รีวิวฉบับที่ 277 วันนี้เราบินมาไกลจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ข้ามมา 700 กิโลเมตร เพื่อรีวิวคอนโดใกล้เมืองสไตล์โมเดิร์นผสมล้านนา D’Vieng สันติธรรม เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโปรเจคคอนโดมิเนียมของแสนสิริโปรเจคที่สองต่อจาก dcondo campus resort เชียงใหม่ ที่ขายหมดไปแล้วในช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดย ดีเวียง (D’Vieng) เน้นสไตล์ ความสวยงามของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างของภาคเหนือครับ

Fact @ 6 Dec 2012

  • D’Vieng สันติธรรม
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 5 ชั้น 2 อาคาร 264 ยูนิต ตึกละ 132 ยูนิต
  • ตำบล ช้างเผือก อำเภอ เมือง จ. เชียงใหม่
  • ที่จอดรถประมาณ 80 คัน คิดเป็น 30%
  • ที่ดินประมาณ 3-2-58 ไร่
  • Studio/ 1 Bedroom / 2 Bedrooms
  • พื้นที่ใช้สอย 30 – 60 ตารางเมตร
  • ราคาประมาณ 2.1 – 5.2 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 70,000 บาท
  • เปิด Pre-sales วันที่ 15 ธันวาคม 2555

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนเลยว่า ผมไม่ชินทำเลเชียงใหม่เลย เคยมาเชียงใหม่ไม่ถึง 10 ครั้ง ดังนั้นจะให้คอมเม้นท์อะไรที่เกี่ยวกับโซนต่างๆของทำเลคงจะไม่ได้นะครับ

ทางแสนสิริสร้าง Sales Gallery แยกต่างหากจากทำเลโครงการ D’Vieng สันติธรรม โดยใช้สำนักงานขายเดิมร่วมกับ dcondo campus resort ที่ปิดการขายไปแล้ว

สำนักงานขายอยู่หลัง มช. เป็นถนนสุเทพช่วงเลยซอย 5 ไปหน่อยนะครับ

ป้ายหน้าทางเข้าสำนักงานขายยังเห็นเป็น dcondo campus resort อยู่

นี่นะครับถนนหลังมอ

จากสำนักงานขายสามารถวิ่งไป d’vieng สันติธรรมได้ตามภาพ ตัวโครงการอยู่ติดถนนหัสดิเสวี

ที่ดินเป็นผืนกว้าง ติดถนนทั้ง 4 ด้าน ทำให้เป็นส่วนตัวมากเพราะไม่ติดใคร ของเดิมทำเป็นลานจอดรถอยู่ระหว่างซอย 6 กับซอย 8 ไม่ไกลจากคูเมืองครับ

อันนี้เป็นแผนที่สวยๆ ถนนหลักก็ถือถนนห้วยแก้ว แยกเข้าถนนรองหัสดิเสวี

ระยะทางไปยังสถานทีต่างๆ ค่อนข้างใกล้กับถนนนิมมานและคูเมือง

สถานที่สำคัญต่างๆรอบโครงการ

คราวนี้เราจะมาดูที่ดินโครงการกันบ้าง ตรงนี้คือถนนหัสดิเสวี เป็นถนนที่มีความกว้างพอสมควร สวนกันได้ 4 เลนถ้าไม่มีรถจอดสองข้างทาง

ผมยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ดิน มองเข้าไปในรั้วสังกะสีนี้นะครับ

ด้านซ้ายของที่ดินเป็นเวิ้งตึกแถว มี 7-11 อยู่ถัดไปประมาณ 50 เมตร เดินนิดเดียว

ถนนข้างโครงการเป็นหัสดิเสวี ซอย 6

ถนนจะค่อนข้างแคบกว่าถนนใหญ่เยอะเหมือนกัน ภายในเป็นบ้านเรือนต่างๆ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นสถานพยาบาลโรคเด็กและเวชกรรมคลินิก

ชุมชนสองข้างทางก็ทำการค้า และมี 7-11 อยู่ไม่ไกล

มีโรงเรียนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย

อีกฝั่งหนึ่งของโครงการจะติดถนนหัสดิเสวี ซอย 8

ด้านข้างมีเรือนไม้ทรงไทยสวยงามอยู่หนึ่งหลัง มองเข้าไปเป็นเขตที่อยู่อาศัยล้วนๆ

เราเดินเข้ามาดูในตัวที่ดิน ทำเลฝั่งทิศใต้จะหันหน้าออกไปด้านนอกที่ซอย 6 แบบนี้ จะเห็นตึกแถว 3-4 ชั้น

ด้านหลังเป้นแบบนี้ ทิศตะวันออก วิวโล่งครึ่งหนึ่ง

นี่เป็นฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางด้านหลังโครงการ

ทิศเหนือติดซอย 8 ที่เห็นมีบ้านทรงไทยสองหลัง

ทิศตะวันตกติดหน้าโครงการ เป็นถนนใหญ่หัสดิเสวีนะครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

d’Vieng สันติธรรม เป็นคอนโดมิเนียม 5 ชั้น จำนวน 2 อาคาร รวม 264 ยูนิต เป็นโครงการ Low Rise เล็กๆ ในทำเลที่เป็นมุมสงบของเชียงใหม่

หน้าโครงการมีการออกแบบด้วยศิลปะทรงไทยผสมผสาน Loft + Modern เป็นทางเข้า-ออกด้วยการเดินเท่านั้น ทางเข้าของรถยนต์จะเข้าจากด้านหลังนะครับ

ด้านในมีสระว่ายน้ำอยู่หน้าตาแบบนี้ ตั้งอยู่ระหว่างตึก North และตึก South

ศาลาตรงกลางของตึกทั้งสองฝั่ง

แนวคิดการออกแบบคือการที่มี “ข่วงเมือง” หรือพื้นที่ทำกิจกรรมอยู่ตรงกลาง “เฮือน” ทั้งสองด้าน

ภาพ Cross Section ตรงกลาง หันไปมองตัวตึกคอนโดทั้ง 5 ชั้น

ฝั่งหนึ่งหันเข้า อีกฝั่งหนึ่งหันออก ดังนั้นฝั่งทิศใต้ของตึก North และฝั่งทิศเหนือของตึก South จะหันเข้าหาส่วนกลาง อีกสองฝั่งจะหันออกไปจากโครงการ ติดกับซอย 6 และ ซอย 8 ที่ได้รีวิวไว้ในทำเลข้างต้น

ฝั่งทิศตะวันตกและตะวันออกเปิดโล่ง ไม่มีห้องที่หันไปทางนั้นอย่างจังๆ ยกเว้นยูนิตหัวมุม ดังนั้นก็ไม่มีปัญหาเรื่องทิศนะครับ

มองจากด้านบนจะได้มิติความเป็นไทยๆผสม Modern แบบนี้

สระว่ายน้ำและศาลาที่มีฟิตเนสอยู่ข้างใน

สวนบริเวณชั้น 2 นะครับ ตรงนี้ทำได้ดี จะมีห้องส่วนหนึ่งติดกับสวนพวกนี้ก็จะได้เป็นพื้นที่สีเขียวนอกห้องของตัวเองไป

ทางซ้ายคือทิศตะวันตกนะครับ เป็นทางเดินเข้าโครงการ พอเดินเข้ามาก็จะเจอฟิตเนส สระว่ายน้ำและศาลา Lobby ตรงกลาง แจกเข้าตึกทั้งสองฝั่ง ส่วนด้านหลังเป็นที่วนรถเข้าหลังโครงการ

ถนน 4 ด้านล้อมก็ดีแบบนี้ ไม่มีส่วนที่ต้องไปติดกับที่ดินใคร

แปลนชั้นที่ 2 จะเห็นว่ามี Strip สวนบริเวณห้องตรงกลาง ตรงจุดนั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะครับไม่ใช่พื้นที่ห้อง แต่ห้องที่ได้ผลประโยชน์ที่สุดก็คงจะเป็นห้องติดสวนพวกนี้ ในส่วนนี้มีภาพจำลองให้ดูด้านบนแล้ว

บริเวณโถงลิฟท์ของชั้น 2 จะโปร่งกว่าชั้นอื่น เพราะเจาะห้องออกไปห้องหนึ่ง ทำให้เกิด Void บริเวณที่เป็นกากบาท ช่วยเพิ่มแสงเข้ามาที่ทางเดิน ทำให้ชั้น 2 นั้นค่อนข้างน่าอยู่ เพราะว่าจะได้ความโปร่งโล่งและแสงธรรมชาติบรเวณหน้าโถงลิฟท์ครับ

จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 30 ยูนิต อาจจะดูว่าเยอะ แต่ต้องบอกว่าคอนโดมีเพียง 5 ชั้นเท่านั้นนะครับ จำนวนยูนิตโดยรวมเลยไม่มาก 132 ยูนิตต่อตึก ใส่ลิฟท์โดยสารไปตึกละ 2 ตัวสไตล์คอนโด Low Rise ทำให้อัตราส่วนลิฟท์ค่อนข้างดีมาก อยู่ที่ 66:1 เท่านั้น

หากไม่ได้ห้องชั้นบนๆที่มองออกไปด้านนอกที่เป็นมุมเปิดโล่ง ก็แนะนำให้เลือกห้องที่หันเข้าด้านในนะครับจะเห็นศาลา น้ำและสวน แบบนี้ก็โอเค

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ไม่มีสระเด็ก แต่มี Water Feature และที่นั่งบนน้ำรอบๆ
  • ห้องออกกำลังกาย เป็นศาลาทรงไทย
  • ศาลาทรงไทย Lobby เปิดโล่งตรงกลาง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • สวนบริเวณชั้น 2
  • ที่จอดรถ 30%
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก 66:1
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

เรามาเริ่มกันที่ห้องแรกเลยดีกว่า Studio ขนาด 30 ตารางเมตร ห้องนี้แต่ออกมาเป็นโทนขาว-ดำ ดูเท่ๆ ออกเป็นแนวผู้ชาย แปลนห้องเป็นแปลนที่เราคุ้นกันดีของ dcondo ตรงกลางเป็นส่วนห้องรับแขกและห้องนอน เชื่อมกันด้วยบานเลื่อน ด้านซ้ายมีประตูเปิดเข้าไปที่ส่วนของครัว ระเบียงและห้องน้ำครับ

ตรงกลางจัดแต่งวางโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารได้

Prop ต่างๆ รอบนี้จัดออกมาดูค่อนข้างย้อนยุค เครื่องเสียงกับแผ่นยุคโบราณ

จากมุมสุดของห้องนั่งเล่น มองออกไปด้านนอก ให้เห็นพื้นที่ที่เหลือค่อนข้างโอเคระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวี

ที่นี่เป็นการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ

ชั้นวางต่างๆที่เห็นนี้มีให้ แต่ไม่มี Wallpaper ครับ

ทีวีก็มีให้นะครับเป็น LED ขนาด 32″

ห้องนอน ได้อารมณ์ต่อเนื่องจากการดีไซน์ห้องนั่งเล่นด้วยโทนเดียวกัน

บานเลื่อนใช้เป็นกระจกฝ้า มือจับแบบนี้

ท่าทางเจ้าของห้องนี้จะชอบมอเตอร์ไซค์ เห็นหลายรูปแล้ว

ม่านไม่มีให้นะครับ เป็นวัสดุตกแต่งเฉยๆ ข้างเตียงติดกับหน้าต่าง เปิดได้ช่วงบนแบบนี้ ด้านล่างเป็นบาน Fix ครับ

ชั้นวางของบริเวณโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า มีแอร์ให้ สำหรับห้อง Studio จะมีให้ 1 เครื่อง

จากมุมนี้ดูฝ้าเพดานค่อนข้างสูงนะครับ 2.6 เมตร

เราเดินออกไปยังครัวบ้าง แปลนนี้ครัวปิดได้ ดูแล้วโอเคเลย

พื้นที่ครัว จัดวางไว้ให้แบบนี้ บริเวณ Counter มีซิงก์ ตู้เย็น 9 คิว และ Microwave ไว้ให้

 

พื้นด้านในเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ด้านนอกเป็นกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม. มีธรณีกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและครัว

ซิงก์ของ Hafele แบบนี้ครับ

วัสดุท๊อปครัวใช้ของค่อนข้างดี เป็นหินสังเคราะห์สีขาวไร้รอยต่อ

จากครัวมองเข้าไปที่ห้องน้ำนะครับ ด้านบนติดไฟซาลาเปา

สุขภัณฑ์ต่างๆนะครับ ตรงนี้ยังไม่ใช่สุขภัณฑ์ที่จะได้นะครับ ต้องเปลี่ยนใหม่ก่อน พอดี Sales Gallery ยังติดตั้งไม่เรียบร้อย ของจริงจะเป็น American Standard ไม่ใช่ GHM นะครับ

หัวก๊อกและฝักบัวของ VRH

สามก้านแบบนี้

หัวฝักบัว

มีก๊อกล่างด้วย ใช้งานค่อนข้างสะดวก

พื้นเป็นกระเบื้อง 30 x 30 ซม.

เรามาดู Studio ขนาด 30 ตารางเมตรอีกห้องนะครับ คราวนี้จะแต่งแบบหวานๆ ออกเป็นแนวผู้หญิง ต่างจากห้องเมื่อครู่ที่แต่งดุดันหน่อย

พอจัดวางของหวานๆ ขาว ครีม ชมพู สีสันห้องก็เปลี่ยนไป

สังเกตว่าพอใช้สีสว่างจะทำให้รู้สึกเหมือนห้องกว้างขึ้น ทั้งๆ ที่เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็ชุดเดียวกัน แต่งให้ดูแตกต่างในแง่มุมของอารมณ์เท่านั้น

ห้องนอนก็ออกแนวเรียบๆหวานๆ สีผ้าม่านมีส่วนช่วยเยอะ

มุมแต่งตัวและตู้เสื้อผ้า รวมไปถึงชุดข้างในตู้ จัดเป็นโทนเดียวกันหมดเลย

OK คราวนี้เรามาดูห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 37 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องนี้ได้แอร์ 2 ตัว ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ไม่รวมผ้าม่านและวอลล์เปเปอร์ครับ

เพดานสูง 2.6 เมตร ติดโคมซาละเปาสองชุด

โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง … เราก็จะงงๆว่าทำไมมีพร๊อพหน้าตาแปลกๆวางอยู่บนโต๊ะด้วย

ไม่ใช่อะไรนะครับ แต่เป็น Digital Doorlock ของ Evernet รุ่นนี้ สามารถใช้กุญแจและรหัสในการปลดล็อคได้

สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom สัดส่วนของห้องนั่งเล่นจะดีกว่าเดิมมาก อยู่เป็นมุม มีหน้าต่างด้านข้างสบายๆ

อุปกรณ์ต่างๆที่จะได้

ห้องนี้มีกระเบื้องแกรนิตโต้ Nano ขนาด 60 x 60 ซม.  มาด้วย

โต๊ะทานข้าวจัดวางเป็นโต๊ะน้ำชา ทำได้น่ารักดี

จากห้องนั่งเล่นเปิดเข้าไปเป็นพื้นที่ของห้องนอนและห้องน้ำ จะสังเกตว่าห้องน้ำสามารถเข้าได้จากสองทาง เป็น Double Access นะครับ

ห้องนอนแต่งสี Earth Tone

โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า

มีแอร์อีก 1 ชุดให้บนห้องนอน

หน้าต่างจะได้ประมาณนี้ มองออกไปเป็นวิวศาลาทรงไทยของ D’Vieng

เข้าออกสองทางแบบนี้

ห้องน้ำมีไฟสองจุดแบบนี้นะครับ ด้านนอกกับด้านใน

ตรงนี้อย่างที่บอก American Standard ยังติดตั้งไม่เสร็จ ถ้าเสร็จแล้วไว้ผมจะขอรูปจากทางแสนสิริ มาแปะให้ชม

ประตูห้องน้ำครับ

เราเดินออกไปที่ครัวกันบ้าง

ได้พื้นที่ Counter ใหญ่และกว้างขวางมากขึ้น ท๊อปหินสังเคราะห์จาก RCD

ติดโคมไฟซาลาเปาสองชุดเช่นกัน

ซิงก์ของ Hafele

ด้านนอกเป็นบาน Slide 3 บาน เดินออกไปที่ระเบียงได้

แขวนคอมแอร์ 2 ตัวแบบนี้นะครับ

ขนาดระเบียงประมาณ 1 เมตร

มองกลับเข้าไปครับ

จบแล้วครับกับรีวิวห้องแบบ 1 Bedroom ของ D’Vieng สันติธรรม เชียงใหม่

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6/12/2012

  • Studio ขนาด 30 ตารางเมตร ราคา 2.1 – 2.6 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 37 ตารางเมตร ราคา 2.5 – 3.2 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตร ราคา 4.7 – 5.2 ล้านบาท

  • Fully Furnished
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า LED TV 32″, ตู้เย็น, แอร์, Microwave, เครื่องทำน้ำอุ่น
  • จอง 10,000 – 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000 – 30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

เรื่องทำเลภาพใหญ่โดยรวมอันนี้ต้องขอข้ามนะครับ ยอมรับว่าไม่มีความรู้พอที่จะแนะนำ แต่สำหรับทำเลภาพเล็กนั้น โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนรองแยกออกมาจากถนนห้วยแก้วอีกทีหนึ่ง รอบโครงการทั้ง 4 ด้านติดถนนซอยทั้งหมด ทำให้มีความเป็นส่วนตัว รถยนต์สามารถวนได้ทั้ง 4 ด้าน ด้านหน้าเข้าออกด้วยการเดิน ด้านหลังสามารถวนรถเข้าไปจอดได้ รอบข้างมีชุมชน ร้านสะดวกซื้อ ทำให้หากินไม่ยากครับ

ด้านดีไซน์เป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการนี้ โดยเป็นการผสมผสานศิลปะล้านนากับ Modern เข้าด้วยกัน ทำออกมาเป็น D’Vieng มีการใช้ศาลาทรงไทยและการออกแบบคล้ายๆข่วงเมืองเข้ามาช่วยทำให้มีเรื่องราวมากกว่าที่จะเป็นตึกๆธรรมดาๆ

การออกแบบห้องพักทำได้โอเค เพดานสูง 2.6 เมตร มีสัดส่วนการวางห้องพักอาศัยที่เหมาะสม เล็กที่สุดเป็นขนาด 30 ตารางเมตร จัดวางเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละจุดไม่เบียดเสียดกันเกินไป โดยเฉพาะห้องแบบ 1 Bedroom ที่จะดูโดดเด่นกว่าแบบ Studio มาก ทั้งๆที่ขนาดห้องไม่ได้ต่างกันมาก เพียง 7 ตารางเมตร เท่านั้น แต่แบบห้อง 1 Bedroom ก็ทำออกมาได้เป็นสัดส่วนดีกว่า มีส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องน้ำที่เข้าออกได้สองทาง ห้องครัวปิด และโต๊ะรับประทานอาหารที่รองรับ 4 ที่นั่ง ทำให้ผมค่อนข้างชอบห้องแบบ 1 Bedroom มากกว่าครับ

วัสดุอุปกรณ์ให้มาครบ คือเป็น Fully Furnished พร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย แอร์ (Studio 1 เครื่อง, 1 Bedroom 2 เครื่อง และ 2 Bedrooms 3 เครื่อง) ตู้เย็นขนาด 9 คิว ทีวี LED ขนาด 32 นิ้ว เตาอบไมโครเวฟและเครื่องทำน้ำอุ่น แต่สิ่งที่ไม่มีให้ก็คือเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะครับ

วัสดุของที่นี่มีหลายส่วนยังคล้ายๆกับ dcondo campus resort แต่ก็มีส่วนที่อัพเกรดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดได้แก่ Counter ครัวที่เป็นหินสังเคราะห์สีขาวของ RCD , ห้องน้ำที่เป็นสุขภัณฑ์ของ American Standard และ Digital Doorlock ด้านนอกครับ

เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการเล็ก มีจำนวนชั้นเพียง 5 ชั้น 132 ยูนิตต่อ 1 อาคาร ดังนั้นความหนาแน่นจึงค่อนข้างต่ำ ใช้ลิฟท์อยู่ที่อัตราส่วน 66:1 ความพลุกพล่านก็เลยไม่มาก ส่วนกลางก็ไม่ได้มากตามไปด้วย มีฟิตเนสและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เป็นตัวชูโรง โดยเน้นไปที่ศาลาทรงไทย ที่เข้ากันเป็นอย่างดีกับเมืองเชียงใหม่ครับ

Judgement

ตึกนี้เป็น City คอนโดที่เชียงใหม่ ทางเวปไซต์ Think of Living ยังไม่มีประสบการณ์กับทำเลนี้มากพอที่จะให้คะแนนได้ครับ ไว้ถ้าได้ลงมือเจาะลึกทำเลเชียงใหม่แล้ว จะกลับมาให้คะแนนในวันหลัง

  • MAIN CLASS
  • NOT JUDGED

BOTTOM LINE

D’Vieng สันติธรรม เป็นคอนโดทรง Modern ล้านนา ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ ราคาประมาณ 2 ล้านกว่า สำหรับคนที่ชอบตึกเตี้ย มุมสงบ ศิลปะทรงไทยครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ