครงการ
แปลนของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 หน้าตาเป็นแบบนี้ มีตึกทั้งหมด 3 อาคาร คือ North, South และจอดรถ โดยตึกแรกจะมีจุดเด่นตรงที่ใกล้ทางเข้า ตึกที่สองจะใกล้อาคารจอดรถ
ตึกแรกผมจะเรียกว่า Tower N นะครับ และตึกหลังจะเรียกว่า Tower S
Tower N มีจำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 13 ห้องต่อชั้น มีทั้งหมด 278 ห้อง มีลิฟท์ทั้งหมด 2 ตัว ไม่มี Service Lift แยกต่างหาก และมีอัตราส่วนจำนวนห้องต่อลิฟท์อยู่ที่ 1:139
Tower S มีจำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 20 ห้องต่อชั้น มีทั้งหมด 560 ห้อง มีลิฟท์ทั้งหมด 3 ตัว + 1 Service Lift แยกต่างหาก และมีอัตราส่วนจำนวนห้องต่อลิฟท์อยู่ที่ 1:186 (ไม่รวม Service Lift) ซึ่งสูงกว่าตึก N มาก แต่ Service Lift จะช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องการขนของขึ้นลงไปเยอะ
ชั้น 25 เป็นช้ันบนสุดของ Tower N มีสระน้ำและฟิตเนสอยู่บนดาดฟ้า ขนาดกว้างคูณยาวเท่ากับ 5 x 15 เมตร ในขณะที่ชั้น Step ต่างๆทางซ้ายของตึก N ก็มีส่วนที่เป็นสวนส่วนกลางอยู่เป็นหย่อมๆ
ตึก S จะมีทั้งหมด 30 ชั้น เช่นเดียวกันมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสอยู่ด้านบน แต่ตึก S จะมีสวนอยู่ด้วย สระว่ายน้ำก็ใหญ่กว่า ยาว 20 เมตร มีห้องฟิตเนสที่ใหญ่กว่าเช่นกัน รองรับประชากร 560 ครัวเรือน
หน้าตาของสระว่ายน้ำและฟิตเนสบนชั้นดาดฟ้า
ด้านล่างทางโครงการบอกว่ามีลู่วิ่ง Jogging Track ซึ่งถนนรอบโครงการนั้นกว้าง 6 เมตร
ส่วนที่ยังดูดีอยู่ก็คือ Outdoor Lobby ที่มีพื้นที่ให้นั่งเล่นกันที่ชั้น G นะครับ
หน้าตาของ Fitness ออกแบบเหมือนมีเส้นสีฟ้าอยู่ข้างบน เป็นเส้นลายแนว Modernism ซ่อนไฟ คล้ายๆพวกร้านโบว์ลิ่งอะไรทำนองนั้น
เช่นเดียวกันกับหน้าตา Lobby ที่ออกแบบมาในแนวเส้นซ่อนไฟสีฟ้า อวกาศดี ส่วนของจริงจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวรอไปดูกันตอนตึกสร้างเสร็จ อีกไม่กี่ปี อดใจรอกันนิดนึงนะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ บนชั้นสูงสุดของตึก N, S
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง บนชั้นสูงสุดของตึก N, S
- ตึกจอดรถ ท้ายโครงการ จอดได้ประมาณ 40%
- Lobby และ Outdoor Lobby
- Jogging Track บนถนนรอบโครงการ
- สวนดาดฟ้า ตามชั้น Step ของตึก N และดาดฟ้าของตึก S
- ตึก N มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ไม่มีลิฟท์บริการแยกต่างหาก อัตราส่วน 1:139
- ตึก S มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว มีลิฟท์บริการแยกต่างหาก 1 ตัว อัตราส่วนเฉพาะลิฟท์โดยสาร 1:186
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
โครงการ Aspire สุขุมวิท 48 มีห้องตัวอย่างทั้งหมด 3 แบบ เรามาดูกันทีละแบบนะครับ
นอนเดี่ยวแบบแรก 1 Bedroom Type C ขนาด 32 ตารางเมตร
ห้องแบบ 1 Bedroom ของที่นี่เวลาเดินเข้าไปแล้วจะสามารถมองทะลุห้องครัวผ่านไปถึงวิวได้ เป็น First Impression เวลาเดินเข้าห้อง
โซฟาพวกนี้ไม่มีให้นะครับ เฟอร์ไม่มีให้เป็นห้องเปล่า
ทีวีและชั้นวางทีวี ทำเอาไว้ให้ดูว่ามีพื้นที่ว่างพอสามารถ Built-in ได้
พื้นห้องนั่งเล่นใช้กระเบื้องเซรามิค 60 x 60 ซม.
เรามาดูห้องครัวกันบ้าง เปิดบาน Slide มาจะเห็นพื้นที่ทำอาหารและโต๊ะกินข้าว เนื่องจากมีบาน Slide สองชุดด้านหน้ากับด้านหลัง ทำให้ระบายอากาศได้ กลิ่นอาหารไม่เข้าไปที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่น
สวิทช์ไฟใช้แบบพลาสติกสีขาว
แอร์ที่แถมให้เป็นของ SAMSUNG ไฟเป็นดาวน์ไลท์กลม
พื้นที่ระหว่างโซฟากับครัวยังพอมีที่เหลือวางโต๊ะทำงานได้ 1 ตัว
เดินเข้าไปในครัวเก็บรายละเอียดกันอีกทีหนึ่ง
ด้านซ้ายจะเห็น Counter ครัว ที่มีอุปกรณ์เป็น Sink แบบ 1 หลุม และเตาไฟฟ้าแบบ Hot Plate 2 หัว ด้านล่างมีช่องเว้นเอาไว้วางเครื่องซักผ้าได้
กรอบวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ กระจกเขียวตัดแสง ระเบียงปูกระเบื้องเซรามิค ด้านนอกเป็นราวจับเหล็กซี่ๆธรรมดา
ข้อดีของโครงการนี้คือแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ทั้งสองตัวเลย นานๆจะเจอแบบนี้ที่ยอมแขวนให้ทั้งสองตัวเลยระดับสายตาไปทั้งคู่ ทำให้ไม่บังสายตา
นอกระเบียงมีโคมไฟติดในแนวตั้งฉากให้แล้ว ด้านล่างมีก๊อกหัวแดงเอาไว้ล้างทำความสะอาด
ระเบียงยื่นออกมาจากห้องนอนอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ได้วิวมุมบางส่วน และกระจกห้องนอนที่เข้ามุมกับระเบียงก็ไม่ใช่เป็นผนังทึบ ทำให้มองจากห้องนอนเฉียงๆออกมาระเบียงได้ ช่วยเพิ่มมิติทั้งห้องนอนและระเบียง ตรงนี้เป็นจุดที่ดีของการออกแบบ แต่ระเบียงจะไปซ้อนกับห้องข้างๆหรือเปล่าอันนี้อีกเรื่องนะค้าบ
หน้าตาของตัวล็อค อลูมิเนียม
ซูมไปที่เครื่องครัวกันอีกครั้ง ใช้ท๊อปเป็น High Pressure Laminate
เตา Teka แบบ 2 หัว
เครื่องดูดควัน Teka ระบบหมุนเวียน
ซิงก์สแตนเลสก็ของ Teka ชนิดหลุมตื้น มีที่พักจานด้านข้างเล็กน้อย
มาดูในห้องนอนกันบ้าง มองออกไปเห็นกระจกและวิวพอสมควร
น่าเสียดายที่กระจกมีรอยต่อขอบอลูมิเนียม 6 ท่อน เลยดูไม่ค่อยโปร่งเมื่อเทียบกับการใช้กระจกบานใหญ่บานเดียว ที่ใช้ในแบบห้อง 54 ตารางเมตร
ที่บอกเมื่อครู่ กระจกในห้องนอนสามารถมองออกไประเบียงได้เลย ถ้าเราปลูกต้นไม้ วางต้นไม้เอาไว้ที่ระเบียง ก็จะได้วิวสีเขียวบางๆ เป็นส่วนตัวของเราครับ
มาดูสุขภัณฑ์กันบ้าง เป็นของ American Standard ห้องน้ำที่นี่ให้มาครบ ฟังก์ชั่นใช้สอยไม่มีอะไรพลาด แต่ในเรื่องดีไซน์โดยรวมยังดูธรรมดา
ที่อาบน้ำมีที่กั้นให้แต่ไม่ใช่ Tempered Glass
ฝักบัวและชุดวางเครื่องอาบน้ำ ทำมาเป็นชุดเดียว
มีการติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้แล้ว
ซิงก์ขนาดค่อนข้างโอเค แต่ไม่มีท๊อปด้านข้างและตู้ด้านล่าง มีพื้นที่วางของลดลง
ราวจับและกระเบื้องติดผนัง
เรามาดูไทป์ถัดไปบ้าง เป็นขนาด 38 ตารางเมตร Type D ใหญ่ขึ้นมานิดนึง
ห้องแบบ 1 Bedroom มีพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น จะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่ในห้องนั่งเล่นเยอะขึ้น
ห้องนี้แทนที่จะเปิดเข้าไปเห็นวิวจากห้องครัวเหมือนห้อง 32 ตารางเมตร ก็จะเห็นวิวผ่านห้องนอน ทำให้รู้สึกห้องโล่งกว่า เพราะประตูห้องนอนเป็นบานเลื่อน ไม่มีเสากั้น
การตกแต่งทำออกมาได้ดี โต๊ะกระจก Tempered Glass ตัวนั้นสวยงามดี ไม่มีให้นะครับ ดูได้แต่ตา ไปแต่งเอาเอง พื้นที่ตรงห้องนั่งเล่นขยายมากกว่าห้องแบบ 32 ตารางเมตรพอควร
โต๊ะทานข้าวไม่ต้องไปมุดๆอยู่ในครัวแล้ว เอามาวางในห้องนั่งเล่นได้
ห้องนอนเป็นบานเลื่อน 3 จังหวะ หน้าตาแบบนี้
ห้องนอน เตียงและการวางโต๊ะทำงานริมกระจก
มีพื้นที่วางทีวีและตู้เสื้อผ้า
ตรงนี้เป็นชั้นหรือตู้ที่อยู่ข้างๆห้องน้ำ เป็นอีกฟังก์ชั่นที่ใช้เก็บของได้
สุขภัณฑ์เหมือนเดิม ไม่ต่างจากห้อง 32 ตารางเมตร
ครัวเช่นกันเหมือนห้อง 32 ตารางเมตร แต่จะแคบกว่า เพราะไม่ต้องใส่พื้นที่นั่งกินข้าวเข้าไปด้วย ทำให้เวลาทำครัวหรือซักผ้าจะสะดวกขึ้น ไม่เกะกะโต๊ะกินข้าว
ห้องตัวอย่างแต่งได้ดี เอากระดานดำไปแปะไว้บนผนัง มีประโยชน์ในการขีดๆเขียนๆ
ระเบียงของที่นี่เชื่อมกับห้องนอนเหมือนเดิม แต่เชื่อมเต็มสัดส่วนไม่ใช่แค่กรอบครึ่งๆกลางๆเหมือนห้อง 32 ตารางเมตร และคอมเพรสเซอร์แอร์ซ่อนไว้ข้างบนให้หมดแล้ว
ระยะจากพื้นที่ต้องเดินข้ามไปยังระเบียง ผนังด้านนอกของอาคารนี้เป็นแบบ Pre-casting Concrete
กระเบื้องห้องน้ำ ธรณีประตู และกระเบื้องห้องนั่งเล่น
ห้องตัวอย่างที่สามเป็นห้องสุดท้าย ขนาด 54 ตารางเมตร Type E เป็นแบบ 2 ห้องนอน
แปลนห้องครับ
เดินเข้าไปเห็นภาพนี้เป็นภาพแรก ตรงไปคือห้องครัว ทางขวาเป็นห้องนั่งเล่น
พอได้กระจกมุมจากทั้งห้องครัวและห้องนั่งเล่น เลยทำให้มุมมองของห้องนี้เปิดโล่ง
ห้องน้ำยังคงเดิม
แต่ไม่มีการติดพัดลมดูดอากาศ เพราะมีบานกระทุ้งระบายอากาศได้
ห้องนอนได้กระจกบานใหญ่ เต็มตามากขึ้นเยอะ นี่เป็นห้องนอนเล็ก
ห้องนอนใหญ่ก็ได้กระจกบานใหญ่
ครัวก็ยังได้กระจกมองวิว
ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่เล็กๆเป็น Semi Walk-in Closet เดินเข้าไปแต่งตัวได้เป็นสัดส่วน
มุมทำงานและนั่งๆนอนๆริมกระจก
ห้องนอนมีมุมทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะไปยังห้องครัว
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
สุขภัณฑ์เหมือนเดิม
ซิงก์
ฝักบัวและห้องอาบน้ำ มีห้องน้ำสองที่ อาบได้ทั้งสองที่
คอมเพรสเซอร์แอร์ที่นี่มีจุดวางอยู่ข้างๆห้องรับแขก ระเบียงไม่ต้องไปหลบมุมอยู่หลังห้องครัวเหมือนเดิม วางคอมแอร์ 3 เครื่องซ้อนกันได้แบบนี้ มีกริลเหล็กปิดจากด้านนอกบังสายตา
ระเบียงกว้างกว่าห้องปกติ ประมาณจากสายตาได้ 75 – 80 เซนติเมตร
ถือว่าห้อง 54 ตารางเมตร เป็นห้องที่มีสัดส่วนดีที่สุด การวาง Layout ดีที่สุด ชนะเพื่อนๆขาดลอยเลย
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 Aug 2012
- Studio ขนาด 27 ตารางเมตร ชั้น 20 ตึก S ห้อง B08 ราคา 2.293 ล้านบาท หรือประมาณ 85,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ขนาด 32 ตารางเมตร ชั้น 12 ตึก N ห้อง C01 ราคา 2.475 ล้านบาท หรือประมาณ 77,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ขนาด 38 ตารางเมตร ชั้น 14 ตึก S ห้อง D11 ราคา 3.01 ล้านบาท หรือประมาณ 79,000 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ขนาด 54 ตารางเมตร ชั้น 14 ตึก S ห้อง E06 ราคา 4.198 ล้านบาท หรือประมาณ 77,700 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ขนาด 64 ตารางเมตร ชั้น 12 ตึก S ห้อง F05 ราคา 4.86 ล้านบาท หรือประมาณ 76,000 บาทต่อตารางเมตร
- ห้องเปล่า + ครัว + แอร์
- จอง 10,000 – 20,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 – 40,000 บาท
- วางเงินดาวน์ 12% ผ่อนอีก 32 งวดนับจาก ส.ค. 2555
- ค่ากองทุน 350 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ยังจัดว่ากลางๆ ไม่ได้อยู่ในทำเลสุดฮอตสุด Prime ซึ่งเป็นตำแหน่งตอนปลายของย่านพระโขนงก่อนที่จะข้ามคลองพระโขนงไปยังอ่อนนุช รอบข้างโครงการส่วนใหญ่เป็นตึกแถว ร้านขายของต่างๆ
ซอยสุขุมวิท 48 เดิมของโครงการนี้เดิมค่อนข้างเปลี่ยวในเวลากลางคืนและค่อนข้างเงียบในเวลากลางวัน เมื่อ AP ซื้อที่ดินไปพัฒนาขึ้นเป็นโครงการ ก็ได้ทุบโน่นนี่เปิดถนนซอยให้กว้างขึ้น ใส่สวนเข้าไปอีกสองสามจุด ทำให้ดูร่มรื่นขึ้นมาก ลองเทียบจากภาพแรกเมื่อรีวิวทำเลตอนต้นปี กับภาพปัจจุบันที่พึ่งไปถ่ายใหม่มาก็จะพอเห็นชัดนะครับ หากในพื้นที่เหล่านี้มีการติดไฟส่องสว่างในเวลากลางคืนเข้าไป การเดินเท้าเข้าซอยก็จะปลอดภัยขึ้นและน่าอยู่มากขึ้น ทั้งลูกบ้านของ Aspire และชาวบ้านเดิมในซอยด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทาง AP จะดำเนินการอย่างไร
การเดินทางด้วยรถจริงๆแล้วค่อนข้างสะดวกนะครับ แม้ว่าซอยสุขุมวิท 48 จะเป็นซอยแคบที่เดินรถได้ลำบาก แต่มีเส้นทางให้ทะลุออกได้ถึง 3 ถนนหลัก นั่นก็คือสุขุมวิท, พระราม 4 และทางด่วนที่สุขุมวิท 50 ทำให้การใช้ทางลัดทำได้ดี
การเดินทางโดยไม่ใช้รถต้องบอกว่าไกลนะครับถ้าจะเดินไปรถไฟฟ้า จากตึก S Tower เดินออกมาหน้าโครงการใช้ระยะทาง 150 เมตร เดินไปปากซอยอีก 150 เมตร เดินจากปากซอยไปรถไฟฟ้าอีก 575 เมตร แต่ถ้าพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่มีเรตราคาปัจจุบันอยู่ 15 บาท ก็จะตัดระยะทาง เหลือเดินแค่ 150 เมตร จากตัวโครงการออกมาที่หน้าโครงการเท่านั้นครับ เพราะผมเชื่อว่าพี่วินต้องมาดักรอที่ป้อมยามแน่นอน หรืออีกทางเลือกหน่ึงคือการใช้ Shuttle Services ที่ทางโครงการมีรถเตรียมเอาไว้ให้ สามารถรับส่งผู้โดยสารไปยัง BTS ได้
โครงการนี้อยู่กัน 800 กว่าหลังคาเรือน ตึก N Tower แนะนำสำหรับคนที่ใช้ BTS เป็นหลัก เพราะจะเดินใกล้ ตึก S Tower แนะนำสำหรับคนที่ใช้รถเป็นหลัก เพราะใกล้ที่จอดรถ
สำหรับเรื่องวิวและทิศถูกบังคับให้หันไปทางตะวันตก-ตะวันออก ทั้งสองตึก เป็นแนวเฉียงๆเล็กน้อย ดังนั้นแนะนำให้หาผ้าม่านหรือฟิลม์กรองแสงมาเพื่อตัดความร้อนตรงนี้ออกไป ฝั่งตะวันออกของโครงการ Aspire สุขุมวิท 48 ติดกับที่ดินเปล่าของ AP ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการพัฒนา
การออกแบบห้องของโครงการนี้ทำออกมาได้ดีในบางอย่าง มีจุดดีๆอย่างเช่นการที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ทั้งสองตัว, การใช้บานกระจกเข้ามุมระหว่างระเบียงกับห้องนอน, การติดโคมไฟให้ที่ผนังระเบียง แต่อัตราส่วนของจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 13 – 20 ห้องต่อชั้น และตึกจอดรถของ Aspire สุขุมวิท 48 แยกออกไปจากตึกพักอาศัย ทำให้เวลาจะขึ้นลงที่จอดรถ ถือของหนัก จะต้องลงลิฟท์แล้วเดินไปยังล็อบบี้ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกเท่ากับที่จอดรถในอาคาร แต่ก็ยังดีที่ทาง AP ได้ทำทางเดินแบบมีหลังคาเอาไว้ให้แล้ว เชื่อมจากตึกจอดรถไปทั้งตึก N Tower และ S Tower
วัสดุอุปกรณ์หลายๆอย่างโอเค เช่นกระจกบานใหญ่ แต่ผมยังไม่ค่อยประทับใจห้องน้ำที่ลดระดับของเกรดวัสดุเกินไปนิดนึง
สุดท้ายเรื่องสาธารณูปโภคก็มีให้ทั้งสองตึก สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าของทั้งตึก N Tower และ S Tower โดยตึก S Tower จะได้สาธารณูปโภคที่มีขนาดใหญ่กว่า เพราะมีจำนวนห้องอยู่ 560 ห้อง ต่างจากตึก N Tower ที่มี 278 ห้องกว่าเท่าตัว โดยเน้นสาธารณูปโภคหลักๆอย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส โดยมีโบนัสเป็น Outdoor Lobby ที่ชั้น G เอาไว้นั่งเล่นได้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตร, 06/07/2012
- ทำเล 7.75/10 – สุขุมวิทตอนปลาย ย่านพระโขนง
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ทางลัดเยอะ ออกได้ 3 ทางหลัก
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินไปรถไฟฟ้าไกล นั่งมอเตอร์ไซค์สะดวกกว่า
- วัสดุ 6.5/10 – ที่ราคานี้น่าจะได้ดีกว่านี้
- แบบ 7.5/10 – ความโปร่งโล่งของห้องทำได้ดี
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มาตรฐาน
- MAIN CLASS
- 7.59 / 10.00
BOTTOM LINE
Aspire สุขุมวิท 48 เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีงบราวๆ 2 ล้านเศษ ที่อยากได้คอนโดมิเนียมในรัศมีรถไฟฟ้า โซนสุขุมวิทตอนปลาย ที่สามารถใช้รถยนต์เข้าออกได้ทั้งถนนพระราม 4, สุขุมวิทและทางด่วนสุขุมวิท 50
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ