กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของสัมมากรถือว่ามีการเติบโตที่น่าพอใจ มียอดขายบ้านแนวราบสูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาร้อยละ 35 โดยมียอดขายแล้วถึง 86% คาดว่าสิ้นปี สามารถทำยอดขายถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,150 ล้านแน่นอน ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ในสภาวะซบเซาส่งผลกระทบกับหลายธุรกิจ แต่ในส่วนของสัมมากรเอง ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากสัมมากรพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแนวราบมากกว่าแนวดิ่ง ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัย ทำให้ตลาดยังคงดำเนินต่อไปได้แม้ไม่มีการเติบโตที่หวือหวาต่างจากคอนโดที่จะได้รับผลกระทบในส่วนของผู้บริโภคที่ซื้อเพื่อการลงทุนซึ่งจะผันแปรตามสภาวะเศรษฐกิจ

นายกิตติพล กล่าวว่า ในไตรมาส 4 นี้ มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มดีขึ้น จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และภาครัฐ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่จะช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ชะลอการตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ออกมา ถือว่าเป็นปัจจัยบวกกับธุรกิจ ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค โดยแสดงให้เห็นว่า ภาครัฐให้ความสำคัญกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย เพราะนอกจากจะสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองแล้ว ยังคำนึงถึงผลบวกที่เม็ดเงินมีการหมุนเวียนหลายรอบ และกระจายไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

“สำหรับไตรมาสสุดท้ายก่อนปิดปี สัมมากร จัดแคมเปญการตลาดกระตุ้นการจอง ผ่านกิจกรรม “บ้านดีนาทีทอง”  จัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดเงินสดให้กับลูกค้าที่จองซื้อบ้านสัมมากรทุกโครงการ มูลค่า 350,000-1.25 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังวางแผนจัดแคมเปญการตลาดกระตุ้นให้ลูกค้าโอนภายในปีนี้อีกด้วย” นายกิตติพล กล่าว

นายกิตติพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งในทำเลที่สัมมากร เล็งเห็นว่า มีอนาคตที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด คือ เส้นรังสิต-นครนายกตามแผนการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมต่อสู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับปั้นสถานีเชียงรากน้อยให้เป็นสถานีกลางจะส่งผลต่อสาธารณูปโภคที่จะตามมากลายเป็นชุมชนใหญ่ นอกจากนี้ แผนการผุดห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งเซ็นทรัล เมกะคลอง6 และการปรับปรุงฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ยิ่งเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ให้น่าจับตามองยิ่งขึ้น

สัมมากร มีโครงการบ้านในโซนรังสิต-นครนายก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสัมมากรรังสิต คลอง2 เหลือเพียง 20 กว่ายูนิต ราคาขายยูนิตละ 4-5 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท มีจุดเด่นอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งสาธารณูปโภค และมีศูนย์การค้าเพียวเพลส สถานีบริการน้ำมันด้านหน้าโครงการ  และโครงการสัมมากร รังสิต คลอง7 พร้อมพัฒนาอีก 400 ยูนิตรวมมูลค่าประมาณ 2,100 ล้านบาท จุดเด่น อยู่ในทำเลที่ติดถนนใหญ่ มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีทะเลสาบและพื้นที่สีเขียวในโครงการ คาดว่าทั้ง 2 โครงการ จะเป็นโครงการทำเลเด่นที่สร้างยอดขายให้สัมมากร
ได้เป็นอย่างดี