รีวิวโครงการ
The River คอนโด High Rise ตึกเสร็จ วิวแม่น้ำเจ้าพระยา จาก Raimon Land [Think’s Walk-in]
16 กุมภาพันธ์ 2020
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาล่องเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อพาไปชมโครงการ The River คอนโดสูงระฟ้าที่กลายเป็น Landmark ของริมน้ำที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของภาคกลางกันค่ะ
Fact @ 31 July 2013
- The River
- Raimon Land Plc
- ULTIAMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 2 อาคาร South Tower 71 ชั้น 519 ยูนิต, North Tower 41 ชั้น 307 ยูนิต และ อาคารร้านค้า 3 ชั้น 2 อาคารด้านหน้า รวม 826 ยูนิต
- South Tower ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิต North Tower ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 16 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 1,217 คัน
- ที่ดินประมาณ 12-3-41 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2556
- Studio ไม่มี (ตึก South) 44.20-52.59 ตารางเมตร (ตึก North)
- 1 Bedroom 62-66 ตารางเมตร (ตึก South) 56-69 ตารางเมตร (ตึก North)
- 2 Bedrooms 207-232 ตารางเมตร (ตึก South) 78-136 ตารางเมตร (ตึก North)
- 2 Bedrooms Duplex ไม่มี (ตึก South) 136-137 ตารางเมตร (ตึก North)
- 3 Bedrooms 207-229 (ตึก South) 149-231 ตารางเมตร (ตึก North)
- Loft Duplex 384.86-409.92 ตารางเมตร (ตึก South) 247.55 ตารางเมตร (ตึก North)
- Penthouse 588.78-637.46 ตารางเมตร (ตึก South) ไม่มี ตารางเมตร (ตึก North)
- Home Office ไม่มี (ตึก South) 181.91-287.48 ตารางเมตร (ตึก North)
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 6 – 270 ล้านบาท ต่อห้อง
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 90,500 – 420,000 บาท
- http://www.theriverbangkok.com/EN/b_index.html
- โทร +66-2651-9600-4
กด LIKE ให้กำลังใจทีมงานและสนับสนุนผลงานนะคะ 🙂
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด 13.721386,100.510751
ก่อนจะเข้าสู่การเดินทางของฝนภายในวันนี้ ขอเกริ่นเรื่องสถานที่คร่าวๆให้ชาว Thinnk Of Living ได้รู้จักย่านนี้กันซักหน่อย จริงๆแล้ว Mr.Oe ของเราเคยพาไปดูมาแล้วก่อนหน้านี้ ลองตามไปดูกันได้นะคะ
The River เป็นอาคารชุดพักอาศัยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านฝั่งธนฯ ตัวโครงการอยู่ใกล้บริเวณตีนสะพานตากสินหรือที่บางคนชอบติดปากเรียกว่าสะพานสาทรค่ะ โดยแต่เดิมพื้นเพของย่านเจริญนครและคลองสาน เป็นชุมชนแบบห้องแถวที่หัวซอยติดถนนและท้ายซอยติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังคงพบเห็นอยู่ในช่วงปลายถนนเจริญนครที่มุ่งหน้าเข้าสู่ราษฎร์บูรณะ แต่ภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การใช้ที่ดินบริเวณนี้ได้เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงแรม3-5 ดาว คอนโดมิเนียมระดับ Hi-end และ Community Mall ด้วยนะคะ โดยโครงการ The River ตั้งอยู่บริเวณปากซอยเจริญนคร 13 ด้านหนึ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามเป็น Community Mall ชื่อ Vue ที่มีทางเข้าออกติดกับถนนเจริญนคร ห่างไปไม่ไกลเท่าไหร่ เราจะพบแหล่งที่กินเที่ยว คนแถวๆนี้เรียก ตลาดคลองสานที่ที่เป็นทั้งท่าเรือโดยสารและตลาดนัด ใช้ข้ามไปยังท่าเรือสี่พระยาได้ ถัดเข้ามาเป็นที่ตั้งของโรงแรม Millenium Hilton และพื้นที่ติดกันอนาคตจะเป็น Community mall ขนาดใหญ่ริมน้ำเจ้าพระยา ใกล้โครงการเข้ามาหน่อยจะเจอโรงแรม Peninsula นอกจากนั้นในฝั่งเดียวกันยังมีท่าเรือใกล้ๆโครงการ ที่ฝนใช้ขึ้นตั้งแต่ยังเรียกว่าท่าแป๊ปซี่เดี๋ยวนี้กลายเป็นท่าเรือเสริมสุข ไปแล้ว 🙂
ฝั่งตรงข้ามกันของโครงการคือโรงแรม Shangri-La (แชงกรี-ลา) โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมเชอราตัน โรบินสันบางรัก (กำลังปิดปรับปรุงค่ะ) สามารถข้ามฝั่งไปได้ด้วยเรือโดยสาร หรือใครสะดวกบีทีเอสหรือรถส่วนบุคคลเข้าสู่ถนนเจริญกรุงที่เป็นคู่ขนานกันกับเจริญนครก็ได้ค่ะ
แผนที่ของโครงการ
สังเกตุจากจุดที่ตั้งของโครงการแล้ว การเดินทาง สามารถใช้ได้หลายประเภททั้ง รถ เรือ บีทีเอส คือไม่ไกลจาก ท่าเรือ สถานี และถนนใหญ่มากนัก ถ้ามองจากถนนกรุงธนบุรี โครงการนี้ อยู่ตรงทางสามแยกพอดีเลย ถ้าจะมาด้วยรถจากถนนกรุงธนบุรีใช้เส้นคู่ขนานเลี้ยวซ้ายมาเจอสามแยก เข้าโครงการไม่ได้เลย ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญนครเพื่อไปแอบกลับรถหน้าโรงแรมเพนนินซูล่า ประมาณ 200 เมตร แล้วค่อยเข้ามาโครงการได้
ทางสามแยกแบบนี้คนที่ถือเรื่องฮวงจุ้ยจะถือมากเพราะเป็นแกนถนนที่พุ่งเข้ามาตรงโครงการเลย แต่ทางโครงการใช้การออกแบบเลือกเส้นโค้งมาเพื่อลดทอนแรงปะทะ คล้ายๆเป็นทริกในการแก้ฮวงจุ้ยจุดนี้ ตัว Vue ด้านหน้ายังทำเป็นอาคารรูป Freeform เลย
ทำเลที่ตั้งของ The River จุดเด่นคือ เรื่องวิว อันนี้เป็นสิ่งที่เห็นทางกายภาพอย่างชัดเจน อีกเรื่องที่ตามมาคือ วิธีการเดินทาง ขึ้นรถลงเรือก็สะดวกสบาย ติดอยู่นิดหน่อยตรงเรื่องบริเวณที่กลับรถนี่แหละ ถ้าอยากกลับรถแบบปลอดภัยคงต้องขับไปกลับรถไกลหน่อย ขับเลยไปกลับแถวๆบีทีเอสวงเวียนใหญ่นู่นเลย นั่งเรือชมบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาละกันนะคะ เข้าท่าดี ;D
วันนี้ฝนเรียกว่า พาเดินละกันค่ะ ออกกำลังกาย (ฮิ ฮิ) วันนี้ฝนเริ่มต้นจากบีทีเอสกรุงธนบุรีและเดินมาเรื่อยๆจนเจอสามแยกข้ามสะพานลอยเพื่อเข้า Vue ที่เป็น Community Mall หน้าโครงการค่ะ จากนั้นจะเปลี่ยนไปลงเรือกันเพื่อดูบรรยากาศรอบๆโครงการ และเพื่อนบ้านว่ามีอะไรบ้าง ท่าเรืออยู่ตรงไหน รวมทั้งเรือของโครงการด้วยค่ะ ตามฝนไปกันเล๊ยค่า
นั่งรถมองจากสามแยก จะเจอตึกเต็มๆแบบนี้เลย
เดี๋ยวเราจะข้ามสะพานลอยเพื่อไปยัง The River กันค่ะ
ตรงข้ามกับซอยเจริญนคร 13 คือ เจริญนคร 14 ซอยนี้เป็นซอยเล็กๆ ไปทะลุถึงสารภี 3 ไปออกวงเวียนใหญ่ได้นะคะ แต่ในซอยจะแคบ รถสวนกันแบบพอดีฟิตๆ บางคนก็เรียกว่า ซอยวัดทองเพลงค่ะ
ขึ้นสะพานลอยมาดูสภาพแยกกันค่ะ มุมนี้ เรามองย้อนกลับที่ที่ถนนกรุงธนบุรี เลี้ยวจากแยกไม่สามารถเข้าโครงการได้เลยนะคะ
มองไปจะเห็นเสริมสุขด้านข้าง การจราจรไม่ได้ติดขัดมาก ตามสัญญาณไฟ เวลาประมาณเที่ยงค่ะ ใกล้ๆกับโครงการคือท่าเรือเสริมสุข อดีตคือท่าแป๊ปซี่
เดอะ ไลท์เฮ้าส์ อยู่ตรงข้ามกับ The River บนถนนเจริญนคร
โรงแรมมินเลเนี่ยม ฮิลตัน
โรงแรมเพนนินซูล่า
มองย้อนกลับไป ตึกแบนๆสูงด้านหน้าที่เราเห็นคือ Urbano ค่ะ
สภาพถนนและแยก มีไฟเขียวไฟแดง จะเป็นแยกที่มี สาม เลน ในการเดินรถ
ถนนเจริญนคร สองฝั่ง มีเกาะกลาง
หน้า Vue มีพี่วินประจำอยู่ พาเดินดูรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ
สภาพภายในซอยเจริญนคร 13 ตรงไปสามารถเข้า The River ได้
มองกลับไปเจอ เดอะ ไลท์ เฮ้าส์ ข้างล่างมี Tops Super market , Scozzi Pizza , S&P มีทางม้าลายไว้ข้ามเรียบร้อย
สภาพทางเท้า เรียบร้อยเลยทีเดียวสำหรับเขตนี้
โรงแรมเพนนินซูล่าอยู่ห่างจาก The River ประมาณ 200 เมตร
หน้าโรงแรมเพนนินซูล่า นี่…กลับรถกันแบบนี้ ตรงมาแล้วเลี้ยวเข้าโครงการ มันไม่มีทางกลับรถจริงจัง = =’
ฝั่งตรงข้าม ยังคงสภาพตึกแถว ทำการค้าขายอยู่ มีร้านอาหารเจ้าเด็ดๆหลายเจ้านะคะ ขอบอก ขอบอก
เยื้องๆ โรงแรมเพนนินซูล่า มีวัดสุวรรณ ค่ะ เวลามีงานบุญ วันสำคัญทางศาสนา ทางวัดจะจัดงานค่อนข้างใหญ่โตเหมือนกัน รถจะติดขัดเล็กน้อย
ตรงข้ามวัดมีท่าเรือด้วย ท่าเรือวัดสุวรรณ อยู่ในซอยเจริญนคร 9
300 เมตร จาก The River มีห้องอาหาร ศาลาริมน้ำ ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ซึ่งจะมาจากทางถนนเจริญนคร หรือจะใช้บริการเรือของทางโรงแรมขึ้นจากฝั่งเจริญกรุงมาก็ได้
บริเวณตีนสะพานเจริญนคร 2 จะพบกับพื้นที่เตรียมก่อสร้างที่ถูกล้อมด้วยสังกะสียาวไปจนถึงปั๊มเปโตรนาส บริเวณนี้อนาคตเท่าที่พอจะทราบข่าวมา จะกลายเป็น Community Mall ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกแห่งหนึ่งโดยเป็นการจับมือกันของยักษ์ใหญ่อย่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ , สยามพิวรรธน์ และ แมกโนเลีย หน้าตาและรายละเอียดโครงการคืบหน้าอย่างไรเดี๋ยวเรามีอัพเดทให้ดู แต่ที่แน่ๆ การที่ย่านชุมชนแถวนี้ ได้เปลี่ยนพื้นที่จากชุมชนที่พักอาศัย ไปเป็นอาคารชุด โรงแรม และ mall ราคาที่ดินแถวนี้คงสูงขึ้นอย่างแน่นอน
บริเวณปากซอยเจริญนคร 3 เป็นที่ตั้งโรงแรมมินเลเนี่ยม ฮิลตัน
โรงแรมมินเลเนี่ยม ฮิลตัน อยู่ติดกับตลาดคลองสานเลย
ตรงไปข้างหน้าด้านขวามือเราจะใกล้ตลาดคลองสานกันแล้ว มุ่งหน้าตรงไปจะพบโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เลี้ยวซ้ายผ่านลาดหญ้าไปออกวงเวียนใหญ่ได้
แหล่งฝากท้องอีกที่ ตลาดคลองสาน สุดทางตลาดเป็นท่าเรือคลองสาน คนเดินผ่านไปมาเยอะเลยเพราะใช้เป็นเส้นทางผ่านไปท่าเรือสี่พระยา ภายในตลาดมีของกินและเสื้อผ้าแฟชั่น
เดินเข้ามาในตลาด มีรถตุ๊กตุ๊กจอดอยู่ปากทางค่ะ พอเข้ามาโซนแรกที่เจอจะเป็นของกินก่อน แล้วค่อยไล่ไปเป็นของใช้ เสื้อผ้า
เอามาฝากว่า ยำ ตำ เจ้านี้แซ่บลื๊ม (ซี๊ด)
ส่วนบัวลอยเจ้านี้ อร่อยใช้ได้เลย หลายๆคนคงรู้จัก เค้าดังอยู่นะ ราคาก็ไม่แพง แต่พอดีวันที่ฝนไป ปิดจ้า อดหม่ำ ;(
ภายในตลาดค่ะ
ตรงเข้ามาเป็นท่าเรือ ข้ามไปท่าเรือสี่พระยา
มองกลับมาจากท่าเรือสี่พระยา เห็นตึกที่สูงที่สุด นั่นแหละ ตึกสีขาวด้านหน้าคือโรงแรมเพนนินซูล่า ส่วน 3 ตึกที่เรียงกันด้านหลังที่เห็นคื ตึก Chatrium ตึกด้านหลังที่ลักษณะเหมือนขั้นบันไดคือ เดอะ ไลท์เฮ้าส์ค่ะ
ฝนพานั่งเรือกลับไปที่โครงการกันดีกว่าค่ะ ใครว่ายน้ำไม่เป็นมั่ง
ทางโครงการมีจุดเด่นอีกจุดนึงเรื่องพื้นที่ Water Front ที่ยาวตลอด 120 เมตร มีท่าเรือของโครงการเลยที่สามารถขึ้นได้จากท่าเรือสาทร เรือจะมีไปรับ-ส่งเป็นเวลาค่ะ พื้นที่บริเวณนี้ อนาคตทาง Raimond land จะทำเป็นร้านอาหารริมน้ำ ไม่ได้เกี่ยวกับส่วนของคอนโดมิเนียม จอดรถจะแยกใช้แค่พื้นที่ชั้นหนึ่งเท่านั้นค่ะ รอดูห้องอาหารบรรยากาศดีๆกัน
รอเรือ (ร. เรือ คือคำนี้เองหรอ ^^) จากทางโครงการมารับ เห็นวิวสะพานตากสินกับการจราจรทางน้ำซึ่งอดีต กรุงเทพได้ชื่อว่า เวนิสตะวันออก
บรรยากาศบริเวณท่าเรือ ด้านขวาคือวัดยานนาวา อาคารที่ตั้งประจันหน้าเราอยู่ คือ อาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ที่ปัจจุบันเอาไว้ใช้เป็นแค่พื้นที่โฆษณาเท่านั้น
รายละเอียดการเดินเรือติดอยู่บริเวณท่าเรือสาทร
นี่เป็นเรือข้ามฟากข้ามาจากท่าเรือเสริมสุข เสียค่าข้ามครั้งละ 3.50 บาท จะคนละโป๊ะกับที่เราขึ้นไป The River นะคะ ค่อนไปทางถนนเจริญนครอีกฝั่งมี Community Mall อย่าง เสนาเฟสที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน เดินไปจาก The River ประมาณ 500 เมตร
การเดินทางมาเสนาเฟสจากโครงการ จะเดิน หรือขับรถมาก็ได้ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการนะคะ มีร้านอาหารภายในนี้เยอะอยู่ ถึงจะไม่ใช่ Community mall ที่ใหญ่มากแต่เรียกว่า มีของกินหลากหลาย ส่วนของใช้ก็มีซุปเปอร์มาร์เกตอย่าง มาเก็ต วิลล่า ให้จับจ่ายได้อยู่ เพียงแต่ที่จอดรถมีแค่สองชั้นเอง น้อยไป
เรือของ The River จอดอยู่ที่ท่าน้ำบริเวณหน้าโครงการเลย ลำสีน้ำเงินกรมท่านู้น
ท่าเรืออันนี้ อยู่ข้างๆกับท่าเรือข้ามฝาก มีเรือของโรงแรมอื่นๆใกล้เคียงมารับลูกค้า สามารถใช้เรือเป็นการเดินทางได้เช่นกันค่ะ
ศาลานั่งพัก มีเจ้าถิ่นตัวสีดำงีบอยู่ อากาศเย็นสบาย
เรือ The River มาแล้วค่ะ 🙂
เรือมีส่วนที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์
ภายในห้องโดยสารติดแอร์
ถึงท่าเรือกันแล้ว ไม่มีใครเมาเรือนะคะ เข้าสู่โครงการกันค่ะ
เจาะลึกตัวโครงการ
แนวความคิดในการออกแบบ
ทำเลที่ตั้งของโครงการที่เน้นวิวและเรื่องความเป็นส่วนตัว ใช้ศักยภาพของที่ดินอย่างเต็มที่ อาคารทั้งสองหลังไม่เพียงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่ดีที่สุด การออกแบบอาคารหุ้มด้วยกระจก เปิดให้เห็นมุมมองได้เต็มที่ ตัวอาคารยังเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของฟากฟ้ากรุงเทพฯด้วยในขณะเดียวกัน เปรียบเสมือนเป็นสถานที่พักผ่อน ที่อยู่ในใจกลางเมือง แต่ยังเดินทางได้สะดวกสบาย อีกทั้งมีรูปแบบของห้องที่หลากหลายเพื่อปรับให้เข้าความต้องการของผู้อาศัยได้ลงตัวมากที่สุด
มาดูกันที่ผังพื้นของโครงการทั้งหมดกันก่อนคะ
The River เป็นอาคารที่แบ่งออกเป็นได้ 3 ส่วน คือ North Tower , South Tower และ Podium ด้านหน้าเป็น Vue ติดกับถนนเจริญนคร ห่างจากโครงการประมาณเกือบ 100 เมตร สามารถเข้าคอนโดจากทางนี้เลยหรือเข้ามาทางซอยเจริญนคร 13 ก็ได้ ส่วนด้านหลัง ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่เปิดเป็นพื้นที่ริมน้ำก่อนค่อยๆถ่ายเข้าสู่โครงการค่ะ
โดย North Tower มีความสูงอยู่ที่ 42 ชั้น ในชั้น 23-31 จะเป็นชั้นที่จัดเป็น Service apartment และชั้น 23 เป็นพื้นที่ของ Sky Lobby ในส่วนของ South Tower มีความสูงอยู่ที่ 71 ชั้น เป็นคอนโดมิเนียมพักอาศัยทั้งหมด ชั้น 40 เป็นพื้นที่ของ Sky Lobby โดยพื้นที่ส่วนกลางจะถูกจัดอยู่ใน Sky Lobby ของแต่ละตึก และในชั้น 5 ซึ่งผังของอาคารทั้งสองใช้การ mirror กันค่ะ
มาดูที่โมเดลกันค่ะ ด้านหน้า ปัจจุบันคือ Vue เข้าโครงการจากทางนี้หรือเจริญนคร 13 ก็ได้
มองเข้ามาจากถนนเจริญนคร ขวามือเป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ และสะพานตากสิน ซ้ายมือคือโรงแรมเพนนินซูล่า
ตรงมาจากซอยเจริญนคร 13 สามารถตรงเข้าข้างโครงการตรงนี้เลย ข้างล่างสระว่ายน้ำคือพื้นที่จอดรถ
South Tower สูง 71 ชั้น และ North Tower สูง 42 ชั้น
สระว่ายน้ำแบบ Wet edge riverfront ยาว 33 เมตร อยู่ชั้น 5
Lap pool ยาว 50 เมตร ด้านริมน้ำจัดทำเป็นร้านอาหาร
Sky Lobby ชั้น 40 มี สระว่ายน้ำ และฟิตเนส ใน North Tower เหมือนกันแต่อยู่ชั้น 23
Riverfront ยาวประมาณ 120 เมตร
ท่าเรือเข้าสู่โครงการ
มาที่ตัวโครงการจริงๆกันมั่ง ฝนเดินผ่าน Vue เข้ามาค่ะ สำนักงานขายย้ายมาอยู่ที่นี่นะคะ
มีชื่อโครงการตั้งเห็นชัดเจน ผนังกระเบื้องสีครีม เล่นระดับให้ดูมีมิติเหมือนคลื่น
มีป้ายบอกทางตั้งแต่ทางเข้าเลย โครงการมีพื้นที่กว้างมาก แต่ทิศทางไม่หลงค่ะ ฝนจะพาไปดู Facilities กันก่อน
เหนื่อยจะเดินก็มีรถบัคกี้ รับ-ส่ง ภายในโครงการ
อาคารจอดรถ มีทางเข้าหลายทางค่ะ โดยเมื่อร้านอาหารริมน้ำเปิดจะแบ่งพื้นที่จอดรถส่วน North Tower ชั้น 1 ไว้สำหรับแขกที่มารับประทานอาหาร
สำหรับห้อง Studio , 1Bedroom , 2 Beddrooms ได้สิทธิ์จอด 1 คันแบบไม่ระบุตำแหน่ง
3 Bedrooms ได้สิทธิ์จอด 2 คันแบ่งเป็น ไม่ระบุตำแหน่ง 1 คัน และ ระบุตำแหน่ง 1 คัน
Duplex ได้สิทธิ์จอดแบบระบุตำแหน่งทั้งสองคัน
Penthouse ได้สิทธิ์จอด 3 คัน แบ่งเป็น ไม่ระบุตำแหน่ง 1 คัน และ ระบุตำแหน่ง 2 คัน
บรรยากาศร่มรื่นค่ะ ที่เห็นข้างหน้าคือ ทางลาด วนขึ้นที่จอดรถ บริเวณนี้น่าจะติดกระจกเอาไว้เผื่อรถสวนกันจะได้ไม่อันตรายมาก
ทางเข้า Lobby ฝั่ง South Tower มี Canopy ยื่นออกมารับ
ป้ายบอกชัดเจนนี่ South Tower นะ
ไม่หลงทางแน่ๆ เดี๋ยวจะพาไปเดินรอบๆก่อนค่ะ
ลักษณะพื้นเป็นคอนกรีตแสตมป์พิมพ์ลาย เคลือบผิว เพื่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย ถนนภายในโครงการ ถนนกว้าง 6 เมตร ค่อนข้างเล็กไปหน่อยสำหรับอาคารสเกลนี้
Facade อาคารจอดรถ ใช้ Fin เป็นซี่ๆแบบนี้ทั้งหมด บังสายตาแต่ยังได้การระบายอากาศและแสงสว่าง
จุดรับน้ำดับเพลิงภายในโครงการ
ทางเข้าที่จอดรถอีกฝั่งหนึ่ง
กันหลง มีแผนผังคร่าวๆให้ดูด้วยว่าไปทางไหน ทางเดินที่เดินมาจากริมน้ำ สามารถเข้าสู่ทั้งสองอาคารได้เลย ตามเส้นสีเขียว หรือถ้าจะเลาะไปข้างๆอาคาร สามารถเลาะไปทางซ้าย หรือขวาก็ได้เพื่อเข้าอาคาร พื้นที่บริเวณชั้นหนึ่งเชื่อมถึงกันหมดนะคะ เพียงแต่ว่าจะเข้าสู่อาคารต้องใช้ Key Card ค่ะ
พามาเดินบริเวณ Riverfront กันก่อนเข้าไปใน Lobby ค่ะ บรรยากาศดีจริงๆ เก็บต้นไม้เก่าเอาไว้สองสามต้น
เมื่อขึ้นมาจากท่าเรือเราจะพบ โคมไฟตั้งพื้น เพื่อเป็นแนวนำสายตาเข้าสู่โครงการ เหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน นั่งเรือข้าม ค่อยๆปรับอารมณ์ เมื่อมาถึงคอนโด เหมือนได้มาพักผ่อนรีสอทส่วนตัว ผ่อนคลายดีนะคะ
บริเวณนี้เป็นทางเดินเมื่อขึ้นมาจากท่าเรือค่ะ มีพี่ยามประจำดูแลความปลอดภัยอยู่ด้วย ไม่มีหลังคาคลุมตั้งแต่ทางท่าเรือค่ะ
มองออกไปดูวิวซักหน่อย ขวามือเห็นสะพานตากสิน
ตรงมาเห็นโรงแรมแชงกรีลา
ซ้ายมือยังเห็นโรงแรมแชงกรีลา และตึกโรงเรียนอัสสัมชัญ
พื้นที่ๆจะเปิดเป็นร้านอาหาร
กฎของการใช้เรือรับ – ส่ง เปิดให้บริการตั้งแต่ 06:30-23:00 น. เลย
บรรยากาศทางเดินเส้นกลาง เดินตรงเข้าไปแยกซ้ายขวาเข้าสู่อาคารได้ ร่มรื่นดี มีบ่อน้ำขนาบข้าง ดึงแม่น้ำให้มาอยู่ในโครงการ
เข้ามาที่ Lobby ของโครงการ South และ North Tower เหมือนกันค่ะ ฝ้าเพดานสูง 13 เมตร เคาน์เตอร์ล็อบบี้ใช้หินอ่อนโปร่งแสงซ่อนไฟไว้ด้านใน การตกแต่งพื้นและผนังใช้โทนสีอ่อน ค่ะ ทำให้ดูมีความแตกต่างด้วยเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งสีดำ
เสากรุด้วยไม้เช่นเดียวกับผนัง ด้านขวาและซ้ายกรุด้วยผนังกระจกสูงชนผ้าเพดาน ทำให้ห้องดูกว้างกว่าเดิม ยกพื้นในส่วนของพื้นที่นั่งนิดหน่อยประมาณ 10 เซนติเมตร ระวังสะดุดนะ โถง Lobby ค่อนข้างสว่างด้วยแสงธรรมชาติเลยเพราะ ด้านนอกเป็นกระจกทั้งผืน
กระจกด้านข้าง ทำให้ดูแล้วเหมือนโถง Lobby ยาวไปเต็มโค้งต่อเนื่อง
ห้องจดหมาย
ตู้จดหมายอยู่ในนี้ทั้งหมด แยกแต่ละ Tower นะคะ มืดไปหน่อยสำหรับการใช้สายตาดู
โถงลิฟต์ กรุผนังกระจกเงาขอบสแตนเลส พื้นหินอ่อนสีครีม สุดทางออกไปที่จอดรถค่ะ ซ้ายมือเป็น Low Zone ขวามือ High Zone
ทางเข้าจากที่จอดรถ เจอโถงลิฟต์ ใช้ Key Card เข้ามาคะ
เข้ามาภายในลิฟต์ ตกแต่งสวยงาม ซ้าย ขวา เป็นกระจกเงา มีราวจับสองข้าง ซ่อนไฟผนังด้านหลัง
เข้ามาด้านซ้าย มีรายละเอียดการเดินเรือ และ มีจอ LCD เล็กๆ แสดงให้ดูว่าแต่ละชั้นที่ผ่านมีอะไรบ้าง
ส่วนฝั่งขวา เป็นที่กดลิฟต์และจอแสดงชั้นค่ะ
ลิฟต์ของ KONE แสดงชั้นที่เรากำลังจะไป ฝนกำลังขึ้นชั้น 5 พาไปดู Facilities ที่โครงการกัน
ลักษณะของชั้นนี้ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ฝ้าเพดานมีหลืบไฟซ่อน
มีหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่เอาไว้แสดงสถานะของลิฟต์แต่ละตัว
เข้าออกใช้ระบบ Key Card
หน้าตาแท่นแตะเป็นแบบนี้
มาดูป้ายบอกทางกันก่อนชั้นนี้ มีอะไรบ้าง
สระว่ายน้ำมีทั้งหมด 3 สระค่ะ จุดที่ฝนยืน ตรงบริเวณที่กากบาท ยืนดูรอบๆก่อนแล้วจะพาไปดู River pool กันค่ะ
ออกมาปุ๊ป สิ่งแรกที่เราเห็นคือ โรงแรมเพนนิซูล่าค่ะ ตรงไป มี Lap pool 50 เมตร
มองไปทางซ้ายเป็น North Tower ฝนมาจาก South Tower ค่ะ
มองไปทางขวาเป็นไปสระว่ายน้ำ River Pool ลักษณะแบบ Infinity Pool ยาว 33 เมตร ขวามือเป็นส่วน Home Office ซึ่งขายไปหมดแล้ว
หน้าตาของ Home Office โดยผู้ซื้อห้องบริเวณนี้สามารถประกอบกิจการค้าต้องยื่นขออนุญาต กับทาง Raimond Land ก่อน
ทางเดินสู่ส่วนสระ Wet Edge Riverfront มีทางลาดไว้ให้บริการด้วย
ขึ้นมามี โคมไฟเตี้ยๆตั้งเป็นระยะๆ รูปแบบเหมือนโคมไฟที่ขึ้นมาจากท่าน้ำ ซีรี่ย์เดียวกัน แต่คนละไซด์
ส่วนอาบน้ำ
มีบันไดเดินลงไปด้านล่าง
มองจากอีกมุมนึง Day bed กระจายอยู่เพียงพอต่อการใช้ไม่แออัด
สระแบบนี้ เวลาว่ายวิว ริมน้ำเจ้าพระยาเลย
สระและแม่น้ำเชื่อมกัน
มองจากสระเห็นวิวโรงแรมแชงกรีลาและ State Tower
เดดินไปดู Lap pool และ Garden Pool กัน บันไดทางเดินขึ้น มีไฟแบบฝังตามขั้นแบบนี้เพื่อให้เห็น แต่ไม่ได้สว่างมาก
แท่งสีดำเป็น bollard ค่ะ ให้ความสว่างตอนกลางคืน ระเบียงใช้เป็นกระจก Tempered เพื่อให้มองออกไปเชื่อมสายตาไปได้ทุกส่วน ไม่ทึบตัน
ที่จอดรถ เปิด Court ให้แสงธรรมชาติและลมเพื่อการระบายอากาศ ลอดเข้ามา ใช้ Pattern ของระแนง ถี่ ห่าง ไม่น่าเบื่อ
ด้านล่างสุด คือทางเดินลอดเข้ามาจากท่าน้ำ ปลูกต้นไม้และมีบ่อน้ำตื้นๆยาวมาตั้งแต่ทางเข้าจากท่าน้ำ ดึงความเป็นแม่นำ้ต่อเนื่องเข้าสู่โครงการ
Lap Pool ยาว 50 เมตร มี Pavillion ข้างๆ ตลอดแนวยาวสระ ความลึกสระ 1.35 เมตร
คั่นระหว่างสระด้วยพื้นที่สวน มีลู่วิ่งภายในสวนไว้ออกกำลังกาย ดูๆไปแล้วเหมือนสวนสาธารณะดีดีในนี้เลย
เขยิบมาเป็นส่วน Garden Pool จะร่มรื่น ล้อมด้วย Pavillion ซ้ายขวา อารมณ์รีสอร์ท ความลึกสระ 1 เมตร
Pavillion
ต่อไปฝนจะพาไปดูห้องน้ำและฟิตเนสกัน อยู่ใต้ North Tower ค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำ หนุ่มๆซ้าย สาวๆขวาจ้า
ภายในโถงห้องน้ำ กว้างมาก ได้รับแสงธรรมชาติด้วย มีอ่างล้างมือ 3 อ่าง
อีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์ยาวไว้แต่งตัว
มีห้องอาบน้ำแบบ Rain Shower ประตูห้องน้ำเป็นกระจกฝ้า
ห้องส้วม
และห้องซาวน่า
ออกมาบริเวณที่นั่งพัก ปลายทางเดินเป็นห้องฟิตเนสและสนามเทนนิส
มองออกไปเห็นเป็นวิวแบบนี้ ด้านหลังของตึกแถว
ฟิตเนส มองเห็นวิว ภายนอกเป็นสวน
อีกมุมนึง ด้านนี้มองเห็นวิวสนามเทนนิส
ออกมาด้านนอก มีแบตมินตัน 2 คอร์ท
ขึ้นลิฟต์มาดูส่วน Sky Garden กันบ้างค่ะ อยู่แยกกันนะคะ South Tower อยู่ชั้นที่ 40 North Tower อยู่ชั้น 23 การวางผังเหมือนกันแค่กลับซ้าย ขวา ที่ต่างกันคือเรื่องวิวค่ะ
ผังคร่าวๆของ Sky Garden ในแต่ละ Tower ตอนนี้ฝนอยู่ที่ South Tower ชั้น 40 ค่ะ
ตำแหน่ง Sky Garden ชั้น 23 North Tower
ตำแหน่ง Sky Garden ชั้น 40 South Tower
ในชั้น Sky Garden จะมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ซาวน่าค่ะ ไปดูกัน
เข้ามาจะพบสระว่ายน้ำเลยเป็นแบบ Over Flow
สระยาวตลอดทั้งแนว มองไปเห็นวิวแม่น้ำกับยอดของอาคาร สวยดีค่ะ
Reflection
มุมมองจากสถานที่จริงจะกว้างมากๆ อยากถ่ายทอดออกมาให้ทุกๆท่านเห็นจัง 🙂
ด้านนี้จะหันไปเจอ North Tower พอดี ไปที่ห้องฟิตเนสกันค่ะ
ภายในห้องฟิตเนส ฝ้าเพดานสูงประมาณ 6 เมตร อุปกรณ์เยอะและพื้นที่กว้างค่ะ
ห้องนี้เปิดออกมองวิวทั้งสองด้าน เห็นชัดทั้งสองด้าน
ออกกำลังกายเห็นวิวถนนด้านถนนเจริญนคร ก็สวยดีนะคะ เห็นถนนกรุงธนบุรีที่วิ่งมาเจอสามแยกพอดี ซ้ายมือคือ BTS สถานีกรุงธนบุรี
มองจากด้านบน พื้นที่โล่งๆตรงนั้น อย่างที่ฝนบอกไปตอนต้นๆ จะกลายเป็น Shopping Mall ริมน้ำขนาดใหญ่ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยาวประมาณ 120 เมตร
- เรือรับ-ส่ง จากท่าเรือสาทร (ท่าเรือตากสิน)
- ล็อบบี้ต้อนรับฝ้าเพดานสูง 13 เมตร
- พื้นที่สวนในโครงการ
- Lap Pool 50 เมตร ระบบน้ำเกลือ
- สระว่ายน้ำแบบ wet edge riverfront ยาว 33 เมตร
- ห้องฟิตเนส
- Sky garden และ ฟิตเนสแยกแต่ละตึก
- ลิฟท์โดยสาร 6 ตัว แยก Low Zone และ High Zone ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ North Tower 51.1:1 South Tower 86.5:1
- Service Lift 1 ตัว ต่ออาคาร
- ที่จอดรถ 1217 คัน
- ระบบ CCTV / Access Card / Intercom
- แอร์กลางระบบ Water Cooled
Product Walkthrough
พามาดูห้องพักชั้น 63 กันดีกว่า โถงลิฟต์ไม่ค่อยสว่างมากเท่าไหร่
ลักษณะผังอาคาร ห้องจะล้อมรอบ ทางเดินทั้งหมดเลย เพื่อเปิดให้เห็นทัศนียภาพแบบชัดๆ มีเห็นมากหรอเห็นน้อย ส่วนห้องที่ทำเครื่องหมายสีน้ำเงินไว้จะหันหน้าออกไปทางด้านถนนเจริญนครพอดี จะเป็น City View ส่วนมากเป็น Studio
ห้องที่ฝนจะพาไปดูมีขนาดประมาณ 131 ตารางเมตร อยู่บนชั้น 63 ของ South Tower อยู่ทางทิศใต้ค่ะ
อธิบายจากผังพื้นกันก่อนค่ะ ห้องนี้กับห้องตัวอย่างจะเหมือนกันนะคะ ต่างกันที่กลับซ้ายขวาเท่านั้น 🙂
เปิดประตูเข้ามาส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ทานอาหารและครัวค่ะ ตรงเข้ามาเป็นพื้นที่รับแขกที่มองเห็นวิวด้านนอก สามารถเดินออกไประเบียงได้ค่ะ และแยกไปเป็็น Study Room กลับมาที่ส่วนทานอาหารเดินตรงเข้ามาแยกเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก ห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงที่เชื่อมยาวได้เลย ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร
บานประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ค่ะ ป้ายเลขที่ห้องอยู่ระดับเดียวกับมือจับ
อุปกรณ์ใช้ของ Hafele มือจับประตูแบบลูกบิดก้านโยก
ระบบอินเตอร์คอม
พื้นภายในและพื้นที่ทางเดินหน้าห้อง พื้นในห้องจะสีเทาเข้ม พื้นด้านนอกเป็นแกรนนิตโต้ธรรมดา พื้นห้องส่วนที่ดูเป็นกระเบื้องคือ พื้นหินจริง (Imported)
Door Stopper และบัวพื้น MDF ทาสีขาว
เข้ามาผนังด้านนี้ซ่อนงานระบบเอาไว้
ประตูสองชั้น
เข้ามาจะเห็นส่วนทานข้าว ครัว และถัดไปเป็นส่วนรับแขก
ส่วนครัวเป็นครัวเปิด มี Island ตรงกลาง ซ่อนไฟตรงหลังตู้เก็บของ
อุปกรณ์ชุดครัวของ Siemens เตาไฟฟ้า 4 หัวแบบเซรามิค วัสดุปิดผนังเป็นกระจก
ด้านนี้เปิดออกมาเป็นตู้เย็น
เปิดตู้เย็นออกมา มีตู้เก็บของด้วยข้างๆ
ตู้ระบบไฟซ่อนอยู่ตรงนี้
Top หินสังเคราะห์สีขาว เซาะร่องไว้สำหรับพักจาน
มองจากโต๊ะทานข้าวเข้ามาที่ครัว สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่งหลวมๆ
หน้าตาสวิทช์เป็นแบบระบบสัมผัส สีเขียวเปิด สีน้ำเงินปิด ใช้ในส่วนห้องรับแขกและส่วนกลางของห้อง ห้องน้ำจะเป็นสวิตช์แบบปกติ
ฝ้าเพดานสูง 2.75 เมตร ฝ้าฉาบทาสี
ส่วนพื้นที่รับแขกที่ถัดเข้ามา มองเห็นวิวแม่น้ำเช่นกัน ข้อเสียของการที่มีกระจกเป็นผนังของอาคารในบ้านเราก็คือเรื่องแสงและความร้อนที่มากเกินไป แต่ถ้าเทียบกับวิวแล้ว ยอมแลกกันหรือเปล่าค่ะ 🙂
ประตูบานเลื่อน เข้าไปที่ห้อง Study Room ด้านหนึ่งติดกระจกทั้งแถบ ผนังภายในห้องเป็นผนังก่ออิฐ ฉาบเรียบทาสีขาว
ประตูออกไปยังระเบียงด้านนอก
บานประตูออกไปนอกระเบียงค่อนข้างสูง และหนากว่าปกติ เพราะต้องเลือกใช้บานที่มีความแข็งแรงมากกันปัญหาเรื่องลมและเสียง บานประตูและราวลูกกรงเป็นอะลูมิเนียม Powder Coat กระะจก Laminated ตัดแสง
ระเบียงภายนอก เชื่อมกับห้องนอนทั้งสองห้อง
มองออกมาเห็นวิวเต็มๆยาวเลย
ภายนอกมีโคมไฟติดผนัง 1 ดวง และ ปลั๊กไฟกันน้ำ
ลดระดับพื้นเพื่อทำรางระบายน้ำ
หน้าตาของ หัวก๊อกน้ำภายนอก ค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกใช้อุปกรณ์เลย
ทางซ้ายเป็นห้องน้ำ ตรงไปเป็นห้องนอนใหญ่ และขวามือเป็นห่้องนอนเล็ก
ห้องน้ำห้องนี้ไม่มีห้องอาบน้ำ เคาน์เตอร์ยาวตลอดแนวผนัง
อ่างล้างมือขนาดเล็กแบบวางบนเคาน์เตอร์
เข้ามาในห้องนอนเล็กด้านหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเต็มจรดฝ้าเพดาน
เปิดออกมาเป็นแบบนี้ มีแบบแขวนและพับ น่าจะมีที่แขวนหรือห้อยเข็มขัด เนคไท เพิ่มด้วยได้อีก
วางเตียงลงไปได้ขนาดกำลังดี
เหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 1 เมตร ถึงผนัง มีระยะวางทีวีได้ ชั้นขนาดประมาณ 30-40 เซนติเมตร
สวิตช์ที่ใช้ภายในห้องน้ำ
ห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง อ่างล้างมือมีพื้นที่สองข้างวางของได้ ถัดเข้าไปเป็นสุขภัณฑ์ ผนังมีบ่าเอาไว้วางขอได้ ต่อเนื่องเข้าไปถึงห้องอาบน้ำ สุขภัณฑ์ Nahm / Joden / เทียบเท่า
หัวก๊อกน้ำและที่หมุนเปิด เหลี่ยมๆ มีลบมุมเล็กน้อย สวยดีค่ะ
สุขภัณฑ์แบบ Wall Hung หน้าตาล้อไปกันเกือบทั้งหมดเลย ซีรี่ย์สุขภัณฑ์ ที่แขวนกระดาษชำระ และท่อสำหรับสายชำระอยู่ฝั่งเดียวกัน
ตัวกดชำระอยู่ที่ผนัง
ส่วนของห้องอาบน้ำ มี Rain Shower และฝักบัว ภายในห้องน้ำผนังกรุกระเบื้องเซรามิคสีครีม
ชอบฝักบัวอันนี้ น่ารัก สวยดีค่ะ
กระจกในห้องน้ำ ด้านหลังเก็บของได้ตามสูตร
ระบบพัดลมดูดอากาศและ มีหัวดับเพลิงภายในห้องน้ำด้วย
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้าง เข้ามาจะเจอห้องน้ำก่อนเลยอยู่ซ้ายมือค่ะ
ประตูกระจกบานเลื่อน ห้องน้ำห้องนี้เน้นโปร่งค่ะ ประตูใส ข้างในก็ใส
รางประตูกระจกอยู่ด้านบนและล่าง
รางประตูด้านบน
เข้าห้องน้ำมาจะเจออ่างล้างมือและแยกซ้ายไปส่วนอาบน้ำ ขวาเป็นห้องส้วม
มีชั้นเก็บของหลังกระจก
ขวามือเป็นห้องส้วมค่ะ
สุขภัณฑ์เหมือนกัน เวลาพับฝารองนั่งลงแล้วสวยดี
ซ้ายเมือจะเป็นส่วนเปียกทั้งหมด บริเวณอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ
อ่างอาบน้ำมีที่แขวนผ้าเช็ดตัวด้านบน
ก๊อกน้ำเป็นแบบน้ำตก
เข้ามาดูที่ห้องนอนกันบ้างมองเข้ามาเห็นวิวแม่น้ำเลย ซ้าย ขวา ทำเป็นตู้เสื้อผ้า
วางเตียง Queen Size ได้เหลือที่รอบเตียงเยอะ จริงๆสามารถวาง King Size ได้เลยค่ะ
มองออกไปนอกห้อง
ปลายเตียงมีที่เหลือเยอะ ตั้งทีวีไว้ปลายเตียงขนาด 40 กว่านิ้วก็ได้
มาดูที่ห้อง Duplex กันบ้างนะคะ ห้องนี้มี 2 ชั้น ห้องที่ฝนไปดูอยู่ที่ North Tower ค่ะ ชั้น 40 ผังห้องกับห้องของจริง สลับซายขวา ค่ะ เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนครัว และมองไปเป็นบันไดทางขึ้นค่ะ ถัดจากครัวเป็น Island พื้นที่นั่งทานข้าว พื้นที่รับแขกแบบ Double Space ส่วนเข้าไปข้างในแบ่งออกเป็นห้องนอนเล็กและห้องน้ำ
ขึ้นบันไดมาชั้นสอง เจอโถงก่อนใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ดูทีวี และแยกออกเป็นห้องน้ำและห้องนอนใหญ่ ชั้นนี้สามารถเข้ามาได้จากอีกชั้นค่ะ คือ ชั้น 41
เดินเข้ามาจะพบครัวก่อนเลย มองตรงไปเห็นบันไดทางขึ้น
ขวามือเป็นที่ทานข้าวและส่วนนั่งเล่น
ห้องนี้ เคาน์เตอร์ครัวและ Island เป็นสีดำ อุปกรณ์ชุดครัวเหมือนกันจาก Hafele ชุดตู้เย็น Built-in ซ่อนอยู่ในบานตู้สีเทา
มีหน้าต่างจากห้องนอนใหญ่ ระเบียงจากชั้นสอง เป็นกระจก Tempered จากห้องนอนใหญ่มองลงมาที่ส่วนรับแขกด้านล่างได้ด้วย
จากห้องนั่งเล่นมองออกไปเห็นวิวข้างนอก ประตูบานเลื่อนสามตอน ออกไปเดินเล่นชมบรรยากาศนอกระเบียงได้
พื้นที่ระเบียงด้านนอก สามารถออกมาจากห้องรับแขกหรือห้องนอนชั้น 1 ได้
หัวก๊อกน้ำ และตำแหน่งปลั๊กไฟกันน้ำด้านนอก
วิวจากห้องนี้จะถูกบีบด้วยครีบอาคารด้านข้างและตัว South Tower มุมมองจะไม่ได้พาโนรามา
มองออกไป ซ้ายมือเป็นส่วน Sky Garden ในส่วนของ South Tower ที่อยู่ระดับชั้น 40 เหมือนกัน
ก้มลงมองเห็นพื้นที่ชั้น 5 Lap Pool และ Garden Pool
มาที่ห้องน้ำกัน ขวามือเข้ามาเป็นอ่างล้างมือ ซ้ายมือเป็นส่วนอาบน้ำ
สุขภัณฑ์มาตรฐานของโครงการ
อ่างล้างมือยาว
ส่วน Shower
เข้ามาในห้องนอนใหญ่ หน้าต่างด้านหัวเตียง
จากห้องนอนชั้นหนึ่งมองออกไปด้านนอก กระจกสามารถเปิดได้ และออกไปที่ระเบียงด้านนอกได้คะ
มือจับบานกระทุ้งของกระจก แต่ะมัดระวังเรื่องลมดีๆค่ะ
ห้องก่อนขึ้นไปชั้นสองเป็นงานระบบของห้องนี้
ราวบันไดกระจก Tempered
ขึ้นมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นชั้นสอง ประตูขวามือสามารถเข้ามาจากอีกชั้นได้เหมือนกัน
มองออกไป จากชั้นสอง เห็นวิวแบบนี้
เข้ามาในส่วนของห้องนอนใหญ่ จะเจอห้องน้ำก่อนค่ะ ส่วนตู้เสื้อผ้าจะ Built-in ยาวตามแนวผนังเข้ามาในห้องน้ำแยกซ้ายขวา เข้ามาเจออ่างล้างมือ ส่วนขวามือเป็นห้องอาบน้ำ ซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์
โถอยู่นี่
ห้องอาบน้ำและอ่างอาบน้ำ
สามารถวางเตียงและโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้
มองจากห้องนอนใหญ่ออกมานอกหน้าต่าง ปลายเตียงเห็นหน้าต่างที่มองลงมาด้านล่างได้
มองจากหน้าต่างในห้อง พื้นที่ดูเชื่อมและต่อเนื่องกัน
ตั้งโต๊ะทำงานเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31/07/2013
- Studio North Tower ชั้น 7 เนื้อที่ 44.20 ตารางเมตร ราคา 5.9 ล้านบาท หรือ 133,484 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom South Tower ชั้น 7 เนื้อที่ 62 ตารางเมตร ราคา 6 ล้านบาท หรือ 96,774 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom North Tower ชั้น 10 เนื้อที่ 133.64 ตารางเมตร ราคา 20.4 ล้านบาท หรือ 96,774 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom Duplex North Tower ชั้น 38 เนื้อที่ 136.52 ตารางเมตร ราคา 37.5 ล้านบาท หรือ 274,685 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms South Tower ชั้น 7 เนื้อที่ 75.37 ตารางเมตร ราคา 9.3 ล้านบาท หรือ 123,391 บาทต่อตารางเมตร
- 3 Bedrooms North Tower ชั้น 34 เนื้อที่ 145.17 ตารางเมตร ราคา 24.6 ล้านบาท หรือ 169,456 บาทต่อตารางเมตร
- 3 Bedrooms South Tower ชั้น 64 เนื้อที่ 207.57 ตารางเมตร ราคา 36.5 ล้านบาท หรือ 175,844 บาทต่อตารางเมตร
- Loft Duplex North Tower ชั้น 9 เนื้อที่ 247.55 ตารางเมตร ราคา 49.7 ล้านบาท หรือ 200,767 บาทต่อตารางเมตร
- Loft Duplex South Tower ชั้น 19 เนื้อที่ 384.86 ตารางเมตร ราคา 96.2 ล้านบาท หรือ 249,961 บาทต่อตารางเมตร
- Home Office North Tower ชั้น 5 เนื้อที่ 181.91 ตารางเมตร ราคา 16.3 ล้านบาท หรือ 89,604 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.75 เมตร และ 6 เมตร ในส่วนของ Loft Duplex
- จอง 100,000 บาท
- ทำสัญญา 10%
- โอน 90%
- ค่ากองทุน 950 บาทต่อตารางเมตร ชำระครั้งเดียว
- ค่าส่วนกลาง 70 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
สำหรับบทสรุปโครงการนี้ ฝนเห็นค่อนข้างตรงกับ Mr.Oe เลยทีเดียว สำหรับฝนมองไปถึงเรื่องย่านของบริเวณนี้ที่เริ่มเปลี่ยนการใช้สอยของพื้นที่จากย่านตึกแถวมาเป็นอาคารชุดพักอาศัย โรงแรม และ Community Mall ไป จะทำให้ย่านนี้คึกคักกว่าเดิมมากและจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในบริเวณนี้อีกแน่นอน ซึ่งมองในมุม River Front ของแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว จะมีอาคารที่โดดเด่นสร้างสีสันให้กับริมน้ำเจ้าพระยาอีกหลายหลัง แต่สิ่งที่จะเสียไปคือวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำของบริเวณนั้น ซึ่งต้องปรับไปตามกาลเวลา
ขอยกบทสรุปและ Judgementของ Mr.Oe มาไว้ตรงนี้เลยนะคะ 🙂
The River ริมสะพานสาทร ตั้งอยู่ในทำเลติดแม่น้ำที่อาจจะหาไม่ได้อีกแล้ว แม้จะมีพื้นที่ติดถนนและติดแม่น้ำอีกหลายแปลง แต่ยากที่จะมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะสร้างโครงการตึกสูง 72 ชั้นได้ยิ่งใหญ่อลังการได้เหมือนโครงการนี้ ไม่นับว่าที่แปลงนี้ อยู่ไกล้เมือง ไกล้แม่น้ำ แถมมีทางเลือกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ด้วย
รอบข้างระยะเดินถึง ไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมฐานะ แต่หน้าโครงการก็จะมี Vue Community Mall น่าจะพอพึ่งพาได้ ร้านอาหารย่านนี้มีร้านเก่าแก่ อร่อยมากมาย ไม่นับโรงแรมระดับหรูที่อยู่รายล้อม ที่สามารถไปใช้ Facility หลายๆอย่างเช่นร้านอาหาร ได้ การเดินทางด้วยรถ สะดวกมากถ้ารถไม่ติด จะมีช่วงรถติดมากบนสะพานสาทรคือเช้าเย็น โชคดีที่ลงสะพานมาก็แทบจะถึงตัวโครงการเลย (ปัจจุบันมีเสนาเฟสอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลด้วยประมาณ 500 เมตร)
วัสดุที่จัดมาให้ในห้อง ก็ดูดีสมราคา แต่เนื่องจากห้องมีราคาต่อตารางเมตรที่แตกต่างกันมาก ห้องที่ราคาเกิน 160,000 บาทต่อตารางเมตร วัสดุที่ได้ อาจจะน้อยไปนิด จุดเด่นของโครงการนอกจาก วิวแม่น้ำ และทำเลแล้ว Facility ของ The River เรียกว่ายอดเยี่ยมจัดเต็ม สวย เยอะ ใหญ่ คุ้ม
การออกแบบของตัวโครงการ เหมาะกับการกลับมาพักผ่อน ออกแนว Resort ไม่แห้งแล้ง กระจกแนวโค้ง ได้ระเบียงโค้ง ทำให้ได้วิวกันเต็มๆ Layout ห้อง เน้นโปร่งโล่ง ไม่ซอยย่อยยุบยิบ ห้องเล็กสุดวิวไม่สวยไม่เห็นแม่น้ำ และชั้นล่างสุด (ชั้น7) ราคา Start ที 90,500 บาทต่อตารางเมตร หรือ 6.3 ล้านบาทเข้าไปแล้ว ใครมีเงินน้อย อาจจะหยิบยากหน่อย ที่นี่เค้าคัดเกรดผู้อยู่อาศัย ไม่ทำห้องขนาดเล็กราคาถูกออกมาเลย
ที่น่าคิดคือ The River มีกันพื้นที่ไว้ หลายห้อง เป็น Floor เลย ชั้นเดียวกับห้อง Sky Garden เพื่อที่จะทำ Private Residence Club (Fractional Ownership) บริหารจัดการโดย Raiman Land คล้ายๆร่วมกันลงเงินเพื่อเป็นเจ้าของร่วมในคอนโดที่ต่างๆ และ Share กันใช้ ซึ่งต่อไปในอนาคต เราคงเห็นลักษณะแบบนี้มากขึ้น เพราะราคาอสังหาที่แพงขึ้นมากมาย จนยากที่จะเป็นเจ้าของเองได้
Judgement
ราคาขนาดนี้ และคอนโดระดับ ULTIMATE ความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อหรือไม่ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลัก ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ จึงมิอาจให้คะแนนได้นะครับ
BOTTOM LINE
The River คอนโดมิเนียมที่กลายเป็น 1 ใน Landmark ของแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยตัวอาคารที่โดดเด่นจากการออกแบบสถาปัตยกรรม วิวภายในของอาคารที่ได้เห็นคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ Excusive ได้อย่างไม่ยาก เหมาะสำหรับคนที่มีบ้านอยู่แล้ว ที่นี่เป็นแหล่งผ่อนคลายทางจิตใจในเมืองกรุงที่เดินทางได้สะดวก ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลมาก ก็สามารถเติมพลังได้แล้วค่ะ