รีวิวเจาะลึกชุดที่ 71 … เป็นโปรเจคที่ TOP ที่สุดของทางอนันดา เจ้าของแบรนด์คอนโดดังอย่าง IDEO ที่ทำมาเป็นสิบตึกใกล้รถไฟฟ้าและประสบความสำเร็จไปอย่างล้นหลาม คราวนี้เมื่อ Ananda Development จะขยับ Segment ตลาดขึ้นมาจับตลาดบน ปรับภาพลักษณ์และตัวสินค้า ปัดความเป็น IDEO ออก นำความ “หรูหรา” เข้ามาใส่ด้วยแบรนด์ Ashton เพื่อรับตลาดระดับ LUXURY CLASS ในทำเลสุขุมวิทซอยเลขคู่ ฝั่งตรงข้ามย่านทองหล่อ และเป็นคอนโดตึกแรกจาก 3 ตึกของแบรนด์ใหญ่ย่านทองหล่อ (Thonglhor Saga ไตรภาค) ที่ผมคัดมาเล่าให้ฟังพร้อมๆกัน เรามาดูกันว่าเป็นอย่างไรครับ

Fact @ 13 December 2011

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

 

ที่ตั้งของคอนโด Ashton ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 หรือซอยสันติสุข ฝั่งขวามือช่วงที่เลยแยกซอยแสงชัยไปแล้วนิดหน่อย ซึ่งเป็นทำเล “ย่านทองหล่อ” ฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 อันเป็นทำเลทองของสุขุมวิทช่วงกลาง

ฝั่งซอยเลขคู่จะสงบ ร่มรื่น และเป็นเขตที่อยู่อาศัยต่างจากฝั่งซอยเลขคี่ที่จะคึกครื้น มีร้านค้าตลอดทั้งซอยอย่างทองหล่อ ซึ่งแปลงที่อยู่อาศัยจะถูกถอยร่นให้ไปอยู่ในซอยที่ลึกเข้าไป

ภาพนี้ถ่ายจากบนรถไฟฟ้าครับ เมื่อมองไปยังทางออกฝั่งซอยเลขคู่จะเห็นตึก Ashton ตั้งตระหง่านอยู่เลย ตึกที่มีป้ายสีส้มๆละครับ ซึ่งปากซอยก็มี Billboard ของ Ashton สำหรับยูนิตราคาพิเศษ 6.9 ล้านบาทด้วย (แต่ตอนที่เข้าไปดู พนักงานขายบอกว่าขายหมดไปแล้วป้ายยังไม่ได้เอาลง)

เดินเข้าไปจากปากซอยจะเห็นว่าถนนสองฟากมีร้านอาหาร รถเข็นตั้งกันเต็มไปหมด ไม่อดตายแน่ๆ แต่คือมีข้อเสียตรงที่ซอยจะถูกรถพวกนี้จอดขวางทางไปหมด ยังดีที่ซอยกว้างหน่อย จอดขวางก็ยังพอมีทางไป

เดินเข้าไปอีกนิดทางซ้ายจะผ่านตึกเก่าของ Sansiri ชื่อว่า SIRI at Sukhumvit ที่ขายหมดไปแล้ว เทียบกันกับ Ashton ก็ทำเลดีกว่าเพราะอยู่ต้นซอยมากกว่า แต่เอาจริงๆก็ไม่ต่างกันมากหรอกครับ

เดินผ่านไปจะเจอแยกซอยแสงชัย มีป้าย IDEO Morph 38 ตรงไป Ashton เลี้ยว เล่นทำเอาผมงงไปทันที … หลังจากที่เกือบจะหลงไปหนึ่งรอบ พบว่าจริงๆสำนักงานขายอยู่ที่เดียวกัน ให้ตรงไปนะครับ อย่าเลี้ยว … เดี๋ยวผิดทาง

 

ในที่สุดเราก็มาถึง Sales Gallery ของแอชตัน มอร์พ 38

lสำนักงานขายก็ตกแต่งได้หรู ทำดีกว่า IDEO ทุกแห่งที่เคยไปมา

คอนโดวางตัวขวางในแนวตะวันออก-ตะวันตก ทำให้ยูนิตห้องรับแดดจากเหนือใต้ เป็นการดี แปลงที่ดินก็อยู่ตรงนี้ที่มีศรเขียวๆปักเอาไว้

ตึกมีสองตึก ข้างหน้าเป็น IDEO Morph ตึกใหญ่แต่เตี้ยกว่า ส่วนข้างหลังเป็น ASHTON Morph ตึกผอมกว่าสูงกว่า ก็แทบจะเป็นโครงการเดียวกันอยู่แล้ว เพราะที่ดินอยู่ติดกัน คล้ายๆกับ The Base / Blocs 77 ของแสนสิริ หรือ พวกหมู่บ้านพฤกษา / The Plant / ภัสสร ที่ใช้ที่ดินเดียวกัน แต่แยกสินค้าในการจับตลาดต่างกัน

IDEO Morph จะเป็นคอนโดยูนิตเล็ก ตั้งแต่ 23 ตารางเมตร จับตลาดช่วง 5  ล้าน ส่วน ASHTON จะทำยูนิตใหญ่ ตั้งแต่ 53 ตารางเมตร ตับตลาด 7 – 10 ล้านอัพ

ถ้าอยากรู้ว่าเดินไกลไหมไปยัง BTS ทองหล่อที่ถนนสุขุมวิท ก็ต้องตอบว่า 350 เมตรนะครับ ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล อยู่ในระยะเดินพอดีๆ ได้ออกกำลังกายทุกเช้า ยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึง BTS แล้ว

จะเห็นว่าทำเลฝั่งเลขคู่ไม่มีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง หรือ Super Market เรียงรายกันแบบฝั่งซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับคนที่ชอบสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางคนอาจชอบความ Lively ที่ฝั่งทองหล่อ หรือบางคนอาจชอบความเงียบสงบในฝั่งซอย 38 ครับ

ข้อดีอีกข้อของซอย 38 หรือฝั่งเลขคู่ทั้งหลาย ก็คือการที่สามารถทะลุไปยังถนนพระราม 4 ได้ ด้วยระยะทางประมาณ 900 เมตร จาก Ashton Morph นะครับ ตรงนี้สามารถใช้เป็นทางหนีทีไล่ขึ้นทางด่วน เลี่ยงรถติดได้ดีกว่าฝั่งซอยเลขคี่ ที่ทั้งสุขุมวิทและเพชรบุรี มักจะบรรจงมาติดพร้อมๆกัน

 

ตึกที่สร้างอยู่ข้างหน้า (TOWER A) ก็คือ IDEO Morph 38 ปลายปี 2554 สร้างได้เท่านี้ครับ

 

ตึกที่อยู่ข้างหลังแท่งสูงๆนั่นก็คือ TOWER B เป็นโครงการ Ashton Morph 38 นะครับ

ก่อนจบเรื่องทำเลมาดูวิวกันนิดนึง ว่าทางทิศใต้ (จริงๆแล้วเฉียงตะวันออกหน่อยๆ) มองเห็นวิวเป็นอย่างไร ก็คือจะเป็นวิวพระราม 4 มองเห็นโค้งเจ้าพระยาอยู่ไกลลิบๆโน่น อันนี้มองจากชั้น 32 นะครับ วิวจะเขียวๆๆ มากกว่าฝั่งเมืองอย่างทองหล่อ แต่ทิศใต้ก็จะโดนแดดมากกว่าหน่อย (โชคดีที่เฉียงตะวันออก ไม่โดนเต็มๆ) ดังนั้นแล้วแต่คนชอบครับ

 

 

เจาะลึกตัวสินค้า

ASHTON มอร์พเป็นคอนโดตึกเดียว แต่ว่าตั้งติดกันกับ IDEO MORPH 38 ที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งภายในตึกก็แยกกันหมด Facility แยกกันด้วย ตั้งอยู่บนที่ดิน 3-1-30 ไร่ มียูนิตพักอาศัย 199 ยูนิตและยูนิตร้านค้าอีก 2 ยูนิต

ชั้นล่างสุดมี Lobby, สวน, Shops และที่จอดรถ เดี๋ยวจะซูมเข้าไป ส่วน TOWER A ที่เห็นข้างๆเป็นตึก IDEO Morph 38 นะครับ ไม่เกี่ยวกัน

Shop มี 2 แห่งอยู่ติดกับจุด Drop Off ก่อนเข้า Lobby ข้างในมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัวพาขึ้นไปข้างบน โดยมี Service Lift แยกต่างหาก พอเอา 200 ยูนิตเลขกลมๆหาร 3 ก็จะพบว่าลิฟท์ตัวนึงรับโหลดเพียง 66 ห้องเท่านั้น จัดว่าดีมากเลยครับ

ลองนับดูได้ความว่าชั้น G จอดได้ 24 คัน ที่จอดรถมีบนชั้น 2-7 (โบร์ชัวร์เขียนผิด ไม่ใช่ชั้น 2-4 จริงๆแล้วเป็น 2-7) อีกชั้นละ 28 คัน รวมเป็น 192 คัน จอดซ้อนคันน่าจะได้ราวๆ 10 คันต่อชั้นยกเว้นชั้น G รวมเป็น 252 คัน ได้ 126% ของจำนวนยูนิต ถือว่า “ดีมาก” สำหรับคอนโดระดับ LUXURY CLASS นะครับ ที่ห้องแต่ละห้องต้องมีรถแน่นอน และบางห้องอาจจะมีมากกว่า 1 คันด้วย การมีที่จอดรถ Spare ไว้ 26% เป็นการดีมากเลยครับ แม้ว่าจะเป็นการจอดซ้อนคันก็ตามที

 

มาดูกันต่อที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นยูนิตพิเศษ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่หน้าคอนโดสองชั้นแบบ Duplex ซึ่งมีเพียง 9 ยูนิตเท่านั้นในโครงการ โดยยูนิตที่หันออกด้านหลัง (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) จะมีสระว่ายน้ำที่ใหญ่กว่า ส่วนยูนิตที่หันทิศเหนือจะได้พื้นที่ระเบียงสวนที่มากกว่าครับ

นี่เป็นภาพ Perspective 3 มิติที่ออกแบบเอาไว้ ว่ายูนิต Duplex จะเป็นอย่างไร

แปลนชั้นบนของยูนิตชั้น 8 ครับ ทุกห้องมีส่วนที่เป็น Double Volumn (เพดานเปิดโล่ง) ทั้งหมด

พอเรามาดูห้องแบบทั่วๆไปในชั้น 18 ก็จะเห็นเป็นแบบนี้ ชั้นหน่ึงๆคงมีไม่เกิน 8-9 ยูนิต แชร์ลิฟท์ 3 ตัว นับว่าหลวมๆ อยู่สบาย Privacy ครับ

ชั้นที่ 32 เป็นส่วนของ Facility ที่แบ่งพื้นที่ของตึกเป็นหลายๆส่วนด้วยกัน มีสระว่ายน้ำ สวนสาธารณะ สถานที่นั่งเล่น Fitness ซาวน่า สตีม และห้องประชุม Business Area เรียกว่ามีอะไรใส่ไปให้หมด ด้วยขนาดของ Facility ที่มี ก็เหมาะสมกับจำนวนยูนิต 200 ยูนิต นะครับ อย่าลืมนะครับว่าจ่ายตารางเมตรละ 140,000 ขึ้นไป ถ้าไม่ได้ขนาดนี้ก็ไม่คุ้มครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องออกกำลังกาย
  • สระว่ายน้ำชั้น 32
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว, Service Lift 1 ตัว
  • สวนชั้น G และชั้น 32
  • Lobby
  • ที่จอดรถ 74%
  • Business Area
  • Steam / Sauna
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

เราจะพาไปดูห้อง 2 Bedrooms ยูนิต D1 – 1A ขนาด 70.45 ตารางเมตร

ประตูเป็น Digital Door Lock มีระบบ Keycard และ Passcode

ประตูจากข้างใน คุณภาพหน้าบานโอเคเลย

พื้นในส่วนของห้องนั่งเล่น Engineering Wood และครัว

ห้องรับแขกแต่งได้หรูหราดูดี แม้แต่เป็นตัว TOP ของอนันดาก็ยังคงความเป็นระเบียงสองชั้นเอาไว้

ชุดครัวจัดได้ลงตัว วัสดุเกรดดี

ห้องนอนเล็ก

อ่างล้างหน้า ท๊อปข้างล่างเป็นหินนะครับ

ลายกระเบื้องต่างๆเลือกใช้เกรดหรูๆ โถสุขภัณฑ์ลอยติดผนัง

สำหรับยูนิตที่เป็นห้องตัวอย่าง ระเบียงมีพื้นที่เล็กไปนิดนึง คือวางเก้าอี้ได้แต่นั่งไม่ได้ต้องวางเฉียงๆ คอนโดระดับ LUXURY ควรที่จะมีพื้นที่เปิดกว้างกว่านี้ ให้เป็น Function ที่ใช้งานได้ดี

กลับมาดูครัวอีกครั้ง ท๊อปใช้หินแท้สีดำ

ตู้เสื้อผ้า Built-in

ผนังก็ใช้หิน ทำเสียสวยเลย อ่างอาบน้ำในห้องนอนตามฟอร์ม

ซิงก์เป็นหินล้วนๆ ก๊อกโค้งสวยงาม

ห้องนอนใหญ่

มองทะลุผ่านไปยังอ่างอาบน้ำได้

แอร์ฝังฝ้า มีให้เรียบร้อย

กระจกห้องนอนเล็ก บานเปิดกระทุ้ง

เตาไฟฟ้าระบบเหนี่ยวนำ 4 หัว ของ smeg

บานเปิดครัวเป็น Glossy เงาๆหน่อย

ก๊อกน้ำกับซิงก์ถ่ายแบบ Zoom

สุขภัณฑ์

ให้ดูลายกระเบื้องพื้นห้องน้ำกับผนัง

ก่อนจบมาดู One Bedroom กันนิดนึง ห้อง C4 ขนาด 56.25 ตารางเมตร

ข้างในก็แต่งได้หรูไม่แพ้กัน แต่ว่าผมชอบ 2 Bedrooms มากกว่า

มีพื้นที่ห้องส่วนที่เป็น Plus เข้ามา เอามาทำ Library เล็กๆ

ห้องนอนก็ยังแต่งได้หรูหราเหมือนเดิม

Price vs Performance

ราคาเริ่มต้นปัจจุบันในวันที่ไปทำรีวิว (ธันวาคม 2554) ก็ได้เพ่ิมขึ้นไปจนถึงตารางเมตรละ 143,822 บาทแล้ว โดยเราจะยึดจากราคานี้เป็นราคาที่รีวิวนะครับ พวกราคาเปิดตัวโครงการสมัยก่อน ชั้นล่างๆแถวๆ 130,000 กว่าๆ ไม่นำมาคิดนะครับ

  • 1 Bedroom ชั้น 11 ห้อง 04 เนื้อที่ 56.25 ตารางเมตร ในราคา 8.09 ล้านบาท หรือ 143,822 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ชั้น 15 ห้อง 04 เนื้อที่ 70.45 ตารางเมตร ในราคา 10.48 ล้านบาท หรือ 148,758 บาทต่อตารางเมตร

  • จอง 60,000 – 80,000 บาท
  • ทำสัญญา 150,000 – 234,400 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ ASHTON Morph 38 เป็นทำเล “ย่านทองหล่อ” แต่ไม่ใช่ “ทองหล่อ” เสียทีเดียว เพราะอยู่ฝั่งตรงข้ามในซอยสุขุมวิท 38 ที่ที่ดินมีราคาลดลงไป ไม่ใช่ทำเล Super Prime ติดถนนซอยทองหล่อ แต่ทำเลระดับนี้ก็ถือว่าสงบ และเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย หากเทียบกับฝั่งทองหล่อที่จะเป็นย่านธุรกิจ การค้า Shopping Mall ที่มีความสนุกสนานครื้นเครง มีชีวิตชีวาสูง ดังนั้นหากจะว่ากันตามตรง ทำเลฝั่งนี้ยังเป็นทำเลรองในเรื่องของราคาที่ดินแต่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยครับ

การเข้าออกของซอย 38 นั้นทำได้สองทาง ทั้งจากถนนพระราม 4 และจากสุขุมวิท ทำให้มีความคล่องตัวสูงในการเดินทาง สามารถไปมาได้จากถนนใหญ่ทั้งสองเส้น หรือจะเลือกใช้ BTS ในระยะห่างราว 350 เมตรได้ จุดเด่นของทำเลนี้คือการที่ไม่มีตึกสูงในระยะประชิดบัง ทำให้วิวเปิดกว้าง มองฝั่งพระราม 4 และฝั่งทองหล่อได้อย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งเป็นวิวธรรมชาติอีกฝั่งหน่ึงเป็นวิวเมือง ส่วนจุดด้อยอาจเป็นเรื่องของการที่ไม่มี Shopping Mall ในระยะใกล้ ต้องข้ามไปฝั่งทองหล่อ-เอกมัยครับ

คุณภาพวัสดุก็ต้องจัดว่าดีในระดับของ LUXURY CLASS ที่ตารางเมตรละ 130,000 – 160,000 บาท ซึ่งจัดสเปคของได้ตรงตาม Segment ทางการตลาด ห้องน้ำใช้หินเป็นส่วนประกอบเยอะ กระเบื้องต่างๆใช้ของดี หรือบางจุดก็ใช้หินปูด้วยเลย พื้นห้องปลิดผิวไม้จริง ครัวก็ใช้ท๊อปหิน เตาไฟฟ้าแบบเหนี่ยวนำเกรดดี

ส่วนเรื่องความหรูหราของ Lobby และส่วนกลางจะเป็นอย่างไร อันนี้ต้องรอตึกเสร็จจึงสามารถบอกได้ครับ เพราะคอนโดระดับ LUXURY ไม่สามารถดูได้แค่วัสดุในห้องเพียงอย่างเดียว พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดต้องดู Premium มากๆด้วย

แบบตึกและแบบห้องของ ASHTON ทำออกมาได้ดีมาก ที่จอดรถแบบเข้าซองมี 192 คันจากยูนิต 201 ห้อง ก็เรียกว่าแทบจะ 100% โดยไม่ต้องจอดซ้อนคัน หากห้องไหนมีรถสองคัน ก็ยังสามารถซ้อนคันแถมเข้าไปอีก ได้ในระดับที่ 126% จากจำนวนยูนิตทั้งหมด ในขณะเดียวกันลิฟท์โดยสาร 3 ตัว แบ่งโหลดเพียง 66 ยูนิตต่อตัว ก็ถือว่าดีมากเช่นกัน

ส่วนแบบห้องทั้ง 2 ห้องนอนและ 1 ห้องนอนทำออกมาได้กว้างขวาง สมกับการที่อัพ Segment ไป 1 ระดับ เพราะความ LUXURY นั้นมากับความโล่ง โปร่ง พื้นที่เหลือเยอะ ถ้าจะใช้แบบเดิมๆของ IDEO ก็คงจะไม่เหมาะเป็นที่สุด … 1 ห้องนอนต้อง 50 ตารางเมตรอัพ และ 2 ห้องนอนต้อง 70 ตารางเมตรอัพ ซึ่งจุดนี้ ASHTON ทำได้ดี ทั้งห้องนอนและห้องน้ำครับ

สาธารณูปโภคมีครบครันที่ชั้น 32 ตั้งแต่ Fitness, Pool, Park, Recreation Area, Business Room, Sauna, Steam ก็ถือว่าครบทุกอย่างที่เป็นสาธารณูปโภคหลักๆที่คอนโดมักจะมีให้ ซึ่งถ้าทำออกมาสวย หรูหราและใช้งานได้จริง

สุดท้ายคือเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคา ASHTON อาจจะดูยังไม่ค่อย “คุ้ม” เท่าไร เพราะการที่จะทำให้คอนโดระดับตารางเมตรละ 140,000 ดู “คุ้ม” มันก็ทำได้ยากมาก ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือ ทำเลของ ASHTON ยังไม่ PRIME เพียงพอ และ/หรือ มีจุดขายของทำเลแบบ UNIQUE พอที่จะตั้งราคานี้ได้ (เช่นแม่น้ำ สวนใหญ่ ติดรถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่ ฯลฯ) ทำให้ความคุ้มถูกจัดไว้ในระดับมาตรฐานครับ

Judgement

  • ทำเล 8.5/10 – ทำเลดี อยู่ในโซนสงบใกล้รถไฟฟ้าทองหล่อ ห่าง 350 เมตร
  • คุณภาพวัสดุ 9/10 – คุณภาพวัสดุดีมาก ใช้ของที่เหมาะสมสำหรับ Segment ระดับ LUXURY CLASS
  • แบบ 9/10 – แบบตึกทำออกมาได้ดีมาก ไม่แออัด ลิฟท์เพียงพอ แบบห้องทำออกมาได้ดี กว้างขวาง ห้องน้ำหรู ใช้งานได้จริงในเกือบทุกจุด
  • สาธารณูปโภค 9.5/10 – มีครบทุกอย่าง ที่จอดรถ 126% ซาวน่า ฟิตเนส สตีม สระว่ายน้ำ สวน
  • ชื่อเสียง 7.5/10 – อนันดา, Ashton
  • ความคุ้มราคา 7/10 – ทำเลทองหล่อก็จริงอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ Prime สุดๆ กับคอนโดตารางเมตรละ 140,000 อัพไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ความคุ้มค่าจึงต้องถูกลดลงไป

  • LUXURY CLASS @ DECEMBER 2011
  • Final Score 8.33/10
  • GRADE B+

ติดต่อสำนักงานขายได้ที่ 081-808-7537 นะครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ