รีวิวฉบับที่ 2059 … ALBAR Peninsula คอนโด Low Rise 4 อาคาร ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ชายหาดบ้านอำเภอ และวิทยาลับเทคนิคฯสัตหีบ จาก Albar Peninsula โครงการนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมสำหรับลงทุน มีห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio – 2 Bedroom แต่งครบ ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท โดยจะมีการการันตี yield 6% ตลอดระยะเวลา 10 ปี พร้อมสิทธิ์การเข้าพัก 15 วันต่อปี บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ
ข้อมูลโครงการ
12 March 2020
- ALBAR Peninsula (อัลบาร์ เพนนินซูลา)
- บริษัท อัลบาร์ เพนนินซูลา จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ถนน สุขุมวิท ต.นาจอมเทียน อ.สัตหับ ชลบุรี
- ที่ดินประมาณ 5-2-00 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร 686 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 36 ยูนิตที่อาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
- เริ่มก่อสร้าง : มิ.ย. 2563
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3 2565
- Type A : Studio ขนาด 23.00 – 29.00 ตารางเมตร
- Type B : 1 Bedroom ขนาด 33.00 – 39.00 ตารางเมตร
- Type C : 2 Bedroom ขนาด 43.00 – 65.00 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.60 เมตร (ความสูงจากพื้นถึงพื้น 2.80 เมตร )
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (Studio)
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 76,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 061-401-6000
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 12.817909, 100.915987
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ ALBAR Peninsula ค่ะ
ที่ตั้งโครงการ ALBAR Peninsula ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท เข้าซอยด้านข้างเทศบาลตำบลนาจอมเทียนไปประมาณ 10 เมตร ห่างจากตัวเมืองพัทยามาประมาณ 13 กิโลเมตร ซึ่งถนนเส้นสุขุมวิทเป็นถนนเส้นหลักในการเดินทางมายังชลบุรี พัทยา ไปจนถึงระยอง ความกว้างถนน 6 ช่องทาง วิ่งได้สบายๆ รถไม่ติดค่ะ จะมีบางช่วงบริเวณพัทยาใต้มีการทำถนนอยู่บ้างอาจจะติดเล็กน้อย ถ้าถนนเสร็จการจราจรจะไหลลื่นมากขึ้น โดยเส้นทางการเดินทางถ้ามาจากมอเตอร์เวย์ ก็ให้เข้าถนนสุขุมวิทตามป้ายบอกทางสัตหีบ-ระยอง
ที่ตั้งโครงการ ALBAR Peninsula ยังอยู่ไม่ไกลจากหาดบ้านอำเภอ ระยะทางเดินประมาณ 1.1 กิโลเมตร ถ้าขับรถจะอยู่ที่ประมาณ 1.7 กิโลเมตรค่ะ สภาพแวดล้อมในทำเลนี้ค่อนข้างเงียบสงบ มีย่านชุมชนเดิมเล็กๆทางฝั่งชายหาด นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านเหมือนพัทยา โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนจะเห็นว่าต่างกันมากเพราะไม่มีสถานบันเทิงริมทะเล และห้างสรรพสินค้าเหมือนกับโซนพัทยา แต่ก็จะมีร้านอาหารอยู่บ้างริมทะเลค่ะ โดยร้านชื่อดังของที่นี่คือร้านปรีชาซีฟู้ด สามารถเดินทะลุทางข้ามคลองด้านหลังโครงการไปได้เลย
เรื่องของความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ๆจะอยู่ในโซนพัทยา ซึ่งสามารถขับรถไปได้ในระยะทางประมาณ 10-15 กิโลเมตรค่ะ ซึ่งจะมีห้างใหญ่ๆอย่าง Terminal 21 Pattaya Shopping Mall, Big C Extra , HomePro, Index Living Mall,Tesco Lotus South Pattaya นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น ART IN PARADISE, เมืองจำลอง พัทยา
, ปราสาทสัจธรรม, Rubber Land, สนามโกคาร์ท พัทยาคาร์ทสปีดเวย์, Underwater World Pattaya เป็นต้น ใกล้เข้ามาหน่อยจะมีตลาดน้ำ 4 ภาค, มิโมซ่า พัทยา, Ocean Marina Yacht Club ค่ะ
ส่วนที่อยู่ใกล้กับโครงการในระยะที่สามารถเดินได้เลย จะเป็นร้านอาหารริมทะเลเป็นส่วนใหญ่ โดยเดินออกทางด้านหลังโครงการไปประมาณ 300 เมตรค่ะ นอกจากนั้นด้านหน้าปากซอยจะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวปลาอยู่ด้านหน้าเดินออกมารับประทานได้สะดวก และในอนาคตจะมีห้างสรรพสินค้า ICON Siam มาเปิดห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตรค่ะ
เส้นทางการเดินทางวันนี้ เริ่มจากบนถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปยังสัตหีบ-ระยอง ใครที่มาจากถนนมอเตอร์เวย์ (หมายเลข 7) ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิทก่อนค่ะ โดยเราจะตรงมาเรื่อยๆผ่านพัทยา แล้วเข้าตำบลนาจอมเทียน แล้วกลับรถบริเวณด้านหน้าสถานีดับเพลิงตำบลนาจอมเทียนเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่ตั้งโครงการ ระยะทางประมาณ 14.4 กิโลเมตร
เส้นทางการเดินทาง
เริ่มจากถนนสุขุมวิท บริเวณ HomePro พัทยา ให้สังเกตป้ายบอกทางอุโมงค์ไปพัทยาใต้ ระยองค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ALBAR Peninsula เป็นบรรยากาศชุมชนพักอาศัยเงียบสงบ ไม่หนาแน่น ซึ่งที่ตั้งโครงการจะอยู่เข้าไปในซอยประมาณ 10 เมตร ยาวไปจนถึงด้านหลังเป็นคลองสาธารณะ ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิทส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแถวสูงประมาณ 2-4 ชั้น ส่วนด้านในเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น อยู่บ้างประปราย ซึ่งภายในซอยเป็นซอยตันทำให้ไม่มีรถยนต์เข้าออกพลุกพล่านค่ะ สำหรับเส้นทางที่จะไปร้านอาหารริมทะเล หรือไปเดินเล่นที่ชายหาดบ้านอำเภอ ปัจจุบันจะต้องเข้าจากซอยนาจอมเทียน 30 แต่ในอนาคตทางโครงการจำทางเดินข้ามคลองด้านหลังเพื่อให้ง่ายต่อการเดินไปริมทะเลมากขึ้นค่ะ
จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ เทศบาลตำบลนาจอมเทียน
- ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารแถวสูง 4 ชั้น, ถนนสุขุมวิท
- ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ คลองสาธารณะบ้านอำเภอ
ด้านหน้าปากซอยหันไปทางทิศใต้ คือถนนสุขุมวิทเป็นถนนขนาดใหญ่ ฝั่งละ 3 เลน ด้านหน้าเป็นอาคารแถวสูงประมาณ 2-3 ชั้น
จุดสังเกตด้านหน้าจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวปลาตั้งอยู่ค่ะ มีป้ายใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน
ทางทิศตะวันออก มองเห็นถนนสุขุมวิทฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารแถวสูงประมาณ 3 ชั้น
ด้านหน้าปากซอยเมื่อมองไปทางทิศเหนือจะเจอกับอาคารแถวสูง 4 ชั้น
ถนนภายในซอยกว้าง 2 เลน แต่เนื่องจากเป็นซอยตันทำให้ไม่มีรถยนต์ผ่านเข้า-ออกเท่าไรนักค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านพักอาศัยเดิมอยู่บ้างไม่หนาแน่น เมื่อเข้ามาประมาณ 10 เมตรจะเจอกับที่ตั้งโครงการทางขวามือ
ที่ตั้งโครงการปัจจุบันมีสำนักงานขายตั้งอยู่ค่ะ
โดยพื้นที่ของโครงการมีขนาด 5 ไร่ 2 งาน ยาวตั้งแต่สำนักงานขายไปจนถึงคลองสาธารณะด้านหลังเลย
บรรยากาศที่ตั้งโครงการปัจจุบัน จะมีการทุบอาคารเดิมแล้วสร้างใหม่ภายในกลางปีนี้ค่ะ
มาดูบรรยากาศริมทะเลด้านหลังกันบ้าง จากโครงการอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารปรีชา ซีฟู้ด สามารถเดินผ่านทางข้ามคลอง(ในอนาคต) ออกมาได้ในระยะประมาณ 300 เมตร
ถัดมาหน่อยประมาณ 1.1 กิโลเมตรจะเจอกับหาดบ้านอำเภอ ชายหาดเล่นน้ำได้บรรยากาศสงบคนไม่พลุกพล่านค่ะ
เป็นที่ตั้งของทุ่นลอยน้ำสำหรับเดินลงไปชมวิวที่มีคนแชร์กันเยอะๆในโซเชียลนั่นเองค่ะ
บรรยากาศเมื่อมองจากโครงการไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นคลองสาธารณะ และทะเลบริเวณหาดบ้านอำเภอค่ะ
บรรยากาศเมื่อมองจากโครงการไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะเห็นคลองสาธารณะ, ชุมชนพักอาศัยและมองเห็นทะเลได้
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Cartoon Network Water Park ~ 3.8 km.
- Pattaya Dolphin World ~ 4 km.
- Ocean Marina Yacht Club ~ 5.7 km.
- Pattaya Floating Market ~ 6 km.
- Phoenix Gold Golf & Country Club ~ 6.4 km.
- Phoenix International School ~ 9 km.
- Silverlake Wine Vineyard & Winery ~ 9.7 km.
- Nongnooch Tropical Garden ~ 9.8 km.
- King Power พัทยา ~ 13.5 km.
- Central Department Store ~ 15.5 km.
- Terminal 21 Pattaya ~ 17.7 km.
รายละเอียดโครงการ
โครงการ ALBAR Peninsula มีทั้งหมด 4 อาคาร 686 ยูนิต บนพื้นที่ 5 ไร่ 2 งาน อยู่ในซอยห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 10 เมตรค่ะ ภายในโครงการนี้เค้าร่วมมือกับเครือโรงแรม Radisson Hotel Group แบรนด์ Park inn มาช่วยบริหารโครงการโดยจะมีการันตีผลตอบแทนอยู่ที่ 6 % ต่อปี เป็นระยะเวลา 10 ปี ทุกยูนิต โดยที่เจ้าของห้องพักมีสิทธิ์เข้าพักผ่อน มาตากอากาศได้ปีละไม่เกิน 15 วันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือสามารถเข้าอยู่ได้ตลอดหลังจากปีที่ 10 เป็นต้นไปค่ะ ปัจจุบันโครงการเปิดขายที่อาคาร A, C และ D ก่อนค่ะ แต่ละอาคารจะแบ่งประเภทได้ ดังนี้
- อาคาร A : มีห้อง Studio Type เดียวเท่านั้นนะคะ ซึ่งอาคารนี้มีสิทธิ์พิเศษ ทางโครงการรับซื้อห้องคืน (Buy Back สำหรับคนไทยเท่านั้น) ในราคาเดิมหลังจากโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ในปีที่ 3-5 หมายความว่าเราซื้อในราคาเท่าไร ทางโครงการจะรับซื้อคืนราคาเดิมหลังจากเปิดให้บริการไปแล้วในปีที่ 3-5 ค่ะ
- อาคาร B : มีห้อง Studio Type เดียวเท่านั้นเช่นกันค่ะ
- อาคาร C : มีห้องทุก Type ตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom พร้อมห้อง Pool Access และ Jacuzzi ค่ะ
- อาคาร D : มีห้องทุก Type ตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom พร้อมห้อง Pool Access และ Jacuzzi เช่นกันค่ะ
การออกแบบภายในโครงการ ALBAR Peninsula ใช้สไตล์ฝรั่งเศส โดยจะมีการตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูหรูด้วยการใช้กระเบื้องลายหินอ่อน ผสมกับสีทองเหลืองและทองแดง ตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลางไปจนถึงภายในห้องพักอาศัย ตรงกลางเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำออกแบบสไตล์ลากูน ส่วนวิวของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 4 วิว คือ วิวทะเล วิวสระว่ายน้ำ วิวสวน และวิวเมือง ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลางค่ะ
ด้านหลังโครงการจะอยู่ติดกับคลองสาธารณะบ้านอำเภอ ซึ่งทางโครงการได้มีการขออนุญาตทำทางข้ามคลองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านในการเดินไปริมทะเล ซึ่งมีร้านอาหารทะเลต่างๆอยู่เยอะเลยค่ะ
มาดูผังของโครงการกันก่อนค่ะ ทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ภายในซอย ห่างจากถนนสุขุมวิทเข้ามาประมาณ 10 เมตร ถือว่าอยู่ใกล้หน้าซอยเลยทีเดียว เข้ามาภายในโครงการแล้วจะเจอกับ Drop Off อาคาร B ก่อนค่ะ โดยชั้น 1 ของอาคาร B จะเป็นพื้นที่ Lobby ที่ใช้ร่วมกันระหว่างอาคาร A และ B สำหรับคนที่จะจอดรถก็สามารถจอดได้ที่ใต้อาคาร B, C , D และที่จอดริมรั้วของโครงการตลอดทั้งแนว รวมแล้วประมาณ 30% (รวมจอดซ้อนคัน) ซึ่งถือว่าไม่เยอะนัก แต่เนื่องจากเป็นโครงการประเภทเน้นปล่อยเช่านักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกรุ๊ปอยู่แล้ว ไม่ค่อยใช้รถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ อาจจะมีรถส่วนตัวบ้างก็สามารถไปจอดรถที่อาคาร C, D จะมีที่อยู่ใต้อาคารชั้น 1 ได้ค่ะ
ตัวอาคารทั้ง 4 อาคารจะอยู่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งมีสระว่ายน้ำแยกแต่ละอาคารอยู่ตรงกลาง ทำให้มองเห็นวิวภายในเป็นวิวสระว่ายน้ำและสวน จัดพื้นที่ได้ค่อนข้างดี อาคารที่มีความหนาแน่นเยอะกว่า คือ อาคาร A, B จะอยู่ด้านหน้า ทำให้มีคนพลุกพล่านในส่วนเดียว ด้านหลังเป็นอาคาร C, D มีความหนาแน่นของยูนิตน้อยกว่า จะมีคนเข้า-ออกน้อยทำให้เป็นส่วนตัวกว่าค่ะ
- วิวทะเล : อาคาร D ทางทิศเหนือ, อาคาร A ทางทิศใต้
- วิวสระว่ายน้ำ : ทุกอาคารสำหรับห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าด้านใน
- วิวสวน : อาคาร A, B ชั้น 8 และ อาคาร A ที่หันหน้าทางทิศตะวันออกบางส่วน
- วิวเมือง(ชุมชนพักอาศัย) : อาคาร C ทางทิศเหนือ, อาคาร B ทางทิศใต้และตะวันออก
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ALBAR Peninsula ส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางออกแบบเป็นสวนน้ำสไตล์ลากูนค่ะ บริเวณนี้จะมีสระว่ายน้ำอยู่ติดกับทุกอาคาร แต่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ โดยสระว่ายน้ำส่วนกลางสามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งหมดทุกอาคาร ทำให้มีคนพลุกพล่านอยู่ตลอด ตรงกลางนอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังมีห้อง Library สำหรับนั่งอ่านหนังสือพักผ่อน และศาลาริมสระให้นั่งเล่นด้วย ส่วน Facility อื่นๆภายในโครงการจะเน้นไปที่อาคาร A, B ดังนั้นคนที่อยู่อาคาร C, D จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางมากนัก
บรรยากาศจำลองภายใน Lobby ส่วนกลาง เน้นการออกแบบตกแต่งด้วยหินอ่อนดูหรูหรา มีที่นั่งพักคอยให้หน้าโถงลิฟต์
บรรยากาศจำลองภายในพื้นที่ Lobby Lounge ใช้ผนังกระจกรอบด้านทำให้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือมานั่งคอยดูลูกๆเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำค่ะ
บรรยากาศจำลองภายใน Fitness บริเวณอาคาร A เน้นความโปร่งโล่งมองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางได้
มาดูแยกแต่ละอาคารกันบ้างค่ะ เริ่มที่อาคาร A มีลักษณะอาคารเป็นรูปตัว L มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 198 ยูนิต เป็นห้อง Studio ทั้งหมด ชั้นล่างเป็นพื้นที่ Lobby มี Facility ให้ใช้งาน ห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 ค่ะ โดยชั้น 8 มีพื้นที่สวนเพิ่มบรรยากาศสีเขียวและออกมาใช้งานได้ โดยแต่ละชั้นจะมีอะไรบ้างเราไปชมกันค่ะ
ชั้น 1 เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Lobby ส่วนกลาง โถงสูง Double Floor เชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์ โดยจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 99 : 1 ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไปค่ะ เมื่อเดินผ่าน Lobby เข้ามาจะเป็นพื้นที่ Fitness มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ และมีห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำให้ใช้งานที่ชั้นนี้ด้วย
ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 27 ยูนิต มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางทำให้เดินไปยังห้องริมทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ซึ่งมีการออกแบบให้ประตูทางเข้าห้องไม่ตรงกับฝั่งตรงข้ามทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ชั้น 3 – 7 เป็นชั้นห้องพักอาศัย Typical Floor มีทั้งหมด 31 ยูนิตต่อชั้น โดยจะเพิ่มห้องพักอาศัยเหนือ Lobby ขึ้นมา 4 ยูนิตค่ะ
- ห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตกจะได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง (ห้องสีฟ้า, เทา)
- ห้องที่หันไปทางทิศใต้ จะเห็นวิวเมืองหรือชุมชนพักอาศัย (ห้องสีครีม)
- ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออก จะเห็นวิวสวนและอาคาร B (ห้องสีน้ำตาล)
ชั้น 8 เป็นชั้นสูงสุดมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 16 ยูนิต มีข้อดีคือไม่หนาแน่น และห้องทางทิศเหนือทั้งหมดจะมีโถงทางเดินเป็น Single Corridor มองเห็นวิวสวนได้ ทำให้บรรยากาศตรงโถงทางเดินดูร่มรื่นมากขึ้นค่ะ แต่เนื่องจากผู้เช่าห้องพักชั้นอื่นๆก็สามารถขึ้นมาใช้งานสวนได้เช่นกันทำให้ไม่ได้ความเป็นส่วนตัวมากนักค่ะ
Roof top เป็นพื้นที่สีเขียว ผู้เช่าสามารถขึ้นลิฟต์มาใช้งานสวนที่ชั้นดาดฟ้าได้ตอนเย็นๆ อากาศไม่ร้อนก็สามารถชมวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกได้
อาคาร B จะอยู่ด้านหน้าสุดของโครงการเลย โดยชั้น 1 จะมีพื้นที่ Lobby ขนาดใหญ่ และห้องอาหาร ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 2 จนถึงชั้น 8 ทั้งหมด 191 ยูนิต (ห้อง Studio ทั้งหมด) การวางผังคล้ายกับอาคาร A แต่อาคาร B จะมีความพิเศษตรงที่มีสระว่ายน้ำภายในอาคารเลยค่ะ ทำให้คนที่พักอาคาร B สามารถใช้สระว่ายน้ำได้สะดวก ไม่ต้องไปว่ายรวมกับคนอื่นๆ ซึ่งจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าค่ะ
ชั้น 1 เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Lobby ส่วนกลางเป็นโถงสูง Double Floor มีโถงลิฟต์อยู่ด้านหน้าบริเวณ Lobby เลยค่ะ โดยจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 95 : 1 ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไปค่ะ เมื่อเดินผ่าน Lobby เข้ามาจะเป็นพื้นที่ ร้านอาหาร สำหรับลูกบ้านอาคารอื่นๆ ก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นกันค่ะ จากห้องอาหารสามารถมองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางได้เช่นกัน
ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก มีห้องพักอาศัยเพียง 4 ยูนิต เนื่องจากพื้นที่อื่นๆเป็นพื้นที่ Open Space และงานระบบ ทำให้ชั้นนี้มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor มีจำนวนห้องพักอาศัยน้อยที่สุด จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุดค่ะ
ชั้น 3 เป็นชั้นห้องพักอาศัยที่มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วย มีห้องพักจำนวน 25 ยูนิต ห้องฝั่งทิศใต้จะเป็นห้องที่มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor สามารถเดินออกไปใช้งานพื้นที่ Out door และสระว่ายน้ำได้สะดวก
ชั้น 4-7 เป็นชั้นห้องพักอาศัย Typical Floor มีทั้งหมด 36 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ มีการออกแบบให้โถงลิฟต์อยู่ตรงกลางเยื้องไปทางขวาทำให้เดินไปยังห้องริมทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก ได้โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ซึ่งมีการออกแบบให้ประตูทางเข้าห้องไม่ตรงกับฝั่งตรงข้ามทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- ห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตกจะได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง (ห้องสีครีม, ชมพู)
- ห้องที่หันไปทางทิศใต้ จะเห็นวิวเมืองหรือชุมชนพักอาศัย (ห้องสีฟ้า)
- ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออก จะเห็นอาคารแถวสูง 4 ชั้น, ถนนสุขุมวิท (ห้องสีน้ำเงิน)
ชั้น 8 เป็นชั้นสูงสุดมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 18 ยูนิต วางผังเหมือนกับอาคาร A ค่ะ ชั้นนี้จะไม่หนาแน่นมากนัก และห้องทางทิศเหนือทั้งหมดจะมีโถงทางเดินเป็น Single Corridor มองเห็นวิวสวนได้ แต่ผู้เช่าห้องพักชั้นอื่นๆก็สามารถขึ้นมาใช้งานสวนได้เช่นกัน
Roof top เป็นพื้นที่สีเขียว ผู้เช่าสามารถขึ้นลิฟต์มาใช้งานสวนที่ชั้นดาดฟ้าได้ตอนเย็นๆ อากาศไม่ร้อนก็สามารถชมวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกได้ค่ะ
อาคาร C ตัวอาคารเป็นรูปตัว L เช่นกัน มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 172 ยูนิต ซึ่งจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าอาคาร A, B อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 86 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมาก ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานค่ะ มีห้องพักอาศัยหลายแบบตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก มีพื้นที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 และภายในอาคาร C,D จะมีห้องพักพิเศษ เป็นห้อง Pool Access และห้องที่มี Jacuzzi เพิ่มมาให้ค่ะ
ชั้น 1 จะแบ่งออกเป็นพื้นที่จอดรถ 24 คัน และห้องพักอาศัย 10 ยูนิต โดยแยกพื้นที่กันชัดเจน ทำให้ห้องพักอาศัยชั้นนี้มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor ทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัว และเป็นห้องพิเศษ Pool Access ออกจากห้องแล้วสามารถลงสระว่ายน้ำได้เลยทั้ง 10 ยูนิตค่ะ
ชั้น 2 มีห้องพักอาศัยเต็มชั้นอยู่ที่ 24 ยูนิตค่ะ โดยจะมีห้องพิเศษเป็นห้องทางทิศใต้ ที่จะมี Jacuzzi ให้ที่ริมระเบียง 9 ยูนิต (เส้นประสีชมพู) สามารถแช่น้ำพร้อมกับมองวิวสวนและสระว่ายน้ำชั้นล่างได้
ชั้น 3-5 เป็นชั้น Typical Floor มีทั้งหมด 24 ยูนิตต่อชั้น มีการออกแบบให้โถงลิฟต์อยู่ตรงกลางเยื้องไปทางขวาทำให้เดินไปยังห้องริมทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก ได้โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ทั้งหมด
- ห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือจะได้วิวอาคารเทศบาลตำบลนาจอมเทียน (ห้องสีส้ม)
- ห้องที่หันไปทางทิศใต้และทิศตะวันตก จะเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง (ห้องสีเหลือง, ฟ้า, เขียว)
- ห้องที่หันไปทางทิศตะวันออก จะเห็นวิวอาคารแถวสูง 4 ชั้น, ถนนสุขุมวิท (ห้องสีม่วง)
ชั้น 6 จะมีการวางผังเหมือนกับชั้น 3-5 เลยค่ะ แต่จะมีห้องขนาดใหญ่ (2 Bedroom) เพิ่มขึ้นมาบริเวณขาของตัว L หันหน้าทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทำให้ยูนิตต่อชั้นลดลงเหลือ 22 ยูนิตค่ะ
ชั้น 7-8 มีการวางผังเหมือนกับชั้น 6 เลย มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 22 ยูนิต แต่ห้องพักบริเวณขาของตัว L หันหน้าทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกจะมีขนาดลดลงเล็กน้อยค่ะ ส่วน Roof Top ของอาคาร C จะเป็นพื้นที่สวนสามารถขึ้นไปเดินเล่นพักผ่อนได้เช่นกันค่ะ
อาคาร D ตัวอาคารเป็นรูปตัว I โค้งเล็กน้อย ล้อมรอบสระว่ายน้ำส่วนกลาง มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 135 ยูนิต เป็นอาคารที่มีความหนาแน่นน้อยที่สุด อัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 68 : 1 ทำให้รอลิฟต์ไม่นาน มีห้องพักอาศัยหลายแบบตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom คนที่พักในอาคารนี้เหมาะกับคนที่ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก ชั้น 1 จะมีที่จอดรถและห้องพักอาศัย ไปจนถึงชั้น 8 เหมือนกับอาคาร C ค่ะ
ชั้น 1 จะแบ่งออกเป็นพื้นที่จอดรถ 15 คัน และห้องพักอาศัย 9 ยูนิต โดยแยกพื้นที่กันชัดเจน ทำให้ห้องพักอาศัยชั้นนี้มีโถงทางเดินแบบ Single Corridor ทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัว และเป็นห้องพิเศษ Pool Access ออกจากห้องแล้วสามารถลงสระว่ายน้ำได้เลยทั้ง 9 ยูนิตค่ะ
ชั้น 2 มีห้องพักอาศัยเต็มชั้นอยู่ที่ 18 ยูนิต โดยจะมีห้องพิเศษเป็นห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะมี Jacuzzi ให้ที่ริมระเบียง 9 ยูนิต (เส้นประสีชมพู) สามารถแช่น้ำพร้อมกับมองวิวสวนและสระว่ายน้ำชั้นล่างได้
ชั้น 3-8 เป็นชั้น Typical Floor มีทั้งหมด 18 ยูนิตต่อชั้น ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom โถงลิฟต์จะอยู่ฝั่งขวาของอาคารทำให้คนที่อยู่ห้องริมฝั่งซ้ายอาจจะเดินไกลสักหน่อยค่ะ ส่วนโถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor
- ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะได้วิวทะเล และชุมชนพักอาศัย (ห้องสีม่วง)
- ห้องที่หันไปทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ จะเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง (ห้องสีน้ำเงิน)
- ห้องที่หันไปทางทิศเหนือ จะเห็นวิวอาคารเทศบาลตำบลนาจอมเทียน (ห้องสีฟ้า)
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby Lounge
- Library
- Pavilion
- ห้องอาหาร ในอาคาร B
- สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำส่วนกลางระบบ เกลือ ขนาด n/a เมตร จำนวน 4 สระ และสระว่ายน้ำในอาคาร B 1 สระ
- ห้องออกกำลังกาย ในอาคาร A
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 86 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 99 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 95 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 86 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 68 : 1
- Service Lift – ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 30% (รวมจอดซ้อนคัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
แบบห้อง
ห้องพักภายในโครงการ Albar Peninsula มีทั้งหมด 3 แบบ คือ
- Type A : Studio ขนาด 23.00 – 29.00 ตารางเมตร
- Type B : 1 Bedroom ขนาด 33.00 – 39.00 ตารางเมตร
- Type C : 2 Bedroom ขนาด 43.00 – 65.00 ตารางเมตร
ภายในห้องพักอาศัยจึงขายแบบ Fully Furnished พร้อมตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสเรียบหรู มีการกรุตกแต่งผนังและฝ้าเพดานด้วยบัวคิ้วสีขาว และวัสดุสีทองเหลือง, สีทองแดง เป็นต้น โดยภายในห้องจะได้เฟอร์นิเจอร์ ดังนี้
- ชุดครัว พร้อม เตาไฟฟ้า, อ่างล้างจาน, เครื่องดูดควัน, เตาอบ, ไมโครเวฟ, ตู้เย็น(เล็ก)
- ตู้เก็บของ
- โซฟา พร้อมโต๊ะกลาง
- TV ขนาด 55 นิ้ว
- อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ
- เตียงพร้อมฟูก ขนาด 5 ฟุต (ห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป ได้เตียงพร้อมฟูก ขนาด 6 ฟุต)
- โต๊ะข้างเตียง (ห้อง 1 Bedroom ได้ 2 ตัว)
- ตู้เสื้อผ้า ( และโต๊ะเครื่องแป้ง และ TV ขนาด 55 นิ้วในห้องนอน สำหรับห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป)
- ผ้าม่าน 2 ชั้น
- เครื่องปรับอากาศ
- โคมไฟ Chandelier และ โคมไฟติดผนัง
นอกจากนั้นยังมีโปรโมชั่นพร้อมของตกแต่งเพิ่มเติม ดังนี้
โดยวันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างกัน 2 ห้อง คือห้อง Studio และห้อง 1 Bedroom กันค่ะ ปัจจุบันรายการวัสดุภายในห้องอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเพิ่มให้จากในห้องตัวอย่างนะคะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย
เริ่มกันที่ห้อง Studio (Type A) ขนาด 25.00 ตารางเมตรกันก่อนค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วน Pantry (ครัวเปิด) ก่อน เนื่องจากการใช้งานเป็นแบบโรงแรมทำให้ไม่เน้นการทำอาหารรับประทานเองมากนักค่ะ ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งมาให้ชัดเจน ถัดมาจะเป็นพื้นที่พักผ่อน การใช้งานเหมือนกับห้องภายในโรงแรมทั่วไปค่ะ โดยจุดเด่นของห้องนี้คือจะมีพื้นที่นั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วนบริเวณมุมห้องมองเห็นวิวด้านนอกได้ ส่วนระเบียงจะอยู่ตรงกับเตียงทำให้สามารถนอนมองวิวฝั่งระเบียง และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะค่ะ พื้นที่ระเบียงที่ได้ก็ค่อนข้างกว้างเลย สามารถตั้งโต๊ะเก้าอี้ตัวเล็กๆสำหรับนั่งตากอากาศชมวิวภายระเบียงห้องได้ค่ะ
ด้านหน้าทางเข้าห้องพักอาศัยจะมีการตกแต่งผนังบริเวณประตูมาให้ดูสวยงาม ส่วนประตูจะมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ จาก Puxin** สีทองเหลือง เป็นระบบ Key Card ค่ะ
พื้นห้องจะอยู่ระดับเดียวกันกับพื้นโถงทางเดินมีกระเบื้องลายหินก่อนเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นห้องที่เป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้**ค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในห้อง Studio จะเจอกับพื้นที่ Pantry ทางด้านซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องน้ำที่ได้ผนังกระจกทำให้ห้องดูกว้างและสว่างมากขึ้น ภายในห้องจริงที่ได้จะมีการตกแต่งกรุผนังและฝ้าเพดานเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ (ยกเว้นของตกแต่ง) ห้องนี้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.60 เมตร ได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากบริเวณหน้าต่างทั่วถึงทั้งห้องค่ะ
เราย้อนกลับมาดูบริเวณทางเข้ากันก่อนนะคะ ระบบปรับอากาศที่ได้จะได้เป็น Concealed Type ฝังฝ้าเพดานทำให้บริเวณครัวและห้องน้ำจะมีความสูงฝ้าเพดานลดลงมาหน่อยค่ะ
สวิตช์ไฟที่ได้เป็นสีทองแดงผิวด้านตัดกับสีขาวของผนัง จาก Siemens**
ติดกับประตูทางเข้าเลยจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำทำให้ใช้งานสะดวก เหมือนกับฟังก์ชันของโรงแรมโดยทั่วไปค่ะ โดยหน้าบานตู้สีขาวมีการออกแบบลวดลายให้เข้ากันกับผนังภายในห้อง ส่วนภายในมีราวแขวนผ้าและชั้นวางของเพิ่มเติม สามารถเก็บรองเท้าได้ค่ะ
ส่วนครัวเป็นครัวเปิดแบบ Pantry เนื่องจากการใช้งานเป็นโรงแรมและ Service Condominium ทำให้ไม่เน้นการทำอาหารจริงจังมากนัก แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้สามารถประกอบอาหารง่ายๆทานได้ โดยจะมีเตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศ จาก Hafele ติดตั้งมาให้ พร้อมกับอ่างล้างจานสเตนเลส จาก Zagio ** และมี Backsplash ลายหินอ่อนติดตั้งมาให้เลย ทำให้ทำความสะอาดง่าย ไม่มีคราบมันไปเลอะผนังด้านหลังค่ะ ซึ่งจะมีปลั๊กไฟเตรียมไว้สำหรับกาต้มน้ำ หรือเครื่องปิ้งขนมปังเพิ่มเติม
ส่วน Pantry จะมีชั้นเก็บของมาให้ทั้งด้านล่างและด้านบนเลย เป็นบานเปิดทั้งหมด มีระบบ Soft Close ทำให้เวลาเปิด-ปิดไม่มีเสียงดัง และไม่กระทบกระเทือนกับภาชนะที่อยู่ด้านใน ส่วนด้านล่างใต้อ่างล้างจานจะมีตู้เย็นขนาดเล็กวางไว้ให้ด้วยค่ะ
ห้องน้ำของห้อง Studio จะได้เป็นผนังกระจกมีความ Sexy นิดๆซึ่งทางโครงการจะมีติดตั้งผ้าม่านเพิ่มเติมมาให้ค่ะ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเข้ากับตัวห้องที่เป็นสีขาว
พื้นที่อ่างล้างหน้าจะได้กระจกบานสูง มีช่องพัดลมระบายอากาศด้านบนติดตั้งไฟซ่อนมาให้ดูสวยงาม ตัวอ่างเป็นอ่างกลม จาก Hansbo** พร้อมก๊อกน้ำติดผนังสีทองแดง มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นให้ค่ะ นอกจากนั้นด้านล่างอ่างล้างหน้าจะมีตู้เก็บของไว้ให้ด้วยสำหรับเก็บสบู่, แชมพู หรือของใช้ส่วนตัวอื่นๆได้
ส่วนพื้นที่โถสุขภัณฑ์ค่อนข้างกว้างนั่งได้สบายได้โถสุขภัณฑ์สีขาวจาก Hansbo** มีการตกแต่งผนังมาให้ดูสวยงาม ด้านข้างมีช่องเก็บของเพิ่มเติมสามารถวางของตกแต่ง หรืออุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำจะแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้เป็นบานเปิดเข้าด้านในทำให้น้ำไม่ไหลออกมาเปียกด้านนอกค่ะ
พื้นที่ยืนอาบน้ำมีการออกแบบให้สูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อยทำให้น้ำไหลออกด้านข้างไม่เกิดแอ่งน้ำเวลาอาบค่ะ ฝักบัวที่ได้เป็นฝักบัวสายอ่อนสีทองเหลือง จาก Hansbo** มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น เชื่อมต่อกับเครื่องทำน้ำร้อนส่วนกลางค่ะ
ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่เตียงนอน และมุมนั่งเล่น ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากบริเวณหน้าต่างและระเบียงค่อนข้างเยอะทำให้ห้องสว่าง และสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้เยอะค่ะ
เมื่อมองกลับไปด้านหน้าห้องจะเห็นห้องน้ำที่เป็นผนังกระจกทำให้ห้องดูกว้าง และมีเครื่องปรับอากาศ Concealed Type ติดตั้งมาให้ 1 ตัวค่ะ
พื้นที่ห้องนอนของห้อง Studio จะได้เตียงนอนพร้อมฟูกขนาด 5 ฟุต (ควีนไซส์) พร้อมโต๊ะข้างเตียง มีการตกแต่งผนังด้านหลังให้มีลวดลายสไตล์ฝรั่งเศส ส่วนเตียงนอนจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงทำให้สามารถนอนมองวิวด้านนอกได้ค่ะ
ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 2.00 x 1.60 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถวางโต๊ะเก้าอี้ สำหรับออกมานั่งชมวิวด้านนอกได้ โดยจะได้ราวกันตกเป็นกระจกใสบานเปลือยทำให้มองเห็นวิวได้สบายตา พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีขาวทำความสะอาดง่าย และเข้ากับภายในห้องค่ะ ห้องจริงที่ได้จะมี Condensing Unit ติดตั้งที่ระเบียง 1 ตัวค่ะ ส่วนใครอยากวางเครื่องซักผ้าภายในห้องเพิ่มเติมก็สามารถวางที่ระเบียงได้ มีงานระบบเดินไว้ให้ค่ะ ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือมีมุ้งลวดที่บานประตูหน้าต่างมาให้ด้วย ทำให้สามารถเปิดรับอากาศภายนอกได้โดยไม่ต้องกลัวแมลงเลย
ฝั่งปลายเตียงจะเป็นพื้นที่ Built-in ชั้นวาง TV ซึ่งมี TV ขนาด 55 นิ้วติดตั้งไว้ให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ด้านข้างเป็นมุมห้องนั่งเล่นแยกเป็นสัดส่วน สามารถนั่งอ่านหนังสือ ชมวิวด้านนอก หรือใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารก็ได้นะคะ
มุมนี้จะมีโซฟา และโต๊ะกลางมาให้ลงตัวกับพื้นที่ ส่วนใครจะติดตั้งเตาผิงแบบให้ห้องตัวอย่างเพิ่มเติมก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ
ช่องแสงที่ได้มีขนาดค่อนข้างใหญ่บานกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำ ได้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องค่อนข้างเยอะ และที่สำคัญมีช่องเปิดพร้อมมุ้งลวดมาให้ เหมาะกับการเปิดรับอากาศธรรมชาติโดยไม่ต้องกลัวยุงหรือแมลงบินเข้ามาในห้องค่ะ
ห้องถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 34.00 ตารางเมตร ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Common Area กว้าง มีพื้นที่ครัวเปิดเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับระเบียงอีกทีทำให้ภายในห้องได้แสงธรรมชาติและมองเห็นวิวภายนอกได้ค่ะ ส่วนห้องนอนกับห้องน้ำจะแยกมาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ได้ความเป็นส่วนตัว โดยห้องน้ำจะมีพื้นที่ล้างมืออยู่ด้านนอกส่วนสุภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำจะกั้นเป็นสัดส่วน ภายในห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นสัดส่วนมากขึ้น และชอบพื้นที่ Common Area กว้าง
เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับพื้นที่ Common Area ก่อนค่ะ เป็นพื้นที่ครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และระเบียงทำให้ห้องดูกว้าง รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากทางระเบียง ห้องมีความสูงของฝ้าเพดานประมาณ 2.60 เมตร ส่วนพื้นห้องของ Type นี้จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ห้องนอนเป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้** มีการตกแต่งผนังห้องและฝ้าเพดานให้เช่นกันค่ะ
มองย้อนกลับไปด้านหน้าห้องตัวประตูจะมีกลอนโซ่เพิ่มมาให้ด้วย ส่วนครัวจะอยู่ทางขวามือ และห้องน้ำทางซ้ายมือค่ะ
พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิด ไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นแรงมากนักค่ะ แต่เนื่องจากโครงการนี้เป็น Service Condominium อาจจะไม่ได้ทำอาหารรับประทานเองบ่อยนัก จึงเหมาะกับพื้นที่ครัวเปิดมากกว่า เพราะจะได้พื้นที่ดูโปร่งกว้างมากขึ้นค่ะ ซึ่งที่นี่ก็จะมีโต๊ะรับประทานอาหาร Built-in เชื่อมต่อกับครัวมาให้เลย
เคาน์เตอร์ครัวของห้อง Type นี้จะได้เป็นตัว L มีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น บนเคาน์เตอร์ Top หินสังเคราะห์ลายหินอ่อน มีเตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนอากาศ จาก Hafele ติดตั้งมาให้ พร้อมกับอ่างล้างจานสเตนเลส จาก Zagio ** พร้อม Backsplash ลายหินอ่อนทำความสะอาดง่ายค่ะ
ฝั่งอ่างล้างจานจะมีชั้นเก็บของเป็นบานเปิดขึ้นด้านบน หยิบของได้สะดวก และด้านล่างสำหรับเก็บของขนาดใหญ่อย่างถังขยะ หรือเครื่องดูดฝุ่นได้ค่ะ โดยหน้าบานตู้ก็มีการออกแบบให้เข้ากับลวดลายบนผนังภายในห้องเช่นกัน
อีกฝั่งของเคาน์เตอร์ก็จะมีชั้นเก็บของให้ทั้งด้านล่างและด้านบน สามารถเก็บของได้มากขึ้นค่ะ
ถัดจากครัวในห้อง Type นี้จะมีพื้นที่นั่งรับประทานอาหารเป็นสัดส่วนสะดวกในการนั่งรับประทานอาหารมีเก้าอี้มาให้ 2 ตัว พร้อมตู้เย็นขนาดเล็ก 1 เครื่อง
ห้องนั่งเล่นมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบทั้งโซฟา โต๊ะกลาง รวมถึงติดตั้ง TV ขนาด 55 นิ้วมาให้ด้วยค่ะ ภายในห้องมีขนาดค่อนข้างกว้างเดินได้สบายๆไม่อึดอัด และเชื่อมต่อกับระเบียงมองเห็นวิวด้านนอก และรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะเลย
ผนังห้องฝั่งโซฟาก็มีการตกแต่งลวดลายสไตล์ฝรั่งเศสแบบในห้องตัวอย่างมาให้ค่ะ
ส่วนฝั่ง TV จะติดตั้งบนผนังมาให้เพื่อลดการใช้พื้นที่ชั้นวาง TV ทำให้เหลือพื้นที่เดินมากขึ้นค่ะ โดยจะทำผนังเป็นช่องสำหรับวางของมาให้แทน
ประตูทางออกไปยังระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจก กรอบบานอลูมิเนียมแข็งแรง มีมุ้งลวดมาให้ด้วยค่ะ ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกังวลเรื่องแมลง และมีผ้าม่านติดตั้งมาให้ 2 ชั้นเลย
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.50 x 1.50 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างสามารถวางโต๊ะเก้าอี้น้ำชาสำหรับออกมากินลมชมวิวได้ค่ะ โดยพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิคลายหินอ่อนสีขาวทำความสะอาดง่ายและมีการเดินงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้เรียบร้อย
ห้องจริงที่ได้จะมี Condensing Unit อยู่บริเวณระเบียงซ่อนไว้ด้านข้างไม่บังสายตาเวลามองออกมาจากห้องค่ะ
ต่อมาเรามาดูทางฝั่งห้องนอนกันบ้าง ด้านหน้าห้องนอนจะเป็นพื้นที่อ่างล้างหน้าเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำค่ะ การที่ออกแบบอ่างล้างหน้าไว้ด้านนอก มีข้อดีคือสามารถใช้งานอ่างล้างหน้าพร้อมกับอาบน้ำด้านในได้ ในกรณีอยู่กัน 2 คนก็ไม่ต้องคอยกันค่ะ
พื้นที่อ่างล้างหน้าจะได้กระจกบานสูง อ่างหินสังเคราะห์ Built-in กับเคาน์เตอร์ดูสวยงามพร้อมก๊อกน้ำติดผนังสีทองแดง มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของมาให้ 2 ช่อง
ภายในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำแยกกันชัดเจนเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้ง ด้านข้างผนังมีช่องเก็บของสามารถวางของตกแต่งได้นะคะ ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ Hansbo** เช่นกันค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ ด้านในยกระดับขึ้นเล็กน้อยทำให้น้ำไม่นองเวลาอาบน้ำฝักบัวที่ได้เป็นฝักบัวสายอ่อนสีทองเหลือง จาก Hansbo** มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น เชื่อมต่อกับเครื่องทำน้ำร้อนส่วนกลาง พร้อมช่องวางของด้านข้าง 2 ฝั่ง เช่นเดียวกับห้อง Studio ค่ะ
ห้องนอนของห้อง Type นี้จะมีขนาดประมาณ 3.40 x 2.80 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุต (คิงไซส์) ได้สบายๆ ซึ่งห้องนี้ก็ได้ช่องแสงขนาดใหญ่สามารถนอนมองวิวภายนอกได้กว้างเช่นกันค่ะ
เมื่อวางเตียง 6 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้าง 2 ฝั่งสำหรับโต๊ะข้างเตียง สามารถเดินได้รอบเตียงสบายๆ บริเวณตัวเตียงก็มีการตกแต่งผนังให้เช่นกันค่ะ
ในห้องนอนจะได้ผนัง Built-in ติดตั้ง TV ขนาด 55 นิ้วมาให้อีกเครื่องหนึ่งด้วยค่ะ (รวมเป็น 2 เครื่อง) สำหรับคนที่ชอบนอนดู TV สบายๆ ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ ซึ่งห้องจริงจะได้เฟอร์นิเจอร์มาให้ครบเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ (ยกเว้นของตกแต่งนะคะ)
ช่องแสงที่ได้เป็นบานกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำขนาดใหญ่ มีช่องเปิดด้านข้างพร้อมมุ้งลวดมาให้ สามารถเปิดระบายอากาศในห้องนอนได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เป็นบานเลื่อนเปิดช่วยประหยัดพื้นที่ด้านหน้า เก็บเสื้อผ้าได้เยอะ เหมาะกับการปล่อยเช่าในระยะยาวค่ะ
สวิตช์ไฟที่ได้เป็นสีทองแดงผิวด้านตัดกับสีขาวของผนัง จาก Siemens**เช่นกัน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
Studio ขนาด 23 - 29 ตารางเมตร
ราคา
ราคา ALBAR Peninsula @12 March 2020
- Studio / อาคาร C ชั้น 8 ห้อง C818 / เนื้อที่ 25.17 ตร.ม. / ราคา 1.93 ล้านบาท หรือ 76,400 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom / อาคาร C ชั้น 4 ห้อง C419 / เนื้อที่ 34.29 ตร.ม. / ราคา 2.52 ล้านบาท หรือ 73,490 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom / อาคาร C ชั้น 7 ห้อง C711 / เนื้อที่ 51.45 ตร.ม. / ราคา 3.85 ล้านบาท หรือ 74,694 บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานประมาณ 2.60 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / HAFELE
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 20%
- ดาวน์ 24% ผ่อนดาวน์ 8 งวด
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน (โปรโมชัน ฟรีค่าส่วนกลาง 10 ปี)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาและรายการวัสดุต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ ALBAR Peninsula ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท เข้าซอยด้านข้างเทศบาลตำบลนาจอมเทียนไปประมาณ 10 เมตร บรรยากาศในทำเลค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ยอมแลกกับการเดินทางที่ไกลจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์ย่านพัทยามาสักหน่อย แต่ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และชายหาดที่สามารถเล่นน้ำได้ในระยะที่สามารถเดินไปได้ค่ะ ซึ่งในอนาคตถ้ามี ICON Siam มาเปิดให้บริการแล้วจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด และทำให้ทำเลนี้มีความคึกคักมาขึ้นค่ะ
การเดินทาง :
การเดินทางอยู่บนทำเลที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เนื่องจากเป็นโครงการตากอากาศ ถือว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิท (เข้าซอย 10 เมตร) ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักขนาดใหญ่ ที่คนนิยมใช้วิ่งเชื่อมต่อชลบุรี พัทยา ไปจนถึงระยองได้เลย ส่วนที่จอดรถทางโครงการให้มาประมาณ 30 % รวมซ้อนคัน ถือว่าไม่เยอะค่ะ แต่เนื่องจากเป็นโครงการสำหรับลงทุน ผู้ที่มาพักอาศัยอาจจะมาเป็นกลุ่มหรือรถทัวร์ ทำให้ไม่ต้องใช้พื้นที่จอดรถส่วนตัวค่ะ
วัสดุ :
ภายในโครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส มีการตกแต่งขอบบัวผนังและฝ้าเพดานครบ ได้เฟอร์นิเจอร์ครบทุกชิ้นถือกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีโปรโมชันแถมอุปกรณ์เครื่องใช้เพิ่มเติมอีก 32 ชิ้น (ระยะเวลาโปรโมชันสอบถามได้จากทางโครงการเลยนะคะ) เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่า ไม่ต้องซื้อของมาเพิ่มเองเลย ก็ถือว่าให้มาคุ้มค่ากับราคาทีเดียว
การออกแบบ :
การออกแบบโครงการค่อนข้างลงตัว มีอาคารพักอาศัย 4 อาคารล้อมรอบสระว่ายน้ำส่วนกลาง 4 สระที่ออกแบบสไตล์ลากูน มีพื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำและพื้นที่สวน ทำให้ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ค่ะ อาคารที่มีความหนาแน่นมากอยู่ที่อาคาร A, B อยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนอาคารที่มีความหนาแน่นน้อยอย่างอาคาร C, D จะอยู่ฝั่งเดียวกันเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ห้องพักอาศัยมีให้เลือก 3 แบบ คือ Studio ที่จัดพื้นที่การใช้งานคล้ายกับโรงแรม มี Sexy Bath และมุมนั่งเล่น ,ห้อง 1 Bedroom สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่มากขึ้น และห้อง 2 Bedroom สำหรับคนที่ต้องการ 2 ห้องนอน โดยห้องส่วนใหญ่ของที่นี่จะเน้นการออกแบบให้ Common Area กว้าง มองเห็นวิวภายนอกได้เยอะ และมีพื้นที่ระเบียงใหญ่ ออกไปนั่งจิบชาชมวิวได้จริง โดยรวมถือว่าลงตัวค่ะ
สาธารณูปโภค :
สาธารณูปโภคส่วนใหญ่ของโครงการจะเน้นไปที่สระว่ายน้ำ โดยจะมีสระว่ายน้ำด้านในทุกอาคารเชื่อมต่อกัน และมีสระส่วนตัวของอาคาร B พื้นที่ส่วนกลางมีห้อง Library ริมสระว่ายน้ำ และ Pavilion สำหรับนั่งพักผ่อนค่ะ มีห้อง Fitness อยู่ที่อาคาร A และห้องอาหารที่อาคาร B ถือว่าไม่ได้หลากหลายมากนักแต่ได้พื้นที่กว้างใช้งานได้เพียงพอ แต่ละอาคารจะได้ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการประมาณ 86 : 1 ถือว่าไม่เยอะไม่น้อยไปค่ะ
Judgement
สำหรับโครงการ ALBAR Peninsula เราจะไม่มีการให้คะแนนค่ะ เนื่องจากโครงการประเภทตากอากาศ มีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างจากคอนโดเพื่อการอยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องมีเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงินและความคุ้มค่าทางอารมณ์รวมกัน เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และลงทุนมากกว่า ทำให้บรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิวค่ะ
BOTTOM LINE
ALBAR Peninsula เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนในคอนโดมิเนียมที่การันตีผลตอบแทนแน่นอนเป็นระยะเวลานาน (10 ปี) โดยอาจจะใช้มาพักตากอากาศเองบ้างเป็นครั้งคราว ชอบโครงการที่เข้าถึงสะดวก อยู่ไม่ไกลจากแหล่งจับจ่ายใช้สอย แต่บรรยากาศไม่พลุกพล่านมากนัก ไม่เน้นโครงการติดทะเล แต่สามารถเดินทางไปเล่นน้ำที่ชายหาดได้ไม่ยาก โครงการมี Facility ส่วนกลาง มีห้องให้เลือกหลากหลาย ในงบประมาณระดับ 2 – 4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 28,000 บาท/เดือน
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving