หลังจากที่ตึงๆเต็มๆกับตลาดในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ศุภาลัยเตรียมขยายปีกรุกหัวเมืองต่างจังหวัดและประเทศอาเซียนเพื่อนบ้าน โดยสัดส่วนโครงการต่างจังหวัดในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 19% จากยอดขายทั้งหมดที่ตั้งไว้ 1.9 หมื่นล้านบาท ซ่ึงสำหรับธุรกิจต่างประเทศก็เตรียมหาพันธมิตรท้องถิ่นร่วมลงทุน เพื่อรองรับตลาด AEC ในอีก 3 ปีข้างหน้า … นับเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายขยายธุรกิจครั้งใหญ่ ให้สามารถคง Growth Rate ไว้ได้ในอนาคต

ที่มา: หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก

ศุภาลัยเปิดแผนลงทุนปีนี้ เตรียมขยายในหัวเมืองต่างจังหวัดและรุกไปประเทศในอาเซียน หนุนปีนี้สัดส่วนโครงการต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 19% ของยอดขาย ส่วนต่างประเทศเล็งหาพันธมิตรท้องถิ่นร่วมลงทุน

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมผู้บริหาร กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้มีแผนจะขยายการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองต่างจังหวัด และเตรียมขยายการลงทุนไปยังกลุ่มในประเทศอาเซียน อย่างไรก็ตาม แผนงานหลักยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในประเทศเป็นหลัก และจะเน้นขยายทำเลเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยจะเพิ่มพอร์ตโครงการในต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และอุดรธานี ซึ่งจะทำให้ปีนี้ศุภาลัยมีสัดส่วนโครงการในต่างจังหวัด 19% จากเป้าหมายายอดขายปีนี้ที่วางไว้ 1.9 หมื่นล้านบาท

ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศนั้น ขณะนี้กำลังศึกความเป็นไปได้ของตลาดที่อยู่อาศัยของแต่ละประเทศโดยรูปแบบการลงทุนที่กลุ่มศุภาลัยสนใจ คือ ในรูปแบบพันธมิตรท้องถิ่น และประเทศที่สนใจเข้าไปลงทุนได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า และศรีลังกา ซึ่งประเทศเหล่านี้ยังมีศักยภาพในการลงทุน เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยยังมีความต้องการสูง เช่น อินโดนีเซีย ประชากร มีจำนวนมากและไม่มีการคุมกำเนิด คนวัยหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้กำลังซื้ออาจไม่สูงนักแต่ก็เป็นตลาดน่าสนใจขณะที่มาเลเซีย ประชากรไม่มากเท่าอินโดฯ แต่กำลังซื้อค่อนข้างสูง ส่วนศรีลังกา เป็นตลาดนอกอาเซียนที่น่าสนใจมีประชากรแน่นหนา ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง เป็นโอกาสใหม่ที่มีความเป็นไปได้สูง

“แผนลงทุนต่างประเทศ คงใช้เวลาศึกรายละเอียดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าจะขยายการลงทุนไปต่างประเทศแน่นอน เพื่อรองรับโอกาสเออีซี ในอีก 3 ปีข้างหน้า ที่หากเราไม่ไปเพื่อนบ้านก็อาจรุกเข้ามาหา ขึ้นอยู่กับว่าใครพร้อมกว่าก็ได้โอกาสไปก่อน” นายประทีป กล่าวและว่า การก้าวสู่เออีซี จะเป็นโอกาสทั้งของบริษัท ที่จะขยายไปประเทศเพื่อนบ้าน และก็เปิดโอกาสให้เพื่อนบ้านเข้ามาหาไทย แต่ตนมองว่าโอกาสที่ไทยจะขยายไปหาประเทศเพื่อนน่าจะมีมากกว่า ด้วยความชัดเจนของกฎหมาย และภาษา