รีวิวฉบับที่ 709 … อากาศ เขาใหญ่ เป็นคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดที่กำลังจะถูกสร้างขึ้นบนทำเลเขาใหญ่ในปี 2014 นะครับ โครงการนี้ดำเนินการโดย Blue Hills Khaoyai และขายโดย CBRE ที่เคยบริหารงานขายให้กับโครงการ แสนดาว เขาใหญ่ ที่เปิดตัวไปในปี 2013 และขายหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยวิวเทือกเขาที่สวยหยด เช่นเดียวกันกับโครงการอากาศละครับ
Fact @ 6 November 2014
- อากาศ เขาใหญ่ (Akas Khaoyai)
- Blue Hills Khaoyai Co., Ltd.
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
- คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 48 ยูนิต จำนวน 2 โครงการ
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 8 ยูนิต 1 โครงการ
- ที่ดิน 11-1-85 ไร่ รวมทั้ง 3 โครงการ
- ที่จอดรถ 25 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน หรือคิดเป็น 52%
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2559
- 1 Bedroom 47.8 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 110.8 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.98 ล้านบาทหรือประมาณ 83,000 บาทต่อตารางเมตร
- www.akaskhaoyai.com
- สำนักงานขาย : 091-742-3636
Fact (Update) @ 9 September 2020
- อากาศ วิลล่า เขาใหญ่ (AKAS VILLA KHAOYAI)
- เจ้าของโครงการ : Blue Hills Khaoyai
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนผ่านศึก-กุดคล้า (ถนนหลวงหมายเลข 1016) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
- ขนาดที่ดิน : 4-2-16 ไร่
- จำนวนอาคาร : 3 อาคาร
- จำนวนชั้น
- อาคาร A สูง 1 ชั้น
- อาคาร B สูง 2 ชั้น
- อาคาร C สูง 2 ชั้น
- อาคาร A : 3 ยูนิต
- อาคาร B : 12 ยูนิต
- อาคาร C : 8 ยูนิต
- 2 ห้องนอน ขนาด 130-145 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน ขนาด 145-195 ตารางเมตร
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 14.5546849,101.3087922
คอนโดมิเนียมอากาศ เขาใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา อำเภอปากช่อง บนถนนผ่านศึก-กุดคล้า ที่เชื่อมจากทางเข้าบริเวณ Dairy Home มายังถนนธนะรัชต์ซึ่งเป็นทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ตำแหน่งของแปลงที่ดินจะอยู่ใกล้ๆกับโครงการแสนดาว เขาใหญ่ (สามารถอ่านรีวิวที่คุณบูมไปทำมาได้ที่นี่) โดยโครงการอากาศนั้นจะอยู่ลึกลงไปในหุบเขามากกว่าแสนดาวเล็กน้อย ตามหมุดแดงๆที่ปักไว้ดังภาพนะครับ
เนื่องจากทำเลโครงการตากอากาศอย่างนี้พูดคร่าวๆไปก็เท่านั้น … ผมจะพาทุกท่านไปดูเลยดีกว่าว่าด้านหน้าโครงการ วิวที่ได้ อารมณ์ของคอนโดที่มาขึ้นตรงนี้จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยครับ
เรามาถึงเขาใหญ่กันแล้ว นี่เป็นถนนทางเข้า-ออก ของโครงการอากาศ ที่ตัดลงมาจากถนนใหญ่ผ่านศึก-กุดคล้า โดยจะมีภูเขาอยู่ทางด้านหลังของถนนกั้นระหว่างโซนนี้กับถนนมิตรภาพ
โดยตัวโครงการจะต้องขับรถลงมานิดหนึ่ง สำนักงานขายตั้งอยู่ด้านล่าง หันหน้าไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นทิวเขาชุดใหญ่
ถามว่าทิวเขาหน้าตาเป็นอย่างไร … ก็มาดูภาพต่อไปกันดีกว่านะครับ จะตอบได้ว่าวิวจากชั้น Ground Floor ประมาณนี้ … แต่ตัวคอนโดจะถูกปรับหน้าดินให้สูงขึ้นอีกประมาณ 7 เมตร ดังนั้นก็จะสูงกว่านี้พอสมควรครับ
มาถึงผังกันบ้าง ภาพบนเป็นผังที่ทางโครงการแปะเอาไว้ในสำนักงานขาย จะเห็นถนนที่ตัดลงมาจากด้านบนของผังซึ่งเป็นถนนที่ผมถ่ายภาพให้ดูไปเมื่อครู่นะครับ โดยโครงการ “อากาศ” นี้จริงๆแล้วแบ่งเป็น 3 โครงการย่อย คือ 2 คอนโดมิเนียมและ 1 บ้านจัดสรร โดยมีทางเข้าทั้งสิ้น 3 ทาง แยกเป็น 3 แปลง 3 นิติ แยกกันบริหาร
คอนโด 1 หรือตึก A สูง 7 ชั้น มี 48 ยูนิต, คอนโด 2 หรือตึก B เช่นกันสูง 7 ชั้น มี 48 ยูนิต และโซนวิลล่า 8 หลัง
สถานที่ตามตำแหน่งตัวเลขของโครงการ
- ทางเข้าหลัก (วิลล่า) โดยมีทางเข้ารองของโครงการอยู่ที่บริเวณหมายเลข 9 และ 10 ในแต่ละตึก
- ถนนหลัก
- Drop Off ของตึก B , ของตึก A จะอยู่แถวๆหมายเลข 10
- Lobby และทางเชื่อมสองตึก
- สวน
- ตึก A
- ตึก B
- Villa
- ที่จอดรถตึก B
- ที่จอดรถตึก A
- สระว่ายน้ำ 2 สระ
- ฟิตเนส
ตึกทั้งสองจะหันหน้าไปทางเทือกเขาทั้งสิ้น (ทิศใต้) ไม่มีห้องไหนหันไปทิศอื่น ดังนั้นไม่ต้องกลัวนะครับว่าจะถูกใครมาบังวิวในอนาคต
เช่นเดียวกับวิลล่าทั้ง 8 หลังก็จะหันไปทางทิศใต้ทั้งหมด ถ้าจะบังวิวก็คงจะบังกันเองระหว่างคอนโดกับวิลล่าเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
จุดขายของโครงการนี้ก็คือภาพนี้ … Deck บนชั้น 2 ของวิลล่า ที่หันหน้าไปทางเทือกเขา
โครงการก็ทำของจริงเอาไว้ให้ลองนั่งเล่นดูเลย บนหลังคาของสำนักงานขายนั่นเอง
ถ่ายภาพออกมา แช๊ะ … เป็นอย่างไรครับ ใกล้เคียงภาพจำลองไหม ? ผมว่าโอเคอยู่นะ บ่ายๆแดดเปรี้ยงๆแบบนี้ … ถ้าเป็นช่วงเช้าตรู่ มีหมอกลง น่าจะสวยมาก (เดา)
ชั้นล่างของตึกจะมี Open Air Lobby เอาไว้ต้อนรับ นั่งพัก รับของแขกก่อนขึ้นห้องพัก
หลังจากที่ลูกบ้านจะต้องขับรถลงมาจากทางถนนใหญ่ ผ่านทางเข้าโครงการ ก็จะเจอ Lobby อยู่ทางริมสุดของตึก บริเวณ Drop Off ที่มีรถสีขาวๆนะครับ
ระหว่างบริเวณตึกทั้งสองก็จะมีสระว่ายน้ำซึ่งดูเหมือนว่าเชื่อมต่อกัน แต่จริงๆแล้วไม่ได้ต่อกัน เป็นสระว่ายน้ำ 2 สระ แยกกันระหว่างสองโครงการ สองตึก ไม่ต้องแย่งกันใช้
ที่ตั้งของสระว่ายน้ำก็จะอยู่ประมาณนี้
โดยใกล้ๆกับสระว่ายน้ำก็จะมีฟิตเนส ซึ่งเป็นห้องที่เชื่อมกันระหว่างสองโครงการ สามารถเดินผ่านทะลุไปมาได้
ส่วนถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่าคอนโดจะออกมาเป็นอย่างไร ลองปีนขึ้นไปที่ชั้น 2 ของสำนักงานขาย ก็จะเห็นตึกแสนดาวทั้งสองตึกตั้งอยู่ด้านหลัง … จากมุมมองไม่บังกันแน่นอนดังนั้นไม่ต้องห่วงนะครับ
Floor Plan ชั้น 1 – ที่มั่นใจได้ว่าไม่บังกันเพราะทางโครงการออกแบบ Layout ตึกให้เป็นแบบนี้ … Single Corridor โดยบังคับหันหน้าทางเดียว แถมยังทำ Fin มากั้นระหว่างห้อง ไม่ให้แต่ละห้องมองเห็นกันได้อีก
Floor Plan ชั้น 2-7 จะหน้าตาคล้ายๆกัน โดยแต่ละชั้นจะมียูนิตทั้งสิ้น 7 ยูนิต เป็น 2 Bedrooms 2 ยูนิต และ 1 Bedroom 5 ยูนิต ทุกยูนิตจะวางแอร์คอมเพสเซอร์ของห้องตัวเองอยู่นอกพื้นที่ห้อง เคลียร์พื้นที่ระเบียงให้ใช้งานได้ดีที่สุด รีดประโยชน์จาก Single Corridor มาใช้ครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ แยกกัน 2 ตึก
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง เชื่อมกันระหว่าง 2 ตึก กั้นด้วยบานเลื่อน
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- Single Corridor มีที่วางคอยล์ร้อนของทุกยูนิตอยู่นอกตัวห้อง
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 24 : 1
- Service Lift ไม่มี
- ที่จอดรถ 25 คันต่อ 1 ตึก คิดเป็น 52% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
เรามาดูห้องแรกกันก่อนเลยนะครับ เป็น 1 Bedroom แบบเดียวของโครงการนี้ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 47.8 ตารางเมตร มีชั้นละ 5 ห้อง ตึกละ 35 ห้อง
ทางเข้าห้องเป็นประตูที่ใช้มือจับธรรมดา ไม่ได้ใช้ Digital Doorlock เพราะต้องการคงความเป็นธรรมชาติของคอนโดตากอากาศเอาไว้ แต่ถ้าใครอยากให้ Secure ก็สามารถมาติดตั้งเองได้ทีหลังนะครับ
ภายในห้องพักตกแต่งออกเป็นแนว Modern and Simplistic โดยในห้องพักจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ค่อนข้างครบแต่จะมีเครื่องใช้ไฟฟ้านิดหน่อยเท่านั้น
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องก็จะเห็นกระจกบานใหญ่ก่อนเลย ดึงวิวจากเทือกเขามาต้องรับลูกบ้านที่เปิดประตูเข้าไปทันที
บริเวณด้านหน้าส่วนใกล้กับประตูทางเข้าจะเป็นโซนนั่งรับประทานอาหารและแพนทรี่ครัว โดยเฟอร์นิเจอร์ตู้ครัว ชุดโต๊ะและเก้าอี้ทานข้าว จะมาพร้อมกับห้องพัก เช่นเดียวกับแอร์และไฟแบบ Indirect Light
นั่งมุมนี้ก็โอเคนะครับ แต่ด้วยความที่เป็นห้อง 1 Bedroom โต๊ะทานข้าวก็จะจัดมารองรับขนาด 2-3 คนอย่างมาก ถ้าครอบครัวไหนจะมีสมาชิกมาพักมากกว่านี้ก็ต้องเปลี่ยนหรือหาชุดทานข้าวที่เหมาะสมมากกว่านี้ครับ
ชุดท๊อปครัวเป็นชุดหินสีอ่อนสวยงาม ผนังด้านหลังติดตั้งกระจก Glasskote กันเปื้อน มาพร้อมกับเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน แต่ที่ผมรู้สึกว่าเล็กไปหน่อยก็คือซิงก์ ถ้าขนาดเท่านี้คงจะล้างจานยากหน่อยนะครับ โดยเฉพาะเวลาที่จะมาจัดปาร์ตี้ในวันพักผ่อน
ห้องนั่งเล่นในทางกลับกันทำได้ดีกว่าพื้นที่บริเวณห้องครัว เหมือนว่าทางผู้ออกแบบจะเน้นให้พื้นที่นี้โดดเด่นกว่า จึงยกพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ให้กับห้องนั่งเล่น จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้กว้างขวาง นั่งสบาย ทั้งดูทีวี พิงโซฟา หรือจะชมวิวเทือกเขาก็ตาม
ด้านหลังห้องนั่งเล่นมีบานเลื่อนปิดกั้นห้องนอนซึ่งเวลาเปิดออกมาก็จะเชื่อมพื้นที่ทั้งสองห้องเข้าด้วยกันเป็นห้องใหญ่ ได้มิติห้องที่กว้างขึ้น เหมาะสมกับห้องพักตากอากาศครับ
โดยโครงการจะให้ชุดนั่งเล่น โซฟาและโต๊ะกาแฟมาให้แล้ว
ระเบียงเป็นส่วนทีสำคัญมากสำหรับที่คอนโดอากาศแห่งนี้ ขนาดของระเบียงกว้างเท่ากับพื้นที่ครัวรวมกับพื้นที่รับประทานอาหารเลย เรียกว่าใหญ่มากๆ … ก็ดูวิวสิครับ แหม่ น่านั่งออกอย่างนี้ ถ้าทำระเบียงเล็กๆจะมาสร้างคอนโดที่เขาใหญ่ทำไม??
โดยระเบียงจะจัดทำมาเพียงครึ่งเดียวของความกว้างห้อง ล้อมรอบด้วยราวกันตกที่ทำจากกระจก Tempered Glass แบบไม่มีเฟรม ให้เห็นวิวเชื่อมต่อกันได้ทุกมุม และจุดที่เชื่อมกันระหว่างห้องนี้และห้องข้างๆก็จะสร้างผนังทึบขึ้นมาเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้มาพักอาศัย
รอยต่อระหว่างห้องกับระเบียงทำได้ดีมาก เดินผ่านเฟรมกระจกได้โดยไม่สะดุด ไม่มีความสูงที่เหลื่อมกันระหว่างพื้นด้านในและด้านนอก ตรงนี้ถือเป็นข้อดีนะครับ
คราวนี้เรามาดูห้องนอนกันบ้าง … เช่นเดียวกัน ผนังฝั่งที่หันเข้าหาเทือกเขานั้นเป็นกระจกแทบจะทั้งหมด โครงการจะมีเตียงและโต๊ะหัวเตียงทั้งสองตัวมาให้ แต่จะไม่มีฟูกมาให้นะครับ
ได้นอนมองวิวภูเขาแบบนี้ … เวลาหนาวๆ อากาศดีๆนะ เปิดประตูให้ลมเข้าจะสุดยอดมากๆเลย แต่บ้านเราจะมีอากาศแบบนั้นก็แค่ 2-3 เดือนใน 1 ปี
ชุดบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นแบบนี้ มีขอเกี่ยวใช้ดึงเข้า-ออกได้ ทำให้เก็บบานเลื่อนได้แนบสนิท
นี่เป็นห้องใหญ่ที่รวมกันระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนนะครับ สังเกตว่าไม่มีรางบานเลื่อนที่พื้น มีเฉพาะรางด้านบน เวลาเดินไปมาจะไม่รู้สึกสะดุดเลย
เวลาเลื่อนมาปิดปุ๊บ ก็จะได้ห้องที่มีความเป็นส่วนตัวแบบนี้
ด้านข้างห้องนอนเป็นห้องน้ำแบบ Open … แหม่ ยิ่งกว่า Sexy Bathroom อีกนะครับ ที่นี่เล่นแบบไร้ประตูกันทีเดียว
ด้วยการออกแบบห้องน้ำแบบนี้ ผู้ที่จะมาอยู่อาศัยก็คงจะต้องใกล้ชิดกันสุดๆ หรือไม่อย่างนั้นถ้าครอบครัวไหนไม่ชอบก็ต้องไปทำประตูกั้นทีหลัง ผมแนะนำว่าเป็นกระจก Tempered Glass ติดฟิล์มฝ้า ก็จะช่วยคงอารมณ์ของห้องเอาไว้ แต่จะได้เรื่อง Bathroom Privacy กลับมาครับ
สุขภัณฑ์เลือกมาส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องความสวยงาม เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานจะด้อยลงไปนิดหน่อย อย่างชิ้นนี้ก็สวยแต่ถ้าเปิดน้ำเแรงๆก็จะกระเด็นออกได้ง่ายกว่าซิงก์ทั่วไป
ห้องอาบน้ำทำออกมาได้งดงาม ซ่อนท่อต่างๆไว้ในผนังเกือบหมด พร้อมกับที่วางสบู่ด้านใน ครบถ้วน
ห้องสุขาก็จะกั้นห้องแยกต่างหากจากพื้นที่ห้องน้ำเช่นกัน
ตู้เสื้อผ้าก็อย่างที่เห็นนะครับ แขวนกันโล่งๆแบบไม่มีหน้าบาน … ห้องพักชั่วคราวก็ต้องแบบนี้แหละ … เราไปต่อกันที่ห้อง 2 Bedrooms ดีกว่า
ห้อง 2 Bedrooms ที่นี่ทำออกมาขนาดใหญ่มาก 110.8 ตารางเมตร หากเป็นคอนโดในเมืองก็คงจะกลายเป็นห้อง 3 Bedrooms ไปแล้ว
ประตูก็จะใช้วัสดุเหมือนกับห้อง 1 Bedroom นะครับ แต่ด้วยความที่ห้อง 2 Bedrooms เป็นห้องมุมทั้งสิ้น ประตูก็จะอยู่สุดทางเดินแบบนี้แหละ
เปิดเข้าไปปุ๊บก็จะรู้สึกได้ถึงความแกรนด์ของห้องนี้ โดยทางโครงการได้รวมพื้นที่ใหญ่ๆ 4 ส่วนเอาไว้ด้วยกัน สร้างเป็นพื้นที่เดียวแบบ Open Space คือ
- ห้องนั่งเล่น
- โต๊ะทานข้าว
- ครัวและแพนทรี่
- ระเบียงใหญ่
ผมถ่ายพื้นที่ Open Space จากมุมด้านบนให้ดูนะครับ จะได้เห็นฟังก์ชั่นทั้ง 3 ไม่นับ Outdoor ว่าเชื่อมต่อกันอย่างไร
เริ่มจากห้องนั่งเล่นกันก่อน ที่ใหญ่พอจะวาง Grand Sofa Set ยาวสามเมตร กับ Arm Chair ได้อีก 1 ตัว
และยังเหลือพื้นที่สบายๆที่จะใช้ในการทำกิจกรรมหรือดูทีวี
ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เวลามองออกไปด้านนอกก็จะเห็นวิวเทือกเขาเต็มๆเช่นกัน
ด้วยกระจก 3 บานใหญ่ที่เชื่อมต่อกันเป็นผืนเดียว ก็จะทำให้รู้สึกว่าระเบียงด้านนอกแทบจะเป็นส่วนเดียวกับพื้นที่ด้านในห้อง เรียกว่าเป็นการ Blending Outdoor and Indoor Spaces เข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับพื้นที่โต๊ะทานข้าวและระเบียงด้านนอก
โดยทางโครงการจะใช้เก้าอี้ยาว โต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง และเก้าอี้เล็กอีก 3 ตัว เข้ามาผสมกัน ทำให้ดูกลมกลืนคล้ายๆกับโต๊ะตามร้านอาหารเก๋ๆครับ
ตั้งถังแช่ไวน์กันไว้ เหมือนแนะนำว่าจะต้องให้จิบ อย่างไรก็ไม่ทราบบ
ออกไปชมระเบียงกันหน่อยนะครับ กับพื้นที่ขนาดวางโต๊ะปิงปองได้สบาย
ระเบียงใหญ่ขนาดนี้ ใครชอบนอนก็เอาเตียงมาวาง ใครชอบนั่งทานชากาแฟก็เอาชุดน้ำชามาวาง ใครชอบป๊อกเด้งก็ … อย่าเล่นนะครับการพนันผิดกฏหมาย อิอิอิ
ฟังก์ชั่นถัดมาเป็นชุดครัวพร้อม Island ที่เป็นแพนทรี่และจุดเตรียมอาหาร เอาไว้ปาร์ตี้โดยเฉพาะ ซึ่งด้านบนจะเป็นตำแหน่งของแอร์ที่ซ่อนไว้ใต้ฝ้าทั้งหมดแล้วครับ
ตำแหน่งของครัวนั้นแปลก … แถมมีกระจกมาอยู่ในตำแหน่งแปลกๆอีกด้วย เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้?
เนื่องจากห้อง 2 Bedrooms นั้นเป็นยูนิตห้องมุมทั้งหมด ทั้งด้านหน้า (ทิศใต้) และด้านหลัง (ทิศเหนือ) จึงเป็นพื้นที่เปิดโล่ง สามารถติดตั้งกระจกได้ เพื่อระบายอากาศและเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับห้องครัวครับ
ดังนั้นเราจึงได้ห้องครัวที่มีแสงธรรมชาติและที่ระบายอากาศแบบนี้ล่ะ
สิ่งที่น่ายินดีก็คือ ขนาดเตาที่เพิ่มขึ้นเป็นถึง 4 หัวด้วยกัน แต่สิ่งที่น่าสลดก็คือ ขนาดซิงก์กลับเล็กเท่าเดิม เท่ากับแบบ 1 Bedroom เสียด้วยซ้ำ … จริงๆแล้วเวลาเรามาพักห้องตากอากาศห้องใหญ่ๆ ก็คงอยากจะทำอาหารกินกันเอง หรือเอาอาหารจากข้างนอกเข้ามาทาน หรือจะเป็นเครื่องดื่ม ฯลฯ ซึ่งมันต้องการพื้นที่ซิงก์ขนาดใหญ่ เอาไว้วางจาน ชาม ล้างถ้วย ล้างแก้ว … ถ้าเป็นแบบ 1 Bedroom ก็พอไหว แต่ซิงก์ขนาดนี้กับ 2 Bedrooms 110 ตารางเมตร ผมว่าก็เกินไปหน่อยนะครับ
เสร็จจากพื้นที่ขนาดใหญ่ด้านนอก เราไปดูห้องนอนกันบ้าง เป็นห้องนอนเล็กก่อนเลย
ห้องนอนเล็กที่ไม่เล็กสมชื่อนะครับ มีขนาดใหญ่พอๆกับห้องนอนในห้องแบบ 1 Bedroom มาพร้อมกับชุดตู้เสื้อผ้า เตียง แต่จะไม่มีฟูกให้
ห้องน้ำของห้องนอนเล็กนี้อยู่ด้านนอกห้อง ใช้ร่วมกับพื้นที่ส่วนนั่งเล่น โดยจะเป็นห้องน้ำที่ได้รับแสงธรรมชาติแบบนี้
พอมาถึงห้องน้ำนี้ ได้เห็นซิงก์และเคาน์เตอร์ใหญ่ๆ ผมว่ามีหวังได้ล้างจานกันตรงนี้แหละ 555
ห้องน้ำมีห้องอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ทั้ง Hand และ Rain Shower แบบติดตั้งที่ฝ้า สวยงามและใช้งานได้ดีครับ
สุดท้ายเราจะพาไปดู Highlight ในห้อง Master Bedroom กันบ้างครับ เปิดประตูเข้าไปก็จะพบพื้นที่ด้านหน้าที่เหมือนเป็นโถงของห้องนอน Master แบบนี้
โดยทางขวาจะมีช่องแสงจากทิศเหนือ พร้อมกับทางเข้าห้องน้ำที่ใช้กระจก Tempered Glass มาเป็นบานประตู เน้นโชว์อ่างอาบน้ำและวิวเขาอีกฟากหนึ่ง
ห้องน้ำทำออกมาได้อารมณ์ดีมากครับ ใหญ่ กว้าง ขนาดแทบจะเรียกว่าเป็นห้องนอนเล็กสำหรับคอนโดยุคใหม่ๆได้เลย
โดยจุดเด่นคืออ่างอาบน้ำตรงนี้ ที่เปิดรับวิวภูเขาอีกฝั่งทางทิศเหนือของโครงการ
ซิงก์จะได้เป็นชุดใหญ่พร้อม Counter ยาว
มีห้องอาบน้ำให้ด้วย เผื่อใครไม่อยากแช่อ่าง ก็มีทางเลือกตามปกติครับ
พื้นที่ห้องนอนใหญ่ ได้ขนาดที่สบาย อยู่แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะอึดอัดนะครับ
โดยสุดท้ายผมจะพาไปชมภาพวิวทั้งสามมุมจาก “อากาศ” เป็น คำตอบสุดท้ายของคนที่จะพิจารณาคอนโดตากอากาศแห่งนี้ครับ
ในส่วนของวิลล่านั้น ทางโครงการเตรียมจะทำบ้านตัวอย่าง ซึ่งปัจจุบันยังไม่ก่อสร้าง ดังนั้นผมจะเก็บส่วนนี้เอาไว้ก่อน เผื่อว่าถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีกครั้งหนึ่ง จะเก็บรีวิววิลล่ามาให้ชมอีกทีละครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 November 2014
- 1 Bedroom A102 อาคาร A ชั้น 1 ขนาด 47.8 ตารางเมตร ราคา 4.183 ล้านบาท หรือ 87,530 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom A704 อาคาร A ชั้น 7 ขนาด 47.8 ตารางเมตร ราคา 4.602 ล้านบาท หรือ 96,290 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms A101 อาคาร A ชั้น 1 ขนาด 110.8 ตารางเมตร ราคา 9.31 ล้านบาท หรือ 84,030 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms A701 อาคาร A ชั้น 7 ขนาด 110.8 ตารางเมตร ราคา 10.28 ล้านบาท หรือ 92,720 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จองและทำสัญญา 5%
- ดาวน์ 15% โอน 80%
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เก็บล่วงหน้า 1 ปี
Update 9 September 2020
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว : 13.59 ล้านบาท (ณ สิงหาคม 63)
- ค่าส่วนกลาง : 70 บาท/ตร.ม./เดือน
- ค่ากองทุน : 600 บาท/ตร.ม.
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2021
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
อากาศ เขาใหญ่ เป็นโครงการคอนโดตากอากาศที่มีจุดเด่นอยู่ในเรื่องของทำเล วิวเทือกเขา และการออกแบบตัวตึกที่ทำออกมาได้น่าสนใจ โดยแต่ละตึกจะมีเพียง 48 ห้องเท่านั้น เป็นคอนโดที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ ฟังก์ชั่นทั้งหลายออกแบบมาโดยไม่ได้คำนึงถึงการอยู่อาศัยจริงจังในระยะยาว แต่จะเน้นความสวยงามและเน้นหนักไปที่ฟังก์ชั่นเพื่อความผ่อนคลายเป็นหลัก เช่น ระเบียง ห้องนั่งเล่น หรือห้องน้ำ
ราคาของคอนโดนี้อยู่ระหว่าง 4 – 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่เทียบได้กับการซื้อคอนโดระดับเดียวกันในตัวเมืองกรุงเทพมหานคร แต่ด้วยราคาต่อตารางเมตรที่ต่ำกว่ากรุงเทพ คอนโดตากอากาศอย่างนี้จึงได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าในราคาที่ต้องจ่ายเท่ากัน โดยราคาชั้นล่างสุดและชั้นบนสุดอยู่ห่างกันราว 4-5 แสนบาทสำหรับ 1 ห้องนอน และราว 1 ล้านบาทสำหรับ 2 ห้องนอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของห้องที่อยากได้วิวเทือกเขาจากมุมที่สูงขึ้นหรือไม่ แน่นอนว่าวิวนี้มุมสูงจะสวยกว่า แต่ด้วยราคาที่เพิ่มเข้ามาก็ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับว่าจะยอมจ่ายหรือไม่
โดยรวมแล้วก็สรุปได้ว่าต้องมีเงินเหลือพอสมควรถึงจะมาช๊อปปิ้งคอนโดตากอากาศที่เขาใหญ่ เพราะค่านิยมบ้านเรา ส่วนใหญ่เวลาจะเลือกซื้อบ้านตากอากาศก็จะมองหาทะเลก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งมีให้เลือกทั้งพัทยา หัวหิน และชะอำ ในราคาที่พอเหมาะพอควร ซึ่งข้อดีของทะเลคือไปได้ตลอดปี แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนที่ทะเลจะสวยน้อยหน่อยแต่ก็ยังไปพักผ่อนได้อยู่ดี กลับกันกับเขาใหญ่ที่จะมี Prime Time เพียงปีละ 4 เดือน ตั้งแต่ พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เท่านั้น
นอกจากปัจจัยอื่นๆที่กล่าวมาแล้ว การเลือกซื้อบ้านพักหรือคอนโดตากอากาศ ก็ขึ้นอยู่กับสองเรื่องหลักๆเท่านั้นละครับ หนึ่งคือสตางค์ในกระเป๋า และสองความโดนใจของสถานที่นั้นๆ
Judgement
โครงการบ้านตากอากาศ เราจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ เนื่องจากการซื้อขึ้นกับอารมณ์ เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากกว่าอยู่อาศัย ดังนั้นจะไม่มีคะแนนเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย
- UPPER CLASS
- NOT JUDGED
BOTTOM LINE
ใครชอบคอนโดตากอากาศแนวภูเขา สงบๆ วิวเทือกเขางามๆ ก็ลองพิจารณาอากาศเป็นตัวเลือกได้ครับ ในงบประมาณขั้นต่ำ 4 ล้านบาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ