แสนสิริ (SIRI) ตอกย้ำความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ โชว์ผลงานปี 65 กำไรสุทธิ 4,280 ล้านบาท โตก้าวกระโดด 112% ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม โตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8%
- ไฮไลท์ กำไรไตรมาส 4/65 ไตรมาสเดียวทะลัก 1,791 ล้านบาท โต 422% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 15 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend yield) กว่า 8% สูงสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้
- ขณะที่ยอดขายปี 65 ทะลุ 50,000 ล้านบาท โตจากปีก่อนเกือบ 50% กวาดรายได้รวม 34,983 ล้านบาท โตขึ้น 18% ผลงานรายได้จากการขายโครงการโดดเด่นทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า ปี 2565 นับเป็นอีกปีท่ามกลางความท้าทายที่แสนสิริผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งในรอบ 38 ปี จากการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าจนส่งผลให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ส่งผลให้แสนสิริได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านผลงานยอดขายรวมที่ทำได้ถึง 50,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้รวมในปี 2565 แสนสิริมีรายได้รวมทั้งสิ้น 34,983 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 30,716 ล้านบาท รายได้หลักมาจากที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 67% : 33%
นอกจากนี้ สรุปผลการดำเนินงานปี 2565 แสนสิริยังมีกำไรสุทธิที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิสูงถึง 4,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิฯ 2,017 ล้านบาท ถึง 112% นับว่าเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตด้านกำไรสูงที่สุดในอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม โตขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8% โดยปัจจัยหลักมาจากความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 33.7% ในปี 2564 มาอยู่ที่ 35.4% ในปี 2565 และสร้างผลงานที่โดดเด่นโดยเฉพาะในไตรมาส 4/65 ที่มีรายได้รวมกว่า 13,071 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1,791 ล้านบาท โตขึ้นถึง 422% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำกำไรในไตรมาสเดียวทะลุสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของธุรกิจที่ก้าวกระโดด เป็นผลจากการตอบรับในแบรนด์ที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ดีมาโดยตลอด การควบคุมวินัยทางการเงินของบริษัทฯ เป็นอย่างดี รวมถึงการบริหารงานก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้า ส่งผลให้บริษัทมีประสิทธิภาพในการทำกำไรและสร้างรายรับให้มีศักยภาพสูงยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อเดือนกันยายน 2565 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท เตรียมจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (ดิวิเดนด์ยีลด์) สูงถึง 8% ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้
“ในปี 2566 แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสนสิริเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยวางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท ซึ่งจะนับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ และคอนโดมิเนียม 22 โครงการ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2566 ไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายเศรษฐา กล่าว