_oon7549_r

เมกาบางนา ศูนย์การค้าแนวราบใหญ่สุดในอาเซียน ประกาศเดินหน้าโครงการเมกาซิตี้โปรเจ็ค
อสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ ยูสพื้นที่กว่า 400 ไร่ บนถนนบางนาตราด สร้างเมืองขนาดใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย ออฟฟิศสำนักงาน แหล่งช้อปปิ้งหรือแม้กระทั่งสถานที่ให้ได้ใช้ชีวิตตามไลฟ์ไสตล์อันหลากหลาย คาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการได้มากถึงกว่าวันละ 250,000 คนทีเดียว

โดยโครงการจะแบ่งออกเป็นหลายเฟส ทั้ง โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าและอื่นๆ ภายใต้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 67,000 ล้านบาท โดยศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เริ่มดำเนินการส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มร้านอาหารชื่อดังอีกถึง 40 ร้าน รวมถึงท็อปส์ ฟู๊ด แอนด์ ไวน์ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับการช้อปปิ้งที่ครบครัน อีกทั้งอาคารจอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง 1,200 คันซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณเดือนธันวาคมปีนี้

นายคริสเตียน โอลอฟสัน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ (บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด) กล่าวว่าโครงการเมกาซิตี้ จะเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ที่พรั่งพร้อมสำหรับทุกคน ให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสะดวกสบายในที่เดียวกัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตนอกเหนือจากเป็นสถานที่ช้อปปิ้ง ยังเป็นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ และสถานที่มอบความสนุกสนานและความบันเทิงได้อย่างครบวงจร” “เรามีโครงการจะสร้างที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับคนกว่า 50,000 คน  อาคารสำนักงานรองรับคนกว่า 30,000 คน โรงแรม 2 แห่ง และเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าและชุมชนโดยรอบ” 

ขณะนี้ทางกรรมการผู้จัดการของศูนย์การค้าเมกาบางนาได้เปิดเผยถึงความต้องการในการเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่สนใจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการจะร่วมลงทุนในแผนพัฒนาระยะยาวในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอาคารสำหรับที่อยู่อาศัย สำนักงานออฟฟิศ โรงแรม หรือแม้กระทั่งรูปแบบอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ

 เมกาบางนา คือ ศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่อยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (Central Business District: CBD)   ที่เพียบพร้อมไปด้วยแบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล แฟลกซิปสโตร์ และร้านอาหารยอดนิยมจำนวนมาก การยกเอาร้านค้า     สุดอินเทรนด์จากใจกลางเมืองมามอบความสุขให้กับลูกค้าโซนนอกเมืองนับเป็นแนวคิดการพัฒนาศูนย์ฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2555 เมกาบางนาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบของไทยและนานาชาติ และมี      ผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ มากถึง 3.5 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ทุกปี และคาดว่าการเพิ่มอาคารจอดรถ 7 ชั้น (แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2560) ประกอบกับการสร้างถนนวงแหวนภายในเมกาบางนาที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส    ที่ 3 ของปีนี้ จะเสริมสภาพคล่องของการจราจร และเพิ่มพื้นที่จอดรถให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้ในช่วงเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ส่วนต่อขยายนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการภายในศูนย์ฯ ได้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เราตื่นเต้นที่จะบอกกับลูกค้าของเราว่า เราได้คัดสรรร้านอาหารชื่อดังมากมายหลายแบรนด์ที่มักจะเห็นแต่ในย่านใจกลางเมืองเท่านั้น ซึ่งจะพากันตบเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่กับเรา อาทิเช่น Dean & Deluca, Godfather, Bon Chon และ Starbucks ที่จะขยายร้านไปยังส่วนต่อขยายใหม่นี้เพิ่มอีกด้วย

ทั้งนี้ ส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าฯ อีก 2 เฟส ซึ่งวางไว้เป็นศูนย์รวมความบันเทิง สันทนาการ กีฬา และการศึกษา อยู่ในระยะของการวางแผนและศึกษารายละเอียด โดยจะเปิดเผยข้อมูลได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทั้งนี้เมกาบางนาได้แต่งตั้งให้ บริษัท โจนส์ แลง    ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัดเป็นตัวแทนในการคัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งแรกของโครงการเมกาซิตี้

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าเมกาบางนาตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ ถนนบางนาตราดและพื้นที่ใกล้เคียงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจำนวนประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งมีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่พัฒนาขึ้น เชื่อมต่อทั้ง ที่พัก และโครงการศูนย์อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ รถไฟฟ้ารางคู่บางนาสุวรรณภูมิ ที่เป็นแรงเสริมการเติบโตของพื้นที่นี้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ถนนบางนาตราดกลายเป็นฮับยุทธศาสตร์สำคัญ ศูนย์รวมของการเดินทาง และการขนส่งในอนาคต ดังนั้นโครงการเมกาซิตี้ จึงเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง       โดดเด่นเหนือชั้น และพร้อมจะตอบโจทย์ความต้องการในทุกรูปแบบทั้งการอยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และเป็นแลนด์มาร์กสำหรับการ        ช้อปปิ้งท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่าพื้นที่ย่านบางนาเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งบ้านจัดสรร และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ เรามองว่าเมืองที่สมบูรณ์แบบแห่งนี้ ยังต้องการศูนย์การค้าที่แข็งแกร่ง และพื้นที่คอมมูนิตี้สำหรับการพักอาศัย และอาคารสำนักงาน เพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและครบวงจรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งโครงการ
เมกาซิตี้จะตอบโจทย์ได้ครบทั้งหมด และเรายังคงเดินหน้าลงทุนอย่างเต็มที่กับพื้นที่ย่านนี้ และพร้อมที่จะร่วมทุนกันพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ และเห็นโอกาสในทำเลยุทธศาสตร์แห่งนี้เหมือนกับเรา

นายโทมัส มาล์มเบิร์ก ผู้อำนวยการศูนย์การค้า อิคาโน่ รีเทล เอเชีย  ได้กล่าวว่าการได้รับความนิยมอย่างดีเยี่ยมของศูนย์การค้าเมกาบางนา คือ เหตุผลหนึ่งที่เราตัดสินใจเดินหน้าพัฒนาศูนย์การค้าแห่งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งในอนาคตจะมีทั้ง อาคารสำนักงาน โรงแรม และตึกที่พักอาศัย รวมไปถึงส่วนประกอบอื่นๆ อีกมากมาย ศูนย์การค้าและอิเกียคือธุรกิจหลักของเรา แต่เราเชื่อมั่นว่า เมกาบางนามีศักยภาพที่จะเป็นได้มากกว่าแค่ศูนย์การค้า เรามองภาพว่า เมกาบางนา และอีเกียบางนา จะเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้สมัยใหม่ และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นก้าวแรกในการพัฒนาโครงการเมกาซิตี้

สำหรับนักลงทุน หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของโครงการเมกาซิตี้ ทางโครงการมีรูปแบบทั้งการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (Freehold) และ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ (Leasehold) ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา