ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและการสร้าง Community : สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด(มหาชน)

เราเน้นเรื่องการบริการหลังการขาย มีกิจกรรมร่วมกับลูกบ้าน ลดกำแพงช่องว่างระหว่างกัน ทำให้เกิดการอยู่อาศัยที่มีความสุข  แนวคิดหลักของบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)

ทางทีมงาน Think of Living ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ คุณสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) และทีมบริหารแบบ Exclusive มากๆ ซึ่งเราจะขอแบ่งการสัมภาษณ์ออกเป็น 2 ส่วนเพื่อให้เห็นภาพรวมขององค์กรและโครงการ Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยาที่ทางบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั้งใจนำเสนอทั้งแนวคิดและดีไซน์ที่แตกต่างอย่างลงตัว

บทสัมภาษณ์คุณสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)

โบ : อยากให้พูดถึงอสังหาฯภาพรวม ที่ผ่านมาทาง NC Group ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน

คุณสมนึก : ปกติทาง NC Group จะมีเปิดตัวโครงการทุกๆปี ปีละ 3-5 โครงการ นอกจากบางปีอาจจะมีเปิดมากมากกว่านั้น ซึ่ง Project หลักจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ จะเห็นว่าช่วงเกือบ 20ปีที่ผ่านมาทาง NC Group มีเปิดโครงการมามากกว่า 40 โครงการแล้ว ล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้วเริ่มเปิดตัวคอนโด Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา และปีนี้เราเปิดเพิ่มอีก 1 เฟส แนวคิดหลักที่เราทำ Project ต่างๆมาจาก Brand Vision ในการสร้างการอยู่อาศัยได้จริง สร้าง Community ให้เกิดเป็น Happy Living เราเน้นบริการหลังการขาย บริหารนิติบุคคลเอง เน้นความเป็น Security มีความร่มรื่นในการอยู่อาศัย มีความบันเทิง มีกิจกรรมร่วมกับลูกบ้าน เพื่อให้ลูกบ้านรู้จักกัน ลดกำแพงระหว่างกัน และเกิดเป็นสังคมขึ้นมา

โบ : ปกติทาง NC group พัฒนาโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ เพราะอะไรถึงเริ่มทำคอนโด 

คุณสมนึก : จริงๆแล้วเราเคยมีเปิดคอนโดมาก่อนหน้านี้ที่พัทยาเหมือนกัน ใช้ชื่อว่า “บ้านสวนลลนา” เป็นโครงการแรกที่เราจบการขายไปหลายปีก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังมีคอนโด The Focus ขอนแก่น อยู่ใกล้กับเซ็นทรัล ขอนแก่น ซึ่งเราปิดการขายไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว  นอกจากนี้เรามีแผนที่จะขยายคอนโดไปตามหัวเมืองใหญ่ด้วย เราเลือก Prime Location ซึ่งเป็นจุดที่เรามองว่าเป็นภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว

โบ : มองตลาดพัทยาเป็นอย่างไร มีแนวคิดอย่างไรในการทำคอนโด Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา และกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร

คุณสมนึก : เรามองว่าตลาดพัทยาเติบโตดี และเร็ว เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สำหรับคอนโด Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 22 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราทำได้ทั้งบ้านและคอนโด ถ้าทำบ้านก็จะแพงมาก เราเลือกที่จะทำคอนโด เพื่อให้คนหมู่มากมาอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ จริงๆเราทำเป็นตึก 16 ชั้นได้ แต่เราไม่ทำ เราทำที่ 8 ชั้น เพราะอยากให้มี Space เน้นพื้นที่สีเขียว เราเป็นคอนโดที่ใกล้เมืองอยู่ระหว่าง By pass เก่าและใหม่ อยู่ใกล้แหล่งงานใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา

บูม : มีวิธีการสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร ว่าที่ตรงนี้เราตั้งใจขายคอนโด ไม่ได้ขายบ้าน

คุณสมนึก : ถ้าลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้าน เรามีโครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ที่อยู่ถัดเข้าไปข้างในประมาณ 1 กม.นำเสนอแทน แต่ถ้าลูกค้าที่ซื้อบ้านเดี่ยวไม่ไหว  เราก็มีคอนโด Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยาเป็นตัวเลือก

โบ : สัดส่วนในการพัฒนา Project ของทาง NC Group เป็นอย่างไร

คุณสมนึก : ปีนี้แบ่งสัดส่วนแนวราบและคอนโดเป็น 80:20 และปีหน้าคาดว่าเป็น 80:20 เช่นกัน

บูม : ภาพรวมของอสังหาฯปีหน้า และแผนการของ NC group เป็นอย่างไร

คุณสมนึก : สำหรับตัวคอนโด คิดว่าหลายๆทำเลยังไปได้อยู่ อาจมีเพียงบางทำเลที่ Over Supply แต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจอาคารชุดมากขึ้น เนื่องมาจากไม่ได้อยากดูแลบ้านมาก และต้องการความเป็น Security เพราะฉะนั้นโดยรวมยังพอไปได้ สำหรับแนวราบไปได้เรื่อยๆอยู่แล้ว

บูม : อยากให้ฝากอะไรถึงผู้อ่าน Think of Living

คุณสมนึก : ฝากถึงการพิจารณาเลือกซื้ออาคารชุด ให้ดูที่ผู้ประกอบการ เนื้อในของการบริหารโครงการว่าดีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่อง Brand ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

บทสัมภาษณ์ คุณวราพงษ์  นิลศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) คุณกฤตย์ธยศผู้จัดการฝ่ายการตลาดโครงการ Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา และคุณชัยวัฒน์ พนอำพน ผู้ออกแบบโปรเจค Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา

โบ : อยากให้เล่าถึงแถวคิด การออกแบบ ดีไซน์ของโครงการ Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยาว่าเป็นมาอย่างไร

คุณวราพงษ์ : เรามองถึงเรื่อง Location ก่อน ที่นี่ใกล้กับถนนสุขุมวิท เพราะฉะนั้นคอนโดเป็นสิ่งที่ลงตัวสุด ปกติทาง NC Group จะเน้นความเป็นสีเขียว เราเอามาใส่ในคอนโดนี้ด้วย เราซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 2553 ออกแบบปี 2554 พร้อมกับทำ Research กลุ่มลูกค้าด้วย ที่ๆเราซื้อตอนแรกมีแต่ต้นไม้ ซึ่งเราก็เหลือไว้บางส่วนเพื่อทำให้เป็นพื้นที่สีเขียว เราดูเรื่อง Value ตัวโครงการ และ ความหนาแน่นน้อยด้วย

คุณชัยวัฒน์ : ถ้าสังเกตุโครงการต่างๆที่อยู่ในพัฒนา แนวคิดค่อนข้างออกไปทาง Variety , Adventure กลุ่มเป้าหมายก็จะเป็นชาวต่างชาติ เราเลยสรุปจบที่ความเป็นธรรมชาติ เน้นให้พื้นที่สีเขียวมากกว่าที่กฏหมายกำหนด รูปแบบออกมาเป็น Community in the park

โบ : มองการแข่งขันในบริเวณโซนพัทยาเหนืออย่างไรบ้าง

คุณวราพงษ์ : ในบริเวณนี้ก็มีโครงการของ Developer เจ้าอื่นอยู่บ้าง แต่กลุ่มเป้าหมายต่างกัน ซึ่งการแข่งขันที่มี ไม่ต่างจากที่เรามองที่ดินผืนนี้ไว้แต่แรก เรามองว่าเราเป็นคอนโดใกล้เมืองที่มีคุณภาพ เรามีการศึกษาจุดอ่อนและจุดแข็งของคู่แข่งเพื่อมาปรับปรุงตัวโครงการเรา

คุณกฤตย์ธยศ : เราพิจารณาตั้งแต่การซื้อที่ ออกแบบ ทุกๆอย่างให้เป็น Natural  เพราะฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายเรามองที่ต่างชาติเพียง 10% คนกรุงเทพฯ 10% และ คนพื้นที่ 80% เราต้องการให้คนที่อยู่ในพัทยามีที่อยู่อาศัย กลุ่มที่ต้องการแยกออกมาอยู่อาศัยเอง  กลุ่มที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และ กลุ่มเจ้าของธุรกิจ เราค่อนข้างจับกลุ่มลูกค้าชัดเจน

บูม : มีกลุ่มนักลงทุนหรือไม่

คุณกฤตย์ธยศ : เรามีการควบคุมสัดส่วนกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง 60% และ กลุ่มนักลงทุนที่ 40%

บูม : นอกจากคอนโดลักษณะนี้แล้ว มีแนวโน้มพัฒนาคอนโดติดทะเลหรือไม่ และระดับราคาเป็นอย่างไร

คุณวราพงษ์ : เรามีที่ดินใกล้ทะเลอยู่ แต่ต้องรอจังหวะและโอกาสก่อน  สำหรับเรื่องราคา ตลาดคอนโดมีการแข่งขันสูง เราพยายามมองราคากับแนวคิดของโครงการที่สามารถขายได้ใน Location นั้นๆ

โบ :  จุดเด่นของโครงการ Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยา คืออะไร

คุณวราพงษ์ : จุดเด่นของโครงการคือ เรามี 4 แนวคิด 4 ดีไซน์ แบ่งเป็น 4 เฟส เฟสละ 2 ตึก เรามีนิติแยกตามเฟส ตอนนี้เราเปิดเฟสที่ 2 ภายใต้แนวคิด landscape courtyard ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นจุดที่จะสร้างความสำเร็จให้กับโครงการนี้

คุณกฤตย์ธยศ : ตอนนี้เราเปิดขายตึก C ก่อน มียอดจองแล้วที่ 50% เราคาดการณ์ว่าจะปิดยอดขายได้ภายในปีนี้

ทางทีมงาน Think of Living ทราบมาว่าทาง NC Group จะมีออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายนนี้  ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่ามี Promotion ที่ถูกใจคนที่ต้องการหาบ้านและคอนโดแน่นอนค่ะ ติดตามอ่านรีวิวโครงการ Natureza (เนทูเรซ่า) พัทยาได้เร็วๆนี้นะคะ