SINDHORN VILLAGE
สวัสดีค่ะ ในปี 2020 นี้โครงการยักษ์ใหญ่ย่านหลังสวน Sindhorn Village ก็สร้างเสร็จทั้งหมดและเปิดให้บริการไปบางส่วนแล้วนะคะ วันนี้เราจะพามาชมบรรยากาศและไปดูกันว่าภายใน Project ใหญ่ในทำเลใจกลางเมืองจากสยามสินธรนี้จะมีอะไรบ้าง ตามมาชมกันค่ะ
Sindhorn Village เป็นโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่บนที่ดิน 56 ไร่ เป็นโครงการที่มีการพัฒนาโดย บริษัท สยามสินธร จำกัด พื้นที่ของทั้งโครงการจะอยู่ติดกับซอยหลังสวน และซอยต้นสน อยู่ด้านท้ายซอยติดกับถนนสารสิน และสวนลุมพินี ซึ่งถือว่าเป็นย่านใจกลางเมืองจริงๆ อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน สถานทูต และยังสามารถเดินไปสถานีรถไฟฟ้า ชิดลม ได้ในระยะทางประมาณ 650 เมตรค่ะ
อ่ายรายละเอียดที่ตั้งโครงการได้ที่ >> พาชมทำเล หลังสวนวิลเลจ
โครงการ Sindhorn Village ประกอบไปด้วยที่อยู่อาศัยทั้งหมด 5 โครงการ , โรงแรมระดับ 5 ดาว 2 โครงการ และ ส่วนของ Retails (Community Mall ) ดังนี้
โครงการคอนโดมิเนียม
- SINDHORN RESIDENCE – คอนโดมิเนียมตัวแรกในโครงการ Sindhorn Village
- BAAN SINDHORN – คอนโดมิเนียม Low Rise ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ ยูนิตน้อยสไตล์บ้านพักอาศัยเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ชอบความเป็นส่วนตัว
- THE RESIDENCES AT SINDHORN KEMPINSKI HOTEL BANGKOK – คอนโดมิเนียม High Rise พร้อม Service จากโรงแรม Kempinski เห็นวิวใจกลางเมืองและสวนลุมพินี มีห้องพักอาศัยตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 4 Bedrooms เหมาะกับทั้งคนที่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัวที่มี 3 Generation
- SINDHORN TONSON – คอนโดมิเนียมติดซอยต้นสนวิวสวนลุมพินี
- SINDHORN LUMPINI – Private คอนโดมิเนียมติดถนนสารสิน วิวสวนลุมพินี
โรงแรม
- KIMPTON MAA-LAI BANGKOK – โรงแรม 5 ดาว สไตล์ Boutique ดีไซน์ทันสมัยที่ให้ความสำคัญกับร้านอาหารเทียบเท่ากับห้องพัก
- SINDHORN KEMPINSKI HOTEL BANGKOK – โรงแรม 5 ดาวหรู พร้อม Health and Wellness Center กว่า 4,000 ตารางเมตร
- SINDHORN MIDTOWN – โรงแรม 4 ดาวบนทำเลต้นซอยหลังสวนใกล้รถไฟฟ้าสถานีชิดลม
Community Mall
- VELAA SINDHORN VILLAGE – แหล่งรวมร้านค้าร้านอาหาร ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อยู่อาศัยภายในโครงการ และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์แห่งใหม่ขึ้นภายในย่านหลังสวน
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย (Residence) ที่นี่เป็นประเภท Leasehold คือ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ระยะยาว สัญญาเช่า 30 ปี (สามารถต่อสัญญาได้อีก 30 ปี หรือครั้งละ 10 ปีตามตกลง) ทั้งหมดเลยค่ะ และเนื่องจากเป็นการปล่อยเช่าระยะยาว เจ้าของโครงการจึงได้ออกแบบตัวอาคารให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานโดยตั้งไว้ที่ 100 ปีเลยทีเดียว การออกแบบจึงเน้นโครงสร้างที่คงทน ออกแบบพื้นที่ใช้สอย ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ทำให้ไม่ต้องซ่อมบำรุง (Maintenance) บ่อยๆ อย่างเช่นการวัสดุพื้นผิวธรรมชาติ ประเภทหิน การใช้กรอบอาคารที่เป็นโครงอลูมิเนียมทั้งชิ้นทำให้ถอดเปลี่ยนได้ง่าย ใช้กระจก 3 ชั้นกันความร้อน ฝุ่นและเสียงได้ดี รวมไปถึงงานระบบสำรอง ทำให้ใช้งานในขณะที่มีการซ่อมบำรุงได้ ใช้โครงสร้างผนังกันไฟ, รองรับแผ่นดินไหว และมีระบบป้องกันน้ำท่วม ซึ่งที่ดินทั้งหมดภายในโครงการได้ยกระดับสูงขึ้นจากพื้นถนนถึง 2.00 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมด้วยค่ะ
สิ่งที่โครงการใหญ่แบบ Mixed Use ได้เปรียบกว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่อื่นคือการที่ภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการรองรับ Lifestyle ของกลุ่มลูกค้าให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก ด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Kimpton Maa-lai Bangkok โรงแรมที่บริหารในเครือ Kimpton ที่แรกใน Southeast Asia และ โรงแรมเชนหรูอย่าง Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรม Kempinski แห่งที่ 2 ในประเทศไทย ภายในมีร้านอาหาร Craft, Stock room, ร้านอาหารลูกจันทร์ by เสน่ห์จันทร์ มี Health and Wellness Center เปิดให้บริการสำหรับทุกคนด้วย นอกจากนั้นแล้ว ด้านหน้า Sindhorn Village ยังมี Velaa Retails ทั้งหมด 26 ร้านค้า ที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ทั้งร้านอาหาร, บาร์, คลินิก, ความงาม และ Supermarket อย่าง Villa Market อยู่ด้วย
สำหรับที่จอดรถภายใน Sindhorn Village จะมีที่จอดอยู่ที่ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น มีการกั้นแยกแต่ละอาคารเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการดูแล แต่กรณีที่มีกิจกรรมเป็นพิเศษ สามารถเปิดที่จอดรถเชื่อมถึงกั้นทั้งหมดได้ โดยรองรับได้มากกว่า 1,000 คันเลยค่ะสำหรับคนที่อยู่อาศัยภายในโครงการนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ Lifestyle อยู่อาศัยใจกลางเมืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และได้รับการบริการจากโรงแรมระดับ 5 ดาว อยากนัดเจอกับเพื่อนที่ร้านอาหารก็เดินออกมาได้เลย หรือจะใช้บริการสปา, นวดจากโรงแรมก็มาใช้บริการได้ง่ายๆ และเป็นคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแค่ช่วงเวลาหนึ่งๆ ไม่ยึดติดกับการที่ต้องได้มีกรรมสิทธิ์เป็นของตัวเองก็จะเหมาะกับการอยู่อาศัยภายในโครงการ Sindhorn Village นี้เลยค่ะ เราไปเดินชมโครงการกันทีละส่วนกันค่ะ
COMMUNITY MALL
VELAA SINDHORN VILLAGE
ขอเริ่มกันที่ Community Mall พื้นที่ Retails ด้านหน้าโครงการที่ยาวขนานกับถนนหลังสวนประมาณ 300 เมตร ที่มีชื่อว่า Velaa Sindhorn Village (Velaa Langsuan) ซึ่งพื้นที่ภายในจะแบ่งเป็นโซน ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และส่วนของ Lifestyle เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) รวมทั้งหมด 26 ร้านค้า และมี Supermarket อีก 1 ร้าน คือ Villa Market ให้ได้เลือกรับประทานอาหาร ชอปปิ้ง หรือมาใช้บริการไม่เพียงแต่คนที่อยู่ภายในโครงการเท่านั้นนะคะ ที่นี่ก็เปิด Public ให้คนภายนอกเข้ามาใช้บริการได้ด้วย
ภายในมีร้านอาหาร อย่างเช่น โรงสี โภชนา, Peace Oriental Teahouse, Maison Saigon ฯลฯ โซนของร้านค้าจะเปิดบริการตั้งแต่ 07.00 น. – 18.00 น. แต่ถ้าอยากมาบรรยากาศคึกคักหน่อยร้านจะเปิดทั้งหมดประมาณ 11.00 น. ค่ะ ส่วน Villa Market เปิดตั้งแต่ 07.00 น. จนถึงเที่ยงคืนเลย
ภาพบรรยากาศ
ภาพบรรยากาศ Velaa Sindhorn Village
การเดินทางมาสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีชิดลม ทางออกที่ 4 บริเวณ Mercury Ville แล้วเดินต่อประมาณ 650 เมตร แต่จะค่อนข้างไกลสักหน่อย สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาได้ค่ะ สำหรับที่จอดรถเป็นชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ที่จอดรถประมาณ 400 คัน ถ้าไปวันธรรมดามีที่จอดว่างอยู่เยอะเลยค่ะ ที่นี่มีค่าจอดอยู่ที่ ฟรี 30 นาทีแรก (ถ้าเกินคิดชั่วโมงละ 20 บาท) จอดฟรี 3 ชั่วโมงเมื่อสแกนบัตรภายในร้านค้าที่ใช้บริการ (เกิน 3 ชั่วโมงคิดชั่วโมงละ 20 บาท) และต้องนำรถออกก่อน 04.00 น.ค่ะ
สวนส่วนกลาง
มาพูดถึงบรรยากาศภายในโครงการ Sindhorn Village กันบ้างค่ะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ทางทิศใต้ อยู่ติดกับสวนลุมพินี และทิศตะวันออกติดกับสถานทูตอเมริกา, สถานทูตเนเธอร์แลนด์ และบ้านพักเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ทำให้ล้อมรอบที่ตั้งโครงการเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวเยอะอยู่แล้ว
บรรยากาศบริเวณสวนส่วนกลาง
บรรยากาศบริเวณสวนส่วนกลาง
อีกทั้งโครงการนี้ยังสร้างขึ้นด้วยแนวคิดที่ว่า “ Living in the Park” จึงทำให้มีการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการขึ้นมาด้วย จะเห็นได้จากบรรยากาศรอบๆถนนภายในโครงการที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น รวมไปถึงบริเวณส่วนกลางระหว่างอาคารและ Community Mall มีสวนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ที่เป็นทัศนียภาพสีเขียวให้กับผู้ที่อยู่อาศัยภายในโครงการ และยังสามารถเข้ามาเดินเล่นถ่ายภาพบรรยากาศ ระหว่างมาใช้บริการ Velaa หรือร้านอาหารภายในโรงแรมได้ค่ะ ซึ่งสวนส่วนกลางนี้จะไม่ได้ร่วมอยู่ในการรับผิดชอบค่าส่วนกลางของลูกบ้านนะคะ แต่สามารถใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายไปตลอดเลย
บรรยากาศภายในโครงการ Sindhorn Village
วิวจากโครงการต่างๆใน Sindhorn Village
แวะเก็บภาพวิวที่เห็นจากในโครงการมาฝากกันค่ะ ทัศนียภาพที่จะเห็นคือวิวเมืองในย่านใจกลางเมือง และยังเห็นพื้นที่สีเขียวจากสวนลุมพินี และพื้นที่ของสถานทูต รวมถึงเห็นสถาปัตยกรรมของโรงแรม และ Residence ภายในโครงการที่ออกแบบมาดูสวยงาม คงทนและ Timeless ที่โครงการตั้งใจออกแบบมาให้ไม่ว่าจะผ่านไป 30 ปีก็ยังดูไม่ล้าสมัยนั่นเองค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอาคารต่างๆในโครงการ ดังนี้
คอนโดมิเนียม
BAAN SINDHORN
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 32 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 5 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 62 คันคิดเป็น 193%
- ที่ดินประมาณ 1-1-53 ไร่
- ก่อสร้างแล้วเสร็จ : 2020 (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
- 2 Bedrooms ขนาด 122.36 – 168.47 ตร.ม.
- Penthouse 3 Bedrooms ขนาด 392.22 ตร.ม.
- ราคาห้องเริ่มต้น 24 – 90 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 320,000 บาท/ตร.ม.
โครงการคอนโดมิเนียม ที่พึ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่ล่าสุดในปี 2020 ในโครงการนี้มีด้วยกัน 2 โครงการค่ะ คือ Baan Sindhorn และ The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน เรามาเริ่มกันที่ Baan Sindhorn ก่อนนะคะ โครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 32 ยูนิต ด้วยความที่เป็นคอนโด Low Rise และยูนิตน้อยจึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง ภายในโครงการนี้จะเน้นไปที่ห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 2 Bedrooms ขนาด 122 ตารางเมตร และเป็นห้อง 2 Bedrooms ทั้งหมดเลยค่ะ (มี Penthouse 1 ยูนิตที่ชั้น 8) และมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ภายในอาคารเป็นแบบ Indoor ทั้งหมด มี Lounge, Fitness และสระว่ายน้ำ
บรรยากาศโครงการ
บรรยากาศภายในโครงการ Baan Sindhorn
ผังโครงการ
ชั้น 1
การออกแบบผังห้องพักอาศัยภายในโครงการ Baan Sindhorn ที่มีห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ทั้งหมดจึงทำให้มีจำนวนยูนิตสูงสุดเพียง 5 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นค่ะ ภายในมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เพียง 16 : 1 เท่านั้นเองค่ะ และยังมีการออกแบบห้องพักอาศัยในส่วนที่ติดกับห้องอื่นๆจะได้ผนัง Double Wall เก็บเสียง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้นด้วย
แปลนห้องพักอาศัย
ROOM TYPE A 160.88 sq.m. (2 Bedroom)
บรรยากาศภายในห้องพักอาศัย
บรรยากาศภายในห้องพักอาศัย Baan Sindhorn
เมื่อเข้าไปดูโครงการนี้แล้วทำให้รู้สึกได้บรรยากาศเหมือนกับอยู่บ้าน มีห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ เดินลงมาว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนสได้แบบเป็นส่วนตัวเพราะมีเพื่อนบ้านไม่เยอะ จึงเหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้าน 3 คนขึ้นไป ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างสงบ ไม่เน้นวิวในห้องพักอาศัยมากไปกว่าความเป็นส่วนตัวค่ะ
THE RESIDENCES AT SINDHORN KEMPINSKI HOTEL BANGKOK
- คอนโด High Rise 33 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 231 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิต อยู่ที่ชั้น 3 – 12
- ที่จอดรถประมาณ 495 คัน คิดเป็น 200% (ของจำนวนยูนิต)
- ที่ดินประมาณ 3 – 3 -57 ไร่
- ก่อสร้างแล้วเสร็จ : 2020 (สร้างเสร็จพร้อมอยู่)
- Studio 52.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom (+1 Room) 98.00 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 139.00 – 158.00 ตร.ม.
- 3 Bedrooms 215.00 – 339.00 ตร.ม.
- 4 Bedrooms 356.00 – 510.00 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 230,000 – 240,000 บาท/ตร.ม.
โครงการ The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok เป็นโครงการคอนโดมิเนียมอีกแห่งที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2020 นี้เช่นกันค่ะ ซึ่งเป็นคอนโด High Rise สูง 33 ชั้น ทำให้มีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 231 ยูนิต ซึ่งโครงการก็ออกแบบมาให้ผู้อยู่อาศัยยังคงได้ความเป็นส่วนตัวจากจำนวนยูนิตต่อชั้นที่ไม่เกิน 10 ยูนิตค่ะ แต่ Character ของโครงการนี้จะได้ความรู้สึกเป็นคอนโดมิเนียม High Rise มองเห็นวิวย่านใจกลางเมืองและสวนลุมพินี และห้องพักอาศัยภายในโครงการนี้จะมีให้เลือกหลากหลายเริ่มต้นที่ห้อง Studio ขนาด 52 ตารางเมตร มีห้อง 1 – 4 Bedrooms ตอบโจทย์ของคนทำงานที่ต้องการอยู่คนเดียว ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่อยู่กัน 3 Generation เลยก็ได้ค่ะ
สิ่งที่ทำให้โครงการนี้แตกต่างจากโครงการพี่น้องอย่าง Baan Sindhorn นอกจากจำนวนชั้นแล้วก็คือ ที่นี่มีการบริการจากโรงแรม Kempinski เพิ่มขึ้นมาให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Concierge Service, การบริการสั่งอาหารจากโรงแรม, บริการสปา, บริการทำความสะอาด และซัก – รีดเพิ่มเติมด้วย ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยที่นี่จะสามารถเพิ่มความสะดวกสบายเหมือนกับอยู่โรงแรมได้เลย แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในแต่ละบริการนะคะ
บรรยากาศโครงการ
บรรยากาศภายในโครงการ The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้อยู่ที่ชั้น 30 ค่ะ ซึ่งเป็นชั้นที่รวบรวม Facilities ไว้ในที่เดียวเลย ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลืออยู่ทางทิศตะวันตก สามารถว่ายน้ำพร้อมชมวิวเมืองที่มีพระอาทิตย์ตกได้ โดยแยกส่วนจาก Kids Pool ภายในอาคารมีห้อง Lounge สำหรับนั่งพักผ่อน เห็นวิวเมืองและวิวสวนลุมพินีได้ชัดเจนเลยค่ะ หรือถ้าใครอยากจัดประชุมก็จะมีห้อง Meeting Room แยกออกมาเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ นอกจากนั้นยังมีห้อง Fitness, Yoga แยกออกมา พร้อมกับ Steam & Sauna แยกชาย-หญิงให้อย่างละ 1 ห้องด้วย โดยรวมจะมีพื้นที่ส่วนกลางให้เลือกใช้งานมากกว่าโครงการ Baan Sindhorn แต่ก็จะใช้ร่วมกันกับเพื่อนบ้านจำนวนหลายยูนิตมากกว่านั่นเองค่ะ ซึ่งตอบโจทย์คนที่มีความต้องการแตกต่างกันชัดเจน
ผังโครงการ
ชั้น 1
การออกแบบชั้นพักอาศัยมีจำนวนยูนิตต่อชั้น 10 ยูนิต และมีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ทั้งหมด ซึ่งตัวอาคารจะมีช่องแบ่งครึ่งอาคารออกเป็นสองฝั่ง ทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักอาศัยได้มากขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งห้องพักอาศัยขนาดใหญ่จะอยู่ทางฝั่งทิศเหนือ-ใต้ มองเห็นวิวสวนส่วนกลาง และสวนลุมพินี ส่วนห้องเล็กจะอยู่ทางทิศตะวันออก-ตะวันตกมองเห็นวิวเมืองค่ะ โครงการนี้มีลิฟต์โดยสารมาให้ 4 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 58 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นน้อยสำหรับโครงการ High Rise ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นาน
แปลนห้องพักอาศัย
Studio 54 sq.m.
บรรยากาศภายในห้องพักอาศัย
บรรยากาศภายในห้องพักอาศัยโครงการ The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
คนที่เหมาะกับโครงการนี้จะเป็นกลุ่มที่ต้องการการบริการจากโรงแรม จาก Kempinski ชอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต เป็นคนที่ชอบห้องพักอาศัยวิวสูง มองเห็นวิวเมืองและสวนลุมพินีได้ มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย รองรับได้ตั้งแต่คนที่อยู่ 1 คนไปจนถึงครอบครัว 5 – 7 คนเลยค่ะ
อ่านรีวิวเจาะลึกเพิ่มเติมได้ที่ >> The Residences at Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
SINDHORN RESIDENCE
- คอนโด High Rise 35 ชั้น 1 อาคาร และ 10 ชั้น 1 อาคาร 200 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น n/a% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น n/a%
- ที่ดินประมาณ 4 ไร่
- ก่อสร้างแล้วเสร็จ : 2017
- Studio ขนาด 35 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 68-76 ตร.ม.
- 2 Bedroom ขนาด 112-117 ตร.ม.
- 3 Bedroom ขนาด 103-345 ตร.ม.
- ราคาประมาณ : 11 – 30 ล้านบาท (หรือประมาณ 180,000 – 250,000 บาทต่อตารางเมตร) (ราคา ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2020 )
คอนโดมิเนียม Sindhorn Residence เป็นโครงการ Leasehold รุ่นพี่ใน Sindhorn Village เลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโครงการต้นแบบของใน Project ใหญ่ทั้งหมดนี้เลยก็ว่าได้ มีทั้งหมด 2 อาคาร เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 1 อาคาร และอาคารสูง 10 ชั้น 1 อาคาร มี Facilities เชื่อมต่อกันที่ชั้น 10 ซึ่งทาง ThinkofLiving ได้เคยพาไปรีวิวโครงการ ในรายการคิดเรื่องอยู่แล้ว สามารถคลิก Link ด้านล่างไปชมกันได้เลยค่ะ
ผังโครงการ
Tower A ชั้น 3 - 4
การออกแบบผังห้องพักอาศัยภายในโครงการ Sindhorn Residence เลือกจัดวางห้องพักอาศัยไปที่ฝั่งเดียวทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor นอกจากได้ความเป็นส่วนตัวแล้ว อีกฝั่งที่เป็นโถงลิฟต์ยังเป็นส่วนของพื้นที่วางงานระบบ ซึ่งทำให้เวลามีการซ่อมบำรุงช่างที่เข้ามาซ่อมภายในอาคารจะอยู่แต่ด้านหลังไม่เข้าไปรบกวนในส่วนห้องพักอาศัยเลยค่ะ โดยชั้นที่มีห้องพักอาศัยเยอะที่สุดนั้นจะมี 12 ยูนิตต่อชั้นที่ชั้น 3 – 4 ในอาคาร A พอขึ้นมายังชั้นที่สูงขึ้นจะมีเพียง 2 – 6 ยูนิตต่อชั้น ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงค่ะ
แปลนห้องพักอาศัย
Tower A : Studio
บรรยากาศภายในโครงการและห้องพักอาศัย
SINDHORN TONSON
- คอนโด High Rise 17 ชั้นและชั้นใต้ดิน 3 ชั้น 1 อาคาร 59 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 96 คันคิดเป็น 162%
- ที่ดินประมาณ 1-2-54.14 ไร่
- ก่อสร้างแล้วเสร็จ : 2018
- 1 Bedroom , 2 Bedrooms 85 – 140 ตร.ม.
- ราคาประมาณ : 25 – 55 ล้านบาท (หรือประมาณ 200,000 – 380,000 บาทต่อตารางเมตร)(ราคา ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2020 )
โครงการ Sindhorn Tonson เป็นคอนโดมิเนียมสูง 17 ชั้นมีจำนวนทั้งหมด 59 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยต้นสนช่วงท้ายซอยติดกับถนนสารสิน เป็นอาคารที่ตั้งหันหน้าเข้าหาสวนลุมพินีเหมือนกับโครงการ Sindhorn Lumpini จนเหมือนคู่แฝดกันเลยค่ะ
บรรยากาศโครงการ
บรรยากาศจำลองภายในโครงการ Sindhorn Tonson
ผังโครงการ
ชั้น 2 - 6
การวางผังห้องพักอาศัยภายในโครงการ Sindhorn Tonson ทั้งหมดจะอยู่ฝั่งที่มองเห็นสวนลุมพินีได้ค่ะ ทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single corridor และมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 6 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักขนาดใหญ่จะอยู่ที่มุมอาคารทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทำให้ได้วิวทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนของพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น Rooftop ประกอบไปด้วย Fitness Center, Locker Room และ Swimming Pool
แปลนห้องพักอาศัย
TYPE A 2 Bedrooms 140 sq.m.
SINDHORN LUMPINI
- คอนโด High Rise 14 ชั้น 1 อาคาร 20 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 2 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 42 คันคิดเป็น 210%
- ที่ดินประมาณ 1-0-73.24 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : n/a
- 2 bedrooms, 3 bedrooms and Penthouse ขนาด 230 – 445 ตร.ม.
- ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
โครงการ Sindhorn Lumpini เป็นคอนโดมิเนียมสูง 14 ชั้น 1 อาคารที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ 230 – 445 ตารางเมตร และมีเพียง 20 ยูนิตทำให้มีจำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นเพียงแค่ 2 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ซึ่งโครงการนี้จะตั้งอยู่ในช่วงท้ายซอยหลังสวน ติดกับถนนสารสิน หันหน้าเข้าหาสวนลุมพินี มองเห็นวิวสวนได้เต็มที่
บรรยากาศโครงการ
บรรยากาศจำลองภายในโครงการ Sindhorn Lumpini
ผังโครงการ
ชั้น 3 - 9
ภายในโครงการ Sindhorn Lumpini จะเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยภายในโครงการค่อนข้างมาก ภายในจะมีลิฟต์โดยสารส่วนตัว (Private Lift) เข้าสู่ห้องพักอาศัยโดยตรง และมี Facility ส่วนกลางขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 15 ทั้งหมด ประกอบไปด้วย Fitness Room, Roofto Rescidence Lounge และ Swimming Pool
แปลนห้องพักอาศัย
2 Bedrooms 230 sq.m.
โรงแรม
KIMPTON MAA-LAI BANGKOK
มาถึงในส่วนของโรงแรมกันบ้าง ภายใน Sindhorn Village เปิดตัวโครงการโรงแรมระดับ 5 ดาวมาทั้งหมด 2 ตัวนะคะ คือ Kimpton Maa-Lai Bangkok และ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมเชนระดับ World Class ทั้งคู่เลย
โรงแรมแรกที่เราจะพาไปชมบรรยากาศคร่าวๆกันก็คือ Kimpton Maa-Lai Bangkok (349 ห้องพัก) ซึ่งเป็นโรงแรม Kimpton แห่งแรกใน Southeast Asia เลยค่ะ ชื่อของโรงแรมว่า Maa-Lai นั้นมาจาก “มาลัยดอกไม้” นั่นเองค่ะ แม้จะมีชื่อที่แสดงออกถึงความเป็นไทย แต่บรรยากาศและ Character ของโรงแรมแห่งนี้จะมีความ Boutique ทันสมัยและมีความวัยรุ่นมากกว่าโครงการ Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ทั้งสไตล์การตกแต่งโรงแรม, การออกแบบชุดคลุมอาบน้ำจากแบรนด์ Asava, บรรยากาศของร้านอาหารภายในอย่างร้าน Craft ก็มีที่นั่งริมน้ำ Outdoor และมุมถ่ายรูปสวยๆให้เลือกถ่ายค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
โดยโรงแรมแห่งนี้จะให้ความสำคัญกับร้านอาหารพอๆกับห้องพักอาศัยเลยทีเดียว นอกจากจะมีร้านอาหาร Craft ที่ด้านล่างแล้ว ชั้นบนยังมี Stock room รวมแบรนด์ร้านอาหาร และมีการขายอาหารสำหรับกลับไปปรุงรับประทานเองที่บ้านด้วย ค่อนข้างแปลกใหม่ทีเดียวค่ะ นอกจากร้านอาหารแล้วยังมี Facility อื่นๆครบครันทั้ง Lounge สำหรับจัดเลี้ยง และ Fitness พร้อมเทรนเนอร์ให้บริการด้วย พร้อมเปิดให้ใช้บริการทั้งหมดภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ค่ะ
บรรยากาศภายในโรงแรม
บรรยากาศภายในโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok
SINDHORN KEMPINSKI HOTEL BANGKOK
โรงแรมถัดมามีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกตา คือโรงแรม Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok (280 ห้องพัก) เป็นโรงแรม Kempinski แห่งที่ 2 ในประเทศไทย มีการออกแบบสถาปัตยกรรมให้เป็นช่องทางที่ลมไหลผ่าน มีการออกแบบความโค้งของอาหารให้เข้ากับทิศทางลม บรรยากาศและ Character ของโรงแรมนี้จะมีความหรูหรา มีความสุขุมดูผู้ใหญ่มากกว่า Kimpton Maa-Lai Bangkok ค่ะ
นอกจากสถาปัตยกรรมที่เป็นจุดเด่นของที่นี่แล้วภายในยังมีพื้นที่ Health and Wellness Center รวมกว่า 4,000 ตารางเมตร มีรูปแบบการนวด และสปาหลากหลายแบบให้ลองใช้บริการเลยค่ะ ทั้งการนวดแบบ Hammam , ห้อง Sauna เกลือหิมาลายันสีชมพู, Cryotherapr อุณหภูมิติดลบ บำบัดอากาศปวดกล้ามเนื้อ, นวดสลายไขมันจากแรงดันน้ำ ฯลฯ และยังมีโซน Fitness พร้อม Class ปั่นจักรยาน, Pilates พร้อมเทรนเนอร์ส่วนตัว และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คงเป็นร้านอาหารลูกจันทร์ By เสน่ห์จันทร์ ที่มี Afternoon Tea Set ฮิตมากๆจองได้ยากมากเลยค่ะ ใครเคยลองไปชิมกันมาบ้างแล้วมาเล่าให้ฟังกันได้นะคะ
การตกแต่งห้องพักภายใน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok จะเลือกใช้ความเป็นไทยมากกว่า มีการใช้ภาพตกแต่งผนังจากวัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม, ใช้พรมลายดอกพุดตาน เป็นต้นบรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ
บรรยากาศภายในโรงแรม
บรรยากาศภายในโรงแรม Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
SINDHORN MIDTOWN
มาถึงอาคารสุดท้ายนี้เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว Sindhorn Midtown ตั้งอยู่ในช่วงต้นซอยหลังสวนอยู่ด้านหลังโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ตรงข้ามกับ Mercury Ville นั่นเองค่ะ แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้กับโครงการพี่น้องอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่อย่าง Sindhorn Village นะคะ สำหรับโครงการนี้ถ้าทางเรามีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาอัพเดทให้ทราบกันค่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ Walk-in Review ภาพรวมทั้งโครงการ Sindhorn Village ในครั้งนี้ ใครอยากให้ ThinkofLiving พาไปชมโครงการไหน ลอง Comment มาบอกกันที่ด้านล่างได้เลยนะคะ ^^