1

เปิดตำนาน  ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ที่ได้ก่อตั้งและเริ่มดำเนินการมาเป็นเวลาเพียง  5  ปี    ในการสร้างความสำเร็จอย่างสูงด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกล   ในการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน    ด้วย กลยุทธ์  Blue  Ocean  Location Strategy กับ แนวคิด ป่าล้อมเมือง  จับทำเลศักยภาพชานเมือง ที่เป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า  ที่เหล่าค่ายใหญ่ –  ค่ายเล็กทั้งหลายต่างมองข้ามในขณะนั้น  มุ่งเน้นแข่งขันกันอย่างดุเดือดในเขตธุรกิจใจกลางเมือง  จากความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน –  Competitive Advantage  ในแง่ธุรกิจ สู่  กลยุทธ์  Origin Living  Advantage  การสร้างความได้เปรียบในเชิงการเป็นเจ้าของอยู่อาศัย  ที่มองประโยชน์ที่ลูกค้าผู้ซื้อเป็นผู้ได้รับเป็นหลัก  ผ่าน กลยุทธ์  Living  Innovation  Strategy  ที่มีการนำนวัตกรรมทั้งด้านการก่อสร้าง และ วัสดุอุปกรณ์ที่ล้ำหน้าทุกชนิดมาใส่ในโครงการ เพื่อให้เป็น โครงการเพิ่มค่า  Value Added Project  ให้ลูกค้าได้รับโครงการและห้องชุดอยู่อาศัยที่เหนือ กว่าห้องชุดอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน  และยังได้รับความได้เปรียบในเชิงการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในระยะยาว  ที่ช่วยให้สามารถประหยัดค่าสาธารณูปโภคตลอดอายุการอยู่อาศัย  ทั้งค่าไฟฟ้า  ค่าน้ำประปา ฯลฯ  ด้วยการคัดสรรอุปกรณ์ที่เป็นนวัตกรรมประหยัดน้ำและพลังงานต่างๆ มาใช้   ตลอดจน นวัตกรรมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ  และจัดสรรพื้นที่สีเขียวที่มากกว่า ทำให้ทุกโครงการของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  เป็น โครงการเพิ่มค่า อย่างแท้จริง  

2 

บริษัท  ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด  (มหาชน)  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ที่เน้นคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้า ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด นำโดย นายพีระพงศ์ จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงานฉลองพร้อมเยี่ยมชมโครงการ Master Piece 25 ชั้น – KnightsBridge  แบริ่ง ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์  พร้อมแถลงข่าวสื่อมวลชน “กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ 5 ปี ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ชูกลยุทธ์ Blue Ocean Location Strategy,   Living Innovation Strategy  และ  Origin Living  Advantage ที่เน้นประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นหลัก  ผนึกพลังพันธมิตรผู้นำวงการรายสำคัญ อาทิ  SCG, สยามไดกิ้น, TOA,  เตียวฮง สีลม, สยามซานิทารี่แวร์ ฯลฯ ตอกย้ำภาพนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ล้ำหน้า สร้างแบรนด์ มาตรฐานออริจิ้น ที่ลูกค้าเป็นผู้ได้เปรียบเชิงการอยู่อาศัย จาก โครงการและห้องชุดเพิ่มค่า  พร้อมเปิดตัวแคมเปญ  Origin  Living More  เป็นครั้งแรก

จาก  Competitive  Advantage  สู่ Origin Living  Advantage  มัดใจลูกค้า มีแบรนด์ รอยัลตี้เหนียวแน่น   จากกลุ่ม  Real Demand  สู่  International  Brand

ด้วยสัดส่วนลูกค้าต่างชาติในสถิติ    ญี่ปุ่น  72%   สิงค์โปร์  13%   จีน  8%,   ไต้หวัน 2%   อเมริกา  2%  อินเดีย  2%   และ  ฮ่องกง  1%

นายพีระพงศ์ เปิดเผยว่า   บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  จำกัด (มหาชน)  ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่  16  ธันวาคม 2552  ด้วยเงินทุนจดทะเบียนครั้งแรก  225  ล้านบาท   ปัจจุบัน  ได้วางโครงสร้างกลุ่มธุรกิจไว้  3  กลุ่มหลัก  คือ  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด  ดำเนินธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเภท  ไฮไรซ์ และ โลว์ไรซ์   บริษัท ออริจิ้น วัน จำกัด  เพื่อพัฒนาโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้า เป็นหลัก  และ  บริษัท  คอนโด เอเจนซี่ แอนด์ แมเนจเม้นท์  จำกัด  ทำธุรกิจให้บริการหลังการขายด้านเป็นตัวกลางบริการงานนิติบุคคล และ บริหารงานเช่าทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์    โดยเฉพาะโครงการที่พัฒนาโดย ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้   โดยวางแผนบรรลุเป้าหมาย  แผนระยะสั้น  5  ปี  และแผนระยะยาว  10  ปี    ดังนี้ 

3

  1. แผนระยะสั้น  5  ปี  2557 – 2561  เป็น  1 ใน 3 ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม
  2. แผนระยะยาว 10 ปี  2562 – 2566   เป็น  1 ใน  5  ผู้นำบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัย

ปัจจุบัน   นายพีระพงศ์  เปิดเผยเพิ่มเติมว่า   “บริษัท ได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนี่ยมคุณภาพ  ทั้งสิ้น  21 โครงการ นับเป็นมูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ หรือ  Ready to Move In  ถึง  9  โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้าง  6 โครงการ  และอยู่ในช่วง  Pre Sale  อีก  6  โครงการ

โดยวางแนวคิดในการออกแบบโครงการแบ่งออกเป็น  4  กลุ่มหลัก  คือ 

  • กลุ่ม  Luxury  Residence
  • กุล่ม Boutique Living
  • กลุ่ม   Modern Habitat  
  • กลุ่ม  Eco Green Concept 

7

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเป็น กลุ่มวัยทำงาน และ วัยกลางคน   โดย  80%  มีวัตถุประสงค์ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง เป็นส่วนใหญ่   ถือเป็นกลุ่ม  Real Demand  อย่าแท้จริง  และ  กลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนและปล่อยเช่าเพียง  20%   โดยจับตลาดเป้าหมายคนทำงาน บนทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้า  และ  ตลาดในแหล่งนิคมอุตสาหกรรม ที่เป็นแหล่งงาน  เป็นหลัก    

9

นอกจากกลุ่มเป้าหมายในประเทศแล้ว     ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้  ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับความต้องการของชาวต่างประเทศ   ก้าวเข้าสู่ความเป็น  แบรนด์ อินเตอร์  (International  Brand) โดยสามารถทำตลาดและได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มเป้าหมายในประเทศญี่ปุ่น อย่างเหนียวแน่น จึงได้มีการพัฒนาเว็บไซด์ www.originproperty.net ขึ้นมาเป็นการเฉพาะตลาดญี่ปุ่น  ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน จนเว็บไซด์ขึ้นแท่นอันดับ  1 แบบ  Organic  Search  ในกลุ่มเว็บไซด์ตลาดต่างชาติในตลาดประเทศญี่ปุ่น  โดยสินค้าของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างชาติ มากมายหลายเชื้อชาติ  ตามสัดส่วนดังนี้   ญี่ปุ่น  72%   สิงค์โปร์  13%   จีน  8%,   ไต้หวัน 2%   อเมริกา  2%  อินเดีย  2%   และ  ฮ่องกง  1%

10