2b14443947231444394781l

เร่งประมูลงานรัฐ กระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี “สมคิด” จี้ลงทุนสร้างความเชื่อมั่น ลัดคิวรถไฟตะวันออก-ตะวันตก กาญจนบุรี-แหลมฉบัง ดึงเอกชนลงทุน PPP แสนล้าน จุดพลุเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ สั่งเร่งงานโครงสร้างพื้นฐานถนนและรถไฟแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านตะวัน ออก-ตะวันตก เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด มุกดาหาร สระแก้ว และทวาย  เร่งโครงข่ายเชื่อมเขต ศก.พิเศษโดยเร่งรัดก่อสร้างรถไฟแนวตะวันออก-ตะวันตกด้านล่าง เชื่อมการขนส่งสินค้าจากท่าเรือทวาย-แหลมฉบัง เป็นลำดับแรก ให้เปิดประมูลภายในเดือน ธ.ค.นี้ และให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ศึกษาไว้เบื้องต้นแล้ว ระยะทาง 475 กม. เป็นราง 1 เมตร สร้างขนานไปกับแนวรถไฟเดิมและสร้างบนพื้นที่ใหม่ มูลค่าลงทุน 175,000 ล้านบาท

“ต้องทำสายนี้ก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่า ไทยมีความพร้อม ทั้งรองรับนิคมอุตสาหกรรมในระยองด้วย”

แนว เส้นทางด้านบน แม่สอด-มุกดาหาร ให้กรมทางหลวงเร่งสร้าง 4 ช่องจราจรและศึกษารถไฟสายใหม่ แม่สอด-ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น-กาฬสินธุ์-มุกดาหาร เพื่อเพิ่มทางเลือกการขนส่งสินค้าทางรางจากแม่สอด-มุกดาหาร 815.82 กม.ใช้เงินลงทุน 159,773 ล้านบาท

ประมูลรถไฟทวาย-แหลมฉบัง

นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า รถไฟตะวันออก-ตะวันตก ช่วงกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง สำคัญที่สุด เพราะขนส่งทั้งคนและสินค้า รวมถึงช่วยขนส่งไปพม่าและอินเดียได้เร็วขึ้น ซึ่งกระทรวงคมนาคมให้ความมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะเริ่มประมูลเป็นบางตอน โดยให้ ร.ฟ.ท.จัดลำดับความสำคัญจะสร้างช่วงไหนก่อน ส่วนแม่สอด-มุกดาหาร สำคัญด้านขนส่งผู้โดยสาร แม้การขนส่งสินค้าอาจมีน้อย แต่จะช่วยให้ภาคเหนือและอีสานเกิดความเจริญ  ส่วนรถไฟฟ้าจะเสนอคณะ รัฐมนตรีในปีนี้ ได้แก่ สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) 54,644 ล้านบาท, สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 56,691 ล้านบาท และเร่งหาเอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) กว่า 2 หมื่นล้านบาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า รถไฟเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก ทางรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นร่วมศึกษาความเหมาะสมโครงการ ต.ค.-พ.ย.นี้ ผลการศึกษาของญี่ปุ่นจะเสร็จในเส้นทางแม่สอด-มุกดาหาร รูปแบบลงทุนเป็นไทย-ญี่ปุ่นร่วมลงทุน ส่วนกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-สระแก้ว-แหลมฉบัง ให้เอกชนร่วมลงทุนและกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นรถไฟความเร็วสูงระบบชินคันเซนจะเป็นแบบรัฐต่อรัฐ

“เส้น กาญจนบุรี-พุน้ำร้อน-ทวาย ต้องเร่งเพื่อรับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ขณะนี้ บมจ.อิตาเลียนไทยฯเริ่มปรับพื้นที่แล้ว มีผู้ประกอบการเข้าไปในนิคมอุตสาหกรรมระยะแรกจำนวนมาก ทั้งพัฒนาด่านพุน้ำร้อนเป็นด่านถาวรคู่ขนานไป พร้อมสร้างมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี รองรับด้วยอีกทาง”

โครงข่าย ถนนช่วงแม่สอด-มุกดาหาร ยังเหลือขยาย 4 ช่องจราจร แม่สอด-ตาก ซึ่งผ่านภูเขา, ช่วงกาฬสินธุ์-พาชี-บ้านนาไคร้ และบ้านนาไคร้-มุกดาหาร ได้งบฯก่อสร้างปี 2560 และช่วงพิษณุโลก-หล่มสัก จะเปิดใช้ 27 ธ.ค.นี้

รถไฟลุยทางคู่ จิระ-ขอนแก่น

นาย วุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า รถไฟเชื่อมทวาย-แหลมฉบัง จะเปิดประมูลใน ธ.ค.นี้ คือช่วงกรุงเทพฯ-ระยอง ให้เอกชนร่วมลงทุน PPP ทั้งโครงการ วงเงินลงทุนอยู่ระหว่างประเมินจะสร้างเป็นราง 1 เมตร หรือ 1.435 เมตร นอกจากนี้กำลังประมูลรถไฟทางคู่สายจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 23,622 ล้านบาท ยื่นซองวันที่ 3 พ.ย.และเสนอราคาวันที่ 8 ธ.ค.นี้

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กำลังเร่งประมูลโครงการขนาดเล็ก ไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่ได้รับงบกลางปี 2558 กว่า 3 พันโครงการ ค่าก่อสร้าง 3,070 ล้านบาท เร่งเบิกจ่ายแล้วเสร็จ ธ.ค.นี้ตามนโยบายรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งทยอยประกาศประมูลโครงการใหม่ของปี 2559 อีกหลายพันโครงการ วงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท ให้เสร็จ ธ.ค.นี้เช่นกัน

แหล่งข่าวจากกรม ทางหลวงกล่าวว่า กำลังเร่งประมูลงานสร้างถนนให้เสร็จ ธ.ค.นี้ เช่น มอเตอร์เวย์สายพัทยา-มาบตาพุด 14 สัญญา วงเงิน 14,200 ล้านบาท สร้างถนนและสะพานข้ามจุดตัดรถไฟ 11 โครงการ วงเงิน 5 พันล้านบาท และงานซ่อมทาง 100 สัญญา วงเงินกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท

จัดสรรงบฯกลางกระตุ้น

นาย สมศักดิ์ โชติรัตนศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 6 ต.ค.ได้อนุมัติงบฯกลางเพื่อใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตำบลละ 5 ล้านบาท เพิ่มเติมอีก 1,830 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้มีวงเงินที่อนุมัติแล้วทั้งสิ้น 39,743 ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณอนุมัติจัดสรรแล้ว 36,700 ล้านบาท ขณะ ที่โครงการขนาดเล็ก ล่าสุด อนุมัติไปแล้ว 20,000 ล้านบาท จากวงเงิน 24,000 ล้านบาท จะเริ่มทยอยทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างภายในเดือน ต.ค.นี้ และบางส่วนที่เป็นงบฯดำเนินการไม่ต้องทำสัญญาสามารถเบิกจ่ายได้เร็ว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ