เป็นธรรมดาของช่วงต้นปี ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ตบเท้ากันออกมาประกาศ Business Plan ซึ่งวันนี้ Think of Living ก็ได้ลองรวบรวมแผนของ “11 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาด” มาให้ดูกันคร่าวๆ
3 บริษัทอสังหาฯ (เตรียม) เปิดโครงการมากที่สุด
พฤกษา เรียล เอสเตท (PS) แม้จะเตรียมตัวเปลี่ยนเป็น Holding ในไม่ช้า บริษัทก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิด 60-65 โครงการ มูลค่า 50,000-54,000 ลบ. แบ่งได้เป็น
- คอนโด 6-7 โครงการ ปีนี้แบรนด์หลักๆ ที่ได้เห็นมี Plum 4 โครงการ, Fuse บางโพธิ์, และ Reserve พญาไท
- ทาวน์เฮ้าส์ 42 โครงการ กระจายเปิดตามแบรนด์หลัก บ้านพฤกษา, พฤกษา วิลล์, The Connect, และ Patio
- บ้านเดี่ยว 12-14 โครงการ
ศุภาลัย (SPALI) บริษัทอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนานมากๆ ก่อตั้งโดยคุณประทีป ตั้งมติธรรม ล่าสุดเพิ่งแต่งตั้งลูกชายคนโต คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรมนั่งแท่น MD อย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าปีนี้ทางป้าศุก็ไม่ได้มาเล่นๆ เตรียมเปิดโครงการใหม่ 29-35 โครงการ มูลค่า 36,570 ลบ. แยกเป็น
- โครงการแนวราบ 22 -25 โครงการ
- โครงการคอนโดมิเนียม 7 – 10 โครงการ
บริษัทฯได้วางแผนธุรกิจรุกตลาดอสังหาฯ ภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในตลาดภูมิภาค จำนวน 14 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 13 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีจังหวัดที่ดำเนินการพัฒนาโครงการอยู่แล้วรวม 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี นครราชสีมา และยังมีแผนการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 1 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช ซึ่งจะส่งผลให้มีสัดส่วนยอดขายจากภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของเป้าการขายรวมของกลุ่มบริษัทฯ ที่ตั้งไว้ที่ 24,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2558 ที่ยอดขายจากภูมิภาค คิดเป็น 22% จากยอดขายรวมของกลุ่มบริษัทฯ
แสนสิริ (SIRI) โครงการเราไม่มาก แต่ความยากเราเยอะ ล่าสุดแสนสิริเพิ่งเปิดตัว 98 Wireless คอนโดสุดหรู ราคาเฉลี่ย 550,000 บาท/ ตร.ม. ขึ้นแท่นโครงการที่แพงที่สุดในประเทศไปแล้ว ล้ม The Residences @Mandarin Oriental Bangkok แชมป์เก่า ไปอย่างฉิวเฉียด โดยห้อง Super Penthouse “The One” ขนาด 1,000 ตร.ม. บนชั้นสูงสุดของโครงการ มูลค่า 600 ล้านบาท ได้ถูกจับจองเรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพรวมอื่นๆ ในปีนี้ พี่แสนตั้งเป้าไว้ 21 โครงการ มูลค่า 50,500 ลบ. โดยแบ่งเป็น
- คอนโด 11 โครงการ ซึ่งจะมี 6 โครงการที่ร่วมทุนกับ BTS ใต้แบรนด์ “Monument” และ “The Line”
- ทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ
- บ้านเดี่ยว 7 โครงการ
นอกจากนี้บริษัทยังมีรุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีการ Collaboration กับแบรนด์ระดับโลก เพื่อยกระดับแบรนด์แสนสิริให้เข้าสู่ระดับ International มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายตลาดต่างชาติในปีนี้ประมาณ 5,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซึ่งมียอดขาย 3,500 ล้านบาท
อสังหายุคเปลี่ยนผ่าน
หมดยุคแล้วที่จะทำโครงการแบบเก่าๆ ผูกขาด Product แบบเดียวตลอดกาล ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวในวงการอสังหา เริ่มตั้งแต่การกระโดดเข้ามาของตระกูลดัง การเทคโอเวอร์กิจการ และการข้ามไลน์ Product หันมาชิมลางธุรกิจที่ไม่คุ้นเคย
Singha Estate (S) หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ที่เริ่มต้นสะสมประสบการณ์จากโรงแรมที่สมุยและเกาะพีพี ก่อนที่จะเทคโอเวอร์ “รสา” และแลกหุ้นกับ “เนอวานา” เมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้เปิดตัว The Esse Asoke คอนโดสุดหรู ซึ่งปัจจุบันมียอดขายเกิน 60% ไปแล้ว
ในปีนี้สิงห์ ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือ การทำ M&A (Mergers and Acquisitions: การเข้าซื้อและควบรวมกิจการ) เบื้องต้นเตรียมงบไว้ 20,000 ลบ. เล็งซื้อโรงแรมทั้งในและนอกประเทศ และยังมีแผนเปิดตัวโครงการ Super Luxury 3 โครงการ
- บ้านเดี่ยวสุดหรู บนถ. ประดิษฐ์มนูธรรม เนื้อที่โครงการ 45 ไร่ ราคาเริ่มต้น 50 ลบ.
- Singha Complex ส่วนที่เป็นอาคารสำนักงาน คาดว่าราคาเช่าเริ่มต้น 1,000 บาท/ตร.ม.
- คอนโดสุดหรูใน Singha Complex เปิด Q4/206 ราคาเริ่มต้น 300,000/ตร.ม.
- คอนโดริมแม่น้ำ มูลค่าโครงการ 6,000 ลบ.
Property Perfect (PF) หลังผนึกกับ Grand Asset เต็มตัว ก็เตรียมที่จะรุกทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม โดยมีแผน Turnaround ผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้จัดวางการลงทุนที่ชัดเจน ในธุรกิจโรงแรมภายใต้ Grand Asset Hotel & Property และจะกระจายการลงทุนตามโครงการใหม่ๆ ดังนี้
- Real Estate Mixed-Use Hospitality Product
- Hospitality Investment Product
- Hotel & Branded Residences
- Retirement Residence
- Timeshare
CPN Residence แม้ว่าจะเป็นบริษัทหน้าใหม่ แต่ก็อยู่ใน “Central Group” สร้างห้างสรรพสินค้าครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ ซึ่งที่ดินในการพัฒนาก็ไม่ได้อยู่ไกลเลย แบ่งจากพื้นที่ห้างไปสร้าง ล่าสุดประเดิมขาย 3 โครงการ แบรนด์ Escent Condo ทำเลเชียงใหม่ ขอนแก่น และระยอง ยอดวิ่งไปได้เกิน 50% เบื้องต้นวางไว้ว่าจะเปิดประมาณ 5-6 โครงการต่อปี ส่วนจะพัฒนาเป็นคอนโด หรือแนวราบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของที่ดิน