A PLUS 2 @รัตนาธิเบศร์ คอนโด Low Rise ใกล้สถานีศรีพรสวรรค์ รถไฟฟ้าสายสีม่วง จาก เอ พลัส เรียลเอสเตท [รีวิวฉบับที่ 754]

รีวิวฉบับที่ 754 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปรีวิวคอนโดแถบชานเมืองกันซักนิดกับ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ โครงการที่ 2 จาก เอ พลัส เรียลเอสเตท คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร อยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ใกล้รถไฟฟ้า 2 สายทั้งสายสีม่วง สถานีศรีพรสวรรค์ และสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการ, ใกล้ศูนย์ราชการนนทบุรี, ศูนย์การค้าเล็กใหญ่และ community mall เรียงเป็นแถบอีกทั้งยังใกล้กับอุทยานมกุฎรมย์สราญด้วยค่ะ

Fact @ 18 December 2014

• A Plus 2 @Rattanathibet (เอ พลัส 2 @รัตนาธิเบศร์)
• บริษัท เอ พลัส เรียลเอสเตท จำกัด
• SUPER ECONOMY (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ยูนิตรวม 134 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสุงสุด 20 ยูนิต
• ที่จอดรถรวมซ้อนคันประมาณ 45 คัน คิดเป็น 34%
• ที่ดินประมาณ  347 ตารางวา
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ ต้นปี 2015
• 1 Bedroom 29 – 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 990,000 บาท
• 2 Bedroom 41 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.335 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• ราคาเริ่มต้น 33,000 บาท/ตารางเมตร
• EIA ผ่านแล้ว
• http://www.apluscondo.com/aplus2
• โทร  080-0804882

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่าง

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.859768,100.506862

ที่ตั้งของโครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าสะพานสมเด็จพระนั่งเกล้า ในซอยรัตนาธิเบศร์ 11 อยู่ระหว่างแยกแครายและแยกนนทบุรี1 เข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร โครงการอยู่ด้านขวามือ มีสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์ สายสีม่วง อยู่ห่างจากปากซอย 140 เมตร หรือ 240 เมตร จากโครงการ และอีกไม่ไกลเป็นสถานีรถไฟฟ้าศูนย์ราชการ ในอนาคตจะเป็นสถานี interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีชมพู และสีน้ำตาล

ถึงแม้ว่าโครงการจะตั้งอยู่ในแถบชานเมือง แต่ในบริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ มีความเจริญสูงมาก โดยเฉพาะบนถนนรัตนาธิเบศร์ตลอดจนถึงเส้นงามวงศ์วานความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร มีศูนย์การค้าเล็กใหญ่ โรงพยาบาล ตลอดเส้นทาง ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่จะเป็นพื้นที่โครงการบ้านจัดสรรแนวราบมากกว่า 10 โครงการ และที่กำลังเพิ่มขึ้นจำนวนมาก คือโครงการคอนโดที่เกาะสายรถไฟฟ้าสีม่วง ทำให้ตัวทำเลมีจุดเด่นเรื่องการใช้ระบบขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้นมา

ซึ่งถ้าเรามองในแง่คนทำงานประจำอยู่แถบถนนรัตนาธิเบศร์-ติวานนท์-แจ้งวัฒนะในปัจจุบันที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงยังไม่เปิดใช้ แทบจะทุกคนจะมีรถยนต์ส่วนตัว และจะอาศัยถนนหลักในการเดินรถ แต่การที่ใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะศูนย์ราชการที่มีเจ้าหน้าที่เยอะมาก รวมถึงคนที่มีที่พักอาศัยอยู่บนถนนแถบนี้ ดังนั้นช่วงเช้า-เย็นจะทำให้ปริมาณรถบนถนนหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดง แต่แยกแครายและแยกนนทบุรี1 สามารถแยกไปบนถนนหลักๆได้อีก เช่น ถนนพระราม5 สนามบินน้ำ และถนนราชพฤกษ์ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปฝั่งธนบุรี

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ภายในปี 2559 รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเปิดให้ใช้บริการกันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตัวโครงการจะเสร็จทันภายในปีนั้นพอดี อาจจะทำให้ปริมาณการใช้รถน้อยลง เนื่องจากมีสถานีศูนย์ราชการเป็นสถานี Interchamge ระหว่างสายสีม่วงจากบางซ่อน สีชมพูจากหลักสี่ และสีน้ำตาลจากม.เกษตร ที่จะพอแบ่งเบาไปได้ โครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ ห่างจากทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์เพียง 240 เมตร ทำให้การเดินทางโดยระบบขนส่งสะดวกขึ้น และทุกคนคงกำลังรอให้รถไฟฟ้าทุกสายเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเหมือนๆกัน

จากทางลงสถานี MRTศรีพรสวรรค์ ฝั่ง BigC ระยะถึงปากซอยรัตนาธิเบศร์ 11 คือ 140 เมตร และเข้าซอยไปอีกเพียง 100 เมตร ฝั่งขวามือก็ถึงโครงการ อีกทางหนึ่งที่ทางโครงการและลูกบ้านกำลังลุ้นกันอยู่ว่าจะเป็นทางเข้า-ออกทางใหม่หรือไม่ คือ ซอยเรวดี25 ตอนนี้ความกว้างของซอยตรงพื้นที่สีแดง ผ่านได้แค่คนเดินและรถจักรยานยนต์ ทางโครงการกำลังทำเรื่องขอขยายความกว้างของถนน ให้รถยนต์ผ่านได้ ทำให้จากซอยเรวดีสามารถตัดเข้าซอยรัตนาธิเบศร์11 ได้โดยใช้ซอยเรวดี25

การเข้าถึงโครงการที่สะดวกที่สุดคือใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ขาไปสะพานพระนั่งเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าซอยรัตนาธิเบศร์11 หรือถ้ามาจากถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าไปงามวงศ์วาน ต้องไปกลับรถที่สี่แยกแคราย ที่กลับรถด้านหน้าโรงแรมริชมอนต์ หรือแถวซอยรัตนาธิเบศร์20 ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากทางลงจะเลยทางเข้าซอยรัตนาธิเบศร์11 ถนนรัตนาธิเบศร์เป็นถนนที่มีสะพาน U-turn อยู่บนถนนหลักทุกๆ 2.5 กิโลเมตร

เรามาเริ่มการเดินทางกันที่ถนนงามวงศ์วาน ใกล้สี่แยกแคราย มุ่งหน้าสะพานพระนั่งเกล้า

ขึ้นสะพานข้ามสี่แยกแคราย

ลงสะพานข้ามสี่แยกแคราย จะเจอเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย เทสโก้โลตัส รัตนาธิเบศร์ และโรงเรียน SBAC อยู่ด้านขวามือ

เลยมาอีกนิดนึงจะมีสะพานลอย ด้านซ้ายจะเป็นบริษัทไทยคม ด้านขวาคืออุทยานมกุฏสราญรมย์ ทางเข้าศูนย์ราชการ และศาลหลักเมืองนนทบุรี เราจะตรงไปตามทางหลักเรื่อยๆค่ะ

MRT สถานีศูนย์ราชการ อยู่หน้าสถานีตำรวจอำเภอเมืองนนทบุรีด้านขวา และซอยศูนย์ราชการด้านซ้าย จากตรงนี้การจราจรจะเร่ิมแบ่ง โดยมีเกาะกลางเล็กๆกั้น สำหรับทางตรง และทางชิดซ้ายเพื่อเลี้ยว หรือแยกเข้าซอย

เราจะตรงไปนะค่ะ ส่วนขวามือจะเป็นสะพานกลับรถไปลงหน้าศูนย์ราชการ

ตรงนี้ค่อนข้างจะเป็นจุดอับนิดนึง เนื่องจากเป็นทางกลับรถของถนนรัตนาธิเบศร์ทั้งสองฝั่ง โดยมีสะพานลอยคนเดินขั้นกลาง ด้านซ้ายเป็นคอนโด Supalai Park และอาคารพาณิชย์ พื้นที่สองฝั่งบริเวณนี้กระชั้นเกินไปในการเดินรถเข้า-ออก ทำให้ศูนย์การค้าไม่เลือกที่จะเปิดในพื้นที่ตรงนี้ แต่เขยิบออกไปรัศมีประมาณ 500 เมตร เป็นอย่างต่ำ

จากนั้นจะเจอปั้มน้ำมันและสถานีเติมแก๊ซ RB Service ซ้ายมือ ด้านขวาเป็นทางลงสะพานกลับรถจากถนนรัตนาธิเบศร์อีกด้านหนึ่งที่จะเลยซอยรัตนาธิเบศร์11 ที่เป็นซอยโครงการไป เดี๋ยวเราจะค่อยๆชะลอและชิดซ้ายค่ะ

ถึงแล้วซอยรัตนาธิเบศร์11

สภาพซอยนี่รถวิ่งสวนกันได้แบบเบียดๆนะคะ อาจจะต้องใจเย็นชะลอรถนิดนึงเวลาขับ พื้นที่ตรงปากซอยรัตนาธิเบศร์ด้านขวายังปล่อยเป็นที่ว่างอยู่ ด้านซ้ายเป็นบ้านพักอาศัยที่ต่อเติมออกมา 

เลยไปอีกนิดก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแบบต่างๆเช่นกัน สภาพในซอยรัตนาธิเบศร์จะไม่ค่อยมีรถผ่านเข้าออกมากนัก ยกเว้นจะเป็นของผู้พักอาศัยแถวนี้ เพราะด้านหลังซอยยังไม่สามารถตัดผ่านไปถนนเรวดีได้ ทางเดินรถกว้างมากพอที่รถจะสวนกันได้ แต่ไม่มีทางเท้าทั้งสองข้าง

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ อย่างที่กล่าวไปว่าในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัย 1-2 ชั้น ด้านหน้าโครงการเป็นซอยรัตนาธิเบศร์11 รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนแบบเบียดๆ ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้าน 2 ชั้น เลือกห้องชั้น 4 ขึ้นไปกำลังดีค่ะ ด้านหลังเป็นซอยย่อยที่อยกออกมากจากซอยรัตนาธิเบศร์11 ช่วงต้นซอย แต่ทางโครงการไม่ได้เปิดให้เข้าสองทางนะคะ ดังนั้นด้านหลังโครงการที่ติดกับซอยย่อยถือว่าไม่ได้ประโยชน์ วิวระยะประชิดยังไม่มีอะไรบัง แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่นอน เพราะพื้นที่นี้อยู่ในระยะเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าMRT

ตัวอาคารสร้างเต็มชิ้นที่ดินรูปตัวL โดยไม่มีพื้นที่เปิดโล่งที่เป็นสวนหย่อมเลย แต่จะมีสวนหย่อมขนาดเล็กอยู่ด้านบนของดาดฟ้าแทน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะค่ะ

เข้าซอยมาประมาณ 140 เมตร ก็จะถึงบริเวณพื้นที่โครงการ อยู่ด้านขวามือ ขณะนี้กำลังปรับหน้าดิน และเคลียร์พื้นที่กันอยู่นะคะ

ความคืบหน้าของพื้นที่โครงการในตอนนี้อยู่ในส่วนของการปรับหน้าดิน และเคลียร์พื้นที่ ณ ปัจจุบันความสูงของที่ดินบริเวณโครงการอยู่ต่ำกว่าความสูงในซอยรัตนาธิเบศร์11 ประมาณ 10 เซนติเมตร แต่จากการสอบถาม คาดว่าจะถมที่ในโครงการจะสูงกว่าพื้นซอยรัตนาธิเบศร์11 ประมาณ 20 เซนติเมตร สิ่งปลูกสร้างรอบข้างในซอยจะเป็นที่อยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยว ไกลออกไปรัศมี 2-3 ซอย จะมีอพาตเมนต์และคอนโดขึ้นบ้างตามถนนรัตนาธิเบศร์ซอยต้นๆ

เราเดินเข้ามาอยู่ในพื้นที่โครงการ ตรงส่วนมุมของพื้นที่รูปตัว L จากมุมนี้หันหน้าออกไปเป็นซอยรัตนาธิเบศร์11

รูปนี้เป็นมุมหันหน้าออกไปเป็นซอยย่อยที่แยกจากรัตนาธิเบศร์11 ด้านทิศตะวันตก

เลยไปจากพื้นที่โครงการประมาณ 50 เมตร ด้านซ้ายมือ ก็จะเห็นสำนักงานขาย พื้นที่ Sale Office ตรงนี้เป็นพื้นที่เช่าจากพื้นที่ส่วนบุคคลอื่นนะคะ

สำนักงานขายโครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ เป็นอาคารหลังเดียว 1 ชั้น มีที่จอดรถในบริการอยู่ด้านหน้า

เส้นทางที่เราเข้าโครงการกันไปแล้วคือเส้นทางหมายเลข 1 จากงามวงศ์วานนะคะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูบริเวณรอบๆ คือ เริ่มเส้นทางหมายเลข 2 ออกจากซอยรัตนาธิเบศร์ 11 ขึ้นสะพานกลับรถแล้วกลับไปงามวงศ์วานกันนะคะ

รอยต่อของถนนรัตนาธิเบศร์และถนนงามวงศ์วานจะมีทางขึ้น-ลง ทางด่วนศรีรัช ทั้งมุ่งหน้าไปทางสามเสน และปทุมธานี สุดถนนงามวงศ์วานก็จะเป็นถนนกำแพงเพชร6 หรืออีกชื่อคือ Local Road โดยเป็นถนนที่ขนานกับถนนประชาชื่น โดยต่อไปจะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มสร้างอยู่เหนือถนน Local Road

เริ่มเดินทางไปดูบริเวณรอบๆโครงการกันต่อเลยค่ะ กำลังออกจากซอยรัตนาธิเบศร์11

เลี้ยวซ้ายออกมาจากซอยรัตนาธิเบศร์11 จะเจอสถานี MRT ศรีพรสวรรค์ ด้านซ้ายจะเป็นเต้นท์รถ ถัดไปเป็นอพาตเมนต์ และ BigC รัตนาธิเบศร์ จากโครงการถึงสถานีศรีพรสวรรค์ 240 เมตร

หน้าสถานีจะเจอ BigC รัตนาธิเบศร์ซึ่งมีทางขึ้น-ลงสถานี MRT ศรีพรสวรรค์ อยู่ด้านหน้าเลย

จากนั้นจะเจอ MRT สถานีแยกนนทบุรี1 อยู่ก่อนสี่แยกนนทบุรี1 นิดหน่อย

แยกซ้ายจะไปเข้าถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี และเลี้ยวซ้ายอีกทีจะเข้าซอยเรวดี ถ้าตรงไปจะไปพระราม5 หรือพิบูลสงครามได้

จากโครงการประมาณ 2.2 กิโลเมตร จะเจอสะพานกลับรถไปสี่แยกแคราย ถ้าตรงไปจะไปบางบัวทอง และถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งจะมีป้ายบอกชัดเจน

ลงสะพานกลับรถ ด้านซ้ายจะเป็น Grand Homemart รัตนาธิเบศร์ และเลยไปจะเป็นสถานี MRT แยกนนทบุรี1

ผ่านแยกนนทบุรี1 มาจะเจอศูนย์การค้า Robinson รัตนาธิเบศร์ อยู่ทางซ้ายมือ

เลยมาจะเจอสถานี MRT ศรีพรสวรรค์ ซ้ายมือเป็นโรงแรมริชมอนต์ จากตรงนี้ ถ้าชิดขวาจะเป็นเลนขึ้นทางกลับรถที่จะเลยซอยรัตนาธิเบศร์11 ไป เราจะอยู่เลนกลางเพื่อตรงไป

อย่างที่กล่าวไปว่าตรงนี้เป็นจุดอับที่เป็นทางกลับรถของทั้งสองฝั่งของถนนรัตนาธิเบศร์ และสะพานลอยคนเดินคั่นตรงกลาง สิ่งปลูกสร้างรอบด้าน เปลี่ยนจากศูนย์การค้าเป็นอาคารพาณิชย์หลังเก่าแทน

จากนั้นจะเจอสถานี MRT ศูนย์ราชการ ด้านซ้ายจะเป็นศูนย์ราชการ และเทศบาลนนทบุรี

มีเกาะกลางกั้นสำหรับรถที่จะเข้าศูนย์ราชการ เทศบาลนนทบุรี และอุทยานมกุฏสราญรมย์ต้องชิดซ้าย ส่วนเราที่อยู่ฝั่งขวาจะเป็นเส้นที่ต้องตรงไป

ซ้ายมือก่อนถึงสี่แยกแครายมีศูนย์การค้าเรียงกันตั้งแต่ Tesco Lotus รัตนาธิเบศร์ Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย เลยไปจะเป็น โรงเรียน SBAC

สี่แยกแครายมีทั้งสะพานข้ามแยกและสี่แยกไฟแดงปกติ แต่เราจะพามาดูทางแยกปกติของแคราย โดยเลี้ยวซ้ายไปจะเป็นถนนติวานนท์-ปทุมธานี เกาะเกร็ด วันชลประทาน โรงพยาบาลทรวงอก เลี้ยวขวาจะไปกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นจุดเร่ิมของสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เราจะตรงไปดูทางขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัชที่รอยต่อของถนนรัตนาธิเบศร์และถนนงามวงศ์วานกัน

ตรงมาทางขวามือจะเป็นองค์การโทรศัพท์สาขาย่อยงามวงศ์วาน จากป้ายทางด่วน เราสามารถแยกซ้ายขึ้นทางด่วนไปแจ้งวัฒนะ ม.ธรรมศาสตร์ และบางปะอิน  หรือขึ้นสะพานวนด้านซ้ายแล้วขึ้นทางด่วน จะไปได้ทั้งดินแดง พระราม9 บางนา และดาวคะนอง

ทางขึ้นทางด่วนไปฝั่งเหนือเลี้ยวซ้ายตรงนี้นะคะ

ทางขึ้นสะพานวนด้านซ้ายแล้วขึ้นทางด่วน จะไปได้ทั้งดินแดง พระราม 9 บางนา และดาวคะนอง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Big C รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 400 เมตร
• Central รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 3.0 กิโลเมตร
• โรงแรมริชมอนต์ ประมาณ 4.2 กิโลเมตร
• อุทยานมกุฏสราญรมย์ ประมาณ 5.2 กิโลเมตร
• ศูนย์ราชการนนทบุรี ประมาณ 5.5 กิโลเมตร
• Esplanade งามวงศ์วาน-แคราย และTesco Lotus รัตนาธิเบศร์ ประมาณ 6.0 กิโลเมตร
• โรงเรียน SBAC ประมาณ 6.2 กิโลเมตร
• จุดขึ้น-ลง ทางด่วนศรีรัช ประมาณ 7.0 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลศรีธัญญา ประมาณ 7.5 กิโลเมตร
• กระทรวงสาธารณสุขนนทบุรี ประมาณ 8.0 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลนนทเวช ประมาณ 8.3 กิโลเมตร
• The Mall งามวงศ์วาน ประมาณ 8.5 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประมาณ 12 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองภายนอกโครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ค่ะ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 134 ห้องค่ะ ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ใช้โทนสีน้ำตาลตกแต่ง

มีจุดขายที่ทำเลห่างจากทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าสถานีศรีพรสวรรค์ที่อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ประมาณ 240 เมตร ในภาพจำลองอาจจะผิดสเกล ดูใกล้สถานีไปนิดนึง

โครงการ A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ สามารถเข้าจากซอยรัตนาธิเบศร์11 ได้ทางเดียว จากรูปของโครงการไม่ตรงตามระยะจากปากซอยจริง เพราะตัวโครงการต้องเข้าจากปากซอยประมาณ 140 เมตร แม้จะพื้นที่รูปตัว L จะติดกับอีกซอยย่อยที่แยกมาจากซอยรัตนาธิเบศร์11 แต่ทางโครงการไม่ได้เปิดทางเข้า-ออกด้านนั้นด้วย ที่จอดรถทั้งหมดอยู่ที่ชั้น ground รวมซ้อนคันประมาณ 45คัน คิดเป็น 34% พื้นที่จอดรถแบบทางเข้าออกทางเดียวจะมีปัญหานิดหน่อยตรงที่กลับรถยาก โดยมี Lobby ขนาดเล็กลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และบันไดหนีไฟอยู่สองฝั่งของตึก รอบตัวตึกทำเป็นพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ใหญ่ตามมุมตึก และต้นไม้พุ่มรอบเขตพื้นที่

ห้องพักแต่ละชั้นจะมีประมาณ 3 แบบ แบบ A1 A2 จะเป็น 1 ห้องนอน และ B1 จะเป็น 2 ห้องนอน โดยมี Facility หลักๆอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนปีกตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ 4 x 13 เมตร และห้องน้ำส่วนกลาง 2 ห้อง ในส่วนของชั้น 2 จะมีแบบห้องพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาเฉพาะชั้นนี้คือ A3 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร

ห้องพักในชั้น 3 – 6 มี 3 แบบปกติ ทั้ง 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ทั้ง 4 ชั้นเป็นชั้นที่จำนวนห้องเยอะที่สุด คือ 20 ห้อง ห้องฝั่งใต้จะเดินไกลจากลิฟท์นิดหน่อย

ชั้น 7 ต่างจากชั้นอื่นๆตรงที่มีตำแหน่งบันไดปีกตะวันออกเพิ่มมาอีกจุดนึง ทำให้ห้องแบบ A1 ถูกลดจำนวนลงไป 1 ยูนิต 

ผังชั้น8 เหมือนกับชั้น7 ต่างกันตรงที่ห้องตำแหน่ง 19 หายไป 1 ห้อง

ชั้นดาดฟ้ามีสวนหย่อม สามารถขึ้นได้จากบันไดกลางเท่านั้น

ภาพจำลองภายบรรยากาศภายใน Lobby ที่อยู่ชั้น ground มีเก้าอี้นั่งรอ ผนังอีกด้านเป็นกล่องจดหมายของลูกบ้าน

Facilities ส่วนกลางเกือบทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 2 เดินออกจากลิฟท์ทออกมาจะเจอห้อง Fitness ก่อนอยู่ทางด้านซ้ายมือ โดยด้านนึงเป็นกระจก มีตัวเครื่องออกกำลังกายหันหน้าออกไปยังบริเวณสระว่ายน้ำ

ถัดจาก fitness ออกมาเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาด 4 x 13 เมตร เป็นสระว่ายน้ำแบบ outdoor มีเก้าอี้จัดวางอยู่ริมสระทั้งแบบนอนเอนและแบบนั่งไว้พักผ่อนได้ มีราวกันตกกรอบบริเวณ และต้นไม้ปลูกบังสายตากั้นกับเพื่อนบ้านด้านใต้ โดยมุมเพื่อนบ้านด้านใต้นี้จะเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น

ส่วนของสำนักงานขายอยู่ในซอยรัตนาธิเบศร์11 เลยพื้นที่โครงการมาอีกประมาณ 50 เมตร อยู่ด้านซ้ายมือนะคะ

ด้านในมีเคาท์เตอร์เจ้าหน้าที่ พื้นที่นั่งรับรอง โดยมีข้อมูลโครงการ, video presentation และแปลนห้องติดอยู่รอบด้าน

อีกมุมของสำนักงานขายด้านใน เดินเข้าไปทางด้านขวาจะเป็นห้องตัวอย่างค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4 x 13 เมตร บนชั้น 2
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง บนชั้น 2
• มีส่วนหย่อมอยู่บนชั้นดาดฟ้า และพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อกชั้น อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 67 : 1
• ที่จอดรถ รวมซ้อนคันประมาณ 45 คัน คิดเป็น 34% โดย access ของที่จอดรถจะเป็นแบบติดเครื่องรับสัญญาณอัตโนมัติในรถเหมือน Easy Pass ทางด่วน
• ระบบ CCTV เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

Product Walkthrough

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการมีแบบเดียวคือ 1 ห้องนอนนะคะ พื้นที่ห้องขนาด 30 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอห้องน้ำก่อน เดินเข้าไปอีกนิดจะเป็นส่วน Living ที่ด้านนึงจะเป็นโซฟาและโต๊ะเข้าชุดกัน ฝั่งตรงข้ามของห้องจะเป็นชั้นวางทีวี ตรงกลางจะเป็นทางเดินเข้าไปในส่วนของห้องครัวและห้องนอนที่กั้นด้วยบานเลื่อนกระจก ที่ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านจากหน้าต่างห้องนอนและระเบียงเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้มากขึ้น ส่วนครัวจะแยกออกไปมีประตูบานเลื่อนกั้นกระจกอีกเช่นกันเป็นสัดส่วนติดกับระเบียงเพื่อความสะดวกในการใช้พื้นที่ทำอาหารและลดปัญหาเรื่องกลิ่น การจัดผังแบบนี้มีข้อเสียคือไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนโดยตรง โต๊ะกินข้าวอาจใช้งานจริงลำบาก ส่วนข้อดีคือได้ระยะดูทีวีที่ไกลหน่อย

ทางเข้าห้องตัวอย่างค่ะ ฝ้าสูง 2.4 เมตร ประตูสูง 2 เมตร

พื้นในห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ที่น้ำตาลอ่อนหนา 12 มม. กั้นด้วยธรณีสำเร็จรูป

ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนด้านขวามุมแรกที่เจอเป็นตู้วางรองเท้า, โต๊ะทานข้าวและเก้าอี้เข้าชุด 2 ตัว เขยิบถัดไปเป็นชั้นวางทีวีที่เป็นตู้เก็บของได้ด้วย กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไปถึงส่วนครัว และระเบียง จะสังเกตได้ว่าการดีไซน์ให้แสงธรรมชาติจากภายนอกสามารถผ่านเข้าสู้ตัวห้องด้านในได้ทั้งผ่านห้องครัวและห้องนอน ทำให้ส่วน Living ดูสว่าง โปร่ง และไม่อับ การวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ตรงกับผังห้องที่โครงการให้มานิดหน่อยที่เลื่อนโต๊ะทานข้าวมาอยู่ใกล้ทางเข้า แล้วเลื่อนส่วนตู้วางทีวีให้ตรงกับโซฟามากขึ้น

ตู้เก็บรองเท้าอยู่ด้านขวามือของทางเข้า

โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้เข้าชุด 2 ตัว แนะนำให้ซื้อแบบปรับขยายได้เพื่อเวลามีแขกไปใครมาจะได้นั่งแบบ 4 คนได้ หรือวันไหนมีกับข้าวเยอะจะได้มีที่วาง แต่ก็อาจจะขวางทางเข้านิดหน่อย

มาดูกันที่ห้องน้ำกันบ้าง พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีน้ำตาลอ่อนลาย มีธรณีปูนก่อกั้นสูง 5 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.50 x 2.20 เมตร สุขภัณท์จาก American Standard พื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำไล่จากทางเข้าเข้าไป เป็นอ่างล้างหน้า ชักโครก และพื้นที่อาบน้ำ

ส่วนซ้ายสุดคืออ่างล้างหน้า ตำแหน่งตัวอ่างไม่ได้ติดชิดผนังด้านซ้าย เพราะอาจจะทำให้พื้นที่อาจจะแคบไป ไม่ถนัดเวลาใช้งาน มีปูนก่อยื่นออกมาจากผนัง 20 เซนติเมตร เป็นพื้นที่ไว้วางของใช้ต่างๆ

ถัดมาชักโครกแบบสองชิ้น โดยมีตำแหน่งท่อระบายน้ำอยู่ตรงมุม

พื้นที่อาบน้ำกว้าง 80 เซนติเมตร มีฉากกั้นพื้นที่เปียก-แห้งแถมมาให้ วางอยู่บนธรณีปูนที่ก่อพื้นปูนกั้น 5 เซนติเมตร บวกกับตัวกรอบประตูเลื่อนกั้นอีก 5 เซนติเมตร

มือจับฉากเลื่อนกั้น จับถนัดใช้ได้ มียางกันน้ำติดอยู่ขอบประตูเลื่อนด้วย

ฉากกั้นกรอบอลูมิเนียมสูง 2.00 เมตร ไม่ถึงฝ้าเพดาน

ฝักบัวแบบก๊อกเดียว โปรโมชั่นก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ เอาใจคนไทยส่วนใหญ่ที่แม้ประเทศไทยอากาศจะร้อนแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าต้องมีคนติดอาบน้ำอุ่นแน่นอน แต่ถ้าติดเครื่องทำน้ำร้อน จะยากตรงที่ต้องเจาะผนังเพื่อเพิ่มเพื่อวางท่อน้ำร้อนอีก ส่วนที่วางข้าวของเครื่องใช้ คงต้องติดเพิ่ม

ซ้ายมือหลังห้องน้ำเป็นโซฟาและโต๊ะเตี้ยเข้าชุด ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก การขายห้องช่วงนี้ตลอดจนถึงการปิดการขายจะมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์จำนวน 12 ชิ้น อาทิ โต๊ะทานข้าว โต๊ะหน้าโซฟา ตู้เสื้อผ้า และโครงเคาท์เตอร์ครัว สั่งทำจากโรงงานเข้าชุดกันเป็นลายไม้สีน้ำตาลอ่อนตัดกับขาวดูเปนแนว Minimalist แบบญี่ปุ่น พร้อมแอร์ 1 เครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆอีก 4 ชิ้น พร้อม Iphone6 ส่วนของตกแต่งอื่นๆและ Wallpaper ไม่อยู่ในโปรโมชั่นการขายนะคะ

ส่วน Living ขนาด 2.50 x 2.20 เมตร ของที่จะแถมให้มาคือตัวโซฟา, โต๊ะรับแขกตรงกลาง และโต๊ะข้างโซฟาด้านซ้ายด้วย เรียกว่าให้มาครบและเข้าชุดกันเลยค่ะ

โต๊ะรับแขกตรงกลางมีลิ้นชัก 2 ด้านไว้เก็บของจุกจิก

โซฟากว้างขนาด 3 คนนั่งได้ มีไอเดียว่าถ้าส่วนรับแขกมีพื้นที่ขนาดประมาณนี้อาจจะปรับใส่เป็นโซฟาชุดที่ใหญ่กว่า หรือโซฟารูปตัว L หรือจะปรับเป็นโซฟาที่เปลี่ยนเป็นเตียงได้ครั้งคราวชิดผนังกั้นห้องน้ำที่ยาวถึง 2.20 เมตร เวลากางเป็นเตียงจะไม่เกะกะทางเดินเลย

ปลั๊กไฟสามตาข้างโซฟา

ชั้นวางทีวีและเก็บของพร้อมทีวี Toshiba ขนาด 32 นิ้ว

มองจากมุมนั่งเล่นจะสามารถมองเห็นน้องนอนและห้องครัวได้ผ่านประตูบานเลื่อนกระจกที่มีความสูง 2.00 เมตร จากฝ้าทั้งหมดที่สูง 2.40 เมตร เดี๋ยวจะพาไปดูห้องครัวกันต่อนะคะ

พื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องสีเทาอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และทนความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนต ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กรอบอลูมิเนียม รางเลื่อนบนและล่าง โดยรางเลื่อนด้านล่างจะก่อปูนขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร แล้ววางกรอบประตูลงบนปูนที่ก่อ ดังนั้นอาจจะไม่สะดวกนิดหน่อยเวลาเดินผ่าน

ที่จับประตูบานเลื่อนและที่ล็อก รวมไปจนถึงกรอบประตูอลูมิเนียม

สวิทช์ไฟ

เคาท์เตอร์ครัวมีที่เตรียมอาหารด้านซ้ายและอ่างล้างมือด้านขวา ขนาด 1.00 x 0.60 เมตร พื้นที่อาจจะไม่กว้างมาก ไม่ค่อยเหมาะกับทำอาหารอย่างจริงจัง ไม่มีการฝั่งเตาไฟฟ้า Hob and Hood คงต้องซื้อแบบพกพาที่สามารถเก็บในตู้หรือลิ้นชักได้ ที่วาง Microwave เฉพาะไม่มีนะคะ หรือจะวางไว้ตรงที่เตรียมอาหารที่วางอยู่ก็จะเต็มพื้นที่เกินไป ทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับทำอย่างอื่น

พื้นที่ด้านบนสามารถติดตู้เก็บเครื่องครัว เก็บจาน ต่อเติมเพิ่มเข้าไปได้อีก เฉพาะส่วนเคาท์เตอร์การติดกระเบื้องตกแต่งลงบนผนังปูนเป็นไอเดียที่ดี ทำให้ทำความสะอาดง่ายขึ้นและใช้งานได้จริง

Sink จาก HAFELE ระยะระหว่างเคาท์เตอร์และกระเบื้องผนังตกแต่งติดกันซึมตรงรอยต่อ ทำให้น้ำไม่ไหลไปหลังเคาท์เตอร์

การแบ่งช่องเปิดตู้จะมีลิ้นชักมีถาดใส่ของมาให้ ด้านล่างจะแบ่งเป็นชั้นใหญ่ๆ ระยะที่เหลือจากเคาท์เตอร์ไปจนสุดผนังอีกด้านหนึ่งคือ 80 เซนติเมตร

ตู้เหนือเคาท์เตอร์ก้แบบออกเป็นชั้นใหญ่ๆเช่นกัน

เนื่องจากการวางเคาท์เตอร์ครัวและประตูกระจกบานเลื่อนนั้นไม่สามารถวางเข้ากันได้อย่างสนิทเหมือนการชิดเคาท์เตอร์ครัวเข้ากับกำแพงปูนก่อเรียบปกติ ฉะนั้นการเขยิบเคาท์เตอร์ครัวออกมาประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดได้ดีกว่าการเว้นร่องเพียงเล็กน้อย

ส่วนอีกด้านนึงเป็นพื้นที่รองรับสำหรับการวางตู้เย็นกว้าง 80 เซนติเมตร ซึ่งตู้เย็นอยู่ในโปรโมชั่นการขาย แต่ยังไม่มีโชว์ในห้องตัวอย่างนะคะ

ถัดจากส่วนครัวออกไปจะเป็นส่วนระเบียงที่มีบานเลื่อนแบบกระจกอีกเช่นกัน มีราวกันตกและที่วาง Compressor แอร์ 2 เครื่อง

ระเบียงขนาด 1.00 x 1.20 เมตร วัสดุที่ปูเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร เช่นเดียวกับห้องครัวใต้คอมเพรสเซอร์แอร์กว้างพอจะวางเครื่องซักผ้าได้ แต่จากรูป ทางโครงการยังไม่ได้ระบุตำแหน่งท่อน้ำทิ้งบริเวณระเบียง

compressor แอร์พร้อมตะแกรงเปลี่ยนทิศทางลม ที่เห็นมี 1 ตัวในรูปคือขนาด 12,000 BTU เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในโปรโมชั่น

ราวกันตกสูง 1.00 เมตร

มีปลั๊กไฟสามตาติดผนังรอสำหรับการวางเครื่องซักผ้าใต้คอมเพรสเซอร์แอร์

ถัดจากห้องครัวก็เป็นห้องนอน ประตุเป็นบานเลื่อนกระจกใสแบบสองตอนสูง 2.00 เมตร อีกเช่นกัน

รางด้านล่างไม่ได้ก่อปูนยกเป็นธรณี 5 เซนติเมตร เหมือนส่วนห้องครัวและระเบียง แต่ก็ไม่ได้ฝังกรอบประตูในพื้นเช่นกัน แต่การเดินถือว่ายังไม่สะดุดสักเท่าไหร่ 

ที่จับประตูบานเลื่อน และตัวล็อกที่อยู่ด้านในห้องนอน

มุมภายในห้องนอนขนาด 2.50 x 3.25 เมตร เมื่อมองจากด้านนอก มีตู้เสื้อผ้า เตียง ตู้ข้างเตียง และชุดโต๊ะเครื่องแป้ง ภายในห้องนอนชุดเฟอร์นิเจอร์จะจัดมาขนาดค่อนข้างพอดี เช่น มีตู้เสื้อผ้าสั่งทำความกว้างพอดีกับการเว้นระยะของกรอบประตูและผนังด้านซ้ายมือ ซึ่งความยาวก็ลงล็อกพอดีกับระยะที่วางเตียง การที่โครงการแถมชุด Built-in มาให้มีข้อดีคือการจัดวางทำได้ลงตัวและเรียบร้อยดี แต่มีข้อเสียที่ยากในการเข้าถึงเวลาทำความสะอาด เนื่องจากแทบจะไม่สามารถขยับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนหลบหรือพับเพื่อทำความสะอาดได้เลย

ชุดเครื่องแป้ง โต๊ะพร้อมลิ้นชักและเก้าอี้ พร้อมกระจกโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

เตียงนอนขนาด 5 ฟุต ไม่รวมที่นอน จัดชิดเข้ามุมห้อง

โต๊ะข้างเตียง

เนื่องจากเตียงจัดชิดมุมห้องเลยทำให้ฝั่งหน้าต่างไม่มีพื้นที่ข้างเตียงนะคะ คนนอนฝั่งนี้ลำบากนิดนึง

พื้นที่ปลายเตียงเหลือ 40 เซนติเมตร เพียงพอแค่การขึ้นลงเตียง

ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กำลังดี แบ่งช่องการใช้งานชัดเจนและหลากหลาย

ตู้เสื้อผ้าด้านบน

ตู้เสื้อผ้าด้านล่าง

ไฟในห้องนอนมีสองดวงเป็บแบบหลอดตะเกียบ ง่ายต่อการเปลื่อน

หลอดไฟแบบตะเกียบ

ห้องขนาด 29 ตารางเมตร 1 ห้องนอน จะต่างกับแบบ 30 ตารางเมตร ตรงที่รูปร่างห้องจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสมากกว่า ตำแหน่งการจัดวางพื้นที่ห้องต่างๆคล้ายๆเดิม  ห้องน้ำอยู่ตำแหน่งเดิมแต่เล็กลง สังเกตได้จากการวางอ่างล้างหน้าตั้งฉากกับชักโครก และทางเข้าห้องน้ำไม่สามารถเข้าได้จากส่วนนั่งเล่น แต่ทางเข้าเปลี่ยนเป็นต้องผ่านจากส่วนครัว และยังคงไม่สามารถเข้าห้องน้ำจากห้องนอนได้ ห้องครัวไม่ได้กั้นเป็นสัดส่วนและไม่ได้ปูพื้นกระเบื้องเหมือนห้อง 30 ตารางเมตร โดยมีโต๊ะทานเข้าจัดอยู่ตรงกลางห้องเข้ามุมกับผนังห้องนอน สิ่งที่เปลี่ยนไปคือประตูบานเลื่อนห้องนอนเปลี่ยนจาก 2 ตอน เป็น 3 ตอน และย้ายตู้เสื้อผ้าจากข้างเตียงไปอยู่ปลายเตียงทำให้พื้นที่ข้างเตียงมีขนาดกว้างขึ้น

ห้องขนาด 41 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ส่วน Living จัดได้กว้างเหมือนห้องทุกขนาดที่ผ่านๆมา แต่โต๊ะทานอาหารและเก้าอี้ทานอาหารควรจะเป็นแบบ 4 ที่นั่ง ขนาดห้องนอนทั้งสองห้องดูใกล้เคียงกัน ต่างเพียงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ห้องครัวกั้นเป็นสัดส่วน ปูพื้นกระเบื้อง มีประตูบานเลื่อนเปิดถึงระเบียง รวมถึงห้องนอนขวามือก็มีหน้างต่างถึงตัวระเบียงได้เช่นกัน แต่ดีไซน์ที่แปลกกว่านั้นคือ โครงการนี้ไม่ใช่โครงการ High Rise แต่ให้พื้นที่ระเบียงมาใหญ่มาก ทั้งๆที่ไม่น่าจะมีจุดประสงค์เพื่อชมวิว ห้องน้ำมีห้องเดียว อาจจะไม่พอกับการใช้งาน สามารถเข้าได้จากทั้งส่วนนั่งเล่น และห้องนอนห้องซ้ายมือ จากรูปสังเกตได้ว่า ปัญหาคือประตูทั้งสองเปิดชนกัน แต่ข้อดีคือเข้าจากห้องนอนได้โดยตรงไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น ถ้าไม่คิดอะไรมากก็ปิดประตูเข้าด้านห้องนอนเพื่อที่จะเข้าออกทางห้องนั่งเล่นทางเดียวก็ได้ หรือถ้าชอบจะเข้าออกได้สองด้านแต่อาจจะมีจังหวะที่ชนกันนิดหน่อยได้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 December 2014

• 1 Bedroom 29 ตร.ม. ชั้น2 ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท หรือประมาณ 34,450 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom 30 ตร.ม. ชั้น2 ราคาเริ่มต้น 999,000 บาท หรือประมาณ 33,300 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom 41 ตร.ม. Sold out

รายการโปรโมชั่นจนกว่าห้องจะหมด

Fully Furnished สัญญาแนบท้ายเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 12 รายการ

• โต๊ะข้างเตียง
• เตียง 5 ฟุต (ไม่รวมที่นอน)
• โต๊ะกลางรับแขก
• โซฟา
• ตู้เสื้อผ้า
• ตู้เก็บรองเท้า
• กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง
• โต๊ะเครื่องแป้ง
• เก้าอี้นั่ง
• ชั้นวางทีวี
• โต๊ะทานอาหาร
• เก้าอี้ทานอาหาร 2 ตัว

เครื่องใช้ไฟฟ้า จำนวน 5 ชิ้น

• เครื่องปรับอากาศ ขนาด 12,000 BTU
• TV ขนาด 32 นิ้ว
• ตู้เย็น
• ไมโครเวฟ
• เครื่องทำน้ำอุ่น

และ Iphone6 ตลอดการขาย

• เพดานสูง 2.4 เมตร
• Kitchen & Sink
• จอง 15,000 บาท
• ทำสัญญา 25,000 บาท
• ดาวน์ 178,000 บาท ผ่อนดาวน์ 13 งวด
• ค่าสมทบกองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร ชำระในวันโอนเงิน
• ค่าส่วนกลางนิติบุคคลอาคารชุด 39 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ชำระล่วงหน้า 12 เดือน ในวันโอนเงิน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ

เจาะลึกรวบยอด

A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีศรีพรสวรรค์ ซึ่งสถานีถัดไปเป็นสถานีศูนย์ราชการที่ในอนาคตจะเป็นสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีน้ำตาล เป็นการเชื่อม 2 ศูนย์ราชการ นนทบุรีและแจ้งวัฒนะ ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินเท้าจะมีที่ BigC ตรงถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ที่เดียว เพราะตั้งแต่ในซอยเข้าไปไม่มีร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อ แต่ในอนาคตน่าจะมีมาเปิดใกล้ๆบ้าง มีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัยเกือบทั้งหมด ส่วนห้างสรรพสินค้าในระยะ 3 กิโลเมตร ก็มีทั้ง Big C, เซ็นทรัล, เอสพลานาด, โลตัส ในอนาคตน่าจะมีเพิ่มอีกหลายแห่ง ทำให้มีความคึกคักและปริมาณรถขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะระยะประมาณ 2 กิโลเมตรภาพรวมทำเลถือว่าดีพอสวมควร

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนเรวดีที่เข้าจากถนนหลักติวานนท์ได้ แต่ปัจจุบันทางลัดซอยเรวดี 25 ยังเปิดให้รถยนต์ผ่านไม่ได้ ได้แค่คนเดินและมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่อีกไม่นานถ้าชุมชนทำเรื่องผ่านในการขยายถนน เราอาจจะเห็นซอยรัตนาธิเบศร์11 คึกคักขึ้น และกลายเป็นทางผ่านสำคัญๆ ส่วนจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชจะห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร หรือจะวิ่งตรงไปใช้เส้นวิภาวดีก็ได้เส้นนั้นก็มีทางด่วนอีก ส่วนถ้าออกนอกเมืองไปอีกก็ขึ้นเหนือไปปทุมธานีโดยใช้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนติวานนท์  ส่วนถ้าจะไปบางใหญ่ บางบัวทองก็ใช้เส้นรัตนาธิเบศร์ได้เลย ถึงจะไปได้หลายเส้นทางแต่ก็มีปัญหาคือการจราจรหนาแน่นมากยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยเฉพาะแยกแคราย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ จากโครงการถึงสถานีศรีพรสวรรค์อยู่ในระยะเดินได้ 240 เมตร แต่ในซอยไม่มีทางเท้า ทำให้ไม่ค่อยปลอดภัย ยังดีที่ในซอยไม่ได้มีปริมาณรถเข้า-ออกมากนัก หากอยากใช้บริการพี่วินต้องไปที่ BigC รัตนาธิเบศร์เลย ส่วนป้ายรถเมล์จะอยู่หน้าสถานีตำรวจ และหน้า BigC อีกเช่นกัน ถ้าจะขึ้นรถเมล์ไปงามวงศ์วานก็ขึ้นสะพานลอย หรือไม่ก็ขึ้นทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าไปลงอีกด้านหนึ่ง ตรงนั้นจะมีแท๊กซี่, รถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งไปบางใหญ่ บางบัวทอง ปากเกร็ด แจ้งวัฒนะ เมืองทอง ท่าน้ำนนท์ งามวงศ์วาน ม.เกษตร

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว ถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับระดับราคาต่ำล้าน ที่มีเฟอร์นิเจอร์ 12 รายการ 5 เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ถ้าไม่มีโปรโมชั่นก็อยู่ในระดับปกติ พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อนหนา 12 มิลลิเมตร พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้อง 30 x 30 เซนติเมตร ฝ้าสูง 2.4 เมตร ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ไม่มี wallpaper อ่างล้างจานหลุมเดียวของ Hafele ได้เคาน์เตอร์ขนาดเล็กไปหน่อย อุปกรณ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard

การออกแบบตัวอาคารรูปตัว L เป็นไปตามรูปร่างพื้นที่แปลง สร้างอาคารเต็มพื้นที่ วิวห้องแต่ละห้องจัดให้ไม่บังวิวกันเอง หน้าตาอาคารเป็นแบบปกติ ไม่ได้หวือหวา ใช้โทนสีน้ำตาลตกแต่งอาคารภายนอก แปลนห้องขนาด 30 ตารางเมตรเป็นแบบมาตรฐาน กั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน ห้องตัวอย่างออกแบบมาให้มีพื้นที่พอกับการอยู่อาศัยจริง เพราะถ้าห้องขนาดเล็กกว่า 30 ตารางเมตร พื้นที่ในส่วนต่างๆจะเริ่มใช้งานยากขึ้น อย่างเช่นพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวจะค่อนข้างเล็ก ส่วน Living ทุกแบบจัดให้มีพื้นที่กว้าง แต่ห้องนอนเมื่อกั้นฉากบานเลื่อนกระจกแล้วจะรู้สึกแคบหน่อยในการใช้งานจริง

เพิ่มเติมในเรื่องของพื้นห้องครัวในบางแบบจะไม่มีปูกระเบื้องมาให้ และจุดแปลกอีกจุดคือ ออกแบบพื้นที่ระเบียงให้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ไม่มีพื้นที่ข้างเตียงมากนักในแบบ 2 ห้องนอน สำหรับห้องนอนในแบบหน้าแคบจะเหลือพื้นที่ไม่ต่างกัน ยกเว้นแบบ 29 ตร.ม.ที่ได้รูปร่างห้องเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสจะได้พื้นที่ปลายเตียงเยอะหน่อย การที่โครงการทำเฟอร์นิเจอร์ Built-in ให้มีข้อดีคือจะใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ถ้าเฟอร์นิเจอร์มาลงเอง บางทีอาจมีระยะที่เป็นเศษเหลือนิดหน่อย แบบห้องส่วนใหญ่ออกแบบมาให้ระเบียงอยู่ติดกับห้องครัว เน้นฟังก์ชั่นให้ถ่ายเทอากาศไล่ความชื้นได้ดี การแบ่งห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยบานเลื่อนกระจกจะช่วยให้ช่องแสงส่องถึงห้องนั่งเล่นแต่จะไม่ได้วิว

สาธารณูปโภคมีตามมาตรฐานของคอนโด Low Rise ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ที่ชั้น 2 มี Lobby และตู้จดหมายที่ชั้น1 ฟิตเนตและสระว่ายน้ำระบบเกลือชั้น2 สวนหย่อมจะอยู่บนดาดฟ้า มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ถือว่าให้มาครบตามสมัยนิยมแต่พื้นที่แต่ละอย่างค่อนข้างเล็ก

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 33,000 – 40,000 บาทต่อตารางเมตร, 18 December 2014

• ทำเล 8.25/10 – เปรียบเทียบกับราคาของโครงการในละแวกเดียวกัน ถือว่าใกล้สถานีรถไฟฟ้าและถนนใหญ่มากกว่าที่อื่นๆ แต่ในซอยไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ และยังเข้าจากซอยเรวดีไม่ได้
• เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – สะดวก ใกล้ถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ใกล้สี่แยกแคราย แต่รถติดและที่จอดรถน้อยเกินไป
• ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ทางขึ้น-ลงจากสถานีรถไฟฟ้าศรีพรสวรรค์ 240 เมตร สถานีถัดไปเป็นสถานีศูนย์ราชการที่อนาคตจะเป็นสถานี interchange 3สาย
• วัสดุ 8.5/10 – เฟอร์นิเจอร์เข้าชุด 12 รายการ เครื่องใช้ไฟฟ้า 5 รายการ กินขาดนะคะ
• แบบ 7.5/10 – ห้องที่ขนาดเล็กที่สุด 29 – 30 ตารางเมตร สำหรับคอนโดยุคใหม่ถือว่าไม่เล็กสำหรับการอยู่อาศัยนะคะ
• สาธารณูปโภค 7.25/10 – มีตามมาตรฐานคอนโด Low Rise แต่พื้นที่เล็กไปหน่อย

• SUPER ECONOMY
• 8.15 / 10.00 

BOTTOM LINE

 A Plus 2 @รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ทำงานแถบรัตนาธิเบศร์-ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ มีใช้รถส่วนตัวบ้าง เน้นไปทางระบบสาธารณะมากกว่า อยากได้คอนโดอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบบเดินได้ไม่ลำบาก ยอมอยู่สถานีที่ไกลจากตัวเมืองแต่ได้ราคาที่หยิบจับง่ายกว่า มีงบประมาณประมาณ 900,000 – 1,400,000 บาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 6,000-10,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวต่อไป