รีวิวฉบับที่ 1039 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดตากอากาศที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว ตั้งอยู่ที่พัทยาใต้ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก บนถนนพระตำหนัก กับโครงการ Unixx South Pattaya คอนโด High Rise สูง 46 ชั้น ได้วิวทะเล จาก Raimon Land โดยปัจจุบันเหลือห้อง 2 แบบ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ในพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 26.11 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทค่ะ เราไปเที่ยวพัทยาใต้ดูโครงการนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ 🙂

Fact @ 15 March 2016

  • Unixx South Pattaya (ยูนิกซ์ เซาท์ พัทยา )
  • Raimon Land Unixx Co., Ltd.
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : อ.บางละมุง
  • คอนโด High Rise 46 ชั้น 1,207 ยูนิต และ 2 ยูนิตร้านค้า
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 31 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 363 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 30%
  • ที่ดินประมาณ 7-0-16 ไร่
  • สร้างเสร็จแล้ว : Q4 2015
  • 1 Bedroom 26.11 – 35.10 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 52.26 – 62.64 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.7 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 81,500 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุดประมาณ 68,850 – 94,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-651-9600

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.919670, 100.869314

ที่ตั้งโครงการ ตั้งอยู่แถบพัทยาใต้ บริเวณทางขึ้นเข้าพระตำหนัก บนถนนพระตำหนัก ห่างจากแหลมบาลีฮายไปประมาณ 1 กม.

พัทยา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแหล่งที่ฮอตฮิตขึ้นชื่อในเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีหาดทรายและชายทะเลติดอันดับนานาชาติ ด้วยบรรยากาศที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน มีหาดและทะเลที่ยังคงความสวยงามอยู่ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติด้วยนอกเหนือจากคนไทยด้วยกัน โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันชาวต่างประเทศที่นิยมมาพัทยาอย่างเห็นได้ชัดคือ ชาวรัสเซีย และชาวจีน ทำให้อสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดวิวทะเล คอนโดติดทะเลบ้างนั้นขึ้นมาให้เห็นค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ

สำหรับเมืองพัทยานี้ เป็นเมืองที่มีเขตการปกครองพิเศษแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีระดับเทียบเท่ากับเทศบาลบาลนคร โดยถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการเมืองพัทยา ในส่วนของเมืองนี้จะถูกแบ่งให้เห็นชัดๆ เลยเป็น 4 ส่วน ได้แก่ พัทยาเหนือ, พัทยากลาง, พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน โดยมีระยะห่างจากกรุงเทพมหานครไปประมาณ 150 กม. ซึ่งใช้การเดินทางมาจากทางถนนมอเตอร์เวย์ (ทล.7) เข้าถนนสุขุมวิท (ทล.3) เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้ในการเดินทางในเมืองพัทยา ซึ่งจะมีถนนพัทยาเหนือ กลาง ใต้ และถนนเทพประสิทธิ์มาตัดเข้าอีกที

ลองซูมเข้ามาอีกนิดเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันนะคะ ตำแหน่งโครงการเลยตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คอนโดที่ติดริมหาดเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้เลยนะคะ แต่จะเป็นคอนโดชมวิวทะเลค่ะ ถ้าวิเคราะห์ทำเลโครงการนี้ซึ่งอยู่บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก ที่อยู่แถบๆ แหลมบาลีฮายนั้นจะเป็นทำเลที่อยู่ห่างออกมาจากหาดพัทยาพอสมควร ซึ่งก็ต้องขับรถไม่ก็ขี่มอเตอร์ไซต์ออกไปยังหาดพัทยาใต้ โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม. หรืออีกหาดนึงที่ค่อนข้างสงบหน่อยและมีระยะทางพอๆ กับไปหาดพัทยาใต้ก็คือหาดราชวรุณ (Cozy Beach) ที่อยู่ในเขตเขาพระตำหนักนี่เองค่ะ โดยมีระยะห่างประมาณ 1.6 ม.

สภาพแวดล้อมบริเวณโครงการจะค่อนข้างเงียบสงบ ไม่คึกคักมากนัก เหมือนโครงการที่อยู่ริมหาดและใจกลางเมืองพัทยา และนั่นก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาที่พักอาศัยที่มีความสงบหน่อย ไม่คึกคักวุ่นวายมากเกินไป แต่ก็ยังเดินทางไปหาดได้ไม่ยากนัก สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้นก็ยังเป็นรองทำเลแถบใจกลางเมืองพัทยา หรือแถบริมหาดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าแห้งแล้งขาดแคลนซะทีเดียวนะคะ เพราะยังมีร้านค้าข้างทางพอให้เห็นอยู่บ้าง และยังมีร้านค้าร้านอาหารบนเขาพระตำหนัก รวมทั้งใครจะขับไป Walking Street ก็ไม่ไกลมากนักค่ะ ส่วนห้างที่จะใช้จับจ่ายซื้อของก็จะมี Big C พัทยาใต้ไว้คอยบริการอยู่ตรงหัวมุมจุดตัดกับถนนสุขุมวิทค่ะ

การเข้าถึงโครงการ Unixx South Pattaya นี้สามารถเข้าถึงได้ 3 ทางหลักๆ คือ

  • ถนนพัทยาใต้ เลี้ยวซ้ายเข้ามาจากถนนสุขุมวิท ตัดเข้าถนนพัทยาสาย 3 จากนั้นก็เลี้ยวเข้าถนนพระตำหนักบริเวณทางขึ้นเขาพระตำหนักค่ะ
  • ถนนเทพประสิทธิ์ เลี้ยวซ้ายเข้ามาจากถนนสุขุมวิทเช่นเดียวกัน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนทับพระยา และเลี้ยวเข้าซอยทับพระยา 4 ได้
  • ลัดเข้าซอย พัทยาใต้ 1 ทะลุออกซอยกอไผ่ 4 แล้วเชื่อมเข้าถนนพัทยาสาย 3 จากนั้นก็ตัดเข้าถนนพระตำหนักค่ะ

เรามาดูในลักษณะกายภาพกันบ้างนะคะ ด้วยลักษณะกายภาพนี้ถือเป็นอีกปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อกับเรื่องของวิวโครงการ จากทำเลโครงการที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาพระตำหนักนี้ วิวที่จะได้เห็นน่านน้ำทะเลเลยจริงๆ ก็จะเป็นทางทิศเหนือ วิวทะเลบริเวณแหลมบาลีฮายไปจนถึงหาดพัทยา ส่วนทางฝั่งทิศตะวันตกจนถึงทิศใต้นี้นอกจากจะไกลจากทะเลมากกว่าแล้วก็จะโดยเขาพระตำหนักบังวิวทะเลไปบ้าง ซึ่งจะต้องซื้อห้องที่มีความสูงพ้นยอดเขาพระตำหนักไปแล้ว ก็จะประมาณ 20 ชั้นขึ้นไปค่ะ

สำหรับการเดินทางของเราในวันนี้ เริ่มต้นจากถนนมอเตอร์เวย์ ทล.7 มาจากกรุงเทพฯ ตรงมาตัดกับถนนสุขุมวิท ทล.3 ที่ยาวตั้งแต่เหนือ-ใต้ของเมืองพัทยา แล้วเลี้ยวเข้าถนนพัทยาใต้ เชื่อมเข้าถนนพัทยาสาย 3 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระตำหนัก เลยจากแยกประมาณ 120 ม. จะเห็นโครงการอยู่ริมถนนทางซ้ายมือค่ะ

เริ่มต้นกันบนถนนมอเตอร์เวย์ บริเวณแยกที่เชื่อมกับถนนสุขุมวิท จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปทางพัทยากลางค่ะ ส่วนหากเลี้ยวขวาก็จะไปทางพัทยาเหนือ, แหลมฉบัง

จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ บนถนนสุขุมวิท ทล.3 เมื่อถึงแยกที่ตัดกับถนนพัทยาใต้แล้วให้เลี้ยวขวาค่ะ

เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาถนนพัทยาใต้แล้ว จะเห็นว่าสภาพบรรยากาศสองฝั่งข้างทางจะค่อนข้าง Local ค่ะ ไม่เหมือนกับพัทยากลาง หรือ พัทยาเหนือ ที่จะออกเป็นแนว Touristy มากกว่า เป็นแบบร้านค้า ตึกแถว แนวดั้งเดิม ความคึกคักวุ่นวายของเมืองก็จะไม่มากเท่ากับพัทยากลาง-พัทยาเหนือ (แต่ก็ยังถือว่าคึกคักอยู่นะ เพราะอยู่ใจกลางเมืองเลย) บริเวณด้านหน้าทางเข้าถนนพัทยาใต้นี้จะมี Big C เป็นห้างใหญ่ไว้สำหรับจับจ่ายซื้อของใช้ของสดกันได้ค่ะ

ตรงเข้ามาอีกหน่อยจะเห็นซอยพัทยาใต้ 1 ซึ่งสามารถทะลุเข้าไปออกถนนพัทยาสาย 3 ได้ ซึ่งถ้าถนนพัทยาใต้นี้ค่อนข้างรถติดก็สามารถใช้ทางนี้เป็นทางลัดได้นะ แต่เดี๋ยวเราจะตรงไปก่อนค่ะ

เมื่อตรงมาอีกหน่อยจะถึงสี่แยกตัดกับถนนพัทยาสาย 3 แล้วค่ะ โดยเราจะเลี้ยวซ้ายกัน

เมื่อเลี้ยวเข้ามาถนนพัทยาสาย 3 แล้วตรงมาเรื่อยๆ สักพักจะเห็นทางแยก โดยเราจะเบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนพระตำหนัก ส่วนฝั่งขวาจะเป็นสะพานยกระดับตรงไปแหลมบาลีฮาย

เมื่อถึงทางแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระตำหนัก

ตรงเข้ามาประมาณ 120 ม. ก็จะเห็นโครงการฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ ^^

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมบริเวณโครงการจะรายล้อมด้วยโครงการพักอาศัยต่างๆ ทั้งโรงแรม คอนโด หอพัก ซึ่งไม่ได้ส่งผลกับเรื่องวิวของโครงการนะคะ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วเป็นอาคาร Low Rise ทั้งหมด ในเรื่องของการเดินทางนั้นทางโครงการได้ออกแบบไว้ให้สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ด้าน คือจากถนนพระตำหนักซึ่งเป็นทางเข้าออกหลัก และทางรองที่เข้ามาได้จากทางถนนทับพระยาลัดเข้าซอยทับพระยา 4 ก็ได้เช่นกันค่ะ ไม่ต้องไปอ้อมเข้าถนนพัทยาสาย 3 อีกทีค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วัดเขาพระบาทพัทยา ~700 ม.
  • อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ~900 ม.
  • แหลมบาลีฮาย ~1 กม.
  • หาดพัทยาใต้ ~1 กม.
  • เซนทรัลเฟสติวัล พัทยา ~2.4 กม.
  • Pattaya Park Water World ~2.4 กม.
  • Big C พัทยาใต้ ~3 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Unixx South Pattaya คอนโด High Rise 1 อาคาร มี 2 ฝั่ง โดยมีความสูงแตกต่างกัน ฝั่งที่ด้านหน้าใกล้ถนนพระตำหนักจะมีความสูง 42 ชั้นและอีกฝั่งสูง 46 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,207 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ลักษณะการออกแบบตัวอาคารจะค่อนข้างเรียบง่ายไม่หวือหวา สไตล์ Modern มีกลิ่นอาย Comtempory จาก Mood tone ของสีที่ใช้เป็นสีเฉดขาว-ครีม-น้ำตาล

ก่อนเข้าไปดูภายในโครงการกันจะขออธิบายผังโครงการก่อนนะคะ จากที่ดินโครงการที่มีขนาดประมาณ 7 ไร่กว่า จากหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ Commercial เล็กๆ ซึ่งมียูนิตร้านค้าที่เป็นทรัพย์สินของ Raimon Land นะคะไม่ใช่ของตัวโครงการ ถัดมาในส่วนพื้นที่ส่วนกลางได้มาขนาดค่อนข้างใหญ่และจัดสรรพื้นที่ได้ค่อนข้างลงตัวดี โดยจะมีสนามหญ้า, สระว่ายน้ำยาวประมาณ 33 ม. พร้อมเครื่องเล่น และพื้นที่นั่งเล่นริมสระ, สนามเด็กเล่น และพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง

ถัดมาในส่วนของพื้นที่อาคาร เมื่อเข้ามาจากด้านหน้าโครงการผ่านป้อมยามตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเห็นจุด Drop Off อยู่หน้าทางเข้า Lobby เมื่อเข้ามาด้านในสำหรับชั้นล่างนี้ จะเป็นแปลนยาวๆ มีพื้นที่ส่วน Facilities อย่าง Fitness พร้อมห้องน้ำและห้องซาวน่าภายในอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นส่วนของ Lobby เชื่อมกับโถงลิฟต์โดยสาร ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่จอดรถที่สามารถรองรับจำนวนรถภายในโครงการได้ทั้งหมดประมาณ 363 คัน คิดเป็น 30% ของทั้งโครงการ

เข้ามาภายในโครงการจะเห็นยูนิตร้านค้าทางขวามือ โดยปัจจุบันมีร้านมาเช่าเป็นร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่มีเสริฟทั้งขนมหวานและชากาแฟค่ะ โดยกรรมสิทธิ์ของยูนิตร้านค้านี้จะเป็นของทาง Raimon Land นะคะ ไม่ได้เป็นของโครงการ

เราตรงเข้ามาทางถนนทางเข้าหลัก ซึ่งจะเจอกับส่วนป้อมยามและจุดทางเข้า ที่เป็นไม้กระดกอัตโนมัติ

บริเวณไม้กระดกอัตโนมัติ จะมีกล้อง CCTV ส่องหน้ารถให้ทั้งสองฝั่งขาเข้า-ออก ในส่วนของระบบการเข้า-ออก ใช้เป็น Key Card Access ระยะใกล้ค่ะ

ผ่านจุดเข้า-ออกมาแล้ว ด้านซ้ายจะเป็นพื้นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์หรือพื้นที่จอดจักรยานค่ะ หลักๆก็จะมีประมาณ 7 บล็อกให้จอดได้ ซึ่งสามารถจอดได้หลายคันเลยค่ะ ซึ่งก็ค่อนข้างตอบสนองการใช้งานของคนในพื้นที่ที่มักนิยมใช้มอเตอร์ไซต์ในการเดินทางไปไหนมาไหนในละแวกนี้ เพราะมีความคล่องตัวในการเดินทางที่มากกว่าและสามารถเลี่ยงรถที่ค่อนข้างติดในละแวกนี้ได้

อีกด้านเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งจัด Landscape ออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ โดยพื้นที่ที่ติดกับถนนทางเข้านั้นจะเป็นสนามหญ้า อเนกประสงค์ สามารถเดินเล่น นั่งเล่นพักผ่อนได้ในช่วงเช้าและเย็น ส่วนทางเดินตัดลัดสนามหญ้าไปนี้จะตรงไปยังสระว่ายน้ำลัดการเดินทางให้เข้าถึงส่วน Facilities ได้ง่ายขึ้นค่ะ

กลับมายังถนนหลักจะตรงไปยังจุด Drop Off หน้าโครงการ ส่วนด้านข้างเป็นทางเดินหลักไปยังส่วน Facilities

การจัด Landscape ทางเดินจัดให้เป็นทางเดินคดเคี้ยวเล็กน้อย เพื่อเพิ่มระยะทางเดินให้มากขึ้นและดูสวยงามไม่เรียบง่ายจนเกินไป ด้านข้างปลูกต้นลีลาวดีและต้นปาล์มให้มีพื้นที่สีเขียวสบายตา และดูร่มรื่นมากขึ้น

บริเวณนี้จะเป็นจุด Drop Off โครงการนะคะ ปัจจุบันมีการตั้งกรวยและบล็อกคอนกรีตไว้ชั่วคราวก่อนเพื่อทำเป็นวงเลี้ยวรถ

บริเวณหน้าทางเข้า Lobby มีการยื่นกันสาดโครงสร้างเหล็ก ระแนงไม้ออกมาให้ร่มเงาได้บ้าง และดูสวยงามดีค่ะ ต่อไปเราจะพาเดินไปดูรอบๆ โครงการและพื้นที่จอดรถก่อนนะคะ ค่อยกลับเข้ามาดูภายในอาคารกันต่อ

เดินมาด้านหลังโครงการจะเห็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งด้านข้างโครงการ

ในทิศตะวันออกเฉียงใต้นี้จะติดกับอาคารสูง 8 ชั้น

ด้านข้างเป็นทางเข้า-ออกไปยังส่วนพื้นที่จอดรถภายในอาคาร ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชั้น สามารถจอดรถได้ทั้งหมดทั้งโครงการรวมแล้วประมาณ 363 คันค่ะ

ถัดจากทางเข้า-ออกที่จอดรถจะมีที่จอดรถด้านข้างซึ่งใช้เป็นจุด Loading Area ส่วนรถสองแถวนี้เป็นรถ Shuttle Service ของโครงการค่ะ

ซึ่งมีตารางเวลาในการรับ-ส่งลูกบ้าน และตำแหน่งที่จะจอดรับ ซึ่งจะรับส่งทุกวันตั้งแต่ 10.00-18.00 ค่ะ

เดินตรงมาจะเห็นอาคารสูง 8 ชั้นอยู่ติดรั้วโครงการ ในทิศตะวันตก

บริเวณนี้ทำเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งทั้ง 2 ข้างทาง ส่วนถนนนี้จะยาวไปทะลุออกซอยทับพระยา 1 ได้ค่ะ ถือเป็นทางเข้า-ออกรองของโครงการ

และฝั่งที่ติดกับอาคารสูง 8 ชั้น ก็ทำเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้งเช่นเดียวกัน

เงยหน้าขึ้นไปดูตึก บริเวณด้านบนที่จอดรถเป็นพื้นที่ส่วน Facilities ส่วนการตกแต่งรูปด้านของส่วนชั้นจอดรถจะตกแต่งด้วยแผงเหล็กและตะแกรงเหล็กสีเทา ซึ่งหากมีการปลูกไม้เลื้อยขึ้นไปก็น่าจะดูสวยงามสดชื่นดีค่ะ

มีทางเดิน Jogging Track เล็กๆ ตรงยาวไปยังส่วน Facilities ด้านหน้าโครงการ

สุดทาง Jogging Track จะแยกออกเป็น 2 ทาง ซ้ายเป็นทางอ้อมด้านหลังไปยังส่วนพื้นที่นั่งพักผ่อน ส่วนขวาแยกไปยังสระว่ายน้ำและสามารถตรงไปยัง Lobby ได้

หันกลับมาจะเห็นสนามเด็กเล่น มีเครื่องเล่นให้อยู่ 3 เครื่องเล่น ทั้งชิงช้า ราวไต่ และ Slider ค่ะ โดยทำพื้นที่นี่เป็นบ่อทรายสามารถลดการบาดเจ็บจากการล้มของเด็กๆ ได้

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ ด้านข้างเป็นพื้นที่ Day Bed สำหรับนอนเล่นอาบแดดได้

ด้วยจำนวนของ Day Bed ที่ให้มาค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่ว่าเยอะแล้วก็ถือว่าให้มาเพียงพออยู่นะคะ โดยจะแบ่งเป็นส่วนที่ติดกับสระเลย และบางส่วนที่มีการยกสเต็ปขั้นขึ้นไป ในส่วนนี้หากใครที่ไม่ได้จะนอนอาบแดด หรือพักจากการว่ายน้ำก็มาใช้งานได้นะคะ เพราะนอกจากจะมี Day Bed แล้วยังมีชุดโต๊ะที่นั่งแบบ Outdoor ให้นั่งเล่นเพลินๆ ได้

พื้นที่นั่งเล่นบางส่วนยกสเต็ปเป็นขั้นบันไดขึ้นไปชั้นบน ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นหน่อย

อีกมุมนึงของสระมีหินผาจำลองไว้ให้ปีนป่ายได้ด้วยค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity Edge Pool ซึ่งมีความยาว 33 ม. สามารถเล่นน้ำและว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ ค่ะ

อีกด้านนึงของสระว่ายน้ำปลูกต้นปาล์มเป็นแถวช่วยเพิ่มความร่มเงาได้ดี

บันไดขึ้น-ลงสระว่ายน้ำ เดินได้สะดวกดีค่ะ

ด้านในสุดที่เป็นสระรูปวงกลมจะเป็นสระ Jacuzzi ให้ด้วย

และติดกับสระ jacuzzi เป็นไฮไลท์ของสระชั้นล่างนี้ คือ Silder ขนาดใหญ่ ซึ่งต้องขึ้นบันไดไปยังหอด้านบนแล้วสไลด์ลงมา เชื่อว่าเด็กๆ จะต้องชื่นชอบแน่นอนค่ะ

ด้านหลังสระ jacuzzi แยกเป็น 2 ทางเดิน ทางซ้ายสามารถเดินไปยังยูนิตร้านค้าหน้าโครงการได้

และอีกด้านเป็นพื้นที่ Shower ล้างตัวก่อนและหลังว่ายน้ำ

พื้นที่นั่งเล่นบริเวณใกล้ๆ สระ jacuzzi ลูกบ้านสามารถสั่งเครื่องดื่มจากยูนิตร้านค้าหน้าโครงการให้มาเสริฟบริเวณนี้ได้ด้วยนะคะ

บรรยากาศสระว่ายน้ำที่มองจากพื้นที่นั่งเล่น ดูน่าใช้งานและมีบรรยากาศรอบข้างเป็นพื้นที่สีเขียวร่มรื่นดีค่ะ

พื้นที่ทางเดินอีกด้าน ริมสระว่ายน้ำ

ส่วนด้านข้างเป็นพื้นนั่งเล่นอีกจุดมีร่มให้ด้วย ซึ่งพื้นที่ Day Bed ในจุดนี้จะไกลจากสระว่ายน้ำอยู่หน่อยหากจะเดินไปเล่น แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นหน่อยค่ะ เพราะเค้าจัดให้เป็นชุด Day Bed 2 ที่นั่งและกั้นด้วยพุ่มไม้ให้

เดินออกมาจากโซนสระว่ายน้ำ เดินตรงไปจะเป็นส่วนของห้องน้ำรวมค่ะ

ต้องเดินลงบันไดไปเลี้ยวขวาจะเป็นห้องน้ำแยกหญิง-ชายแล้วค่ะ ส่วนเลี้ยวไปตามทางลาดทางซ้ายจะเป็นทางเดินเพื่อไปเข้าส่วน Lobby ค่ะ

ห้องน้ำแยกชาย-หญิงและมีห้องน้ำสำหรับคนพิการให้

ภายในห้องน้ำบริเวณอ่างล้างมือ

มีห้องอาบน้ำและห้องส้วมอย่างละ 2 ห้อง

ภายในห้องอาบน้ำและห้องส้วม สะอาดน่าใช้งาน

และมีห้องซาวน่าให้ใช้ด้วยค่ะ

เดินออกมาเพื่อเข้าสู่โถง Lobby จะผ่านโซนเครื่องออกกำลังกายแบบ Outdoor

จากนั้นเข้ามาในส่วนของโถง Lobby ตกแต่งในสไตล์เรียง่ายโทนสีเทา น้ำตาล ดูให้ความรู้สึกอบอุ่น ด้านข้างเป็นพื้นที่นั่งคอยและตรงไปในสุดจะเป็นเคาน์เตอร์ Reception ค่ะ

มีพื้นที่นั่งรอเป็นชุดโซฟาประมาณ 4-5 ชุด ไว้สำหรับลูกบ้านได้ใช้นั่งเล่น หรือสำหรับผู้ที่เข้ามาติดต่อพบลูกบ้านไว้นั่งคอย

อีกด้านเป็นส่วนของห้องนิติบุคคล ซึ่งปัจจุบันเป็นสำนักงานโครงการอยู่ค่ะ

ด้านข้างทำเป็นผนัง Mail box ตามทางเดินไปเรื่อยๆ

สุดทางฝั่งขวามือคือห้อง Fitness ของโครงการค่ะ

ภายในห้อง Fitness โครงการค่อนข้างโปร่งโล่งดี เนื่องจากรอบด้านเป็นกระจกใสสูงจากพื้นจนถึงฝ้าเพดาน มีเครื่องออกกำลังกายมากพอสมควร ประมาณ 14 เครื่อง ซึ่งก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานอยู่ค่ะ ถ้าเทียบว่ามีการเฉลี่ยการใช้งานกับ Facilities ส่วนอื่นๆ ด้วย

อีกด้านเป็นโซนเวททั้งหมด ผนังทำเป็นตู้ Built-in ไว้เก็บของภายใน ส่วนบริเวณบานเลื่อนก็ทำเป็นกระจกให้

เดินมาฝั่งตรงข้ามตึกของห้อง Fitness ใกล้ส่วน Reception จะเป็นโถงเล็กๆ แจกไปยังห้องประชุม ที่จอดรถและโถงลิฟต์ค่ะ

ภายในห้องประชุมมีโต๊ะประชุม 1 โต๊ะใหญ่ มีที่นั่งรองรับประมาณ 6-7 ที่นั่ง

บริเวณโถงลิฟต์ของโครงการจะสุดทางเดินจะเป็นกระจกขนาดใหญ่ช่วยให้บริเวณโถงลิฟต์ดูสว่าง ส่วนจำนวนลิฟต์โดยสารทั้งหมดของโครงการมีทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็นฝั่งซ้าย 3 ตัวและฝั่งขวาอีก 1 ตัวค่ะ

ลักษณะของลิฟต์จะเป็น Proxy Lift หรือลิฟต์ล็อกชั้นโดยจะต้องสแกนบัตรห้องพักก่อนจึงจะสามารถกดชั้นห้องพักของตัวเองได้ค่ะ ส่วนชั้น Facilities กับชั้น G จะไม่ได้ถูกล็อกนะคะ ดังนั้นไม่ต้องสแกนบัตรก็กดได้เลยค่ะ

จากชั้น 1-5 ที่เป็นชั้นจอดรถ ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยค่ะ และในชั้นนี้นอกจากจะเป็นชั้นพักอาศัยแล้วยังมีส่วน Facilities ด้วยค่ะ สำหรับตำแหน่งของ Facilities นี้อยู่ทางทิศที่หันหน้าไปยังเขาพระตำหนักซึ่งห้องพักชั้นล่างๆ ก็จะไม่ได้เห็นวิวของทะเลฝั่งจอมเทียน ดังนั้นวางตำแหน่งให้เป็นส่วน Facilities จึงยังพอทดแทนวิวทะเลได้บ้างค่ะ ส่วนของ Facilities นี้จะประกอบไปด้วย สวน 2 แบบ คือสวนสไตล์ Zen และสวนสมาธิ มีพื้นที่นั่งเล่นเป็นศาลาอยู่ 3 จุด และสระว่ายน้ำค่ะ

ในส่วนของภายในอาคารมีลักษณะการวางผังเป็นรูปตัว L แบหน้าออกเพื่อให้ได้มุมมองทะเลมากขึ้น ตำแหน่งของลิฟต์โดยสารจะอยู่ตรงกลางเพื่อให้ลูกบ้านทั้ง 2 ฝั่งไม่ต้องเดินไกลไปฝั่งใดฝั่งนึงค่ะ และยังมี Double Access คั่นระหว่างฝั่งทั้ง 2 ฝั่ง เนื่องจากในชั้นนี้เป็นชั้นที่มี Facilities ด้วย ดังนั้นลูกบ้านทุกชั้นจึงสามารถขึ้นมาในชั้นนี้ได้ ดังนั้นการทำ Double Access เพิ่มจึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและดูแลความปลอดภัยกันได้มากขึ้นด้วย ในส่วนความหนาแน่นโครงการนั้น เมื่อเทียบกับอัตราส่วนลิฟต์ต่อยูนิตโครงการจะอยู่ที่ 301.75 : 1 ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นสูงมาก อาจจะเกิดปัญหาแน่นอนคือการรอลิฟต์ที่ค่อนข้างนาน แต่ยังดีที่ตัวโครงการเป็นโครงการคอนโดพักตากอากาศ ดังนั้นส่วนใหญ่คนที่มาอยู่จะเน้นการมาพักผ่อนเสียมากกว่ามาทำงาน ซึ่งยังพอลดปัญหาการรอลิฟต์นานๆ ในช่วงเวลาเร่งด่วนได้บ้างค่ะ

จากโถงลิฟต์ตรงกลาง จะแบ่งปีกอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง

ฝั่งขวามีประตูกั้นไว้เรียบร้อยสำหรับลูกบ้านในฝั่งนี้ต้องสแกนบัตรเข้าค่ะ

เดินเลี้ยวมาฝั่งซ้าย ตรงไปเป็นห้องพักฝั่งปีกซ้ายซึ่งต้องสแกนบัตรผ่านเช่นกัน แต่เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาเข้าไปยังส่วน Facilities กันค่ะ

เดินออกมา ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชาย-หญิง

ฝั่งซ้ายจะเจอกับสวนและบริเวณ Day Bed นั่งพักผ่อน

ขั้นบันไดปูด้วยกระเบื้องลายไม้ และซอยขั้นเป็นขั้นเล็กๆ ซึ่งค่อนข้างง่ายกับการสะดุดล้มมากๆ เพราะสีของไม้ทำให้มองไม่เห็นขั้นบันไดถนัดนัก ทางโครงการจึงมีการติดเทปสีบริเวณจมูกบันไดให้เพื่อลดอันตรายที่เกิดจากการสะดุดล้ม

ด้านข้างใกล้สวนมีการกั้นรั้วขึ้นมาและทำเป็นซุ้มทางเข้า-ออก เพื่อเป็นทางเดิน Private สำหรับลูกบ้านที่อยู่ห้องติดริมสวน ซึ่งสามารถลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้เลย โดยไม่ต้องเดินออกมาจากห้องผ่านโถงทางเดินในอาคาร

สวนบริเวณนี้เป็นสวนสมาธิ หรือ Meditation Garden ปูหญ้าเรียบง่าย

ถัดมาจะเป็นทางเดินไปยังส่วนพื้นที่นั่งเล่น

รอบๆ พื้นที่นั่งเล่นที่ทำเป็นซุ้มๆ นั้นจะปลูกไผ่รายล้อมไว้ เพื่อให้เกิดการบังสายตาจากคนภายนอกได้บ้าง โดยพื้นที่นั่งเล่นนี้เรียกว่า (Meditation Pavillions)

ก่อนจะขึ้นไปยังซุ้มจะมีทางเดินเป็นสเต็ปขั้นบันไดขึ้นไป เพื่อเปลี่ยนถ่ายความรู้สึกให้นิ่งสงบมากขึ้น

ภายในจัดเป็นโต๊ะสนามนั่งได้ 4 ที่นั่ง ใครที่ต้องการสมาธิหรือพื้นที่เงียบๆ ในการคิดงานหรืออ่านหนังสือก็สามารถมาใช้พื้นที่นี่ได้นะคะ ^^

ริมขอบอาคารกั้นด้วยราวกระจกกันตก

สำหรับห้องพักในชั้น 6-8 นี้ ก็จะถูกเพื่อนบ้านบังวิวเขาพระตำหนักมิดอยู่นะคะ

กลับมาที่สวนอีกสวนนึง ชื่อว่าสวน Zen เน้นความเรียบง่าย มีการใช้เส้นสายความโค้งมน และใช้ทรายสีขาวบ้างบางจุด ให้ใกล้เคียงกับสวน Zen ซึ่งจุดประสงค์ของสวน Zen นี้คือเรื่องของความสงบ และความนิ่งเป็นหลักค่ะ

เดินถัดมาด้านข้างสระว่ายน้ำมีพื้นที่ Shower ไว้สำหรับล้างตัวก่อน-หลัง ว่ายน้ำ

มีโต๊ะสนามพร้อมที่นั่งไว้นั่งชิลๆ ริมสระ

สำหรับสระว่ายน้ำในชั้นนี้มีความยาวประมาณ 20 ม. และมีระบบ Jet Steam ให้ด้วยค่ะ ลักษณะการวางแปลนสระว่ายน้ำคือหันหน้าไปยังวิวเข้าพระตำหนักชัดเจน

ก้มลมไปมองส่วนปลายสระว่ายน้ำ วิวที่เห็นคือจะเห็น Facilities ในชั้นล่างเลยไปจนถึงเขาพระตำหนัก

ตัวอาคารที่โอบล้อมสระว่ายน้ำอยู่จะสามารถช่วยบังแดดได้บ้างในตอนเช้า แต่ส่วนตอนบ่ายไปจนถึงเย็นนั้นไม่สามารถบังแดดได้เลยเพราะสระว่ายน้ำอยู่ในทิศตะวันตก รับแดดเต็มๆ

ส่วนด้านข้างสระอีกด้านเป็นพื้นที่ Day Bed ยาวไปตลอดสระเลยไปจนถึงสวน Zen

ส่วนห้องพักในชั้นนี้ที่อยู่ติดกับสวนเลยจะสามารถเข้าถึงสวนได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินผ่านโถงทางเดินในอาคาร

โดยสามารถขึ้น-ลงบันไดหน้าระเบียงห้องตัวเองได้เลยค่ะ

จากนั้นเราขึ้นมาดูสวนหย่อมกันต่อบนชั้น 37 ค่ะ และจะมีสวนหย่อมอีกจุดเหมือนกันบนชั้น 41 แต่จะอยู่อีกฝั่งนึงของอาคารนะคะ

สวนหย่อมในชั้นบนนี้จะไม่ได้เน้นปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มรื่นนะคะ แต่จะเป็นการปูหญ้า และมีปลูกต้นลีลาวดีในกระถาง 2 ต้น ซึ่งสวนหย่อมนี้จะเน้นไปที่การชมวิวทะเลบนอาคารสูงมากกว่า

บริเวณสวนหย่อมนี้ลูกบ้านสามารถมานั่งเล่น หรือยืนชมวิวเพลินๆ ได้ ยิ่งในช่วงเย็นๆ สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกกันได้เลยค่ะ เพราะสวนหย่อมฝั่งนี้อยู่ทางทิศตะวันตกพอดี

อีกฝั่งมีศาลาเล็กๆ อยู่ในไปนั่งเล่นกันได้ แต่ไม่ได้กันแดดกันฝนนะคะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูวิวจากโครงการกันบ้างค่ะ โดยวิวที่ถ่ายมีความสูงอยู่ที่ 37 ชั้นนะคะ

ทิศ A หรือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ วิวที่ได้จะเป็นวิวแหลมบาลีฮายยาวไปจนถึงโค้งของหาดพัทยา ส่วนด้านซ้ายก็ยังเห็นวิวพื้นที่สีเขียวจากเขาพระตำหนักค่ะ โดยทิศนี้ถือเป็นวิวเด่นสุดของโครงการค่ะ

ทิศ B หรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในชั้นที่เลยความสูงของเข้าพระตำหนักมาแล้วนั้น วิวที่ได้จะเห็นพื้นที่สีเขียวจากเขาพระตำหนักอยู่ด้านหน้า (Foreground) มีวิวอาคารสูงอยู่ประปรายถัดมาและยังเห็นทะเลอยู่ไกลๆ ค่ะ

ทิศ C หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นเขาพระตำหนักบ้างและบ้านพักอาศัยแนวราบ ซึ่งไม่ถูกบังวิวมากนักสามารถมองไปได้ไกลเห็นน้ำทะเลแถบจอมเทียน

ทิศ D หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เลยไม่ถึงทิศใต้จะเป็นวิวที่ไม่เห็นทะเลค่ะ แต่จะได้วิวเป็นวิวบ้านพักอาศัยแนวราบเกือบทั้งหมด

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ อยู่ที่ชั้นล่างและชั้น 6
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 14 เครื่อง
  • อัตราส่วนลิฟท์ 301.75 : 1
  • ที่จอดรถ 363 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • Proxy Lift
  • Shuttle Service


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปดูคือ ห้องแบบ 1 Bedroom Type 1D1 ที่มีพื้นที่ใช้สอย 34.5 ตร.ม. โดยตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ช่วงกลางๆ ของปีกตึกทั้ง 2 ข้าง ลักษณะแปลนห้องเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบริเวณห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องครัวจะใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยพื้นที่ครัวจะได้เป็น Pantry เล็กๆ ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งขนาดโต๊ะที่วางได้คือขนาดสำหรับ 2 ที่นั่ง ถัดมาคือส่วนพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางขนาดโซฟา 3 ที่นั่ง ได้ค่ะ ในส่วนของระเบียงนั้นมีความกว้างพอสมควรสามารถวางเก้าอี้สนามเล็กๆ มานั่งชมวิวได้ แต่ก็จะโดนลมร้อนจากคอมเพรสเซอร์เเอร์ที่หันหน้าเข้ามาในระเบียง

ก่อนเข้าห้องนอนและห้องน้ำจะมีโถงเล็กๆ แจกทิศทางไปยัง 2 ห้อง ข้อดีคือทำให้พื้นที่จัดสรรลงตัวชัดเจน เพิ่มความเป็นส่วนตัวโดยมีประตูเปิดเข้า-ออก หลบตาฝั่งพื้นที่นั่งเล่นได้ เข้ามาภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และออกแบบไว้สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าภายในได้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่บริเวณหน้าห้องค่ะแบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจนเรียบร้อย

รูปแบบการขายของโครงการนี้ขายในรูปแบบ Fully Fitted ค่ะ

เริ่มจากหน้าทางเข้ากันเลยค่ะ สำหรับประตูทางเข้าห้องเป็นประตูไม้ลามิเนต ด้านข้างมีกริ่งสำหรับกดออด

ด้านบนเป็นป้ายเลขที่ห้อง ซึ่งตอนนี้อาจจะยังไม่ได้เรียบร้อยดีนะคะ ส่วนมือจับเป็นแบบก้านโยกอลูมิเนียม แข็งแรงดีค่ะ

พื้นห้องและไม่มีธรณีประตู หรือขอบประตูมาให้นะคะ ระดับพื้นจะเท่ากับพื้นโถงทางเดิน ซึ่งในกรณีที่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดบริเวณภายนอกโถงทางเดินก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีฝุ่นลอดเข้ามาในห้องได้ การแก้ไขปัญหาก็ไม่ได้ยากอะไรค่ะ แค่ติดผ้าดันฝุ่นตรงช่องว่างด้านล่างประตูก็สามารถกันฝุ่นเข้าห้องได้ดีพอสมควรแล้วค่ะ ส่วนพื้นภายในห้องใช้พื้นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60×60 ซม. ง่ายต่อการทำความสะอาดและมีอายุการใช้งานคงทนดี แต่ก็จะเย็นเท้าไปหน่อยอาจจะทำให้เท้าแตกได้เหมือนกันซึ่งก็สามารถซื้อ slipper มาใส่เดินในห้องกันได้ค่ะ

ด้านล่างติด Door Stopper ให้กันกระแทกเรียบร้อยค่ะ

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนพื้นที่ครัวซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ขนาดของห้องนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10.5 x 2.8 ม. และมีความสูงฝ้าที่ 2.7 ม. โดยรวมก็ดูโปร่งและไม่อึดอัดค่ะ

หันกลับมาด้านหลังฝั่งด้านซ้ายของประตูเป็นส่วน Pantry ครัวที่ทางโครงการจะติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย ในส่วนของฝ้าเพดานบริเวณทางเข้านี้จะทำให้เตี้ยจากความสูงห้องปกติ อยู่ที่ 2.5 ม. ค่ะ

ด้านข้างมีการทำผนังเล็กๆ มากั้นระหว่าง Pantry ครัวและประตูทางเข้าทำให้พื้นที่ใช้สอยดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยสามารถวางตู้รองเท้าขณะเล็กๆ ได้ด้านข้างค่ะ

ส่วนด้านบนได้โทรศัพท์ซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างโถง และพนักงานต้อบรับกับห้องพักแต่ละยูนิตได้เท่านั้นนะคะ ซึ่งไม่ใช่โทรศัพท์บ้านที่สามารถโทรออกไปที่อื่นได้ โดยโทรศัพท์นี้จะมีให้ในทุกยูนิตของโครงการ

สวิชต์ไฟฟ้ามาตรฐาน จากยี่ห้อ Panasonic

ส่วนพื้นที่ครัวจะเป็นแบบครัวเปิดนะคะ และขนาด Pantry ที่ได้นั้นไม่ได้ขนาดใหญ่มากนัก ซึ่งไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการประกอบอาหารหนักมากนัก ส่วนด้านหลัง Pantry จะได้เป็นผนังเรียบทาสีปกติ แนะนำให้กรุกระจกหรือกระเบื้องนะคะ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดมากขึ้นค่ะ

ตู้ลอยด้านบนสามารถเก็บของได้เล็กๆ น้อยๆ

ส่วน Pantry ที่ได้ Top เป็นหินสังเคราะห์ ด้านล่างเก็บไว้เก็บจานชามมากนัก ไม่มีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อม ส่วนด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับวางตู้เย็นขนาดเล็กซึ่งสามารถวางขนาดตู้เย็นได้ประมาณ 3 คิวบิกฟุต

บานเปิดเป็นแบบบาดขอบเพื่อให้เปิด-ปิดถนัดมากขึ้น

อ่างล้างจานเดี่ยวขนาดเล็กแบบฝัง

เตาและเครื่องดูดควันจาก Franke และระบบดูดควันเป็นแบบหมุนเวียนภายใน

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเล็กๆ ขนาดพื้นที่ประมาณ 90 x 90 ซม. สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดสำหรับ 2 ที่นั่งได้ค่ะ ส่วนโต๊ะอาหารตามห้องตัวอย่างนั้นจะค่อนข้างอึดอัดไปหน่อยสำหรับการนั่งรับประทานอาหารถึง 4 คน

ถัดมาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นนี้มีระยะการดูทีวีประมาณ 1.8 ม. ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะสมกับระยะการดูทีวีนี้คือขนาด 32″

พื้นที่วางโซฟาสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบายๆ พร้อมโต๊ะกลางได้ค่ะ

ฝั่งที่วางทีวีนั้นจะได้เป็นผนังฉาบเรียบปกติ ซึ่งสามารถวางตู้วางทีวี หรือชั้นวางทีวีได้ และสำหรับใครที่มีข้าวของมากหน่อยก็แนะนำให้ Built-in เป็นชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ได้ค่ะ ซึ่งสามารถเก็บของด้านข้างได้ด้วย

ถัดมาในส่วนของประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียง กรอบบานทำด้วยอลูมิเนียมทำสีระบบพ่น Powder Coat บานกระจกเป็นกระจกนิรภัยเขียวตัดแสง

ตัวกรอบบานหนาและแข็งแรงดีทีเดียวค่ะ สามารถกันเสียงจากภายนอกได้ดีอีกด้วย ส่วนด้านข้างมีการบุผ้าสักหลาดให้เพื่อกันฝุ่นได้และสามารถปิดได้แนบสนิท

ส่วนตรงกลางกรอบบานมีตัวยื่นออกมาให้จับได้ง่ายขึ้น

ส่วนตัวรางหนาแข็งแรงเช่นเดียวกันค่ะ

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 0.9 x 2.7 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้าน ส่วนราวกันตกนั้นราวจับทำจากโลหะพ่นสี Powder Coat และกระจกใช้เป็นกระจกนิรภัย โดยรวมแข็งแรงดีค่ะ

ด้านข้างแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ ในหน้าเข้าหาส่วนระเบียง หากใครจะนั่งชมวิวก็อาจจะลำบากไปสักพักหน่อยค่ะ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้โดยการนำกริลเบี่ยงลมร้อนมาติดได้อยู่ค่ะ ซึ่งก็พอลดทอนลมร้อนไปได้บ้าง

ส่วนด้านล่างเป็นที่วางเครื่องซักผ้า ด้านข้างติดตั้งก็อกน้ำ และปลั๊กไฟกันน้ำให้เรียบร้อยค่ะ

กลับเข้ามาภายในห้อง จากส่วนของพื้นที่นั่งเล่นจะมีโถงเล็กๆ แจกไปยังห้องนอนและห้องน้ำค่ะ

เริ่มจากห้องนอนกันก่อนนะคะ ประตูเป็นประตูไม้ทาสี

พื้นห้องนอนเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกผืนเดียวกันกับพื้นที่ด้านนอก

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้

ส่วนด้านข้างเตียงซึ่งมีพื้นที่เหลือพอสมควรสามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ริมหน้าต่าง

ส่วนหน้าต่างที่ได้เป็นบานเลื่อนสามารถชมวิวได้ดี

ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียงมีความกว้างประมาณ 70 ซม. สามารถเดินได้สบายๆ ส่วนปลายเตียง (ภาพกลาง) จะกว้างประมาณ 50 ซม. ซึ่งเดินได้แบบพอดีๆนะคะ ไม่แนะนำให้วางชั้นวางทีวีค่ะ แต่สามารถแขวนทีวีได้กับผนังจะประหยัดพื้นที่ดีกว่า

อีกฝั่งด้านข้างเตียงติดกับประตูทางเข้าห้องเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าไว้สำหรับ Built-in ไม่กินเนื้อที่ทางเดิน

ส่วนตู้เสื้อผ้าที่เป็นบานเปิดจะไปกินพื้นที่ทางเดินทำให้เดินไม่สะดวกมากนัก แนะนำให้ใช้บานเปิดตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนดีกว่าค่ะ

มาต่อกันที่ห้องน้ำกันค่ะ สำหรับพื้นห้องน้ำนี้จะเป็นระดับเดียวกันกับพื้นด้านนอกนะคะ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกนักสำหรับการล้างห้องน้ำ แต่เนื่องจากพื้นห้องน้ำในส่วนนี้เป็นส่วนของโซนแห้ง การทำความสะอาดจึงไม่จำเป็นต้องใช้การล้างห้องน้ำอย่างเดียวแบบที่เรานิยมทำกัน แต่ก็สามารถกวาด-ถูเหมือนพื้นห้องปกติได้ค่ะ

เข้ามาในจะเป็นส่วนของอ่างล้างมือพร้อมกระจกบานสูง ในส่วนนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ตกแต่งทั้งเคาน์เตอร์อ่างไปจนถึงผนังสุดถึงฝ้าเพดาน

อ่างล้างมือทรงกลมจาก Cristina ด้านข้างก่อเป็นเคาน์เตอร์ขึ้นมาทำให้มีที่วางของด้านข้างได้เล็กน้อย ส่วนด้านซ้ายมือติดผนังมีปลั๊กไฟกันน้ำติดตั้งให้สำหรับสาวๆ ใช้เสียบปลั๊กไดร์ผมได้ค่ะ

อีกฝั่งด้านข้างอ่างล้างมือเป็นพื้นที่โถสุขภัณฑ์

โดยโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวจาก Cristina ส่วนระยะความกว้างระหว่างโถกว้างประมาณ 70 ซม. ซึ่งเป็นระยะที่นั่งได้แบบพอดีๆ ค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งจะกั้นด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำมีการก่อธรณีขึ้นมาเพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก ภายในพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 90 x 90 ซม. อาบน้ำได้แบบพอดีๆ ตัว

มือจับสแตนเลสด้านนอก จับได้ถนัดมือดีค่ะและสามารถใช้แขวนผ้าขนหนูได้ด้วย

ด้านหลังมีตัวยางกันกระแทกกับกระเบื้องผนัง

ฝักบัวที่ได้จะได้ทั้ง Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน จาก Crist ส่วนที่วางสบู่นั้นไม่ได้มีให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งเป็นแบบแปะผนังกระจกด้านข้างด้วยจุกยาง หรือแขวนกับผนังด้านข้างก็ได้ค่ะ

จับได้ถนัดมือ และมีหน้าฝักบัวใหญ่พอประมาณค่ะ

ในส่วนของห้องตัวอย่างที่ 2 เป็นห้องแบบ 2 Bedrooms Type 2A1 ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอย 62 ตร.ม.โดยตำแหน่งห้องจะอยู่ริมปีกตึกทั้ง 2 ข้าง สามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 3 ด้านในฝั่งของระเบียงและห้องนั่งเล่น ลักษณะผังของห้องเป็นแบบแนวยาว ลักษณะของการจัดแปลนแบบนี้ทำออกมาค่อนข้างดี ตอบโจทย์ของคอนโดตากอากาศที่ต้องการมาสังสรรค์ หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆ ในวันหยุด จะเห็นได้ว่าภายในห้องแบ่งเป็นโซนใหญ่ๆ ได้ 2 โซนคือโซนพื้นที่นั่งเล่น และโซนห้องนอนค่ะ และค่อนข้างให้ความสำคัญกับโซนนั่งเล่นซึ่งได้พื้นที่ใหญ่และได้วิวที่ดี เพื่อให้ได้ใช้เวลาในการนั่งเล่นพักผ่อน หรือสังสรรค์กันตรงบริเวณพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง ส่วนระเบียงที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นนี้ถึงแม้จะมีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็สามารถใช้พื้นที่ชมวิวได้เต็มที่ เนื่องจากตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์นั้นจะไปรวมกันอยู่ตรงระเบียงของห้องนอนเล็กค่ะ ในส่วนของโซนห้องนอนนี้ แบ่งเป็น 2 ห้องนอน ซึ่งขนาดห้องนอนจะเท่าๆ กัน โดยแตกต่างกันตรงที่ห้องนอนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัวด้วย

สรุปเรื่องการจัดผังภายในห้องทำออกมาได้มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ดีค่ะ แต่ยังไม่ลงตัวนักกับการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในอย่างคุ้มค่า จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ทางเดินค่อนข้างมากตั้งแต่ทางเข้าห้องก็จะเจอโถงทางเดินยาวซึ่งแจกไปยังห้องนอนเชื่อมไปถึงส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และนำพื้นที่ทางเดินส่วนทางเชื่อมที่ระหว่างครัวและพื้นที่นั่งเล่นเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ไม่สะดวกเท่าไหร่นักค่ะ

พื้นภายในห้องนอนนี้จะเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. สเป็คเหมือนกันกับห้องแรก แต่จะแตกต่างกันที่สีค่ะ ซึ่งจะคละกันไป โดยจะมีสีเทาเหมือนห้องแรก สีน้ำตาลอ่อนเหมือนห้องนี้ และสีดำ

เข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่โถงเล็กๆ ซึ่งบริเวณนี้สามารถวางตู้เล็กๆ ไว้เก็บรองเท้า วางของเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ต้องอย่าลืมเช็คเรื่องรัศมีของบานสวิงประตูด้วยนะคะ

ในฝั่งขวาจากประตูเข้าห้องเป็นพื้นที่ครัว ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก ในส่วนของพื้นที่ครัวนี้เป็นแบบครัวเปิดเช่นเดียวกับห้องแรก ไม่ได้เหมาะกับการทำอาหารหนักๆ มากนักนะคะ จะเหมาะกับเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า

ขนาดของ Pantry ในห้องนี้ก็จะได้ใหญ่กว่าห้องแรกอยู่ค่อยข้างมากทีเดียวค่ะ แต่ในเรื่องของสเป็คและวัสดุจะใช้เหมือนกัน คือ Top เป็นหินสังเคราะห์, อ่างล้างจานหลุมเดี่ยว, Hob & Hood จาก Franke และใช้ระบบหมุนเวียน

ด้วยขนาด Pantry ที่ใหญ่ขึ้นทั้งให้มีลิ้นชักและช่องเก็บของมากขึ้นตามไปด้วยค่ะ ซึ่งเก็บของได้ดีและเหมาะกับการใช้งานจริงๆ มากกว่า Pantry ห้องแรก

ด้านข้างมีพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็น กว้างประมาณ 60 ซม. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลาง-ใหญ่ได้

ถัดมาบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารมีพื้นที่ขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 ม. ซึ่งสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดสำหรับ 2 ที่นั่งได้แบบไม่ขวางทางเดินมากนัก แต่หากใครอยากให้พื้นที่บริเวณนี้โล่งหน่อย ก็สามารถซื้อโต๊ะรับประทานอาหารเป็นแบบโต๊ะสนามพับเก็บได้สบายๆ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ เมื่อรับประทานเสร็จก็พักเก็บได้ ไม่ขวางทางเดินดีค่ะ

จากบริเวณครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปยังระเบียงนั่งเล่น

ด้านนอกมีการยกธรณีประตูขึ้นมา ส่วนพื้นที่ระเบียงกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้าน

ขนาดของระเบียงประมาณ 2.3 x 1.75 ม. สามารถวางโซฟา Bed ขนาดเล็กๆได้ 1 ตัวพร้อมโต๊ะกลางเล็กๆ หรือจะจัดเป็นเก้าอี้สนาม 2 ตัววางพร้อมโต๊ะกลางตรงกลางก็ได้เช่นกันค่ะ

จากส่วนระเบียงสามารถเข้า-ออกได้ภายในห้องได้ 2 ทาง ทั้งฝั่งขวาและด้านหลังเก้าอี้ที่เชื่อมเข้ากับพื้นที่นั่งเล่น

อีกฝั่งนึงของระเบียงไม่มีการแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ร้อนและทำลายบรรยากาศในการชมวิวเพลินๆ โดยบริเวณนี้สามารถตกแต่งหรือ Built-in ชั้นวางหนังสือ วางของเล็กๆ ได้ค่ะ

และนี่คือวิวจากระเบียงห้องในทิศเหนือจะเห็นวิวเข้าพระตำหนักเลยไปจนถึงวิวทะเลบริเวณแหลมบาลีฮาย

ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นถือเป็นจุดไฮไลท์ของห้องนี้เลยค่ะ ขนาดพื้นที่ประมาณ  4 x 3.5 ม. ด้วยขนาดพื้นที่ห้องที่ค่อนข้างกว้างพอสมควรทำให้นอกจากจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวีปกติแล้ว ยังสามารถจัดสรรให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ อย่างจัดให้เป็นพื้นที่สังสรรค์ ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงได้ อาจจะกางโต๊ะญี่ปุ่นตรงกลาง หรือปูเบาะขนาดใหญ่นอนเล่นกันได้ รวมทั้งสามารถกางโต๊ะพับได้ใหญ่กว่าส่วนรับประทานอาหาร วางไว้ตรงกลางสำหรับวางอาหาร เครื่องดื่มจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ได้เลยค่ะ

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้จะได้หน้าต่าง (ช่องเปิด) ทั้ง 3 ด้าน ทำให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น และด้วยหน้าต่างที่ได้บานค่อนข้างใหญ่สามารถรับลมทะเลได้ดี

ในส่วนของมุมห้องสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสือมุมเล็กๆ ตามแบบไอเดียของห้องตัวอย่าง

สำหรับเรื่องการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากเราได้ห้องในรูปแบบ Fully Fitted ซึ่งเราสามารถหาซื้อเฟอร์นิเจอร์และจัดวางได้ตามความชอบของตนเอง หากดูจากห้องตัวอย่างที่แต่งมาให้ดูเป็นไอเดียแล้ว จะเห็นว่าชุดโซฟาหันหน้าไปด้านข้างของทีวี แทนที่จะหันหน้าเข้าหาทีวีนั้น เนื่องจากคุณค่าของห้องนี้คือ วิว เป็นอันดับแรก ดังนั้นการจัดวางโซฟาจึงเน้นให้ความสำคัญของการชมวิวมากกว่านั่งดูทีวีค่ะ ส่วนใครที่รู้สึกว่าจะดูทีวีไม่ถนัด ก็แนะนำให้ซื้อเป็นชุดโซฟาลอยตัวที่สามารถขยับทิศทางได้ง่ายหน่อย ไม่ตกแต่งเป็นแบบ Built-in ล็อกตำแหน่งตายตัว

กลับมายังโถงทางเดินกว้างประมาณ 1 ม. ซึ่งแจกไปยังห้อง 3 ห้องคือ ห้องนอนเล็กด้านขวา, ห้องน้ำรวมด้านซ้าย และตรงกลางเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว

ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดพื้นที่ประมาณ 2.7 x 2.75 ม. สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ด้วยขนาดภายในห้องที่ไม่ได้ใหญ่มากนักพอได้แสงธรรมชาติที่สามารถเข้าถึงได้จึงช่วยให้ภายในห้องดูสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นดีค่ะ

ในส่วนปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในผนังไว้เรียบร้อยเพื่อไม่ไปกินเนื้อที่ทางเดิน ส่วนผนังด้านข้างตู้เสื้อผ้านั้นสามารถแขวนทีวีขนาดประมาณ 32″ ได้

พื้นที่ทางเดินทางข้างและปลายเตียงจะเหลือความกว้างประมาณ 50-60 ซม. ให้ยังพอเดินได้ค่ะ

ส่วนปลายเตียงด้านข้างมีประตูบานเลื่อนขนาดเล็กออกไปยังส่วนระเบียง

ขนาดของพื้นที่ระเบียงห้องนอนเล็กนี้มีขนาดประมาณ 2.7 x 0.7 ม. ไม่ได้กว้างมากนักพอที่จะซักล้างหรือตากเสื้อผ้าได้มากนักค่ะ

ด้านข้างเป็นพื้นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ทั้งห้อง เพื่อให้ระเบียงอีกด้านสามารถใช้งานพื้นที่ในการใช้งานได้เต็มที่

เข้ามาในห้องน้ำกันต่อค่ะ ระดับพื้นในห้องน้ำก็จะเหมือนเดิม คือใช้ระดับเดียวกันกับพื้นภายนอกและปูกระเบื้องเป็นผืนเดียวกันเลย

เข้ามาจะเป็นโซนแห้ง ซึ่งประกอด้วยอ่างล้างมือ พร้อมกระจกเงา ด้านข้างเป็นโถสุขภัณฑ์

โถสุขภัณฑ์จาก Cristina เช่นเดิมกับห้องแรกค่ะ ส่วนระยะระหว่างโถนี้ค่อนข้างจะแคบไปสักหน่อยสำหรับคนที่ตัวใหญ่ โดยขนาดอยู่ที่ประมาณ 60 ซม.

ถัดจากโถสุขภัณฑ์เป็นส่วนพื้นที่อาบน้ำซึ่งมีการก่อธรณีประตูขึ้นมาหน่อยกันน้ำไหลย้อนออกมาด้านนอก

ฝักบัวได้ทั้ง 2 แบบ คือ แบบ Rain Shower และแบบฝักบัวสายอ่อน เสป็คเหมือนกับห้องน้ำห้องแรกค่ะ

เข้ามาในห้องนอนจะเจอโถงเล็กๆ แจกไปยังห้องนอนและห้องน้ำให้ตัว

ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ ด้านข้างเตียงมีหน้าต่างบานเลื่อนช่วยให้แสงสว่างธรรมชาติเข้าถึงภายในห้องได้ดี ช่วยให้ห้องดูโล่งโปร่งดีค่ะ

ส่วนด้านปลายเตียงเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in และโต๊ะเครื่องแป้ง หรือใครจะขยายตู้เสื้อผ้าให้ใหญ่ขึ้นก็ได้นะคะ แต่ก็จะไปกินพื้นที่ส่วนโต๊ะเครื่องแป้ง

เลี้ยวขวามายังห้องน้ำกันต่อ

พื้นห้องน้ำอยู่ระดับเดียวกับพื้นห้องเช่นเคย

ภายในห้องน้ำจะมีขนาดใกล้เคียงกับห้องน้ำรวมแต่มีขนาดพื้นที่อาบน้ำเล็กกว่าห้องน้ำรวม เนื่องจากติดพื้นที่ช่องชาร์ป

ขนาดพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 9 x 1 ม.ค่ะ ส่วนยี่ห้อและเสป็ครุ่นฝักบัวจาก Crist เช่นเดียวกับห้องน้ำแรกค่ะ ^^

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 March 2016

  • 1 Bedroom Type 1D2 ชั้น 21 ห้อง US-2132 เนื้อที่ 35.03 ตร.ม. ราคา 2.475 ล้านบาท หรือ 70,660 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom Type 1D1 ชั้น 22 ห้อง US-2216 เนื้อที่ 34.78 ตร.ม. ราคา 2.847 ล้านบาท หรือ 81,885 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedrooms Type 2A1 ชั้น 22 ห้อง US-2231 เนื้อที่ 62.4 ตร.ม. ราคา 5.065 ล้านบาท หรือ 81,175 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted
  • เพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 25,000 บาท
  • ทำสัญญา 10% ของราคาห้อง
  • ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
  • ค่ากองทุน 350 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ Unixx South Pattaya ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เป็นทำเลที่ไม่ได้อยู่ติดหาดแต่จะเป็นทำเลที่เน้นวิวทะเลมากกว่าค่ะ หากจะไปเล่นน้ำทะเลก็ต้องเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวไม่ก็มอเตอร์ไซต์ขี่ไปนะคะ ด้วยระยะห่างจากโครงการถึงหาดพัทยาใต้จะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ม. หรือหากใครที่ต้องการหาดที่สงบมากขึ้นอีกหน่อยก็จะมีอีกหาดเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีระยะห่างจากโครงการไม่แตกต่างกับหาดพัทยาใต้มากนัก คือหาดราชวรุณ (Cozy Beach) ที่อยู่ในเขตเขาพระตำหนักนี่เองค่ะ โดยมีระยะห่างประมาณ 1.6 ม. อีกจุดเด่นนึงของโครงการนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของความสงบ ไม่คึกคักเท่าไหร่นัก เหมือนโครงการที่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองพัทยา ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อน โดยเน้นไปที่ความสงบมากหน่อยแต่ก็เดินทางไปหาดไม่ไกลจนเกินไปค่ะ ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการก็ไม่ได้เรียกว่าอุดมสมบูรณ์มากนักนะคะ แต่ยังมีร้านค้า Local ขายอาหารให้เห็นบ้าง และมีร้านอาหารบนเขาพระตำหนักอยู่ค่ะ ส่วนห้างก็มี Big C พัทยาใต้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักให้จับจ่ายซื้อของสดของใช้ได้ แต่หากเทียบกับโครงการที่อยู่ริมหาดและโครงการในเมืองพัทยาก็ยังสู้ไม่ได้ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว คือการเดินทางหลักๆ เลยของโครงการนี้ค่ะ การเข้าถึงโครงการมีให้เลือกหลากหลายเส้นทางพอควรนะคะ สามารถเลือกเส้นทางลัดเลาะและหลบหลีกรถติดได้ดี ทั้งการเดินทางมาจากถนนเทพประสิทธิ์ทะลุเข้ามาที่ถนนทับพระยา หรือจะเข้ามาทางถนนพัทยาใต้ทะลุเข้าถนนพัทยาสาย 3 แล้วเลี้ยวเขาถนนพระตำหนัก ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักโครงการก็ได้เช่นกัน เนื่องจากทางโครงการเปิดให้มีจุดเข้าออกได้ทั้งหน้าถนนพระตำหนัก และซอยทับพระยา 1 ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ อาจจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก สำหรับการอยู่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว แต่ทางโครงการก็ยังมี Shuttle Service ให้ลูกบ้านเป็นรถสองแถวออกตามเวลาตั้งแต่ 10:00-18:00 น. จุดที่จอดรถรับ-ส่ง ก็มีหลายที่นะคะ ทั้ง Rayal Garden, Central Festival Beach, Big C พัทยาเหนือ ตามทางถนนริมหาด ก็พอให้ความสะดวกเพิ่มขึ้นระดับนึงกับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถค่ะ

ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise ขนาดใหญ่ สูง 46 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,207 ยูนิต มีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ในระดับหนาแน่นมาก 301.75 : 1 แต่ยังดีที่ลูกบ้านที่พักอยู่ในโครงการนี้ส่วนใหญ่มาพักเพื่อการพักผ่อนในวันหยุดทั้ง Short Term และ Long Term จึงยังพอลดความรุนแรงจากการคอยลิฟต์ในเวลาเร่งด่วนได้ การออกแบบโครงการคือการวาง core ลิฟต์อยู่ตรงกลาง และมีทางเดินแจกออกเป็น 2 ทาง กางปีกทั้ง 2 ฝั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกรับวิวทะเล มีการแก้ปัญหาสำหรับเรื่องวิวในชั้นล่างๆ ที่มีความสูงไม่พ้นเขาพระตำหนักโดยวาง Facilities ในชั้น 6 เพื่อให้ลูกบ้านชั้นประมาณ 6-9 ยังได้วิวสระว่ายน้ำทดแทนวิวทะเล

การออกแบบห้องแบบ 1 Bedroom Type 1D1 ออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัวดี แปลนห้องก็ธรรมดาทั่วไป ไม่หวือหวา หรือเน้นวิวเต็มที่ให้เหมาะกับการเป็นคอนโดตากอากาศ ส่วนห้องแบบ 2 Bedrooms Type 2A1 มีลักษณะการออกแบบที่น่าสนใจมากกว่าแบบ 1D1 มาก เพราะเป็นแปลนที่แสดงออกให้เห็นเลยว่าเป็นห้องพักบนคอนโดพักตากอากาศ ที่เน้นวิว 3 ทิศทางบริเวณห้องนั่งเล่น และเน้นการใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นมากกว่าพื้นที่ห้องอื่นๆ รวมทั้งห้องนอนด้วย โดยห้องนี้น่าจะเหมาะกับคนที่รักการพักผ่อนโดยเน้นการชมวิว และยังสามารถใช้พื้นที่นั่งเล่นที่มีขนาดใหญ่เป็นพื้นที่สังสรรค์กับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ด้วยค่ะ แต่ก็จะมีข้อเสียที่มี Waste Area ค่อนข้างเยอะ โดยการทำพื้นที่ใช้สอยไปเป็น Circulation พอสมควร แทนที่จะได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้น

รูปแบบการตกแต่งของโครงการเป็นแบบ Fully Fitted ซึ่งจะได้ส่วน Pantry Built-in และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมด ซึ่งเกรดวัสดุที่ได้ก็ถือว่าให้ค่อนข้างดี เหมาะสมกับราคา อย่างพื้นกระเบื้องเซรามิก 60×60 ซม. กรอบบานหน้าต่างและประตูได้กรอบหนาแข็งแรง กันเสียงได้ดี Pantry ครัวเป็นหินเทียม ได้อ่างล้างมือ Hob&Hood จาก Franke ส่วนโถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดจาก Cristina

สาธารณูปโภค เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการที่ให้มาเหมาะสม น่าใช้งาน และเพียงพอกับโครงการที่มียูนิตเยอะ โดยมีพื้นที่ Facilities หลักๆ อยู่ 2 จุดคือชั้นล่างบริเวณหน้าโครงการ ที่มีทั้งพื้นที่นั่งเล่น, สนามหญ้าอเนกประสงค์, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น และ Jogging Track ส่วนภายในอาคารชั้นล่างก็มี ห้องประชุม และห้อง Fitness ให้ ส่วนชั้น 6 เป็นอีกชั้นที่มี พื้นที่สงบไว้นั่งเล่น มีพื้นที่สวนสงบ และสระว่ายน้ำอีก 1 สระ ส่วนในชั้น 37 และ 41 จะมีพื้นที่สวนหย่อมให้เล็กๆ สำหรับยืนชมวิวทะเลได้สำหรับลูกบ้านที่อยู่ในชั้นล่างๆ

 

Judgement

สำหรับโครงการบ้านพักตากอากาศ ทางเราของดเว้นการให้คะแนนนะคะ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจที่จะซื้อเอาไว้พักผ่อนหรือลงทุนกับแหล่งนักท่องเที่ยว ซึ่งจะไม่สามารถใช้เกณฑ์ที่เราออกแบบไว้สำหรับความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยได้ค่ะ

เทียบกับราคา 81,500 บาท/ตร.ม., 15 March 2016

  • ทำเล – เชิงเขาพระตำหนัก สงบ ไม่คึกคัก แต่ไกลจากหาด
  • เดินทางด้วยรถ – สะดวก เดินทางได้หลายเส้นทาง
  • ไม่ใช้รถ – ไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่มี Shuttle Service ให้
  • วัสดุ – ระดับมาตรฐาน คุณภาพโอเคตามราคา
  • แบบ – มีความหนาแน่นมาก
  • สาธารณูปโภค – ครบ น่าใช้ และเพียงพอ

  • MAIN CLASS

BOTTOM LINE

Unixx South Pattaya เป็นโครงการคอนโด High Rise ตากอากาศ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านหลังที่ 2 สำหรับตากอากาศในวันหยุดไม่ไกลจากกรุงเทพ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่านักท่องเที่ยว ทำเลสงบไม่คึกคัก อยากได้วิวทะเล ไม่เน้นว่าต้องเป็นคอนโดติดหาดเลย เพื่อให้ราคาจับต้องได้มากขึ้น พร้อมโอน พร้อมเข้าอยู่ มีงบเผื่อไว้สำหรับตกแต่งเพิ่ม ในงบประมาณระดับ 2-5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่  14,000 – 40,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )