เมื่อย้อนไปกว่า 20 ปี บ้านเรือนในโซนเหนือแถวพื้นที่ลำลูกกา เรียกว่านับเจ้าตลาดอสังหาฯ รายใหญ่ได้ไม่ถึง 10รายก็ว่าได้ และรายใหญ่ที่ครองตลาดนั้นมานานขนาดนี้ถือเป็นมืออาชีพที่สามารถเจาะตลาดโซนชานเมืองนี้ไว้ได้“เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง”เป็นบริษัทหนึ่งที่ถือเป็นผู้ประกอบการในยุคบุกเบิกมากว่า 20 ปี และเติบโตในพื้นที่นี้มานาน ภายใต้โครงการแบรนด์ “บ้านฟ้า”
Thinkofliving ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมการเปิดตัวโครงการล่าสุด บ้านฟ้าปิยรมย์ เลค แกรนด์เด บ้านเดี่ยวล้วนๆ มูลค่าโครงการกว่า 720 ล้านบาท ทำเลลำลูกกาคลอง 6 ที่ถือเป็นก้าวใหม่ของ“เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง” ที่รุกตลาดกรุงเทพฯโซนเหนือนี้ โดยมีคุณหมอสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH รวมถึงผู้บริหารใหญ่อีก 2 ท่านมาร่วมพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเองค่ะ ซึ่งประเด็นการสัมภาษณ์ก็คือ
โบ: ต้องถามถึงภาพรวมตลาดโซนเหนือว่าเป็นยังไงบ้างคะ จากเมื่อก่อนมาจนถึงปัจจุบันเปลี่ยนไปเยอะไหม
คุณสมเชาว์ : ภาพรวมตลาดบ้านโซนเหนือเปลี่ยนไปเยอะมาก เดิมทีมีผู้ประกอบการน้อยราย เราถือว่าเป็นรุ่นบุกเบิกตลาดบ้านเดี่ยวในย่านนี้ก็ว่าได้ ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว การคมนาคมก็ไม่เจริญเท่าสมัยนี้ ณ วันนี้ต้องบอกว่ากทม. โซนเหนือมีสินค้าให้เลือกทุกประเภท เหมือนเป็นตลาดนัดของแหล่งรวมสินค้าบ้านจัดสรร ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดฯ
โบ:การแข่งขันธุรกิจอสังหาฯ ในย่านนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ
คุณสมเชาว์ : การแข่งขันในย่านนี้ถือว่าสูง เพราะปัจจุบันถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากด้านการเดินทางที่สะดวกเข้าสู่เมืองชั้นในได้ง่ายขึ้น รวมถึงมีจุดเชื่อมโครงข่ายคมนาคมที่เข้าถึงเกือบทุกพื้นที่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ทุ่มงบซื้อที่ดินและผุดโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝดกันเป็นจำนวนมาก และในช่วงเศรษฐกิจดีโดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด ที่หลายโครงการชูความแตกต่างทั้งด้านดีไซน์ ที่สำคัญเป็นทำเลทองของผู้ซื้อบ้าน และนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เรียกว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เป็นตลาดนัดศูนย์กลางที่ผนวกทั้ง Demand และ Supply ได้อย่างสมดุล
โบ : มองเรื่องการขยายเมืองในโซนนี้ยังไงบ้างคะ
คุณสมเชาว์ : เราเห็นพัฒนาการของสังคมมีการตอบรับด้านการขยายเมือง ประชากร ศูนย์รวมการศึกษา แหล่งงานมีการขยายโครงการมากมาย เนื่องจากมีถนนวงแหวนที่เชื่อมต่อทำให้สะดวกแก่การเดินทาง และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าต่อขยายเส้นทางสะพานใหม่-ลำลูกกา-รามอินทรา ที่ภาครัฐมีนโยบายลงทุน พร้อมสร้างความเจริญสู่พื้นที่ถนนลำลูกกา โซนเหนืออย่างต่อเนื่อง
โบ: แบรนด์บ้านฟ้าปิยรมย์นี่เราเน้นการพัฒนาอย่างไรบ้างคะ
คุณสมเชาว์ : โครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ เป็น Landmark ใหญ่ ที่ เอ็น.ซี.ฯ สรรค์สร้าง Mega Project Brand อย่างต่อเนื่องให้เป็นเมืองของการอยู่อาศัย มีการบริหารจัดการด้านชุมชนหลังการอยู่อาศัย อีกทั้งจุดเด่นของที่ตั้งโครงการติดถนนใหญ่ มีขนาดพื้นที่โครงการกว่า 1,000 ไร่ เรียกว่าเป็นอาณาจักรของ เอ็น.ซี.ฯก็ว่าได้ เราใช้หลักสร้าง Trend กรุงเทพฯ โซนเหนือให้เป็น ProductVariety ที่ประกอบด้วย
1.project และ productconcept
2.style ด้านสถาปัตยกรรมและ
3.Design บ้านที่ unique และมี Adaptive Function มีความพร้อมสรรพ ของ Community ด้วยนวัตกรรมการบริการหลังการขายเชิงรุก โดยโฟกัสไปที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
โบ: พูดถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดนี้หน่อยค่ะ ว่ามีความสดใหม่ยังไงบ้าง เพราะเห็นเรียกว่านี่เป็นบ้าน เทรนด์ใหม่
คุณสมเชาว์ : สำหรับโครงการใหม่ล่าสุด ถือเป็นโครงการที่ 13 เป็นแบรนด์ใหม่ ชื่อโครงการ บ้านฟ้าปิยรมย์ เลค แกรนด์เด เป็นโครงการบ้านเดี่ยวล้วน มีพื้นที่โครงการ 44 ไร่ มูลค่ารวมโครงการ 720 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท จำนวน 144 ยูนิต ออกแบบดีไซน์ด้วยรูปลักษณ์ของแบบบ้าน ที่เป็น Modern Tropical
ที่นำเสนอเป็นบ้านเทรนด์ใหม่เพราะมีการผสมผสานความเป็น Green เน้นให้มีความร่มรื่นของพรรณไม้ มีการตกแต่งใช้ต้นไม้เป็น Gimmick ของโครงการเพื่อสื่อถึงความเป็น Park และ Tree กับความกว้างของ Lake การจัดตกแต่งโครงการด้วยการสร้างเอกลักษณ์ Landmark กลางน้ำกับรูปต้นไม้เชิงศิลป์ ซุ้มประตู น้ำพุ เป็นต้น
โบ: เฉลี่ยแล้วราคาบ้านที่ลูกค้าซื้อในย่านนี้ อยู่ที่เท่าไรคะ
คุณสมเชาว์ : ถ้าเทียบตามของเรานะ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์ ราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาท ขายดี ส่วนบ้านเดี่ยวเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3 ล้านบาท ก็ยังขายได้ดีอยู่ อาจเพราะสินค้าของเรามีความหลากหลายมากขึ้น ราคาก็เฉลี่ยกันไป
โบ: จากนี้ไป เรามีแผนการดำเนินงานอย่างไรบ้างคะ ทั้งในแง่บริษัท และการพัฒนาโครงการค่ะ
คุณสมเชาว์ : เรามีกลยุทธ์ การขยายสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนของลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงพัฒนาเรื่องคุณภาพฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านและเรื่องการบริการหลังการขาย ที่สำคัญคือ มีการวางแผนรับความเสี่ยง โดยวางแผนงานก่อสร้างให้รับกับสถานการณ์การขาย หาวิธีทำให้ไม่เหลือบ้านค้างสต๊อก ก็คือลงทุนให้พอเหมาะกับความสามารถของเรา เพราะเรื่องสภาพคล่องเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจอสังหาฯ
เรียกว่าประสบการณ์การเป็นเจ้าตลาดใน กทม. โซนเหนือ ของเอ็นซี เฮ้าส์ซิ่งฯ เป็นประสบการณ์ที่ยาวนาน หากเทียบกับคนก็พ้นวัยรุ่นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว การรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ ย่อมมีภาษีดีกว่าชาวบ้าน ฉะนั้นคงต้องเฝ้ามองการเติบโตของผู้ใหญ่รายนี้ต่อไปค่ะ ว่าจะมีเทรนด์ใหม่ๆ อะไรมาให้เราได้ซูฮกกันอีก