แสนสิริ เปิดแผนพัฒนาโครงการแนวราบ พร้อมลุยเต็มที่ในครึ่งปีหลังพร้อมพัฒนากลยุทธ์ใหม่เพื่อตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว Brand Identity ให้ชัดเจนมากขึ้น เตรียมนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้กับตัวบ้านและภายในโครงการ รวมถึงการยกระดับความปลอดภัยโครงการแนวราบแบบครบวงจร ตั้งหน่วงานมาตรฐานรักษาความปลอดภัย Sansiri Security Inspection (SSI) เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกบ้านได้มากขึ้น
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปี 2560 นี้ มีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบรวม 11 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,300 ล้านบาท แบ่งเป็น
- บ้านเดี่ยว 9 โครงการ
- ทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ
- อาคารพาณิชย์ 1 โครงการ
โดยระดับราคาที่เปิดตัวมากที่สุดคือ 8 – 20 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 15,000 ล้านบาทสูงกว่าปีที่แล้ว 30% หลังจากปิดยอดขายในปีที่แล้วไปประมาณ 11,000 ล้านบาท ซึ่งพลาดจากเป้าที่ตั้งไว้ 14,000 ล้านบาทในปี 2559 สัดส่วนยอดขายจะแบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 12,500 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2,500 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง ส่วนไตรมาส 2 จะเปิด 2 โครงการคือ คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา และ บุราสิริ วัชรพล
สำหรับแผนบุกตลาดแนวราบในปีนี้ 1.เปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับบนสุดภายใต้แบรนด์ “บ้านแสนสิริ” ที่จะนำกลับมาพัฒนาอีกครั้งหลังจาดที่เคยประสบความสำเร็จไปแล้วในปี 2549 หรือ 11 ปีที่แล้วกับโครงการ “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” ในปีนี้ทำเลที่มีศักยภาพเพียงพอให้ทำโครงการระดับนี้ได้คือ พัฒนาการ 30 โดยราคาบ้านจะอยู่ที่ 50 – 160 ล้านบาท ขนาดที่ดิน 120 ตร.วาถึง 1 ไร่ ตัวบ้านหลังเล็กสุดมีพื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม. ส่วนหลังใหญ่ที่สุดประมาณ 1,000 ตร.ม.และมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น ต้องรอดูว่าตัวบ้านระดับบนสุดของแสนสิริจะเป็นอย่างไร ซึ่งทีมงานไม่ผลาดที่จะพาไปชมกันแน่นอนครับ
2. การตอกย้ำแบรนด์บ้านเดี่ยว Brand Identity ของแต่ละแบรนด์ให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความโดดเด่นของแบรนด์บ้านทั้ง 5 แบรนด์ โดยแต่ละแบรนด์จะสร้างความแตกต่างกันอย่างมีเอกลักษณ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในแต่ละระดับ สำหรับแบรนด์บุราสิริ จะค่อยๆพัฒนาจนเทียบเท่าระดับเศรษฐสิริแต่จะมีความแตกต่างกันตรงสไตล์ของบุราสิริจะเน้นแนวการพักผ่อนสไตล์รีสอร์ท ส่วนเศรษฐสิริจะเน้นความหรูหรา ซึ่งทั้ง 5 แบรนด์แบ่งออกเป็นดังนี้
- นาราสิริ ระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป “Luxury in Details งดงามในรายละเอียด”
- เศรษฐสิริ ระดับราคา 8-20 ล้านบาท “Portrait of Success ภาพของชีวิตที่ภาคภูมิ”
- บุราสิริ ระดับราคา 8-20 ล้านบาท ” Find Your Peace of Mind บ้านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง”
- สราญสิริ ระดับราคา 5-8 ล้านบาท “Built of Love ความสุขเริ่มต้นจากความรัก”
- คณาสิริ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท “Plenty of Happiness ความสุขคณานับ”
3. การต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ “บุราสิริ” เนื่องจากในปี 2559 แบรนด์ บุราสิริ เปิดตัวไป 2 โครงการและได้กระแสตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น “บุราสิริ ราชพฤกษ์-345” (อ่านรีวิวคลิกที่นี่) ที่ปิดการขายเฟสแรกไปแล้วทั้ง 48 ยูนิต และกำลังเปิดขายเฟสที่ 2 ส่วนอีกโครงการคือ “บุราสิริ รังสิต” (อ่านรีวิวคลิกที่นี่) ทำยอดขายไปแล้วกว่า 60% ของเฟสแรกจำนวน 120 ยูนิต ในปีนี้จึงมีแผนเปิดตัวของแบรนด์นี้อีก 2 โครงการได้แก่ บุราสิริ วัชรพล, บุราสิริ พัฒนาการ และ บุราสิริ บางนา
4. กลยุทธ์พัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อการอยู่อาศัยในยุคดิจิตัลอย่างเต็มตัว เรื่องนี้แสนสิริเริ่มจริงจังตั้งแต่ต้นปีที่ร่วมมือกับ SCB เปิดตัว Siri Venture มาถึงตอนนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง “ไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์” (Solar Lights) เข้ามาใช้ในส่วนกลางไป 4 โครงการแล้ว และวางแผนติดตั้งทุกโครงการทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯ
สำหรับตัวบ้านมีการพัฒนา “บ้านระบายความร้อน” เพื่อลดอุณหภูมิในบ้านโดยใช้ระบบ Solar Attic เป็นพัดลมที่ใช้พลังงานจาก Solar Cell โดยการทำงานคือนำไปติดตั้งที่ฝ้าใต้หลังคานอกบ้านเพื่อดูดและระบายความร้อนใต้หลังคาทำให้บ้านเย็นขึ้น ซึ่งยิ่งอากาศร้อนมากพัดลมก็จะยิ่งทำงานแรงขึ้น โดยโครงการแรกที่จะใช้ก็คือ บุราสิริ วัชรพล นอกจากนี้ยังมี Home Service ที่เป็น Mobile Application สำหรับลูกบ้านแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ
5. ยกระดับความปลอดภัยสู่ “Security + Service” แบบครบวงจร ด้วยการเปิดตัว Sansiri Security Inspection (SSI) โดยหน่วยงานนี้เป็นหน่วงานที่ตรวจสอบและฝึกอบรม รปภ. ในทุกโครงการของแสนสิริ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัญหาเรื่องบุคคลากรในวงการรักษาความปลอดภัยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แสนสิริเลยตั้งใจสร้างมาตรฐานที่ดีเพื่อความปลอดภัยในทุกโครงการ ซึ่งจะมีการปรับปรุงเครื่องแบบรปภ.ให้สง่า แข็งแกร่ง และน่าเชื่อถือ ซึ่งภาพลักษณ์ของรปภ. จะแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ของแสนสิริ