เรื่องนี้เป็นกระทู้แนะนำจาก Pantip โดยคู่กรณีก็คือคุณ ciliegia และบริษัท m-World ที่เป็นผู้ส่งของให้กับ IKEA Thailand ครับ

จับใจความย่อๆก็มีอยู่ว่า ลูกค้า (คุณ Ciliegia) ได้เจอบริการไม่ดีจากบริษัทที่รับส่งและประกอบสินค้าให้กับ IKEA ที่ชื่อ m-World โดยการ ผิดนัด มาไม่ตรงเวลา ผิดสัญญาการติดตั้ง ส่วนรายละเอียดแบบสุดๆนั้น กดอ่านได้ที่ลิงก์ข้างล่างนะครับ

[เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ IKEA เลยนะครับ เป็นกรณีของลูกค้ากับ Supplier ของ IKEA อีกรอบ ซึ่งทาง IKEA ก็ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และจะพิจารณากันเป็นการภายในต่อไป]

ส่วนนี่เป็นการแถลงของ บ. m-World เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ที่ผ่านมา หลังจากมีลูกค้ามากกว่า 1 รายมาผสมโรงในกระทู้ของคุณ Ciliegia ด้วย

จากคุณ : ciliegia
เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 23:20:26

คำเตือน เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเรา เรื่องแย่ๆ อย่างนี้ก็ไม่อยากเก็บไว้ในใจคนเดียว แค่อยากจะเตือนให้ทุกคนที่กำลังจะไป ikea และต้องการใช้บริการส่งเฟอร์นิเจอร์ถึงบ้านได้ลองอ่านดูไว้เป็นอุทธาหรณ์ และหาวิธีป้องกัน จะได้ไม่โดนกระทำอย่างที่เราโดน

เรื่องมันมีอยู่ว่า ครอบครัวเราได้ซื้อบ้านใหม่เมื่อเดือนกันยายน ด้วยความที่รู้ว่า ikea กำลังจะมาเปิดในเมืองไทย จึงได้ขอร้องพ่อแม่ว่า ห้องของเราจะยังไม่ตกแต่งอะไรทั้งสิ้น และรอเฟอร์นิเจอร์จาก ikea โดยที่ทุกอย่างเป็นของชั่วคราว ที่นอนวางไว้กับพื้นรอเตียง และราวแขวนผ้าแบบชั่วคราว และหนังสือทั้งหลายก็กองไว้กับพื้น รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ใช้ชีวิตอย่างนั้นอยู่สองเดือนกว่าในบ้านใหม่

จนกระทั่ง ikea เปิดเมื่อต้นเดือน เราจึงได้ชวนแม่ไปเดินเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. เนื่องจากบ้านเราโชคดีที่น้ำไม่ท่วม จึงอยากที่จะรีบไปเดินเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องเบียดเสียดกับคนจำนวนมากหลังน้ำลดเป็นปกติ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เราสามารถซื้อเซ็ทชั้นหนังสือบวกชั้นวางทีวี และเตียงนอนที่เล็งไว้ได้ หลังจากซื้อเสร็จ ก็ได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ Delivery ของบริษัทที่ได้รับสัมปทานจาก ikea ชื่อบริษัท m-World เพื่อใช้บริการส่งของถึงบ้านและติดตั้ง อย่างที่ทราบกันว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากค่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย แต่พ่อบอกให้ใช้เนื่องจากสะดวกและไม่ต้องแบกขึ้นบ้านเอง ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี เจ้าหน้าที่ได้ตกลงกับเราว่า จะส่งของและติดตั้งให้ในวันพุธ (9 พ.ย.) ช่วงบ่าย (ในใบส่งของ เขียนว่า 13.00 – 17.00 น.) เราและแม่ก็โอเค จ่ายเงินเรียบร้อย ประกอบด้วยค่าขนส่ง (เนื่องจากของเยอะ เขาจึงขอคิดค่าขนส่งไปสองเท่ามายังบ้านเราซึ่งเป็น zone B บวกกับค่ากล่องบรรจุที่แตกระหว่างการคิดเงินที่แคชเชียร์ ทำให้ต้องบรรจุกล่องใหม่ก่อนขนส่งอีก 200 บาท) และค่าติดตั้งซึ่งคิดเป็น 7% ของราคาสินค้า

เราก็กลับบ้านมาและรอเวลา เช้าวันพุธ เราอยู่บ้านกะเพื่อนซึ่งมาขอค้างด้วย และเนื่องจากเพื่อนคนนี้อยากเห็นเฟอร์นิเจอร์ที่เราซื้อ จึงขอรอดูด้วย พวกเรารอจนกระทั่ง 4 โมงเย็น ก็ยังไม่มีวี่แววของรถส่งของ แม่ของเพื่อนก็โทรตามเพื่อนกลับบ้าน เนื่องจากบ้านยังน้ำท่วมไม่อยากให้กลับดึก เพื่อนจึงขอให้เราโทรไปถามดู กว่าจะโทรติดบริษัท ก็ยากมาก แต่เมื่อโทรติด เจ้าหน้าที่ที่รับสายก็ได้ประสานมายังคนขับรถส่งของ ทราบว่า ยังติดอยู่ที่ลูกค้ารายก่อนหน้าเรา เนื่องจากมีปัญหาในการติดตั้ง จึงเสียเวลาตรงนั้นอยู่ เราจึงถามว่า เค้าจะมาถึงภายใน 5 โมงเย็นได้มั้ย เนื่องจากรอมาตั้งแต่บ่ายโมง และมีธุระที่ต้องไปจัดการตอนเย็น ซึ่งทางบริษัทก็รับปากดิบดี

พอห้าโมงเย็น ก็ตามคาด ไม่มีรถส่งของมา จึงได้โทรตามอีก (และโทรติดยากเหมือนเดิม) คราวนี้ เจ้าหน้าที่ call center พยายามอ้างเรื่องน้ำท่วม จึงได้ถามไปว่าน้ำท่วมแล้วส่งผลอย่างไร เค้าก็บอกว่า ช่างบ้านน้ำท่วม ออกมาถึงบริษัทช้า และรถก็ติด เราก็บอกว่า เราไม่เคยเร่งว่าจะต้องมาส่งของวันไหน ถ้าบอกแต่แรกว่าจะส่งของช้าไปหลายวันเนื่องจากน้ำท่วม เราก็พร้อมจะเข้าใจ แต่ในเมื่อคุณสัญญาและระบุวันส่งของมาเอง คุณก็ควรจะรักษาสัญญาและทำให้ได้ตามที่บอก และนี่เราก็ลางานมารอทั้งวัน ของกลับมาไม่ถึงภายใน 5 โมงเย็น ไม่มีการโทรมาแจ้งใดๆทั้งสิ้น นอกจากมีช่างโทรมาถามทางตอนเช้าตั้งแต่สิบโมง ทุกครั้งเราต้องเป็นคนโทรตามและถามความคืบหน้าเอง และเราเสียโอกาสที่จะต้องไปจัดการธุระ บริษัทก็แจ้งว่า บ้านเราเป็นคิวสุดท้าย จึงได้ตกลงกันว่า เราขอออกไปทำธุระก่อน แล้วจะกลับมารอ นัดหมายกันไว้ 2 ทุ่ม ช่วยมาให้ทันด้วย เราจึงได้ออกไปทำธุระ และส่งเพื่อนกลับบ้าน ก่อนกลับมารอตั้งแต่หนึ่งทุ่ม
พอสองทุ่ม ก็ตามคาด ไม่มีรถส่งของมา เพื่อนซึ่งคุยกับเราทาง skype ก็บอกให้เราโทรตามอีก รวมทั้งพ่อซึ่งได้โมโหแทนไปแล้ว เราจึงโทรไปที่บริษัท ถามว่าจะมาถึงกี่โมง เค้าก็อ้างว่ารถติด (ตั้งแต่ห้าโมงเย็นเนี่ยนะ = =) คราวนี้เราโมโหแล้วเนื่องจากผิดนัดเป็นเวลานาน และขอเงินคืน ทาง call center ก็บอกว่า ขอคืนให้ได้เฉพาะค่าติดตั้ง (4 พันกว่าบาท) แต่ค่าขนส่งยังคิดราคาอยู่ (1700 บาท) ซึ่งเราก็โอเคตรงนั้น เค้าบอกว่า ให้เราเข้าไปที่ ikea แล้วขอเงินคืนจากทางบริษัทได้เลย เค้าลงใน database ไว้แล้ว เราก็พยายามขอหลักฐาน พนักงานบอกว่า ไม่มีระบบอีเมลล์อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เราก็สงสัยแต่ไม่ติดใจอะไร แต่ก็พยายามถามซ้ำว่า แล้วจะมีอะไรเป็นหลักฐาน call center ก็ตอบมาว่า ให้คุณเขียนลงไปในใบส่งของที่มากับพนักงานได้เลยเรื่องคืนเงิน ก็จะกลายเป็นหลักฐานได้แล้ว

สุดท้าย พนักงานมาถึงบ้านเราตอน 21.15 น. โดยมียามในหมู่บ้านพาเข้ามา ซึ่งเป็นที่น่าตกใจมากว่ามีช่างมาแค่ 2 คน และคนขับรถหนึ่งคน พอทั้งสามคนช่วยกันขนของลงมา จำนวน 11 กล่อง ทุกคนก็แสดงอาการเหนื่อยล้า และถอนหายใจ เนื่องจากทำงานมาทั้งวัน ตอนแรกเราก็อยากจะวีนพนักงาน แต่สุดท้าย เค้าก็ไม่ใช่คนที่ผิด เราตกใจมากที่มีช่างแค่ 2 คน แล้วเฟอร์นิเจอร์ที่เราสั่งเป็นเซ็ทใหญ่ จะทำได้เสร็จกี่โมงกัน พ่อจึงให้พนักงานกลับบ้าน บอกว่าให้มาทำวันอื่น ยังไงคืนนี้ก็ไม่เสร็จแน่ๆ แต่ก่อนกลับ เราได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องการตกลงคืนเงิน พร้อมกับให้พนักงานถ่ายเอกสารมาให้ด้วยในวันถัดมา พร้อมทั้งขอตกลงกับบริษัทเรื่องการเดินทางมาติดตั้งใหม่ในอีกวัน เนื่องจากเราโทรเข้าบริษัทเท่าไหร่ก็ไม่ติด ทั้งๆที่ ikea ปิดสี่ทุ่ม บริษัทส่งของก็ยังไม่น่าจะปิด ในคืนวันอาทิตย์ที่เราไปดำเนินการขอส่งของ ก็ทำกันก่อนห้างปิด จึงมั่นใจว่า ทางบริษัทแค่จะไม่รับโทรศัพท์เรา ช่างคนหนึ่งก็โดนเราขอให้โทรหาคนที่เค้ารู้จัก เขาจึงโทรหาพี่สาวที่ทำงานอยู่ในบริษัทด้วย เราจึงได้คุยกับทางบริษัทอีกครั้ง กว่าจะได้ตัวเจ้าหน้าที่มาคุย เงินในโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของช่างก็หมด (เราจึงรู้ว่าไม่ใช่โทรศัพท์ของบริษัท) เราจึงขอเบอร์และโทรไปที่บริษัทเอง คราวนี้ช่างให้เบอร์ของคนที่ช่างบอกว่าเป็นเจ้าของบริษัทมา เราจึงโทรไปคุยกับคุณ น. (เจ้าของบริษัท) ซึ่งก็ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ และปล่อยให้เราถือสายนานกว่า 20 นาที โดยไม่ได้กลับมาคุย เราจึงโทรเข้าบริษัทอีกครั้ง คราวนี้คิดว่าพนักงานทุกคนคงจำเราได้แค่บอกชื่อ เท่าที่ได้ยินผ่านหูโทรศัพท์ไกลๆ พนักงานหลายคนเริ่มรำคาญ มีเปล่งเสียงคำหยาบออกมา และพยายามโบ้ยหาคนมาคุยกับเรา

เนื่องจากเราถามช่างที่มาที่บ้านว่า จะมาพรุ่งนี้เช้าเลยได้มั้ย เนื่องจากเราต้องบินไปเชียงใหม่ตอนบ่าย ต้องออกจากบ้านก่อนเที่ยง และถามพนักงานว่าของทั้งหมดนี้ ใช้เวลาติดตั้งนานเท่าไหร่ ช่างตอบว่าอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แต่ช่างเข้างานตอน 8 โมงครึ่ง ถ้ากว่าจะออกจากบางนามาที่บ้านเรา (นนทบุรี) ก็คงไม่ต่ำกว่าเก้าโมงครึ่ง เราคงตกเครื่องบิน สุดท้าย เหมือนจะได้ฮีโร่ขี่ม้าขาว เป็น MD ของบริษัท ชื่อ คุณ ส. มาคุยกับเรา เค้าดีมากๆ ในตอนนั้น เพราะขอโทษขอโพยเราใหญ่โต พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบเต็มที่ว่า บริษัทไม่สามารถทำได้ตามสัญญาถึงสองครั้ง ทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นในบริษัท เราจึงอยากได้คนที่มีอำนาจตัดสินใจจริงๆมาเคลียร์ว่า ของเราจะจัดการเสร็จก่อนเราไปเชียงใหม่ทันหรือไม่ คุณ ส. ก็ขอไปประชุมกับทางทีมงาน พร้อมสัญญาว่าจะโทรกลับมาใน 10 นาที ซึ่งเค้าก็โทรมาจริงๆ (ก่อนหน้านั้น call center ทุกคนที่เราได้คุยด้วย อยากเลิกคุยกับเรา พร้อมกับอ้างว่าจะโทรกลับมา เพื่อแจ้งเวลาช่างมาถึง หรืออัพเดทสถานการณ์ ไม่เคยมีใครโทรกลับมาจริงๆ เราต้องโทรตามเองตลอด) เราจึงเริ่มรู้สึกดีขึ้น ตอนนั้นก็สี่ทุ่มกว่าๆ ช่างก็กลับไปบริษัทแล้ว ตกลงกับคุณ ส. เสร็จว่า พรุ่งนี้จะมีช่างมาที่บ้านเราตั้งแต่ 7 โมงเช้า เนื่องจากอยากให้งานเสร็จก่อนเราออกเดินทางไปเชียงใหม่ และอยากมั่นใจว่าจะไม่มีปัญาหาใดๆ เพิ่มเติม (ก่อนหน้านั้น คุณ ส. ถามว่า เราจะกลับจากเชียงใหม่วันไหน เราบอกว่าเสาร์กลางคืน เค้าขอมาติดตั้งวันอาทิตย์ แต่เราขอเป็นวันพฤหัสเลย เนื่องจากไม่อยากทิ้งกองสิ่งของไว้ในโรงรถ และไม่อยากให้เรื่องค้างคานานกับบริษัทที่โทรตามยากมากและไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม) และเนื่องจากต้องเร่งการติดตั้งให้ทันเวลาเราออกเดินทางจากบ้านไปสนามบิน ทางบริษัทจะส่งช่างมาเพิ่มให้ด้วย นอกจากนี้ เรายังได้คุยเรื่องที่เราตกลงกับ call center เรื่องการคืนเงินค่าติดตั้งให้เนื่องจากบริษัทส่งของล่าช้ามาก ตอนแรกเราขอคุณ ส. ด้วยการ full refund เนื่องจากของไม่สามารถติดตั้งได้ภายในวันพุธด้วยซ้ำ แต่คุณ ส.ขอต่อรองไว้ว่า จะคืนเฉพาะค่าติดตั้ง แต่ค่าขนส่งยังขออยู่ เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายของทางบริษัท ซึ่งเราก็โอเค และยังแอบคิดในใจว่าบริษัทนี้ อย่างน้อยก็ยังมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าอยู่บ้าง จากเดิมซึ่งเรากำลังนั่งเขียนกระทู้พันทิป จึงได้ตัดสินใจยกเลิกไปก่อน เนื่องจากอยากให้โอกาสบริษัทอีกครั้งหนึ่งก่อน

เช้าวันต่อมา ช่างมาถึงบ้านตั้งแต่ 6.45 น. และก็ติดตั้งกันไป จนกระทั่งเราต้องออกจากบ้านไปเชียงใหม่ จากเดิมที่จะให้พ่อแม่ไปส่ง ต้องเปลี่ยนเป็นพี่ชายไปส่ง เพราะพ่อต้องอยู่เฝ้าช่างในการติดตั้งให้เสร็จ แต่เนื่องจากเราก็แอบกลัวว่าช่างจะโดนหักเงินหรือเปล่า ถ้าบริษัทตัดสินใจคืนเงินค่าติดตั้งให้เราจริงๆ เราจึงได้แต่โทรกลับมาบอกพ่อว่า ก่อนช่างออกจากบ้าน ให้เงินเค้าไปด้วย (ซึ่งสุดท้ายพ่อให้ไป 1000 บาท สำหรับพนักงาน 3 คน) แต่สุดท้าย ช่างก็ไม่ได้ซีรอกซ์ใบส่งของที่เราเขียนเรื่องขอเงินคืนไว้มาให้ แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เนื่องจากอยู่เชียงใหม่ และก็ไว้ใจว่าบริษัทคงจะไม่ตุกติกอะไรกับเราอีก

จนกระทั่งเมื่อวาน (พุธ 16 พ.ย.) เราได้ลางานตอนบ่ายเพื่อที่จะไปรับเงินคืนจาก ikea เนื่องจากไม่อยากไปตอนเย็น เกรงว่าคนจะเยอะและรถจะติดมากเนื่องจากทางด่วนยังให้ใช้ฟรีอยู่ เราจึงนัดรุ่นพี่ที่บ้านอยู่แถวบางนาให้ไปเป็นเพื่อนกัน และเมื่อเราไปถึงเคาน์เตอร์ของบริษัท ได้ติดต่อพนักงาน (ซึ่งหน้าตาไม่รับแขก และแสดงออกเหมือนเราไปวุ่นวาย) แต่เค้าก็เปิด database ให้ พร้อมกับไม่มีรายละเอียดใดๆ (ทั้งที่ๆ อาทิตย์ที่แล้ว call center ได้บอกว่า ลงเรื่องไว้แล้ว และมาที่ counter ได้เลย) พนักงานจึงให้เราคุยกับคุณ ส. ทางโทรศัพท์ ซึ่งคุณ ส. ก็อ้างว่า เขาไม่เคยคุยกับเราเรื่องคืนเงินกับเรา งานส่งของของเราก็ได้ทำให้เสร็จไปแล้ว แถมยังเร่งให้อีกเป็นวันพฤหัส แทนที่จะเป็นวันอาทิตย์ และยังส่งพนักงานมาให้เพิ่ม เราก็แบบว่า มันไม่ใช่สิทธิ์ของเราเหรอที่เราควรจะได้ของตั้งแต่วันพุธ แล้วถ้าไม่ได้ เราก็ควรจะมีสิทธิ์เลือกวันว่าจะให้มาส่งวันไหนไม่ใช่เหรอ เค้ายังตอบกลับมาอีกว่า ก็เราเป็นฝ่ายให้ช่างกลับบ้านไปเองตอนมาถึงคืนวันพุธ (ลองคิดดูว่า ขนาดช่างได้พัก และช่าง 3 คน มาทำตั้งแต่ 7 โมงเช้า ห้าชั่วโมงถึงเที่ยงยังไม่เสร็จ แล้วการที่วันพุธช่างมาถึงดึกมาก และทำงานมาเหนื่อยล้าทั้งวัน แถมมีช่างแค่ 2 คน จะใช้เวลาเท่าไหร่ และเราต้องถ่างตารอจนช่างทำงานเสร็จตอนตีสี่ตีห้าเหรอ มันใช่เหตุหรือเปล่า) และทางเขาก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาบ้านเราถึงสองรอบ ไหนจะค่าแรงพนักงานอีก เราก็ถามกลับไปว่า แล้วการที่เราเสียเวลา ด้วยการลางานมา 1 วัน แล้วนั่งรอทั้งวันพุธ ธุระที่ต้องทำ ก็แทบไม่ได้ทำ และวันพฤหัสเช้า แทนที่จะได้เตรียมตัวไปเชียงใหม่ดีๆ ก็ต้องมานั่งเฝ้าช่าง เราไม่เสียเวลาเสียโอกาสทั้งหลายเหรอ แต่อย่างไรเค้าก็ไม่ยอมรับฟัง เราคุยกับเค้าทางโทรศัพท์ชั่วโมงกว่า อธิบายอย่างไรก็ไม่เกิดผล เรารู้สึกเหมือนเราเป็นขอทาน มาขอเงิน ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนรับปากเองว่าจะคืนเงินให้เรา เพียงแต่เราไม่มีหลักฐาน เพราะไม่ได้อัดเสียงเอาไว้ตอนนั้น จนกระทั่งเราได้ลุแก่โทสะ และหลุดคำหยาบไปว่า บริษัททำงานเ-ี้ยๆ อย่างนี้น่ะเหรอ เขาก็บอกว่า เรากำลังหมิ่นประมาทเค้า (ก็ตัดสินกันเอาเองว่าทำงานแบบนี้ มันดีหรือเปล่า)

นอกจากนี้ (และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องมานั่งเขียนเหตุการณ์ที่ยาวมากขนาดนี้) เราบอกเค้าว่า จริงๆ ถ้าเขาบอกเราแต่แรกว่าจะไม่คืนเงินค่าติดตั้ง เราก็จะไม่ต้องเสียเวลาขับรถมากว่า 30 กิโล แต่กลับไม่ได้เงินคืนตามที่ได้ตกปากรับคำกันไว้ ก็จะขอแฉความจริงลง social network และเครือข่ายทุกอย่างที่เรามี ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เขาก็ตอบกลับมาว่า เอาเลย ผมจบ PhD ผมรู้ 4 ภาษา จะเขียนเท่าไหร่ก็ได้ แล้วเชาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเถียงภาษาอังกฤษ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ) โดยที่เนื้อหาก็เหมือนเดิม ว่าเขาจะไม่คืนเงิน เขาอุตส่าห์ไปทำงานให้อีกวัน (ถึงกับอุตส่าห์?? เรานึกว่าคือความรับผิดชอบ) และเราใช้คำหยาบกับเขา

สุดท้าย เราบอกว่า ก่อนออกจากเค้าน์เตอร์ เราขอถ่ายรูปใบส่งงานของเค้าที่มีลายมือเราอยู่ว่าได้ตกลงกันไว้ว่าจะมีการคืนเงิน ตอนต้นของบทสนทนา เขาก็บอกว่าให้บอกพนักงานได้เลย แต่หลังจากคุยกันและเถียงกันกว่าชั่วโมง พนักงานก็ยังหาไม่เจอ ซึ่งเรายืนกรานว่าจะไม่ออกไปจนกว่าจะได้ถ่ายรูปมาให้ทุกคนดู เค้าก็บอกว่า มันเป็นความลับบริษัท คงจะให้ดูไม่ได้หรอก ก็คงจะเห็นว่าเขากลับไปกลับมาเป็นนิสัยทั้งๆ ที่ตอนแรกยังจะอนุญาตให้เราถายรูปเอกสารนั้นได้เลย สุดท้าย พนักงานเดินมาบอกว่า เอกสารของอาทิตย์ที่แล้ว ถูกเก็บไปที่บริษัททั้งหมด (จริงเปล่าก็ไม่รู้) และคุณ ส. ยังตอกกลับมาอีกว่า คุณครับอย่าลืมนะครับว่า ในกระดาษใบนั้นน่ะ ถึงผมให้คุณดู ก็เป็นลายมือคุณ คุณมีสิทธิ์เขียนอะไรลงไปก็ได้ อาจไม่ใช่ที่ตกลงกันก็ได้ (ตลกละ ถ้าเราเขียนมั่ว พนักงานและช่างเค้าจะรับกระดาษไว้มั้ย) และเค้าก็บอกว่าในเงื่อนไขมันแค่มีการทำให้เสร็จพอ ไม่มีการใช้เงิน และอ้างเงื่อนไขในใบงานกับเราซึ่งบอกว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความล่าช้าเนื่องจากการจราจรหรือเหตุอื่นๆ ซึ่งเราก็เห็นเงื่อนไขนั้นอยู่ แต่ถ้าอย่างนั้นเขาจะรับปากกับลูกค้าทำไมว่าจะคืนเงินค่าติดตั้งให้เนื่องจากมาช้ามากกว่าเวลาที่กำหนด เราก็พลาดเองที่หลงไว้ใจ ไม่ได้อัดเสียง ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน นึกถึงคำของแม่ว่า อ้อยเข้าปากช้าง จะให้คลายก็คงยาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่า ในชีวิตจะเจอคนกลับกลอกขนาดนี้ ขอยืนยันว่านอกจากคำนั้นที่ได้หลุดออกไปว่าการทำงานของบริษัทแล้ว ไม่ได้พูดคำหยาบเลยแม้แต่คำเดียว และถ้าจะฟ้องกลับก็เชิญนะคะคุณ ส. ดิฉันมีพยานเยอะมาก ทั้งเพื่อนที่มาค้างที่บ้านและรอด้วยกัน พ่อแม่ ยามในหมู่บ้าน เพื่อนบ้าน รุ่นพี่ที่ไปฟังดิฉันเถียงกับคุณ
เสียใจว่า ikea ที่เรารักและชื่นชมตั้งแต่สมัยไปทำงานและเรียนที่ยุโรป กลับต้องมาตกม้าตายด้วยบริษัทแย่ๆ ที่ส่งของให้ (มั่นใจว่าคนไทยส่วนมากใช้บริการ) ก็ได้แต่ขอเตือนว่า ถ้าคุณโชคดี ไม่โดนการส่งของที่ผิดเวลา ถือว่าทำบุญมาดี แต่ถ้าเริ่มมีปัญหา คุณจะ 1. โทรหาบริษัทยากมาก 2. หลังจากคุณจ่ายเงินไปแล้ว และมีการรับปากจะชดใช้ให้หากคุณร้องเรียนการทำงานผิดพลาดหรืออะไรก็ตาม ให้อัดเสียงไว้ไม่อย่างนั้นจะได้เงินคืนยากมาก หรืออาจไม่มีการชดใช้ให้ด้วยซ้ำ แค่อ้างว่าไม่มีหลักฐาน และอ้างเงื่อนไขที่พิมพ์ไว้ และกลายเป็นความโชคร้ายส่วนบุคคลว่าบริษัทอาจไม่ส่งของตามเวลาในสัญญา และก็แค่มาทำในวันอื่นแทนก็เท่านั้นจบ

ทั้งหมดนี้ก็อยากเตือนไว้เป็นอุทธาหรณ์ เราไม่อยากให้บริษัทที่ไม่ซื่อตรงต่อลูกค้าได้ดี พอดีว่าได้สัมปทานเจ้าเดียวจาก ikea เขาก็คงไม่แคร์ลูกค้าแค่คนเดียวอย่างเรา แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ ก็โชคดีละกัน Do it at your own risk. ต่อไปนี้เราคงแค่ซื้อของที่รถเราขนเองไหว อย่างอื่นถึงอยากได้ก็คงตัดใจ เพราะรับไม่ได้จริงๆกับบริษัทนี้ ไว้ถ้าเปลี่ยนบริษัท เราอาจได้เจอกันใหม่กับเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆของ ikea

ปล. นอกจากนี้ สิ่งที่เรารู้สึกแย่  คือ บริษัทนี้ treat พนักงานแย่ การจัดลำดับส่งของ ก็ไม่ได้มีการดูให้เรียบร้อย ก่อนหน้ามาส่งบ้านเราที่นนทบุรี พนักงานไปที่กล้วยน้ำไท แสดงว่าเค้าไม่ได้มีการแยก zone หรือจัด zone ในการส่งของให้เป็นละแวกเดียวกัน นอกจากนี้ ยังไม่มีการคำนวณอีกว่า แต่ละบ้านซึ่งซื้อของไม่เท่ากัน จะต้องใช้เวลาในการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์มากน้อยเท่าไหร่ และความสามารถในการจัดส่งของทำได้เท่าไหร่ บริษัทนี้ทำแค่ว่า เช้าส่ง 3 ที่ บ่ายส่งอีก 3 สถานที่ไกลกันก็เป็นความซวยของพนักงาน แล้วเวลาลูกค้าด่า พนักงาน/ช่าง ที่ไปบ้านก็โดนก่อนใคร แถมตอนเถียงว่าเราให้พนักงานกลับมาตอนสามทุ่มกว่า ก็แสดงว่า เขายินดีให้พนักงานทำงานติดตั้งต่อ ไม่เสร็จก็ทำไปเรื่อยๆ ข้ามวันข้ามคืน?? ขนาดพนักงานเค้ายังไม่แคร์ นับประสาอะไรกับลูกค้าอย่างเรา!!!