รีวิวฉบับที่ 396 … ผมจะพาไปรีวิวโครงการที่จัดว่า Premium ที่สุดบนเกาะภูเก็ตกันนะครับ กับ Amari Residences Phuket คอนโดกึ่งโรงแรม ตากอากาศ บนยอดเขาวิวหาดป่าตอง ซึ่งมีกรรมสิทธิ์การถือครองแบบ Lease Hold เป็นเวลา 90 ปี แบบ Time Sharing ภายใต้คอนเซปท์เน้นไปทางด้านการลงทุน การันตีผลตอบแทน 6% ใน 3 ปีแรก จากบริษัท Amari Estates (ในเครือ Italthai) ซึ่ง Amari Residences Phuket จัดเป็นสินค้า Ultimate Class โครงการแรกบนเกาะภูเก็ตที่ทาง Think of Living ได้มีโอกาสไปเยือนละครับ
Fact @ 1 Aug 2013
- Amari Residences Phuket
- บริษัท Amari Estates จำกัด (ในเครือ Italthai)
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 3-4 ชั้น 148 ยูนิต (Lease Hold 90 ปี)
- Villa 12 ยูนิต (Lease Hold 90 ปี)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 2 ยูนิต
- ที่จอดรถมีเพียงพอ ใช้บริการที่โรงแรม ไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้ โดยมีรถ Buggy บริการ
- ที่ดินประมาณ 18 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 44 – 52 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 92 – 102 ตารางเมตร
- Villa 286 ตารางเมตร
- ระดับราคาราคา 7.2 – 60 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 160,000 – 220,000 บาท (Lease Hold)
- http://www.amariresidences.com
- โทร 076-292-378
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลและตัวโครงการ
เรามาดูแผนที่ภูเก็ตในภาพใหญ่กันก่อนนะครับ สนามบินอยู่ด้านบนสุด ตำแหน่งที่เราจะไปดูก็คือ Amari Residences Phuket ที่อยู่บริเวณหาดป่าตอง อยู่ฝั่งทะเลอันดามัน จะเห็นได้ว่าเป็นอ่าวเข้าไปนิดนึงจากรูปด้านบนนะครับ
หากจะขับรถ หรือนัง Limo มาจากสนามบิน ก็จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตามเส้นทางที่เห็นเลยครับ
พอเราเข้ามาที่หาดป่าตองแล้ว ก็จะมาดูภาพเล็กอีกทีหนึ่ง โดยโรงแรม Amari และ Amari Residences นั้นอยู่ปลายสุดของหาดป่าตอง และเป็นจุดที่มี Private Beach อยู่ในที่ดินของตัวเองด้วย
Amari Phuket ระบายสีเทา เป็นส่วนที่ติดทะเล
Amari Residences Phuket ต้องขึ้นเขาไป ระบายสีเขียว
พอมาถึงเราก็มาหยุดกันที่โรงแรม Amari Phuket กันก่อนนะครับ ปัจจุบันโรงแรมนี้อยู่ภายใต้ Renovation ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ราวๆสิ้นปี ในช่วงหน้า High Season ของปี 2013 เราเลยต้องมาใช้บริการ Lobby ชั่วคราว ตั้งโต๊ะเอาแบบนี้ก่อน ได้บรรยากาศบ้านๆไปอีกอารมณ์ครับ
โรงแรม Amari Phuket เป็นโรงแรมที่เก่าแก่มาก ดูได้จากทั้งต้นไม้และอาคารต่าง
สาธารณูปโภคส่วนกลางต่างๆนั้น ทางลูกบ้านที่ได้ซื้อ Amari Residences Phuket ไปแล้ว สามารถมาใช้ของโรงแรมได้อย่างเต็มที่ ผมจะพาทัวร์ชมโรงแรมก่อนรอบหนึ่ง ก่อนที่จะไปดูตัวคอนโดมิเนียมกันครับ
ลานเล่นหมากรุกขนาดใหญ่ 🙂 เป็นได้ทั้ง Landscape และใช้งานได้จริงๆด้วยนะ
ห้องพักอาศัยริมทะเลเป็นแบบนี้นะครับ อาคารสามชั้นหันหน้าเข้าหาชายหาดส่วนตัว
ชายหาดส่วนตัวนี้ต่อจากภาพด้านบนเลย แพนกล้องมาทางขวาอีกหน่อย ก็จะเจอเก้าอี้ยาวกับร่มชายหาดวางอยู่เป็นจุดๆ
วิวที่ได้จากการนอนบนเก้าอี้ยาวนี้
โรงแรมอมารีมีท่าเรือเป็นของตัวเองด้วย อยู่ทางซ้ายนะครับ
มุมนี้มองเข้าไปทางหาดป่าตอง ซึ่งตัวคอนโดเราก็สามารถเลือกวิวทิศนี้ได้เช่นกัน
ชายหาดส่วนตัวครับ ลงไปเล่นน้ำได้ตามสะดวก
ตรงนี้เป็นส่วนของห้องอาหารโรงแรม ที่ลูกบ้านก็สามารถมาใช้รับประทานอาหารได้ด้วย แน่นอนว่าต้องมีค่าบริการเพิ่มเติม แต่ก็จะได้ในอัตราพิเศษเมื่อเทียบกับแขกที่มาพัก
ห้องอาหารมีส่วนของ Outdoor และ Indoor
ส่วนของ Outdoor เป็นห้องอาหารติดทะเลด้วยครับ
เราเดินมาดูส่วนของสระว่ายน้ำกันบ้าง
สระว่ายน้ำนี้เป็นสระว่ายน้ำรองนะครับ สระใหม่ที่ใหญ่กว่านี้กำลังดำเนินการปรับปรุงอยู่ แขกที่มาพักต่างๆก็จะมาว่ายน้ำกันที่นี่แทน
ช่วงเช้าๆยังไม่มีฝรั่งมาอาบแดดมากมาย
ทุกส่วนของ Facility โรงแรมนี้เป็น Seaside แบบติดทะเลทั้งหมด
Deck เดินชมหาด
คราวนี้เราจะพาไปชมคอนโดมิเนียมกันบ้าง … อยู่ไหนเอ่ย
ตรงนี้ไงละครับ บอกแล้วว่าคอนโดที่นี่เป็นคอนโดบนเนินเขาวิวทะเล โดยมีป่าไม้ล้อมรอบ …
หากดูจาก Model ในภาพใหญ่ เราก็จะทราบว่าส่วนของโรงแรม ห้องอาหารและสระว่ายน้ำนั้นอยู่ด้านล่าง ในขณะที่ Amari Residences โซนใหม่นั้นอยู่ด้านบน … ทีนี้เราก็ขึ้นเขากันไปเลย
เราขึ้นเขากันไปกันด้วยรถ Buggy เครื่องแรงพอที่จะนั่ง 4 คนได้สบาย ซึ่งในอนาคตถ้าลูกบ้านจะมาพัก ก็ต้องไปจอดรถที่โรงแรมแล้วนั่งรถ Buggy ขึ้นไปอย่างนี้นะครับ เขาไม่อนุญาติให้นำรถขึ้นไปจอดด้านบนเองได้
ตามทางมีป้ายให้กดแตรเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะขึ้นและจะลง ให้เสียงกันหน่อย มุมบางมุมมันอับมาก มองไม่เห็นเลย
คอนโดกำลังสร้างกันอยู่เลย ปัจจุบันได้ขนาดนี้แล้ว ปีหน้า 2557 ก็น่าจะเสร็จบางส่วน พอปี 2558 ก็คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์
หลังแรกๆก็เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าหลังอื่นๆ
ส่วนของ Lobby ก็ทำใหม่ … ตกลงคือรื้อใหม่แทบทั้งโครงการ
ป้ายที่เห็นนี่ Amari Residences Phuket ก็พึ่งสร้างเสร็จกันละครับ โครงการมีตราสัญลักษณ์เป็นร่มชายหาดอยู่ทางซ้ายของ Logo
เรามาดูภาพ Perspective ในช่วงของการออกแบบโครงการนี้กันบ้าง นี่เป็นภาพวิวจากมุมสูง ที่จะได้ชมกันครับ
หน้าตาของโครงการ Amari Residences Phuket เป็นแบบนี้ จะสร้างบ้านและตึก เป็น Stack ขึ้นไป โดยอาคารหนึ่งสูงไม่เกิน 3 ชั้น รวมกันทั้งสิ้นเพียง 148 ยูนิต และ Villa 12 หลัง บนพื้นที่ 18 ไร่ … จัดว่าเป็นอัตราส่วนที่หลวมมาก มีพื้นที่และบริเวณค่อนข้างเยอะ ความหนาแน่นต่ำสุดๆ
วิวคอนโดและหาดป่าตองครับ
เราเข้ามาถึงสำนักงานขายแล้วนะครับ เป็นส่วนแรกเลยที่ผมจะพามาดู
ทางเข้าจากหาดป่าตองต้องข้ามสะพานมา แบ่งทางเข้าเป็นสองฝั่งคือฝั่งโรงแรมวิ่งเลียบไปทางชายหาดและฝั่ง Residences จะต้องวิ่งขึ้นเขา ในอนาคตจะมี Lobby ใหม่ พร้อมที่จอดรถเพื่อขึ้นรถ Buggy ไปส่งครับ
สถานที่แรกที่เราจะพามาดู เป็นร้านอาหาร ซึ่งเป็นส่วนกลางของคอนโดมิเนียมนี้
ซึ่งห้องอาหารนี้จะตั้งอยู่บริเวณมุมสุดของส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียม ติดกับฝั่งโรงแรม
ภายในตกแต่งเป็นแนวปะการังดังภาพ
เหมือนอยู่ในโลกใต้ทะเลดี
บรรยากาศห้องอาหารในเวลากลางวัน
บรรยากาศในเวลากลางคืน
ปัจจุบันห้องอาหารนี้ได้สร้างเสร็จแล้ว เอาไปทำเป็นสำนักงานขายอยู่ครับ
นี่คือกระจกลายปะการังอย่างที่เห็น
วิวจากห้องอาหาร เปิดกระจกออกไปดูได้
เห็นเป็นวิวหาดป่าตองอย่างนี้ละครับ
ภาพโดยรวมของโครงการ Amari Residences ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ
สีฟ้า Amari Residences ซึ่งจะแบ่งเป็น Villa, Condominium
สีเหลือง Amari Hotel ที่พาไปชมมาเมื่อครู่
สีแดง Amari Hotel ส่วนที่กำลังปรับปรุงอยู่ พร้อมกับโถง Lobby และสระว่ายน้ำใหม่
คราวนี้เราจะขึ้นมาด้านบนกันบ้าง ส่วนกลางของโครงการ Amari Residences ยังมีอีกชุด นั่นก็คือ Club House
โดย Club House นั้นจะถูกรายล้อมด้วย Villa 12 หลัง ในราคาเริ่มต้นที่ 60 ล้านบาท ซึ่ง Villa หน้าตาแบบนี้
บรรยากาศภายในวิลล่าเป็นบ้านพักตากอากาศโดยแท้
เราจะขอข้ามไปดู Club House นะครับ หน้าตาเป็นแบบนี้ มีสระว่ายน้ำแยกต่างหาก ให้ลูกบ้านใช้ได้ โดยที่ไม่ต้องไปใช้ปนกับแขกของโรงแรมด้านล่าง
มุมมองจาก Club House ออกไปยังทะเลอันดามัน
มาดูภาพโมเดลที่เหลือกัน อันนี้เป็นโรงแรมที่กำลังปรับปรุงอยู่
นี่เป็นท่าเรือของโรงแรม
Lobby ใหม่ หน้าตาแบบนี้ คาดว่าปลายปีคงจะเสร็จ
ส่วนของ Lounge และ Restaurant บริเวณสระน้ำใหม่
หน้าตา Lobby and Front
ดูเนื้อโครงการกันแล้ว เดี๋ยวไปดูห้องพักกันต่อไปละ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ใช้สาธารณูปโภคของโรงแรม Amari Phuket ได้ทั้งหมด
- สระว่ายน้ำ 1 สระ
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- Club House
- พื้นที่สวนกว่า 10 ไร่
- ที่จอดรถของโรงแรม Amari มีให้เพียงพอ
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
นี่เป็น “ด้านหลัง” ของคอนโดมิเนียมในแต่ละตึก ซึ่งมีความสูงเพียง 2-3 ชั้น เท่านั้น จึงไม่มี Lift นะครับ เดินบันไดขึ้นลงเอา
เราจะมีความเป็นเจ้าของตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าเฉลียงเลยนะครับ
แบบที่ผมพาไปดูนั้น เป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 102 ตารางเมตร ทุกห้องจะได้ Sea Views ทั้งหมด ซึ่งจะเป็น Sea View ที่มองออกไปยังทะเลอันดามัน หรือ Sea View ที่มองออกไปยังหาดป่าตอง อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ห้องที่หันไปทางทิศที่ต่างๆกันนะครับ
ด้านหน้าสุดเป็น Portico พื้นที่วางจักรยาน ฯลฯ สำหรับใช้งาน
ผมจะบอกว่า เราซื้อห้องนี้ก็จริง แต่เราไม่สามารถเอาข้าวของส่วนตัวมาวางไว้ได้นะครับ เพราะห้องทุกห้องที่นี่จะเป็นระบบ Time Sharing ให้เจ้าของห้องเข้าพักได้ 60 วัน โดยเราจะไม่พักห้องตัวเองก็ได้ หรือถ้าเราซื้อห้อง 1 Bedroom เราก็สามารถเข้าพักห้อง 2 Bedrooms ก็ได้ แต่ในระยะเวลา 30 วันเท่านั้น ทำให้เราไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาของไปกองไว้ในห้องพักตากอากาศ แต่จะเป็นแนวจองสิทธิ์มาพักแบบโรงแรม โดยทางบริษัท Italthai จะมีการการันตีผลตอบแทนในระยะเวลา 3 ปีแรก อยู่ที่ 6% ของราคาขายครับ
การเล่นแสงเงาด้านหน้าห้อง สวยงาม ช่วยบังแดดและยังช่วยให้เกิดความผ่อนคลายด้วย
มุมนี้มีเอาไว้สำหรับนั่งเปลี่ยนรองเท้าหรือเปลี่ยนชุดว่ายน้ำเปียกๆ
ด้านหน้าทางเข้าห้องพักจะเป็นหินทั้งหมด พื้นไม่บวมแน่นอน
โดยรวมมีพื้นที่ส่วนตัวด้านหน้าห้องพักประมาณนี้
ประตูใช้เป็นระบบ Keycard สัมผัส ไม่มีระบบ Password นะครับ เพราะอนาคตจะต้องเอาไปให้โรงแรม Amari บริหารจัดการ
ห้องแบบ 2 Bedrooms เป็นห้องที่เราพามาดูในวันนี้ โดยจะได้ Sea View ในทุกจุดของห้อง
มุมนี้จะเห็นอ่าวเต็มๆ
แอร์ฝังฝ้าทั้งหมดสองเครื่อง ช่วยกันเป่าให้ห้องเย็นๆ อุปกรณ์ทุกอย่างแต่งเป็นแบบ Fully Furnished ตามมาตรฐานโรงแรม
การออกแบบของที่นี่จึงเป็นมาตรฐานโรงแรมทั้งหมด แตกต่างกับห้องพักอาศัยคอนโดมิเนียม
ชั้นวางรองเท้าด้านหน้าหลังจากที่เข้าบ้านมาแล้ว
แผงสวิทช์ไฟ ระบบควบคุมแอร์ ระบบไฟกับการ์ดเสียบ
ครัวที่มี Island ตรงกลาง
ท๊อปหิน Quartz หัวก๊อกทรง Modern
มีเตาไฟฟ้าพร้อมกับเครื่องดูดควัน
เตาไฟฟ้า 4 หัวนะครับ
ด้วยความที่เจ้าของบริษัทเป็นผู้นำเข้าชา TWG ที่มีสาขาเป็นร้านอยู่ที่ Emporium และ Siam Paragon … ดังนั้นชาที่นี่ก็เป็นของ TWG ทั้งหมดนะครับ
ช่องลิ้นชัก และช่องเก็บของทั้งหมด
การตกแต่งมุมนั่งเล่นทำออกมาเรียบง่ายแต่ลงตัว ได้ความสวย สบาย และความผ่อนคลายไปในแนวเดียวกัน
ดูเรียบและสวยจริง เหมือนมารีสอร์ท ไม่ได้รู้สึกว่าไปพักโรงแรมหรูหราแพงๆใจกลางมหานคร
โต๊ะกินข้าวตัวนี้แบบ 4 ที่นั่ง
มุมนี้เห็นอ่าวเต็มๆ
ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัยแบบนี้ มีช่องระหว่างกลาง มองออกไปก็เสียวๆหน่อย ใครมีลูกมีหลานก็ต้องจับกันให้ดีนะครับ ลงไปเนี่ยไม่ใช่ทะเล แต่เป็นภูเขา
ชอบจริงจังครับวิวนี้ เป็นจุดที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของ Ultimate Luxury กับคอนโดตากอากาศธรรมดาๆ เพราะวิวนี้ไม่ได้หามองจากตึก Low Rise ได้นะครับ … อย่าลืมว่าเราอยู่แค่ชั้น 2 !!
ห้องนอนเล็กมีสองที่นอนครับ
เป็นห้อง Twin Bed แบบนี้
ห้องน้ำในตัว แอร์ฝังฝ้า
ได้ Sea View เช่นกัน
ที่วางกระเป๋าเดินทาง ฯลฯ
ไฟหัวเตียงแบบยื่นออกมาให้อ่านหนังสือได้ตามมุมที่ต้องการ
ระบบ Intercom ของโรงแรม
ทีวีแขวนผนัง วาง Center พอดีเป๊ะ ตู้เสื้อผ้าต่างๆ
นอนมองทะเล
ห้องน้ำก็สวยงาม
ให้ดูพื้น ห้องน้ำเป็นพื้นผิวหยาบ ห้องนอนเป็นแบบมัน
ซิงก์ล้างหน้าแปรงฟัน
อ่างฝังหิน
หัวก๊อก Mariani
Accessory ต่างๆในห้องน้ำ และการตกแต่งผนัง
สุขภัณฑ์
ชิ้นนี้ดูสวยงามดี มีช่องระบายน้ำอยู่ด้านข้างด้วย
Rain Shower แบบฝังฝ้า
Floor Drain สวยงาม
ก๊อกฝังผนัง
ประตูห้องน้ำเป็นแบบบานเลื่อน มีช่วงที่เป็นหวายสานด้วย ออกแบบ Custom Made มาเลย
เราเดินไปดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง
นี่เป็นพวกผ้าม่านและมุ้งต่างๆที่เตรียมไว้ให้ เผื่อใครอยากเปิดหน้าต่าง ไม่ต้องการแอร์
วิวที่มองไปทางทะเลอันดามัน ด้านล่างจะเห็น Lobby ใหม่กำลังก่อสร้างอยู่
กระจกเข้ามุม เห็นได้หลายด้าน
ห้องนอนใหญ่
ได้วิวทะเลเช่นกัน
กระจกที่มองทะลุจาก Shower … อาบน้ำก็เห็นวิวทะเล
ชั้นวางข้างหัวนอน
มุมถ่ายเตียง แต่งแบบเรียบง่าย แต่ไม่ถูกนะครับ
มุมแต่งตัว
คล้ายๆ Walk-in Closet แต่เป็นมุมให้เฉยๆ ไม่มีประตูกั้น
ห้องอาบน้ำ … เสียดายตรงที่ไม่มี Bath Tub นี่แหละ
ซิงก์ครับ
ห้องอาบน้ำพร้อมเครื่องใช้
ส่วนของตู้ Shower Box จะมีทางลาดเข้าไปแบบนี้ แทนที่จะเป็นการดรอปพื้นธรรมดาๆ ช่วยให้เกิดความต่อเนื่อง กันน้ำไหลออก และเดินไม่สะดุด
บอกแล้วว่าอาบน้ำก็เห็น Sea View นะ
สุดท้ายเราจบกันด้วยไฟส่องพื้นตามทาง ที่จะเปิดในเวลากลางคืน ทำให้เดินในห้องได้ แบบไฟสลัวๆ ไม่เตะอะไรครับ
Amari Residences Phuket
ผมเลยได้โอกาสมานั่งเขียนรีวิวตรงนี้ที่โรงแรม Amari Hotel … เป็นเวลา 1 วัน … แต่ยังไม่ได้เขียนของ Amari นะครับ 555 แบบว่ารีบมาก งานเก่าค้างเพียบ ส่วนของอมารีเอากลับไปย่อยที่กรุงเทพฯต่อ
แผนผังต่างๆและราคานะครับ ตึกแบ่งออกเป็น 2 Wings คือฝั่งทะเลอันดามัน และฝั่งหาดป่าตอง เจ้าของตั้งราคาฝั่งอันดามันแพงกว่าฝั่งป่าตองอยู่บ้าง ตามตารางด้านล่าง
ราคาต่อตารางเมตรที่อยู่ด้านบนนี้เป็นราคา Lease Hold 90 ปีนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าจะเปลี่ยนเป็น Free Hold จะต้องราคาสูงกว่านี้ขึ้นไปอีกขั้น (ส่วนใหญ่จะต้องคูณ 30% – 50%) โดยจะทำให้ราคามาตกอยู่ใน Ultimate Class
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/07/2013
- 1 Bedroom 44 – 52 ตารางเมตร ราคา 6.93 – 9.16 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 92 – 102 ตารางเมตร ราคา 14.92 – 20.79 ล้านบาท
- Villa 60 – 70 ล้านบาท
- Fully Furnished + Time Sharing
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- จอง 125,000 บาท
- ทำสัญญา 20% ในระยะเวลา 1 เดือน
- 2nd Payment 20% หลังจากทำสัญญา 2 เดือน
- 3rd Payment 30% หลังจากจ่ายครั้งที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือน
- สรุปดาวน์ 70% โอน 30%
- 6% Guarantee Yield ใน 3 ปีแรก หลังจากนั้นจะได้ 40% ของรายได้ที่ Amari บริหารจัดการให้ แบ่งตามสัดส่วนของพื้นที่ต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ข้อกำหนด Time Sharing
- เข้าพักได้ 60 วัน
- เอาของใช้ส่วนตัวไปเก็บไว้ในห้องไม่ได้ เนื่องจากจะต้องเอาห้องไป Operate
- High Season (1 Nov – 19 Dec และ 11 Jan – 31 Apr) ไม่เกิน 15 วัน จองล่วงหน้า 45 วัน
- Low Season (1 May – 31 Oct) เข้าพักได้ไม่เกิน 45 วัน จองล่วงหน้า 21 วัน
- Peak Season (20 Dec – 10 Jan) เข้าพัก “ไม่ได้”
- Unit Availability จะสามารถเข้าพักห้องตัวเองได้เป็น Priority แต่ถ้าเข้าไม่ได้ ก็จะหายูนิตใกล้เคียงให้
- วันที่เหลือโอนไปปีถัดไปไม่ได้
- ถ้าใช้เกิน จะคิดราคาส่วนลด 10%
- ผู้จอง 1 Bedroom จะสามารถเข้าพัก 2 Bedrooms ได้ แต่จะใช้สิทธิ์เวลา 2 วัน ในการเข้าพัก 1 คืน
FF&E Reserve Fund
กองทุนบูรณะซ่อมแซมยูนิตต่างๆ จะถูกเรียกเก็บจากสัดส่วน Rental Revenue ของเจ้าของห้องพักในปีที่ 4 เป็นต้นไป เป็นจำนวน 5% ไม่มีการเรียกเก็บในช่วง 3 ปีแรก ที่เป็นช่วง Guarantee Yield
เจาะลึกรวบยอด
หากดูเงื่อนไขของโครงการ Amari Residences Phuket นั้น จริงๆแล้วจะเรียกว่าเป็นการมาซื้อคอนโดมิเนียมตากอากาศก็ไม่ถูก เพราะว่าแม้เรามีกรรมสิทธิ์ในห้องชุดห้องที่เราซื้อมาก็จริง แต่เราก็ต้องมอบสิทธิ์ให้โรงแรม Amari เป็นผู้บริหารจัดการอยู่ดี ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่โครงการกำหนดเอาไว้แล้ว และกรรมสิทธิ์ในการถือครองนั้นก็ไม่ใช่ Freehold แต่เป็น Lease Hold 90 ปี ทำให้มุมมองในเชิงของการซื้อสินค้าประเภทนี้ ผมมองว่าเป็นการลงทุนล้วนๆมากกว่า ไม่ใช่ในแง่มุมของการซื้อสินทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยหรือตากอากาศ
ว่ากันด้วยตัวที่ดินก่อน ที่ดินผืนนี้เป็นตำแหน่งที่ดีมาก แทบจะเรียกได้ว่าหาไม่ได้อีกแล้วในหาดป่าตอง หรือถ้าจะหาได้อีกก็ต้องเป็นทำเลที่ไม่ได้เอามาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแน่ๆ เพราะตัวที่ดินสามารถเอาไปทำโรงแรม 5-6-7 ดาว กับเชนโรงแรมระดับโลกได้สบายๆ ดังนั้นการจับจองเป็นเจ้าของคงจะหมดสิทธิ์แน่ๆ ดังนั้นทางเลือกจึงเกิดขึ้นมาเป็นแบบ Time Sharing and Investment ที่เราเป็นเจ้าของแบบครึ่งๆกลางๆ สามารถเข้าพักได้เหมือนเข้าพักโรงแรม และสามารถเก็บ Yield หาประโยชน์จากที่พักนี้ในอนาคตได้ โดยคนบริหารก็คือ Amari แต่คนลงทุนก็คือเรานะ … จะบอกว่าคล้ายๆกับเป็นการไปช่วย Amari ลงทุนสร้างโรงแรมนั่นแหละ เพราะเราต้องจ่าย Down Payment ล่วงหน้าไปถึง 70% และอีก 30% ในช่วงโอน ซึ่งดอกเบี้ย 6% Guarantee นั้นคงจะไม่คุ้มเลยหากเอาไปเทียบกับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร (เรตปี 2013 แถวๆ 7%)
ถามผมว่าหากมองเป็นสินค้าเรื่องการลงทุนแล้วจะอย่างไร ก็ต้องตอบว่าซื้อในราคาต่อตารางเมตรต่ำที่สุดที่หาได้ เพราะว่า ในระหว่างที่เราถือครองแบบ Lease Hold 90 ปีนั้น การแบ่งรายได้จะแบ่งเป็นสัดส่วน “ต่อตารางเมตร” โดยไม่ได้เอา factor เรื่องทิศ ความสวยของห้อง วิว ฯลฯ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย และถ้าเราจะเข้าพัก เราก็สามารถเลือกห้อง อัพเกรดห้อง จาก 1 Bedroom เป็น 2 Bedrooms ก็ทำได้ โดยระยะเวลาที่ให้เข้าพัก 60 วันนั้น ผมคิดว่าเหลือเฟือ จริงๆ 30 วัน ก็เหลือๆแล้วล่ะครับ
ข้อเสียอาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่ Blackout ในช่วงหน้า Peak Season หรือ 20 Dec – 10 Jan ซึ่ง เอาจริงๆนะ ถ้าเรามองว่าสินค้าตัวนี้เป็น Investment Product เราก็อยากจะให้สินค้าของเราทำงานให้เราในหน้าที่หาเงินได้มากที่สุดจริงไหม? แต่ถ้าเรามองว่าเราอยาได้บ้านพักตากอากาศสักแห่ง ผมก็บอกได้ตรงๆว่า Amari Residences คงจะไม่ตอบโจทย์คุณนะ เพราะว่ามันไม่ใช่บ้านพักตากอากาศแท้ๆ
สุดท้ายเรามาดูกันที่ผลประโยชน์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจาก Amari Residences นะครับ สิ่งที่เจ้าของห้องจะได้ก็คือผลตอบแทน 6% ในระยะเวลา 3 ปีแรกแน่นอน คิดเป็น 18% จากมูลค่าทั้งหมด และถ้าสมมุติว่า Amari ทำได้ 6% หลังจากนั้นไปอีก 87 ปี เจ้าของห้องก็จะได้ Return โดยรวมๆแล้วคิดเป็นเงิน 540% จากมูลค่าทั้งหมด นี่ผมคิดแบบพื้นๆ ไม่ได้ใช้อัตราเงินเฟ้อและ Future Value นะครับ … อ่อ อย่าลืมหักค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และค่า FF&E Reserve Fund ออกไปด้วยนะครับ
ความเสี่ยงใหญ่ๆมีเพียงสองเรื่อง หนึ่งคือความเสี่ยงในการ Exit กลางทาง ว่าเราจะสามารถขายยูนิตและเอาเงินต้นคืนได้หรือไม่ และสองก็คือความเสี่ยงเรื่อง Amari Estates นั้นจะบริหารห้องพักให้เราได้ดีขนาดไหน ซึ่งจะเกี่ยวโยงไปกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และสภาพเศรษฐกิจของโลกด้วยครับ
ผมเองก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นบทวิเคราะห์การเงินถึงขนาดนี้ นานๆทีเราจะเห็นอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแบบจริงๆจังๆ แตกต่างจากการซื้อคอนโดมาเพื่อปล่อยเช่าอย่างที่เป็นๆกันอยู่ละครับ
Judgement
ไม่มีการให้คะแนนสำหรับโครงการในระดับราคา Ultimate Class
- ULTIMATE CLASS
- NOT JUDGED
BOTTOM LINE
ใครชอบภูเก็ต อยากได้ที่พักงามๆ แบบไม่ต้องดูแล มีเงินถุงเงินถังเหลือเฟือ ก็สามารถพิจารณา Amari Residences Phuket เป็นตัวเลือกในการลงทุนได้นะครับ แต่ไม่ใช่ตัวเลือกในการเลือกบ้านพักตากอากาศนะครับ ยกเว้นว่าจะเป็น Villa ซึ่งก็ต้องจ่ายในราคา 60 ล้านขึ้นไป
Remark การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ