รีวิวฉบับที่ 2106 …ช่วงนี้คนที่มองหาคอนโดพักตากอากาศย่านพัทยา คงไม่มีใครไม่รู้จักคอนโดหรู AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) ที่เปิดตัวมาในราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม. คิดเล่นๆ คือเทียบเท่าคอนโดย่านอโศกเลยนะคะ แต่ราคานี้แลกมากับทำเลติดหาดวงศ์อมาตย์ที่ถือเป็นทำเลหายากในเวลานี้แล้ว นอกจากทำเลยังมีจุดเด่นที่ Facility และการออกแบบให้เห็นวิวพัทยาได้ทุกห้อง ในราคาเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท รายละเอียดจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

ข้อมูลโครงการ

15 August 2020

  • AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์)
  • บริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • HIGH-LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
  • ที่ดินประมาณ 3-3-41 ไร่
  • คอนโด High Rise 55 ชั้น 319 ยูนิต 1 อาคาร, Front Building 2 ชั้น+ชั้นใต้ดิน 1 อาคาร
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิตที่อาคาร
  • ที่จอดรถประมาณ 146 คัน คิดเป็น 45%
  • เริ่มก่อสร้าง : Q2 ปี 2564
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 ปี 2567
  • 1 Bedroom 37.5 – 63 ตร.ม. เริ่มต้น 6.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 81 – 87 ตร.ม. เริ่มต้น 15 ล้านบาท
  • Penthouse 201 – 210 ตร.ม. เริ่มต้น 51 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดาน

  • ห้องพักอาศัยชั้น 3 – 45 สูง 2.8 เมตร
  • ห้องพักอาศัยชั้น 46 – 52 สูง 3.5 เมตร

  • ราคาห้องเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท (1 Bedroom 37.5 ตร.ม.) / หรือตร.ม.ละ 165,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.
  • ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 176,000 – 260,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : +66 97-917-8000
  • สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

    ทำเลที่ตั้ง

    พิกัด Google Maps : 12.965109, 100.884292
    หรือสามารถ : คลิกที่นี่

    แผนที่จากทางโครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) ตั้งอยู่ในซอยนาเกลือ 16 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่ดินติดโค้งหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

    พูดถึงภาพรวมของพัทยากันก่อน ..นับเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติมากเป็นพิเศษ เรื่องร้านอาหาร ศูนย์การค้า และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ต้องพูดถึงเลยมีมากมายมหาศาล จนเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว เอาจริงๆพัทยานี่เป็นเขตปกครองพิเศษที่มีความหนาแน่นของชุมชนไม่แพ้กรุงเทพเลยนะ

    ซูมเข้ามาดูที่บริบทโดยรอบโครงการจะเห็นว่าโซนนี้เป็นที่ตั้งของโรงแรมชื่อดังหลายแห่งที่มาจับจองทำเลติดหาดมาช้านาน ถ้ามองในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมที่ขึ้นใหม่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาก็มีหลายโครงการนะ แต่มักจะเป็นทำเลที่อยู่ติดถนนในตัวเมืองพัทยาบ้าง หรืออยู่บนเขาพระตำหนักบ้าง หรือออกไปทางหาดจอมเทียนบ้าง ทำให้คอนโดที่ได้ทำเลติดหาดและใกล้ตัวเมืองพัทยาแบบโครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) กลายเป็นของหายากที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในช่วงหลังๆ นี้

    ในส่วนที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยนาเกลือ 16 ที่เชื่อมต่อเข้าออกได้ทั้งซอย 12,14  แต่หลักๆ ก็จะไปเชื่อมออกถนนพัทยา-นาเกลือ เหมือนๆ กัน เป็นถนนเดินรถแบบ Two-Way ฝั่งหนึ่งไปสุดที่วงเวียนปลาโลมาและ อีกฝั่งหนึ่งไปเชื่อมเข้าถนนสุขุมวิท ทำให้ถนนพัทยา-นาเกลือสามารถเชื่อมออกไปถนนหลักเส้นต่างๆในละแวกนี้ได้หมดอาทิเช่น ถนนพัทยาเหนือ, ถนนเลียบหาด, ถนนสุขุมวิท เป็นต้น

    พูดโดยสรุปง่ายๆคือ ทำเลของโครงการจะเหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดพักตากอากาศที่ได้ความสงบ ได้บรรยากาศที่ติดชายหาด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ไกลจากความคึกคักของตัวเมืองพัทยาด้วยค่ะ

    การเดินทางไปโครงการในวันนี้ เริ่มต้นจากวงเวียนปลาโลมา บริเวณหน้าศูนย์การค้า Terminal 21 แหล่งช้อปปิ้งน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2018 และเป็นศูนย์การค้าที่ใกล้กับโครงการที่สุดด้วย

    จากวงเวียนปลาโลมาก็ขับตามถนนพัทยา-นาเกลือมาเรื่อยๆ แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนาเกลือ 16 วิ่งตรงยาวๆ จนสุดทางจะเจอป้ายโครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) แล้ว ง่ายสุดๆ เลยใช่มั้ยคะ งั้นเราไปชมบรรยากาศการเดินทางกันเลย

    Image 1/8
    เริ่มเดินทางจากบริเวณหน้า Terminal 21 บนถนนพัทยาเหนือ

    เริ่มเดินทางจากบริเวณหน้า Terminal 21 บนถนนพัทยาเหนือ

    ถึงโครงการแล้วเราจะพาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ของ Sales Gallery กันหน่อย เพราะทางโครงการตกแต่งไว้ให้ในคอนเซปต์ ‘Sense of Masterpiece’ เช่นเดียวกับคอนโด บรรยากาศต่างๆ จึงจะออกมาในสไตล์ที่ใกล้เคียงกับคอนโดจริงค่ะ

    Image 1/12
    หลังจากจอดรถเสร็จเราก็เดินเข้าส่วนของ Sales Gallery กันเลย เล่าให้ฟังก่อนว่าตำแหน่งของ Slaes Gallery ไม่ได้อยู่บนที่ดินที่จะสร้างคอนโดนะคะ แต่เป็นแปลงที่อยู่ติดกัน ซึ่งในอนาคตมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมค่ะ

    หลังจากจอดรถเสร็จเราก็เดินเข้าส่วนของ Sales Gallery กันเลย เล่าให้ฟังก่อนว่าตำแหน่งของ Slaes Gallery ไม่ได้อยู่บนที่ดินที่จะสร้างคอนโดนะคะ แต่เป็นแปลงที่อยู่ติดกัน ซึ่งในอนาคตมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมค่ะ

    สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ จะเป็นโรงแรมริมหาดซะเป็นส่วนใหญ่ วิวที่เป็นไฮไลท์ของโครงการจะเป็นวิวทะเลทางทิศตะวันตกแบบเปิดโล่ง ไม่มีอะไรบังเลย ซึ่งห้องพักทุกห้องจะได้วิวนี้นะคะ

    สำหรับห้องมุมของโครงการจะได้วิวทางทิศเหนือ-ใต้ด้วย ซึ่งแปลงที่ดินที่อยู่ติดกันทางทิศเหนือเป็น Sales Gallery อยู่ในตอนนี้ มีแพลนจะพัฒนาเป็นโรงแรมในอนาคต แต่จากรูปร่างของที่ดินคาดว่าจะไม่ได้มาบังวิวทะเลของคอนโดโดยตรง แต่อาจจะมีเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่อาจจะลดลงไปบ้าง ขึ้นอยู่กับการออกแบบของโรงแรมในอนาคตค่ะ ส่วนแปลงที่ดินติดกันทางทิศใต้เป็นกลุ่มอาคาร 1-2 ชั้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่ผลกระทบต่อห้องพักทางด้านนี้ค่ะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    ATTRACTION

    • Art in Paradise ~ 2.8 km.
    • Sanctuary of Truth ~ 3.2 km.
    • Mini Siam ~ 4.9 km.

    SHOPPING

    • Terminal 21 Pattaya ~ 3.1 km.
    • Naklua Market ~ 3.1 km.
    • Central Marina ~ 3.2 km.
    • Central Festival Pattaya ~ 4.5 km.

    HOTEL

    • Pullman Pattaya Hotel G ~ 700 m.
    • Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya ~ 950 m.
    • Dusit Thani Pattaya hotel ~ 2.6 km.
    • Avani Pattaya Resort ~ 5.2 km.
    • Amari Pattaya ~ 5.7 km.

    HEALTH CARE

    • Bangkok Hospital Pattaya ~ 4 km.
    • Pattaya International Hospital ~ 5.5 km.

    รายละเอียดโครงการ

    โครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) เป็นคอนโดตากอากาศเปิดใหม่ในทำเลพัทยาที่เปิดตัวมาด้วยราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม. จัดเป็นคอนโดราคาสูงในทำเลนี้ เพราะส่วนใหญ่คอนโดโซนพัทยาก็จะอยู่ที่ราวๆ เกือบแสนหรือแสนกว่าบาท/ตร.ม.นะคะ เราคิดว่ามีอยู่ 3 เหตุผลหลักที่ทำให้โครงการตัดสินใจตั้งราคาพรีเมี่ยมขนาดนี้…

    1. ทำเลติดหาดวงศ์อมาตย์ : ถ้าลองค้นย้อนไป 5 ปีจะเห็นว่าคอนโดเปิดตัวในพัทยากันเยอะแยะ แต่ทำเลของคอนโดที่ติดหาดจริงๆ นั้นเป็นของหายาก
    2. การออกแบบห้องพัก : เป็นห้องที่ได้วิวทะเลทุกห้อง ไม่ใช่ได้แบบจุ๋มจิ๋มมองผ่านกระจกบานเล็กๆ แต่จะเป็นบาน Full Frame เต็มความสูงความกว้างของผนังห้องเลยทีเดียว
    3. Facilities 2 ส่วน : คือที่อาคาร Front Building 2 ชั้น + ชั้นใต้ดิน และที่ชั้น 53-55 บนอาคารพักอาศัย

    โครงการนี้ถูกพัฒนาโดยบริษัท คัลเลอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ชื่ออาจจะไม่คุ้นหู แต่จริงๆ แล้วเป็นการรวมตัวของ 3 บริษัทอสังหาฯ เจ้าดังที่มีประสบการณ์มากมายอย่าง Apus Development Group ที่มีประสบการณ์ในการทำคอนโดระดับ Luxury , The Urban Property ผู้พัฒนาโครงการคอนโดตากอากาศในทำเลพัทยา และกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ Sirisa Group ที่ทำธุรกิจอสังหาฯ หลากหลายประเภท ในภาคตะวันออก

    โครงการมีแนวคิด ‘Sense of Masterpirce’ ที่อยากให้ลูกบ้านรับรู้ถึงความโดดเด่นใน 4 เรื่องคือ

    1. Masterpiece of Design จะเห็นได้จากงานสถาปัตย์ งานออกแบบภายในและงานภูมิสถาปัตยกรรม ที่ตัวอาคารมีความโดดเด่นในลักษณะ Single Stand Tower แต่ก็ยังคงมีความเคารพต่อบริบทโดยรอบด้วยการเลือกใช้เป็น Facade กระจกทั้งหมด ให้สะท้อนน้ำทะเล ออกเป็นแสงวิบวับ ซึ่งบริบทของน้ำทะเล หาดทราย และแสงอาทิตย์ภายนอก ได้กลายไปเป็นแรงบันดาลใจของงานออกแบบ การเลือกใช้สีภายในอาคารด้วย สุดท้ายคืองานภูมิสถาปัตยกรรม ที่ยังคงอนุรักษ์ต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุนับ 100 ปีในพื้นที่เดิม รวมถึงพันธุ์ไม้เดิมๆ เอาไว้
    2. Masterpiece of Living เน้นความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย เช่น ห้องแบบ 2 Bedroom จะได้ Private Lift ทุกยูนิต, ฝ้าเพดานสูงเป็นพิเศษถึง 4 เมตร, การเลือกใช้วัสดุแบรนด์ระดับโลก และจุดเด่นของโครงการอย่าง Facilities ที่จัดมาให้แบบเต็มที่
    3. Masterpiece of Nature บรรยากาศของโครงการที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ
    4. Masterpiece of Future เป็นทำเลที่จะยิ่งมีศักยภาพในอนาคต จากนโยบายการพัฒนาของภาครัฐที่มีต่อภาคตะวันออก

    มาดูภาพรวมของโครงการกันบ้าง AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) เป็นคอนโด High Rise 2 อาคาร บนที่ดินเกือบ 4 ไร่ โดยอาคารด้านหน้าที่ติดกับหาดคือ Front Building สูง 2 ชั้น+ชั้นใต้ดิน จัดเป็น Facilities ทั้งอาคารเชื่อมต่อกับชายหาด

    ถัดเข้ามาคือ อาคารพักอาศัย สูง 55 ชั้น มีจำนวนยูนิตในโครงการ 319 ยูนิต แบ่งออกเป็น 3 โซน ตามความสูงของชั้นพักอาศัย ดังนี้

    • Serenity Zone : ชั้น 3-21 มีจำนวนยูนิต 7 ห้อง/ชั้น
    • Reflection Zone : ชั้น 22-43 มีจำนวนยูนิต 6 ห้อง/ชั้น และห้องพักบนชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น
    • Horizon Zone : ชั้น 44-50 มีจำนวนยูนิต 6 ห้อง/ชั้น เช่นกัน แต่ความพิเศษคือ ระเบียงห้องจะมีอ่างอาบน้ำหรือ Jacuzzi ด้วย ส่วนชั้น 51-52 เป็น Penthouseค่ะ

    ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 3 ซึ่งไม่ได้สูงเกินอาคารรอบๆ แต่จากตำแหน่งอาคารห้องพักทุกห้องไม่โดนบังวิวเลยนะคะ และจะยกพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ไปไว้บนชั้น 53-55 เพื่อให้ได้เห็นวิวทะเลโดยรอบได้ ส่วนกลางให้พื้นที่มาเยอะ และอยู่ในตำแหน่งที่หลากหลายก็ดูจะเป็นคำตอบที่ดี สำหรับการใช้ชีวิตสบายๆ ในวันพักผ่อน

    ทางเข้าออกของโครงการจะมีประตูกั้นในชั้นแรกที่ติดกับซอยนาเกลือ 16 ดีไซน์เป็นทรงโค้งๆ ให้เข้ากับบรรยากาศของคลื่นแบบชายทะเล

    เส้นทางการเดินรถยนต์ในโครงการเข้าใจง่ายคือ เป็นทางเดินรถแบบ Two-Way สำหรับลูกบ้านที่ต้องการจอดรถก็ขับตรงเข้าไปที่อาคาร Front Building หรือหากใครต้องการวนส่งลูกบ้านบริเวณ Drop-Off ก็อยู่ด้านหน้าสุดเลย รับ-ส่งกันได้สะดวก

    ที่จอดรถเป็นแบบ Automatic Parking ทั้งหมด ซึ่งโครงการเคลมว่าใช้เวลาในการรอรถประมาณ 1.3 นาที ถือเป็นการจัดการที่จอดรถที่ดีเพราะช่วยลดปัญหาแขกของลูกบ้านเข้ามาจอด จนเจ้าของร่วมไม่มีที่จอดรถได้ จำนวนช่องจอดคิดเป็น 45% ของทั้งโครงการ ก็ถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับคอนโดตากอากาศระดับ Luxury แบบนี้

    จากที่จอดรถก็สามารถเดินเข้าอาคารพักอาศัยได้ในระยะใกล้ๆ ประมาณ 6 เมตร ซึ่งบริเวณนี้จะมี Concierge Service ที่จะมาช่วยเราขนของ ขนกระเป๋าด้วยนะคะ

    ในส่วนของ Front Building เป็นอาคาร Facilities 2 ชั้น และมี Facilities ที่ชั้นใต้ดินด้วย แต่ละชั้นก็จะมีฟังก์ชันส่วนกลางที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากสุด ส่วนที่เราคิดว่าเป็นไฮไลท์คือ สระว่ายน้ำ, Jacuzzi และ Fitness ที่ได้วิวทะเลแบบเต็มที่ ตอนนี้อาคารยังไม่ได้ก่อสร้าง เราจึงเอาภาพจำลองของพื้นที่ส่วนนี้มาให้เห็นภาพกันคร่าวๆ

    Image 1/8
    ภาพมุมสูงของ Front Building ที่อยู่ติดกับชายหาดวงศ์อมาตย์

    ภาพมุมสูงของ Front Building ที่อยู่ติดกับชายหาดวงศ์อมาตย์

    ถัดมาที่ Facilities หลักอีกส่วนหนึ่งของโครงการ คือบนชั้น 53-55 ของอาคารพักอาศัย จะมีสระว่ายน้ำบนชั้น 53 อีกหนึ่งสระ ส่วนชั้น 54 ตัว Jacuzzi จะแบ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ ให้ใช้งานกันได้แบบเป็นส่วนตัว ชั้นบนสุดคือตำแหน่งของ Sky Lounge และ Sky Cuisine ที่ให้ลูกบ้านมาจัดปาร์ตี้ ทำอาหารทานกันได้ จะทำเองหรือให้ทางโครงการติดต่อ Chef มาดูแลก็มีบริการรองรับด้วยนะคะ

    Image 1/4
    ภาพจำลองบรรยากาศของ Sky Facilities ทั้ง 3 ชั้นที่จะเปิดรับวิวทะเลทั้งหมด

    ภาพจำลองบรรยากาศของ Sky Facilities ทั้ง 3 ชั้นที่จะเปิดรับวิวทะเลทั้งหมด

    มาดู Master Plan ของโครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) กันต่อ ดูจากรูปของที่ดินจะเป็นแปลงที่ดินหน้าแคบที่เข้าไปขยายพื้นที่ด้านใน เรามองว่าแปลงที่ดินแบบนี้เหมาะกับการทำเป็นที่อยู่อาศัยนะ เพราะอาคารด้านในจะได้ความสงบมากกว่าอาคารที่อยู่ติดถนน แถมพื้นที่ด้านหน้าโครงการยังเป็นสวนที่ยาวประมาณ 50 เมตร จะเป็น Buffer Zone ชั้นดีที่ทำให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    โครงการมีทั้งหมด 2 อาคาร คืออาคารพักอาศัยที่อยู่ด้านหน้าและ Front Building ที่อยู่ติดหาด ในชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำและ Jacuzzi กว้างยาวประมาณ 17 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร

    ส่วนอาคารพักอาศัยเข้ามาในโครงการจะเจอ Lobby เป็นลำดับแรก ติดกันคือ Lift Hall และ Private Lift สำหรับขึ้นห้องพักอาศัย ซึ่งโครงการวางไว้ด้านหน้าอาคารเพราะเค้าเข้าใจถึงบริบทว่าจะให้พื้นที่ด้านในที่ติดทะเลเป็นส่วนของ Facilities และห้องพักทั้งหมด จึงออกแบบให้งานระบบอยู่ด้านหน้าในฝั่งที่ติดถนน มีลิฟต์ทั้งหมด 4 ตัว ลองคิดสัดส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 80 : 1 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ได้สำหรับคอนโดตากอากาศที่ไม่ได้มีคนมาพักตลอดเวลา

    Facilities บนชั้น 1 ของอาคารนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ฟังก์ชัน ได้แก่ Game Room, Function Room และ Private Dock พื้นตรงนี้มีสาระสำคัญเอาไว้ใช้รับแขก นั่งคอยนิดหน่อย ไม่ได้เน้นวิวทะเล แต่ก็ได้บรรยากาศของสวนภายในโครงการ เรามาดูชั้นบนของอาคารพักอาศัยทีละชั้นกันก่อน

    ถัดขึ้นมาที่ชั้น 2 ของอาคารพักอาศัย จะมี Private Terrace เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อนได้อีกโซนหนึ่ง จัดออกเป็นมุมนั่งทำงานที่หลากหลาย ทั้งแบบโต๊ะเล็ก โต๊ะใหญ่ ไฮไลท์คือเป็นห้องผนังกระจกเปิดรับวิวสวนภายในโครงการ

    ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 เพื่อให้พ้นจากความสูงของ Front Building ที่อยู่ติดหาด แต่ถ้าจะเลือกให้วิวเคลียร์ๆ เราคิดว่าประมาณชั้น 5 จะพ้นจาก Rooftop ของ Front Building และได้เห็นวิวของสระว่ายน้ำก่อนเปิดโล่งเป็นทะเลนะคะ

    ห้องพักโซนแรกคือ Serenity Zone (ชั้น 3-21) มีจำนวนยูนิต 7 ห้อง/ชั้น ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 37.5 – 38 ตร.ม. สำหรับห้อง 2 Bedroom ขนาด 81.6 ตร.ม. จะเป็นห้องมุมที่ได้ Private Lift และหน้าต่างแบบ Bay Window

    ห้องพักอาศัยทุกห้องหันเข้าหาทะเลทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคอนโดตากอากาศโซนพัทยา ถึงช่วงบ่ายๆ แสงจะแยงเข้ามาในห้องหน่อยแต่ข้อดีคือได้วิวพระอาทิตย์ตกนะคะ ส่วนโถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และตำแหน่ง Lift Hall ที่อยู่ตรงกลางทำให้ทุกห้องเดินไม่ไกลเลย

    ถ้าถามว่าเลือกห้องตำแหน่งไหนดี? สำหรับโครงการนี้เราคิดว่าเลือกได้หมด ตำแหน่งห้องแทบไม่แตกต่างกัน ถ้าถือฮวงจุ้ยก็เลือกจากทิศของเตียงนอน (มีให้เลือกเหนือหรือใต้) หรือเอาตามเลขที่บ้านที่ชอบก็ได้ จะมีแตกต่างหน่อยก็คือแบบ 2 Bedroom ที่มีให้เลือกเป็นห้องมุมทางทิศเหนือหรือใต้ สำหรับคนชอบแดดเช้าให้เลือกห้องทางทิศเหนือ หรือคนที่ชอบเปิดหน้าต่างรับลมก็เลือกห้องทางทิศใต้จะได้ลมดีค่ะ

    ถัดขึ้นมาคือ Reflection Zone บนชั้น 22-43 จะมีความเป็นส่วนตัวขึ้นด้วยจำนวนยูนิต 6 ห้อง/ชั้น และห้องพักบนชั้นนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น การวิเคราะห์ผังห้องจึงเหมือนๆ กับโซนแรกเลย

    ห้องแบบ 1 Bedroom ในโซนนี้จะมีขนาด 45.45 – 56.8 ตร.ม. สำหรับห้อง 2 Bedroom จะมีขนาดเท่ากับโซนแรกค่ะ

    ตั้งแต่ชั้น 44 ขึ้นไปจะเข้าสู่ Horizon Zone มีจำนวนยูนิต 6 ห้อง/ชั้น เช่นกัน แต่ห้องพักอาศัยในโซนนี้จะได้พื้นที่ระเบียงที่ยื่นออกมา ไฮไลท์อยู่ที่เค้าออกแบบไว้เป็นอ่างอาบน้ำบนระเบียง แบบว่าแช่อ่างไปชมวิวทะเลไป ได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่ชิลมากขึ้นค่ะ

    ถัดขึ้นมาบนชั้น 47-50 ผังจะคล้ายกับชั้น 46 เลย แตกกต่างกันที่ระเบียงห้องจะได้เป็น Jacuzzi แทนอ่างอาบน้ำ หากอยากจะแช่น้ำพร้อมกันทั้งครอบครัวก็แนะนำเป็นห้องบนชั้นเหล่านี้จะดีกว่า แต่ราคาก็สูงขึ้นมาด้วยนะ

    ส่วนชั้น 51-52 เป็น Penthouse แบบเต็มพื้นที่ทั้งชั้น ขนาด 201 – 210 ตร.ม. ได้ข่าวมาว่าตอนนี้เหลือห้องเดียวแล้วนะคะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 53-55 จัดเป็น Sky Facilities ของโครงการ การออกแบบลักษณะนี้เราว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ได้ประโยชน์นะ เพราะทำให้ลูกบ้านทุกชั้นได้มีโอกาสมาชมวิวบนชั้นสูง เปิดมุมรับวิวทะเลแบบโล่งๆ

    โดยส่วนกลางที่จัดไว้ให้ ได้แก่ Swimming Pool ขนาดประมาณ 35 x 5 ม. ให้ว่ายออกกำลังกายในแนวยาวได้ สำหรับ Sky Jacuzzi จะแบ่งเป็นพื้นที่เล็กๆ 6 โซน เพื่อให้ลูกบ้านแต่ละครอบครัวเกิดความเป็นส่วนตัว

    ชั้นบนสุดมีฟังก์ชันหลักๆ เป็น Sky Lounge และ Sky Cuisine ซึ่งสามารถจองแบบ Private สำหรับจัดงานปาร์ตี้ได้

    ถัดมาไปชมอาคาร Front Building ด้านหน้าที่ติดหาดกันบ้างนะคะ ว่าทางโครงการจะจัด Facilities อะไรไว้ให้บ้าง

    ชั้น 2 ของอาคาร Front Building ที่จัดไว้ให้ในชั้นนี้มีความหลากหลายทั้งออกกำลังกายและพักผ่อน ได้แก่ Fitness ขนาดใหญ่ที่เป็นผนังกระจกรอบทั้ง 3 ด้าน สามารถชมวิวเมืองได้แบบ 270 องศา / มี Yoga Room/ Simulator Golf VR Room  และ Theater Room

    ชั้นใต้ดินครึ่งหนึ่งจะเป็นพื้นที่ของ Automatic Parking อีกครึ่งหนึ่งจะแบ่งเป็นฟังก์ชันย่อยๆ ได้แก่ Onsen ที่ทางโครงการเรียกว่า Private Cave และมีฟังก์ชันที่เรามักจะเห็นตามคอนโดหรูบ่อยๆ คือ Massage Room และ Salon เป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้สำหรับเรียกพนักงานส่วนตัวมาดูแล หรือถ้าไม่มีช่างประจำมาด้วย ทางโครงการก็สามารถแนะนำช่างให้ได้ค่ะ

    ปิดท้ายด้วย Kid’s Room ที่ทางโครงการตั้งชื่อเก๋ๆ ว่า Private Wave ห้องนี้เตรียมไว้สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เผื่อคุณพ่อคุณแม่อยากมาพักผ่อนที่อาคารนี้ ก็ให้พี่เลี้ยงพาลูกๆ มานั่งเล่นที่นี่รอได้ค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    อาคารส่วนหน้า (Front Building) Beach Facility
    พื้นที่บริการชั้นที่ Underground, ชั้น 1 และชั้น 2
    – สระว่ายน้ำเด็ก (Kids Pool)
    – ห้องเด็กเล่น (Kids Poom)
    – ออนเซน (Onsen Space)
    – ห้องออกกำลังกาย (Fitness room)
    – ห้องเธียเตอร์ 1 และ 2 (Theater Room 1 & 2)
    – ห้องสตรีม เซาว์น่า (Steam & Sauna)
    – ห้องบริการซาลอน (Salon Room)
    – ห้องบริการสปาและนวด (Spa & Massage Room)
    – สระว่ายน้ำ (Swimming Pool)
    – ห้องโยคะ (Yoga Room)
    – ห้องจำลองการเล่นกอล์ฟ (Golf VR Room – Simulator)

    • อาคารพักอาศัย (Residence)
      พื้นที่บริการส่วนล็อบบี้ ชั้น G และชั้น 2
      – ล็อบบี้หลัก (Lobby)
      – ห้องโถงรับรอง (Waiting Lounge)
      – โคเวิร์คกิ้งสเปซ (Co-working space)
      – ห้องเกมส์ (Game room)
      – ห้องฟังก์ชั่น (Function room)
      – ห้องจดหมาย (Mail Room)

    • พื้นที่บริการส่วนดาดฟ้า ชั้น 53-55
      – Swimming pool – Sky Pool
      – Semi – Pool – Sky Jacuzzi
      – Private deck – Sky Cuisine
      – Private deck – Sky lounge

    • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 80:  1
    • Service Lift 1 ตัว
    • ที่จอดรถประมาณ 146 คัน คิดเป็น 45% (Automatic Parking)
    • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

    แบบห้อง

    ห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลายขนาดเลยนะคะ ตั้งแต่ 1 Bedroom 37.5 ตร.ม. ไปจนถึง Penthouse 210 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted คือให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า ตามแบบในห้องตัวอย่าง ซึ่งโครงการมีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

    • 1 Bedroom 37.5 – 63 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms 81 – 87 ตร.ม.
    • Penthouse 201 – 210 ตร.ม.

    ห้องพักอาศัยทั้งหมดจะเป็นห้องที่ทำผนังกระจกแบบ Full Frame รับวิวทะเล จึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้วิว แต่ละแบบจะแตกต่างกันที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บริเวณระเบียง ขนาดพื้นที่ใช้สอยในห้องและตำแหน่งของการวางเตียงนอน ลองพิจารณากันดูนะคะ

    Image 1/9
    แบบ 1 Bedroom ขนาด 38 ตร.ม.

    แบบ 1 Bedroom ขนาด 38 ตร.ม.

    สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. ที่เป็นห้องใน Horizon Zone ที่ได้อ่างอาบน้ำบนระเบียง และอีกห้องหนึ่งคือแบบ 2 Bedroom ขนาด 87 ตร.ม. ที่ระเบียงได้เป็น Jacuzzi ไปดูห้องแรกกันเลย

    ในความคิดเรารู้สึกว่าโครงการทำห้อง Type 1 Bedroom ให้มีขนาดใหญ่ ซึ่งปกติห้องขนาด 50 กว่าตร.ม. แบบนี้คงเป็นห้อง 1 Bedroom Plus หรือ 2  Bedroom ไปแล้ว แต่เค้าตั้งใจออกแบบให้เป็น 1 Bedroom ลักษณะนี้เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งมากที่สุดจริงๆ ไฮไลท์ของห้องพักที่นี่คือ “หน้าต่างแบบ Full Frame ที่มองเห็นวิวทะเลแบบเต็มๆ จากทุกส่วนของห้องได้เลย” ยกเว้นห้องน้ำที่ยังคงต้องการความเป็นส่วนตัว มิดชิดสักหน่อย

    ห้องนั่งเล่นและห้องนอนมีจุดเด่นคือ กั้นพื้นที่ออกจากกันด้วยประตูบานเลื่อน ซึ่งมีข้อดีคือเวลามีแขกมาก็สามารถดึงประตูบานเลื่อนออกมากั้นพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้ ส่วนเวลาที่อยู่คนเดียวสามารถเปิดประตูเลื่อนออก แล้วนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เลย จึงได้บรรยากาศของห้องกว้างๆ แบบเต็มที่

    ห้องน้ำจะออกแบบให้เข้าได้ 2 ทาง ทั้งจากทางห้องนอน และทางห้องครัว เวลาที่ผู้อยู่อาศัยอยู่ห้องก็สะดวกสบาย ส่วนเวลามีแขกมาก็สามารถเข้าห้องน้ำจากทางครัวได้ ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน

    ครัวจะได้ครัวแบบครัวเปิด ตำแหน่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้อง เหมาะกับเตรียมอาหารอาหารเบาๆ ไม่เน้นผัด หรืออาหารที่มีกลิ่นแรงๆ การวางตำแหน่งครัวอยู่ด้านหน้ามีข้อดีคือ ถ้าวันไหนไปช้อปปิ้งของกินของใช้เข้าบ้านมาหนักๆ พอมาถึงห้องปุ๊บก็เก็บของสดเข้าตู้เย็นได้สะดวก

    ระเบียงเป็นพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง เพราะทางโครงการไม่ได้จัดตำแหน่งของ Compressor แอร์ไว้ที่ระเบียงจะเป็นแอร์แบบฝังฝ้าและเดินงานระบบไปเก็บไว้ส่วนอื่นของอาคาร แถมติดตั้งอ่างอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย

    ส่วนที่มีดีไซน์เก๋ๆ คือ การออกแบบห้องให้มีมุมแหลม (ตามเส้นประสีแดง) ซึ่งบางคนอาจมองว่าจะวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวยาก และพื้นที่ตรงนี้มักใช้งานจริงไม่ค่อยได้ ส่วนตัวเราคิดว่า พอเป็นห้องพักตากอากาศ การออกแบบจึงไม่ได้ตั้งใจให้วางเฟอร์นิเจอร์แน่นเต็มห้อง เค้าตั้งใจให้เปิดเป็นพื้นที่ชมวิวโล่งๆ มากกว่า อย่างไรตามขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการใช้สอยที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะคะ ต้องลองพิจารณาดูว่าเหมาะกับเราไหมค่ะ

    ประตูหน้าห้องได้บานไม้เนื้อแข็งปิดผิวด้วยลามิเนต ติดตั้ง Digital Door Lock ของ Samsung มาให้ เป็นรุ่น 4 ระบบ คือใช้ได้ทั้ง Password, Card, Finger Scan และ Keys

    ประตูของที่นี่เก็บรายละเอียดให้เข้ากับคอนโดพักตากอากาศดีนะคะ คือมีช่องระบายอากาศมาให้ พร้อมมุ้งลวดกันแมลง ทำให้ลมสามารถผ่านเข้าออกห้องได้ อากาศจึงถ่ายเท ได้ลมเย็นสบายค่ะ

    เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งเลย เพราะหน้าต่างแบบ Full Frame บานใหญ่มาก รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มๆ ฝ้าเพดานของห้องสูง 2.8 เมตร วัสดุพื้นได้เป็นไม้ไวนิล ซึ่งทนความชื้นได้ดีกว่าไม้ลามิเนต แต่แอบเสียดายนิดหน่อยว่าราคานี้น่าจะได้เป็น Engineering Wood นะ

    พื้นที่ใช้สอยส่วนแรกบริเวณหน้าห้องจะเป็น Pantry ครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อยตามแบบในห้องตัวอย่าง แต่ไม่ได้ให้โต๊ะทานอาหารมาด้วยนะคะ

    ห้อง Type นี้ได้ครัวแบบเปิดจึงไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นแรงสักเท่าไร ส่วนนี้จะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของทั้ง 2 ฝั่งไว้ให้ ได้ดีเทลซ่อนไฟรวมถึงไฟในตู้ด้วย แต่จะไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้า 3 ชิ้น คือ ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า และเตาอบค่ะ

    เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีตู้เก็บของเป็นตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก หน้าบานปิดผิวด้วยไม้ลามิเนต ซึ่งบานพับจะเป็นแบบ Soft Close

    ส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวให้ Hob&Hood ของ Teka เป็นระบบปล่อยควันออกด้านนอก จึงช่วยเรื่องกลิ่นควันจากการทำอาหารได้ดีกว่าแบบหมุนเวียน

    มีพื้นที่โล่งไว้ให้เตรียมอาหารได้นิดหน่อย Top Counter และ Backsplash ได้วัสดุเป็นหินสังเคราะห์ลายเทอรอสโซ เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

    ซิงค์ล้างจานของ Teka มีขนาดพอใส่จานใส่แก้วได้ 2-3 ใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา

    ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิด 3 ตู้ หน้าบานเป็นกระจกสีชา ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของ ตัวบานพับเปิด-ปิดเป็นแบบ Soft Close เช่นเดียวกับตู้ใต้เคาน์เตอร์ครัวนะคะ

    ฝั่งตรงข้าม Pantry ครัวเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ในโซนนี้จะไม่ได้ให้มา เราสามารถเลือกตามสไตล์ที่เราชอบได้เลย แนะนำเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งตามแบบในห้องตัวอย่าง ขนาดกะทัดรัดหน่อยก็จะช่วยให้ห้องดูกว้าง ไม่อึดอัด

    เข้ามาด้านใน Living Area พื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง และโซฟายอดนิยมอย่าง Day Bed ที่ไว้ใช้นอนดูทีวีก็มีพื้นที่พอให้วางได้ แต่แนะนำให้เลือกโต๊ะกลางแบบเล็กหน่อย เพราะต้องเผื่อพื้นที่ให้เดินเข้าออกระเบียง

    ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่น มีระยะห่างประมาณ 2.6 เมตร ซึ่งการเลือกขนาดทีวีของห้องลักษณะนี้ต้องเผื่อให้มีขนาดใหญ่หน่อย จะได้นอนดูจากบนเตียงได้ด้วย จึงแนะนำให้ติดทีวีขนาดใหญ่หน่อยจขนาด 60 นิ้วหรือใหญ่กว่าก็ได้เลย

    บริเวณ Living Area นอกจากจะดูทีวีแล้วก็ยังชมวิวทะเลผ่านทางระเบียงออกไปได้ ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน จึงเปิดช่องทางเดินได้กว้าง ได้สัมผัสบรรยากาศริมทะเลแบบเต็มๆ

    กระจกใช้เป็นแบบตัดแสงจึงช่วยลดความร้อนที่ผ่านเข้ามาในห้องได้บ้าง ส่วนโครงประตูเป็นเฟรมอลูมิเนียม ส่วนที่ดีคือเป็นบาน Full Frame เต็มผนังและความสูงของฝ้าเพดาน จึงได้วิวแบบเต็มที่ เป็นการออกแบบห้องพักเพื่อใช้ตากอากาศจริงๆ

    รางประตูจะถูกฝังลงไปในพื้นทำให้เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก แต่ก็ต้องระวังเวลาที่ฝนตกสักหน่อย ที่อาจจะสาดเข้าห้องได้

    พื้นที่ระเบียงของห้อง Type นี้เป็นกระเบื้องลายไม้ที่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคาร ส่วนราวกันตกเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้เวลามองออกมาจากภายในห้องจะสามารถเห็นวิวด้านนอกได้สะดวก ไม่บังสายตา

    พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2 x 3 เมตร ที่ให้มาพร้อมอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้สำหรับวางราวตากผ้าขนาดเล็ก หรือไว้มายืนเปลี่ยนบรรยากาศได้ค่ะ

    อ่างอาบน้ำและอุปกรณ์ที่ให้มาของยี่ห้อ Gessi เป็นแบรนด์จาก Italy ที่โรงแรม 5 ดาวอย่าง Oriental, Four Season เลือกใช้กัน แค่ชิ้นนี้ก็ราคาประมาณ 150,000 บาทแล้วนะคะ

    ห้อง Type นี้จะอยู่บนชั้น 44-46 สูงทีเดียวนะคะ บวกกับการออกแบบระเบียงให้ยื่นออกมาจากห้องพัก ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า ส่วนตัวเราชอบ แต่ถ้าใครกลัวความสูงก็มีห้องแบบอื่นให้เลือกอีกหลากหลายนะ

    กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ความพิเศษของ Layout นี้คือประตูด้านหลังโซฟาที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ วัสดุประตูเป็นบานไม้ทึบปิดผิวลามิเนต

    บานประตูเป็นแบบ 3 ตอน ใช้รางบนรางเดียว ทำให้พื้นด้านล่างเชื่อมต่อกัน โครงการออกแบบช่องเก็บประตูไว้เรียบร้อย

    เวลาเปิดประตูก็สามารถเดินเชื่อมทั้ง 2 ห้องได้เต็มพื้นที่ ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด แตกต่างจาก Layout ของแบบ 1 Bedroom ส่วนใหญ่ที่เราเห็นตามคอนโดในกรุงเทพฯ ที่จะแบ่งเป็นห้องเล็กๆ แปลนห้องแบบนี้จึงเหมาะกับคอนโดตากอากาศมากๆ เลย

    ด้านในห้องนอนจัด Furniture มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ว่าสามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตไว้ตรงกลาง แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ตำแหน่งของเตียงนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างให้สามารถรับวิวได้สะดวก

    จากบนเตียงก็สามารถนอนชมวิวทะเลได้ ถ้าวันไหนอากาศร้อนๆ ก็เปิดแอร์ในห้องแล้วนอนชมวิวฟินๆ ได้ทั้งวัน

    โครงการทำรางซ่อนม่านมาให้ จึงสะดวกในการตกแต่งดีค่ะ

    ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งเป็นทางเชื่อมไปห้องน้ำ ซึ่งต้องเดินผ่าน Shower Box ที่ออกแบบไว้ให้เป็นหน้าต่าง Sexy Bath แบบเก๋ๆ เพื่อให้มองผ่านกระจกออกมารับวิวทะเลได้

    Shower Box กั้นพื้นที่ด้วยกระจกนิรภัยแบบ Full Height เป็นแบบบานเปิดปิด มีมือจับสามารถจับเปิดได้สะดวก ช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1 x 1.2 เมตร พอให้อาบน้ำหมุนตัวได้

    พื้นที่อาบน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปยังพื้นที่พักอาศัยส่วนอื่นๆ ซึ่งจะทำให้พื้นไม้ไวนิลเสียหายได้

    ภายในติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เรียบร้อยทั้งแบบฝักบัวและ Rain Shower ให้ของ Gessi อีกเช่นกัน เราลองจับดูคือเบามาก และป้องกันตะกรันได้ดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของยี่ห้อนี้เลย ส่วนด้านบนฝ้าติดตั้งไฟซ่อนไว้ให้ตามแบบในห้องตัวอย่าง

    ฝั่งตรงข้ามกับ Shower Box เป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า ที่โครงการ Built-in ไว้ให้ หน้าบานสีชา ภายในแบ่งเป็นช่องต่างๆ ไว้ให้แขวนเสื้อผ้า เก็บของได้

    มีรายละเอียดของมือจับที่ทำไว้ให้เปิดตู้ได้สะดวก

    ปิดท้ายด้วยห้องน้ำที่เข้าได้จากทั้ง 2 ทาง คือ ทางห้องครัวและทางห้องนอน

    ภายในห้องน้ำจะเป็นลักษณะของ Powder Room มีเฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด

    ในส่วนของอ่างล้างหน้าจะได้เฉพาะตัวเคาน์เตอร์ตามแบบในห้องตัวอย่าง ก็จะมีพื้นที่รอบๆ อ่างให้วางของใช้ได้พอสมควร ส่วนอ่างล้างมือให้ของ Kohler ก๊อกน้ำที่ติดตั้งมาให้ของ Gessi หัวผสม สามารถเลือกเปิดน้ำร้อน/เย็น ได้ ซึ่งโครงการจะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ด้วย ใช้ของ Mex หรือเทียบเท่านะคะ

    โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet ของยี่ห้อ Kohler มีแผงควบคุมติดตั้งอยู่ด้านข้าง

    อีกห้องหนึ่งคือแบบ 2 Bedroom ขนาด 87 ตร.ม. ใหญ่กว่าห้องแรกเกือบเท่านึงเลยนะคะ จึงได้พื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรามองว่า Layout นี้เหมาะกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับ Living Area และ Kitchen ซึ่งถูกออกแบบให้อยู่ในบริเวณที่รับวิวได้เต็มที่

    ความพิเศษของห้อง 2 Bedroom ที่ต่างจากแบบ 1 Bedroom มี 2 อย่าง ..อย่างแรกคือ ได้ Private Lift จึงแชร์ลิฟต์กับห้องพักประมาณ 50 ห้องที่อยู่ในแถวเดียวกันเท่านั้น อีกเรื่องคือได้ตำแหน่งที่เป็นห้องมุม จึงได้วิวทั้ง 2 ฝั่ง ภายในห้องจึงมีการออกแบบผนังส่วนหนึ่งให้เป็นกระจกเข้ามุมแบบ Bay Window เพื่อรับวิวได้กว้างขึ้นด้วย

    สำหรับไฮไลท์ของห้องนี้คงหนีไม่พ้น Sky Jacuzzi ที่ทำไว้บนระเบียงห้อง ขนาดแช่พร้อมกันได้ประมาณ 3 คนกำลังดี ส่วนของห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะถูกจัดไว้ด้านใน เพื่อให้ได้ความสงบเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน ทั้ง 2 ห้องมีห้องน้ำในตัว แต่ห้องนอนเล็กจะต้องแชร์ห้องน้ำกับส่วนกลางด้วยนะคะ

    เริ่มจากบริเวณหน้าห้องจะมี Foyer เป็นพื้นที่เล็กๆ ก่อนเข้าห้อง เชื่อมระหว่าง Private Lift และ Lift Hall ที่โถงทางเดินส่วนกลาง หากลูกบ้านจะขึ้นห้องพักตามปกติก็สามารถใช้ Private Lift ได้ แต่หากต้องการไปชั้น Facilities ต่างๆ ต้องไปใช้ Lift ส่วนกลางนะคะ

    บริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่บริเวณเส้นประสีเหลือง ที่จะได้มาเป็นพื้นที่โล่ง เราสามารถ Built-in ตู้สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของใช้เช่น อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ที่ไม่ต้องการเอาเข้าห้องพัก ไว้บริเวณนี้ได้ หรืออีกไอเดียนึงสำหรับคอนโดหรูที่มี Concierge Service มักจะทำเป็นตู้แขวนเสื้อผ้า เวลาส่งซักรีดก็นำมาแขวนไว้ในตู้นี้ แต่ต้องลองเช็คเรื่องงานบริการตอนคอนโดสร้างเสร็จดูอีกทีว่าจะมีบริการซักรีดแบบรับ-ส่งถึงหน้าห้องพักด้วยมั้ยนะคะ

    จาก Foyer หน้าห้องก็จะมีประตูเข้าห้องอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งประตูนี้จะเป็นทางเข้าหลักที่ติดตั้ง Digital Door Lock ไว้ให้ สเปคเดียวกับห้องแบบแรกค่ะ

    เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกเป็น Corridor ยาวๆ ก่อนจะเข้าสู่ Living Area ด้านใน เรามองว่าพื้นที่ตรงนี้เป็น Transition Space ที่ใช้เปลี่ยนผ่านความรู้สึกให้ผ่อนคลายขึ้น จะเพิ่มฟังก์ชันตู้เก็บของ หรือตู้วางรองเท้า ก็ขึ้นอยู่การใช้งานของแต่ละครอบครัวเลยค่ะ

    เข้ามาด้านในจะเป็นการเปิดพื้นที่นั่งเล่น ทานอาหารให้เชื่อมต่อกันแบบโล่งๆ รับวิวทะเลได้แบบเต็มตา สังเกตฝ้าเพดานของห้อง Type นี้จะสูงขึ้นเป็น 3.5 เมตร ทำให้ได้พื้นที่หน้าต่างเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วย

    Living Area มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางได้แบบสบายๆ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตร จึงสามารถติดทีวีที่ใหญ่เกิน 60 นิ้วได้เลย

    นอกจากมุมนั่งเล่นที่โซฟาแล้วก็ยังมีพื้นที่ริมหน้าต่างให้วางโซฟาตัวโปรด ได้แบบเก๋ๆ อีกหนึ่งมุม

    เชื่อว่าบริเวณนี้คงเป็นมุมโปรดที่สมาชิกในบ้านต้องมาแย่งกันนั่งแน่ๆ จะนั่งอ่านหนังสือหรือชมวิวก็เหมาะนะ เผื่อวันไหนอากาศร้อนๆ อยากเปิดแอร์นั่งชมวิวอยู่ในห้องก็ทำได้ แถมช่วงเย็นๆ ยังได้วิวพระอาทิตย์ตกด้วย

    ในส่วนของครัว นอกจากจะได้ Pantry ครัวแบบเดียวกับห้องแรกแล้ว ห้องนี้จะได้เคาน์เตอร์แบบ Island ที่ Build-in เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชิ้น

    ชุดครัวจะได้พื้นที่มากกว่าแบบแรก จึงได้ Hob ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นแบบ 4 หัว

    สำหรับโต๊ะทานอาหารแนะนำให้วางข้างๆ กับเคาน์เตอร์ Island เช่นเดียวกับห้องตัวอย่าง เป็นตำแหน่งที่ลงตัวสำหรับแปลนนี้ สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งได้

    จากตำแหน่งของโต๊ะก็สามารถดูทีวี และพูดคุย มีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกในบ้านที่นั่งดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้

    จากโต๊ะทานอาหารก็สามารถชมวิวผ่านระเบียงได้ หรือเวลาที่ออกไปนั่งเล่นริมระเบียง ก็สามารถแวะเข้ามาหยิบของกินได้สะดวก

    ห้อง Type นี้จะได้ระเบียงที่เป็นฟังก์ชัน Jacuzzi เหมาะกับครอบครัวที่ชอบนั่งชิลแช่น้ำพร้อมกันหลายคน ที่นั่งมีลักษณะเป็น Sunken (ลดระดับลงไปจากพื้นระเบียง) ลงไปจึงไม่บังวิวสมาชิกคนอื่นในบ้านที่นั่งเล่นอยู่บนระเบียง หรือทานอาหารอยู่ในห้องด้วย

    ห้องพักแบบที่มีระเบียง Sky Jacuzzi เป็นห้อง Type พิเศษ ที่มีเฉพาะชั้น 47-50 นะคะ

    ที่นั่งรองรับได้ประมาณ 3 คน ล้อมรอบด้วยผนังกระจกจึงมองเห็นวิวทะเลได้เต็มที่ เห็นฟังก์ชันน่าใช้งานแบบนี้ แต่ก็อย่าลืมว่าต้องมีการดูแลที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน

    ต่อไปจะพาไปดูในส่วนของห้องนอนกันบ้าง เริ่มจาก Bedroom 2 (ห้องนอนเล็ก) เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว แต่ก็ต้องแชร์ห้องน้ำกับพื้นที่ส่วนกลางด้วยเช่นกัน

    ภายใน Bedroom 2 มีบรรยากาศที่ดูโปร่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ให้มาเป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็ให้มาแบบเต็มผนัง

    พื้นที่ภายในห้องมีขนาดให้วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย มีพื้นที่เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบและปลายเตียงสามารถติดทีวีแบบแขวนผนังได้

    อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ เป็นตู้บานเลื่อน ภายในแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับแขวนเสื้อผ้า และลิ้นชักเก็บของ ซึ่งจะทำดีเทลติดไฟภายในตู้ตามแบบในห้องตัวอย่างด้วยค่ะ

    ห้องน้ำส่วนกลางมีประตูเปิดเข้าออกได้ 2 ทางนะคะ บานหนึ่งติดกับ Living Area ส่วนอีกบานหนึ่งที่ติดกับ Bedroom 2 ค่ะ

    ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งพร้อมติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ไว้เรียบร้อย ยี่ห้อของวัสดุอุปกรณ์จะยังใช้ของ Kohler และ Gessi เป็นหลักเหมือนเดิม แต่ชุดสุขภัณฑ์จะไม่ได้ติดตั้งฝาปิดเปิดแบบอัตโนมัติมาให้ ของที่ได้ก็จะเหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะคะ

    พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 ม. พอให้ใช้งานได้ไม่อึดอัดนะคะ

    ปิดท้ายด้วย Master Bedroom ที่อยู่เยื้องๆ กับประตูทางเข้าออกห้อง ที่เค้าออกแบบตำแหน่งไว้สุดทางเดินเพื่อให้อยู่ห่างออกจาก Living Area จึงเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุด

    ภายใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่พอให้จัดฟังก์ชันได้เยอะ เช่น อ่างล้างหน้าได้แบบ His& Hers ภายในห้องน้ำสามารถวางอ่างอาบน้ำได้ เป็นต้น

    มีพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย สามารถนอนดูทีวีและชมวิวผ่านกระจกบานใหญ่ได้ในเวลาเดียวกัน

    พื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นโซนห้องน้ำและแต่งตัว

    โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ตามแบบในห้องตัวอย่าง เป็นตู้บานสวิงเปิดปิด ภายในแบ่งเป็นช่วงแขวน และชั้นวางของต่างๆ พร้อมติดไฟในตู้มาให้เรียบร้อย

    อ่างล้างหน้าที่ให้มาแบบ His&Hers จึงมีโมเมนต์น่ารักๆ แบบยืนแปรงฟันข้างกันได้สะดวก

    ส่วนของห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็น 2 ห้อง กั้นด้วยประตูกระจกนิรภัย เป็นแบบ Sexy Bath เปิดโล่ง ให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศในการอาบน้ำ ^^

    ชุดสุขภัณฑ์แบบ Washlet ของ Kohler

    ส่วนห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower ของ Gessi เหมือนห้องอาบน้ำแบบแรก

    ส่วนที่เพิ่มมาคืออ่างอาบน้ำขนาดกะทัดรัดหน่อยประมาณ 1.2 x 0.56 เมตร

    วางไว้ในตำแหน่งที่ได้ Bay Window จึงแช่อ่างไปชมวิวภายนอกไปได้

    ไฟในห้องจะได้เป็นแบบดาวน์ไลท์ ซึ่งในแต่ละห้องจะให้มาค่อนข้างเยอะหลายจุดทีเดียว

    หน้าตาของปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ได้ของ Schneider ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    15 August 2020

    • 1 Bedroom / เนื้อที่ 37.5 ตร.ม. / ราคา 6.2 ล้านบาท หรือ 165,000 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom / เนื้อที่ 81 ตร.ม. / ราคา 15 ล้านบาท หรือ 185,000 บาท/ตร.ม.
    • Penthouse / เนื้อที่ 201 ตร.ม. / ราคา 51 ล้านบาท หรือ 253,000 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.8 – 3.5 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
    • จอง 100,000-200,000 บาท
    • ทำสัญญา 10-25%
    • ดาวน์ 30%(Thai) 35%(Foreigner) ผ่อนดาวน์ 40 งวด
    • ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 2 ปี)

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล : โครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) อยู่บนแปลงที่ดินติดหาดวงศ์อมาตย์ เป็นหนึ่งในสามหาดขึ้นชื่อของเมืองพัทยา ที่สวยไม่แพ้หาดพัทยาและหาดจอมเทียน ทำเลนี้เป็นโซนที่มีโรงแรมหลายแห่ง รวมถึงโรงแรมระดับ 5 ดาวดังๆอย่าง Pullman และ Centara Mirage ที่จับจองเป็นโรงแรมริมทะเลกันมาเนิ่นนาน แต่สำหรับคอนโดติดหาดในโซนพัทยานั้น เป็นของหายากที่นานๆ จะมีมาให้จับจองสักที จากต้นทุนของทำเลหายากแบบนี้ทำให้โครงการทำคอนโดออกมาให้อยู่ในระดับ Luxury เฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม. เลยนะคะ

    ซึ่งบริเวณนาเกลือ-วงศ์อมาตย์นั้นในเวลากลางคืนจะค่อนข้างเงียบสงบกว่าหาดพัทยา เหมาะสำหรับการเป็นที่อยู่อาศัยและพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวมากกว่า ต่างจากบริเวณที่มีนักท่องเที่ยว แสงสีเสียงในยามกลางคืนอย่างถนนเลียบหาดพัทยา, ถนนพัทยาสาย 2 หรือแม้กระทั่งหาดจอมเทียน

    เรื่องวิวจากโครงการนั้นหายห่วงไปได้เลย เนื่องจากเป็นโครงการติดทะเล ทุกห้องจึงได้ Clear View เป็นทะเลสวยงาม มองไกลไปได้ถึงเกาะล้าน ซึ่งเป็นจุดที่มีความโดดเด่นต่างจากคอนโดมิเนียมโครงการอื่นๆ

    การเดินทางโดยใช้รถ : สำหรับผู้ที่เดินทางมาพักตากอากาศที่โครงการถือว่าสะดวกดี เพราะโครงการตั้งอยู่ไม่ไกลตัวเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆรัศมีประมาณ 4-5 กิโลเมตร ก็แทบจะครบทั้งเมืองแล้ว ทำให้ไปเที่ยวไหนก็ขับรถไปไม่ไกล แต่การจราจรในเมืองพัทยาเรียกว่าติดมากในวันหยุด นอกจากนั้นที่จอดรถในเมืองพัทยาก็หายากอีกเช่นกันก็จะทำให้ความสะดวกลดลงไปบ้าง ถ้าใช้มอเตอร์ไซด์จะสะดวกกว่า

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สำหรับเมืองพัทยานั้นจะมีรถกระบะสองแถว, Taxi วิ่งผ่านตลอด แต่ต้องออกมาขึ้นที่หน้าปากซอยบริเวณถนนพัทยา-เกลือ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม. จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่า

    วัสดุ : วัสดุของโครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์)ให้มาแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว, สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้า ซึ่งสเปคของวัสดุก็ถือว่าใช้ของดี ยี่ห้อนำเข้าอย่าง Gessi , Kohler, Teka สเปคแบบนี้ถือว่าโอเคสำหรับห้องระดับราคาไม่ถึง 200,000 บาท แต่ถ้าเป็นห้องชั้นบนๆที่ราคาเกินนี้จะถือว่าเริ่มแพงแล้ว เพราะที่จ่ายเงินเพิ่มไปไม่ใช่เรื่องวัสดุเลย เป็นเรื่องวิวทะเลล้วนๆ อันนี้ก็ต้องแลกกันนะคะ เพราะโครงการนี้มีราคาของห้องแต่ละชั้นที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่ 176k – 260k บาท/ตร.ม.เลย

    การออกแบบ : โครงการวางผังออกมาเพื่อให้เหมาะกับระดับ Luxury ดีนะคะ เริ่มจากพื้นที่ดินขนาดเกือบ 4 ไร่ แต่วางจำนวนห้องมาเพียง 319 ยูนิต ซึ่งจริงๆ จะวางอาคารที่ขนาดใหญ่กว่านี้เพื่อให้ได้จำนวนห้องเยอะกว่านี้ก็ได้ แต่เค้าเลือกที่จะวางห้องพักฝั่งเดียวเพื่อให้ทุกห้องได้วิวทะเลจริงๆ และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเพียง 6-7 ยูนิตเท่านั้น และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางก็ทำออกมาเพื่อให้ลูกบ้านทุกยูนิตได้บรรยากาศของการพักผ่อนริมทะเลในหลายตำแหน่งดี

    การออกแบบห้อง – มีการจัดฟังก์ชันออกมาแบบคอนโดตากอากาศ คือ มีฟังก์ชันครบแต่ไม่เน้นการทำครัว ส่วนที่เป็นไฮไลท์คือการออกแบบหน้าต่างและระเบียงให้เหมาะกับการชมวิวได้แบบเต็มที่ด้วยหน้าต่าง Full Frame, ราวกระตกที่ได้เป็นกระจกและมีพื้นที่ระเบียงที่ใช้งานได้เต็มที่ เนื่องจากไม่ต้องเอาไว้วาง Condensing Unit ค่ะ

    ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษคือ โครงการมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ตอบโจทย์ Lifestyleและความชอบที่แตกต่างของผู้อยู่อาศัย เช่น เราสามารถเลือกได้ว่าต้องการห้องพักที่ติดตั้งอ่างอาบน้ำหรือ Jacuzzi ไว้ที่ระเบียง แถมมีขนาดห้องพักที่หลากหลายให้เลือกตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom 37.5 ตร.ม. ไปจนถึงแบบ Penthouse ขนาด 210 ตร.ม. เลย

    พื้นที่ส่วนกลาง : โครงการจัด Facilities มาให้เยอะเมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้าน 319 ยูนิต ซึ่งนอกจากจะมี Facilities หลักที่ชั้น 53-55 บนอาคารพักอาศัยแล้ว ก็ยังมี Front Building อีก 1 อาคาร ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ถ้าอยากได้บรรยากาศริมหาดใกล้ชิดทะเลก็มาที่ Front Building หรือวันไหนอยากได้วิวทะเลแบบมุมสูงก็ขึ้นไปใช้งานบนอาคาร

    Facilities หลักๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น สระว่ายน้ำ 2 สระที่เป็นสระขนาดใหญ่ทั้งคู่ มี Sky Jacuzzi ที่จัดไว้ให้หลายตำแหน่ง ที่นับดูคร่าวๆ ก็ประมาณ 6 ตำแหน่ง ซึ่งปกติไม่ค่อยเจอโครงการที่ให้มาเยอะขนาดนี้ และยังมีฟังก์ชันที่จะเห็นตามคอนโดหรู เช่น Salon, Massage Room ที่สามารถให้ทาง Concierge Service ติดต่อหาพนักงานมาดูแลที่โครงการได้เลย

    แต่ที่จอดรถยังให้มาน้อยอัตราส่วน 45% จอดแบบ Automatic Parking ช่วงวันปกติไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เป็นห่วงแค่ช่วงเทศกาลที่ทุกคนมากพักผ่อนพร้อมกัน สำหรับอัตราส่วนลิฟท์อยู่ในเกณฑ์ดี แบ่งกันใช้งานสบายๆ โดยมีอัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 80 : 1 และมีห้องแบบ 2 Bedroom ที่ได้ Private Lift แบ่งกันใช้ในอัตราส่วน 50 : 1 เท่านั้น

    Judgement

    สำหรับการตัดสินใจซื้อคอนโดตากอากาศ จะไม่ได้พิจารณาจากความคุ้มค่าต่อราคาเพียงเท่านั้น ยังขึ้นอยู่กับความพึงพอใจส่วนบุคคล ซึ่งเป็นความคุ้มค่าทางอารมณ์ที่ผู้ซื้อจะตัดสินใจด้วยตนเอง ดังนั้นทางทีมงานเห็นว่าจะไม่มีการให้คะแนนในโครงการลักษณะนี้ค่ะ

    BOTTOM LINE

    โครงการ AROM WONGAMAT (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) เหมาะกับคนที่มองหา “คอนโดพักตากอากาศหรู แบบติดหาด ในทำเลพัทยา” แต่ยังคงต้องการบรรยากาศที่สงบ ในระยะที่ไม่ห่างจากความคึกคัก และสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองพัทยามากนัก ชอบโครงการที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อนริมทะเลที่เป็นส่วนตัว มี Facilities ให้ใช้เยอะและหลากหลาย

    รองรับคนที่ต้องการห้องเล็กๆ แบบมาอยู่แบบสวีทกัน 2 คน และแบบที่มาเป็นครับครัว 3-4 คน ในงบประมาณช่วง 6.2 – 50++ ล้านบาท หรือมีความสามารถในการผ่อนตั้งแต่เดือนละ 43,400 บาท ขึ้นไป


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving