“เครืออาภาสิริ” เป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้เริ่มดำเนินธุรกิจอสังหาฯ เมื่อปี 2549 และมีการรุกอย่างเต็มรูปแบบในพื้นที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา
นายกฤต นามเกิด กรรมการบริหาร เครืออาภาสิริ เปิดเผยว่า หลังจากเครืออาภาสิริ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา “เครืออาภาสิริ” มีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 30 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนลำดับต้นๆ ของผู้ประกอบการในพื้นที่ ปัจจุบัน “เครืออาภาสิริ” ประกอบด้วยบริษัทในเครือจำนวน 7 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทที่ดูแลโครงการบ้านและอาคารพาณิชย์ และบริษัทรับสร้างบ้าน โดยมีโครงการที่เปิดขาย ณ ปัจจุบัน จำนวน 9 โครงการ แบ่งเป็นที่นครศรีธรรมราช จำนวน 4 โครงการและพื้นที่อื่นๆ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ใน จ.กระบี่ 4 โครงการ และ จ.ชุมพร1 โครงการ
ภาพจำลองบ้านเดี่ยวในโครงการ “Zen Villa”
ภาพจำลองทาวน์โฮม “Casa”
สำหรับในปีนี้ เครืออาภาสิริมีกลยุทธ์ที่จะส่งโครงการรูปแบบต่างๆ เพื่อรุกตลาดอสังหาฯ รอบด้าน และรอบทิศ ไม่ว่าจะเป็นในจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบไปด้วย โครงการบ้านเดี่ยว “Zen Villa” โครงการทาวน์โฮม “Casa” และโครงการอาคารพาณิชย์ และทาวน์โฮม “D-Town” พร้อมด้วยโครงการอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยที่ จ.กระบี่จำนวน 2 โครงการ ที่ จ.ตรัง และพังงา แห่งละ 1 โครงการ นอกจากนี้ยังขยายไลน์สู่โครงการรีสอร์ท จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ที่ปราณบุรีจ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 โครงการ และที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 1 โครงการ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม “VIIA7 by Apasiri” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพย่านเอแบคบางนา คาดว่าจะเริ่มเปิดจองในไตรมาสที่2 ของปีนี้
ภาพจำลองทาวน์โฮม “D-Town”
ภาพจำลอง “VIIA7” บางนา
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ยักษ์อย่าง โครงการ “เดอะ วินเทจ” (The Vintage) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ ติดถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ตำบลท่าวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นย่านธุรกิจใหม่ของนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย โครงการอาคารพาณิชย์4 คูหา และ 10 คูหา รวม 68 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ซึ่งเริ่มเปิดจำหน่ายเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา และที่เป็นไฮไลท์คือโรงแรม “เดอะวินเทจ” ขนาด 300 ห้อง มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท มาพร้อมห้องจัดเลี้ยงและห้องประชุม จำนวน 10 ห้อง
ภาพจำลอง “The Vintage”
โครงการภาพรวมออกแบบในสไตล์สถาปัตยกรรม ยุโรปวินเทจ เพื่อรองรับการเติบโตในภาคส่วนธุรกิจทั้งการท่องเที่ยว และการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ ที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าในส่วนของโรงแรมจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการช่วงไตรมาสที่ 4 ปี2558 ซึ่งจะถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครศรีธรรมราช และจากโครงการทั้งหมด ทั้งที่เปิดขายแล้ว และที่กำลังจะเปิดตัว คาดว่าจะสร้างผลประกอบการมากกว่า 600 ล้านบาท ภายในปี 2557
ภาพจำลอง “The Vintage”