รีวิวโครงการ
พาชมตึก 185 Rajadamri Condominium คอนโด High Rise ระดับ Super Luxury จาก Raimon Land [รีวิวฉบับที่ 1050]
7 เมษายน 2016
สวัสดีครับ รีวิวเจาะลึก 185 ราชดำริ ตอนนี้เกิดจากทางทีมงาน ThinkOfLiving ทั้งสองคนมีโอกาสได้แวะไปเยี่ยมชมโครงการด้วยกันครับ เลยถือโอกาสนี้ พาทัวร์ซะเลยนะครับ โครงการนี้
เป็นโครงการสุดหรู Super Luxury ผลงานระดับ Masterpiece ของ Raimon Land มูลค่าโครงการนี้คือ 10,000 ล้านบาท ห้อง Start ที่ราคา 14 ล้าน – 332 ล้าน ราคานี้ สูงมาก แต่ไม่แพงเลย ถ้ามีเงินนะ 🙂 เพราะทำเลอยู่ในระดับ Super Super Prime บนย่าน CBD แปลว่าทำเลดีที่สุดของพื้นที่ที่ดีที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในประเทศไทย ที่สำคัญขายแบบ Free Hold ในขณะที่โครงการ Super Luxury อื่นๆ จะขายแบบ Lease Hold ครับ เช่นโครงการ St.Regis ย่านเดียวกัน ขายแบบ Lease Hold 30 ปี โครงการ มหานคร ย่านสาทร ขายแบบ Lease Hold 99 ปี (30+30+30+9) หรือระดับรองลงมาในย่านนั้น (แต่ยัง Luxury อยู่นะตัวเธอว์) เช่น Hansar กับ Renaissance ก็ยังเป็น Lease Hold
โครงการที่เป็น Free Hold แปลว่าซื้อแล้วเราได้เป็นเจ้าของส่งต่อให้ลูกหลานไปได้ตลอดไป เหมือนทั่วๆไปนะครับ แต่ถ้าเป็น Lease Hold จะได้เป็นเจ้าของตามระยะเวลาที่กำหนด
เช่น Lease Hold 30 ปี พอครบ 30 ปี ก็ต้องคืนสิทธิ์ให้เจ้าของตัวจริงเค้า ประเทศไทยเราไม่คุ้นใช่มะ แต่สิงค์โปร์ ฮ่องกง หรือแม้แต่มาเลย์ เค้าก็ Lease Hold กัน 99 ปี พอครบ สิทธิ์ในอสังหานั้นต้องคืนให้รัฐครับ ไม่ได้เป็นเจ้าของตลอดชั่วนิจนิรันด์แบบบ้านเรา ซึ่งตรงนี้คือข้อแตกต่างที่สำคัญที่ต้องพิจารณาเปรียบเทียบให้ดี
รู้สึกจะเกริ่นละเอียดไปละ ไปดูโครงการกันดีกว่าครับ 🙂
Fact (as 24 Nov 2011)
- 185 Rajadamri (185 ราชดำริ)
- โครงการ คอนโดมิเนียม 35 ชั้น ขายแบบ Free Hold บนถนน ราชดำริ
- จำนวน 268 units พร้อมที่จอดรถ 360 คัน
- เนื้อที่โครงการ 4-1-62.9 ไร่
- Developer : Raimon Land Plc. (ไรมอนแลนด์)
- Building Construction : Bouygues Thai (บวิค ไทย)
- Project Architect : Design Management Insight
- Interior Designer : DWP Cityspace
- Design Consultant : HB Design
- Landscape Consultant : Colin K. Okashimo and Associates
- Engineering Consultant : Meinhardt (Thailand)
- เริ่มก่อสร้าง Q3 ปี 2010
- กำหนดเสร็จ Q4 ปี 2013
- ห้อง 1-2-3-4 Bedroom, Duplex & Penthouse
- ขนาด 70 – 874 ตารางเมตร
- ราคา 14.6 – 332 ล้าน (ประมาณ 184,000 – 380,000 บาท ต่อ ตารางเมตร)
เจาะลึกทำเลที่ตั้ง
185 ราชดำริ ตั้งอยู่บนสุดยอดทำเลของประเทศไทย คือบนถนนราชดำริ ด้านหน้าติดสนามม้าฝรั่ง หรือ RBSC (Royal Bangkok Sport Club) ติด BTS สถานีราชดำริ ด้านข้างติดสวนลุมพินี ดั้งเดิมที่ดินตรงนี้คือสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ที่ขายต่อให้ Raimon Land ในราคา(ที่เปิดเผย) ประมาณ 1,300 บาท (รวมค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ) ที่บอกว่าสุดยอดทำเล เพราะเป็น Center ของ CBD ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย มีสวนขนาบข้าง ที่ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นตึกสูงได้ สงบ แต่สะดวก เดินไปราชประสงค์ได้สบายๆ สาธารณูปโภครอบข้างไม่ต้องพูดถึง สุดๆแล้ว ครบ และดีที่สุด Prime ที่สุด ทำเลแบบนี้ ไม่ใช่หาง่ายๆ แม้แต่สิงค์โปร์ หรือ ฮ่องกง ก็ยังหาแบบนี้ในราคานี้ไม่ได้ เหมาะสมอย่างที่สุดในการพัฒนาเป็น Super Luxury Condo
และถ้าพูดถึงทำเลอย่างเดียว และเป็น Free Hold ด้วยแล้ว 185 ราชดำริ ไม่เป็นสองรองใคร ในประเทศไทย ในตอนนี้ นึกไม่ออกว่าต่อจากนี้ไปอีกหลายๆปี โครงการทำเลแบบนี้ และเป็น Free Hold เราจะต้องจ่ายเท่าไรถึงจะได้เป็นเจ้าของซัก ตารางเมตรนึง 🙂
จุดสลบของทำเล ที่ซ่อนอยู่ในโครงการ 185 นี้ มิใช่ข้อบกพร่องด้านที่ตั้ง แต่ซ่อนอยู่ในทำเลห้องในตัวโครงการเอง เพราะบางห้องบางด้าน จะถูกอาคารข้างๆ เช่น บ้านราชดำริ บดบัง Block วิว
แผนที่โครงการ
วิวด้านสนามม้า
วิวด้านกว้าง สวนลุม
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการ 185 ราชดำริ เป็นโครงการระดับ 10,000 ล้าน ของ Raimon Land แค่ค่าที่ดิน ก็ 1,300 ล้าน ค่าก่อสร้างเฉพาะที่จ่ายให้ บวิค ไทย ก็ 2,400 ล้าน บาท เข้าไปแล้ว เรียกว่าเป็นโครงการที่ใหญ่มาก ในแง่เงินลงทุน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเล็กๆไม่ใหญ่ๆทำอยู่แล้ว สำหรับ Raimon Land ที่สำคัญเฉพาะในกรุงเทพฯ 185 เป็นโครงการที่ 6 ของเค้าแล้ว (อื่นๆก็มี พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น) Raimon Land เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่ค่อนข้างมีทุนแกร่ง จากตะวันออกกลางหนุนหลัง โดยกลุ่ม IFA Hotel & Resort จึงค่อนข้างจะมั่นใจได้ แม้ระยะเวลาในการพัฒนาโครงการจะยาวนานกว่าคอนโด เจ้าอื่นๆที่เราคุ้นเคยกัน แต่อย่าลืมว่า นี่คือ Super Luxury คอนโด และใช้ทุนในการพัฒนามากจึงต้องการเวลาในแต่ละรายละเอียด (รวมถึงระดมทุน อิอิ) ที่มากกว่าโครงการปกติทั่วไป
ในแง่ของตัวโครงการตั้งแต่ได้ที่ดินและมีข่าวออกมาตั้งแต่ปี 2007 ก็ตั้งใจจะทำระดับราคา 300,000 บาท ต่อตารางเมตรขึ้นไป ดึงขึ้นชั้นระดับโลก มีแต่ห้องใหญ่ๆ ไปเลย แต่มาเจอช่วงเวลาที่เป็นวิกฤติการเมืองเข้าไปพอดี เลยต้องปรับแผนปรับตัวใหม่หมด ตอนออกตัวเลยมีราคา Start ที่ประมาณ 180,000 บาทต่อ ตารางเมตร ด้วย (ที่ขนาดห้องประมาณ 70 ตารางเมตร) จึงมีส่วนที่ขายหมดอย่างรวดเร็ว ที่เหลืออยู่ ณ.วันนี้ ก็ต้องมี 15 ล้าน เป็นอย่างน้อยแล้วล่ะครับ และเหลือไม่กี่ห้องด้วย
ตัวโครงการ 185 ออกแบบมาค่อนข้างดี หรูเรียบๆ ไม่พยายามโดดเด่นแปลกตาเกินไป ผมคิดว่าคงมีการทำ Research เจาะฐานลูกค้ามาแล้ว ซึ่งอันนี้แล้วแต่ว่าใครชอบไม่ชอบยังไง แต่ผมชอบนะ ดูได้นานๆไม่เบื่อ วัสดุที่ใช้ เป็น เกรดดีเยี่ยม Import เป็นส่วนใหญ่ Finishing หรูดูดีสมระดับ
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ
- สระว่ายน้ำ แยกสระเด็ก
- จากูชชี่
- ยิม และโยคะ
- ซาวน่า
- เลาจน์ และ ฟังค์ชั่นแอเรีย
- ที่จอดรถ 360 คัน
- ลิฟท์ High speed 4 ตัว / ลิฟท์ดับเพลิง 1 ตัว
ผังสิ่งอำนวยความสะดวก
สระว่ายน้ำ น่าเสียดายที่ข้อจำกัดด้านพื้นที่ ทำให้หันด้านแคบเข้าสนามม้า
สระว่ายน้ำ
แผง Materials แต่ละชนิดที่ให้ลูกค้าได้เลือก ชนิด และสีที่จะใช้ได้เอง
Product Tour
ตอนนี้มีห้องตัวอย่างให้ดูกัน 2 ห้อง คือห้องเล็ก 1 Bedroom ขนาด 70 ตารางเมตร และห้อง 3 Bedroom ขนาด 222-226 ตารางเมตร ห้องนี้แจ่มมากมีห้อง Maid ด้วย
ป่ะ เราไปดูห้องเล็กกันก่อนเนอะ 🙂
ผังห้อง 1 Bedroom 70 ตารางเมตร
ความสูงของเพดานคือ 3 เมตร ห้องนี้มี Living Room มี Kitchen ที่กั้นด้วย Island สำหรับเตรียมอาหาร พื้นที่ประมาณ 3.1 x 7.2 เมตร กว้างขวางสบายๆ มีระเบียงขนาดใหญ่มากคือประมาณ 1.7 x 4 เมตร คอนโดระดับนี้เค้าไม่วางคอมแอร์ที่ระเบียงนะจ๊ะ เค้าใช้คอมรวม เอาไปเก็บในที่ ที่เราไม่เห็นจ๊ะ ส่วนห้องนอนขนาด 3.5 x 4.7 เมตร มีห้องน้ำ น่ารัก Sexy ผนังกระจกเข้ามุม
พร้อมห้องแต่งตัว ขนาด 3.5 x 3.6 เมตร จริงๆแล้วห้องขนาด 70 เมตร ที่อื่นคงได้ 2 Bedroom อ่ะนะ ที่นี่กลายเป็นห้องเล็ก 1 Bedroom 😀 ส่วนรูปแบบการตกแต่ง ออกแนว Minimalist นิดนึง
สวิทไฟ น่ารักจังเลย มีหลายสี สำหรับแต่ละตำแหน่ง หรี่ไฟได้ทุกตัว
เข้าห้องมาเจอครัวด้านซ้ายมือ
ระยะยืนประมาณนี้
มี Built-in ซ่อนตู้เย็นไว้ด้านซ้ายมือของ sink
ระบบระบายความร้อนของตู้เย็น ซ่อนอยู่ด้านล่าง
ครัวมองจากด้านในห้อง
ห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่น มองจากโต๊ะอาหาร
ระเบียง จัดเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor ชมวิวสวยๆ ใจกลางกรุงเทพนะ ไม่ได้เอาไว้ตากผ้า
วัสดุ บานประตู slide ออกระเบียง โครงหนา กระจกสองชั้น กันเสียงและความร้อน แต่ไม่ชอบขอบธรณี มันสูงมากเลยนะนั่น กลัวสะดุดตกระเบียงตัวเองอ่ะ
ห้องนอน
Side Board และโต๊ะทำงานเล็กๆในห้องนอน
จากเตียงนอนก็จะมองเห็นห้องน้ำ แบบเต็มๆ เพราะเป็นผนังกระจกเข้ามุม ใครมีแฟนสวยก็คงเพลินตาเพลินใจดูนางเงือกเล่นน้ำ แต่ถ้าผมลงไปคงกลายเป็นโชว์สิงโตทะเลแน่นอน นะเออ (แนะนำให้ติดม่าน ก่อนย้ายเข้าห้อง อิอิ)
อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ สวยดี
วิว จาก ห้องน้ำ 🙂
เดินออกจากห้องน้ำก็จะเห็นห้องนอนประมาณนี้
ต่อไปก็ขึ้นชั้นสองไปดูห้อง 3 Bedroom กันครับ
หน้าห้อง ประตูใหญ่ดี ห้องนี้มีห้อง Maid แยกประตูทางเข้าต่างหากที่เห็นประตูเล็กสีขาวๆนั่นอ่ะ ใครซื้อแล้ว ไม่มี Maid บอกผมนะครับ ยินดีย้ายไปอยู่ด้วยฟรีๆ ไม่คิดเงิน 😀 ดีกว่าปล่อยห้อง Maid ไว้ว่างๆนะเออ
ผังห้อง 3 Bedroom 220-226 ตารางเมตร
ห้องนี้มี 1 Living room, 1 Kitchen ที่ซ่อนประตูผลักออกไปส่วนครัวของห้อง Maid ได้, 1 ระเบียงขนาดใหญ่มากกก (2×8.15 เมตร) 3 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว, 1 ห้องน้ำรับแขก
ส่วนของ Maid จะมี ครัว + ห้องนอน + ห้องน้ำ + ระเบียงที่ใช้เป็นส่วนซักล้าง
ห้องตัวอย่างนี้ตกแต่งแนว Oriental ผู้ใหญ่ๆ หน่อย
เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่น
บริเวณห้องนั่งเล่นทั้งหมด มีโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ด้วย
โต๊ะอาหาร
ห้องนั่งเล่นมองจากด้านใน
ครัว มองจากโต๊ะอาหาร
ผลักผนังออก ก็จะเดินออกไปส่วนครัวของ Maid ได้
ครัว มีระยะกว้างขวาง สบายๆ
โถงทางเดินเชื่อมสู่ห้องนอนทั้งสามห้อง
ห้องน้ำสำหรับห้องรับแขก
ห้องนอนที่ 1 เปิดประตูมา ขวามือคือห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ เป็น Shower Box มีเก้าอี้นั่งอาบ
อ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์
ห้องนอน
Side Board และโต๊ะทำงานเล็กๆ
กระจกและม่าน
ห้องนอนที่ 2 เหมือนห้องนอน1 ต่างกันเล็กน้อย ห้องน้ำ เหมือนกัน แต่เป็นโทนสีน้ำตาล
เดินเข้าห้องนอนใหญ่ เจอเก้าอี้นั่งเล่นนี้ก่อน ซ้ายมือห้องนอน ขวามือเป็นห้องน้ำ และ Walk-in Closet
ห้องนอนใหญ่ ไม่น่ามีเสามาอยู่ที่มุมห้องเลย เสียดายวิว แต่ห้องนี้ กระจกรอบ Take view ได้เต็มที่ตั้งแต่ห้องนอน โต๊ะทำงาน จรดอ่างล้างหน้า หรูหราไฮโซสุดๆ
เตียงและอุปกรณ์ประกอบการนอน น่านอนเนอะ 🙂
ห้องนอนมองไปห้องน้ำ แอบ Sexy อีกละ อันนี้ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรงที่ทำผนังกระจก เพราะ 3 ห้องนอน เจ้าของห้องนี้วัยเค้าคงจะเยอะหน่อยละ ใส่กระจกโปร่งโล่งขนาดนี้ คงจะไม่เพลินตาแระ น่าจะออกแนวทรมานสายตามากกว่านะเนี่ย
อ่ะ ดูกันชัดๆ โต๊ะทำงานในห้องนอน จัดติดกะอ่างอาบน้ำเรย กระจกใสแจ๋ว ป้า อยากจะกรี๊ด 😀
โถงเล็กๆกั้นระหว่างห้องน้ำกะ Walk-in Closet ห้องน้ำด้านซ้ายนะจ๊ะคุณผู้ชาย เมาๆเลี้ยวผิดด้านล่ะงานเข้า
ห้องน้ำ จะยืนอาบ หรือนอนอาบก็ได้ จะอาบพร้อมกันก็ได้อีก 🙂
อ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์
ล้างหน้าพร้อมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ครับ
Walk-in Closet
Price & Performance
- ราคา ณ.วันที่ 24 November 2011
- มาดูเงื่อนไขการซื้อของเค้าก่อนครับ เนื่องจากเป็น Super Luxury ที่ราคาค่อนข้างสูง จึงมีเงื่อนไขแตกต่างจากที่เราคุ้นเคยนิดหน่อยครับ
- จอง 200,000 บาท
- ชำระ 10% ของราคาขาย ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากวันจอง
- ชำระ 10% ของราคาขาย ภายใน 3 เดือน นับจากวันที่ชำระงวด 10% แรก
- ผ่อนชำระอีก 20% ของราคาขาย 24 งวด
- ชำระส่วนที่เหลืออีก 60% ณ.วันโอนกรรมสิทธิ์
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- เงินกองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร ชำระครั้งเดียว
- ค่าส่วนกลาง 80 บาท ต่อตารางเมตร ต่อเดือน
- ค่าธรรมเนียมในการโอน จ่ายคนละครึ่ง
ราคาห้องต่างๆ ที่ยังมีขายอยู่ ราคาจะแตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับทำเลห้อง วิว และชั้นครับ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งราชดำริ และฝั่ง ลุมพินี
ฝั่งราชดำริ
- 1 Bedroom 70 ตรม ชั้น 22 ขายราคา 17.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 100 – 156 ตรม ขายราคา 20 – 41.3 ล้านบาท
- 2 Bedrooms Duplex 145 ตรม ขายราคา 48.2 – 50.7 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 161 – 222 ตรม ขายราคา 31.7 – 59 ล้านบาท
- 4 Bedrooms 300 ตรม ชั้น 28 ขายราคา 86.1 ล้านบาท
- Penthouse 511 – 874 ตารางเมตร ชั้น 32 ขายราคา 194.1 – 332.1 ล้านบาท***
ฝั่งลุมพินี
- 1 Bedroom 78 ตรม ขายราคา 14.6 – 15.1 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 102 – 140 ตรม ขายราคา 19.1 – 36.4 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 155 – 193 ตรม ขายราคา 32.3 – 49.8 ล้านบาท
- Penthouse 469 – 645 ชั้น 29-30 ขายราคา 164.1 – 245.1 ล้านบาท
เจาะลึกรวบยอด
จริงๆอยากจะบอกว่า ถ้ามีตังค์ก็ซื้อเลย ไม่ต้องคิดมาก นี่มันที่สุดของที่สุดคอนโดที่มีขายตอนนี้แล้ว อิอิ แต่ไม่ได้ครับ ไหนๆก็มาดูแล้วต้องวิเคราะห์นิดนึง
อันว่าคอนโดระดับเกรด Super Luxury นี้ 185 เป็นโครงการแรกที่เราทำรีวิวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายและเปรียบเทียบ ผมอยากจะแบ่งคอนโดออกเป็น ระดับดังนี้
- Super Luxury Condo หรูหรา ระดับ International
- Luxury Condo หรูหราระดับ ประเทศ
- Grade A ดีมาก คุ้มค่า แต่ยังไม่หรูหราไฮโซ
- Grade B ดี
- Grade C พอใช้
ถ้าเรามีตังระดับซื้อ Luxury ได้ขึ้นไป ก็ควรเปรียบเทียบคอนโด ระดับ Luxury – Super Luxury, ดูว่าเป็น Lease Hold หรือ Free Hold, ทำเล, เป็น Residence แบบพ่วง service ของโรงแรมหรือมีสาธารณูปโภค ห้าง หรืออะไรมาแปะเพื่อเพิ่ม มูลค่าและความหรูหราระดับไฮโซของคอนโดมั่ง แล้วก็ดู Life Style ของเราว่า เหมาะกะอันไหน ชอบแนวไหน
คู่แข่งที่พอจะยกขึ้นมาเทียบระดับกับ 185 ไล่ตั้งแต่ Luxury ขึ้นไปที่พอจะนึกออกตอนนี้ก็มี
มหานคร (Ritz-Carton) คอนโดสุดหรู สุดสวย Super Luxury ย่านสาทร เพียบพร้อมด้วยโรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสุดยอด Top of the Class แต่เป็น Lease Hold 99 ปี และในความเห็นของผม ทำเลเทียบชั้นกับ 185 ไม่ได้
St.Regis คอนโดสุดหรู Super Luxury บนถนนราชดำริเหมือนกัน สุดยอดทำเล สุดยอด Facility แต่เป็น Lease Hold 30 ปี
สุโขทัย คอนโดสุดหรู Super Luxury แปะอยู่กับโรงแรมสุโขทัยสาทร สุดยอด Facility & uniqueness แต่ทำเลเทียบชั้นกันไม่ได้ เป็น Free Hold
Ranaissance คอนโดหรู Luxury แปะอยู่กับโรงแรม Ranaissance ถนนราชดำริ ทำเลและความหรูยังเทียบกันไม่ได้ เป็น Lease Hold
Hansar คอนโดหรู Luxury แปะอยู่กับโรงแรม Hansar ถนนราชดำริ ทำเลและความหรูยังห่างกัน เป็น Lease Hold
Banyan Tree คอนโดหรู Luxury แปะอยู่กับโรงแรม Banyan Tree ถนนสาทรทำเลและความหรูยังเทียบกันไม่ได้ เป็น Lease Hold
ยังมีอีกหลายโครงการ หลายทำเล ที่เรียกว่า หรูหรา ระดับ Luxury ในย่าน CBD นี้ เทียบกันแล้ว ก็คงต้องเลือกด้วยปัจจัยต่างๆข้างต้น ซึ่งขอย้ำอีกทีว่า ถ้ามีตังก็อยากได้เหมือนกัน เพราะมั่นใจมากว่า ราคาแบบนี้ ไม่มีทางซื้อคอนโด Super Luxury บนทำเลระดับสุดยอดแบบนี้ได้อีกแล้ว