new-hopes-for-vietnam-real-estate-2014-152

นางสาวสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย กล่าวว่า ตลาดในกลุ่ม CLMV มีความต่างกันค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประเทศพม่า จะมีจำนวนประชากรที่หลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งผู้ประกอบการในไทยเองก็ได้มีการเข้าไปลงทุนค่อนข้างมากด้วยเช่น ในส่วนของกัมพูชา เป็นประเทศเปิด และเป็นประเทศได้เปรียบในเรื่องเงินเฟ้อที่ค่อนข้างจะต่ำ ไม่มีปัญหาในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถ้าอสังหาริมทรัพย์คือสัญลักษณ์ของความเจริญ

ในกัมพูชา คือหนึ่งประเทศที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก แต่จะเป็นต่างชาติเข้ามาลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวมาเลเซีย และ เกาหลี ขณะที่ สปป.ลาว เป็นประเทศเล็ก เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก มีการแข่งขันที่ไม่สูงมากนัก ดังนั้นการที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเหล่านี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความทันสมัยทางเทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านของ”ดิจิทัล”ที่เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CBRE กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการมีการนำอสังหาริมทรัพย์ออกไปเสนอขายยังต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เช่น ในประเทศกัมพูชา มีประชากรไม่ค่อยมาก เป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก ซึ่งมีจีดีพีเติบโตที่ประมาณ 7% และในปัจจุบันค่อนข้างเปิดกว้างให้นักลงทุนเข้าไปลงทุน ในแง่ของการซื้อของคอนโดมิเนียม อนุญาตให้ซื้อได้มากถึง 70% นอกจากนี้ยังสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ 100% โดยไม่ต้องมีชาวกัมพูชาถือหุ้นด้วย ในส่วนของผลตอบแทนจากการลงทุนของอาคารสำนักงานให้มากถึง 8% สำหรับราคาที่ดินในพนมเปญสูงสุด 600,000 ต่อตารางวา นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบว่าอีกว่าในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนค่อนข้างมาก เช่น ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน และ ญี่ปุ่นเป็นประเทศล่าสุด

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL กล่าวว่า เวียนดนาม เป็นประเทศที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในด้านของอาคารสำนักงานให้เช่า ปัจจุบันมีอาคารเกรดเอ พรีเมี่ยม ออกมา 9 อาคาร กว่า 200,000 ตารางเมตร ซึ่งเมื่อมีการเข้ามาลงทุนในแง่ของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งนักลงทุนไทยได้ย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ มีการย้ายไปฐานไปค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีธุรกิจประกันภัย ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีอีกด้วย ในส่วนของการเช่า ปัจจุบันมีอัตราการเช่าค่อนข้างสูง และมีการปรับตัวราคาค่าเช่าขึ้นที่ประมาณ 3-4% หรือประมาณ 70 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ในส่วนของรีเทล ที่อยู่ใจกลางซีบีดีจะมีราคาที่ดินไม่สูงเมื่อเทียบกับที่ดินในประเทศไทย สำหรับราคาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว จะอยู่ที่ประมาณ 17-35 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เวียดนาม จึงเป็นประเทศที่น่าลงทุน