นายสุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ รุกขยายธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ โดยการต่อยอดความสำเร็จจาก 2 โครงการช็อปปิ้งมอลล์ ภายใต้โมเดล เดอะ แจส วังหิน และ เดอะ แจส รามอินทรา พัฒนาสู่ “แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์” มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท วางคอนเซ็ปต์ผสมผสานแบบโคลส มอลล์และโอเพ่น มอลล์ มีการออกแบบที่เน้นความทันสมัยและโดดเด่น โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ เนื้อที่กว่า 11 ไร่ มีพื้นที่ขายรวมกว่า 17,000 ตร.ม. รูปแบบเป็นอาคารรีเทล 3 ชั้น และชั้นจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น พร้อมที่จอดรถกว่า 450 คันเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าแบบครอบครัวกลุ่มเจนเอ็กซ์กลุ่มเจนวายและกลุ่มเจนแซดที่สนใจหาสถานที่พักผ่อนนิยมบรรยากาศดีๆร้านกาแฟร้านอาหารเก๋ๆมุมสวยสำหรับถ่ายภาพหรือแม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าครบครันเพื่อใช้เป็นจุดนัดพบปะของลูกค้าทุกกลุ่ม
“ขณะนี้โครงการฯ ได้ทำการเปิดพรีเซล และสามารถปิดการขายพื้นที่ไปได้แล้วกว่า 95% โดยมีร้านค้าอินเตอร์และโลคัลแบรนด์กว่า 100 ร้าน ได้แก่ สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไดรฟ์ ทรู, ท็อปส์ มาร์เก็ต, Round Table by Chef Man (อาหารจีนสไตล์ฮ่องกงแนวร่วมสมัย), โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีนีม่า, เอ็มเค เรสเตอรองท์, ร้านอาหารญี่ปุ่น ยาโยอิ, PETClub และ Fitness7 24 ชั่วโมง เป็นต้น และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ครบ 100% ก่อนเปิดโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้”
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้ตลาดจะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมีบางเซ็กเมนท์ยังไปได้สำหรับในธุรกิจศูนย์การค้าขนาดย่อมอย่างคอมมูนิตี้มอลล์ โดยเฉพาะโครงการแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ ที่มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะมั่นใจว่าไม่มีคู่แข่งคอมมูนิตี้มอลล์ที่ใช้จุดขาย สะดวก ใกล้บ้านนี้ ทั้งมีความได้เปรียบในด้านการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน โดยจากการสำรวจกำลังซื้อย่านศรีนครินทร์พบว่ามีศักยภาพกำลังซื้อค่อนข้างสูง เนื่องจากพื้นที่รอบโครงการฯ มีบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมกว่าร้อยโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว8 หมื่นหลังคาเรือน โรงเรียนนานาชาติและเอกชนกว่า 20 แห่ง และเป็นแหล่งชุมชนที่หนาแน่น นอกจากนี้ตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ จึงทำให้มั่นใจว่าแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน
“สำหรับแนวคิดการออกแบบของโครงการแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เน้นการออกแบบที่ทันสมัยและ โดดเด่น ประกอบกับสร้างพื้นที่สีเขียวทั้งภายในอาคารและรอบโครงการฯ เพื่อสร้างความร่มรื่นเพลิดเพลินให้กับผู้มาใช้บริการ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในบรรยากาศสบายๆ เหมือนอยู่ในสวน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มเวลาของการจับจ่ายใช้สอยภายในโครงการฯ แต่ยังทำให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ส่วนในด้านความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงการเป็นไปตามแผนงาน และคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้” นายสุพจน์ กล่าวสรุป