ออริจิ้น เปิดตัวแบรนดิ้งแคมเปญ “My Life. My Origin” เสริมแกร่งภาพลักษณ์ หลังโตพรวดต่อเนื่องตลอด 8 ปี เชื่อหมดยุคคนแห่อยู่ในเมือง ถึงยุคใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเองในถิ่นทำเลที่คุ้นเคย พร้อมดึง “ณเดชน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ สะท้อนภาพลักษณ์บริษัทและคอนโดทั้ง 3 แบรนด์ ถือโอกาสดี ประกาศเปิดตัวคอนโดใหม่พร้อมกันอีก 4 โครงการ 3 แบรนด์ มูลค่ารวม 8,400 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์

  • ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge)
  • นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill)
  • เคนซิงตัน (Kensington)

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2552 บริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง และมีก้าวสำคัญใหม่ๆ ทุกปี อาทิ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การมียอดขายทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น วันนี้ ในช่วงที่บริษัทกำลังจะครบรอบ 8 ปีและก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 จึงได้ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการจัดทำแบรนดิ้งแคมเปญภายใต้แนวคิด “My Life. My Origin” หรือ “ชีวิตในฝันแบบที่เป็นคุณ” เพื่อให้บริษัทมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน สะท้อนตัวตนของแบรนด์โดดเด่นยิ่งขึ้น

“เราค้นพบว่า สาเหตุที่ยอดขายตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราสามารถเข้าถึงตลาดผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมในแต่ละทำเล ยอดขายหลายๆ โครงการของเราเป็นผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมในทำเลนั้นกว่า 70% สะท้อนว่าความสุขของลูกค้าของเรา คือการได้มีที่อยู่อาศัยในทำเลที่เขาคุ้นเคย ติดรถไฟฟ้า และนี่จึงเป็นที่มาของแบรนดิ้งแคมเปญ My Life. My Origin เราอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตในฝันแบบที่เป็นคุณ” นายพีระพงศ์ กล่าว

ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมมักถูกกล่าวถึงในฐานะบ้านหลังที่ 2 ผู้คนมักคิดว่าบ้านหลังที่ 2 ต้องอยู่ในเมือง เพื่อให้ใกล้ที่ทำงานที่สุด แต่นับจากนี้ไปจะไม่ใช่ยุคคนแห่ไปอยู่ในเมือง เพราะโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าสามารถกระจายเข้าถึงผู้คนในทุกพื้นที่ ตลาดคอนโดมิเนียมจะกลายเป็นบ้านหลังแรกของคนรุ่นใหม่ที่เกิดจากครอบครัวขยายหรือต้องการอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใกล้แหล่งงาน กล่าวคือเดิมเคยอาศัยอยู่บ้านแนวราบในทำเลไหน พอมีครอบครัวเพิ่มเติม ก็ขยายไปอยู่ในคอนโดมิเนียมทำเลใกล้เคียงเดิม เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตอยู่ในย่านที่คุ้นเคย ไปหาญาติพี่น้องได้สะดวก ประเทศไทยจะเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่ผู้คนไม่ได้คาดหวังว่าต้องดิ้นรนเข้าไปอยู่ในเมือง อาศัยรถไฟฟ้าไปทำงานในแต่ละวัน การเป็นแบรนด์ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในฝันในแบบที่เป็นตัวเอง ไม่ต้องตามใคร จึงน่าจะเป็นแบรนด์ที่เข้าใจผู้บริโภคในปัจจุบันและอนาคตมากที่สุด

“ค่าครองชีพในเมืองจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ราคาคอนโดมิเนียมในเมืองที่ราคา 3-5 ล้านจะไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ แถมอีกหน่อยคอนโดมิเนียมในเมืองอาจจะกลายเป็นคอนโดมิเนียมแบบลีสโฮลด์ ที่ผู้ซื้อไม่ได้มีสิทธิ์ขาดตลอดไป ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝันของคนทั่วไป เพราะคนทั่วไปยังต้องการมีคอนโดมิเนียมที่ตัวเองมีสิทธิ์ขาด ราคาเข้าถึงได้ มีการตกแต่ง มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นรากดั้งเดิมของเขา ออริจิ้น ซึ่งมีความหมายถึงรากหรือต้นกำเนิด ไม่ซ้ำใคร ไม่ตามใคร จึงต้องการแสดงจุดยืนในฐานะผู้เข้าใจผู้บริโภคที่สุดผ่านแคมเปญ My Life. My Origin นี้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงมุ่งหน้าพัฒนาคอนโดมิเนียมเจาะตลาดพรีเมียมแมส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทต้องการเป็นแชมป์การพัฒนาคอนโดมิเนียมเจาะผู้ต้องการห้องระดับราคา 1.5 -3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด  นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้ภาพลักษณ์ของบริษัทและคอนโดมิเนียมแต่ละแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงได้ให้นายณเดชน์ คูกิมิยะ พระเอกระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งมีบุคลิกที่สอดคล้องกับแบรนด์คอนโดมิเนียมทั้ง 3 แบรนด์ของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญ My Life. My Origin ด้วย

“ณเดชน์ คือคนธรรมดาที่มีสไตล์ คือตัวแทนของคนทั่วไปที่มีทั้งมุมเนี้ยบดูดี มุมเท่ๆ และมุมสบายๆ ไม่ต้องแต่งตัวหรูหรา สะท้อนภาพได้ตั้งแต่คอนโดมิเนียมแบรนด์เท่แบบเรียบหรูอย่างไนท์บริดจ์ แบรนด์ที่มีความทันสมัยหรือโมเดิร์นอย่างนอต-ติ้ง ฮิลล์ และแบรนด์เท่แบบลุยๆ อย่างเคนซิงตัน นอกจากนี้ยังเป็นคนตั้งใจทำงานเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งตรงกันกับวิธีการทำงานแบบออริจิ้น” นายพีระพงศ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการอีก 4 โครงการใหญ่ ภายใต้แนวคิด “My Life. My Origin” หรือ “ชีวิตในฝันแบบที่เป็นคุณ” รวมมูลค่าโครงการกว่า 8,400 ล้านบาท เปิดวีไอพี พรีเซลพร้อมกัน 17 มิ.ย. นี้ ได้แก่

  • ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน-อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin-Interchange)
  • นอตติ้ง ฮิลล์ สกายสแครปเปอร์ @ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (Notting Hill Skyscraper@Central Rattanathibet)
  • นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 (Notting Hill Sukhumvit 105)
  • เคนซิงตัน สุขุมวิท- เทพารักษ์ (Kensington Sukhumvit-Theparak)

” The Ultimate Living Environment ” ที่สุดของชีวิตที่ลงตัว

โครงการ ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน-อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin-Interchange) มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท จัดเป็นโครงการที่มีความสมบูรณ์แบบในการอยู่อาศัย บนทำเลใกล้ Interchang 2 สถานีรถไฟฟ้า พร้อม 30 Facilities ที่รองรับทุกกิจกรรมในรูปแบบของคุณ เพื่อใช้ในการทำงาน กิจกรรมกับครอบครัว เพื่อน หรือต้องการความสงบที่เป็นมุมส่วนตัว และยังมี 20 รูปแบบห้องที่สามารถตอบสนองความต้องการในการอยู่อาศัยของคุณ

REACH A NEW HIGH

3 m. Ceiling Height  /  Fully-Furnished

Boutique Hotel Services

โครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ สกายสแครปเปอร์ @ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (Notting Hill Skyscraper@Central Rattanathibet) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดดเด่นด้วย New Concept of Design : Y-Shape สถาปัตยกรรมแนวคิดใหม่ ที่ขยายมุมอับให้เปิดรับมุมมองที่กว้างขึ้น มาพร้อมกับ Fully-Furnished Furniture ที่ตอบรับฟั่งก์ชั่นการใช้งานอย่างลงตัว

โครงการ นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 (Notting Hill Sukhumvit 105) เฟส 2 มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท จัดเป็นคอนโดใหม่ที่คุ้มค่าที่สุดบนถนนสุขุมวิทใกล้ BTS แบริ่งเพียง 400 เมตร พร้อมสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายอังกฤษในแบบ British Loft มอบความสมบูรณ์แบบด้วยฟังก์ชั้นห้องที่ลงตัวตอบโจทย์การอยู่อาศัย อย่างแท้จริงสุดพิเศษกับ 105 clubhouse คลับเฮ้าส์ส่วนตัว 3 ชั้น แห่งแรกและแห่งเดียว บนถนนลาซาล ตอบโจทย์ทุกไลฟส์ ไตล์ ด้วยสระ ว่ายน้ํา , ฟิตเนสพร้อมเทรนเนอร์ , Co-Working และ Irish sport club

โครงการเคนซิงตัน สุขุมวิท- เทพารักษ์ (Kensington Sukhumvit-Theparak) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เป็นคอนโด High Rise ที่สูงที่สุดในเทพารักษ์ ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง BTS ทิพวัล และไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สำโรง ตัวโครงการออกแบบในสไตล์ Industrial  British Loft พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ในราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย

  • ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 35 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 30,000 ล้านบาท
  • ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
  • ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการต่างๆของออริจิ้น เพิ่มเติม โทร. 02-030-0000 หรือ คลิกที่นี่