นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการปี 2559 ว่า มียอดรับรู้รายได้รวม 1,246 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากอสังหาริมทรัพย์แนวราบ 704 ล้านบาท อสังหาริมทรัพย์แนวดิ่ง 179 ล้านบาท และอื่นๆ 363 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 2559 ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจซบเซา ธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ประกอบกับศักยภาพการเงินของประชาชนถดถอย ส่งผลให้มียอด Reject Rate สูง ลูกค้าที่จองซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่สามารถโอนได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งวงการไม่เพียงแต่สัมมากรเท่านั้น นอกจากนี้ ในปี 2559 ที่ผ่านมา โครงการบ้านของสัมมากรทยอยปิดโครงการเดิมไปหลายโครงการ และโครงการใหม่ที่เกิดขึ้น 3 โครงการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี อยู่ในช่วงระหว่างการโฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย จึงยังไม่เกิดยอดรับรู้รายได้ได้ทันปิดปี 2559
“สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 มีแนวโน้มทรงตัว ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียม ราคาระดับกลางลงมามีซับพลายสูง แต่คอนโดมิเนียมราคาระดับสูงยังคงมีความต้องการ ในปีนี้จะได้เห็นผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แนวราบมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มทาวน์โฮม ระดับราคา 2-4 ล้านบาท เจาะตลาด ผู้ต้องการบ้านที่มีฟังก์ชันครบเหมือนบ้านเดี่ยวในราคาประหยัดกว่า และบ้านเดี่ยวราคาสูง 7 ล้านบาท ขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดที่สัมมากรมีความเชี่ยวชาญ และมีสินค้าอยู่ในมือพร้อมขายในปีนี้” นายกิตติพล กล่าว
นายกิตติพล กล่าวว่า ในปีนี้ สัมมากร พร้อมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่
- โครงการสัมมากร อเวนิว สุวรรณภูมิ ในรูปแบบทาวน์โฮม 322 ยูนิต บนพื้นที่ 31 ไร่ มูลค่าโครงการ 1300 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการคือทำเลโดดเด่น บนถนนตัดใหม่ศรีนครินทร์–ร่มเกล้า เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ที่ดินโดยรอบมีแนวโน้มได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ กลายเป็นพื้นที่หนึ่งที่จะมีความเจริญน่าจับตามอง
- โครงการสัมมากร อเวนิว ชัยพฤกษ์–วงแหวน ทาวน์โฮม 292 ยูนิต บนพื้นที่ 27 ไร่ มูลค่าโครงการ 876 ล้านบาท
- โครงการออฟฟิศ พาร์ค รามอินทรา–วงแหวน โฮม ออฟฟิศ 4 ชั้น 24 ยูนิต บนพื้นที่ 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท
ทั้ง 3 โครงการอยู่ในระหว่างการเร่งก่อสร้าง พร้อมเปิดพรีเซลในไตรมาส 4 นอกจากนี้ สัมมากร ยังเหลือปิดโครงการเดิมที่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการสัมมากร รังสิต ไพร์ม7 โครงการสัมมากร ชัยพฤกษ์–แจ้งวัฒนะโครงการสัมมากรเอสเก้าคอนโดมิเนียม
ขณะเดียวกัน ในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ นายณพน เจนธรรมนุกูล ผู้จัดการทั่วไปสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าการรีแบรนด์ ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สัมมากร เพลส ว่า ในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการปรับปรุงอาคารให้ดูทันสมัยขึ้น เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่แต่ยังคงภาพลักษณ์ความเป็นศูนย์การค้าที่เป็นศูนย์รวมของทุกคนในครอบครัว โดยวางแผนปรับปรุงผังร้านค้าผู้เช่าต่างๆ ให้ตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการของศูนย์การค้า เนื่องจากตลาดคอมมูนิตี้มอลล์มีการแข่งขันค่อนข้างสูงและที่ผ่านมามีการเปิดตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราต้องปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
ศูนย์การค้าสัมมากร เพลส ทุกศูนย์ อยู่บนทำเลที่ดี ติดถนนใหญ่ การเดินทางสะดวก และอยู่ในแหล่งชุมชนพักอาศัย พื้นที่ในแต่ละศูนย์เฉลี่ยแล้วมีขนาดประมาณ 4,000-9,000 ตร.ม. ประกอบด้วย ซุปเปอร์มาร์เก็ต และธนาคาร ประมาณ 60-75% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด ที่เหลือคือ โซนอาหาร สุขภาพและความงาม ฟิตเนส โรงเรียนกวดวิชา และการบริการต่างๆ ปัจจุบัน ศูนย์การค้าสัมมากร เพลส มีจำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขารามคำแหง 110 สาขารังสิต คลอง 2 และสาขาราชพฤกษ์