แสนสิริชี้ทำเล ‘กรุงเทพฯ ตะวันออก’ ดีมานด์สูง ดันบ้านเดี่ยวระดับบนแบรนด์เศรษฐสิริ 3 โครงการขายดี “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา” ยอดขาย 60% ในเฟสแรก แบบบ้าน L-Shape ขายเกลี้ยง ลูกค้าตอบรับดี “เศรษฐสิริ อ่อนนุช ศรีนครินทร์” ใกล้ปิดการขาย เหลือเพียง 7 ยูนิต และโครงการล่าสุด “เศรษฐสิริ พัฒนาการ” ยอดขาย 60% รับอานิสงส์หลังกทม.มีแผนผุดโครงการคมนาคมเพียบ ทั้งถ.ศรีนคริทร์–ร่มเกล้า ที่จะแล้วเสร็จปลายปีนี้ อุโมงค์ทางลอด พัฒนาการ–รามคำแหง ที่จะแล้วเสร็จในปี’61 รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม–มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว–สำโรง อีกทั้งยังมีการเปิดตัวของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ ดันดีมานด์ทะลักจากผู้ปกครองที่ซื้อไว้ให้ลูกหลาน เพื่ออยู่อาศัยเอง และปล่อยเช่า ซึ่งได้ผลตอบแทนดี ยีลด์สูงถึง 6% เผยเทรนด์การซื้อบ้านเปลี่ยน ลูกค้าหันมานิยมบ้านหลังใหญ่มากขึ้น ราคา 15 ล้านบาทขายดี ขณะที่มองแนวโน้มตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนจนถึงปลายปีนี้ยังเติบโต เตรียมผุด เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า–กาญจนา ก.ย.นี้
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โซนกรุงเทพฯ ตะวันออกเป็นโซนที่มีดีมานด์สูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโดดเด่นทางด้านการคมนาคมที่สะดวกสบาย เดินทางไปยังพระราม 9 เพชรบุรี รามคำแหง และ รัชดา ด้วยทางด่วนศรีรัช เพียง 15-30 นาที และยังเดินทางไปยังถนนสุขุมวิท เพื่อเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ชั้นในและสมุทรปราการได้ นอกจากนี้ยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงในอนาคตยังมีโครงการก่อสร้างถนนอีกหลายเส้นทาง ทั้งถ.ศรีนครินทร์–ร่มเกล้า ที่จะแล้วเสร็จปลายปี 2560 ซึ่งจะเป็นถนนเส้นทางหลักแทนถนนกรุงเทพฯ – กรีฑาในปัจจุบัน อุโมงค์ทางลอด พัฒนาการ–รามคำแหง ที่จะแล้วเสร็จในปี 2561 รวมทั้งยังมีโครงการรถไฟฟ้าในอนาคต สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม–มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว–สำโรง ห่างจากโครงการเพียง 2 กิโลเมตร อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่ง เช่น ซีคอนสแควร์ พาราไดซ์พาร์ค เมกะบางนา จึงส่งผลให้โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ 3 โครงการที่พัฒนาในทำเลนั้นล้วนได้รับการตอบรับที่ดี โดย “เศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา” มียอดขาย 60% ในเฟสแรก แบบบ้าน L-Shape ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนขายหมดทั้ง 12 ยูนิต “เศรษฐสิริ อ่อนนุช ศรีนครินทร์” ใกล้ปิดการขาย เหลือเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น และโครงการล่าสุด “เศรษฐสิริ พัฒนาการ” มียอดขายไปแล้วถึง 60%
“โซนกรุงเทพฯ ตะวันออกมีดีมานด์คึกคักมากขึ้น หลังจากได้รับอานิสงส์จากโครงการคมนาคมที่จะพัฒนาขึ้นอีกหลายเส้นทางในอนาคต รวมถึงการเปิดตัวของไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ยิ่งทำให้มีดีมานด์สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเทรนด์การซื้อบ้านในปัจจุบัน ลูกค้าให้ความสนใจซื้อบ้านหลังใหญ่มากขึ้น โดยบ้านที่ขายดีอยู่ในระดับราคา 8 – 30 ล้านบาท และขายดีที่สุดคือระดับราคาประมาณ 15 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าเป็นเจ้าของกิจการ คุณหมอ และผู้ปกครองที่ซื้อที่อยู่อาศัยไว้ให้บุตรหลานและปล่อยเช่าเมื่อบ้านว่างเว้นจากการอยู่อาศัย เพราะได้รับผลตอบแทนจากค่าเช่าที่ดีถึง 6 % โดยที่ผ่านมาโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา มีลูกค้าที่ซื้อและปล่อยเช่าประมาณ 4 ยูนิต ปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดี โดยมีดีมานด์เช่าจากชาวต่างชาติ สำหรับแนวโน้มตลาดบ้านเดี่ยวต่อจากนี้จนถึงปลายปีนี้ มองว่ายังคงเติบโต โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวระดับบน ดังนั้นเพื่อรองรับความต้องการ แสนสิริจึงวางแผนที่จะเปิดโครงการแบรนด์เศรษฐสิริ ภายใต้ชื่อ เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า–กาญจนา ในเดือนกันยายนนี้” นายเมธา กล่าวปิดท้าย