บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ฯลฯ และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ‘ไอคอนสยาม’ อภิมหาโครงการเมือง สัญลักษณ์ใหม่ของประเทศไทย ประกาศนโยบาย และแผนการลงทุน 5 ปี เสริมความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะ ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’ ของวงการผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ด้วยแผนการลงทุนซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 55,000 ล้านบาท
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพิวรรธน์มีจุดยืนที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ด้วยกลยุทธ์หลัก คือการเป็น ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’ โดยมุ่งเน้นนำเสนอคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ในการพัฒนาโครงการต่างๆ การค้าปลีกชนิดใหม่ๆ และคอนเซ็ปต์ ไลฟ์สไตล์ล้ำยุคหลายประเภท ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย หรือเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งได้นำพาธุรกิจไปสู่การเติบโตครองความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกแนวหน้าของประเทศไทยในทุกยุคทุกสมัย ในวันนี้ บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์ 5 ปีที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะ ‘ผู้นำนวัตกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย’
นางชฎาทิพ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อสะท้อนกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทได้ประกาศวิสัยทัศน์และจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเป็น “ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งการนำเสนอความแปลกใหม่ให้ชีวิต” (The Icon of Innovative Lifestyle) พร้อมเปิดตัวโลโก้ใหม่ของบริษัท โดยบริษัทได้วางแผนการลงทุนในอนาคต 5 ปี ข้างหน้า ดังนี้:
1. เน้นกลยุทธ์ “สร้างประสบการณ์แตกต่างที่ตรงใจ” กับธุรกิจหลัก (Core Business) ทุกโครงการ สยามพิวรรธน์เน้นการค้นคว้าหาสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นในโครงการอยู่เสมอ โดยทำการศึกษาเทรนด์ ของโลกในเรื่องของการออกแบบอาคาร การจัดพื้นที่พิเศษในรูปแบบต่างๆให้เกิดขึ้น นวัตกรรมการสื่อสาร สินค้าและบริการกิจกรรมการตลาดที่แปลกใหม่ รวมถึงมีหน่วยงานเฉพาะที่ สำรวจความต้องการของลูกค้าในเชิงลึกอย่างจริงจัง
นอกจากนี้สยามพิวรรธน์มีแผนที่จะปรับปรุงโฉม สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอรี่ในปีนี้ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าทั้งสองโครงการจะสร้างการปฏิวัติวงการศูนย์การค้าอย่างยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งปรับปรุงสยามเซ็นเตอร์ในปี 2556 ที่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก จนได้รับรางวัลหลายรางวัลจากองค์กรระดับโลกมาแล้ว
สำหรับโครงการ ไอคอนสยาม (ICONSIAM) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่สะท้อนให้เห็นแนวคิดที่ล้ำยุคและแตกต่างของสยามพิวรรธน์ ซึ่งร่วมลงทุนกับแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยจะสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้ประเทศไทย พร้อมประสบการณ์แรกของ 7 สิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประเทศไทย จึงนับว่าเป็นโครงการที่สะท้อนจุดยืนที่แข็งแกร่งของบริษัทอย่างชัดเจนที่สุด
นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังมีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการศึกษาพัฒนาอีก 7-8 โครงการ ในทำเลอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกกรุงเทพมหานคร รวมถึงในต่างประเทศ ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นรูปธรรมในปี 2558
2. สยามพิวรรธน์จะเน้นการนำเสนอความคิดใหม่ๆเพื่อต่อยอดความสำเร็จให้แก่ ผู้ประกอบการร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อร่วมกันสร้างประสบการณ์ที่ตื่นเต้นล้ำยุคอยู่เสมอ จากความสำเร็จที่สยามพิวรรธน์ได้นำแนวความคิดรีแบรนด์ดิ้ง (rebranding) ธุรกิจของร้านค้าไปพร้อมๆกับการปรับปรุงครั้งใหญ่ของสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดทั้งในตัวศูนย์การค้าเองและในทุกๆร้านค้าที่ร่วมแรงร่วมใจกันนำเสนอเอกลักษณ์ใหม่ของแต่ละแบรนด์เฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น สยามพิวรรธน์จึงจะเดินหน้าต่อยอดการสร้างคอนเซปต์ใหม่ๆที่ท้าทายให้ผู้ประกอบการร้านค้าร่วมกันสร้างภาพลักษณ์แปลกใหม่ไม่ซ้ำเดิม และนำเสนอสินค้าใหม่ๆที่มีรูปแบบเฉพาะให้เกิดขึ้นอีกในโครงการใหม่ๆของสยามพิวรรธน์
หนึ่งตัวอย่างของการสร้างเอกลักษณ์ให้เกิดขึ้นในโครงการของสยามพิวรรธน์ จะสามารถเห็นได้ในการทำโครงการไอคอนสยาม ที่สยามพิวรรธน์จะใช้คอนเซปต์ใหม่ “Icons within Icon” ร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกและผู้ประกอบการอีกกว่า 500 ราย
3. การลงทุนเองในธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ระดับโลก โดยมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งแผนลงทุนคิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท คือ ธุรกิจ Specialty Store 3 ถึง 4 แบรนด์ ซึ่งจะเป็น ทั้งแบรนด์แฟรนไชส์จากต่างประเทศ หรือเป็นรูปแบบที่สยามพิวรรธน์สร้างขึ้นเอง
4. สยามพิวรรธน์ พร้อมจับมือกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจประเภทต่างๆที่แปลกใหม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งแผนการลงทุนมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นโดยประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะทยอยเกิดขึ้นใน 3-5 ปีข้างหน้า
5. สยามพิวรรธน์ พร้อมรับการเปิดประตูสู่อาเซียน อย่างเต็มที่ โดยปรับองค์กรและบริษัทในเครือทั้งสิ้น 15 บริษัทฯ ให้มีศักยภาพแข็งแกร่งด้วยนโยบายด้านบริหารจัดการบุคลากร ผ่านการเสริมทัพผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้นำองค์กร โดยจะเชิญผู้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ มาร่วมเป็นผู้นำองค์กร และเพิ่มตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่เพื่อบริหารจัดการหน่วยงานสนับสนุนโดยเฉพาะให้ขับเคลื่อนตอบรับกับการขยายตัวทางธุรกิจของสยามพิวรรธน์อย่างเต็มที่
นอกจากนี้จะจัดให้มีโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรกับบริษัทพันธมิตรในอาเซียนและประเทศอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการบริหารจัดการ และเรียนรู้วัฒนธธรรมจากประเทศต่างๆ เพื่อนำมาปรับการให้บริการแก่ลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวให้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย