สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิว Aspire รัชโยธิน โครงการใหม่จาก AP กันนะคะ ตัวนี้ถือว่าเป็นคอนโด Low Rise ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีรัชโยธินมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และยังมีราคาที่จับต้องง่าย 2 ล้านต้นๆ เท่านั้นเอง

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 เชื่อมต่อ พหลโยธิน, งามวงศ์วาน และถนนวิภาวดีรังสิตได้
  • ใกล้รถไฟฟ้า : ที่ตั้งห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 350 เมตร และยังมีรถรับส่งที่ปากซอยพหลฯ 35 ทำให้กลายเป็นโครงการที่ไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่ายค่ะ
  • ราคา : โครงการนี้ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.อยู่ที่ 88,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าต่ำนะคะ เมื่อเทียบกับคอนโดในย่านที่อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ของคอนโดเหล่านั้นก็เกิน 1 แสนบาท/ตร.ม.ไปแล้ว ทำให้ Total package ของที่นี่จับต้องได้ง่ายขึ้น อยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ เท่านั้นค่ะ
  • รูปแบบโครงการ : เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise ที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่กลางอาคาร ได้ความร่มรื่นและเป็นส่วนตัวนะคะ โดยฟังก์ชันส่วนกลางที่น่าสนใจก็เช่น The Gym หรือห้องออกกำลังกายที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง

ส่วนรูปแบบการขายของที่นี่จะเป็นห้องแบบ Fully Fitted ใครที่มองหาคอนโดอยู่ งบไม่เกิน 3 ล้าน (รวมงบไว้ตกแต่ง) ใกล้รถไฟฟ้า บนทำเลที่หาของกินสะดวก ต้องมาอ่านรีวิวโครงการ Aspire รัชโยธินนี้ดูค่ะ

#Aspire #AspireRatchayothin

ข้อมูลโครงการ

Aspire รัชโยธิน ณ วันที่ 28 June 2022

 ชื่อโครงการ  Aspire Ratchayothin (แอสปาย รัชโยธิน)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยพหลโยธิน 35 เขตจตุจักร
 ที่ดิน  5 – 0 – 35.7
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร
 จำนวนยูนิต  633 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   35 ยูนิต
 ที่จอดรถ  191 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
 เริ่มก่อสร้าง  n/a
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ขนาด 25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.5 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 88,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ  https://www.apthai.com/th/condominium/aspire-ratchayothin
 Call Center  1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัดโครงการ Google Maps : 13.8312965 , 100.5666282
หรือสามารถ : คลิกที่นี่ 

พิกัดสำนักงานขาย Google Maps :  13.7557222 , 100.5666639
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการค่ะ ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ในซอยพหลโยธิน 35 ใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีรัชโยธินนะคะ ส่วนสำนักงานขายหรือว่าห้องตัวอย่างของโครงการจะอยู่ที่พระราม 9 ตรงข้ามกับตึก Unilever House สามารถใช้ MRT มาลงที่สถานีพระราม 9 ทางออก 3 แล้วเดินมาได้ค่ะ

โครงการ Aspire รัชโยธิน ถือเป็นโครงการ Low Rise ที่มีจุดเด่นเรื่องราคาและระยะทางใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุดในเวลานี้ค่ะ 

โดยทั่วไปแล้วโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีรัชโยธินมักจะเป็นคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่ค่ะ ด้วยราคาที่ดินที่ติดกับถนนใหญ่ และค่าก่อสร้างของโครงการที่มักจะเป็น High Rise ทำให้คอนโดสูงติดถนนใหญ่ย่อมมีราคาสูงตาม (มากกว่า 100,000 บาทต่อตร.ม.) แต่ว่า Aspire รัชโยธินนี้ถือว่าเป็นโครงการ Low Rise ที่เข้าซอยมาประมาณ 200 เมตร จึงมีราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ต่ำกว่า อยู่ที่ 88,000 บาทต่อตร.ม.ค่ะ ที่นี่จึงกลายเป็นโครงการที่มีราคาจับต้องได้ง่าย (เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท) ใกล้รถไฟฟ้าค่ะ

ซอยพหลโยธิน 35 นี้ จัดว่าเป็นซอยที่ใช้เชื่อมต่อไปยังถนนงามวงศ์วาน ถนนวิภาวดีรังสิตได้ ทำให้ในแง่การเดินทางจัดว่ามีตัวเลือกเส้นทางให้ใช้หลากหลายค่ะ โดยที่จุดเด่นเรื่องรถไฟฟ้าก็ยังอยู่ โดยทาง Aspire รัชโยธินจะมีรถตุ๊กๆไฟฟ้า รับ-ส่ง ปากซอยพหลโยธิน 35 มาให้ และจากปากซอยเดินไปอีกประมาณ 100 เมตรก็เจอทางขึ้นรถไฟฟ้าแล้วค่ะ ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปเรียนหรือว่าทำงานเลยนะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ บริเวณปากซอยหรือว่าใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าถือว่าคึกคักไม่น้อยค่ะ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้ออยู่เพียบ ห่างไปอีกไม่ไกลเดินไปได้ก็จะเป็นเมเจอร์ รัชโยธิน, อเวนิว รัชโยธิน ที่มีร้านค้า ร้านอาหารเป็นตัวเลือกให้เช่นกัน นอกจากนี้ห่างไปอีก 2 สถานีก็จะเป็นห้าแยกลาดพร้าวที่มีทั้ง เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียน มอลล์, โลตัส ตั้งอยู่ เป็นทำเลที่เรามองว่าหาของกินของใช้ได้ง่าย ตัวเลือกเยอะ หรือจะสั่ง Delivery ผ่าน Application ต่างๆ ราคาค่าส่งก็ไม่น่าจะแพงค่ะ

เส้นทางการเดินทางและสภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

เรามาดูบรรยากาศจากเมเจอร์ รัชโยธินมายังตัวโครงการ ผ่าน Gallery ทางด้านล่างได้เลยนะ

Image 1/7
เริ่มจากถนนพหลโยธินค่ะ ทางซ้ายมือเราจะเจอกับเมเจอร์ รัชโยธินนะ

เริ่มจากถนนพหลโยธินค่ะ ทางซ้ายมือเราจะเจอกับเมเจอร์ รัชโยธินนะ

Image 1/7
ปัจจุบันก็มีการล้อมรั้วขึ้นป้ายโครงการอยู่นะคะ ใครที่อยากรู้ว่าที่ตั้งอยู่ตรงไหน เราชอบไหมก็ลองไปดูได้ค่ะ

ปัจจุบันก็มีการล้อมรั้วขึ้นป้ายโครงการอยู่นะคะ ใครที่อยากรู้ว่าที่ตั้งอยู่ตรงไหน เราชอบไหมก็ลองไปดูได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

การเดินทาง

  • BTS สถานีรัชโยธิน ~ 350 เมตร
  • สนามบินดอนเมือง ~ 15.2 กม.

ห้างสรรพสินค้า/ตลาด

  • Major Cineplex รัชโยธิน ~ 600 เมตร
  • ตลาดบางเขน ~ 650 เมตร
  • Avenue รัชโยธิน ~ 1 กม.
  • โลตัส ลาดพร้าว ~ 2.4 กม.
  • Union Mall ~ 2.9 กม.
  • Central ลาดพร้าว ~ 3 กม.
  • ตลาดบองมาเช่ ~ 4.5 กม.

สำนักงาน

  • SCB PARK ~ 1.7 กม.

สถานศึกษา

  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 2.3 กม.
  • โรงเรียนหอวัง ~ 3.7 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติเซนต์จอห์น ~ 4 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 5.1 ก.ม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 2.8 ก.ม.

รายละเอียดโครงการ

Aspire รัชโยธิน เป็นกลุ่มอาคาร Low Rise 3 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 5 ไร่ ตั้งอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 35 ค่ะ โดยทั่วไปโครงการที่เป็นคอนโด Low Rise ในตัวเมืองมักจะเป็นคอนโดอาคารเดียว ทำให้พื้นที่ส่วนกลางมักจะอยู่ภายในอาคารหรือดาดฟ้าเท่านั้น แต่โครงการนี้จะมีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร ซึ่งมีข้อดีเรื่องการแบ่งพื้นที่ภายใน ทำให้เกิดพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางระหว่างอาคาร เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการสร้างให้บรรยากาศของโครงการร่มรื่นมากขึ้น และพื้นที่ส่วนกลางก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ

ที่ดินของโครงการจะมีทางเข้า-ออกอยู่ทางเดียว ติดกับซอยพหลโยธิน 35 ค่ะ ลักษณะที่ดินจะมีรูปร่างที่เปิดกว้างขึ้นเมื่อเข้ามาภายใน โดยพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นส่วนกลางทั้งหมด ประกอบด้วยที่จอดรถ, Lobby และ The Aqua ที่เป็นสระว่ายน้ำตรงกลางที่ดินโครงการค่ะ

รูปแบบการเดินรถภายในโครงการนี้จะเป็นการเดินรถทางเดียว เมื่อเข้ามาจะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปใต้อาคาร A ก่อน จากนั้นจึงเป็นอาคาร B และ C ตามลำดับ ปริมาณที่จอดรถของที่นี่จะมีทั้งหมด 191 คัน คิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งเป็นอัตราส่วนเท่ากับที่ทางกฎหมายกำหนดไว้เลยค่ะ ถือว่าไม่เยอะ โครงการนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ใช้งานรถไฟฟ้าเป็นหลักมากกว่านะ

ในแต่ละอาคารจะมีโถงลิฟต์ของตัวเอง ซึ่งเดินไปขึ้นจากที่จอดรถได้เลยค่ะ ในส่วนของอาคาร A จะมี Lobby ที่พิเศษเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากอยู่ที่ด้านหน้าโครงการด้วย เวลาที่ใครมีเพื่อนมาเยี่ยมก็สามารถให้มารอที่ Lobby ก่อนได้นะ นอกจากนี้บริเวณนี้ก็ยังเป็นที่ทำงานของนิติบุคคล และมีพื้นที่เตรียมไว้เป็น Shop อยู่ 1 ห้อง ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นร้านอะไร ซึ่งในอนาคตพื้นที่ส่วนนี้ก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ของโครงการค่ะ ในกรณีที่นิติบุคคลทำการปล่อยเช่า เงินที่ได้ก็จะเอามารวมกับค่าส่วนกลางที่จัดเก็บ เป็นเงินเอาไว้บริหารส่วนกลางต่อไปนะ

ถ้าดูจากโมเดล ทางเข้าอาคารจะติดกับซอยพหลโยธิน 35 ค่ะ ด้านข้างจะเป็น 7-eleven ที่ลูกบ้านในโครงการเดินมาใช้ได้ง่าย ส่วนตัวอาคารจะถูกวางลึกเข้าไปจากทางเข้าระยะหนึ่ง ทำให้คนที่อยู่ชั้น 2 อาคารแรกได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลดเสียงรบกวนจากถนนหรือมุมมองจากคนที่ผ่านไปมามองเข้ามาภายในห้องได้ด้วยค่ะ

Image 1/4
Model โครงการ Aspire รัชโยธิน

Model โครงการ Aspire รัชโยธิน

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะมีส่วนที่เป็น Outdoor หรืออยู่ภายนอกอาคารคือ The Aqua (สระว่ายน้ำที่อยู่ใจกลางโครงการ) และจะมีส่วนที่อยู่ภายในอาคารค่ะ โดยส่วนที่อยู่ในอาคารจะมีอยู่ที่อาคาร A และ อาคาร C นะ

กลางโครงการระหว่างอาคาร จะเป็นตำแหน่งของ The Aqua หรือสระว่ายน้ำ ซึ่งตรงนี้ก็มีการออกแบบโดยใช้กำแพง และ Landscape การจัดสวนต่างๆ เพื่อให้ตัวสระแยกจากทางเดินรถและที่จอดรถภายในโครงการ เวลามาใช้งานก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

บรรยากาศ The Aqua หรือสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการ ตัวสระว่ายน้ำจะเป็นสระระบบเกลือ มีมุมนั่งเล่น ห้องน้ำรองรับการใช้งาน และมีพื้นที่สระที่เป็นส่วน Jacuzzi ด้วย รวมแล้วขนาดยาวประมาณ 35 เมตรเลยค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 ที่อาคาร C จะมีพื้นที่ส่วนกลางหลักอยู่อีกจุดค่ะ ประกอบไปด้วย The Gym ที่เป็นห้องฟิตเนส ,  The Aspire Common ที่เหมือนกับ co-working space มานั่งทำงาน พักผ่อนได้ และมี The Co-op Society ที่เป็นมุมส่วนตัวมากขึ้น (จองใช้งานระบุเวลาได้) โดยพื้นที่ส่วนนี้สามารถเดินขึ้นมาจากส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำได้ หรือจะขึ้นลิฟต์โดยสารของอาคาร C มาก็ได้ค่ะ

The Aspire Common พื้นที่ส่วนนี้จะตกแต่งเหมือน Boutique Hotel เลยค่ะ ดูสวยน่ามาใช้งานอยู่นะ

โดยพื้นที่ภายใน The Aspire Common ก็จะแบ่งเป็นหลายๆ ส่วน มีทั้งแบบโซฟาให้มานั่งพักผ่อน เล่นโทรศัพท์หรือ Tablet ได้ และก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้ที่รองรับการนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือสอบได้เช่นกันค่ะ

The Co-op Society จะเป็นโซนที่ Private มากขึ้น สามารถจองเพื่อระบุเวลาใช้งานเป็นส่วนตัวได้ เหมาะกับการใช้ประชุมงาน คุยงานกลุ่มที่อาจจะต้องใช้เสียง เราไม่อยากรบกวนลูกบ้านท่านอื่นก็มาจองใช้งานที่ห้องนี้แทนได้ค่ะ

The Gym จะเป็นห้องออกกำลังกาย ที่มีความพิเศษตรงที่เปิด 24 ชั่วโมง ใครที่กลับบ้านดึกแต่ก็อยากออกกำลังกายสามารถมาใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ

นอกจากนี้ที่อาคาร A ชั้นดาดฟ้าก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางอีกจุด เรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า The Cloud เป็นสวนพักผ่อนชั้นดาดฟ้านั่นเองค่ะ

เป็นโซนที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมานั่งเล่น พักผ่อนได้นะ

ผังพื้นชั้นพักอาศัย

ในส่วนของห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 ขึ้นไปค่ะ

  • อาคาร A มีทั้งหมด 227 ยูนิต จำนวนยูนิตสูงสุด 33 ยูนิต/ชั้น
  • อาคาร B มีทั้งหมด 175 ยูนิต จำนวนยูนิตสูงสุด 25 ยูนิต/ชั้น
  • อาคาร C มีทั้งหมด 231 ยูนิต จำนวนยูนิตสูงสุด 35 ยูนิต/ชั้นค่ะ

ในแต่ละอาคารจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะคะ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย อาคาร B ก็จะเหมาะสุด เพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะ / ใครที่ชอบความสะดวก อาคาร A ก็น่าจะตอบโจทย์ เพราะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออก เดินไป 7-eleven ง่าย ขึ้นรถไปต่อรถไฟฟ้าได้สบาย / ส่วนใครที่ใช้งานส่วนกลางบ่อยๆ แนะนำให้เลือกอาคาร C เพราะเป็นอาคารที่มี Facility ในตัวตึกเลย ไปใช้งานได้ง่ายค่ะ

ในส่วนการวางตำแหน่งห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ค่ะ โดยจะมีห้อง 1 Bedroom Plus อยู่บ้างตำแหน่งมุมอาคาร (แต่ได้ข่าวมาว่าเป็น Type ที่ขายดี ถูกจองไปหมดแล้วด้วย) จุดที่เราว่าน่าสนใจคือห้อง Studio ค่ะ การวางตำแหน่งของห้อง Studio ของที่นี่จะหันเข้าสู่สระว่ายน้ำที่อยู่ตรงกลางโครงการเลย ซึ่งก็จะได้วิวเป็นสระว่ายน้ำ แต่ก็จะมีจุดที่ควรคำนึง คือ ระยะห่างระหว่างอาคารที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาจมองเข้ามาภายในห้องเราได้ง่ายนะ ใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะต้องปิดม่าน หรือเลือกใช้ม่าน 2 ชั้น มีม่านโปร่งแสงด้วยก็จะเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ

ผังอาคาร A

Image 1/4
อาคาร A ผังพื้นชั้น 2

อาคาร A ผังพื้นชั้น 2

ผังอาคาร B

Image 1/3
อาคาร B ผังพื้นชั้น 2-3

อาคาร B ผังพื้นชั้น 2-3

ผังอาคาร C

Image 1/4
อาคาร C ผังพื้นชั้น 2

อาคาร C ผังพื้นชั้น 2

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • The Aqua สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ พร้อม Jacuzzi ยาวกว่า 35 เมตร
  • ห้องน้ำ
  • Foyer Lobby ที่อาคาร A
  • The Cloud Roof top Garden ที่อาคาร A
  • The Gym ที่อาคาร C
  • The Aspire Common ที่อาคาร C
  • The Co-op Society ที่อาคาร C
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • ที่จอดรถ 191 คัน คิดเป็น 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • รถตุ๊กๆไฟฟ้า รับ-ส่ง ปากซอยพหลโยธิน 35 (ทาง AP จะจัดเตรียมไว้ให้ 1 คัน ส่วนเรื่องการบริหารรอบการใช้งานจะขึ้นอยู่กับทางนิติบุคคลในภายหลัง)

ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ

  • ไม้กั้นกระดก 1 จุดที่ทางเข้า-ออก
  • ระบบ KATSAN พัฒนาโดย AP : Features ที่น่าสนใจ เช่น ระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ , E-stamp , ระบุเลขทะเบียนรถของแขกที่มาหาล่วงหน้า เพื่อให้รปภ.รับทราบ และไม่ต้องแลกบัตรเมื่อมาเยี่ยม , ตั้ง Status เพื่อปฏิเสธแขกที่มาหาได้
  • เข้า-ออก , ขึ้น-ลง อาคารด้วย Keycard Access และ Face Scan
  • รั้วรอบโครงการเป็นรั้วทึบสูง 2 เมตร
  • CCTV บริเวณพื้นที่ส่วนกลางและรอบอาคาร รวม 72 จุด

แบบห้อง

โครงการ Aspire รัชโยธิน จะมีแบบห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 3 แบบค่ะ คือ Studio ขนาด 25 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. โดยช่วงราคาห้องจะอยู่ที่ราวๆ 2-3 ล้านบาท เรียกว่า 3 ล้านบาทก็สามารถซื้อห้อง+งบสำหรับตกแต่งครบเรียบร้อยเลยค่ะ

ภายในโครงการจะมีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted หรือว่าห้องเปล่านะคะ โดยที่สำนักงานขายจะทำห้องตัวอย่างให้ดูอยู่ 2 แบบ เป็นห้องขนาด 28 ตร.ม.ทั้งคู่ โดยจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

ห้อง Type B4 (ซ้าย) เป็นห้องที่ได้ครัวติดระเบียง เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร สามารถเปิดหน้าต่างบริเวณระเบียงระบายอากาศภายในห้องออกไปได้ขณะทำอาหาร และสามารถกันพื้นที่ให้เป็นครัวปิดในอนาคตได้ จุดที่เราชอบของห้องนี้จะเป็นพื้นที่ระหว่างครัวและห้องน้ำ สามารถจัดวางชั้นวางของเพิ่มได้ หรือสร้างเป็นมุมทำงานเล็กๆภายในห้องได้ค่ะ

ห้อง Type B2M (ขวา) ห้องนี้จะมีจุดเด่นตรงความกว้างของห้อง และเป็นห้องที่ได้พื้นที่ตู้เสื้อผ้าแยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่ชอบให้บรรยากาศห้องดูโปร่งโล่ง มีพื้นที่แต่งตัวจริงจัง โดยห้องนี้ก็ยังสามารถกั้นประตูบานเลื่อนบริเวณครัว+พื้นที่กินข้าว แยกจากห้องนั่งเล่นได้ค่ะ

รายการวัสดุภายในห้อง

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • พื้นห้อง ลามิเนต
  • ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • ชุดครัว Teka / Top เคาน์เตอร์ครัว หินเทียม / Built-in จาก Index ปิดผิวลามิเนต / Back Splash กระเบื้อง
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ Cotto
  • แอร์ Wall Type 1 ตัวในห้องนอน
  • ชุดประตูหน้าต่างกระจก : กรอบบานอลูมิเนียม กระจกเขียวตัดแสง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


1 Bedroom Type B4 ขนาด 28 ตร.ม.

มาดูห้องตัวอย่างแรกกันค่ะ ห้องนี้เป็นห้อง Type B4 ขนาด 28 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้อง 1 Bedroom ตอนลึก ที่จะได้พื้นที่นั่งเล่น+กินข้าวติดกับทางเข้า-ออก ส่วนพื้นที่พักผ่อนหรือว่าห้องนอนจะอยู่ด้านในติดหน้าต่าง โดยจุดเด่นของห้องนี้จะเป็นการออกแบบส่วน Service อยู่เรียงกันไปทางโซนขวามือของห้องทั้งหมด เป็นห้องน้ำ ห้องครัว และ ระเบียง โดยตัวห้องครัวนี้เราจะได้เป็นครัวแบบเปิด ที่สามารถกั้นปิดให้เป็นสัดส่วนได้ เวลาทำอาหารก็สามารถเปิดประตูที่ระเบียงระบายอากาศได้ค่ะ นอกจากนี้ก็จะได้วัสดุพื้นส่วนครัวที่เปลี่ยนจากลามิเนตมาเป็นกระเบื้อง ทำให้เช็ดล้าง ทำความสะอาดคราบเลอะที่ครัวได้ง่าย และยังมีพื้นที่ระหว่างครัวและห้องน้ำ ที่จัดเป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติม หรือว่ามุมทำงานได้อีกด้วย

ห้องนี้จึงเป็น 1 Bedroom ที่เหมาะกับคนที่ชอบทำครัว มักจะทำอาหารกินเองที่บ้านเป็นประจำนะคะ

มาดูภายในห้องตัวอย่างกันค่ะ วัสดุพื้นห้องจะได้เป็นลามิเนตลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานก็ฉาบเรียบทาสีเช่นกัน ไฟจะได้เป็นดาวน์ไลท์ค่ะ ระดับพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร ถือว่ามาตรฐานสำหรับคอนโดที่เป็น Low Rise แบบโครงการนี้นะ

พื้นที่ส่วนแรกภายในห้องจะเป็นฟังก์ชันห้องนั่งเล่นค่ะ บริเวณนี้จะมีหน้ากว้าง 2.4 เมตร ลึกประมาณ 2.3 เมตร ถือว่าขนาดกำลังดี อยู่ 2 คนใช้งานสบายนะ

ผนังตรงนี้จะกว้าง 2.3 เมตร เราอาจจะหาชั้นวางทีวีแบบลอยตัวมาวางได้ หรืออาจจะเผื่อมุมสำหรับชั้นวางของ ชั้นวางรองเท้าตำแหน่งมุมเล็กๆ ข้างประตูทางเข้าห้อง

ส่วนโซฟาก็เลือกแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบาย อาจจะหาโต๊ะหน้าโซฟามาวางด้วยก็ได้ค่ะ แต่อาจจะต้องเลือกรุ่นที่ไม่ใหญ่มาก จะได้ไม่เกะกะทางเดินเข้า-ออกห้องนะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นมุมสำหรับโต๊ะกินข้าว ซึ่งภายในห้องตัวอย่างจะจัดชุดโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งขนาดเล็กๆ มาให้ดู แต่ในความเป็นจริงเราอาจจะเลือกโต๊ะที่ยาวขึ้นได้นะคะ เผื่อที่ว่าเวลากินข้าว ใครชอบกินแบบที่มีกับข้าวเยอะๆ จะได้มีพื้นที่วางบนโต๊ะมากหน่อย แต่ถ้าใครอยากประหยัดพื้นที่ก็ลองหาโต๊ะกินข้าวรุ่นที่เลื่อนหรือพับเก็บได้ก็ดีค่ะ

โดยพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกินข้าวถ้าอ้างอิงจากในห้องตัวอย่างจะมีขนาดประมาณ 1.3 เมตรค่ะ (เราอาจจะเลือกโซฟาที่มีขนาดเล็กลงเป็น 2 ที่นั่ง และเลือกชุดโต๊ะกินข้าวที่ใหญ่กว่าในห้องตัวอย่างแทนได้นะ)

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องนอนค่ะ ตัวห้องนอนจะแยกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ซึ่งยังดูโปร่ง ช่วยให้แสงสว่างจากภายนอกอาคารจากห้องนอน ส่องมายังห้องนั่งเล่นได้นะ

ตัวประตูจะมีรางเลื่อนทั้งบนและล่าง เปิด-ปิดได้สะดวก ไม่ติดขัดหรือตกร่องได้ง่ายๆ / สำหรับใครที่อยากให้ห้องนอนเป็นส่วนตัวมากขึ้นอาจจะหาม่านมาติดเพิ่มก็ได้ หรือจะใช้ sticker ขุ่นมาแปะที่กระจกก็จะช่วยได้เช่นกันค่ะ

เข้ามาภายในห้องนอน พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดหน้ากว้าง 2.5 เมตร ลึก 3.5 เมตรค่ะ

ขนาดเตียงที่เหมาะสมคือขนาด 5 – 5.5 ฟุตค่ะ ใครที่อยู่คนเดียวอาจจะเลือกเป็นเตียงแบบ 3.5 ฟุตแทน ก็จะได้พื้นที่ภายในห้องเพิ่ม เป็นมุมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งแบบจริงจังได้เลย

ส่วนหน้าต่างจะได้ 2 บานแนวตั้งแบบนี้ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ

ระยะปลายเตียงจะเหลือประมาณ 50 ซม. ไม่สามารถวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพิ่มได้แล้วนะคะ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงก็ยังพอวางโต๊ะหัวเตียง โคมไฟ ได้ และอย่าลืมเว้นระยะสำหรับผ้าม่านนะ

พื้นที่ข้างหัวเตียงฝั่งประตูห้องจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้าค่ะ โดยตู้เสื้อผ้าที่จัดไว้ให้ดูจะกว้างประมาณ 1.20 เมตร กับเตียงแบบ 5 ฟุตนะ แปลว่าถ้าใครอยากได้เตียงใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 ฟุตก็อาจจะต้องเลือกตู้เสื้อผ้าที่กว้างน้อยกว่านี้ควบคู่กันไปค่ะ

ส่วนผนังฝั่งตรงข้ามห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง แนะนำให้เลือกรุ่นที่ดูโปร่ง และไม่ใหญ่มาก จะได้ไม่เกะกะทางเดินค่ะ

มาดูอีกฝั่งของห้องกันค่ะ ตรงนี้จะมีห้องน้ำอยู่ทางขวามือและครัวทางซ้ายมือ

ระหว่างห้องน้ำและห้องครัวนั้นจะมีพื้นที่กว้างประมาณ​ 1.4 เมตร จัดเป็นมุมทำงานเพิ่มเติมแบบในห้องตัวอย่างก็ได้ หรือว่าจะจัดเป็นพื้นที่เก็บของก็ได้นะคะ

ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ติดกับโถงทางเดิน ถือว่าระยะไม่ไกลจากห้องนอนมาก เดินไม่ลำบากค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ให้ เวลาใช้งานก็จะสะดวกขึ้นค่ะ โดยภายในห้องน้ำจะได้ลวดลายกระเบื้องอย่างที่เห็นเลย ตำแหน่งนี้อาจจะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ แต่จะมีพัดลมระบายอากาศให้ค่ะ

Image 1/7
ระหว่างพื้นห้องและตัวห้องน้ำจะมีธรณีประตูกั้นขึ้นมา เพื่อให้ฝุ่นหรือผมที่ร่วงหล่นภายในห้องน้ำปลิวออกมา และยังช่วยให้ทำความสะอาดภายในห้องน้ำได้ง่าย

ระหว่างพื้นห้องและตัวห้องน้ำจะมีธรณีประตูกั้นขึ้นมา เพื่อให้ฝุ่นหรือผมที่ร่วงหล่นภายในห้องน้ำปลิวออกมา และยังช่วยให้ทำความสะอาดภายในห้องน้ำได้ง่าย

ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งตรงข้ามจะเป็นครัวค่ะ

วัสดุพื้นของบริเวณครัวจะเปลี่ยนจากลามิเนตเป็นกระเบื้อง เพื่อให้ง่ายเวลาทำความสะอาด และทนต่อความชื้น คราบ สารเคมีดีกว่าลามิเนตค่ะ / ถ้าดูจากรูปเราจะเห็นว่าอันที่จริงเราสามารถกั้นห้องนี้ให้เป็นครัวปิดได้นะคะ เผื่อใครอยากได้ครัวแบบปิด เพื่อไม่อยากกังวลเรื่องกลิ่น ควัน จากการทำอาหารจะไหลลอยไปติดโซฟาห้อง

ส่วนชุดครัวเราจะได้ Built-in มาอย่างที่เห็นเลยค่ะ (ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่งนะ)

พวกตู้ Built-in หน้าบานจะปิดผิวลามิเนต สลับลายบนล่าง(บนจะเป็นสีเทาส่วนล่างจะเป็นลายหินอ่อน) ชุดครัวจะได้ของ Teka จุดที่น่าสนใจคือจะมีแผ่นปิดอ่างล้างจานให้มาแบบในภาพ ช่วยเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารให้กับเราด้วยค่ะ หรือเวลาล้างจานเสร็จก็วางบนนี้ให้น้ำไหลลงด้านข้างซึ่งเป็นอ่างล้างจานได้ด้วย ไม่เลอะเทอะนะ

ติดกับครัวจะเป็นระเบียงค่ะ มีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนคั่นตรงกลาง สามารถเปิดเพื่อให้ช่วยระบายอากาศเวลาทำอาหารได้นะคะ

ตรงประตูนี้จะมีธรณีประตูที่สูงขึ้นกว่าภายในห้องนะ ให้ฝุ่น ผง หรือทำที่อยู่บริเวณระเบียงไม่ไหลเข้าห้องได้

ตัวระเบียงจะมีขนาดกว้างประมาณ 1.25 เมตรและลึก 1.4 เมตร เป็นส่วน Service ที่เอาไว้วาง CDU แอร์ วางเครื่องซักผ้า และตากผ้าค่ะ

มุมสำหรับวางเครื่องซักผ้าถือว่ากว้าง เลือกรุ่นได้สบายๆ เดินงานระบบไฟ ระบบน้ำเตรียมไว้ให้พร้อมค่ะ

ห้องนี้ถือว่าจัดฟังก์ชันออกมาได้กำลังดี สามารถอยู่กันได้ 1-2 คนนะคะ


1 Bedroom Type B2M ขนาด 28 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างอีกห้องจะเป็น Type B2M ขนาด 28 ตร.ม. เท่ากันกับห้องที่แล้วค่ะ แต่การจัด Layout ภายในห้องจะแตกต่างออกไป โดยห้องนี้จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ Common area ที่รวมเอาครัว พื้นที่กินข้าว และห้องนั่งเล่น เป็น open plan อยู่ติดกับทางเข้า และส่วนที่ 2 คือห้องนอนอยู่ด้านใน ซึ่งแปลนแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศห้องที่ดูโปร่งโล่ง และยังสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นขึ้นค่ะ

เข้ามาดูในห้องกันค่ะ ส่วนแรกที่เจอจะเป็นครัวเปิดที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าเลย โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีหน้ากว้างเกือบ 2.4 เมตร ทางขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวยาวขนานทางเดินค่ะ

ตัวห้องแบบนี้จะได้พื้นเป็นลามิเนตปูทั่วทั้งห้องเลยค่ะ ทำให้เวลาใช้งานครัว อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องการเปียกชื้นสักหน่อยนะคะ พื้นจะได้ไม่บวมง่าย ใช้ไปได้นานๆ

พื้นที่ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่โล่งค่ะ ทำให้บรรยากาศตั้งแต่ทางเข้าห้องดูกว้างดีนะคะ

พื้นที่ตรงนี้จะลึก 2.3 เมตร จากประตูห้อง ในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งมาให้เป็นตัวอย่าง ในการจัดห้องจริงเรามองว่าพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่นเลยค่ะ อาจจะหาชั้นวางรองเท้า ชั้นวางของมาวางบริเวณนี้เพิ่มก็ได้ หรือจะเลือกโต๊ะยาวชิดผนังแทนก็ได้นะ

ในห้องตัวอย่างเมื่อจัดโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งเอาไว้ให้ดู จะเหลือแนวทางเดินขนาดประมาณ 1 เมตรเลยค่ะ ใช้เดินเข้า-ออกห้องได้สบาย

มาดูที่ส่วนครัวกันต่อ ตรงนี้จะเป็นตำแหน่งเคาน์เตอร์ครัวที่กว้างประมาณ 1.25 เมตร พื้นที่ด้านข้างสามารถวางตู้เย็นได้

ท็อปของเคาน์เตอร์จะได้เป็นหินเทียมค่ะ มีคุณสมบัติค่อนข้างทนต่อสารเคมีเลยนะ ส่วนผนังด้านหลังก็จะได้กระเบื้องเป็น Backsplash เช็ดล้าง ทำความสะอาด คราบ เขม่าต่างๆได้ง่าย ในส่วนของชุดครัวนั้นจะได้ Built-in ของ Index ส่วนเตาไฟฟ้าและอ่างล้างจานจะเป็นของ Teka ค่ะ

สำหรับใครที่อยากได้ห้องครัวปิดเรามองว่า Layout ห้องนี้สามารถกั้นให้กลายเป็นห้องครัวปิดได้นะคะ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลางค่ะ มีความกว้างเต็มหน้ากว้างของห้องเลยเกือบๆ 4 เมตร กลายเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่บรรยากาศเหมือนบ้านเลยค่ะ

ตรงนี้จะลึกประมาณ 2 เมตร เราสามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ได้นะ และสามารถแบ่งพื้นที่ข้างๆทีวีให้กลายเป็นมุมนั่งทำงานได้ด้วยค่ะ

ในส่วนของโซฟาสามารถเลือกแบบ 2-3 ที่นั่งได้ตามใจชอบ และมีพื้นที่หน้าโซฟาเหลือค่อนข้างกว้าง กลายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถกางโต๊ะชวนเพื่อนมาเล่นบอร์ดเกม หรือว่าจะใช้เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย เล่นโยคะได้ทั้งนั้นค่ะ

เราไม่ค่อยจะเจอการจัด Layout แบบนี้ในโครงการใหม่ๆ กันสักเท่าไหร่นะคะ ข้อดีก็คือได้บรรยากาศที่โปร่ง ดูพื้นที่ห้องมีขนาดใหญ่สบายค่ะ

ต่อไปเราไปดูห้องน้ำกันค่ะ ตัวห้องน้ำจะอยู่ข้างๆ กับพื้นที่กินข้าวค่ะ

ด้านในจะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งเอาไว้ มีพัดลมระบายอากาศติดตั้งไว้ด้านใน

Image 1/5
พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยค่ะ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยค่ะ

มาดูส่วนที่เป็นห้องนอนกันต่อค่ะ ตัวห้องจะอยู่ด้านในสุด โดยจะมีประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะ

เข้ามาภายในห้องนอนทางขวาจะเป็นพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอนส่วนทางซ้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าและระเบียงของห้องค่ะ

Layout ห้องแบบนี้มีข้อดีคือช่วยให้ห้องดูต่อเนื่อง และดูกว้างขวางนะคะ อาจจะเหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน ไม่มีแขกมาเยี่ยมเยียนบ่อยนัก

ตัวห้องจะลึก 2.4 เมตร สามารถวางเตียงแบบ 5-5.5 ฟุตได้ค่ะ

เราสามารถเว้นระยะระหว่างเตียงกับผนังได้นะคะ เผื่อพื้นที่เอาไว้วางโต๊ะหัวเตียงได้สบาย เอาไว้วางเครื่องหอม หนังสืออ่านก่อนนอน

เป็นห้องนอนที่ระยะต่างๆ กำลังดีเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงหรือหน้าระเบียงนั้นจะมีขนาดกว้าง 1.4 เมตรค่ะ จัดเป็นตู้เสื้อผ้าได้พอดีกับพื้นที่เลย ส่วนผนังทึบด้านข้างก็อาจจะหาชุดโต๊ะเครื่องแป้งขนาดเล็กมาไว้ก็ได้นะ

ตัวระเบียงจะมีประตูบานเลื่อน 3 ตอนอยู่ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.3 x 1.25 เมตร

เป็นระเบียงสำหรับพื้นที่ Service เลย ไว้วาง CDU แอร์ วางเครื่องซักผ้าและตากผ้าได้ โดยจะเดินงานระบบต่างๆ มาให้พร้อม

แบบแปลน

Studio 25 sq.m.

ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ มีขนาด 25 ตร.ม.ค่ะ ภายในห้องจะได้เป็นพื้นที่โล่งต่อเนื่องไปทั้งห้องเลย โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ ติดกับทางเข้าและห้องน้ำมาให้ ดูจากพื้นที่ภายในแล้วเรามองว่าถ้าใครอยากได้ห้องครัวปิดก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนเพิ่มได้นะ

Image 1/5
Studio Type A1 25 sq.m.

Studio Type A1 25 sq.m.

1 Bedroom 28 sq.m.

ห้อง 1 Bedroom จะเป็นแบบที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ มีขนาด 28 ตร.ม.เท่ากันทุกห้อง โดยจะแบ่ง Layout เป็น 2 แบบหลักคือครัวติดระเบียง และห้องที่ครัวอยู่ติดทางเข้า ได้ห้องนั่งเล่นกว้าง ซึ่งเป็น 2 แบบที่เราพาไปดูกันในห้องตัวอย่างค่ะ ส่วน Gallery ด้านล่างที่เห็นว่ามี Plan เยอะ อันที่จริงการจัด Layout zoning จะเหมือนกัน มีแตกต่างกันตรงที่ตำแหน่งเสาอาคารเล็กน้อยค่ะ

Image 1/16
1 Bedroom Type B1 28 sq.m.

1 Bedroom Type B1 28 sq.m.

1 Bedroom Plus 35 sq.m.

ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของที่นี่จะเป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก และได้ข่าวมาว่าขายหมดแล้วด้วยค่ะ ซึ่งห้อง Type นี้จะได้ห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วน มีห้องอเนกประสงค์ภายใน ฟังก์ชันแยกเป็นสัดส่วน จึงไม่น่าแปลกใจที่ขายดีนะ

Image 1/5
1 Bedroom Plus Type C1 35 sq.m.

1 Bedroom Plus Type C1 35 sq.m.

ราคา

Aspire รัชโยธิน ราคา ณ วันที่ 28 June 2022

  • Studio Type A1 อาคาร C ชั้น 6 ขนาด 25 ตร.ม. ราคา 2.059 ล้านบาท หรือ 82,388 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type B1 อาคาร B ชั้น 2 ขนาด 28 ตร.ม. ราคา 2.261 ล้านบาท หรือ 80,750 บาท/ตร.ม.
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 15,000 – 30,000 บาท
  • ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 17-20 งวด (งวดละประมาณ 4,000-5,000 บาท มีงวดบอลลูน 2 งวด)
  • ค่ากองทุน 550 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
ที่ตั้ง Aspire รัชโยธิน อยู่ในซอยพหลโยธิน 35 ใกล้สี่แยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นโซนที่มีสำนักงานตั้งอยู่เยอะ ทั้งบริเวณ SCB Park และบนถนนวิภาวดีรังสิต มีสถานศึกษาสำคัญอยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะเป็น ม.เกษตรฯ หรือ รร.หอวัง นอกจากนี้ก็ยังเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง อยู่ใกล้ตลาด ห้างสรรพสินค้า ทั้งบริเวณสี่แยกรัชโยธินเอง และจากห้าแยกลาดพร้าวที่อยู่ไม่ไกล และเป็นโซนที่มีรถไฟฟ้าตัดผ่าน จึงเป็นทำเลที่มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นเยอะค่ะ

โดยคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นก็จะมีทั้ง คอนโดสูง High Rise ติดถนนพหลโยธิน และคอนโดแนวราบ Low Rise (สูงไม่เกิน 8 ชั้น) ภายในซอยย่อยต่างๆ ซึ่งคอนโดสูงก็มักจะใกล้รถไฟฟ้าแต่ราคาสูงตาม ส่วนคอนโด Low Rise มักจะราคาต่ำลงมา แลกกับทำเลที่ต้องเข้าซอยค่ะ / ในส่วนของ Aspire รัชโยธิน นี้นับว่าเป็นคอนโดที่ราคาจับต้องง่ายแต่ก็อยู่ทำเลที่ดี ช่วงต้นซอย ใกล้รถไฟฟ้าค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
ภายในซอยพหลโยธิน 35 เป็นซอยที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้สามเส้นทางคือ ถนนพหลโยธิน, ถนนงามวงศ์วาน และถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้มีตัวเลือกด้านเส้นทางหลากหลาย แต่เมื่อมองสัดส่วนที่จอดรถที่ให้มาจะอยู่ที่ 30% ถือว่าตรงตามที่กฎหมายกำหนด แต่ก็นับว่าไม่เยอะ ต้องมาลุ้นกันว่าคนที่ซื้อโครงการนี้เป็นคนที่ใช้รถส่วนตัวกันเยอะไหม?

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
นับว่าสะดวกเลยค่ะ ตัวเลือกอันดับแรกคือการไปใช้งานรถไฟฟ้า โดยตัวโครงการจะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 350 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้ค่ะ แต่ว่าทางโครงการก็จัดรถรับส่งมาให้อีก โดยจะรับส่งที่ปากซอย 35 ทำให้เราสามารถนั่งไปลงปากซอย และเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สบาย

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ทำเลนี้ยังเป็นโซนที่เรามองว่ามีรถสาธารณะให้ใช้งานเยอะ มีรถเมล์หลายสายผ่านที่ถนนใหญ่ เรียกใช้พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ง่าย หรือจะเรียกรถผ่าน Application ก็น่าจะใช้เวลาไม่นานค่ะ

วัสดุ :
ตัวห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully fitted ค่ะ ภายในห้องได้วัสดุมาตรฐานตามระดับราคานะ พื้นเป็นลามิเนต ผนังกับฝ้าเพดานก็ฉาบเรียบทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ติดมา ได้ครัวที่ Built-in มาเป็นของ Index อุปกรณ์ครัวเช่นเตาไฟฟ้า อ่างล้างจานเป็นของ Teka ส่วนภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ Cotto ค่ะ นอกจากนี้ก็จะได้แอร์ 1 ตัวด้วยนะ

การออกแบบ :
โครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 อาคาร ทำให้แต่ละอาคารมีจำนวนยูนิตน้อยลง เกิดความเป็นส่วนตัวในแต่ละอาคารมากขึ้น และในแต่ละอาคารก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เช่น อาคาร A สะดวก เพราะใกล้ทางเข้า-ออก, อาคาร B ได้ความเป็นส่วนตัว อยู่ด้านใน จำนวนยูนิตน้อย, อาคาร C มีส่วนกลางเยอะ

ส่วนรูปแบบห้องก็จะเน้นห้องขนาดเล็ก อยู่ 1-2 คน ส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom ภายในห้องจะเป็นครัวเปิดที่สามารถกั้นปิดได้เองในภายหลัง และมีแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า Modular Layout คือความยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ที่เราสามารถวางสลับได้ตามใจ ไม่ต้องจัดเหมือนแปลนที่ออกแบบมาให้เห็นได้ค่ะ

สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางในแง่ฟังก์ชันถือว่าได้ตามมาตรฐานนะคะ มีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวน, co-working space และ Lobby มาให้พร้อม ในแง่ความสวยงามก็ถือว่ามีการออกแบบที่กำลังดี มีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้ตรงกลางเป็นวิวให้ห้องที่อยู่ตรงกลางได้ มีฟิตเนสที่เปิดใช้ 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ชีวิตคนที่เรียนหรือทำงานที่มีเวลาออกกำลังกายตอนดึกด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 88,000 บาท/ตร.ม., 28 June 2022

  • ทำเล 8.5/10 – ต้นซอยพหลฯ 35 ใกล้แยกรัชโยธิน
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ในซอยเชื่อมต่อถนนได้หลายเส้นทาง
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้า เดินได้ และมีรถรับ-ส่งปากซอย
  • วัสดุ 7.25/10 – Fully fitted
  • แบบ 7.5/10 – เน้นห้องขนาดเล็ก อยู่ 1-2 คน
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาตามมาตรฐาน

  • MAIN CLASS
  • 8.0125 / 10.00

Aspire รัชโยธิน เหมาะกับใคร?

โครงการ Aspire รัชโยธิน เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในงบไม่เกิน 3 ล้านบาท (รวมงบตกแต่ง) ชอบทำเลที่เดินทางสะดวก หาของกินง่าย อยู่กันได้ 1-2 คน อาจจะเป็นคนที่อยู่โซนนี้อยู่แล้วแต่เช่าอยู่ ก็เปลี่ยนค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อนแทนได้ค่ะ โดยมีกำลังผ่อนอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 20,000 บาทต่อเดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc